“พิมพ์ว่าอะไรน่ะ ใครท้อง” นิษฐาที่เดินเข้ามาได้ยินที่ป้าหลานพูดกันพอดี จึงได้ถามขึ้นเสียงดังเพราะความอยากรู้อยากได้ยินคำตอบอย่างแน่ชัด
“ก็...” พิมพาได้แต่อ้ำอึ้ง ไม่กล้าที่พูดออกมา ได้แต่ก้มหน้าลงอย่างสลด
“ตามฉันมาที่ห้องรับแขกกันทุกคนเลย ลัดดา โทรตามหมอณัฐให้เข้ามาที่บ้านเดี๋ยวนี้ด้วย” นิษฐาจึงตัดบทขึ้นมา พร้อมกับเอ่ยสั่งสาวใช้คนสนิทออกไป
นายแพทย์ณัฐพงษ์ เรืองพาณิชยากุล สูตินารีแพทย์แห่งโรงพยาบาลเอกชนดัง และยังเป็นแพทย์ประจำกูล แถมยังเป็นน้องชายแท้ๆของ พัฒน์พงษ์ อีกด้วย
ชายหุ่นสูงโปร่งสวมเสื้อกราวนด์ขาว อายุราว 40 ปี เดินถืออุปกรณ์และกระเป๋าเครื่องมือแพทย์ กำลังจะออกจากบ้าน เพราะได้เข้ามาตรวจหญิงสาวตามคำสั่งของพี่สะใภ้อย่างนิษฐา
“เจ้าณัฐ ใครเป็นอะไรหรือ ถึงมาที่นี่ได้” พัฒน์พงษ์ถามน้องชายขึ้นทันที ที่เจอกันหน้าประตูทางเข้าบ้าน เพราะพึ่งจะกลับมาจากทำงานที่บริษัทพอดี
“คือว่า...” ณัฐพงษ์อ้ำอึ้งไม่กล้าตอบพี่ชายทันที เพราะพี่สะใภ้ห้ามไม่ให้บอก
“อะไร” พัฒน์พงษ์จ้องมองไปที่น้องชายทันที
“คุณนิษให้มาตรวจหนูหริ่งที่นี่ครับ ว่าท้องหรือเปล่า” ณัฐพงษ์เมื่อไม่อาจปิดบังพี่ชายได้ จึงพูดความจริงออกมาทันที
“อะไรน่ะ...แล้วผลสรุปว่ายังไง” พัฒน์พงษ์ที่ได้ยินตอนแรก ตกใจนิ่งไปสักพัก เมื่อรวบรวมสติได้จึงถามต่อทันที เพื่ออยากรู้คำตอบที่แน่ชัด
“หนูหริ่งตั้งครรภ์ได้ 8 สัปดาห์ หรือประมาน 2 เดือนได้แล้วครับ” ณัฐพงษ์พูดมาตามที่ได้ตรวจพีรดาไปเมื่อสักครู่ และคาดการตามความเป็นไปได้ของประจำเดือนขาด เพราะว่าเครื่องมือที่นำมาตรวจไม่ครบ
“อืม ขอบใจมาก” พัฒน์พงษ์พยักหน้านิ่งรับ
“ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัวก่อนน่ะครับ” ณัฐพงษ์เมื่อได้บอกความจริงกับพี่ชายออกไปแล้ว จึงขอตัวกลับออกไปทันที เพราะมีงานต่อ
“ตาพีทกลับมายัง” เสียงเข้มพูดขึ้นมาทันที ที่เดินเข้ามาถึงห้องรับแขก และนั่งลงยังโซฟตัวยาวประจำตำแหน่งของเขาทันที
“โน้นค่ะ คุณพีทมาพอดีเลย” ลัดดาตอบออกมาเพราะสายตาหันไปเจอกับรถของลูกชายคนเล็กของบ้านเลี้ยวเข้ามาพอดี
สามพี่น้องที่กลับมาถึงบ้านพร้อมกัน เดินเข้ามาภายในบ้าน ก็ต้องมองหน้ากันอย่างงุนงง เมื่อห้องรับแขก มีพ่อนั่งอยู่ตรงกลาง แล้วมีทุกคนในบ้าน ทั้งแม่บ้านและคนสวนอยู่กันครบ ในใจคิดเพียงแค่ว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ จึงตัดสินใจถามขึ้น
“มีอะไรกันอีกหรือครับ ทุกคนอยู่พร้อมหน้ากันเชียว” พจีพัฒน์ถามขึ้นทันที
“นั่งลง” เสียงเข้มของผู้เป็นพ่อพูดสั่งขึ้นมา
“มีอะไรกันค่ะคุณแม่” พจีกานต์จึงหันไปถามทางนิษฐา ที่นั่งนิ่งไม่กล้าพูดอะไร
“เอาล่ะ ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้น จนบานปลายมาขนาดนี้แล้ว พ่อจะให้ตาพีทแต่งงานกับหนูหริ่งให้เร็วที่สุด” พัฒน์พงษ์พูดขึ้น พร้อมกับเข้าประเด็นของเรื่องทันที
“อะไรน่ะ” ลูกทั้งสามต่างตกใจ พูดเป็นเสียงเดียวกันขึ้นมาทันที
“แต่งงาน นี้มันเรื่องบ้าอะไรกันอีกครับ" พจีพัฒน์ถามขึ้นมาทันที อย่างไม่เข้าใจ ในเมื่อเรื่องมันผ่านมาแล้ว ทำไมพ่อต้องให้แต่งงานอีก
“เพื่อรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นมายังไงล่ะ” พัฒน์พงษ์พูดขึ้นมา พร้อมกับสายตาที่มองไปยังพีรดา
“รับผิดชอบอะไรกันครับ แล้วผมก็ไม่ได้รักยัยเปียนี้ด้วย” พจีพัฒน์ถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ ในสิ่งที่พ่อกำลังทำอยู่ตอนนี้
“หนูหริ่งท้อง” พัฒน์พงษ์ตอบไปเพียงสั้นๆ แต่ได้ความหมาย และคำตอบอย่างชัดเจน
“ห๊า...ท้อง” ทั้งสามพี่น้องต่างต้องตกใจพร้อมกันอีกครั้ง
“ใช่..หมอพึ่งจะกลับออกไปเมื่อกี้นี้เอง” พัฒน์พงษ์พูดขึ้น เพื่อยืนยันอีกที
“แล้วเธอไม่ได้ป้องกันเหรอยัยเปีย” พจีพัฒน์จึงหันไปถามเอาความจริงจากพีรดาทันที
“...พีท เราเป็นต้นเหตุนะ พูดอะไรออกมาช่วยให้เกียรติแม่ของลูกบ้าง อย่างน้อยๆก็เห็นแก่ลูกของแกที่กำลังจะเกิดมาลืมตาดูโลกในอีกไม่ช้านี้แล้ว” พงศกร พูดสวนน้องชายขึ้นมาทันที พร้อมกับพร่ำสอนออกไปเพียงเล็กน้อย
“จะป้องกันอะไรล่ะ ก็คงจะอยากจับลูกชายฉันจนตัวสั่น ถึงกล้าปล่อยให้ตัวเองท้องขึ้นมาได้” นิษฐาที่ทนไม่ไหวพูดขึ้นมาอย่างดูแคลนหญิงสาวทันที
“คุณเงียบก่อน ว่ายังไงหนูหริ่ง หลังจากที่เกิดเรื่องวันนั้น หนูไม่ได้ทานยาป้องกันหรือ บอกลุงมาตามตรง ลุงไม่ได้จะลงโทษหรือทำอะไรหนูกับลูกทั้งนั้นแหล่ะ” พัฒน์พงษ์สั่งห้ามไม่ให้ภรรยาพูด แล้วหันมาถามพีรดาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
“คือ...ว่า” พีรดาได้แต่อ้ำอึ้งพร้อมกับมองไปที่นิษฐา
“อะไร พูดออกมาสิ” นิษฐาเมื่อรู้ว่าพีรดามองมาที่เธอ ก็ตวาดเสียงใส่ทันที
“หนูทานไปเม็ดแรกตั้งแต่ที่ออกไปซื้อมาตั้งแต่สายของวันนั้นแล้วค่ะ แต่อีกหนึ่งเม็ด...” พีรดาพูดออกไปตามจริง แต่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น กลับมองหน้าของนิษฐานิ่ง ไม่ได้พูดต่อ
“อะไร...มองหน้าฉันทำไม” นิษฐาพูดออกมาอย่างสงสัย เมื่อพีรดาเอาแต่มองมาที่เธอ
“หนูจะทานเม็ดสองช่วงดึก พอดีน้ำที่ห้องหมดเลยถือยาออกมา หวังจะทานที่ตึกใหญ่ แต่คุณนายมาเห็นเข้า คิดว่าหนูกำลังจะทำอะไร เลยเอายาที่หนูถือมาด้วยไปทิ้งค่ะ เลยไม่ทานเม็ดที่สอง” พีรดารวบรวมความกล้าขึ้นมาอีกครั้ง พูดความจริงออกมาจนหมด
“หึ...เป็นยังไงล่ะแผนการของคุณ วุ่นวายใหญ่โตพอไหมล่ะคราวนี้” พัฒน์พงษ์เค้นหัวเราะ พร้อมกับมองไปที่ภรรยาของเขาแล้วต่อว่าทันที
“ท้องก็ไปเอาออกสิ ในเมื่อเธอก็ยังเด็กอยู่ งานการก็ยังไม่มีทำ จะมีปัญญาที่ไหนเลี้ยง” นิษฐาพูดออกมาอย่างไม่รู้สึกสลดใจอะไร
“หยุดคิดอะไรแบบนั้นเลยนะ นิษ คุณเป็นแม่คน ลูกตั้งสามคนแล้วน่ะ แล้วเรื่องวุ่นๆทั้งหมดนี้ อย่าคิดน่ะว่าผมไม่รู้ว่าเป็นแผนการของคุณที่ต้องการหนูนัชชามาเป็นลูกสะใภ้ โดยการวางยาลูก แต่หนูหริ่งดันมาพลาดท่าเสียแทน ผลเลยตกมาที่เด็กเข้า ลูกยังเด็กกันอยู่เลยคุณคิดเรื่องพวกนี้ได้ยังไงกัน คุณนิษ” พัฒน์พงษ์ต่อว่าภรรยาขึ้นมาทันทีอย่างเหลืออด เพราะไม่คิดว่าเธอจะมีความคิดอะไรแบบนี้
“นี้คุณแม่ทำอะไรลงไปครับ พวกเราพึ่งจะอายุ 18 กันเองนะครับ ความพร้อมความรับผิดชอบยังไม่มีด้วยซ้ำ แล้วอีกอย่างผมก็เคยบอกแล้วยังไง ว่าไม่ได้รักนัชชา” พจีพัฒน์จึงหันมาต่อว่าแม่บ้าง ที่ทำอะไรลงไปโดยสิ้นคิดแบบนี้
“แล้วลูกจะยอมแต่งงานกับนังหริ่ง ตามคำสั่งของพ่ออย่างนั้นหรือ” นิษฐาจึงหันไปถามลูกชาย
สารภาพรัก“หรีดหริ่ง...มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียว ข้างนอกมีแต่กลิ่นบุหรี่ทั้งนั้นเลยน่ะ” ชนาภัทรที่ตามพีรดาออกมาจนถึง ถามขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวมานั่งลงข้างๆกับรถของพจีพัฒน์“ภัทร...มีอะไรเหรอ?” พีรดาถามขึ้น เมื่อเห็นว่าเสียงร่างสูงนั้นเป็นใคร แล้วลุกขึ้นยืนทันที“ฟู่ว์...เอาตรงๆเลยนะ เราชอบหริ่งน่ะ มาเป็นแฟนกับเราได้ไหม” ชนาภัทรเป่าลมออกทางทันที เพื่อรวบรวมความกล้าที่จะพูดออกมา“ภัทร” หญิงสาวทำตัวไม่ถูกขึ้นมา หันหน้ามองไปมาทางอื่น เพราะไม่คิดว่าชนาภัทรจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา“เดิมทีเราให้ไอ้พีทมันช่วย เพราะเห็นว่าหริ่งกับมันสนิทกัน แถมอยู่บ้านหลังเดียวกันอีก แต่มันไม่ยอมทำอะไรเลย แม้แต่เบอร์โทร ที่เราเคยขอเบอร์หริ่งไปกับมันตั้งนานแล้ว แต่มันก็ไม่ยอมให้อ้างเหตุผลตลอด วันนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี และตรงกับวันเกิดเราด้วย เราเลยอยากจะขอโอกาสกับหริ่งดูสักครั้ง” ชนาภัทรร่ายยาวออกมาอธิบายถึงถึงความในใจของเขา ที่มีต่อหญิงสาวอย่างจริงใจ“ภัทร...เราบอกตรงๆน่ะ เราไม่อยากให้ภัทรหรือใครมาเสียเวลากับเราเลย...” พีรดาพูดออกมาตามตรง เพราะตอนนี้ชีวิตเธอไม่ได้ตัวคนเดียว“หริ่งยังไม่ต้องตอบ หรือปฏิเสธเราตอนน
พ่อสื่อ(รัก)ทุกคนยังคงนั่งดื่ม และคุยกันอย่างเพลิดเพลิน บางคนก็ลุกขึ้นไปโยกเต้นบ้าง เพราะนานๆที ที่จะได้ออกมาปลดปล่อยแบบนี้ และก็มารวมตัวกันต่ออยู่ที่เดิม จวบจนถึงเวลเดินทางมาถึงเกือบเที่ยงคืน“เวลานี้ เรามาฉลองกันน่ะภัทร ไม่ใช่เวลามาถามแต่เรื่องเรียนกัน อยู่ข้างนอกเราไม่คุยเรื่องเรียนกันน่ะ เข้าใจนะทุกคน” อารยาขัดขึ้นมาเสียก่อน เมื่อชนาภัทรเอาแต่พูดเรื่องเกี่ยวกับแต่การเรียน และสังเกตุเห็นท่าทีอ้ำอึ้งของพีรดาที่ลำบากใจด้วย“ใช่แล้ว หนึ่งพูดถูก สุขสันต์วันเกิดกับเพื่อนทั้งสองด้วยน่ะ มีความสุขมากๆน่ะสุดหล่อทั้งสองของฉัน” เอกณัฐเอ่ยชมเพื่อนสาวทันที แล้วหันไปทางเจ้าของวันเกิดทั้งสอง“ขอโทษด้วยน่ะทุกคน เต็มที่ได้เลยไม่ต้องเกรงใจ คืนนี้เรากับไอ้พีทเป็นเจ้าภาพเอง” ชนาภัทรพูดขึ้นมา พร้อมกับชูแก้วเครื่องดื่มขึ้นด้านณิชาที่แอบมาตามหลัง เพราะพึ่งทราบว่าวันนี้เป็นวันเกิดของพจีพัฒน์ และทราบว่าทุกคนฉลองกันที่ไหน จึงรีบตามมา ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครเชิญมาก็ตามเมื่อทุกคนต่างกินดื่มกันอย่างสนุกสนาน แต่เจ้าของวันเกิดกลับไม่ยอมดื่ม เอาแต่สั่งการกัน เพราะวันนี้เป็นวันที่ชนาภัทรทวงคำตอบจากพจีพัฒน์ ที่เคยให
For Youตกเย็นร่างบางอันเปลือยเปล่ายังคงหลับสนิทอยู่แนบอกแกร่งของร่างสูง โทรศัพท์มือถือของเธอและเขาดังขึ้นมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ร่างสูงไม่กล้ารับ เพราะเป็นเพื่อนๆที่โทรฯมา คงจะโทรฯมาถามว่าทำไมพวกเขาถึงไม่เข้าเรียนละสิสายตาคมจ้องมองสำรวจใบหน้าหวานที่หลับสนิทอยู่แนบอกอย่างพิจารณา เพราะนี้ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้สำรวจทุกรูขุมขนบนใบหน้าของเธอเป็นครั้งแรก มือสากลูบแก้มนวลเบาๆ พร้อมกับสายตาที่สื่อถึงความห่วงใยออกมาอย่างเห็นได้ชัดและเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ ร่างสูงดึงลิ้นชักที่หัวเตียงออกมา พร้อมกับหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงสดไม่ใหญ่มากออกมา ซึ่งภายในประกอบไปด้วย สร้อยข้อมือที่ผลิตจากทองคำขาวที่เขาสั่งทำเป็นพิเศษ มีจี้ประดับตกแต่ง ซึ่งมีตัวอักษรภาษาอังกฤษในจี้ระบุว่า ‘For you’ ซึ่งเป็นชื่อเล่นของลูกชายของเขาและเธอนั้นเอง มือหนาหยิบขึ้นมามองสำรวจอีกที แล้วจึงบรรจงสวมให้แก่ข้อมือด้านซ้ายของร่างบาง โดยที่เธอยังคงหลับสนิท ไม่รับรู้อะไรเลย“อื้อพีท...” เสียงอู้อี้ดังออกมาจากร่างบาง เมื่อถูกรบกวนการนอน“อื้ม...คิดว่าเป็นใครล่ะ” เสียงนุ่มตอบรับกลับไป แล้วถามร่างบางตรงหน้าที่ยังนอนแนบอยู่กับอกแกร่ง“
บทลงโทษ NCคอนโดฯหรูกลางเมืองกรุงเมื่อลากหญิงสาวออกมาจากมหาวิทยาลัยได้แล้ว พจีพัฒน์ขับรถตรงมายังคอนโดหรูสูงเสียดฟ้าของพวกเขาทันที เพราะไม่รู้ว่าจะพาหญิงสาวไปที่ใด เพราะทั้งคู่ก็ยังสวมใส่ชุดนักศึกษากันทั้งคู่“พากลับมาที่คอนโดฯทำไม” หญิงสาวถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ เมื่อร่างสูงพาเธอกลับมาที่คอนโดฯคืน แทนที่จะพาไปที่อื่น“แล้วจะให้ไปไหนละ...ชุดก็ยังเป็นชุดนักศึกษาอยู่” ร่างสูงเปิดประตูเข้ามาตามหลังร่างบาง แล้วพูดขึ้นพร้อมกับเปลี่ยนรองเท้า“...” หญิงสาวไม่เอ่ยตอบกลับมา เอาแต่เดินไปทางห้องของเธออย่างเบื่อหน่ายร่างสูงรีบก้าวเท้ายาวตามหญิงสาวไปอย่างเร่งรีบ แล้วเอาตัวเขามาขวางทางหญิงสาวเอาไว้ทันที ไม่ให้เธอได้เข้าห้องของตัวเอง แล้วจับแขนเธอไว้“เดี๋ยว...ใครอนุญาตให้เข้าห้องนี้” พร้อมกลับถามขึ้น“อ้าว...ก็นี้มันห้องหริ่งนะ ว้ายยยย” ร่างบางไม่ทันที่จะได้ถามอะไรให้มากความ ก็ต้องร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อร่างสูงอุ้มเธอขึ้นมาในท่าเจ้าสาวโดยไม่พูดอะไร“จะ จะทำอะไร” หญิงสาวถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ติดขัดอยู่ในลำคอ“ทำโทษ...” เสียงเข้มตอบกลับเพียงแค่สั้นๆพจีพัฒน์อุ้มหญิงสาวเดินไปทางห้องนอนของเขาต่อทันที โ
ออกอาการหึงทั้งคู่นั่งทานอยู่ที่ห้องจนเสร็จเป็นที่เรียบร้อย แล้ว พีรดาก็ไม่ลืมที่จะทานยาที่ร่างสูงออกไปซื้อมาให้ อย่างเลี่ยงไม่ได้เพราะเธอไม่อยากจะท้องตอนนี้อีก“ต่อไปพีทจะป้องกันเอง หริ่งหริ่งจะได้ไม่ต้องกินยา” เสียงเอ่ยบอกเมื่อช่วยเธอทำความสะอาดเก็บของเข้าที่เดิมทีพจีพัฒน์ไม่เคยทำอะไรพวกนี้มาก่อน เพราะการที่ได้เป็นลูกชายคนเล็กของบ้าน ชายหนุ่มแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย อยากได้อะไรต้องการอะไร ทุกคนในบ้านพร้อมจะประเคนถวายให้ทุกอย่าง ข้อเสียคือนิสัยที่เอาแต่ใจตัวเอง ทำอะไรไม่เป็นเลยนอกจากที่มีหน้าที่เรียนอย่างเดียว ส่วนข้อดีของเขาก็คือเชื่อฟังพ่อแม่แต่นิสัยที่เอาแต่ใจตัวเอง ชอบให้คนอื่นตามใจ ก็เริ่มถอดถอยเมื่อได้ใช้ชีวิตกับหญิงสาว เมื่อก่อนอะไรที่ทำไม่เป็นก็จะไม่ยอมทำ แต่ทุกวันนี้เริ่มเปลี่ยนแปลง เรียนรู้จากหญิงสาวมาบ้างแล้ว“พีท พีทเอาใจใส่หริ่งแบบนี้ มันทำให้หริ่งลำบากใจนะรู้ไหม” หญิงสาวพูดขึ้นมา เมื่อเห็นว่าร่างคอยเอาใจใส่ดูแลเธอดีกว่าเมื่อก่อนมาก“ลำบากใจอะไร พีทก็ทำหน้าที่ของพีทตรงนี้อยู่ไงไม่ดีเหรอ เป็นพ่อให้ฟอร์ยู และเป็นสามีให้กับหริ่งหริ่งยังไงล่ะ” ร่างสูงหยุดทุกการกระทำแล้วหันมา
ดูแลเอาใจใส่ทางด้านของพีรดาเองที่พาลูกชายขึ้นมานอนอยู่บนห้องของเธอ ใช้เวลาไม่เพียงไม่นานนักลูกชายของเธอก็หลับ หญิงสาวเลยมานั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้าต่างทอดสายตามองออกไปยังด้านนอก เห็นรถที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี เลี้ยวเข้ามาภายในบ้านพจีพัฒน์ที่ออกไปซื้อของข้างนอกมากลับมา ถือถุงพะรุงพะรังเต็มไม้เต็มมือไปหมด เดินเข้ามาภายในบ้าน พิมพาจะเข้าไปช่วยถือก็ไม่ยอมให้ช่วย แล้วเดินขึ้นมาหาหญิงสาวที่อยู่ภายในห้องของเธอกับลูกชายทันทีร่างสูงเปิดประตูเข้ามาภายในห้องของหญิงสาวอย่างเงียบๆ กลับต้องพบกับความเงียบ มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงาน สายตาคมมองไปยังลูกชายตัวน้อยของเขาที่นอนหลับปุ๋ยอยู่บนฟูนุ่มบนที่นอนกว้างนั้น แต่กลับไม่พบหญิงสาวแม่ของลูกชายเขาเลย สายตาคมกวาดมองไปรอบๆห้อง แล้วสายตามองไปเห็นร่างบางนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงหน้าต่างจึงเดินเอาของที่ซื้อมาไปวางไว้ที่โต๊ะ แล้วเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่นั่งเหม่ออยู่ที่ริมหน้าต่างของห้องทันที“มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้...เงียบๆ” เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นเบาๆที่ข้างหูของหญิงสาว“พะ พีท...” หญิงสาวสะดุ้งตื่นจากภวังค์ทันที แล้วหันไปตามเสียงนั้น ทำให้ปลายจมูกชนเข้าก