“ฉันรู้สึกเหมือนกำลังมีคนมอง”ฉันบอกชายชุดดำบอดี้การ์ดไปพลางชำเลืองสายตาบอกเขาเป็นนัยๆว่าคนที่ว่ามันอยู่ตรงนั้น เขาพยักหน้ารับคำโดยที่ไม่ได้หันไปมองให้มีพิรุธและใช้การสนทนาไร้สายในการคุยกับคนของเขาที่อยู่บริเวรและรอบๆงานๆพรึบ ปัง โผล๊ะ“ซาโนะ!!”ฉันร้องเสียงหลงเมื่อสายตาของฉันแอบมองไปเห็นปลายกระบอกปืนยาวรูปร่างคล้ายปืนสไนเปอร์จากตึกอีกฝั่งของตึกนี้ซึ่งเป็นตึกที่ตั้งอยู่คู่กันและโชคดีที่ข้างนอกกำลังมีฟ้าผ่าลงมาพอดีทำให้เกิดประกายแสงจากฟ้าผ่าให้ฉันได้มองเห็นคนที่ลอบทำร้ายซาโนะ“เป็นอะไรไหม?”ฉันที่เข้าไปผลักร่างของซาโนะให้หลบลูกกระสุนจากกระบอกปืนสไนเปอร์ได้ทันเวลาเพราะลูกกระสุนเจาะเข้าที่หน้าผากของบอดี้การ์ดชายชุดดำที่ยืนคุมความปลอดภัยให้มิซาโนะอยู่ด้านข้าง ร่างของฉันกับซาโนะล้มลงไปกองกับพื้นท่ามกลางเสียงกรีดร้องอย่างตกใจของแขกทั้งงานพรึบ“ซาโนะ?”ฉันเอ่ยเรียกเขาอย่างตกใจและสงสัยปะปนกันเพราะอยู่ดีๆเขาก็คว้าร่างของฉันเข้าไปกอดแนบอก“ที่หลังอย่าทำแบบนี้อีกนะคุณ…ถ้าลูกกระสุนพลาดโดนคุณขึ้นมา….ผมจะอยู่ยังไง”เสียงแผ่วเบาของซาโนะกำลังสั่นเครือไปด้วยความกลัวเนื้อตัวของเขาสั่นเทาจนฉันต้องเอื้อมมือ
ตึก มามาซานโต้19:30น.“เชิญครับท่านมิซาโนะและนายหญิงของซานโต้^_^”เสียงคำทักทายอย่างเป็นมิตรพร้อมกับการผายมือเชื้อเชิญที่อ่อนน้อมให้ฉันกับมิซาโนะได้เดินเข้าประตูไปยังข้างในห้องจัดงานขนาดใหญ่“นายหญิงของซานโต้?”หลังจากที่เราสองคนเดินผ่านประตูมาแล้วฉันก็พึมพำคำพูดของชายคนต้อนรับนั้นอย่างสงสัย“ไม่อยากเป็นรึไง?”ซาโนะก้มหน้าลงมาถามฉันเสียงแผ่วเบา ฉันก็หันขวับกลับไปมองหน้าเขาอย่างเคืองๆ“นายจะไม่ให้ฉันเป็นรึไง!”ฉันเสียงแข็งใส่เขาพลางจะชักมือออกมาจากแขนแกร่งของเขาเพราะเขาให้ฉันคล้องแขนเขามาตั้งแต่ลงรถแล้วแต่ก็โดนมิซาโนะจับแขนฉันไว้ซะก่อนเพื่อไม่ให้ฉันปล่อยแขนเขา“แล้วถ้าคุณไม่เป็นแล้วใครจะเป็นล่ะ?”“ก็แค่นั้น”ฉันเบะปากใส่เขาและเลิกมองหน้าเขาหันไปมองวิวรอบๆงานแทนก็พบกับคนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติมากมายที่ยืนเกาะกลุ่มคุยกันอย่างสนุกสนานพลางคนก็ยกแก้วน้ำสีใสชนกันที่นี้มีอาหารจัดเลี้ยงแบบบุฟเฟต์ให้แขกในงานไปตักอาหารเก่งกันเองโดยอาหารจะถูกจัดวางไว้ที่ข้างๆกำแพงทั้งสองฝั่งของงาน“วันนี้ผมกับพ่อของคุณจะเซ็นสัญญาร่วมหุ้นกันในการทำธุรกิจที่ประเทศออสเตรเลีย”ซาโนะพาฉันมาหยุดยืนตรงข้างหน้าโต๊ะหนึ่งตัวที่มี
“คุณน้องน่ะสวยอยู่แล้วค่ะเลยแต่งเติมแค่นิดๆหน่อยๆก็ปังขึ้นมาแล้วค่ะ^_^”พี่สาวประเภทสองเอ่ยชมฉันอีกและผายมือเชื้อเชิญให้ฉันลุกขึ้นและเดินไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันก็ลุกขึ้นและเดินนำหน้าเธอไปที่ห้องแต่งตัวที่มีพนักงานยืนรอให้บริการอยู่แล้ว ฉันเดินเข้าไปและก็มีพนักงานเป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉันใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีก็เปลี่ยนชุดจากชุดนักศึกษามาเป็นชุดราตรียาวสีแดงซาตินเรือคอลึกโชว์หน้าอกอวบอิ่มของฉันให้คนเห็นได้อย่างชัดเจนและตรงกลางยังแหวกยาวโชว์เรียวขาขาวๆของฉัน“สวยมากค่ะยังกับเจ้าหญิงเลย^_^”เสียงชื่นชมของพนักงานเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉันทั้งสองคนต่างพากันมองฉันและชื่นชมฉัน ฉันก็โค้งศีรษะให้พวกเธอเพื่อเป็นการขอบคุณและฉันก็ค่อยๆเดินออกมาจากห้องแต่งตัวเดินออกไปยังห้องที่มีมิซาโนะนั่งรออยู่ตึก ตึกๆ“มิซาโนะ”ฉันเอ่ยเรียกมิซาโนะที่เขาก้มหน้ากอดอกเหมือนเขาจะนั่งหลับอยู่ให้เขาตื่นพรึบ“ซาโยโกะจัง!”เสียงของซาโนะเอ่ยเรียกฉันด้วยความตกใจเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาเห็นฉันและสายตาของเขาก็จับจ้องไปที่หน้าอกของฉันและเรียวขาของฉัน“คุณแต่งชุดอะไรเนี่ย!”เขาลุกขึ้นเดินเข้ามาหาฉันอย่างไวและเอ่ยถามฉันด้วยนำ้เสียงไ
วันต่อมา 16:30น. ต้นฝน ซาโยโกะจัง…. “เราจะไปไหนกันคะ?”ฉันเอ่ยถามมิซาโนะไปในขณะที่เราทั้งคู่นั่งอยู่บนรถเบนซ์คันหรูสีดำโดยมีชายชุดดำสองคนนั่งหน้าโดยมีฉันกับมิซาโนะนั่งอยู่เบาะหลังตลอดทางเขาจับมือฉันไปกุมไว้ตลอด “ไปงานเลี้ยงน่ะ^_^” “งานเลี้ยงอะไร?”ฉันถามซาโนะไปอย่างสงสัยและก้มสำรวจมองการแต่งตัวของตัวเองที่อยู่ในชุดนักศึกษามหาลัยชื่อดังของที่มีเจ้าของแสนจะสุดเพอร์เฟคเขาสวมสูทสีดำเซตผมตั้งขึ้นอย่างเท่ห์นั่งอยู่ข้างๆฉัน เขาหันมายิ้มให้ฉันแตกต่างกันมากอ่ะเสื้อผ้า!ของฉันกับเขา พรึบ “งานของลูกค้าคนสำคัญน่ะ^_^”เขาขยับใบหน้าหล่อเข้ามาหาฉันและเอ่ยบอกฉัน ฉันก็ขมวดคิ้วมองเขาอย่างงุนงง พรึบ “ใครเหรอคะ?”ฉันขยับใบหน้าเข้าไปหามิซาโนะใกล้มากขึ้นและพอฉันขยับริมฝีปากถามเขาก็ทำให้ริมฝีปากของเขาเสียดสีกัน “เปลี่ยนใจล่ะ….กลับบ้านเลยดีกว่า”ซาโนะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ พอฉันยอมนิดยอมหน่อยก็ยิ่งหื่น! “ม่ายยยยนะ!”ฉันร้องเสียงหลงดันหน้าอกของมิซาโนะให้ถอยห่างออกไปจากร่างของฉันอย่างแรง ร่างสูงก็หัวเราะชอบใจใหญ่ “นายครับถึงแล้วครับ” “อืม” “ถะถึงแล้วเหรอ?”ฉันเอ่ยถามมอซาโนะไปอย่างสงสัยและหันมองไปน
“จะจะทำอะไรน่ะ?”ฉันเอ่ยถามเขาไปอย่างหวาดระแวงเพราะซาโนะค่อยๆเอื้อมมือลูบไล้ไปตามเรียวขาขาวๆของฉันและใช้มือดึงถึงน่องยาวคลุมหัวเขาของฉันออกไป“หนึ่งคืบ…..สองคืบ…..”ซาโนะใช้มือวัดกระโปรงฉันที่อยู่เลยเหนือหัวเข่าขึ้นมาและเงยหน้าขึ้นมาสบตาฉันอย่างคาดโทษ“เด็กปีหนึ่งใส่กระโปรงยาวจากหัวเข่าได้แค่คืบเดียวแต่ของคุณห่างจากหัวเขาสองคืบ”เขาเอ่ยถามฉันด้วยน้ำเสียงสงสัยและจริงจัง ฉันก็ยิ้มแหยๆให้เขาไป“และที่สำคัญ”เขาหยุดพูดและจับร่างของฉันให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้และหันหน้าไปหาเก้าอี้แทน“เอาขาขึ้นไปไว้บนเก้าอี้”เขาเอ่ยสั่งฉันไม่พอยังจับขาฉันให้ยกขึ้นไปเอาหัวเข่าชันกับเก้าอี้ทั้งสองข้าง“และกางเกงในของคุณเนี่ยมันโป๊ไปรึเปล่าครับ?”เขาไม่พูดเปล่าพลางใช้มือจับแก้มก้นฉันทั้งสองข้างแหวกออกจากกันอย่างแผ่วเบาการกระทำของเขาไม่ได้รุนแรงเลยสักนิดมันกลับอ่อนโยนผิดจากน้ำเสียงของเขาซะด้วยซ้ำไป“ปิดไม่ได้เลย”เขาเอ่ยขึ้น ฉันที่กำลังทุกทรมานเพราะมีอารมณ์บางอย่างเกิดขึ้นมาในตัวของอฉันอีกครั้งแล้ว“อื้ออออ”ฉันหลับตาพริ้มมือจับขอบโต๊ะเครื่องแป้งแน่นเพราะความเสียวซ่านที่นิ้วมือใหญ่ของมิซาโนะได้ลูบไล้ไปกับร่องเสียวของฉันอย
คฤหาสน์ มิยาชิตะเช้าวันต่อมาห้องหอของ ซาโนะ&โยโกะต้นฝน ซาโยโกะจัง….“มะมองอะไร?”ฉันเอ่ยถามมิซาโนะไปพลางมองเขาไปอย่างสงสัยที่เขาเอาแต่นั่งมองฉันแต่งหน้าแต่งตัวในการไปมหาลัยในเช้าวันนี้เป็นเช้าที่ฉันทรมานดีจริงๆเพราะช่วงล่างของฉันเจ็บระบมไปทั้งหมดเพราะมิซาโนะรบเร้าของให้ฉันมีอะไรกับเขาต่ออีกหลายรอบจนฉันเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ตัวเลยเหนื่อยจริงๆ“เปล่านะ”เขาตีหน้าตายตอบฉันกลับมาพลางยิ้มกรุ่มกริ่มที่มุมปากฉันก็มองเขากลับไปอย่างไม่เชื่อและเลิกสนใจเขาหันกลับมาหวีผมยาวๆของฉันรวบมัดขึ้นไปเป็นหางม้าและหยิบโบว์สีขาวมาผูกไว้อย่างน่ารักๆ“ทำไมวันนี้ถึงอยากไปมหาลัยอ่ะ?”“เดี๋ยวเรียนไม่ทันเพื่อน”ฉันโกหกหน้าตายเรียนไม่ทันเพื่อนอะไรล่ะฉันมีนัดกับอาจารย์มามาโต้คุงตั้งหากล่ะคริๆๆ“จริงเหรอ….คนอย่างคุณนี่ซีเรียสกับเรื่องนี้ด้วยเหรอ?”เบื่อคนรู้ทันว่ะ!“เบะปากทำตาเหลือกทำไม?”ซาโนะเอ่ยถามฉันด้วยนำ้เสียงสงสัย ฉันก็รีบทำสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดและหันไปยิ้มให้เขากลบเกลื่อน“ไม่มีอะไรหรอกนะ….มาเร็วมาอุ้มฉันลงไปได้แล้ว”ฉันหันตัวกลับไปพลางอ้าแขนทั้งสองข้างออกเพื่อรอรับร่างของมิซาโนะให้เข้ามาอุ้มฉันลงไปข้างล่าง