“แล้วพี่เขาจะติดต่อกลับมาหากูไหมว่ะ หรือว่ากูควรทำเป็นติดต่อไปหาพี่เขาดี”
“กูเชื่อเลย มึงมันบ้าอีเทียร์ ชอบเขาแต่ทำเป็นหยิ่งใส่เขา หยุดคีฟลุคคุณหนูสักทีเหอะ เดี๋ยวจะขึ้นคาน” “ปากเสียอีมิล คนนี้แหละที่เหมาะเป็นพ่อของลูกกู”ดวงตากลมโตเหม่อลอยขึ้นไป ในเมื่อตอนนี้เธอเองก็รู้แล้วว่าเขาก็ชอบเธอ คงไม่แปลกใช่ไหมถ้าเธอจะทักไปหาเขาก่อน อาจจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าก็ได้ “เดี๋ยวคืนนี้กูจะทักไปหาพี่เขาก่อน พวกมึงรอดูกูได้เลย”ทั้งมิลลิและปลายฝนส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ “นั่นพวกคาเทียร์นิ นั่งทำอะไรตรงนั้น” คาเตอร์เห็นน้องสาวตัวเองนั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนก็หยุดยืนดูและทักขึ้นมา เขาเดินมาจากคณะกับตะวัน ซึ่งก่อนที่คาเตอร์จะทักขึ้นมานั้น ตะวันเห็นหญิงสาวนั่งอยู่ตรงนั้นนานแล้ว และได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้าไปพูดคุยกับเธอด้วย ก่อนหน้าเขาก็เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้หลายครั้ง อีกทั้งผู้ชายหลายคนก็เคยพูดถึงเธอบ่อย ๆ แต่ทว่าเขากลับไม่รู้สึกอะไร ไม่เหมือนตอนนี้ที่เขารู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ที่เห็นแบบนี้ ไม่รู้ว่าเขากำลังเป็นอะไร ทั้งที่ก่อนหน้าก็ไม่ได้ชอบเธอเสียด้วยซ้ำ เธอเป็นผู้หญิงที่คนละขั้วกับเขาอย่างสิ้นเชิง เรียกว่าเหมือนฟ้ากับเหวเลยก็ว่าได้ ไม่ได้หมายถึงความจน ความรวยนะ แต่หมายถึงการใช้ชีวิตของเราต่างหากที่ต่างกันมากเกินไป “ทำไมมึงทำหน้าแบบนั้น ไอ้ตะวัน” “เปล่า กูร้อน”เขารีบเดินกลับคณะทันทีโดยไม่รอคาเตอร์ที่ยืนทำหน้างงกับการกระทำของเพื่อน ก่อนหน้านี้เราสองคนยังพูดกันดี ๆ แต่อยู่ ๆ มันก็เงียบไปทันทีตอนที่เขากำลังสนใจคาเทียร์น้องสาวของเขา หรือว่ามันจะร้อนจริง ๆ ที่เขาปล่อยให้มันยืนอยู่ตรงนี้ ส่วนตะวันก็รีบเดินไปหลังอาคารเรียนทันที เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ พยายามไล่ความคิดของตัวเองที่กวนใจเขาอยู่ตอนนี้ แค่เรื่องเมื่อวานทำไมเขาถึงมองคาเทียร์แปลกไปจากเดิมได้ขนาดนี้ แล้วเพิ่งเห็นว่าเธอน่ารักแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมในหัวเขาถึงได้มีแต่ภาพเธอไม่หยุด ตกตอนเย็นตะวันเดินมาที่รถของตัวเองที่จอดอยู่ เขาก็ต้องแปลกใจที่เห็นคาเทียร์ยืนอยู่ตรงรถของเขา ผู้หญิงคนนี้มากวนใจเขาอีกแล้ว เมื่อตอนบ่ายเขาเพิ่งสลัดเรื่องของเธอออกไปจากหัวได้ ตอนนี้เธอกลับมาอยู่ในสายตาเขาอีกแล้ว “มีอะไร?” “พอดีอู่ซ่อมรถโทรมา ทำไมพี่ไม่บอกว่าเป็นรถฉันล่ะ รถซ่อมเสร็จแล้วเขาบอกให้พี่ไปเซ็นต์รับรถด้วย” ที่แท้เธอก็มาเพราะเรื่องนี้ หลงคิดไปว่าเธออยากกลับบ้านกับเขาเสียอีก“ก็ไปสิ” “พี่ไม่สะดวกอะไรหรือเปล่า ทำไมทำหน้าแบบนั้น” “รีบขึ้นมา ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ”เมื่อเห็นว่าอารมณ์ของเขาไม่ปกติ เธอก็กระโดดขึ้นรถของเขาทันที เพราะเธอขึ้นมันสองสามครั้งแล้ว ทำให้ท่าทางดูทะมัดทะแมงขึ้นมาก เมื่อเธอขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว ตะวันก็ขับรถออกจากมหาลัยทันที เขาขับอย่างเร็วเพื่อไปให้ถึงร้านซ่อมเร็วที่สุด เมื่อมาถึงเขาก็เซ็นต์รับรถให้เธอก็เตรียมตัวจะกลับทันที แต่ทว่าคนตัวเล็กดึงแขนเขาเอาไว้ มองเขาด้วยสายตาสงสัย “พี่ต้องโทษตัวเองนะ ที่ไม่บอกที่ร้านว่าเป็นรถฉัน เลยต้องเดือดร้อนพี่มาด้วยเลย” คนตัวเล็กคิดว่าที่เขาไม่พอใจเธออยู่ตอนนี้เพราะเรื่องที่เขาต้องลำบากมาเอารถกับเธอ“เพราะงั้นจะมาทำเหมือนไม่พอใจฉันแบบนี้ไม่ได้” “ฉันบอกตอนไหนว่าไม่พอใจเธอเรื่องนี้” “ก็หน้าพี่ไงมันบอก แต่ฉันคงรบกวนพี่ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายค่ะ ขอบคุณแล้วก็ขอโทษนะคะที่ทำให้ลำบากไปด้วย” คาเทียร์พูดยาวเหยียดก่อนจะเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที นึกไม่พอใจเขาที่ทำแบบนั้นกับเธอ ไหนบอกว่าเต็มใจช่วย แล้วทำไมทำหน้าเหมือนเธอไปบังคับอะไรเขาอย่างนั้นแหละ ส่วนตะวันเมื่อเห็นคาเทียร์ขับรถออกไปด้วยท่าทางรีบร้อน ก็รู้สึกผิดขึ้นมาที่เผลอทำหน้าแบบนั้นใส่เธอ เขาควรจะจัดการกับความรู้สึกตัวเองมากกว่าที่จะทำแบบนั้นกับเธอ เธอไม่ได้ผิดอะไรสักนิด มือหนายกขึ้นสะบัดผมตัวเองแรง ๆ หงุดหงิดที่ควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ 21.45น. ห้าหนุ่มมาเที่ยวผับตามที่นัดกันไว้ ที่เหลือเพียงห้าหนุ่มเพราะยีนส์คืนคนที่ขอตัวเพราะติดเมีย ซึ่งเพื่อนทุกคนก็ชินแล้วที่เป็นแบบนี้ “ไอ้โซล มึงเห็นสาว ๆ กลุ่มนั้นไหมว่ะ น่าสนใจทุกคน” สกายพยักเพยิดไปยังสามสาวที่นั่งโต๊ะห่างจากกลุ่มพวกเขาไปประมาณสามโต๊ะ เพราะออร่าความสวยของกลุ่มพวกเธอ ทำให้มีหนุ่มในผับหลายคนจับจ้อง แต่ทว่าทั้งสามสาวกลับหันหน้ามาส่งยิ้มให้กลุ่มของเขา “เออ กูจองคนใส่ชุดสีขาว”มือหนาของโซลยกแก้วขึ้นดื่มด้วยท่าทางปกติ แต่ทว่าสายตาคมของเขาจ้องมองไปยังหญิงสาวที่ว่า ซึ่งเธอก็กำลังจ้องหน้าเขาอยู่เหมือนกัน "แล้วมึงไอ้ตะวันสนใจใคร" ตะวันเงยหน้าขึ้นมองไปยังโต๊ะที่เพื่อนว่า ปกติสาวสวยแบบนั้นเขาไม่เคยพลาดที่จะเข้าไปพูดคุยทำความรู้จัก แต่ทว่าวันนี้เขาแค่อยากมาเมาอย่างเดียวเท่านั้น เลยส่ายหัวบอกเพื่อนไป “อะไรของมึง ผู้หญิงเกาะอกสีดำนั่นสเปกมึงเลยนะ พวกกูอุตส่าห์เหลือไว้ให้”คีรินหรี่ตาจับเพื่อนสนิท เขาสังเกตุมาตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้วว่าอาการมันแปลก ๆ ไป “ทำไมมึงทำหน้าเหมือนไม่อยากมา มีปัญหากับที่บ้านหรือเปล่า” “เปล่า แค่เบื่อ ๆ กูอยากเมาว่ะ” “งั้นถ้ามึงไม่สนใจ กูจองนะไอ้ตะวัน”สกายถามย้ำอีกครั้ง ซึ่งเขาก็พยักหน้ายืนยันว่าไม่สนใจจริง ๆ ทำให้สามหนุ่ม คาเตอร์ สกายและโซล เดินไปหาผู้หญิงโต๊ะนั้นทันที ทั้งโต๊ะเลยเหลือแค่เขากับคีรินสองคน “แม่ง!!! พวกเหี้ยชวนกูมาแล้วก็ทิ้งไปอีกแล้ว มึงว่ามันกลับมาอีกไหมว่ะ” “จากนิสัยของพวกมัน กูว่าไม่กลับ ว่าแต่ทำไมมึงไม่สนใจใครบ้างว่ะ ไม่ต้องห่วงกูนะ กูอยู่คนเดียวได้” คีรินยกแก้วขึ้นดื่ม ปกติเขามาเที่ยวที่แบบนี้ ก็แค่อยากมาปลดปล่อยเท่านั้น ไม่ได้สนใจว่าต้องมาล่าเหยื่อเหมือนเพื่อนสามคนทุกครั้ง“อีกสองเดือนไปฝึกงาน รู้สึกเหงาชิบหาย” “เหงาเหี้ยไร มึงกับกูฝึกที่เดียวกันไอ้คีริน” “อ้าว...ก็ไอ้พวกสี่ตัวนี้มันฝึกที่เดียวกันนี่หว่า” “เออก็จริง ใจโหวง ๆ เหมือนกันนะ ฝึกงานเสร็จเรียนจบ กูก็ต้องกลับบ้านทันที กูต่างหากที่ควรบ่นว่าเหงา” การเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ ตลอดเกือบสี่ปี สำหรับตะวันแล้วเป็นความทรงจำที่ดีมาก เขาได้รู้จักกับกลุ่มเพื่อนที่ช่วยเหลือกันทุกอย่าง แม้จะปากหมาใส่กันไปบ้าง แต่เราหกคนก็สนิทกันชนิดรู้ไส้ รู้พุงกันทุกอย่าง พอต้องถึงวันจากกันจริง ๆ ไม่รู้ว่าเขาจะทำใจได้แค่ไหนที่ต้องห่างกับเพื่อน “ขับรถไม่กี่ชั่วโมงจากที่นี่ไปบ้านมึง กูจะขับไปหาให้มึงเบื่อขี้หน้ากูเลยดีไหม”แก้วเหล้าถูกยกขึ้นมายื่นมาตรงหน้าเขา “มึงสัญญาแล้วนะ”แล้วแก้วของเขาก็ถูกส่งไปชนกับแก้วเหล้าของคีริน ก่อนที่จะยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมด“ซี้ด แน่นมากเลยเมียจ๋า พี่เสียวมากเลยเมีย อ๊าสส” คาเทียร์นอนหลับตาพริ้ม ซึมซับความเสียวซ่านที่กำลังแผ่ขยายไปทั่ว ร่างกายแดงเถือกจากความเสียวซ่าน เสียงความชื้นแฉะตรงที่กำลังเสียดสีกันรุนแรงปลุกอารมณ์เธอได้อย่างดี ขาเรียวอ้าออกกว้าง ยกขึ้นเกี่ยวเอวสอบของเขาเอาไว้ มือเล็กจิกเกร็งตรงแผ่นหลังแน่นของคนเป็นสามี หัวสมองเริ่มขาวโพลนเมื่อความกระสันพุ่งสูงจนถึงขีดสุด คนตัวสูงยังคงกระแทกเข้าออกอยู่แบบนั้นอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย มือหนายกขึ้นบีบเค้นอกอวบที่กวัดแกว่งตามแรงกระแทกไปมา ตั้งแต่มีลูกเต้าอวบของคาเทียร์ก็เหมือนจะใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก บีบเต็มไม้เต็มมือไปหมด “อ๊าส เทียร์ไม่ไหวแล้ว”คนเป็นเมียร้องออกมาก่อนที่จะกระตุกตัวเกร็งปลดปล่อยออกมาเพราะทนความเสียวซ่านไม่ไหว ร่องรักเธอบีบรัดเอ็นร้อนของเขาแทบขาด "ซี้ด~ ตอดพี่แรงมากเลยเมีย"คนตัวสูงส่งเสียงครางกระเส่ารีบเร่งสาวสะโพกรัวเร็วไม่กี่นาทีก็ตามเธอขึ้นสวรรค์ไปติด ๆ “อึก อ๊าสส”น้ำรักขาวขุ่นถูกปลดปล่อยออกมาจากลำรัก ก่อนที่ร่างสูงจะทิ้งตัวลงกอดก่ายกับเมียโดยไม่ได้ถอนแก่นกายออก คาเทียร์นอนหายใจรวยรินเหมือนคนขาดอากาศหายใจ“พี่กระแทกเองแท้ ๆ แต
นิ้วเรียวยาวของสามีหนุ่มสะกิดเมียรักยิก ๆ เมื่อเห็นว่าลูกสาวคนเล็กหลับไปแล้ว“เดี๋ยวพี่อุ้มลูกไปนอนอีกห้อง” ตะวันบอกเสียงเบา พร้อมกับยกลูกสาวคนเล็กเข้าสู่อ้อมกอด นึกภาวนาในใจขอให้คืนนี้ตังเมนอนหลับสนิทจนถึงเช้าด้วยเถิด ท่าทางของคนตัวสูงสร้างความขบขันให้กับคาเทียร์ยิ่งนัก เพราะเขาทำทุกอย่างด้วยความเบามือ คงจะกลัวลูกสาวจะตื่นขึ้นมาร้องไห้งอแงเสียก่อน “ดูพี่จะมุ่งมั่นมากเลยนะคะ”หญิงสาวว่ากระแหนะกระแหนเขา “พี่อยากได้ตังค์หนึ่งพัน”คาเทียร์หลุดขำพรืดออกมาทันที ไม่คิดว่าที่เขาจริงจังเพราะอยากได้เงินหนึ่งพันเหมือนปากว่า คงเพราะอดยากปากแห้งมานานมากกว่า แต่ทว่าเธอต้องคิดผิดเมื่อทิ้งตัวลงนอน ตะวันก็ขึ้นมาทาบทับร่างเล็กของเธอทันที ก่อนจะจ้องหน้าเธอจริงจัง “ตกลงราคากันก่อนนะเมีย ถ้าพี่ทำให้เมียประทับใจต้องทิปพี่หนัก ๆ นะ” “นี่พี่ร้อนเงินหรือไง?” “ตอนนี้เมียพี่รวยกว่าพี่แล้ว แค่หมื่นสองหมื่นคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง”เขาแกล้งว่าเย้า พร้อมกับมือหนาที่สัมผัสเรือนร่างแสนสวยของคนเป็นภรรยา ขนาดว่ามีลูกสองคนแล้ว แต่รูปร่างของเมียเขายังสมบูรณ์แบบเหมือนเดิมทุกอย่าง อีกทั้งยังรู้สึกอวบอิ่ม มีน้ำมีนวลกว่าเดิมด
เป็นการขับรถมาเที่ยวทั้งครอบครัวเป็นครั้งแรก ยอมรับว่าไม่ค่อยได้พาคาเทียร์ไปเที่ยวที่ไหนหลังจากแต่งงานกัน เพราะพอแต่งงานได้ไม่กี่เดือนเธอก็ท้องไต้ฝุ่นและแพ้ท้องอย่างหนัก พอแพ้ไปได้ประมาณสี่เดือนคาเทียร์ก็หายแพ้ แล้วกลายเป็นเขาแทนที่แพ้ต่อจากเธอ ทำให้ช่วงนั้นต้องให้คนเป็นพ่อเข้าไปทำงานแทนเขาทุกวัน กว่าเขาจะอาการดีขึ้น ก็ตอนที่คาเทียร์เกือบคลอดแล้ว “พี่จองที่พักแล้วเหรอคะ” “จองแล้ว ลองเปิดดูในโทรศัพท์สิ ว่าชอบหรือเปล่า” คาเทียร์หยิบโทรศัพท์เขาขึ้นมาเปิดดู ดวงตาคู่สวยก็เบิกโพลงทันที เพราะเป็นที่พักที่เธอเคยให้เขาดูว่าอยากไปพักที่นี่ แล้วเขาก็ไม่เคยลืมเลย เธอเลยต้องให้รางวัลเขาด้วยการหอมแก้มเอาใจเขาสักหน่อย ส่วนลูกลิงสองตัวที่ไม่ได้เห็นฉากสวีทของพ่อกับแม่เพราะกำลังหลับอยู่คาร์ซีทด้านหลังทั้งสองคน แต่ถึงลูกจะอยู่เธอก็ชอบแสดงความรักกับตะวันอยู่แล้ว เพราะอยากให้ลูกรู้ว่าพ่อกับแม่รักกันแค่ไหน “เทียร์รักพี่”นั่นไง...เมียเขาถ้าทำอะไรถูกใจ คำบอกรักแบบนี้ วันนี้ทั้งวันเขาจะได้ยินจนเอียนไปเลย “เมื่อเช้ายังโกรธพี่อยู่เลย พอมาเที่ยวเท่านั้นแหละ มีความสำคัญเฉย” “ไม่จริงค่ะ พี่มีความสำคัญกับเท
“พี่ตะวัน พี่ตะวัน”เสียงเรียกของคาเทียร์ดังออกมาจากในครัว ตอนนี้เธอกำลังเตรียมอาหารเช้าให้กับลูกทั้งสองคนก่อนไปโรงเรียนและคนเป็นสามีที่จะเข้าไปในไร่หลังจากไปส่งลูกที่โรงเรียน “อะไรคาเทียร์” “พี่มัวทำอะไรอยู่ ไปช่วยลูกแต่งตัวหน่อยสิ วันนี้เทียร์ตื่นสายทำไม่ทันเลยค่ะ” “แม่ช่วยอยู่ เดี๋ยวพี่ช่วยเทียร์ดีกว่า”แม่ที่ตะวันเรียกก็คือแม่สามีของเธอ ตอนนี้เธอและตะวันแต่งงานกันมาหกปีแล้ว มีลูกด้วยกันสองคน เป็นลูกชายคนโตชื่อไต้ฝุ่นอายุห้าขวบ ส่วนลูกสาวคนเล็กชื่อตังเมอายุสามขวบ และใช่เธอทำหมันทันทีหลังคลอดตังเม เพราะตะวันเป็นคนบอกหมอให้ทำ ถึงจะเป็นการผ่าคลอดแต่เธอก็เจ็บแผลมาก หลังออกจากโรงพยาบาลเธอแทบจะกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงเพราะขยับตัวไม่ได้ นอนร้องไห้หาแม่ทุกวัน ตะวันต้องโทรให้แม่ของเธอมาอยู่เป็นเพื่อนจนแผลเธอดีขึ้น เป็นแบบนี้ทั้งสองท้อง จนตะวันต้องบอกหมอว่าให้ทำหมันเธอทันที เพราะเขาสงสารแม่ยายที่ต้องมาเฝ้าลูกสาวจนไม่ได้ทำอะไร “วันนี้พี่ต้องเข้าไปในเมืองนะ น่าจะกลับเย็น ๆ” “เมื่อวานพี่ก็เพิ่งไป ยังไม่เสร็จอีกเหรอคะ”คาเทียร์เริ่มมีอาการที่ทุกคนรู้กันคืออาการหึงหวงผัวจนเกินเหตุ ทุกวันนี้ตะวั
งานหมั้นระหว่างตะวันกับคาเทียร์ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย มีเพียงญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายและเพื่อนสนิทของทั้งคู่เท่านั้นที่มาร่วมงาน โดยคิณและขวัญตาบอกว่าเอาไว้ค่อยจัดงานแต่งงานให้ยิ่งใหญ่ทีเดียว ตอนนี้พิธีการก็ถึงตอนที่ทั้งคู่สวมแหวนให้กัน โดยตะวันสวมแหวนให้เจ้าสาวเสร็จแล้ว คาเทียร์ก็ก้มลงกราบบนตักตะวันทันที เป็นภาพที่ทำให้เพื่อนฝั่งฝ่ายชายส่งเสียงโห่ร้องออกมา “สวมแหวนให้พี่เขาสิลูก”ขวัญตานั่งคอยกำกับพิธีการทุกอย่างให้ทั้งตะวันและคาเทียร์รู้ เมื่อขวัญตาสวมแหวนให้ตะวันเสร็จแล้ว ชายหนุ่มก็ทำท่าจะก้มกราบลงบนตักคาเทียร์ จนขวัญตาต้องห้ามเอาไว้ “ผู้ชายไม่ต้องกราบ”ขวัญตากลั้นขำแทบไม่อยู่ อีกทั้งเพื่อนทั้งสองฝ่ายก็พากันหัวเราะออกมาทันทีอย่างชอบใจ รวมถึงตัวคาเทียร์ด้วย เมื่อสวมแหวนกันเสร็จ ทั้งคู่ก็คลานเข่าเข้าไปขอพรผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย โดยเริ่มจากฝ่ายตะวันก่อน “นี่แค่เริ่มต้นนะ แม่อยากให้ลูกทั้งสองคนประคับประคองความรักกันไปนาน ๆ นะ จนถึงวันที่ได้แต่งงานกัน”จินตนาอวยพรทั้งคู่น้ำตาก็ผุดซึมออกมา ไม่คิดว่าลูกชายของเธอจะโตขนาดนี้แล้ว “พ่อยินดีต้อนรับหนูนะ ขอให้มีความสุขมาก ๆ”วิบูลย์พ่อของตะวันอ
คาเทียร์กลับคอนโดทันทีหลังจากจัดการเรื่องพลอยเสร็จ เธอโทรบอกพี่ชายให้จัดการทุกอย่างให้และคิดว่าตอนนี้ตะวันก็น่าจะรู้เรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน เธอคิดว่าตัวเองไม่ได้ใจร้ายแต่ต้องทำเพื่อรักษาศักดิ์ศรีและความปลอดภัยของตัวเอง ถึงแม้ตอนนี้เธอจะกลับมาคิดว่าเธอเป็นต้นเหตุของเรื่องพวกนี้หรือเปล่า... “อยู่คนเดียวมืด ๆ ทำไมไม่เปิดไฟ” ตะวันหลังจากรู้เรื่องนี้ ก็รีบกลับมาทันที เขารู้ว่าแม้ภายนอกคาเทียร์จะดูเหมือนเข้มแข็ง แต่ที่จริงแล้วเธออ่อนแอมาก และก็คิดไม่ผิด เมื่อกลับมาถึงแล้วเห็นหญิงสาวนอนร้องไห้อยู่ในห้องนอน “ไม่ต้องร้องนะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว” “ฮึก ฮึก เทียร์ทำผิดอะไร ทำไมเพื่อนต้องทำแบบนั้นกับเทียร์ด้วย”มือหนาของตะวันลูบหัวปลอบใจเธออย่างเอ็นดู เขาเข้าใจเธอทุกอย่าง และเข้าใจสิ่งที่เธอเป็นมาตลอด คาเทียร์ไม่ได้ผิด เขาไม่เคยเห็นเธอให้ความหวังใคร อันที่จริงเธอไม่สมควรเจอเรื่องแบบนี้ด้วยซ้ำ “เทียร์ไม่ผิด คนทำต่างหากที่ผิด ไม่ต้องโทษตัวเองนะ” “ฮึก ฮึก ฮือ พะ พี่เคยเกลียดเทียร์หรือเปล่า”ชายหนุ่มยกตัวเธอขึ้นมา เอานิ้วเรียวปาดน้ำตาที่ไหลไม่หยุดตรงดวงตาคู่สวย เขาไม่ชอบเวลาเห็นเธอร้องไห้เลย มันทำให้