공유

8.หวั่นไหว

last update 최신 업데이트: 2024-12-16 12:08:02

หนิงหลงลืมตาขึ้นมาพร้อมกับเย่วเล่อที่ยังคงนอนหลับอยู่... แม้แต่ยามที่นางหลับเช่นนี้ก็ยังคงน่าหลงใหล เมื่อคืนกว่าเราจะได้นอนกันก็เกือบรุ่งสาง แน่นอนว่ามันคือการนอนเฉยๆไม่มีอะไรเกินเลยไปมากกว่าการจุมพิตนับร้อยครั้งเห็นจะได้

ความหวั่นไหวก่อตัวขึ้นมาในใจ ท่ามกลางเสียงที่เด่นชัดของสายลมและเสียงฝีเท้าที่กำลังก้าวเดินมา...

ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับอาเหยาที่นำเสื้อผ้าของแม่ทัพหนิงมาให้

"จะรับอาหารเช้าเลยไหมขอรับท่านแม่ทัพหนิง"

หนิงหลงมองที่อาเหยาด้วยแววตาที่แปลกไปเล็กน้อย เพราะว่าเขามองเห็น..ดวงตาที่ราวกับไม่ใช่มนุษย์ของอาเหยา หมายความว่าชายผู้นี้เป็นปีศาจอย่างนั้นหรือ?

อาเหยาชะงักเล็กน้อยเพราะรอบๆตัวของแม่ทัพกลับมีพลังปราณเซียนล้อมรอบเอาไว้ และมันคือพลังปราณที่คุ้นเคยอย่างพลังของเถ้าแก่เนี้ย

"อืม ข้าจะทานที่นี่เลย"

"เช่นนั้นท่านแม่ทัพโปรดรอสักครู่"

เย่วเล่อลืมตาขึ้นมาเพราะเธอได้ยินเสียงพูดคุยในห้อง อาเหยาคงเข้ามาแล้วเป็นแน่ เจ้างูขี้บ่นตัวนั้นคงจะล่วงรู้แล้วว่าเธอสูญเสียพลังปราณในตัวให้หนิงหลงแล้ว

"ตื่นแล้วหรือ?"

เธอยกมือขึ้นมาบีบแก้มของเขาแรงๆก่อนจะลุกขึ้น เย่วเล่อโน้มใบหน้าของเขาลงมาก่อนที่เธอจะจุมพิตอย่างแผ่วเบากับเขาอีกครั้ง 

มือของหนิงหลงโอบรอบเอวของเธอเอาไว้ ราวกับว่าเขากำลังประคองร่างกายที่อ่อนแอของเย่วเล่อไว้อยู่

ถึงแม้จะล่วงรู้ว่าที่นางทำเช่นนี้เป็นเพราะว่านางต้องการปราณเซียนคืนแต่ทว่าการกระทำที่ลึกซึ้งเช่นนี้ใช่จะทำใจให้ชินได้โดยง่าย..

อาเหยาเป็นประตูเข้ามาอีกครั้ง เขาก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไป..

"ยกเข้ามาเลยอาเหยาข้าหิวจะตายอยู่แล้ว!"

เย่วเล่อผลักหนิงหลงออกช้าๆ เธอเดินไปที่โต๊ะทานข้าวก่อนจะเริ่มลงมือคีบอาหารพวกนั้นใส่ปาก... ตรงกันข้ามกับหนิงหลงที่เขายังคงยืนอึ้งอยู่ 

"บางเรื่องอาจจะต้องใช้เวลา..."

เย่วเล่อถอนหายใจ นางโบกมือไปมาเพื่อให้อาเหยาออกจากห้องนี้ไป เธอยังไม่อยากจะถูกเจ้างูตัวนั้นบ่นในตอนนี้ เพียงแค่เท่านี้ก็คิดมาจะแย่อยู่แล้ว

"ช่วงนี้ท่านมาอยู่กับข้าก่อนก็แล้วกัน"

หนิงหลงนั่งลง เขาลอบมองใบหน้าที่หงุดหงิดของเย่วเล่อก่อนจะเริ่มลงมือทาน

"...ข้าไม่อาจเดินทางออกจากค่ายทหารได้บ่อยขนาดนั้น"

"เช่นนั้นข้าจะไปหาท่านเอง ได้แต่หวังว่าท่านคงจะไม่..นอนกับสตรีใดในช่วงนี้"

"นี่ท่านเห็นข้าเป็นบุรุษเช่นไรกัน?"

เธอช้อนสายตามองหน้าเขา ริมฝีปากของหนิงหลงนั้นบวมแดงเล็กน้อย มันคงจะมาจากการจุมพิตอย่างบ้าระห่ำของเธอเมื่อคืนเป็นแน่ ทั้งที่ความปรารถนาของเขา...ลุกโชนขึ้นมาแล้ว แต่ทว่าเขาก็ไม่แตะต้องเธอเลยแม้แต่น้อย

เขายินยอมให้เธอจุมพิต โดยที่ไม่กระทำการอันใดที่เกินเลยมากกว่านั้น ชายผู้นี้คือบุรุษที่ดีผู้หนึ่งเลยก็ว่าได้ 

ยังไม่รวมที่เขาช่วยเหลือเธอเอาไว้ในครั้งนั้นด้วย

"เอาตามนั้นก็แล้วกัน คืนนี้ข้าจะไปหาท่าน"

"การเดินทางตอนกลางคืนอันตรายยิ่ง เอาเป็นว่าข้าจะส่งคนมารับเจ้าเอง..."

เย่วเล่อพยักหน้า หัวใจพลันเต้นแรงขึ้นมาราวกับมีขนนกปัดผ่านที่หัวใจ เธอมองหน้าเขาที่กำลังทานอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย

หนิงหลงคือชายรูปงามผู้หนึ่ง เขาเคร่งขรึมแต่ทว่ากลับอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อ เขาดูเป็นแม่ทัพที่เก่งกาจและโหดเหี้ยมในขณะเดียวกันเขาก็เป็นคนที่คอยเอาใจใส่ผู้อื่น

ไม่บ่อยนักที่จะพบเจอชายแสนดีเช่นนี้ และไม่บ่อยนักที่เหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นมา ด้วยวิสัยของเทพจิ้งจอก ไม่ใช่เรื่องง่ายที่สัตว์เช่นเธอจะสามารถบำเพ็ญเพียรเป็นเซียนได้ ทุกอย่างต้องใช้เวลาและการช่วยเหลือจากท่านอาจารย์

มือน้อยๆของท่านเทพบรรพกาลบรรจงอุ้มจิ้งจอกหิมะตัวน้อยขึ้นมา เขาลูบขนสีขาวที่นุ่มลื่นของเธอเบาๆ เลี้ยงดูด้วยความทะนุถนอม เย่วเล่อถือเป็นศิษย์รักเลยก็ว่าได้ นั่นเพราะเธอนั่นช่างพูดและช่างเจรจา

เพราะความเอาใจใส่ของท่านอาจารย์ทำให้เย่วเล่อสามารถเป็นเทพเซียนได้ไวกว่ากำหนดหลายร้อยปี การไม่มีปราณเซียนนั่นหมายความว่าเธอในยามนี้เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่สามารถแปลงร่างเป็นจิ้งจอกได้ มิได้มีพลังอะไรเลย

"เอาแบบนั้นก็ได้"

สายตาของหนิงหลง เขาเป็นห่วงเย่วเล่อมากทีเดียว ดวงตายามที่มันรื้นไปด้วยน้ำตาของเธอยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจ เขาไม่อยากให้ใบหน้าที่งดล้ำนั้นจะต้องร้องไห้ เพราะหยาดน้ำตาไม่เหมาะกับนางเลย

เมื่อหนิงหลงเดินออกมาเขาก็พบเจอกับอาเหยาที่ยืนรออยู่หน้าห้อง

"หากไม่เป็นการรบกวน ให้ข้าน้อยได้เดินไปส่งท่านแม่ทัพนะขอรับ"

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าปีศาจตนนี้ คงจะมีเรื่องพูดกับเขาเป็นแน่

"ได้สิ หากเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพลังปราณ เจ้าสามารถบอกกล่าว..กับข้าได้เลย"

อาเหยาก้มหน้าเล็กน้อยพร้อมกับแย้มยิ้ม บุรุษข้างกายนี้มิได้เป็นคนโง่ อีกทั้งยังเป็นคนที่เดาใจได้ยากมากทีเดียว

"ข้าน้อยติดตามเถ้าแก่เนี้ยมาสามร้อยปีเห็นจะได้  ตั้งแต่สร้างโรงเตี๊ยมแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ๆ มีแขกมากหน้าหลายตาผ่านมาแล้วก็ผ่านไป คนแล้วคนเล่าที่เถ้าแก่เนี้ยคนงามแต่งงานด้วย แต่ทว่าเรื่องการส่งมอบปราณเซียนเรื่องเช่นนี้มิเคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยขอรับ"

รู้สึก..ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ที่เจ้างูนี่กล่าวว่าเย่วเล่อแต่งงานหลายครั้ง 

"มันเป็นเรื่องที่เย่วเล่อมิได้ตั้งใจ.."

อาเหยาเลิกคิ้วมองแม่ทัพหนิง เถ้าแก่เนี้ยไม่ชื่นชอบชื่อของตัวเองสักเท่าไหร่ จึงมักจะใช้ชื่ออื่นตลอด แต่ทว่ากับชายผู้นี้กลับบอกกล่าวชื่อที่แท้จริงอย่างนั้นหรือ?

นี่ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่ในรอบหลายร้อยปีเลยก็ว่าได้

"เถ้าแก่เนี้ยนั้นแตกต่างจากเทพจิ้งจอกตนอื่นที่ข้าพบเจอมา เพราะนิสัยส่วนใหญ่ของเทพจิ้งจอกมักจะเจ้าเล่ห์ แต่ทว่าเถ้าแก่เนี้ยมิได้..เป็นเช่นนั้น นางมักจะชื่นชอบการอยู่คนเดียวหรือไม่ก็การมองดูผู้คนมากมายผ่านทางหน้าต่างมากกว่าจะลงมาที่ชั้นล่างของโรงเตี๊ยม  ตั้งแต่ข้าน้อยติดตามเถ้าแก่เนี้ยมายังไม่เคยเห็นนางใช้พลังเลยสักครั้งเดียว...แต่ทว่าไม่ใช้มิได้หมายความว่าไม่สำคัญ"

หนิงหลงหยุดฝีเท้าที่กำลังก้าวเดินเมื่อเสียงของอาเหยานั้นต่ำลง

"ร่างกายของนางจะอ่อนแอลงเพราะอายุที่ยาวนานนับนิรันดร์กำลังจะสิ้นสุดลง ยังไม่รวมกับประสาทสัมผัสที่เฉียบแหลมนั่นจะจางหายไปเพราะมันไปอยู่กับท่านแม่ทัพ ทางที่ดีท่านแม่ทัพควรจะส่งคืนพลังให้แก่เถ้าแก่เนี้ยโดยไวนะขอรับ"

"ตัวข้ามิได้คิดที่จะฉวยโอกาสเอาพลังนี้เป็นของตน ข้าและเย่วเล่อกำลังหาทางส่งคืนพลังนี้อยู่..."

อาเหยาก้มหน้าลงอีกครั้ง

"เช่นนั้นข้าก็ขอขอบคุณท่านแม่ทัพ อาเหยาคงจะขอส่งท่านแม่ทัพหนิงเพียงเท่านี้เพราะที่โรงเตี๊ยมมีงานมากมายที่จะต้องจัดการ"

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   ตอนพิเศษ เรียบง่าย

    นี่คืองานแต่งที่ทวยเทพทั้งสี่ทะเลแปดดินแดนมาร่วมยินดี งานแต่งของมหาเทพบรรพกาล กับเทพจิ้งจอกผู้งดงามราวกับภาพวาดแน่นอนว่ามู่หยางจัดงานอย่างยิ่งใหญ่โดยครั้งนี้เขามิได้คำนึงถึงฤกษ์มงคลใดๆ เขาจัดงานในทันทีที่อาการของเยว่เล่อดีขึ้น ยามนี้นางคือภรรยาของเขาอย่างแท้จริงและพวกเรากำลังอยู่ที่หุบเขาแห่งเซียน เขารู้ดีว่าภรรยาชื่นชอบที่นี่ จึงมิคิดพานางไปอยู่ที่สวรรค์ชั้นฟ้า "ภรรยาเจ้าติดค้างคืนเข้าหออยู่นะ..."เยว่เล่อหัวเราะเบาๆท่านเทพบรรพกาลผู้นี้จับเธอกินจนแทบมิเหลือเรี่ยวแรงในทุกค่ำคืน ยามนี้เธอเหนื่อยล้ากับการต้อนรับเทพที่มาร่วมยินดีเขาจะมิวายจะรังแกเธออีกอย่างนั้นหรือ"ท่านพี่ควรจะให้ข้าได้พักบ้าง"มู่หยางหัวเราะเบาๆ เขาอุ้มเยว่เล่อขึ้นมาวางเอาไว้บนเตียง"วันพรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าไปเยี่ยมอาเหยา ที่โรงเตี๊ยมนั่นของทุกอย่างที่เจ้าเคยใช้ อาเหยายังคงเก็บเอาไว้ให้เป็นอย่างดี..."เยว่เล่อส่งยิ้มจางๆให้สามี อาจจะเพราะเรานั้นอยู่ที่โลกมนุษย์มานาน คำเรียกขานเช่นนี้จึงสบายใจยิ่งกว่าการเรียกขานที่ห่างเหินอย่างที่พวกเซียนชอบกล่าวเธอคือภรรยาและเขาคือสามี เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว มิต้องการสิ่งใดที่ยุ่งย

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   25.ไม่แยกจาก

    หิมะโปรยปรายลงมาพร้อมกับเยว่เล่อที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ เธอยกมือขึ้นมาเพื่อรอรับหิมะที่ตกลงมาครั้งแล้วครั้งเล่าร่างกายของหนิงหลงนั้นสลายหายไปในอากาศเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน อาจจะเป็นเพราะว่าพลังเซียนของเธอนั้นอ่อนแอลงจนไม่สามารถคงสภาพของเขาเอาไว้ได้ เธอยังคงโอบกอดร่างที่ไร้วิญญาณของเขาทุกคืนก่อนนอน ถึงแม้ผิวกายของเขาจะเย็นเฉียบก็ไม่เป็นไร เธอยังคงพูดคุยกับเขาราวกับว่าเขายังอยู่ถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจะสูญสลายไปแล้ว...การมีชีวิตอยู่โดยไร้ท่านมันทรมานเหลือเกินหนิงหลง ข้าร่ำร้องขอความตายจากสวรรค์ในทุกค่ำคืนเผื่ออย่างน้อยที่ปลายทางมันจะมีท่านยืนรออยู่และแล้ววันที่เธอรอคอยก็เดินทางมาถึงในวันที่พลังเซียนของเธอกำลังจะหมดลง อายุขัยที่ยาวนานกำลังจะสิ้นสุด เยว่เล่อสวมชุดสีแดงนั่งอยู่ท่ามกลางหิมะที่ตกลงมา เธอแต่งหน้าและแต่งตัวให้งดงามกว่าทุกวันเพื่อในยามที่ได้พบเจอหนิงหลง เธอจะได้งดงามที่สุดในสายตาของเขาเธอกำลังนั่งรอความตายที่คืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆให้หิมะพวกนี้ฝังกลบร่างของเธอเอาไว้ ร่างของสาวงามพลันหายไปเหลือเพียงแต่ร่างจิ้งจอกที่มีขนสีขาวกลมกลืนไปกับหิมะที่นอนหายใจรวยรินอยู่มารับข้าไปได้แล้ว.

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   24.รอคอย

    ไร้สิ้นลมหายใจ หัวใจที่เคยเต้นแรงในยามที่โอบกอดเธอเอาไว้ ยามนี้มันไม่เต้นอีกแล้วปราณเซียนของเธอที่แบ่งให้เขาเอาไว้ถึงครึ่งบัดนั้นมันแตกสลายไปหมดแล้ว เธอมาช้าเกินไป เพราะมัวแต่ร้องไห้เสียใจอยู่ตรงนั้นจึงไม่ได้มาทันล่ำลากับเขาเป็นครั้งสุดท้าย ใบหน้างามอาบไปด้วยน้ำตาเพราะกับร่างกายที่สั่นเทา เยว่เล่อยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาก่อนที่นางจะลุกขึ้น "ใคร...ใครเป็นคนฆ่าเขา?" เสียงหัวเราะดังขึ้นมาเมื่อถามถึงว่าใครกันที่สามารถล้มแม่ทัพหนิงผู้เกรียงไกรได้ ตามแขนและคอของหนิงหลงมีรอยเชือกแสดงว่าคนพวกนี้คงจะมัดมือมัดแขนของเขาเอาไว้หรืออาจจะมีการใช้ใครสักคนต่อรองเพื่อให้เขาวางอาวุธลง... แล้วยอมจำนน ไม่ว่าใครก็ไม่สำคัญทั้งนั้นเพราะว่าเธอจะฆ่าให้หมด...จะนำเลือดของคนพวกนี้มาล้างเท้าให้หนิงหลงเสียให้หมดทุกคน มีมือมาแตะที่ไหล่ของเยว่เล่อ พอเธอหันกลับไปมองก็พบว่าเป็นอาเหยา "ในใจเกิดความร้อนรุ่มขึ้นมา ข้าคิดเอาไว้แล้วว่าเถ้าแก่เนี้ยจะต้องมีเรื่อง...ถ้าท่านจะจัดการคนพวกนี้ ให้ข้าน้อยเป็นผู้กระทำเถิดนะขอรับ" เพราะเยว่เล่อเป็นเซียน อีกทั้งนางสูญเสียพลังเซียนไปกว่าครึ่ง ทุกๆการใช้พลังของเทพจิ้งจอกอ

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   23.พ่ายแพ้

    หนิงหลงหรี่ตามองนักดนตรีผู้หนึ่งที่กำลังตีกลองอยู่ เขารู้สึกว่าแววตาที่นางมองมาที่เขานั้นมันแตกต่างจากคนอื่นเพราะนางมองมาที่เขาด้วยแววตาที่เจือปนไปด้วยความโกรธ ส่วนนางรำนางอื่นๆต่างมองมาที่เขาด้วยแววตาที่เย้ายวนอ่า..เขาคิดว่าเขาพบเจอภรรยาตัวเองแล้วล่ะนะ"หลิงหยุนวันนี้ข้าพบเจอสตรีที่ทำให้หัวใจเต้นแรงแล้วล่ะสิ...""...มีสตรีใดที่งดงามมากกว่าภรรยาของเจ้าอีกอย่างนั้นหรือ? บ้าไปแล้วหนิงหลง"หนิงหลงยกมือขึ้นเพื่อให้การแสดงหยุด เขาเดินเข้ามาหานักดนตรีสาวที่กำลังนั่งตีกลองอยู่ พร้อมกับยื่นมือไปหานาง"เจ้าบรรเลงเพลงได้ถูกใจข้ายิ่งนัก แน่นอนว่าข้าอยากจะฟังฝีมือในการบรรเลงเพลงของเจ้าให้ชัดเจนกว่านี้..ลุกขึ้นมาเถิด"เยว่เล่อถึงกับหน้าชา นางมิรู้ว่าสามีล่วงรู้ถึงตัวตนของนางหรือว่าเขาเพียงแค่แสดงท่าทางเจ้าชู้ไปเรื่อยแล้วมันบังเอิญที่เขาเลือกนักดนตรีนางนี้...ที่นางปลอมตัวมาเขาเดินจับจูงมือของนางเพื่อจะพาไปด้านนอกกระโจมจัดเลี้ยงเพราะเวลานี้เป็นเวลาดึกมาแล้ว ใจจริงของหนิงหลง เขานั้นอยากจะหาเหตุผลออกไปจากที่นี่อยู่พอดี"ซุกซนเกินไปแล้วภรรยา เจ้าคิดว่าสามีจะจดจำเจ้ามิได้อย่างนั้นหรือ?"เยว่เล่อเม้มปา

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   22.แผนการ

    หนิงหลงกระโดดขึ้นม้า เขาแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นฟางเซียนในขบวน เราจะไปตั้งค่ายกันที่ใกล้สนามรบมากกว่านี้อีกหน่อย ไม่ไกลจากที่นี่มากนักแต่ทว่าเขาไม่เห็นความจำเป็นที่นางจะต้องตามไป"คือว่าข้าสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ ให้ข้าได้ทำประโยชน์เพื่อทหารกล้าทุกนายที่ช่วยเหลือข้าเถอะนะ"ฟางเซียนรีบกล่าวออกมาพร้อมกับส่งยิ้มให้หนิงหลง เพราะเขามองมาที่นางด้วยแววตาที่ไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่นางรู้ฟางเซียนรู้ดีว่าหนิงหลงนั้นเป็นห่วงนาง เขาไม่อยากให้นางไปที่สนามรบเพราะเขาหวาดกลัวว่านางจะเป็นอันตราย ที่เขามองมานั่นก็เพราะว่าเป็นห่วงนางรับรู้ได้จากแววตาที่โมโหของเขา"อย่าทำพลาดเพราะโอกาสมีเพียงครั้งเดียว จำให้มั่นว่าเจ้าจะต้องทำตามแผนที่วางเอาไว้""รู้แล้วน่า ข้ามิใช่คนโง่ไม่ต้องมาสั่ง!"ฟางเซียนกล่าวกับชูชางเสียงต่ำที่พยายามขยับริมฝีปากให้น้อยที่สุดเพราะนางไม่ต้องการให้ผู้อื่นรับรู้ว่านางและแม่ทัพชูรู้จักหรือว่าสนิทกันทุกคนควรจะรับรู้ว่านางและแม่ทัพหนิงต่างหากที่รู้จักและสนิทสนมกันเป็นอย่างดีฟางเซียนยกยิ้มขึ้นมาพร้อมกับเดินตามขบวนทหาร..."นายหญิงก็เห็นใช่หรือไม่ สตรีผู้นั้นไม่น่าวางใจสักนิด เราควรจะตามไ

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   21.ตัดไฟแต่ต้นลม

    ฟางเซียนอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่เลอะเทอะเป็นชุดที่สะอาดเรียบร้อย นางเดินออกมาด้านนอกเพื่อรอทานอาหารพร้อมกันกับพวกทหารมากมายแน่นอนว่านางได้รับความนิยมมากทีเดียวเพราะมีใบหน้าที่งดงาม แถมหนิงหลงยังประกาศว่านางคือลูกสาวของตระกูลฝูอีกด้วย แน่นอนว่าความนิยมยิ่งเพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัวเพราะท่านพ่อนั้นเป็นถึงเสนาบดี "ข้าคิดว่าเรามีเรื่องที่จะต้องคุยกัน"ชูชางนั่งลงตรงข้ามฟางเซียน พร้อมกับมองหน้าเธอด้วยแววตาที่มิได้สนอกสนใจใบหน้านี้เลย...เช่นนั้นบุรุษผู้นี้สนใจสิ่งใดกันล่ะ ถ้ามิใช่สนใจในตัวนาง ถ้าจำไม่ผิดฟางเซียนคิดว่าเธอเห็นเขาเดินตามสตรีชุดแดงมาเมื่อตอนบ่าย เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆเข้าด้วยกัน เธอเริ่มมองเห็นเค้าลางความเป็นไปได้มากขึ้นแล้วชายผู้นี้จะต้องหลงรักว่าที่ภรรยาของหนิงหลงเป็นแน่ฟางเซียนยกยิ้มพร้อมกับเลื่อนจอกสุราไปให้เขา"ความรักนั้นน่าตลก...""สำหรับข้ามันมิได้น่าขำสักนิดเพราะว่าข้านั้นพร้อมจะแลกทุกอย่าง..แน่นอนว่าทุกสิ่งทุกอย่าง"ความงามขนาดนี้ไม่แปลกใจจริงๆที่ชายผู้นั้นจะแสดงออกชัดเจนเช่นนี้ เพียงแต่มันน่าสนใจเพราะว่าเธอเองก็อยากได้หนิงหลง.. เพราะว่าเขาเป็นแม่ทัพ แน่นอนว่าเขาจะ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status