“ปล่อยนะ คุณจะมาฉวยโอกาสทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้นะ” ธีร์ภาณุนิ่งเงียบ จ้องมองลึกเข้าไปในดวงตากลมโต ผู้คนที่สัญจรไปมามองอย่างสนใจใคร่รู้...เรื่องของชายหนุ่มตัวโตกับหญิงสาวตัวเล็ก ที่กำลังกอดรัดกันอยู่ข้างถนน อีกฝ่ายดิ้นรนขัดขืนอีกฝ่ายกลับกอดรัดไว้แน่นอย่างจงใจ
ไอรักเพิ่งสังเกตใบหน้าของชายหนุ่มในระยะชิดใกล้ แววตาจริงจังคิ้วเข้ม ใบหน้าสะอาดสีเข้มเล็กน้อยอย่างคนทำงานกลางแจ้ง มีไรของหนวดเคราขึ้นบางๆ จมูกโด่งรับกับใบหน้าคมเข้ม ริมฝีปากหนาได้รูปเวลาขยับพูดก็ดูแล้วเป็นชายหนุ่มที่มีเสน่ห์อยู่เหมือนกันนะ นี่เธอกำลังคิดอะไรอยู่นะ ไอรักสะบัดหน้าไล่ความคิดที่ไม่ได้เรื่องของตนเองออกไป เชิดหน้ามองชายหนุ่มอย่างถือดี ไม่ได้รู้เลยว่าใบหน้านวลผ่อง พวงแก้มสีชมพูระเรื่อ แววตากลมโตกับจมูกรั้นนิดๆ และริมฝีปากบางของเธอ จะทำให้คนที่จ้องมองมาต้องถอนหายใจ เพราะต้องควบคุมตัวเองที่จะไม่ล่วงเกินเธอ ในขณะที่ยังไม่ถึงเวลา ต่างคนต่างจ้องตากันอย่างเอาเรื่อง
“หนูไอ ขึ้นรถเดี๋ยวนี้” ธีร์ภาณุออกคำสั่งอย่างหัวเสีย เขาเริ่มเหนื่อยกับความดื้อรั้นของไอรัก หรือจะสั่งสอนตามแบบของเขาสักครั้งให้หลาบจำไปเลยดีไหมนะ
“อ้าว...ก็พี่ธีร์บอกเองว่ารำคาญหนูไอพูดมาก แล้วก็จะทิ้งหนูไอไว้ตรงนี้ไง เอาเถอะน่า หนูไอไม่ฟ้องป๊าหรอก หนูไอจะบอกป๊าว่าเราตกลงกันได้แล้วว่า เราจะยกเลิกข้อตกลงการแต่งงานทั้งหมด เพราะเราไม่ได้รักกันไม่ได้ชอบกัน แต่ครอบครัวของเราก็จะยังเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจเหมือนเดิม ตกลงตามนี้นะคะ เพราะฉะนั้นปล่อยหนูไอได้แล้วค่ะ” ธีร์ภาณุยิ้มเล็กน้อย ขณะที่มองริมฝีปากบางขยับพูด บรรยายถึงแผนการต่างๆ ของเธอ
“ไม่ตกลง” ไอรักอ้าปากค้าง
“ใครบอกว่าพี่รำคาญหนูไอ ดีซะอีกนั่งคุยเป็นเพื่อนกัน พี่จะได้ไม่ง่วง ใครบอกเราตกลงกันได้แล้วว่าเราจะไม่แต่งงานกัน พี่ยังไม่ได้ตกลงด้วยซะหน่อย แล้วใครบอกว่าเราไม่รักไม่ชอบกัน พี่ว่า...พี่เริ่มชอบหนูไอแล้วล่ะ เพราะฉะนั้นขึ้นรถ” นั่นมันเป็นคำพูดที่ตรงกันข้ามทุกอย่างกับที่ไอรักพูดไปนี่นา ธีร์ภาณุยิ้มใส่นัยน์ตาคู่สวย ที่ตอนนี้ไม่รู้จะหาคำพูดอะไรมาต่อล้อต่อเถียงกับผู้ชายตัวโตคนนี้ ชายหนุ่มก้มหน้าจนริมฝีปากแทบจะชิดกันก่อนจะพูดว่า
“ถ้าหนูไอไม่อยากให้พี่ทำอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้ ขึ้นรถซะ!” แล้วเขาก็เลื่อนริมฝีปากไปกระซิบข้างหูไอรัก
“หรือว่าเราจะโชว์ความหวานให้คนอื่นเขาดูข้างทางดีนะ หนูไอว่าไง ตอนนี้ใครๆเขาก็กำลังจับจ้องเราสองคนอยู่นะ คงอยากรู้กันว่าสองคนผัวเมียคู่นี้จะเอายังไง” ไอรักไม่พูดอะไร เธอหดคอลงมีสีหน้าตกใจ แล้วสะบัดตัวออกจากอ้อมกอดของชายหนุ่ม หันหลังกลับเข้าไปนั่งในรถโดยดี แต่ก็ไม่วายส่งค้อนวงใหญ่ให้เขา ธีร์ภาณุยิ้มเล็กน้อยและส่ายหน้าช้าๆก่อนจะกล่าวขู่ว่า
“ถ้าหนูไอคิดจะวิ่งหนีลงจากรถ พี่ขอให้คิดให้ดีก่อนนะว่าระหว่างผู้หญิงตัวเล็กๆ กับผู้ชายตัวโตๆที่ขายาวกว่า ใครจะวิ่งเร็วกว่ากัน และถ้าวิ่งหนีไปจริงๆแล้วพี่จับตัวได้ พี่จะลงโทษหนูไอในแบบที่ พี่คิดว่าแฟนเก่าของหนูไอคงไม่เคยทำมาก่อนแน่ เพราะพี่เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ในเรื่องนี้ที่สุด”
ไอรักกำมือแน่นเม้มปากสนิทเป็นเส้นตรงไม่พูดอะไร ในเมื่อแค่ไปแนะนำตัวก็ไม่น่าจะมีอะไรมากมาย ถ้าอย่างนั้นเธอจะยอมนั่งรถไปจนถึงบ้านของเขาก่อน แล้วค่อยคิดหาทางแก้ไขดีกว่า เพราะถ้าขืนต่อล้อต่อเถียงกับชายหนุ่มอยู่อย่างนี้ เธอเองนั่นแหละจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่ร่ำไป นี่ก็เสียเปรียบไปตั้งหลายขุมแล้ว คิดแล้วไอรักก็รู้สึกร้อนวูบวาบบนใบหน้า เพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่มีชายหนุ่มคนใด ได้สัมผัสใกล้ชิดเธอแบบเขาทำมาก่อน
ธีร์ภาณุขึ้นรถประจำที่นั่งคนขับ ชายหนุ่มชำเลืองมองหญิงสาวครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจกับความพยศของไอรัก
ความเงียบบนรถบวกแอร์เย็นๆ กับการเดินทางไกล ทำให้ไอรักหลับไปโดยไม่รู้ตัว ธีร์ภาณุเหลือบมองด้วยแววตาที่อ่อนโยน เขาจอดรถข้างทางปรับเบาะให้เธอได้นอนอย่างสบาย กลิ่นหอมของไอรักที่เขาได้สัมผัสครั้งแรกเมื่อเช้านี้ ยังติดอยู่ที่จมูกเขาตลอดเวลายิ่งได้สัมผัสใกล้ชิดกับร่างบาง นุ่มนิ่ม ทำให้เขาไม่อยากจะปล่อยเธอออกจากอ้อมแขนเลย น่าแปลกกับความรู้สึกอย่างนี้ ทั้งที่เขาเองก็เคยใกล้ชิดกับผู้หญิงหลายคนมาก่อน แต่กับไอรัก...ผู้หญิงที่พ่อเขาเลือกให้แล้วและบังคับว่าจะต้องแต่งงานด้วย ทั้งที่ไม่เคยได้รู้จักหรือสนิทกันมาก่อน กลับทำให้เขามีความสุขได้เวลาพูดจาต่อล้อต่อเถียงกับเธอ
หรือนี่จะเป็นรักแรกพบนะ หึๆ
แต่เมื่อคิดถึงสิ่งที่เธอบอกเมื่อเช้าว่าอยู่ด้วยกันกับผู้ชายมาแล้ว เขาก็ยักไหล่หน้าตาเคร่งขรึมลงทันที เขาไม่ได้สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอก็จริง แต่มันก็ทำให้เขามองว่า เธอดูถูกตัวเองมากที่ทำร้ายความรู้สึกของพ่อกับแม่ของเธอเอง ด้วยการทำลายคุณค่าของผู้หญิงที่ควรรักษาไว้
“คุณภูขา น้ำทรมานจัง อย่าแกล้งกันแบบนี้สิคะ” เมื่อความเสียวแปลบปลาบก่อตัวอยู่ในความรู้สึก และยังคงวนเวียนอยู่เช่นนั้นราวกับหาทางออกไม่ได้ เพราะคนตัวใหญ่ไม่ใส่ใจที่จะส่งเธอให้ถึงที่สุดของเวิ้งฟ้าเสียที ภูชิตยังคงซุกไซ้อกอวบ ทำตัวเป็นแมลงน่ารักตัวผู้ ฝากฝังรอยรักไว้บนร่างภรรยาตัวเล็ก“อ๊ะ! คุณภูขา ช่วยน้ำด้วย อื้อ...” น่านน้ำแอ่นหยัดสะโพกขึ้น มือเล็กกดลงที่สะโพกแน่นตึงของสามี บังคับให้เขาเข้ามาในร่างกายตัวเองให้ลึกล้ำกว่านี้“ก็น้ำบอกว่าเหนื่อย เร่งเร็วเดี๋ยวก็หาว่าผมแกล้งอีก”“โอย...คุณภูขา น้ำ...น้ำ...” น่านน้ำครางแผ่วขาดห้วง จังหวะรักช้าเนิบแต่หนักแน่น ทำให้ทุกครั้งที่ลำรักแกร่งแทรกลึกสุดทางในร่องรักหวานฉ่ำ กายสาวจึงต้องสั่นสะท้านทุกครั้ง ภูชิตชะโงกหน้าอยู่เหนือร่างภรรยา เขายิ้มร้ายกาจ“คุณภูแกล้งน้ำ อ๊า! เร็วกว่านี้นะคะ อื้อ...น้ำทำเองก็ได้” เมื่อรู้ว่าถูกแกล้ง และเรียกร้องเท่าไรสามีก็ไม้ยอมเร่งจังหวะรักดั่งใจเสียที ร่างเล็กจึงออกแรงทั้งหมดพลิกร่างคนขี้แกล้งให้อยู่ใต้ร่างตน สมใจคนตัวโตเขาล่ะ“เอาเลยครับที่รัก ผมยอมพลีกายให้น้ำเชย
“เรายังไม่ได้ราตรีสวัสดิ์กันเลยนะครับ”“เราราตรีสวัสดิ์กันมาทั้งวันแล้วค่ะ” ไอรักรู้ว่าสามีหมายถึงอะไร ก็มันทั้งวันจริงๆนะ เขาขยันทำเรื่องหื่นๆเกินไปแล้ว“ไม่เอาๆ ไม่นับรวมกันสิครับ มันคนละเวลา” ไอรักขยับกายพลิกร่างหันหลังให้สามี ไม่อยากคุยกับมนุษย์หื่นแล้ว“หนูไอครับ” ธีร์ภาณุกระแซะร่างเบียดภรรยา กระโปรงชุดนอนถูกรั้งขึ้นไปกองที่เอวคอด ซับในตัวจิ๋วถูกดึงออกจากร่างงามอย่างรวดเร็ว แล้วจัดการสะบัดกางเกงนอนตัวเดียวออกจากร่างใหญ่ของตน“อ๊าย! พี่ธีร์” ไอรักตีมือใหญ่ของสามีสุดแรง ธีร์ภาณุไม่สะทกสะท้าน ใบหน้าหล่อเหลาซุกไซ้ไปตามลำคอระหงด้านหลัง ลำกายแกร่งเสียดสีอยู่ที่สะโพกหนั่นแน่น“ถ้าไม่ได้ราตรีสวัสดิ์ ไม่หลับแน่ๆ อืมมม”“พะ...พี่ธีร์ อ๊ะ! คะ...คนอะไร หน้ามึนที่สุด” คนถูกต่อว่าว่าหน้ามึนรุกเร็วรุกหนัก ธีร์ภาณุจับร่างภรรยาพลิกให้นอนหงายทับร่างของตนเอง สองมือใหญ่กอบกุมทรวงอกอวบได้ถนัดถนี่ เคล้นคลึงบีบเฟ้นเท่าที่พอใจ แล้วค่อยๆเลื่อนมือลงไปยังกลางกายสาว จับต้นขาขาวแยกกว้าง เสยสะโพกส่งความแข็งแกร่งเสียดสีกับกลีบดอกไม้งาม“อ๊า! พี่ธีร์” ไอร
“ก็บอกว่าจะนอนกอดเฉยๆไง นอนได้แล้วครับ” ปลัดเมฆาเอื้อมมือปิดสวิตซ์ไฟ กอดกระชับร่างบางแนบอก จุมพิตหนักๆที่หน้าผากมน เขาไม่ทำอะไรมากกว่านั้นตามสัญญาที่ให้กับภรรยา ความอุ่นจากเรือนร่างกำยำแผ่ซ่านมายังร่างเล็กในอ้อมกอด ความละมุนหวานอบอวลอยู่รอบกายจนพิมพ์รพีพรรู้สึกอบอุ่นถึงหัวใจ“พี่รักพิมพ์นะครับ” เสียงทุ้มเอื้อนเอ่ยเบาๆ พิมพ์รพีพรยิ้มอยู่กับอกกว้างของสามี หญิงสาวขยับตัวบดเบียดหาความอบอุ่นจากร่างใหญ่“พิมพ์ก็รักพี่เมฆค่ะ” มือซุกซนของพิมพ์รพีพรลูบไล้แผ่นอกกำยำ หญิงสาวผงกศีรษะขึ้นจุมพิตปลายคางสากของสามีเบาๆ“ราตรีสวัสดิ์นะคะ” เธอไม่ได้โกรธอะไรสามีมากมายนักหรอก แต่รู้สึกระอาใจกับความหื่นของสามีมากกว่า เขาทำให้เธอเสพติดความรู้สึกดีๆจากตัวเขา จนไม่เคยที่จะปฏิเสธความต้องการของเขาได้สักครั้ง แต่คืนนี้ปลัดเมฆาทำตัวเป็นสามีที่ดี ทำตามข้อตกลงไม่รบกวนเธอ คนตัวใหญ่เลยดูน่ารักในสายตาภรรยาตัวเล็กขึ้นมาทันทียุบหนอ ยุบหนอ ยุบหนอก็อะไรๆมันร่ำร้องอยากจะพองใจจะขาดอยู่แล้ว แล้วมันก็ไม่ค่อยเชื่อฟังคำสั่งของเขาเอาเสียเลย ปลัดเมฆาโก่งสะโพกออกจากร่างภรรยา ป้องกันไ
“พี่เมฆ! คอเป็นอะไรคะ ดูสิแดงเป็นจ้ำตั้งหลายจุด หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด โอ้โห! โดนอะไรกัดหรือแพ้อะไรหรือเปล่าคะ” ปลัดเมฆาแทบจะสำลักอาหารที่เพิ่งตักเข้าปาก ก็ไอ้ที่น่านน้ำกำลังสงสัยนั่นแหละคือสาเหตุการงอนของภรรยา ภูชิตมองตามนิ้วเล็กของภรรยาที่ชี้ไปยังลำคอหนาของปลัดเมฆา แล้วยิ้มอย่างรู้ทัน“เอ่อ...โดนแมลงกัดน่ะครับ” ปลัดเมฆาอ้อมแอ้มตอบ ด้วยความหวาดกลัวต่อรังสีอำมหิตของภรรยาที่นั่งเคียงข้างกัน“แมลงอะไรคะ กัดเฉพาะที่คอ” น่านน้ำเอียงคอสงสัยหนัก พิมพ์รพีพรแทบจะมุดลงใต้โต๊ะ เพราะทั้งภูชิต ธีร์ภาณุ และไอรักมองมายิ้มๆ ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนพอจะเดาได้ว่าเกิดจากเธอแน่ๆ แต่ยายน่านน้ำ ยายเพื่อนโก๊ะ...แกจะทักทำไม“แมลงน่ารักครับคุณน้ำ” ปลัดเมฆาบอกยิ้มๆ น่านน้ำงงเข้าไปใหญ่“แมลงน่ารัก!? แมลงอะไรคะ ไม่เห็นจะเ
“อ๊าย...พี่ธีร์” ไอรักร้องเสียงหลง ความรุ่มร้อนแข็งแกร่งถูไถไปกับกลีบดอกไม้งาม และยังบดบี้เกสรกลางกายสาว ทำเอาเธอขนลุกเกรียว แขนเล็กต้องค้ำยันไปด้านหลัง ผ้าขนหนูหลุดจากมือ อกอวบแอ่นขึ้นอัตโนมัติเพราะต้องทรงตัวรับน้ำหนักสามีที่จู่โจมโดยไม่ทันระวังตัว เปิดโอกาสให้ใบหน้าหล่อเหลาของสามีซุกซบลงดูดดึงอกนุ่มหยุ่นทันที ลิ้นสากตวัดรัวเร่งบนเม็ดลูกกวาดสีสวย อีกด้านถูกบีบบี้คีบดึงด้วนสัมผัสเร้าอารมณ์“อ๊า...พี่ธีร์หยุดก่อนค่ะ อื๊อ!...พี่ธีร์” เสียงห้ามปรามของคนแรงน้อยหรือจะสู้การรุกเร้าของคนแรงเยอะกว่าได้ ที่สุดแล้วไอรักก็ยกแขนทั้งสองขึ้นมาโอบร่างสามีเพื่อทรงตัวแทน เพราะคนตัวโตเริ่มรุกแรงรุกเร็วเป็นจริงเป็นจังกลิ่นหอมอบอวลอยู่ทั่วห้อง ไม่ได้หอมเท่าร่างเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดสักนิด ธีร์ภาณุซุกไซ้ใบหน้าไปตามร่างขาวเนียนหอมกรุ่น คนตัวโตย่อตัวลงนั่งคุกเข่า ใบหน้าหล่อเข้มอยู่ตรงกลางกายสาวพอดี สะโพกสวยนั่งอยู่ขอบเตียงหมิ่นเหม่ ขาเรียวถูกจับแยกกว้าง ธีร์ภาณุใช้สองมือประคองยกต้นขาอวบขาวทั้งสองข้างไว้ ปลายเท้าของไอรักจึงลอยสูงอยู่กลางอากาศ ส่งผลให้กลีบกุหลาบงามสีสดฉ่ำเยิ้มเบ่งบานอยู่ตรงหน้า
“อ๊ะ! พี่เมฆ!” แล้วจะเอาแรงที่ไหนไปต่อต้าน ก็ในเมื่อร่างสอดติดตรึงค้างคากันอยู่ คนที่กำลังเหนือกว่าจึงเริ่มขยับโยก พร้อมกับก้มหน้าลงนัวเนียกับอกอวบอย่างเอาแต่ใจ“พิมพ์จ๋า พี่รักพิมพ์ รักๆๆ” คำบอกรักมาพร้อมกับจังหวะกระแทกรุนแรงตามอารมณ์ร้อน พิมพ์รพีพรกอดเกี่ยวร่างสามีแน่น“อื้อ...พะ...พี่เมฆ พิมพ์...มะ...ไม่ไหวแล้วนะ อื้อ” เสียงหวานครางประท้วงกระท่อนกระแท่น เพราะแรงรุกจากสามีทำให้ภรรยาตัวเล็กสั่นคลอนไปทั้งร่าง พิมพ์รพีพรถูกส่งไปยังวิมานแสงดาวพรายพร่างครั้งแล้วครั้งเล่า แต่สามีจอมหื่นกลับบรรเลงเพลงรักต่อเนื่องไม่ยอมหยุด ทุกครั้งที่ถึงที่สุดของความสุขสม เธอเลือกวิธีขบเม้มลำคอหนาเพื่อเก็บเสียงกรีดร้องไว้ แต่หากหญิงสาวฉุกคิดได้สักนิด เธอจะรู้ว่าไม่น่าเลือกวิธีเก็บเสียงแบบนี้เลย เพราะมันกลายเป็นหลักฐานความภูมิใจสำหรับสามีตัวใหญ่ แต่เป็นหลักฐานที่น่าเขินอายสำหรับภรรยาตัวเล็ก“เสร็จหรือยังคะพี่ธีร์”“เสร็จแล้วครับ” คนตัวสูงเดินยิ้มกว้างออกมาจากห้องน้ำ ภรรยาสาวของเขาอยากใช้บริการสปาอบสมุนไพรของรีสอร์ต คนเป็นสามีจึงต้องตามใจ ทั้งสองเดินออกจากห้องไปยัง