ย้อนมิติมาเปิดร้านชาไข่มุก
เขียนโดย
วันว่างว่างของหญิงใหญ่
แนะนำตัวละคร
เซียงเจินจู หลานสาวของตายายเจ้าของร้านขายชาเซียงซือ
ไข่มุก หญิงสาวเจ้าของร้านชานมไข่มุกในอาคารสำนักงานอันหรูหรา
หวางชิวเฟิน ขุนนางใหญ่ตำแหน่งเจ้ากรมศึกษา(ซือถู)
มู่หวังเยี่ยน เลขาและเพื่อนสนิทของหวางชิวเฟิน
มู่เยว่ฉี น้องสาวของมู่หวังเยี่ยน
ยายเหลียน ยายเฒ่าของเซียงเจินจู
คิดจะยึดที่ดินร้านชาของนางหรือ ผู้ใดจะยอมกัน แต่เขาทั้งหล่อทั้งมีตำแหน่งใหญ่โต หรือนางจะยอมให้เขายึดทั้งร้านทั้งตัวนางดี ไม่ใช่สิ นางต้องสร้างร้านชาให้เจริญรุ่งเรืองต่อไปต่างหาก
สาวน้อยผู้ย้อนไปอยู่ในร่างของหลานสาวเจ้าของร้านชาชื่อดัง แต่กลับอยู่ในช่วงที่โดนข่มขู่เพื่อจะยึดที่ดินไปสร้างเป็นสำนักศึกษา หญิงสาวจึงไม่ยอมและตั้งใจจะเปิดร้านชาต่อไปโดยนำความรู้ที่มีมาพัฒนา ไม่คาดว่าจะพบกับเจ้ากรมการศึกษาผู้หล่อเหลามาดดี นางจึงเจรจาต่อรองจนได้เปิดร้านชาใหญ่โต สองหนุ่มสาวเริ่มต้นจากความไม่ลงรอย ความสัมพันธ์ค่อยคืบหน้าไปในทางที่ดี ขณะที่ร้านชาเจริญรุ่งเรือง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามได้ใน ย้อนมิติมาเปิดร้านชาไข่มุก
ตอนที่หนึ่ง
เซอร์ไพรส์
หญิงสาวตื่นขึ้นมาเมื่อแสงตะวันสาดส่องสว่างจนมาถึงเตียงนอน
“อาจู ตื่นแล้วหรือ เป็นอย่างไรบ้าง”
เสียงแห่งความห่วงใยดังขึ้นที่หน้าประตูก่อนที่ใบหน้าคุ้นตาจะโผล่เข้ามา
ไข่มุกจำได้ว่าเมื่อคืนเธอร้องไห้อยู่ในร้านชานมไข่มุกของตัวเองจนหมดแรง สองตาบวมแดงแทบลืมไม่ขึ้น จนกระทั่งได้ยินเสียงคนเดินมาใกล้ๆและเห็นหน้าคุณยายคนหนึ่งซึ่งก้มลงมามองด้วยสีหน้าใจดี
“เป็นอย่างไรบ้าง ร้องไห้เหนื่อยไหม”
“เหนื่อยค่ะ” หญิงสาวพยักหน้าตอบ
“เมื่อสักครู่ได้ยินว่าอยากหาผู้ชายใหม่ที่หล่อกว่า รวยกว่า แล้วก็ดีกว่า ใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ” ไข่มุกรีบพยักหน้าแรงขึ้น ด้วยจำได้ว่าเพิ่งตะโกนลั่นร้านด้วยความเจ็บใจว่า
“คอยดูนะ ฉันจะหาแฟนใหม่ที่หล่อกว่า รวยกว่า ดีกว่า แล้วยังเอามันส์ คราวนี้ฉันจะไม่เล่นตัวแล้ว จะจับกินเสียตั้งแต่ทีแรกจะได้ไม่ต้องมีข้ออ้างทุเรศแบบนี้อีก ฮือๆๆๆๆ”
โชคดีที่คุณยายไม่ถามถึงประโยคหลังสุด ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“ถ้าอย่างนั้นตามฉันมา จะพาไปหา”
ไข่มุกจำได้ว่าตัวเองลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามคุณยายไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว จากนั้นเธอก็จำไม่ได้แล้ว
ตอนพิเศษห้า เชื่อมสัมพันธ์กัวจื่อหานออกเดินทางไปเมืองหลวงด้วยความอาลัยห่วงหาภรรยาสาว แต่ความก้าวหน้าของหน้าที่การงานย่อมสำคัญเช่นกัน เมื่อถึงเมืองหลวงเขาจึงตั้งหน้าตั้งตาลงชื่อเข้าสอบและก้มหน้าก้มตาทบทวนตำราอย่างคร่ำเคร่งเขาจะทำให้ซีซีน้อยของเขาได้เชิดหน้าชูตาให้ได้ ไม่ให้ผู้ใดมาดูหมิ่นนางอีกต่อไป ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจประกอบกับพื้นฐานเดิมที่มี ส่งให้กัวจื่อหานสอบผ่านจนติดหนึ่งในสามสิบคนสุดท้ายข้อสอบชุดสำคัญถูกส่งออกมาให้ผู้เข้าสอบได้ทำอย่างคร่ำเคร่ง กว่าจะเสร็จก็เกือบค่ำแล้วกัวจื่อหานไม่รั้งรออยู่ที่เมืองหลวงอีกแต่รีบสั่งให้ออกเดินทางกลับโดยทันทีหากเขามีตาด้านหลังคงได้เห็นสายตาแห่งความห่วงใยถูกส่งออกมาจากเสนาบดีกัวผู้เป็นบิดาซึ่งเฝ้าแอบดูอยู่ตั้งแต่เขาย่างเท้ามาถึง“หานหาน เจ้ากลับมาแล้ว” หลี่หยู่ซีกระโดดกอดสามีหนุ่มโดยไม่แยแสสายตาผู้อื่นด้วยความคิดถึงนางเกรงว่าเขาจะโดนจับตัวกักขังไว้อีกจนไม่ได้กลับมา ทุกคืนจึงได้แต่นอนกลิ้งไปกลิ้งมาไม่อาจหลับตาลง
เจ้าเมืองหยางยื่นมือมารับหลักฐานจากกัวจื่อหานพลางส่ายหน้าให้กับความโง่เง่าไม่รู้ความของคนสกุลจวง ขณะจวงเห่ยกังทิ้งตัวลงก้มหน้าด้วยความละอายใจหยางหมิงเจ๋อเอื้อมมือมาหยิบหลักฐานในมือบิดาขึ้นดูจากนั้นจึงสาดสายตาดุดันใส่สองแม่ลูกสกุลจวงตอนพิเศษสี่ อยู่ดีไม่ว่าดี“นางไม่เคยระรานพวกเจ้า แทบไม่เคยพบหน้ากันด้วยซ้ำ เหตุใดร้ายกาจถึงเพียงนี้ ท่านแม่ ข้าคงไม่อาจแต่งงานกับสตรีซึ่งมีนิสัยชั่วร้ายเช่นนี้ได้” หยางหมิงเจ๋อหันไปกล่าวแก่มารดาคุณหนูจวงได้ยินว่าความฝันที่วาดไว้พังลงมาเพียงชั่วพริบตาถึงกับกรีดร้อง“ไม่นะ...พี่หมิงเจ๋อ พวกเราต้องแต่งงานกัน ข้ารอพี่มานานมาก เฝ้ารักเฝ้ารอทุกคืนวัน แต่พี่กลับมัววุ่นวายอยู่กับนังจิ้งจอกนี่ นางมีดีอันใด งามหรือก็ไม่เท่าข้า ฐานะก็ต่ำต้อย ถูกบิดาขับออกจากสกุล แถมยังเคยถูกโจรย่ำยีมาแล้ว พี่เห่ยกังก็อีกคน แทนที่จะมาช่วยข้า กลับมาวุ่นวายกับนางเช่นกัน ข้าไม่ยอม ข้าไม่ยอม กรี๊ดดดดดด” คุณหนูจวงกรีดร้องราวบ้าคลั่ง ตะโกนโหวกเหวกโวยวายคล้ายเสียสติจนจวงเห่ยกังต้องทุบนางจนสลบแล้วแบ
ตอนพิเศษสี่อยู่ดีไม่ว่าดีหลี่หยู่ซีมองเห็นจวงเห่ยกังซึ่งนั่งอยู่ติดกันดึงแขนเสื้อคล้ายห้ามปราม“ท่านแม่ เหตุใดกล่าวเช่นนั้น ข้าแวะมาด้วยอาหารที่นี่รสชาติดีเลิศ หรือท่านแม่ไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น”“ดีเลิศหรือ ก็งั้นงั้น หากมิใช่หยางฮูหยินและหยางกงจื่อเชื้อเชิญ ข้าหรือจะยอมเหยียบเข้ามาในร้านที่มีแต่กลิ่นเหม็นเพียงนี้ ดูสิ เสื้อผ้าหน้าผมของข้าเหม็นจนต้องกลับไปชำระล้างเสียยกใหญ่” หญิงซึ่งคาดว่าเป็นมารดาของจวงเห่ยกังแสดงท่าทีรังเกียจ“หากไม่ชื่นชอบ ข้าคงต้องขอโทษ ด้วยร้านนี้ข้ามีหุ้นด้วยส่วนหนึ่ง” หยางหมิงเจ๋อลุกขึ้นมากล่าวหน้านิ่ง“มิใช่ท่านแม่ไม่ชอบหรอกเจ้าค่ะ เพียงแต่กลิ่นออกจะแรงไปสักหน่อย ความจริงอาหารต่างๆก็รสชาติดี จริงไหมเจ้าคะ ท่านแม่” หญิงสาวซึ่งนั่งถัดมารีบเอ่ยแก้ต่างให้มารดาอ้อ...คนนี้น่าจะเป็นคุณหนูจวง ว่าที่คู่หมั้นหมายของหยางหมิงเจ๋อ หน้าตางดงามชวนมองอย่างที่พี่ชายโอ้อวดเอาไว้ 
ตอนพิเศษสามผู้ใดกันแน่ที่หาเรื่องผ่านเหตุการณ์ที่มีผู้ว่าจ้างให้นักเลงมาหาเรื่องทำลายชื่อเสียงยังร้านห่าวซือหมาล่าหม้อไฟมานานนับเดือน แต่จวงเห่ยกังยังคงไม่มีความคืบหน้าใดมาบอกกล่าวแก่หลี่หยู่ซีเขาอ้างว่าสอบสวนลูกกระจอกที่จับมาได้อย่างหนักแล้ว แต่พวกเขาไม่รู้เห็นเกี่ยวกับผู้บงการแต่อย่างใดนั่นย่อมทำให้กัวฮูหยินน้อยหรือหลี่หยู่ซีซึ่งแม้จะมีความสุขกับการแต่งงานและร้านค้าซึ่งกำลังทำเงินไม่อาจหยุดครุ่นคิดด้วยเกรงจะมีผู้มาก่อเรื่องอีก“ซีซี เจ้าไม่ต้องกังวล หากมีผู้ใดกล้ามาหาเรื่องพวกเราอีก ข้าจะสั่งสอนมันให้เข็ดหลาบ” กัวจื่อหานซึ่งไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์คราวที่แล้ว จึงรู้สึกละอายใจที่ไม่ได้ช่วยเหลือภรรยา แต่กลับเปิดโอกาสให้ชายอื่นได้แสดงฝีมือ“ข้าเพียงอยากรู้ว่าผู้ใดกันที่แค้นเคืองถึงกับว่าจ้างคนมาทำร้ายทั้งร้านและตัวข้าเช่นนี้ หากยังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของผู้บงการ ชาตินี้ข้าคงไม่อาจนอนหลับตาได้อย่างสนิทใจ” หลี่หยู่ซีเอ่ยเสียงเข้มแม้นางจะหายโกรธนักเลงพวกนั้นแล้ว แต
ตอนพิเศษสอง ปั้นก้อนแป้งน้อย ด้วยช่องทางรักของนางยังคับแคบอยู่มาก เขาจึงไม่กล้าตอกย้ำซ้ำๆหลายครา ที่ผ่านมาเพียงหลั่งได้น้ำเดียวเขาก็จำต้องปล่อยให้นางได้พักผ่อนแล้วแต่คืนนี้ เขาจะทำให้นางได้พบความสุขจนลืมไม่ลงทีเดียวชายหนุ่มเลื่อนกายขึ้นจุมพิตร้อนแลกลิ้นจนน้ำใสไหลย้อยลงข้างปาก จากนั้นจึงจับแท่งกายแข็งเข้าจ่อยังปากทางฉ่ำน้ำใส“วันนี้น้ำของเจ้าออกมามากทีเดียว คงไม่เจ็บแล้ว” เสียงปลอบประโลมเอ่ยบอกก่อนของแข็งจะค่อยๆมุดแทรกเข้ามาจนเต็มโพรงอุ่นอย่างเชื่องช้า“อืม...ไม่เจ็บแล้วจริงด้วย” หญิงสาวร้องบอกสามี“เช่นนั้นข้าจะเร่งแรงขึ้นดีหรือไม่”“ดี” หญิงสาวคล้อยตามคำเชิญชวนท่อนเอ็นหนาผลุบเข้าผลุบออกในช่องทางสีชมพูหวานเป็นจังหวะเชื่องช้า ก่อนจะเร่งแรงจนกลายเป็นตอกกระแทกถี่รัวเมื่อความเสียวซ่านเริ่มกำซาบมากขึ้น“อื้อ...ดี...หานหาน...อ้า...ซี๊ดดด ดี...”“เสียวหรือไม่ ซีซี”“เสียว ยิ่งแรงยิ่งเสียว”เสียงเนื้อกระท
ตอนพิเศษหนึ่ง คืนเข้าหอ “อย่าได้ดูถูกข้าเช่นนั้น ข้าจะจับเจ้ากินไม่ให้ได้นอนทีเดียว” “อย่าคุยโม้คุยโตไป ดื่มสุรามงคลแล้วถอดเสื้อผ้าเข้านอนเถอะ ทั้งตัวมีแต่กลิ่นสุราเช่นนี้ ข้าคงนอนไม่หลับ” หลี่หยู่ซียกจอกสุรามงคลเพื่อดื่มร่วมกันตามธรรมเนียม จากนั้นจึงช่วยถอดเสื้อผ้าให้สามี “ซีซี ข้าถอดให้เจ้าเอง” กัวจื่อหานพยายามวุ่นวายกับชุดรุ่มร่ามของภรรยาสาว แต่มะงุมมะงาหราอยู่นานก็ยังถอดไม่ออกสักชิ้น “เฮ้อ...หานหาน ข้าถอดเองดีกว่า ไม่งั้นคงได้นอนทั้งชุดนี้แน่” หญิงสาวผลักร่างสามีให้นอนลงรอ ส่วนตนเองยืนขึ้นถอดชุดเจ้าสาวออกทีละชิ้นจนหมด หญิงสาวเดินทั้งร่างเปลือยเปล่าขึ้นเตียงไปนอนประกบเคียงข้างร