“อ่า!”
เสียงครางทุ้มต่ำดังมาจากลำคอแกร่งของคนที่หลับสนิท ราวกับกำลังฝันว่าตัวเองกำลังทำเรื่องอย่างว่าอยู่ยังไงยังงั้น
“อื้ม อื้อ”
เสียงอื้ออึงในลำคอของใครบางคนทำให้ ‘ภูผา’ เริ่มรู้สึกตัว ก่อนจะตามมาด้วยความเสียววาบที่แล่นจากแก่นกายไปสู่ทุกส่วนของร่างกาย ดวงตาคมเบิกกว้างก้มมองกลุ่มผมดำที่ขยับขึ้นลงอยู่ตรงกลางกายของเขา
“อื้น แอ้ว อ๋อ” ใบหน้าหวานเงยขึ้นมาถามอะไรที่ฟังไม่ออกแต่ก็พอรู้เรื่อง ก่อนจะกลืนสิ่งที่เขาเพิ่งปลดปล่อยไปเมื่อครู่ลงคอ นิ้วเรียวเช็ดคราบสีขุ่นตรงมุมปากแล้วนำมันเข้าไปดูดซ้ำราวกับจะเก็บทุกหยาดหยดให้หมด
คนมองถึงกับกลืนน้ำลายเสียงดังอึกกับภาพที่เห็นในยามเช้าตรู่แบบนี้
“เป็นไงบ้างเฮีย รอบนี้วินนี่ทำดีไหม เต็มสิบได้กี่คะแนน”
คนถูกถามยันตัวขึ้นนั่งใช้สองแขนเท้าไปด้านหลังมองหน้าคนตัวเล็กอย่างกำลังชั่งใจ
“อืม...ยังให้คะแนนไม่ได้ เมื่อกี้มันไม่ได้สติไง ไหนลองทำใหม่ซิ”
อีกคนมองนาฬิกาข้างฝาซึ่งบอกว่ายังไม่ถึงเวลาแปดโมง แสดงว่าเธอยังพอมีเวลาเหลือ
“ก็ได้ค่ะ”
มือบางเริ่มชักรูดท่อนเนื้อสีเข้มตรงหน้าให้มันแข็งตัวขึ้นอีกครั้ง ลิ้นนุ่มลากไล้ไปตามความยาวจนทั่วก่อนจะวนมาหยอกเย้าส่วนหัวจนเจ้าของมันถึงกับส่งเสียงครางอยู่ในลำคออย่างพอใจ
“อื้ม ดี อย่างงั้นแหละ อ่า!”
เมื่อริมฝีปากสวยเริ่มครอบดูดตัวตนของเขา ภูผาก็ต้องเอ่ยชมคนด้านล่างครั้งแล้วครั้งเล่า มือหนาเริ่มเคลื่อนสอดไปในกลุ่มผมดำสลวยออกแรงโยกขยับหัวของอีกคนให้เร็วขึ้น
คนด้านล่างก็ช่างรู้งานห่อปากดูดดึงสิ่งใหญ่โตในโพรงปากแรงขึ้นเช่นกัน ทำเอาร่างแกร่งถึงกับสะท้านไปทั้งตัวจนเธอสัมผัสได้
ไม่นานของเหลวอุ่นร้อนก็ถูกปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งที่สอง และถูกคนตัวเล็กกลืนลงคอไปอีกครั้งเช่นกัน
“ไม่ต้องกลืนทุกครั้งก็ได้นะวินนี่” คนตัวโตว่าพลางเอื้อมไปหยิบทิชชู่ที่หัวเตียงมาซับข้างปากให้อีกคนอย่างเบามือ
“ก็ไหนเฮียว่าผู้ชายชอบให้ทำแบบนี้ไง”
คนฟังถึงกับชะงักมือเมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูด นั่นสินะที่เธอทำแบบนี้ไม่ใช่เพื่อเอาใจเขาซะหน่อย
แต่เพื่อไอ้หมอนั่นต่างหาก
เรื่องราวทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน
บ้านสองหลังของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวสองคนที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็กถูกสร้างขึ้นมาให้อยู่ใกล้กันมาก ใกล้ชนิดที่ว่าระเบียงห้องชั้นสองซึ่งเป็นของห้องนอนลูกชายและลูกสาวของพวกเธอติดกันจนสามารถข้ามไปหากันได้อย่างง่ายดาย
‘ภูผา’ ลูกชายเพียงคนเดียวของ ‘พิมพ์พาดา’ เขาถูกเลี้ยงดูโดยผู้เป็นแม่และเพื่อนสนิทของแม่อย่าง ‘วันนา’ ทำให้เขามีหน้าที่อีกอย่างพ่วงมาด้วย นั่นก็คือการเป็นพี่ชายให้ยายเด็กป่วนที่อายุน้อยกว่าเขาถึงสามปีอย่าง ‘วินนี่’
เพราะความซุกซนและเป็นคนเปิดเผยของวินนี่ทำให้พวกเขาสนิทกันได้อย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าสนิทกันพอ ๆ กับที่พวกแม่ ๆ สนิทกันเลยก็ว่าได้
ตอนเด็ก ๆ ทั้งเล่นด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน อาบน้ำด้วยกันและนอนด้วยกัน ตัวติดกันตลอดเวลา ไม่แปลกที่เขาและเธอจะสนิทกันมากถึงขั้นคุยกันได้ทุกเรื่อง
ตอนนี้ก็เย็นมากแล้วภูผาส่งข้อความหาเด็กข้างบ้านไปตั้งนานสองนานแต่วินนี่กลับไม่ตอบอะไรเขามาเลย
วันนี้แม่ของพวกเขาออกไปเที่ยวต่างจังหวัดกับกลุ่มเพื่อนสมัยมัธยมทำให้หน้าที่ดูแลยายเด็กวินนี่ตกเป็นของภูผาอีกตามเคย
เมื่ออีกฝ่ายไม่ตอบร่างสูงจึงเลือกใช้วิธีเดิม ๆ ข้ามราวระเบียงห้องตัวเองไปยังระเบียงห้องของอีกคนอย่างง่ายดาย
และเพราะประตูที่ไม่ได้ปิดไว้เขาจึงเดินเข้าห้องสีชมพูหวานแหววอย่างถือวิสาสะ แล้วสองเท้าก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าเด็กที่ไม่ยอมตอบข้อความของเขาสักทีกำลังทำอะไรอยู่
ร่างบอบบางในชุดนักศึกษาที่ชายเสื้อหลุดออกมานอกกระโปรงทรงเอ นอนคว่ำอยู่บนเตียงพร้อมกับใส่หูฟังทั้งสองข้าง สายตากำลังจดจ่ออยู่กับภาพที่เคลื่อนไหวในจอโทรศัพท์ คลิป 18+ ที่ฝ่ายหญิงกำลังใช้ปากช่วยฝ่ายชายอยู่อย่างถึงรสถึงอารมณ์
ภูผาถึงกับต้องสะบัดหน้าแรง ๆ เพื่อเรียกสติของตัวเองให้กลับเข้าร่าง ก่อนจะกระโดดลงไปนอนข้าง ๆ เจ้าของห้อง
“ดูอะไรอยู่ น่าสนุกดีนี่ เฮียของดูด้วยคนนะ”
“เฮียผา! เข้ามาได้ยังไงเนี่ย” เจ้าของห้องโวยวายลั่นเมื่อผู้บุกรุกกระโดดมานอนบนเตียงกับเธอไม่พอยังถอดหูฟังเธอออกจนเสียงจากคลิปที่กำลังดูอยู่ดังลั่นห้อง ทำเอาต้องรีบกดปิดเพื่อให้มันเงียบเสียงลง
“เฮียก็เดินเข้ามาเหมือนเดิมนั่นแหละ ว่าแต่เราเถอะเป็นไร เงี่XX เหรอคะ”
“ไม่ใช่สักหน่อย”
“หืม...ไม่เงี่XX แล้วดูคลิปแบบนี้ทำไม”
“วินนี่กำลังศึกษาวิธีอยู่”
“ศึกษาวิธีอะไร”
“ก็การใช้ไอ้นี่ช่วยแฟนยังไงละคะ” นิ้วบางแตะริมฝีปากตัวเองเป็นการบอกว่า ‘ไอ้นี่’ ของเธอคืออะไร
คนฟังคิ้วกระตุกอย่างไม่เข้าใจตัวเอง ก่อนจะเปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคงเท้าแขนกับเตียงเพื่อพยุงหัวตัวเองไว้ สายตาก็มองเด็กวินนี่ที่ตอนนี้มองมาที่เขาเช่นกัน
“ไอ้หน้าขาวนั่นน่ะเหรอแฟนเรา”
“ไม่ใช่แค่หน้านะคะที่ขาว พี่สิงห์เขาขาวทั้งตัวเลยละค่ะ”
“เห็นมาแล้วว่างั้น ถึงได้กล้าพูด”
“ค่ะ เห็นมาแล้ว”
“เมื่อไหร่”
“เมื่อวาน”
“ที่ไหน”
“คอนโดพี่สิงห์”
“เดี๋ยวนี้กล้าไปที่ลับตากับผู้ชายสองต่อแล้วเหรอ เฮียจะฟ้องน้าวัน”
“ถ้าเฮียฟ้องแม่ วินนี่ก็จะฟ้องน้าพิมพ์เหมือนกันว่าวันก่อนคราบขาว ๆ ในรถเฮียคืออะไร อย่านึกว่าวินนี่ไม่เห็นนะคะว่าผู้หญิงคนนั้นมาหาเฮียถึงหน้าบ้าน ก่อนจะลากกันไปทำอะไรกันบนรถ”
“โอเค เจ๊ากัน แล้วนี่ปล่อยให้มันทำอะไรเราไปถึงไหนแล้ว ป้องกันรึเปล่า”
“เขาไม่ได้ทำ แต่วินนี่เองค่ะที่เป็นฝ่ายทำ”
“ทำอะไร ใช้ปากเนี่ยเหรอ”
“ค่ะ ที่จริงพี่สิงห์อยากทำมากกว่านั้น แต่วินนี่ว่ามันยังไม่ถึงเวลา เราสองคนเพิ่งคบกันเอง เกิดเขาได้วินนี่แล้วทิ้งล่ะ แย่สิงานนี้ครั้งแรกด้วย วินนี่เลยต่อรองขอใช้มือช่วยพี่เขาไปก่อน แต่พี่เขาก็ต่อรองให้ใช้ปาก แล้ว...”
“แล้ว?”
“แล้ว…ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น”
“เรื่องอะไร”
“ก็ของพี่สิงห์เขาอันเท่านี้” คนตัวเล็กชูแขนตัวเองขึ้นเป็นการโอ้อวดความเป็นชายของแฟนให้คนข้าง ๆ ฟัง ทำเอาคิ้วหนาที่เคยกระตุกยิ่งกระตุกถี่เข้าไปใหญ่
มันจะใหญ่สักแค่ไหนกันเชียววะ
“แล้วไงต่อ” น้ำเสียงเริ่มเข้มขึ้นตามใบหน้าที่ดุดันขึ้นอย่างไม่รู้ตัว และคนตัวเล็กเองก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน ยังคงเล่าต่อด้วยน้ำเสียงปกติ
“ก็นั่นแหละ มันใหญ่ไป พอเข้าปากก็โดนฟันวินนี่ทุกซี่เลย พี่สิงห์นี่ร้องจ๊ากเลย ก่อนจะวิ่งหนีวินนี่เข้าห้องน้ำไป”
“หึ”
“ไม่ตลกนะเฮีย พี่เขายังตะโกนมาบอกว่าให้วินนี่กลับบ้านก่อน เขาขออยู่คนเดียวแป๊บหนึ่ง ป่านนี้แล้วเขาก็ยังไม่ตอบกลับข้อความวินนี่เลยอ่า ~ แค่คิดก็อยากจะร้องไห้ แต่ไม่ได้ วินนี่ต้องเรียนรู้วิธีใช้ปากให้เก่งแล้วกลับไปง้อพี่สิงห์ให้ได้”
“ถ้าจริงจังกับเรื่องเรียนให้ได้ครึ่งหนึ่งของเรื่องนี้ป่านนี้คงติดหมอไปแล้วเราอะ”
“นี่เฮียประชดวินนี่เหรอ”
“ก็แล้วแต่จะคิด แต่เฮียว่าดูแค่คลิปพอไปปฏิบัติจริงมันอาจจะไม่ได้ดีขึ้นนะ เรื่องแบบนี้มันต้องลองภาคสนามด้วย”
“เรื่องนั้นเหรอไม่ต้องห่วง นี่! วินนี่เตรียมอุปกรณ์มาแล้ว”
แตงกวาลูกยาวถูกยกขึ้นมาให้หนุ่มรุ่นพี่ดู ใบหน้าหวานยิ้มอย่างภูมิใจในการเตรียมพร้อมของตัวเอง
“จะลองกับแตงกวาเนี่ยนะ”
“ทำไมอะ จริงด้วย แตงกวามันเล็กกว่าของพี่สิงห์นี่นา งั้นเดี๋ยววินนี่ลงไปหาอย่างอื่นที่ใหญ่พอ ๆ กันมาลองดีกว่า”
“เดี๋ยว ๆ” มือหนารั้งข้อมือคนที่จะลุกไปหาตัวช่วยใหม่ไว้ ก่อนจะกระตุกให้นั่งลงกับเตียง ตัวเขาเองก็ยันตัวขึ้นมานั่งด้วยเช่นกัน
“อะไร อย่ามาห้ามได้ไหม คนกำลังร้อนวิชา”
“เฮียไม่ได้จะบอกว่าแตงกวามันเล็ก เฮียจะบอกว่าแตงกวาหรือจะอะไรที่วินนี่จะไปหาน่ะ มันไม่มีความรู้สึก มันบอกวินนี่ไม่ได้หรอกว่าวินนี่ทำดีไหม”
“จริงด้วย เฮียนี่ฉลาดสุด ๆ ไปเลย งั้น...วินนี่ควรไปลองกับอะไรดีอะ”
“ลองกับไอ้นี่ของเฮียดีไหม” สายตาคมพาสายตาใสซื่อของเด็กน้อยให้มองต่ำไปยังส่วนกลางกายของตนเอง “รับรอง ใหญ่ เผลอ ๆ ใหญ่กว่าของไอ้สิงห์อะไรนั่นอีก แถมยังมีความรู้สึกด้วย เฮียจะได้ช่วยสอนช่วยแนะนำได้ไงว่าต้องปรับปรุงตรงไหน”
“เฮียพูดแล้วนะ”
“ทำไมยิ้มแบบนั้น”
“ก็...จริง ๆ วินนี่ว่าจะไปขอให้เฮียช่วยแต่แรกแล้วแหละแต่เกรงใจ ก็เลยหาวิธีอื่นแทน แต่ตอนนี้เฮียเป็นคนเสนอตัวเองงั้นวินนี่ไม่เกรงใจละนะ”
“เฮ้ย! ๆ จะมาถอดกางเกงผู้ชายแบบนี้เลยเหรอ”
“ก็เฮียบอกจะช่วยแล้วนี่นา อย่ามาทำเป็นหวงตัวหน่อยเลย เร็ว เดี๋ยววินนี่เลี้ยงมื้อเย็น เฮียอยากกินอะไรเดี๋ยวสั่งมาให้หมดเลย แต่ตอนนี้ยกก้นหน่อยถอดกางเกงไม่ได้”
*Trigger Warning*ในตอนมีเนื้อหาเกี่ยวกับ : Pegging (การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยเซ็กทอยทางทวารหนัก) , Femdom (หญิงเป็นฝ่ายควบคุมหรือเป็นผู้กระทำในกิจกรรมทางเพศ) , Blowjob (การร่วมเพศทางปาก) , Anal penertration (การสอดใส่ของเข้าไปทางทวารหนัก) , Dirtty talk (การพูดจาหยาบโลน) , Sex Toys (ของเล่นผู้ใหญ่) , Rimming (เลียทวารหนัก)**************"ลืมกระเป๋า" คนเป็นภรรยาพูดขึ้นหลังมองหากระเป๋าใบสำคัญไม่เจอ"สำคัญไหมครับ" ณัฐกรหันไปถามคนเบาะข้าง ๆ เพราะถ้าไม่สำคัญคงต้องไปหาซื้อใหม่ เนื่องจากตอนนี้เขาและจารวีขับรถออกมาไกลจากบ้านพอสมควรแล้ว"สำคัญสิ กระเป๋าของเล่น"คนขับใบหน้าร้อ
*Trigger Warning*ในตอนมีเนื้อหาเกี่ยวกับ : Pegging (การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยเซ็กทอยทางทวารหนัก) , Femdom (หญิงเป็นฝ่ายควบคุมหรือเป็นผู้กระทำในกิจกรรมทางเพศ) , Blowjob (การร่วมเพศทางปาก) , Anal penertration (การสอดใส่ของเข้าไปทางทวารหนัก) , Dirtty talk (การพูดจาหยาบโลน) , Sex Toys (ของเล่นผู้ใหญ่) , Rimming (เลียทวารหนัก)*************สามีเด็กหายไปไม่นานก็วิ่งกลับมาพร้อมของสามสี่อย่าง และท่าทางหอบเหนื่อยจนดูน่าเอ็นดูในสายตาคนมอง ก่อนที่จารวีจะหยิบดิลโด้สีดำขึ้นมาพินิจดูอย่างคนสนอกสนใจ"เอ่อ เราต่อกันเลยไหมครับ""อื้ม ถอดกางเกงสิ เจ้านี่...ฉันขอใส่ให้นายได้ป่ะ" คนอายุมากกว่าว่าขณะชูของที่อยู่ในมือขึ้นณัฐกรพยักหน้าขึ้นลงรัว ๆ อย่างไม่ป
หลังจากจัดการทำความสะอาดเตียงนอนของตนเองและอาบน้ำชำระร่างกายเรียบร้อย ณัฐกรก็เดินไปยังห้องนอนใหญ่ ซึ่งเป็นห้องนอนที่เขาและจารวีใช้หลับนอนด้วยกันอาทิตย์ละสี่วัน อีกสามวันแยกนอนห้องนอนของตนเอง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนเป็นภรรยาเสนอขึ้นหลังแต่งงาน แม้เขาอยากจะปฏิเสธแต่ก็ขัดใจอีกฝ่ายไม่ลงณัฐกรเปิดรายงานการประชุมอ่านระหว่างรอให้ใครอีกคนเข้ามาในห้องนอน หนึ่งชั่วโมงก็แล้ว สองชั่วโมงก็แล้ว จนกระทั่งเมื่อเห็นว่าใกล้เวลาเที่ยงคืนเจ้าของร่างสูงโปร่งจึงตัดสินใจจะไปตามคนที่ยังอยู่ในห้องทำงานไม่ยอมออกไปไหนก๊อก ก๊อก"พี่วีย์"ปึก!"ฮะ ว่าไง มีอะไรรึเปล่า" หลังได้ยินเสียงคนเป็นสามีดังขึ้นคนที่แอบหาข้อมูลบางอย่างอยู่ก็รีบปิดจอโน้ตบุคอย่างมีพิรุธ"คือ ผมเห็นว่ามันดึกมากแล้ว ก็เลยมาตามพี่วีย์ไปนอน" ณัฐกรเด
*Trigger Warning*ในตอนมีเนื้อหาเกี่ยวกับ : Pegging (การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยเซ็กทอยทางทวารหนัก) , Femdom (หญิงเป็นฝ่ายควบคุมหรือเป็นผู้กระทำในกิจกรรมทางเพศ) ,Anal penertration (การสอดใส่ของเข้าไปทางทวารหนัก) ,Sex Toys (ของเล่นผู้ใหญ่)จารวีจ้องมองของที่สามีนำมาวางไว้บนเตียง มันไม่ได้มีมากมายอย่างที่เธอเคยคิดไว้ มีแค่ดิลโด้ขนาดไม่ใหญ่มาก กับปลั๊กเสียบก้นรูปทรงคล้ายหยดน้ำซึ่งทำจากซิลิโคนเนื้อดี เจลหล่อลื่นและถุงยางนิ้ว เมื่อกวาดตาดูครบก็เดินกลับไปนั่งยังเก้าอี้ข้างเตียงนอนสามีเด็ก ก่อนจะออกคำสั่งเสียงเรียบเช่นเคย"ใช้ให้ดูสักอันสิ""แต่" ณัฐกรอยากจะปฏิเสธ แต่ก็จำใจต้องทำ เขาสัญญากับคนตรงหน้าไปแล้วว่าจะทำทุกอย่างที่อีกฝ่ายสั่งให้
"เลิกปฏิเสธเถอะ ฉันรู้หมดแล้ว""รู้?""อื้ม" จารวีตอบสั้น ๆ ขณะดึงมือตัวเองออกจากการกอบกุมของคนที่ยังคุกเข่าอยู่ตรงหน้า"บอกผมได้ไหมว่าพี่รู้อะไร ขอให้ผมได้มีโอกาสอธิบายบ้างได้ไหม ผมยอมรับเรื่องที่พี่ขอหย่าโดยที่ไม่รู้อะไรเลยไม่ได้จริง ๆ มันไม่ยุติธรรมกับผมเลย" ณัฐกรยังคงทำตัวดื้อดึง เขากำพนักเก้าอี้ทั้งสองข้างลำตัวของจารวีไว้แน่นราวกับจะกักกั้นไม่ให้เธอลุกหนีไปไหนได้จารวีถอนหายใจเสียงดัง ก่อนจะถามออกไปด้วยน้ำเสียงติดเรียบเช่นเคย"ขับรถมาเองไหม""ครับ""งั้นก็กลับไปคุยกันที่บ้าน"จะให้เธอมาพูดความลับของสามีในที่สาธารณะคงไม่ใช่เรื่องที่ควรถึงจะเป็นห้องอาหารส่วนตัวก็เถอะ แต่ถ้ามันหลุดรอดไปณัฐกรคงเสียหายแน่ระหว่างทางกลับบ้านในห้องโ
จารวีในวัยยี่สิบแปดปีต้องพบเจอกับเหตุการณ์แปลก ๆ หลายเรื่อง บางเหตุการณ์ร้ายแรงจนต้องเข้าโรงพยาบาลนอนพักอยู่หลายวัน จนกระทั่งผู้เป็นแม่ต้องไปสอบถามจากหมอดูคนสนิท และได้เรื่องว่าเป็นปีชงของลูกสาว จะแก้ได้ก็ต่อเมื่อแต่งงานกับผู้ชายที่เด็กกว่าซึ่งก็ดันมีเด็กคนหนึ่งเดินเข้ามาเสนอตัว เด็กที่จารวีเคยเล่นด้วยตั้งแต่สมัยยังเล็กเพราะอยู่บ้านติดกัน แต่ก็ห่างหายกันไปช่วงหนึ่งเพราะเธอต้องไปเรียนปริญญาตรีและโทยังต่างประเทศ ซึ่งไม่เพียงแค่แม่เธอเท่านั้นที่เห็นดีเห็นงามกับเด็กคนนี้ พ่อของเธอเองก็ถูกใจเด็กคนนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร เพราะนอกจากจะนิสัยดี ยังทำงานเก่ง เคยช่วยบริษัทของพ่อตอนวิกฤตมาแล้วด้วยครั้งหนึ่งจารวีอยากปฏิเสธแต่ก็เผลอคล้อยตามคนเป็นแม่ในที่สุด"แต่งกันแก้เคล็ดเอง อยู่กันไปสักปี ไม่ดี ไม่ชอบก็ค่อยว่ากันใหม่"ณัฐกรเติบโตมาอย่างดี เรียบจบทางด้านกฏหมายมีความสามารถเกินวัยหน้าตา