แชร์

บทที่ 1060

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
ดังนั้น ตอนที่สัมผัสได้ถึงกระแสลมเล็กนี้ครั้งถัดมา จั๋วซือหราน...จึงไม่หลบแล้ว

นางยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น สัมผัสได้ถึงการถูกโจมตีด้วยพิษ แทงเข้าไปที่กระดูกไหปลาร้าของตนเอง

จมูกนางพ่นเสียงฮึดฮัดออกมาเบาๆ เหมือนเป็นเสียงครางเจ็บปวด แต่พอฟังอย่างละเอียดจะพบว่า ไม่ได้เจ็บปวดมากมายอะไนนัก

พริบตาต่อมามุมปากนางก็ยกขึ้น ยกมือตาม คว้าจับ 'อาวุธ' ที่โจมตีเข้ามาแล้วหยุดอยู่ตรงไหปลาร้านาง

น่าจะเป็น...อาวุธกระมัง?

แต่พอเข้ามือก็รู้สึกว่า...สัมผัสแปลกๆ

เหมือนกับ...ผิวหนัง

ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากอีกฝ่ายถูกนางคว้าไว้แล้ว ทำให้ความเร็วลดลงจนไม่อาจฉากหลบไปได้อย่างรวดเร็ว

ดังนั้นรูปร่างของอีกฝ่าย จึงเห็นได้อย่างชัดเจน

จั๋วซือหรานมอง...คน? ...สิ่งของที่ถูกตนเองจับเอาไว้?

ชั่วขณะหนึ่ง นางไม่รู้ว่าจะพรรณนา...ตัวตนตรงหน้านี้อย่างไร

ครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง ก็คิดออกมาได้แค่คำเดียว...สิ่งมีชีวิตรูปร่างมนุษย์?

หรือ...อาจจะไม่ใช่สิ่งมีชีวิต

ตัวตนตรงหน้าดูแล้ว มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ ดูแล้วเป็นมนุษย์คนหนึ่งเลยทีเดียว

แต่ผิวหนังขาวซีด ในผิวที่ซีดเซียวนี้ เส้นเลือดเส้นลมปราณก็มีสีดำ ยิ่งไปกว่านั้นบนผิวหนัง ยังมี
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1401

    ชิ่งหมิงได้ยินคำนี้ สายตาก็ชะงักไปตอนที่เงยหน้าขึ้นมองปันอวิ๋น ก็ไม่ได้รู้สึกตกตะลึงอะไร ดูสงบนิ่งมาก "ฝีมือก็ดีขึ้นมากจริงๆ เพียงแต่ว่า...ข้ากับเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันมากมายนัก"ปันอวิ๋นไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้ เขาโบกไม้โบกมือ "ไม่เป็นไร ถึงยังไงพวกเราก็ไม่ได้มีพ่อที่ดีกันนักหรอก"จั๋วซือหรานขมวดคิ้วมองเขา "เจ้ามองออกตั้งแต่เมื่อไรกัน?""ข้าไม่ได้ตาบอดนะ เหล่าจวงเองก็แอบมองจวงชิ่งหมิงอยู่ตลอด ทั้งสองคนสกุลจวงเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นในแววตาของเหล่าจวงกับจวงชิ่งหมิงก็คล้ายคลึงกันด้วย แค่มองเฉยๆ อาจไม่รู้สึก แต่ถ้าสองคนอยู่ในภาพเดียวกัน ก็จะสัมผัสได้เลย"ปันอวิ๋นบางครั้งดูแล้วก้เหมือนเป็นคนขี้เกียจที่เหมือนไม่ใส่ใจกับอะไรเลยแต่อันที่จริง เขาเป็นคนละเอียดอ่อนและเฉียบแหลมมากมีหลายเรื่อง ที่แม้เขาจะไม่พูด แต่อันที่จริงในใจก็รู้แจ้งเห็นจริงทุกอย่างปันอวิ๋นเอ่ยต่อ "ไม่เป็นไร ถ้าไม่ชอบฟังคราวหลังจะไม่พูดอีก"แต่เขาคิดๆ จากนั้นก็เสริมมาอีกคำหนึ่ง "น่าจะเพราะว่า ข้ากับเฟิงเหยียนแต่ก่อนรู้ว่าตนเองต้องแบกภาระโชคชะตาแบบไหนไว้ ดังนั้นจึงค่อยๆ ปรับความเข้าใจกับตนเอง จะพูดถึงยังไงก็ได้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1400

    ถึงยังไงการทำงานในโรงคณิกา บ่อยครั้งที่จะตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอกแม่เล้ากลอกตาไปมา "ทั้งสามท่านมาที่นี่เพื่อหาความสำราญแบบใดหรือ? เคาะประตูดีดีก็พอนี่นา ไม่เห็นต้องพังประตูใหญ่แบบนี้..."นางจ้องปันอวิ๋นไม่วางตา "แขกท่านนี้ต้องการจะฟังดนตรี หรือจะค้างคืนกันล่ะ? ต้องการแม่นาง...หรือว่าต้องการชายหนุ่ม?"ปันอวิ๋นฟังครึ่งประโยคแรก ก็ขมวดคิ้วแล้ว พอได้ยินครึ่งประโยคหลังก็หนักเลย "อะไรนะ?"แม่เล้าเห็นความเย็นชาในสายตาเขา ก็รู้สึกสันหลังวาบ สั่นเทาไปทั้งตัวจั๋วซือหรานที่อยู่ข้างๆ ฟังแล้วอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ ปันอวิ๋นหน้าตาดี ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นความงามเฉพาะตัวด้วย บุคลิกเย้ายวนชวนหลงใหลแต่กำเนิดนั่น ก็ไม่น่าแปลกใจที่ผู้คนจะอดคิดไม่ได้ว่าเขาจะต้องการแม่นาง...หรือว่าต้องการชายหนุ่มกันแน่...จั๋วซือหรานกระแอมแล้วอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ เอ่ยขึ้นว่า "...แค่ก พวกเรามากินข้าวน่ะ พวกเจ้าที่นี่มีกับข้าวและสุราอะไรที่อร่อยก็ยกมาให้หมดเลย"หลังจากที่แม่เล้าได้ยิน เดิมทียังคิดจะถามอยู่ว่าพวกเขาต้องการแม่นางหรือชายหนุ่มไหม แต่ก็รู้สึกว่าถ้าทำแบบนั้นมันจะเหมือนว่าตนเองเบื่อชีวิตแล้วก็เลยอ้าปากพะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1399

    ทั้งซื่อหนานล้วนเป็นขอบเขตขั้วอำนาจของเนี่ยคุน ดังนั้นข่าวของบ่อนพนัน ไม่นานนักก็ส่งไปถึงหูของเนี่ยคุนแล้วเขาโมโหจนแทบกระอักเลือด!ใครจะคิดว่าหญิงสาวคนนี้ เอาจวนของเขาไปแล้วก็ยังไม่พอตอนนี้ยังคิดจะทำลายกิจการของเขาอีก!เนี่ยคุนทำได้แค่รีบกำชับออกไป "หญิงสาวคนนี้น่าจะจงใจเล่นงานข้า เร็ว กำชับออกไป ให้โรงคณิกาทางนั้นวันนี้ปิดประตูไม่รับแขก จะได้ไม่ให้นังมารร้ายนั่นพอเบื่อบ่อนพนันแล้วหันไปเล่นทางโรงคณิกาต่อ"คนใช้รู้สึกว่าเนี่ยคุนจะคิดมากเกินไป "ท่านเจ้าเมือง คงไม่หรอกกระมัง? นางเป็นหญิงสาวนะ จะไปโรงคณิกาทำไมกัน..."นั่นมันที่ที่ชายหนุ่มไปเล่นกับหญิงสาวนะ!เนี่ยคุนหัวเราะเย็นชา "นางเป็นโหว ขนาดบ่อนพนันยังไปได้ ยังมีเรื่องอะไรที่นางไม่กล้าทำอีกกัน...?"ตอนนี้ต่อให้มีคนมาบอกเขาว่า หญิงสาวคนนี้บินได้!เนี่ยคุนก็อาจจะรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรด้วยซ้ำ!ส่วนอีกด้านหนึ่ง จั๋วซือหรานก็พาปันอวิ๋นกับชิ่งหมิงมาอยู่หน้าประตูโรงคณิกาอย่างสบายอารมณ์"เจ้ามาจริงๆ ด้วยแฮะ" ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว จมูกก็ย่นลง เหมือนได้กลิ่นเครื่องประทินเข้มข้นลอยออกมาจากในโรงคณิกา"เจ้าเด็กนี่ยังเด็กอยู่เลยนะ" ป

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1398

    "ได้"จั๋วซือหรานมองเขา ถามขึ้นว่า "ถ้างั้น ใครจะมาเขย่าล่ะ?"ผู้ดูแลเอ่ยขึ้น "ข้า ข้าเอง ข้าเขย่าเอง...ข้าเขย่าเสร็จจะปล่อยมือทันที ไม่มีโอกาสทำอะไรแน่นอน!"จั๋วซือหรานพยักหน้ายิ้มๆ "ได้ได้ งั้นเจ้าเขย่าเลย"ผู้ดูแลให้คนเอากระบอกเขย่าลูกเต๋ามาด้านในมีลูกเต๋าไม้สามลูกวิธีการก็เหมือนกับกติกาในชาติที่แล้วของจั๋วซือหราน เป็นวิธีเล่นที่ง่ายที่สุดจริงๆจั๋วซือหรานไม่ได้ติดใจที่จะเล่นกับเขาสักตา ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากเขามือสะอาดจริง ชนะก็ชนะแพ้ก็แพ้ นางก็ไม่ใช่จะเล่นไม่ได้แต่ใครจะรู้ ว่าก็ยังมีวิะีการโกงอยู่จริงๆคนผู้นี้น่าจะรู้สึกว่าตัวเขามั่นในใจในแรงควบคุมลูกเต๋าเป็นพิเศษ ดังนั้นพริบตาที่นางตอบตกลงให้เขามาเขย่าลูกเต๋า บนหน้าเขาก็มีสีหน้าถอนใจโล่งออกมาอย่างชัดเจนมันชัดเสียจนทำให้จั๋วซือหรานมองข้ามไปไม่ได้เลยจั๋วซือหรานดูท่าทางเขย่าลูกเต๋าของเขา น่าจะเป็นท่าทางบวกกับการสร้างขึ้นเป็นพิเศษของลูกเต๋า ดังั้นพอรวมกับการเคลื่อนไหวที่พิเศษของเขา สามารถหมุนไปตามที่เขาคิดได้และสามารถทำให้เขาได้แต้มที่เขาต้องการแม้จั๋วจะไม่ได้ดูล้ำสมัยเหมือนพวกอุปกรณ์การพนันที่จั๋วซือหรานรู้ในชาติ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1397

    น่าจะเพราะกลุ่มของหญิงสาวคนนี้ พอเข้ามาถึงก็มีแรงคุกคามมหาศาลกระทั่งท่าทีของผู้ดูแลที่มีต่อพวกเขาก็ยังหวาดหวั่นมากเขาเป็นแค่คนแจกไพ่ แน่นอนว่าไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามแต่ก็ไม่กล้ามองสายตาของผู้ดูแลด้วย จึงทำได้แค่เปิดไพ่อย่างว่าง่ายไปจั๋วซือหรานจึงชนะสองตาของผู้ดูแลดำเมี่ยมไปแล้ว ถ้าปล่อยให้นางชนะต่อไป...แล้วยังมีสหายที่เก่งกาจเรื่องพนันของนางกวาดเรียบที่โต๊ะอื่นด้วยแบบนี้ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ต่อให้พวกนางไม่เอาชีวิตเขา หลัจากนี้เนี่ยคุนก็เล่นเขาตายอยู่ดีดังนั้นสีหน้าผู้ดูแลจึงบิดเบี้ยวขึ้นเรื่อยๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับกำลังกลัดกลุ้มกับเรื่องที่ตัดสินใจได้ยากมากมองออกว่าค่อนข้างลำบากใจแล้วจั๋วซือหรานยืนขึ้นมา เดินไปทางโต๊ะของปันอวิ๋น บอกกับเขาว่า "เอาล่ะ พอจบตาของเจ้าแล้ว พวกเราก็พอเถอะ"ปันอวิ๋นมองตั๋วทองบนมือจั๋วซือหราน ตาก็เป็นประกาย "ถ้างั้นข้าก็ชนะแล้วสิ?"จั๋วซือหรานยิ้มๆ "ได้ได้ ข้ายอมแพ้แล้ว"เดิมทีนางก็ไม่คิดจะเอาชนะปันอวิ๋นอยู่แล้ว ก็แค่ให้เขาได้เป็นพ่อทูนหัวอย่างสมใจอยากก็เท่านั้นเห็นท่าทางนี้ของเขา จั๋วซือหรานรู้สึกว่าเขาน่าจะไม่คิดมีลูกหลานสืบทอดอะไรแล้วเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1396

    "เอาล่ะไม่พูดแล้ว ข้าต้องรีบหน่อย ไม่งั้นเดี๋ยวปันอวิ๋นได้ชนะพอดี เขาดูแล้วก็ไม่ใช่พวกเคี้ยวง่ายด้วยนี่สิ"ไม่นานนักบรรยากาศในบ่อนพนันก็ผิดปกติไปแล้วโต๊ะที่ปันอวิ๋นอยู่ อารมณ์ของทุกคนก็เหมือนจะไม่ไหวแล้ว...ไม่มีใครรู้ว่าชายหนุ่มหน้าตางดงามคนนี้ทำอะไรกันแน่ ทำไมถึงราวกับมีเนตรสวรรค์อย่างไรอย่างนั้น ไม่แพ้เลยสักตาเดียว?ส่วนหญิงสาวที่อยู่อีกโต๊ะคนนั้นเองก็สุดยอดมาก...ไม่แพ้เลยสักครั้งเดียวเหมือนกันแต่พวกเขาก็ดูเป็นแค่นักพนันเท่านั้น...มาขลุกอยู่แต่ในบ่อนพนันคับแคบแบบนี้ ไม่ได้เข้าใจและไม่คิดจะไปทำความเข้าใจโลกภายนอกเลยว่าเป็นอย่างไรบ้าง...ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ตัวตนฐานะของจั๋วซือหรานกับปันอวิ๋นและคนอีกหลายคนก็ไม่ค่อยจะรู้ ว่าพวกเขาเป็นคนแบบไหน สังหารคนที่ประตูเมืองไปแล้วเท่าไร...และผู้ดูแลบ่อนพนันที่ถูกตั๋วทองทำให้เคลิ้มก่อนหน้าคนนั้น ตอนนี้ก็คลายลงมาจากสภาพนั้นแล้วเสียใจ ตอนนี้คือความสำนึกเสียใจขีดสุดเขารีบตรงไปข้างโต๊ะของจั๋วซือหราน เอ่ยอย่างอ้อนวอนว่า "แม่นาง เอ่อไม่ใช่สิ ใต้เท้า...ใต้เท้า! กิจการของเราเล็กๆ มีทุนน้อย ไม่ทราบว่าท่าน..."เขาชูตั๋วทองขึ้นมาสองใบ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status