แชร์

ตอนที่5.

ผู้เขียน: ไห่ถาง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-03 08:05:17

ภายใต้สายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างมิขาดสาย จากชายชาวบ้านธรรมดาในคราแรก บัดนี้ ร่างกายกำยำได้เผยให้เห็นเมื่อถูกสายฝนกระทบร่างจนเปียกโชก เชือกที่ผูกรั้งชุดถูกคลายออกอย่างอ้อยอิ่ง เหมือนเขามิได้เร่งรีบกับการรับมือต้วนลี่เลยสักนิดเดียว เจี่ยเต๋าทำเพียงคอยหลบหลีกเท่านั้นเองโดยยังไม่คิดที่จะตอบโต้อีกฝ่าย

“เจ้าคิดจะดูถูกข้าเช่นนั้นรึ หึ ๆ เด็กแรกเกิดเช่นเจ้าอย่าหมายจะตีเสมอข้าจะดีกว่า”

“ฮา ๆ ท่านลุง ยังดีที่ข้าเป็นเพียงเด็กแรกเกิด ยังมีโอกาสเติบโต ทว่าช่างต่างกับท่านนัก ที่ใกล้ลงหลุมในเร็ววันแต่มิเจียมสังขาร”

“ปากกล้านัก ตายซะเถอะ”

“ข้าพร้อมส่งท่านลุงลงหลุมแล้วเช่นกัน หึ ๆ”

ขวับ!

เสียงเชือกแหวกสายฝนเข้าปะทะร่างของต้วนลี่

“อึก!”

ร่างสูงของต้วนลี่ที่ดูจะแข็งแกร่งกว่าที่ทุกคนเห็นถึงกับเซถอยหลังไปไกลหลายก้าว ทั้งที่เขาถูกเพียงปลายเชือกเท่านั้นแท้ ๆ

‘ไยถึงมีพลังมหาศาลได้ถึงเพียงนี้กัน’

ต้วนลี่ทำได้เพียงเก็บงำความคิดเอาไว้ในใจ เขาผ่านการสังหารผู้คนมามิน้อย ฝีมือของเจี่ยเต๋ามิได้ทำให้เขากลายเป็นผู้พ่ายได้แน่นอน

การต่อสู้ท่ามกลางสายฝนเป็นไปอย่างดุเดือด ทว่ากลับมิได้ทำให้หญิงสาวซึ่งกำลังเข้าสู่ห้วงการหลับใหลอย่างอี้เหมยรู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจเลยสักนิด แต่มันกลับเป็นการหลับใหลที่ดูจะมีความสุขมากกว่าทุก ๆ คืนตลอดการเดินทางที่ผ่านมาเสียอีก

รอยยิ้มละมุนคลี่ออกเบา ๆ ก่อนร่างงามจะขยับตัวให้สบายที่สุดภายใต้ผ้าห่ม เพื่อการนอนที่รอเวลาตื่นขึ้นมาพบกับความสำเร็จในตอนเช้า

‘หวังว่าพวกนั้นจะทำให้ท่านเยว่คังสยบแก่ข้าได้สำเร็จ หึ ๆ ต่อให้ท่านเป็นเพียงบุรุษพิการ แต่หากท่านเป็นของข้าแต่ผู้เดียว เรื่องแค่นั้น ข้า

อี้เหมยมิถือสา’

ด้านที่พักของหรู่อี้และผู้ติดตาม

เคล้ง!

กระบี่ยาวถูกยกขึ้นกันการจู่โจมได้ทันก่อนจะถึงตัว พร้อมการโต้กลับอย่างรวดเร็วของคนที่ถูกจู่โจม ส่วนคนที่เหลือต่างคว้าอาวุธข้างกายลุกขึ้น ฝ่าสายฝนออกไปประจันหน้ากับผู้บุกรุกยามค่ำคืน ไม่เว้นแม้แต่หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียว

หรู่อี้ยืนนิ่งไร้ความตื่นตกใจ กระบี่คู่กายยังคงอยู่ในฝัก นางกำลังประเมินคู่ต่อสู้ที่กำลังประมืออยู่กับบรรดาผู้ติดตาม

เคล้ง!

หรู่อี้ไม่ขยับกายแม้แต่น้อยเมื่อถูกจู่โจมจากทางด้านหลัง หญิงสาวยกกระบี่ที่ยังคงอยู่ในฝักขึ้นรับมือ ก่อนที่ร่างงามจะหมุนกายกลับไปเผชิญหน้ากับคนร้ายด้วยสายตาอันเยือกเย็น

“คิดสังหารคนจากด้านหลัง ช่างต่ำช้าเกินไปแล้ว เห็นที ข้าคงให้อภัยเจ้าไม่ได้แล้วจริง ๆ”

“ปากดี!”

“และงดงามอีกด้วย หึ ๆ”

หรู่อี้ต่อคำพูดของชายชุดดำ ด้วยท่าทางน่าเอ็นดู ทว่า การโจมตีโต้กลับของหญิงสาวกลับแตกต่างจากรอยยิ้มยิ่งนัก แต่สิ่งที่สร้างความขุ่นเคืองให้แก่ชายชุดดำก็คือ หญิงสาวไม่แม้แต่จะชักกระบี่ออกจากฝัก เสมือนการหยามเขาอย่างตั้งใจ

“ชักกระบี่ออกมา”

“ใช้ความสามารถของเจ้าลองดูสิ ว่าจะทำให้ข้าชักกระบี่ออกมาได้รึไม่ คนมิคู่ควร ข้าก็มิจำเป็นต้องให้ค่าแก่มัน เจ้าว่าจริงไหม”

“อ๊ากกก! อย่าอยู่เลย สตรีน่ารังเกียจ”

เมื่อถูกหมิ่นเกียรติด้วยคำพูดของสตรี ทำให้ชายชุดดำถึงกับสติขาดสะบั้นในทันที ทุกกระบวนท่าว่องไวประดุจสายลม ทว่า หญิงสาวเองก็ใช่จะน้อยหน้า ทุกท่วงท่ากลมกลืนไปกับสายฝนที่โปรยปราย

หรู่อี้มิได้ประมาทคู่ต่อสู้เลยแม้แต่น้อย แต่เพราะฝักกระบี่ของนาง ถูกสร้างขึ้นมาด้วยรูปแบบอันพิเศษ ต่อให้นางมิดึงกระบี่ออกมาก็สามารถต้านทานศัตรูได้เป็นอย่างดี ฝักกระบี่นี้ นางซ่อนมันภายใต้คราบอันไร้ความงดงามมานาน จนถึงวันนี้ที่มันถูกเปิดเผยออกสู่สายตาผู้คน

เมื่อมินานมานี้ ผู้เป็นนายของนางก็เคยเอ่ยถึงกระบี่เล่มนี้อยู่เช่นกัน เมื่อนึกตามคำพูดของผู้เป็นนายแล้ว นางมิควรปิดกั้นสิ่งใดอีกต่อไปจึงจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด

“หรู่อี้”

“เจ้าค่ะ”

“กระบี่นั่น จะซ่อนมันไว้อีกนานรึไม่ ข้ารู้ว่าเจ้าคิดสิ่งใดอยู่ แต่ข้าคือน้องสาวขององค์ชาย ข้ามั่นใจว่าเขามอบมันไว้ให้เจ้า เพื่อใช้มันปกป้องตัวข้าและรวมถึงเจ้าด้วย อย่าซ่อนความสวยงามและคุณค่าของมันเอาไว้ภายใต้ความเศร้าของเจ้า เพียงรอยยิ้มเดียวของเจ้า หรู่อี้ พี่ชายข้าจะต้องมีความสุขมากกว่าการที่เจ้าแอบซ่อนเอาไว้อยู่เช่นนี้”

“เจ้าค่ะ หรู่อี้ทราบแล้ว”

และในวันนี้ นางจะใช้มันเป็นครั้งแรก เพื่อปกป้องตัวนางเอง ตามความต้องการของเขาผู้นั้น องค์ชายโม่คัง ผู้เป็นหนึ่งเดียวในใจของนางเสมอมา นางจะใช้กระบี่นี้ตามความตั้งใจของเขามิให้ขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่น้อย

‘ข้าจะมิทำให้ท่านผิดหวัง องค์ชาย’

“อ๊ะ!”

อาการเจ็บแปลบที่เกิดขึ้นบนกายของชายชุดดำ ทำให้เขาเผลอก้มลงมองยังตำแหน่งนั้น โดยมิพลั้งเผลอเปิดช่องว่างให้แก่หญิงสาว บัดนี้มีเพียงความมืดและสายฝนเท่านั้น การมองเห็นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับการต่อสู้

เพราะการปะทะกันอย่างดุเดือด ทำให้หนังสัตว์ที่กางป้องกันสายฝนได้ถูกอาวุธทำลายจนหมดสิ้นแล้ว เมื่อไฟมอดดับ การต่อสู้จึงต้องอาศัยเพียงประสาทสัมผัส กระพรวนผูกข้อมือถูกนำออกมาพันที่ข้อมือกันอย่างรวดเร็ว เพื่อให้แยกฝ่ายของตนเองกับกลุ่มผู้ลอบโจมตี ศัตรูมากด้วยเล่ห์ พวกนางจำต้องมากด้วยกลเช่นกัน ผิดพลาดน้อยที่สุดจึงจะเป็นการดีในสนามรบ

ถึงแม้จะมีเสียงกระพรวนดังขึ้นเป็นระยะ ทว่าก็เกือบจะเกิดการผิดพลาดอยู่หลายหน ด้วยฝนที่เทลงมาประดุจสวรรค์พิโรธ ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีฝีมือสูงส่งมิแพ้กัน อุปสรรคคือสายฝน ซึ่งต่างจากความมืดที่ไม่ว่าจะเป็นนักฆ่าหรือยอดฝีมือก็สามารถมองเห็นได้โดยง่าย

เสียงอาวุธกระทบกระแทกกันถูกกลบไปด้วยสายฝน ทว่า การต่อสู้ก็ไม่สามารถที่จะยอมล่าถอยต่อกันได้

หรู่อี้ดึงกระบี่สั้นที่ข้างเอวออกมาถือไว้ในมืออีกข้าง ร่างบางยกอาวุธด้านหน้าสูงระดับสายตา ส่วนมืออีกข้างวาดไปทางด้านหลังในระดับต่ำ เพื่อป้องกันตัวจากทั้งสองด้าน เท้าบางค่อย ๆ เคลื่อนอย่างช้า ๆ และแผ่วเบา หญิงสาวจำต้องเปิดประสาทการรับรู้ให้มากกว่าปกติ

มิใช่เพียงหญิงสาวแต่ฝ่ายเดียวที่ทำ ชายหนุ่มในชุดดำเองก็ทำเช่นเดียวกัน เขาไม่คิดว่าการบุกเข้าจู่โจมในวันนี้จะเกิดฝนตกลงมาได้ ต่อให้อยากที่จะเปลี่ยนแผนการก็มิอาจทำได้ คำสั่งเด็ดขาดจากผู้เป็นนายค้ำคอเขาอยู่ในตอนนี้ หากคนเหล่านี้ไม่ตายก็เป็นพวกเขาก็ต้องตาย

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3 (จบบริบูรณ์)   ตอนที่ 83.จบบริบูรณ์

    “มิได้นะพ่ะย่ะค่ะฮองเฮา”“นี่คือคำสั่ง ไปซะ”จงกงกงที่ถืออาวุธประจำกายผู้เป็นนายมาด้วย ได้ก้าวไปยังเตียงนอนก่อนจะวางกระบี่ไว้ข้างกายผู้เป็นนายหญิงแล้วขยับออกห่างเยว่เหยียนลุกขึ้นโดยยื่นมือไปรับน้องสาวกลับมาผูกติดกายไว้เช่นเดิม ก่อนจะเดินห่างผู้เป็นมารดาด้วยอาการนิ่งเงียบ มิเอ่ยสิ่งใดกับผู้ใดแม้แต่ครึ่งคำสองแม่ลูกเจ้าของบ้านกลับเข้ามาในห้องพร้อมห่อผ้า มารดาของหย่งฉีก้าวไปหยุดตรงหน้าขององค์ชายเยว่เหยียน ก่อนจะย่อกายให้“บุตรชายของข้าจะนำทางองค์ชายเข้าไปหลบซ่อนในป่าเพคะ”“เจ้าไปกับพวกเขา นี่คือคำสั่งของข้า อย่าได้มีใครขัดคำสั่งหากยังเห็นข้าเป็นฮองเฮาอยู่”“เพคะ เช่นนั้น หม่อมฉันจะปกป้องทั้งสองพระองค์ด้วยชีวิตเพคะ”สองแม่ลูกไม่รอช้า โดยหย่งฉีเป็นคนเดินนำหน้า มีเยว่เหยียนเดินตามไป มารดาของหย่งฉีและองครักษ์ติดตามไปอีกหนึ่งคน ส่วนที่เหลืออยู่ดูแลฮองเฮา รวมถึงจงกงกงที่มิห่างกายผู้เป็นนายหญิงไปที่ใด“พวกเจ้าคิดจะขัดคำสั่งข้าหรืออย่างไรกัน”“พระนาง มิว่าอย่างไร พวกข้าก็มิอาจทอดทิ้งพระนางไปที่ใดได้ ได้โปรดอย่างทรงกริ้วไปเลยพ่ะย่ะค่ะ”ก่อนที่จะทันได้เอ่ยสิ่งใดต่อ เสียงของผู้บุกรุกได้เรียกความสน

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3 (จบบริบูรณ์)   ตอนที่ 82. ถงไท่ซิน

    ชายป่านอกหมู่บ้านร่างสูงของถงไท่ซินยืนเอามือไพล่หลังมองไปยังอีกด้านของป่าที่เป็นเนินเขาเตี้ย ๆแกร๊บ! เสียงเหยียบใบแห้งมาจากทางด้านหลัง เขามิจำต้องหันไปมองก็รู้ว่าใคร“วันนี้ ข้าหวังว่าจะได้รับข่าวที่ดี”“นายท่าน ตอนนี้ที่เฉินอันยังคงนิ่งเงียบอยู่ขอรับ คนของเราพยายามที่จะสืบหาว่า ข่าวเรื่องนายหญิงยังมีชีวิตอยู่นั้นมาจากที่ใดขอรับ ข้าเกรงว่า…เอ่อ...”“เกรงจะเป็นกลลวงให้ข้าเผยตนสินะ” ถงไท่ซินต่อความให้ผู้มารายงาน“ขอรับ”“ในเมื่อตัวข้าก็ชรามากแล้ว จะตายวันใดก็มิอาจบอกได้ แล้วข้าจะกลัวไปเพื่ออะไรกัน”ถงไท่ซินเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนระโหย เขารู้สึกมีความหวังขึ้นมาเมื่อรู้ข่าวว่า แท้จริงแล้ว ภรรยาของเขายังคงมีชีวิตอยู่จากแหล่งข่าวที่ใดสักแหล่งเมื่อไม่กี่วันมานี้ จึงทำให้ชรารีบลงจากเขาเพื่อที่จะมาพบกับคนขอตนเพื่อฟังความจริงจากปากอีกครั้งภาพใบหน้าภรรยาผู้เป็นที่รักเวียนกลับมาในห้วงความคิด พาให้ถงไท่ซินนึกย้อนไปยังเรื่องราวเมื่อนานมาแล้วด้วยหัวใจอันร้าวรานแคว้นเฉินอันตำหนักหลวงซึ่งเป็นที่พำนักร่วมกันของฮ่องเต้เยว่ไท่ซานกับฮองเฮาเยี่ยซีเซียน เวลานี้ทั่วทั้งแคว้นต่างเฉลิมฉลองการถือกำเนิดขององค์

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3 (จบบริบูรณ์)   ตอนที่ 81.ตอนพิเศษ 4 ถงไท่ซิน

    “ท่านตาขอรับ ไยท่านตาถึงได้ชอบที่จะอยู่บนเขาซินไห่นี่เล่าขอรับ ไยมิลงไปอยู่กับพวกเราขอรับ”ถงเอ่อหลางเอ่ยถามผู้เป็นตาด้วยความสงสัย เขาจะขึ้นมาอยู่บนเขาเพื่อฝึกฝนวิชากับผู้เป็นตา ในช่วงเวลาที่ผู้เป็นตากลับจากเกาะดอกเหมย“ตาจะได้มองเห็นยายเจ้าได้ทุกวันอย่างไรเล่า นางอยู่ทิศนั้น ในที่ที่เราจะไม่มีโอกาสไปถึง”“ท่านตาชรามากแล้วก็ทำใจให้สงบเถิดขอรับ ท่านยายได้หลับไปนานแล้วนะขอรับ”“ฮา ๆ เจ้าเด็กน้อย เจ้ามันช่างเจรจาเกินไปแล้ว ไม่นาน ตาของเจ้าก็จะหลับไปชั่วกาลเช่นเดียวกับท่านยายของเจ้า”“ท่านตาขอรับ ท่านอาม่งเหยางดงามมากเลยใช่ไหมขอรับ”เมื่อหลานชายเอ่ยถึงบุตรสาวผู้ล่วงลับ แววตาอ่อนแสงเจือความอาลัยพลันฉายบนดวงตาที่เริ่มฝ้าฟาง ถงไท่ซินหันมามองเด็กชายช่างซัก ก่อนปล่อยวางเรื่องโศกเศร้าในอดีตไปกับสายลม ใช้ลมหายใจที่เหลืออยู่กับปัจจุบันทุกเสี้ยวเวลา ยามลาจากโลกนี้ไปแล้วจะได้มิรู้สึกผิดกับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ระลึกเช่นนั้นจึงส่งยิ้มกว้างให้หลานชาย เอ่ยด้วยน้ำเสียงแกมหยอกเย้าเอ็นดู“ใช่แล้ว นางงดงามมิแพ้มารดาของเจ้าเลย เจ้าอยากรู้ไปทำไมรึ”“ก็เพราะใคร ๆ ก็ว่ามู่หลันเหมือนท่านอามาก เอ่อ…จากที่ข้ามองดู

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3 (จบบริบูรณ์)   ตอนที่80. ตอนพิเศษ 3.

    “เสด็จพี่ทั้งสองอย่าทรงกังวลไปเลย อย่างไรเสีย ลูกหลานของเราก็เลือกที่จะทอดทิ้งเราไปแล้ว”โม่เหยียนเฉาและโม่เหยาต่างหันขวับมามองน้องชายเป็นตาเดียว ด้วยถ้อยคำตอนท้ายมันขัดกันกับคำตอนต้น โม่หยางจงยิ้มร่า เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาสงสัยของพี่ชายทั้งสอง“เจ้ายังเป็นปกติดีอยู่หรือไม่ หยางจง”“ข้าแค่อยากให้เสด็จพี่ทั้งสองผ่อนคลายลงบ้าง อนาคตจะเป็นเช่นไร เรามิอาจบอกได้ แค่ตอนนี้ เราสามพี่น้องยังมีลมหายใจดื่มด่ำกับความสุขยามชราก็ดีมากแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“หึ ๆ เจ้าก็เป็นเสียแบบนี้ เข้าข้างในกันดีกว่า ข้าหิวมากแล้ว”สามพี่น้องพากันก้าวเข้าไปในตัวบ้าน พร้อมเสียงหัวเราะกันอย่างมีความสุข เสียงสนทนากันอย่างออกรสของพี่น้องสกุลโม่นั้น ยากที่ใครจะได้พบเห็น ยามใดที่มายังบ้านหลังนี้ พวกเขาจะละวางเรื่องบ้านเมืองลงชั่วคราวเพื่อสัมผัสความอบอุ่นจากสัมพันธ์พี่น้องร่วมสายเลือดที่น้อยครั้งจะได้มีโอกาสพบปะกันพร้อมหน้าเช่นนี้หุบเขาเหมยแดงหญิงสาวในชุดสีดำนั่งเหม่อมองไปยังด้านนอกหน้าผาที่ยื่นออกไปยังน้ำตก ใบหน้าครึ่งหนึ่งถูกปิดด้วยหน้ากากสีเงิน ดวงตานั้นกลับมามองเห็นแล้วก็จริง ทว่า รอยแผลที่อยู่ภายใต้หน้ากากกลับยังคงมีอย

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3 (จบบริบูรณ์)   ตอนที่79. รับโทษ

    เสียงอู้อี้ของถงมู่หลัน ทำให้จ้าวอวิ๋นรีบลุกขึ้นไปคว้าตัวหลานรักขึ้นมาอุ้มเอาไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะพานางก้าวมายังเตียงของผู้เป็นพี่ชายตามคำเว้าวอนร่างอ้วนกลมดิ้นเล็กน้อยเพื่อที่จะลงไปนั่งบนเตียงของพี่ชายที่ตอนนี้กำลังนอนกระสับกระส่าย มือป้อมนุ่มนิ่มเอื้อมไปแตะยังแก้มของพี่ชาย ก่อนจะทุ่มตัวลงไปเต็มแรงทับอยู่บนอกของถงเอ่อหลาง สร้างความตกใจให้แก่ทุกคนที่อยู่ตรงนั้น ก่อนที่โม่ฟางเล่อจะยื่นมือไปเพื่ออุ้มบุตรสาวออกมาหมับ! มือของถงเอ่อหลางรวบกอดร่างอ้วนของน้องสาวเอาไว้แนบอกราวกับปกป้อง เช่นที่เคยทำมาตลอดในยามที่เขาเกรงว่านางจะเสียใจหรือกลัวใครจะมาทำร้ายน้องสาวเพียงคนเดียวเด็กชายหวาดกลัวว่าจะไม่อาจคุ้มครองคนที่ตนรักให้ปลอดภัย เหมือนในอดีตที่เขามิอาจปกป้องคนที่รักเอาไว้ได้“พี่จะปกป้องเจ้ามิให้ผู้ใดทำร้ายเจ้าได้”“อือ ๆ พี่ใหญ่ ข้าร้อน ท่านพี่ตื่นได้แล้ว”ถงเอ่อหลางลืมตาโพลงขึ้นในทันที ร่างอ้วนกลมที่อยู่บนตัวเขานั้นช่างเหมือนใครบางคนในอดีตเหลือเกิน มือเรียวยกขึ้นลูบแก้มยุ้ยของน้องสาว“พี่รู้สึกว่ามีหินก้อนใหญ่หล่นทับตัวอย่างไรไม่รู้”“มีที่ไหนเล่าเจ้าคะก้อนหิน มีแค่อนาคตของหญิงงามที่สุดใต้หล้า

  • ภรรยาข้า เจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก เล่ม3 (จบบริบูรณ์)   ตอนที่78.คราวหลัง

    อวี้หลิงเซียวยกมือขึ้นห้ามองครักษ์เอาไว้เสียก่อน นางในตอนนี้แม้จะมียศแต่ก็เป็นธิดาของเจ้าเมืองเท่านั้น จะถืออำนาจบาตรใหญ่มากเกินไปมันดูไม่ดีสักเท่าไร ยิ่งมองการแต่งกายของเด็กน้อยทั้งสองคนนั้นแล้วบอกได้เพียงว่ามิธรรมดาเป็นแน่ไหนจะบุรุษหลายคนที่ยืนอยู่นั่นอีก มองแค่ปราดเดียวนางก็รู้ได้ว่าเป็นยอดฝีมือระดับสูงทุกคน โดยเฉพาะคนที่อุ้มเด็กหญิงตัวอ้วนนั่นด้วยแล้ว ยิ่งมิควรที่จะต่อกรด้วย นางฝึกยุทธ์ตั้งแต่ห้าขวบ เติบโตมากับพี่ชายที่เป็นทหารย่อมต้องถูกสอนมาเป็นอย่างดี“ข้าน้อยหลิงเซียว ต้องขออภัยท่านอาด้วยนะเจ้าคะที่มารบกวน ด้วยข้านึกว่าเป็นชาวบ้านทั่ว ๆ ไป เกรงจะเกิดอันตรายเอาได้หากมีโจรป่าผ่านมา”“ขอบใจเจ้ามากคุณหนู แล้วคราวหลัง ข้าจะเตือนหลาน ๆ ให้ระวังตัวให้มากขึ้น” จ้าวอวิ๋นนึกชื่นชมแม่สาวน้อยคนนี้ในใจ ดูเหมือนความนึกคิดของนางจะเติบโตกว่าวัยที่แท้จริงหลายปีทีเดียว“เจ้าค่ะ”“พี่สาว มากินกุ้งด้วยกันสิเจ้าคะ มู่หลันอยากมีพี่สาว มู่หลันไม่ชอบพี่ชายแล้ว”เด็กน้อยแก้มยุ้ยมิพูดเปล่า แต่ยังทำท่าทางน่าเอ็นดู พร้อมรอยยิ้มกว้างจนทำให้ตาของนางกลายเป็นเส้นตรง ก่อนจะสะบัดหน้าให้ผู้เป็นพี่ชายที่หันกลับ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status