Share

ดูแลสามี 1

Author: LiHong
last update Last Updated: 2025-02-10 15:55:29

ถึงแม้ไม่มีวรยุทธ์หรือวิชามารอันใดเหมือนร่างเดิม

หากแต่ซานซานในร่างชิงหลินยังคงมีความทรงจำเกี่ยวกับเคล็ดวิชามารทุกอย่างกระทั่งการจัดทำค่ายกลทุกค่าย  ยามนี้ค่ายกลแบบง่าย นางจึงสร้างขึ้นมาได้ไม่ยาก

ชาติที่แล้ว ซานซานคือจอมยุทธ์หญิงที่มีฝีมือร้ายกาจ ได้รับฉายาว่านางมารอย่างช่วยไม่ได้

พอมาชาตินี้ถึงแม้จะอ่อนแอไปหน่อย หากแต่ออกแรงมากๆ ก็เท่ากับได้ฝึกฝน มือเท้าของร่างกายนี้ยังมีครบ ไม่มีอะไรต้องกังวล ทั้งนี้การสร้างค่ายกลยังนับเป็นการฝึกวิชาเบื้องต้น ซานซานที่ชอบฝึกยุทธ์เป็นทุนเดิมจึงแช่มชื่นในการทำเรื่องเหล่านี้

หญิงสาวมีความคิดที่จะเริ่มต้นฝึกยุทธใหม่อีกครั้ง ทำเหมือนเมื่อก่อนที่เริ่มจับกระบี่ฟันดาบตั้งแต่จำความได้

เพียงแต่แรกเริ่มที่พยายามออกแรงทำงาน ซานซานถึงกับหมดพลังล้มลง หลังจากพักจนหายเหนื่อย ก็เริ่มทำใหม่ เมื่อไม่ไหวก็หยุดก่อน พอมีแรงขึ้นมาก็ทำใหม่ วนเวียนไปเช่นนั้น

ยามนี้นางกำลังเดินไปเดินมาระหว่างบ้านกับริมลำธาร ทั้งยังเดินขึ้นลงระหว่างลานหน้าบ้านกับเชิงเขาไม่หยุดหย่อน จากเช้าจรดเย็น เย็นจรดค่ำ กระทั่งทำค่ายกลพื้นฐานเสร็จในหลายวันต่อมา จนร่างกายที่เคยอ่อนแอเริ่มแข็งแรงทีละน้อย กำลังวังชาก็มีเพิ่มขึ้นมา ข้อมือข้อแขนก็เริ่มมีพลังขึ้นมาก

จ้าวเหว่ยมองการกระทำของซานซานอยู่เงียบๆ ไม่คิดสอบถามหรือห้ามปรามอันใด นัยน์ตาคมดำยังคงลึกล้ำดุจห้วงมหาสมุทรไร้ก้นบึ้ง ในใจคิดเพียงว่า นางอยากทำสิ่งใดในบ้านของเขาก็ตามใจเถิด แต่อย่ามายุ่งกับเขาก็พอ

ทว่าชายหนุ่มกลับคิดผิดไป เมื่อคืนหนึ่งมาเยือน ในจังหวะที่กำลังจะเข้านอน ซานซานพลันใช้ร่างเล็กของตนตะครุบร่างใหญ่ของเขาเอาไว้บนเตียง จับข้อมือหนามาพลิกก่อนตรวจชีพจรอย่างรวดเร็ว

“เจ้าจะทำอะไร?” จ้าวเหว่ยถามเสียงเข้ม สีหน้าไม่พอใจ

“อยู่นิ่งๆ” ซานซานหลับตาฟังเส้นสายโลหิตของอีกฝ่าย

เนื่องจากพวกเขาเป็นสามีภรรยาที่เคยเข้าหอกันแล้ว และทั้งบ้านก็มีเพียงเตียงเดียว แม้มิได้ทำกิจกรรมเคาะจังหวะอันแสนจะรัญจวนระหว่างชายหญิง แต่ยังต้องนอนด้วยกันอยู่ดี  

กอปรกับคืนนี้ว่างจากงานค่ายกลแล้ว ซานซานจึงมีเวลาให้ชายผู้เป็นสามีเต็มที่

ภายใต้แสงเทียนที่สาดส่องในห้อง ใบหน้าของหญิงสาวจริงจังมาก แววตาแน่วนิ่ง ขึงขังเป็นพิเศษ ราวกับกำลังจะทำเรื่องที่ต้องใส่ใจที่สุดในใต้หล้า มิอาจทำพลาดได้แม้แต่นิดเดียว

จ้าวเหว่ยหรี่ตามองอย่างงุนงง ขมวดคิ้วแน่น

ซานซานเปลี่ยนจากจับชีพจรตรงข้อมือ มาจับชีพจรตรงลำคอ แล้วเลื่อนปลายนิ้วไปตามร่างกายของคนตัวสูง ไล้แผ่วเบาตามแนวกระดูก

“อะไรของเจ้า?”

จ้าวเหว่ยถามเสียงขรึม สร้างบรรยากาศให้เคร่งเครียด สะกดความรู้สึกร้อนวูบวาบจากสัมผัสของปลายนิ้วนาง

“ที่แท้เหย่หนิวของข้าก็ถูกทำลายวรยุทธ์มา”

ซานซานเอ่ยอย่างแปลกใจ คล้ายกับเจอเรื่องประหลาด ทว่ากิริยากลับสงบนิ่ง

“เจ้า...”

ครานี้เป็นจ้าวเหว่ยที่นึกแปลกใจมองนางตรงหน้าด้วยแววตาตะลึงงัน

อันที่จริง นางก็ทำตัวแปลกประหลาดตั้งแต่วิ่งไปวิ่งมา วิ่งขึ้นลงภูเขาแล้วสร้างกับดัก ทว่าเขาเพียงมองอยู่ห่างๆ คิดว่านางแค่เล่นสนุกก็เท่านั้น แต่ยามนี้นางกลับมิใช่สตรีอย่างที่เห็น

นางมิใช่ชิงหลินผู้โง่เขลา

เป็นที่แน่นอนว่าจ้าวเหว่ยไม่อาจล่วงรู้ ว่าซานซานเคยสำเร็จวิชามารสารพัด ฝึกศาสตร์แห่งยุทธ์มาทุกแขนง การจับเส้นชีพจรแค่นี้ย่อมล่วงรู้ได้ไม่ยาก ทั้งยังสามารถรักษาได้อีกด้วย

คนผู้หนึ่งซึ่งเคยเป็นจ้าวสำนักอันยิ่งใหญ่ทั้งยังปกครองสมุนมากมาย เรื่องเล็กน้อยเท่านี้ หากไม่รู้ คงดูแลลูกสมุนที่เสี่ยงตายเพื่อนางมิได้แล้ว

บางคนยังถูกนางหักกระดูกแล้วจับมาต่อเองด้วยซ้ำ เส้นเอ็นทั้งหลายนางยังสะบั้นกับมือแล้วจับต่อเองกับมือ

วิชายึดเส้นต่อกระดูกเปลี่ยนเอ็นเป็นความรู้พื้นฐานของวิชาฝ่ามือมรณะที่ซานซานเคยฝึกสำเร็จเมื่อชาติที่แล้ว

ถึงแม้ว่ายามนี้ยังมิทันได้เริ่มฝึกฝนวิชายุทธ์ ทว่าทุกสิ่งยังอยู่ครบภายในสมองของนาง การงัดมาใช้กับสามีย่อมดีแน่นอน

ซานซานในชาติก่อนนั้น มักจะสร้างศัตรูไปทั่ว นำภัยเข้าสำนักเสมอ ทำให้ลูกน้องต้องต่อสู้จนบาดเจ็บเกือบตายมากมาย

นางจึงต้องดูแลจนหายดี จะได้ออกไปกรำศึกทำเรื่องชั่วๆ เพื่อนางตลอดไป

มิรู้ว่าเจ้าพวกนั้นจะร้องไห้หรือหัวเราะที่นางตายเสียแล้ว

นานครู่ใหญ่ที่เรียวนิ้วของซานซานเพียงไล้แผ่วไปตามกล้ามเนื้อตึงแน่นของจ้าวเหว่ย

เบาราวปีกภมรบินผ่าน คล้ายหยอกเย้ามวลบุปผา

ทำเอาชายหนุ่มเกือบเคลิ้มตาม ทว่าพริบตาพลันได้ยินเสียงกระดูกลั่นดังกร๊อบ!

“อ๊า...”

ค่ำคืนมืดมิด รอบด้านวังเวง บ้านไม้ไผ่อันโดดเดี่ยวริมธารพลันมีเส้นเสียงแหบพร่าถูกเปล่งออกมาจากลำคอหนาแกร่ง ฟังออกว่าเจ็บปวดสุดแสน ดังจนทะลุเรือนออกมาไกลโข

คืนนั้นทั้งคืน ไม่มีใครล่วงรู้ว่า กำลังมีชายชุดดำผู้หนึ่งนามว่าอู๋เจี๋ย ต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากในการเข้าไปช่วยองค์รัชทายาทของเขา

ทว่าการฝ่าด่านค่ายกลแปดทิศขจัดมารไม่ง่ายดาย องครักษ์หนุ่มถึงกับบาดเจ็บสาหัสเลือดท่วมโทรมกาย

หมดเรี่ยวหมดแรงลอยไปกับสายน้ำ

“อะ...องค์ชาย กระหม่อมมิอาจปกป้องท่านได้...”

เสียงนั้นแผ่วเบาไม่อาจดังไปกว่าเสียงลมราตรี

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ตอนที่55 ความลับไม่มีในโลก1

    ภายในห้องรับรองของหลี่กุ้ยเฟยวันนี้ คล้ายกับมีมรสุมม้วนตัวหลายตลบตระหนกแล้วตระหนกอีกไม่หยุดหย่อน กระทั่งมารยาทของชนชั้นสูงยังไม่ปรากฏการเคารพตามธรรมเนียมปฏิบัติยังมิทันได้กระทำ ยังดีที่ไม่มีใครอื่น ทุกคนในห้องล้วนเป็นคนใกล้ชิดสนิทสนมประโยคเกรี้ยวกราดขององค์ชายน้อยที่ไม่คิดจะทนอีกต่อไป ยิ่งทำให้ผู้คนหูอื้อตาลาย หน้ามืดคล้ายจะเป็นลมจ้าวเหว่ยแม้ตกใจกับคำพูดของน้องชายมาก แต่เขากลับสนใจประโยคแรกของเด็กน้อยมากกว่าเพราะท้ายที่สุด ประโยคที่เขาเอ่ยถามโซวอ๋องก่อนหน้ากับเรื่องของจ้าวสุนยามนี้ ล้วนเป็นเรื่องเดียวกันท่ามกลางสีหน้าตกตะลึงถ้วนหน้า มีเพียงฮ่องเต้ผู้เดียวที่ยังคงมีสีพระพักตร์เรียบเฉย หาได้ตระหนกอันใด เนตรมังกรล้ำลึกมองโอรสคนที่ห้าในอ้อมพระกร ก่อนตัดสินพระทัยตรัสขึ้นว่า “พ่อย่อมตามใจสุนเอ๋อร์”วาจาเปี่ยมอำนาจนี้ ทำให้โซวอ๋องที่เงียบขรึมมาตลอด ในที่สุดก็ยอมเอ่ยปาก “เสด็จพี่หมายความว่าอย่างไร?”ฮองเฮาเองก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป “อะไรกัน? หมายความว่าฝ่าบาททรงรู้เห็นกับสุนเอ๋อร์มาโดยตลอดหรือเพคะ”หลี่กุ้ยเฟยจ้องมองพระสวามี แม้ว่าตนเองจะเป็นเจ้าของสถานที่แห่งการเจรจาไม่คาดฝันนี้ แต่กลับรู

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ตอนที่54 ประจันหน้า5

    ฮ่องเต้ปรายพระเนตรกวาดมองจนทั่ว พบว่ามีรัชทายาท โซวอ๋อง ฮองเฮา หลี่กุ้ยเฟย และองค์ชายห้า คนกันเองทั้งหมด จึงตรัสด้วยสุรเสียงเนิบช้า“ใครกล้ารังแกสุนเอ๋อร์...”ทุกคนย่อมสัมผัสได้ถึงโทสะแห่งโอรสสวรรค์ แม้จะเป็นญาติสนิทกัน แต่อำนาจอีกฝ่ายล้นฟ้าคว่ำพสุธายังได้จ้าวเหว่ยคิดว่า ทวนเปิดเผยหลบหลีกง่าย เกาทัณฑ์ลับยากระวัง เขาเองก็เกือบพลาดพลั้งหลายต่อหลายครั้ง มิสู้เปิดโปงให้รู้ดีชั่วกันไปเลย ดึงโซวอ๋องลงสนามแข่งขันอย่างสง่าผ่าเผย ย่อมรู้ผลแพ้ชนะในเร็ววัน“เสด็จพ่อควรถามเสด็จอา ว่าที่ผ่านมาเขาต้องการอะไร”ช่างไม่เกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นยามนี้เลยแม้แต่น้อยทั้งๆ ที่จ้าวสุนซึ่งแก้มแดงเป็นก้นลิงยังอยู่ในอ้อมพระกรทว่าประโยคนี้แม้ผู้พูดมีสีหน้าราบเรียบ แต่แววตาที่สื่อกลับก่อคลื่นร้อนในใจให้ผู้ฟังอย่างประหลาดโดยเฉพาะโซวอ๋องเมื่อครู่เขาคิดจะไปหาจ้าวสุนเหมือนที่ชอบทำยามเข้าวัง แต่บังเอิญเห็นเหตุการณ์วุ่นวายเบื้องหน้า ยังมีฮองเฮาไล่ตามติด ตัวเขาจึงเดินตามมาอย่างมิทันได้ยั้งคิดคาดไม่ถึงว่าจะเจอเรื่องราวเหล่านี้แววตาดุดันที่มักจะลึกล้ำ บัดนี้วูบไหวไม่หยุด ท่าทางเคร่งขรึมยิ่งดำทะมึนมากยิ่งขึ้น เ

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ตอนที่54 ประจันหน้า4

    ทั้งคำถามทั้งน้ำเสียง และแววตาของหลานชายที่มองมา โซวอ๋องผู้นี้หาใช่บุคคลที่สายตาคับแคบไม่ เขามองออกทันทีว่าหลานชายผู้นี้เปลี่ยนไปสายตาที่มองกันล้วนชัดเจนโดยมิต้องแถลงไขชายชาตินักรบไม่เคยเสแสร้งแกล้งตายอยู่แล้วเมื่อเจอศัตรูคู่อาฆาต“เจ้า?”เจ้าคงเริ่มรู้ตัวแล้วกระมัง?ประโยคหลังโซวอ๋องมิได้เอ่ย เพียงใช้สายตาคู่คมมองนิ่ง รังสีอำมหิตแผ่กำจายออกมาอย่างมิอาจห้ามได้วงแขนแกร่งของจ้าวเหว่ยยิ่งกระชับน้องชายคนเล็กเอาไว้แน่น อีกข้างยิ่งรั้งบุตรสาวเข้ามาในอกอุ่นอย่างหวงแหน กลิ่นอายสังหารแผ่ซ่านออกมาไม่แพ้อีกฝ่ายนักรบเหมือนกัน นิสัยย่อมคล้ายกัน จอมทัพทั้งสองจึงยืนประจันหน้า หมายหยั่งเชิงกัน ประหนึ่งยืนกลางสมรภูมิรบจ้าวสุนเห็นโซวอ๋องเดินเข้ามาก็ยิ่งซุกซบพี่ใหญ่ของตน อย่างต้องการหาที่พึ่ง ลู่หลิ่งยิ่งบีบมือให้กำลังใจองค์ชายห้าจ้าวเหว่ยหรี่ตาจับสังเกตกิริยาน้องชายเด็กน้อยทั้งสองร้องไห้โฮไปด้วยกัน ผสานเสียงโอดครวญดังสะท้อนห้อง น้ำตาไหลทะลักราวห่าฝนกลิ้งบนใบหน้าที่เปื้อนผงชาดจนยับย่น สองไหล่เล็กๆ สะท้านไหวขึ้นลงอย่างน่าสงสารแม้มิได้พูดอะไรเพราะสะอึกสะอื้นจนหายใจไม่ทัน แต่ก็เป็นวิธีหนึ่งที่ช่ว

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ตอนที่54 ประจันหน้า3

    ฮองเฮามองบุตรชายคนเดียวของตนด้วยแววตาซับซ้อน รู้สึกอับอายอย่างยากจะยอมรับ สองมือกำแน่นจนสั่นระริก นางไม่สนใจเจ้าของห้อง เพียงกัดฟันเอ่ยเสียงเบาว่า “สุนเอ๋อร์ ออกไปกับแม่เดี๋ยวนี้”ปัญหาของเด็กเล็กคนหนึ่งอาจนำมาซึ่งปัญหาระยะยาวและอาจจะไร้ทางผสานของผู้ใหญ่ตลอดไป เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ ทั้งฮองเฮาและหลี่กุ้ยเฟยจึงพยายามระวังและรักษากิริยา เว้นระยะห่างพอควรทว่าสิ่งที่ได้ยินจากเด็กชายกลับทำให้หัวใจทุกคนกระตุกคล้ายดิ่งลงพื้น“สุนเอ๋อร์ไม่ไป ในเมื่อไม่อาจปิดบังแล้ว เสด็จแม่ปล่อยสุนเอ๋อร์ไปตามทางเถิด”องค์ชายน้อยปาดน้ำตาโผล่หน้าออกจากช่วงเอวพี่ชายคล้ายกระต่ายน้อยตื่นตูมแล้วพูดปนสะอื้นอีกว่า“ชีวิตนี้เป็นของสุนเอ๋อร์ เลิกเอากฎระเบียบมาบีบบังคับเสียที สุนเอ๋อร์อึดอัด มิอาจอดกลั้นได้อีกต่อไป”กล่าวจบก็ก้มหน้าร้องไห้เสียใจ ลู่หลิ่งยิ่งร้องไห้ตามองค์ชายห้าขวัญกระเจิงบินไปไกลแล้วจริงๆ การถูกตบหน้าจากบุพการีอันเป็นที่รักจนมีเลือดไหลที่แก้มเป็นสิ่งที่ทำร้ายหัวใจดวงน้อยอย่างไม่อาจบรรยายได้ คล้ายการทำลายแผ่นดินอันสวยงามให้ล่มสลายได้เลย ส่วนลู่หลิ่งคิดว่าความผิดเป็นของตัวเอง สหายเจอเรื่องเลว

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ตอนที่54 ประจันหน้า2

    เสียงดังสวบสาบ วิ่งหนีเร็วรี่ หลบเลี้ยวคล่องแคล่ว เหยียบดอกไม้จนเละตลอดทางเจ้าของฝ่าเท้ามิใช่ใคร เขาคืออู๋เจี๋ยองครักษ์หนุ่มคอยดูแลบุตรสาวตัวน้อยของรัชทายาททุกย่างก้าว วันนี้เขาย่อมแอบตามลู่หลิ่งเหมือนที่ต้องทำ ทว่ากลับเกิดเรื่องไม่คาดฝันและด้วยไม่มีเวลาคิดการณ์ ยามนี้แขนหนึ่งจึงอุ้มลู่หลิ่ง อีกหนึ่งแขนยังอุ้มจ้าวสุน วิ่งหนีว่องไว กลับตำหนักฮุ่ยเยี่ยนเบื้องหลังเขาคือฮองเฮาและขันทีกับนางกำนัลสี่ห้าคน เบื้องหน้าคือตำหนักของพระสนมหลี่กุ้ยเฟย ส่วนด้านข้างเห็นแวบหนึ่งว่าเป็นชายร่างใหญ่ใส่ชุดดำทะมึนคล้ายโซวอ๋องอู๋เจี๋ยพาลู่หลิ่งกับจ้าวสุนมาถึงในตำหนักฮุ่ยเยี่ยนก็ปล่อยเด็กทั้งสองลงตรงหน้าห้องรับรอง กระซิบรวดเร็วว่า“รีบเข้าไปในห้องเร็ว พระสนมย่อมปกป้องได้”เด็กทั้งสองรีบจับมือกันวิ่งไวราวลูกธนูถูกยิง พุ่งพรวดผ่านตัวยี่ซินไปโดยไม่สนใจคำทัดทานนางกำนัลได้แต่ยืนถลึงตาอ้าปากกว้าง คนอื่นๆ ที่ถูกสั่งให้ยืนอยู่ห่างๆ ได้แต่ยืนก้มหน้าจึงมองไม่ทันชั่วครู่ต่อมาก็ปรากฏขบวนเสด็จของฮองเฮาครานี้ยี่ซินไม่ห้ามไม่ได้แล้ว จะปล่อยให้คนกลุ่มใหญ่เข้าไปเหมือนเด็กน้อยวิ่งซนได้อย่างไรทว่ายี่ซินเป็นเพียงบ่า

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ตอนที่54 ประจันหน้า1

    มุมเล็กของห้องด้านในสตรีร่างระหงงดงามในอาภรณ์หรูหรายืนนิ่งประหนึ่งศิลา ปิ่นหงส์งามระย้าบนมวยผมยกสูงยังไม่กระพือไหว เห็นได้ชัดว่านางตกใจจนร่างแข็งทื่อไปแล้วเพราะสิ่งที่นางเห็นคือบุตรชายเพียงหนึ่งเดียว ความหวังหนึ่งเดียวในชีวิตของนาง กำลังแต่งหน้าทาชาด ตาเขียวปากแดง ประดุจงิ้วหลงโรงวันนี้หลังจากได้รับรู้ข่าวการตายขององค์ชายสาม ฮองเฮาหลิวเฟิ่ง ก็รู้สึกตระหนกไม่เบา นึกห่วงใยโอรสหนึ่งเดียวของตนไม่น้อยขนาดจ้าวหมิงอายุยี่สิบปียังถูกสังหารได้อย่างโหดร้าย ตายไปอย่างง่ายดาย แล้วบุตรชายอายุแค่เจ็ดปีผู้นี้ที่เป็นตัวเลือกในการแย่งชิงอำนาจกับรัชทายาท จะไม่ห่วงได้อย่างไร หลิวเฟิ่งจึงอยากอยู่ใกล้กับบุตรชายให้มากเข้าไว้ ปกป้องเขาตลอดเวลาทว่ายามนี้คือยามนอนหลับกลางวันขององค์ชายน้อย ฮองเฮาจึงมิให้ขันทีส่งเสียง มิให้บ่าวไพร่รบกวนเด็กชายที่กำลังพักผ่อน พระนางเดินเข้ามาด้วยปลายเท้าเงียบเชียบ แต่ไม่เห็นลูกรักนอนอยู่บนเตียง กลับได้ยินเสียงหัวเราะสดใสตรงมุมห้อง จึงเดินเข้าไปที่ต้นเสียงนั้น สุดท้ายสิ่งที่เห็นตรงหน้า กลับร้ายแรงยิ่งกว่าข่าวการตายขององค์ชายสาม“สุนเอ๋อร์...”เจ้าของนามหันหน้าตามสัญชาตญาณ“

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status