ลิขิตกามเทพ-อาริตา

ลิขิตกามเทพ-อาริตา

last updateLast Updated : 2025-06-22
By:  นาวิกาOngoing
Language: Thai
goodnovel12goodnovel
10
2 ratings. 2 reviews
21Chapters
172views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

เธอชื่อ กานพลู เธอเป็นลูกกำพร้า เหมือนลูกไก่ในอุ้งมืออันแน่นหนาและหยาบกร้านของคนเป็นป้า เติบโตโดยไม่เคยได้รับความรัก ความเมตตารดรินใส่ ไม่พอแค่นั้น ผู้ชายที่เธอคิดว่ารักก็ยังทิ้งเธอ คืนที่สูญเสียเธอประชดชีวิตอย่างหนัก แต่เพราะเธอเป็นแต่ลูกไก่ในกำมือมาร เธอจึงพลัดหลงไปอยู่ในมือ ชายหนุ่มแปลกหน้า เสียตัวหรือไม่เสีย เธอตอบไม่ได้ เธอจึงถูกส่งไปให้ตาแก่ คนพ่อ งานแต่งรวบรัด ก่อนเธอจะพบว่า ชายหนุ่มในคืนหลอกลวงคือลูกชายของตาแก่ เขาชื่อ พินิจนัย เธอร้องไห้ และร้องไห้ อย่างเจ็บปวดแสนสาหัสก่อนจะปาดน้ำตาออก เธอจะไม่ยอมให้ชีวิตถูกกำหนดโดยคนอื่น ได้เวลาทวงชีวิตตัวเองมาลิขิตเอง ในความมุ่งมั่นอันโดดเดี่ยวอ้างว้าง ท่านกามเทพอยากจะมีส่วนร่วมเพื่อช่วยชีวิตที่เศร้าหมอง ผิดหวังซ้ำซากของเธอ กามเทพขอประทานลิขิตแห่งรักมาชุบชูชีวิตของเธอ

View More

Chapter 1

1 ฉันคงจะเข็ดผู้ชายไปอีกนาน

“ภาดากับลูกสาวเจ้านายนี่เหมาะสมกันดีจริงๆ นะ”

เสียงนั้นอยู่ห่างเพียงแค่ประตูห้องน้ำกั้นเอาไว้เท่านั้นเอง กานพลูก็ได้ยินประโยคนั้นชัดก้องเข้าไปในหู อยากจะคิดว่าเป็นเรื่องของคนอื่นที่หล่อนไม่รู้จัก แต่ในออฟฟิศนี้มีผู้ชายกี่คนกันเล่าที่ชื่อ ‘ภาดา’

ก็มีเพียงภาดาคนเดียวเท่านั้น ภาดาที่หล่อนรักจับใจ

หล่อนเสร็จธุระในห้องน้ำแล้ว รวบรวมกำลังใจให้เปิดประตูออกมายืนอยู่ตรงทางเดินแคบๆ ที่เป็นทางเดินระหว่างประตูห้องน้ำกับเคาน์เตอร์ยาวๆ ที่ฝังอ่างล้างหน้าไว้เป็นระยะๆ สามอ่างด้วยกัน

ผู้หญิงสองคนที่ยืนล้างมือตรงเคาน์เตอร์นั้น คุ้นหน้าคุ้นตากับกานพลูดี แต่ไม่เคยพูดกันมาก่อน

แล้วก็ทำหน้าเจื่อนๆ ไปด้วยกันทั้งสองคนเมื่อเห็นกานพลู ก็คนในออฟฟิศส่วนมากจะรับรู้กันว่าผู้หญิงที่เดินไปไหนมาไหนกับภาดามีแต่กานพลูนี่คนเดียวเท่านั้น แม้จะไม่มีการยืนยันเป็นทางการ แต่ก็เป็นที่รู้กันอีกนั่นแหละว่ากานพลูกับเขาจะแต่งงานกันเร็วๆ นี้ หลังจากสร้างเนื้อสร้างตัวได้แล้ว

หล่อนล้างมือเช็ดจนแห้งแล้วจึงเดินออกมาจากห้องน้ำ แข้งขาไม่สั่นมือไม่สั่น แต่กานพลูรู้ดีว่าหน้าของหล่อนปราศจากสีเลือดและใจก็เต้นรัวถี่อยู่ในอก อยากจะแล่นไปหาเขา แต่งานของหล่อนในห้องคอมพิวเตอร์ก็มีล้นมือจนไม่อาจจะปลีกตัวไปได้ดังใจปรารถนา

ต้องรอให้เลิกงานเสียก่อน

หล่อนดูนาฬิกาบ่อยครั้ง แล้วทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนเมื่อเห็นเข็มสั้นอยู่ตรงกลางระหว่างเลขสี่กับเลขห้า เข็มยาวอยู่ตรงเลขหก เลื่อนเก้าอี้ออกอย่างแรงได้ก็ลุกขึ้นเดินลิ่วๆ ไปที่ประตูห้อง กำลังจะเปิดออกไปก็พอดีกับบานประตูถูกผลักเข้ามา

“กาน...”

ภาดานั่นเอง

“จะรีบไปไหน”

หล่อนมองหน้าเขาเขม็ง ยังพูดไม่ออก มองดูหน้าซื่อๆ ที่เห็น...แล้วหล่อนก็ฉวยแขนเขาเดินออกมานอกห้อง มีคำถามมากมายที่อยากจะถาม แต่เท่าที่ได้ยินเสียงตัวเองเล็ดลอดออกไปได้ก็คือ

“กานได้ยินเรื่องนึงมาจากห้องน้ำ ภาดาจะแต่งงานใช่ไหม”

หล่อนตาไม่ฝาดเมื่อเห็นสีหน้าผิดปกติของเขาแล้วก่อนที่เขาจะให้คำตอบ เขากลับส่งซองที่เขาถือมาในมือให้ หล่อนรับมาอย่างงงๆ ก้มลงมองดู แล้วก็รู้สึกเหมือนสิ่งที่ถือในมือเป็นของร้อนสุดขีดจนอยากจะโยนทิ้ง แต่มือกลับกำมันแน่นเข้า ริมฝีปากสั่นระริก

“การ์ดแต่งงานของผม”

เขาอ้อมแอ้มบอก มองหน้าหล่อนไม่เต็มตานัก เพราะยังไม่เลือดเย็นพอจะเข่นฆ่าหล่อนมากไปกว่านี้อีก แค่เห็นหยดน้ำตาวาววามอยู่ในดวงตาของหล่อน ภาดาก็ใจไหวยวบ

“กาน...ผมเสียใจ”

เขารวบรวมคำพูดออกมาได้เพียงเท่านั้น นึกภาวนาว่าอย่าให้หล่อนส่งเสียงกรี๊ดขึ้นมาตรงนี้เลย คำภาวนาของเขาก็ได้ผล เพราะกานพลูถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะถามเสียงเบาๆ

“มีอะไรจะให้ช่วยก็บอกนะ กานยินดี...”

หล่อนแสดงความมีน้ำใจออกไปมันหลุดไปโดยอัตโนมัติมากกว่า หัวสมองของหล่อนหมุนจี๋ตาพร่าพรายด้วยหยดน้ำตาที่ขึ้นมาคลอกลบ แล้วเขาก็นิ่ง หล่อนก็นิ่งงัน เงียบไปด้วยกันทั้งสองฝ่าย ในที่สุดกานพลูก็พยักหน้าน้อยๆ

“กานจะกลับบ้าน...” มือกำซองแน่นขึ้น “ดีใจด้วยนะ...ดีใจด้วย”

หล่อนเลื่อนบานกระจกกลับที่เดิมก่อนที่น้ำตาจะไหลพรากลงมาอาบแก้มให้เขาได้เห็น โผเผกลับมาที่โต๊ะทำงานโดยไม่ใส่ใจกับสายตาใครๆ อีกเลย หล่อนฟุบหน้าลงกับโต๊ะสะอึกสะอื้นจนตัวโยน กิริยาของหล่อนทำให้บุตราลุกจากเก้าอี้มาแตะไหล่หล่อนเบาๆ อย่างตกใจ

“กานเป็นอะไรไปน่ะ ร้องไห้ทำไม ไปทะเลาะกับภาดามาเหรอ”

กานพลูไม่ตอบแต่ส่งซองสีอ่อนๆ นั่นให้แทน บุตรารับไปเปิดดูเงียบๆ ก่อนจะนิ่งอึ้ง สอดบัตรเชิญเก็บเข้าซองไปตามเดิม

“นึกแล้วเชียว ไม่ช้าก็เร็ว เธอก็ต้องรู้เรื่องจนได้”

“หมายความว่าไง”

กานพลูเงยหน้าขึ้นมาหยดน้ำตายังเปรอะเปื้อนอยู่บนแก้มซีดๆ ไร้สีสัน “เธอรู้เรื่องนี้อยู่ก่อนแล้วใช่ไหม”

“เอ้อ...จะเอายังไงดีล่ะ อย่างนี้ก็แล้วกัน ทุกคนน่ะพอระแคะระคายกันหมดว่าภาดากับคุณเภรีจะแต่งงานกัน เรื่องของเรื่องมันเกิดอีตอนที่เธอลาพักร้อนไปสองอาทิตย์นั่นแหละ...คุณเภรีเขามาฝึกงาน ได้ใกล้ชิดกันมากๆ แล้วหลังจากนั้นเขาก็เล่นเกมซ่อนหากับเธอ”

“ทำไมไม่บอกฉัน”

“บางทีการบอกในเรื่องแบบนี้ ก็เท่ากับยื่นมือเข้ามาแส่มากกว่านะ...” ที่บุตราพูดก็ถูก “เรื่องของคู่รักนี่น่ะพูดมากไปก็เท่านั้น...ฉันก็เลยมองดูอยู่ห่างๆ จะดีกว่า”

“ผู้หญิงที่ชื่อเภรีนี่เป็นใคร”

“ลูกสาวของผู้จัดการฝ่ายบัญชี”

คำตอบนั้นทำให้กานพลูนิ่งอึ้ง

“ภาดาเขาคงอยากจะเรียนทางลัด เดี๋ยวนี้น่ะ กาน...ทางตรงมันไกล แล้วก็ไม่มีประโยชน์โภชน์ผลให้เห็น นอกจากทำงานสายตัวแทบขาดกว่าจะเก็บออมเงินได้ดังใจหวัง”

ริมฝีปากของกานพลูเม้มเข้าหากัน คำพูดของบุตราสะเทือนใจหล่อนไม่น้อยนักหรอก

“คงจะจริง เพราะฉันไม่มีอะไรสักอย่าง นอกเสียจากผู้หญิงตัวคนเดียว ไม่มีพ่อแม่ ไม่มีทรัพย์สมบัติ ที่ซุกหัวนอนทุกวันนี้ก็อาศัยพึ่งพิงป้าในบ้านหลังเล็กๆ มีแต่เงินเดือนรายเดือน กับเงินโบนัสอีกก้อนหนึ่งตอนปลายปี กับเฝ้ารอเงินงอกเงยในบัญชีที่เก็บออมไว้ เพื่อเป็นทุนรอนในการสร้างรังรักสักรัง...อนิจจา...มันแค่ความฝันจริงๆ รังที่ว่านั้นไม่มีการสร้างอีกแล้ว”

บุตราตบบ่าหล่อนเบาๆ เหมือนจะให้กำลังใจ

“ถ้าอยากร้องไห้ก็ร้องซะ พรุ่งนี้จะได้เข้มแข็ง มาเชิดหน้าสู้กับเขาได้ เอาอย่างนี้นะ กาน...เศร้าโศกน่ะก็อย่าเพิ่งรีบกลับไปบ้าน”

เพราะบุตรารู้ว่าที่บ้านนั้นไม่มีใครพอจะปลอบขวัญให้กับกานพลูได้ ป้าหล่อนเป็นหญิงม่ายมานานปี มีลูกสาวสองคนที่ล้วนแต่สวยสดและไม่เคยมีกานพลูอยู่ในสายตา ทุกสาวล้วนแล้วแต่เห็นกานพลูเป็นเบี้ยล่าง กับเรื่องนี้บุตราแน่ใจว่าจะหาคนที่เห็นใจกานพลูได้ยากเหลือเกิน

“ไปด้วยกันก่อนนี่มันวันศุกร์วันสุดสัปดาห์...ไปดื่มไปเต้นรำกันดีกว่า หาเรื่องทำไม่ให้ว่างซะ จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน”

กานพลูเงียบไปนานก่อนจะบอกเสียงแห้งๆ

“ก็ดี แต่ขอโทร. กลับไปบอกคุณป้าก่อน เดี๋ยวท่านจะห่วง...”

“แล้วก็จะโดนด่าด้วย”

บุตราต่อเติมให้อย่างรู้รายละเอียดในบ้านของกานพลูได้ดี หญิงสาวเลยยิ่งหน้าจ๋อย หล่อนรู้ว่าหากบอกว่าภาดาจะแต่งงานกับผู้หญิงอื่น ทั้งป้าทั้งพวกพี่ๆ ของหล่อนก็จะพากันพูดเหมือนๆ กันหมดว่า หล่อนไปทำผิดพลาดบกพร่องเข้าแล้ว เขาถึงเมินเลยมองข้ามหล่อนไปเสียฉิบ

“ไม่โทร. ดีกว่า” กานพลูบอกต่อเสียงเบาๆ “กลับไปเมื่อไหร่ก็ได้เห็น โดนด่าเสียทีเดียว ดีกว่าโทร. ไปบอกแล้วท่านไม่อนุญาต แต่ยังดันทุรังไป ก็ยิ่งโดนด่าหนักข้อไปอีก”

“ไปเติมสีสันหน้าตาหน่อยไป”

บุตราออกปากไล่ แต่กานพลูส่ายหัวดิก

“ถือเสียว่าฉันไว้ทุกข์ตั้งแต่วินาทีนี้ก็แล้วกัน...ไม่มีกะจิตกะใจจะไปเติมแต่งให้มันดูดีหรอก...”

“ตามใจ...แต่พอไปโดนไฟแล้วซีดเซียวเหมือนคนไข้หนัก ไม่มีไอ้หนุ่มคนไหนมองแล้ว ‘ปิ๊ง’ อย่ามานั่งเสียใจนะ”

“ฉันคงจะเข็ดผู้ชายไปอีกนาน”

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

user avatar
ลิขิตา Likita
ชอบมากค่ะ อยากอ่านมานานแล้วตั้งแต่ดูละครค่ะ
2025-06-28 05:34:17
0
user avatar
あ-や
ชอบค่ะ ในละครสะเทือนใจมาก(ฉากพระเอกทำร้ายนางเอก) จนอยากอ่านนิยายว่ามันเป็นอย่างไร
2025-06-25 18:27:17
0
21 Chapters
1 ฉันคงจะเข็ดผู้ชายไปอีกนาน
“ภาดากับลูกสาวเจ้านายนี่เหมาะสมกันดีจริงๆ นะ”เสียงนั้นอยู่ห่างเพียงแค่ประตูห้องน้ำกั้นเอาไว้เท่านั้นเอง กานพลูก็ได้ยินประโยคนั้นชัดก้องเข้าไปในหู อยากจะคิดว่าเป็นเรื่องของคนอื่นที่หล่อนไม่รู้จัก แต่ในออฟฟิศนี้มีผู้ชายกี่คนกันเล่าที่ชื่อ ‘ภาดา’ก็มีเพียงภาดาคนเดียวเท่านั้น ภาดาที่หล่อนรักจับใจหล่อนเสร็จธุระในห้องน้ำแล้ว รวบรวมกำลังใจให้เปิดประตูออกมายืนอยู่ตรงทางเดินแคบๆ ที่เป็นทางเดินระหว่างประตูห้องน้ำกับเคาน์เตอร์ยาวๆ ที่ฝังอ่างล้างหน้าไว้เป็นระยะๆ สามอ่างด้วยกันผู้หญิงสองคนที่ยืนล้างมือตรงเคาน์เตอร์นั้น คุ้นหน้าคุ้นตากับกานพลูดี แต่ไม่เคยพูดกันมาก่อนแล้วก็ทำหน้าเจื่อนๆ ไปด้วยกันทั้งสองคนเมื่อเห็นกานพลู ก็คนในออฟฟิศส่วนมากจะรับรู้กันว่าผู้หญิงที่เดินไปไหนมาไหนกับภาดามีแต่กานพลูนี่คนเดียวเท่านั้น แม้จะไม่มีการยืนยันเป็นทางการ แต่ก็เป็นที่รู้กันอีกนั่นแหละว่ากานพลูกับเขาจะแต่งงานกันเร็วๆ นี้ หลังจากสร้างเนื้อสร้างตัวได้แล้วหล่อนล้างมือเช็ดจนแห้งแล้วจึงเดินออกมาจากห้องน้ำ แข้งขาไม่สั่นมือไม่สั่น แต่กานพลูรู้ดีว่าหน้าของหล่อนปราศจากสีเลือดและใจก็เต้นรัวถี่อยู่ในอก อยากจะแล่นไปหาเขา
last updateLast Updated : 2025-04-06
Read more
2 ผมอยากอยู่คนเดียว
“เฮ้ย...” เสียงนั้นไม่เบานัก เมื่อออกแรงดึงเพื่อนหนุ่มออกมาจากที่นั่งในตอนหลัง “ลงมาก่อนซิวะ จะมานั่งหลบมุมในรถไม่ได้ มาถึงที่แล้วต้องเอาให้เต็มคราบ...”คนถูกดึงทำหน้ายู่ยี่ ลงมาจากรถอย่างไม่สู้จะเต็มใจสักเท่าไร ยิ่งมองกวาดตาเห็นผู้คนคลาคล่ำรวมไปถึงรถยนต์ที่จอดกันเป็นตับก็ยิ่งเบ้ปาก ทำท่าเอือมๆ“คนมากไป”“เออซิวะ” อีกฝ่ายตอบเสียงหนักๆ “นี่มันเธคชื่อดังของกรุงเทพฯ คนมันก็ต้องเยอะหน่อย...นายจะหาที่ไหนวะที่ไม่มีคนเลย ไม่ใช่ป่าช้านี่หว่า”พินิจนัยเงยหน้ามองดูป้ายชื่อบอกสถานที่ที่กะพริบตามแสงไฟวิบๆ วับๆ มองดูผู้คนที่แต่งตัวหลากสไตล์์ ก่อนจะก้มลงมองตัวเองที่เพียงแต่สวมเสื้อเชิ้ตตัวหลวมๆ กับกางเกงทรงหลวม รองเท้าแตะธรรมดาๆ เพื่อนเขาเหมือนจะอ่านใจเขาออก มองตามก่อนจะบอกว่า“สไตล์ง่ายๆ ยังงี้ก็ได้วะ ไม่แปลก...หน้าตานายก็ยังไม่แก่เท่าไหร่ รับรองว่าอย่างมากเด็กในโน้นก็จะเรียกนายว่าพี่ ไม่ถึงกับเรียกลุงหรือเรียกอาให้แสลงใจ”“ท่าทางนายจะเชี่ยว ชำนาญ...”“คนชอบกินไก่...ก็ต้องเสาะหาไก่กินให้ถูกที่ ไก่ที่นี่ไม่แพง รับประกันว่าปลอดโรค แถมยังเป็นไก่ประเภทชอบโก่งคอขันเจื้อยแจ้ว...”“ไก่ตัวเมียที่ไหนวะโก่ง
last updateLast Updated : 2025-04-06
Read more
3 ไม่เคยเห็นหรือไง อีหนู
“แม่กานยังไม่กลับมาเลย”หญิงวัยห้าสิบแปด ร่างท้วมตัดผมสั้น ใบหน้าค่อนข้างดุนั้นมีวี่แววบอกว่า เมื่อสาวจัดได้ว่าเป็นผู้หญิงสวยมากคนหนึ่งทีเดียว เอ่ยบ่นอย่างเคืองๆ“ดูซิ ดูเวลาซะก่อน เข้าไปตั้งจะเที่ยงคืนแล้ว ยังไม่เห็นหัว...หายไปไหน ไม่โทร. มาบอกกล่าวกันก่อน ชักจะเอาใหญ่แล้ว”นางหันหน้าไปทางประตูบ้าน และเลยไปยังรั้วที่เห็นอยู่ไกลๆ พ้นจากแนวไม้ที่ปลูกทึบจนให้ความร่มรื่นแก่ตัวบ้านเป็นอันมาก“กานมันเอาใหญ่มาตั้งแต่ทำงานได้แล้วล่ะค่ะ แม่” พรรณทิพา ลูกสาวคนใหญ่วัยสามสิบเป็นคนตอบ หล่อนเป็นสาวสวยยังประคับประคองความโสดเอาไว้ได้มั่นคง และมีความคิดไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับกานพลูญาติผู้น้องผู้ด้อยกว่าสักเท่าไหร่ “นี่คงจะดอดไปพร่ำพลอดรักกับนายภาดากระมังคะ”“แม่ก็เตือนมันแล้วนะว่าอย่าทำอะไรแบบนั้น” แล้วนางก็ถอนใจ “ที่สั่งสอนเอาไว้จะเป็นไงมั่งก็ไม่รู้นะ กลัวอย่างเดียว...ว่าจะเหมือนแม่มัน...”นางหมายถึงน้องสาวที่เสียชีวิตไปแล้ว หลังจากอุ้มท้องกลับมาบ้านหาพ่อเป็นตัวตนให้ลูกไม่ได้ แล้วพอคลอดกานพลูได้ไม่นาน สติสัมปชัญญะที่ค่อนข้างจะบอบบางอยู่แล้วก็สับสน เมื่อตอนกานพลูอายุได้ห้าขวบ แม่ของหล่อนก็ยังอยู่ในวัยสา
last updateLast Updated : 2025-04-06
Read more
4 ไก่ที่หิ้วติดมือมา
“กานหายไป...” บุตราพึมพำ หล่อนกวาดตามองหาเพื่อนเสียทั่ว หลังจากลงทุนไปควานหาในห้องน้ำหญิงทุกแห่งในนี้ แต่ไม่มีแม้เงาของกานพลู หล่อนหายเงียบไปเลย “หายไปไหนนะ” ผู้คนก็มากมายจนบุตราไม่แน่ใจว่าจะตามหาตัวกานพลูพบได้ง่ายๆ หรือไม่ “ดูซิ จนเข้าไปจะตีสองแล้ว”หล่อนมองดูเวลาแล้วก็ยิ่งกระวนกระวายใจ ก่อนไปห้องน้ำ กานพลูแก่ดีกรีไปแล้วไม่ใช่น้อยๆ เลย“เพื่อนคุณโตแล้วนะ บุต...”“โตแต่ตัวกับอายุหรอก เขาเคยมาแบบนี้เสียเมื่อไหร่กัน...แล้วก็เมาแอ๋ไปแล้ว”หล่อนหยิบกระเป๋าถือใบเล็กๆ ของกานพลูมาถือเอาไว้ เปิดดูในนั้นก็พบว่าอยู่ครบ นอกเสียจากกระเป๋าใส่เศษเงินใบเล็กๆ ที่กานพลูนิยมติดตัวไว้ในกระโปรง รองเท้าส้นสูงที่ใส่มาทำงานก็ยังอยู่ในรถ ที่ติดไปกับกานพลูก็คือรองเท้าแตะสานเตี้ยๆ ที่บุตราเอาใส่ไว้ในรถเท่านั้น แล้วกานพลูหายไปแห่งหนใดกันในสถานที่นี้“ถ้าพลัดหลงกับเรา บุตว่ากานพลูต้องแย่แน่ๆ จะกลับบ้านได้ยังไง”ประภัทรแทบจะสำลักเหล้าทีเดียวเมื่อได้ยินแบบนั้น“เพื่อนคุณน่ะโตแล้วนะ หลงทางกลับบ้านไม่ถูกก็อายเด็กสิบสี่สิบห้ามันแย่เลย”“คุณไม่รู้อะไร เอาละ...บุตจะลองลุกเดินๆ หากานเขาอีกสักรอบ ถ้าไม่เจอ...ก็เห็นจะต้อง
last updateLast Updated : 2025-04-06
Read more
5 ไปนอนกะผู้ชายมาใช่ไหม
เสียงเคาะประตูรัวๆ อยู่ด้านนอกเมื่อเขายังอาบน้ำซู่ๆ อยู่ในห้องน้ำ กว่าเขาจะมาเปิดประตูห้องออกรับ ภูษิตมีดวงหน้างอง้ำเพราะรอนานเกินไปสิ่งแรกที่ภูษิตทำเมื่อก้าวเข้ามาในห้องก็คือกวาดตามองเหมือนจะหาใครสักคน ครั้นไม่พบก็บุ้ยใบ้ไปในห้องน้ำ“อยู่ในนั้นหรือไงวะ”“ใคร...”“เอ๊ ยังมาถาม ก็อีสาวเมื่อคืน ไปไหนแล้ว...”พินิจนัยเดินไปหน้ากระจก ผมเปียกน้ำลู่แนบกับรูปศีรษะรูปทุยสวยเขาใช้ผ้าผืนเล็กที่เป็นของส่วนตัวโปะหัวขยี้แรงๆ ตอบหน้าตาเฉย“ไปแล้ว อย่าถามต่อนะว่าไปไหน ไม่รู้เหมือนกัน”“เท่าไหร่วะ”“อะไร เท่าไหร่”ภูษิตทำเสียงจิ๊กจั๊กอยู่ในคำ“เอ็งนี่มันชอบแกล้งโง่ซะเรื่อย ระวังเหอะ มันจะโง่เอาจริงๆ ของข้ามันเรียกคนละสามร้อย...แล้วรับปากว่าจะมาหาอีก เมื่อคืนน่ะนะ...มันสวยงามพิลึก...ไม่อยากให้ถึงเช้าเลย เด็กเดี๋ยวนี้มันเก่งจริงๆ นับถือว่าฝีมือมันดี นี่ขนาดพวกมือสมัครเล่นหรอกนะของเอ็งล่ะ พอสลัดชุดเชยๆ นั่นออก อีบรรเลงได้ถึงใจไหม”“ข้าว่าอีหนูของข้ามีแววว่าจะเข้าวงออเคสตร้าได้นะ เสียงก็ขนาดนักร้องอาชีพ แก้วหูยังร้าวอยู่เลย”“ถ้าเสียงดี ลำคอก็ต้องดี หมายความว่า...”ภูษิตตาลุก ชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ ทำตามี
last updateLast Updated : 2025-04-06
Read more
6 จะหาว่าฉันใจร้ายไมไ่ด้นะ
“ฉันไม่กล้าเข้าไป”บุตราบอกด้วยเสียงแห้งๆ หน้าแห้งไปด้วยเมื่อคนรักของหล่อนขับรถวนเวียนผ่านรอบบ้านคุณนายจันทร์เพ็ญเป็นรอบที่สามแล้ว“คุณป้าของกานเค้าเป็นคนดุมาก แล้วยังจะลูกสาวพวกเขาอีก ทุกคนไม่ชอบหน้ากาน เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาคงจะโวยวายกันน่าดู”เพราะบุตราไปดักรอกานพลูที่บริษัทแต่เช้า จนได้เวลางาน ก็ยังไม่เห็นวี่แววว่ากานพลูจะมาทำงาน รอต่ออีกสองชั่วโมงก็ยังไม่ได้เห็นกานพลูอีก จนทำให้บุตราชักจะแน่ใจว่า กานพลูคงไม่มาทำงานแน่แล้ว ลองแอบโทร. มาก็ได้ยินเสียงป้าหล่อนบอกกล่าวว่ากานพลูป่วย“ป่วยแค่ไหนก็ไม่รู้ บุตไม่กล้าจะซักไซ้ตอนโทร.เข้าไป” ก้มลงมองดูทั้งกระเป๋าถือ และรองเท้าของกานพลูที่ยังตกค้างอยู่กับหล่อน แล้วบุตราก็ตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้าย “พาบุตไปส่งที่บริษัทก่อนดีกว่า เดี๋ยวเย็นๆ ค่อยแวะมา...”แต่ไม่ทันถึงเย็น ภาดาก็แวะมาหาหล่อนที่ห้องคอมพิวเตอร์เสียก่อน สีหน้าท่าทางของเขาบ่งบอกถึงความร้อนใจ บุตรานั้นยังมีความเคืองขุ่นในตัวเขาอยู่กับการที่เขาช่างทำร้ายกานพลูได้อย่างเลือดเย็นเพียงนั้น“คุณป้าของกานโทร.มาหาผม”“นั่นทำให้บุตราหูผึ่ง”“มีเรื่องแปลกๆ คุณป้าบอกว่าเมื่อคืนกานไม่กลับบ้าน เพิ
last updateLast Updated : 2025-06-21
Read more
7 ใส่ตะกร้าล้างน้ำ
“แม่กานมันอกหัก...”ลูกสาวสองคนทั้งพรรณทิพาและภัสสร เงยหน้าขึ้นพร้อมๆ กันทีเดียว ภัสสรนั้นถึงกับหัวเราะออกมาก่อนจะทำเสียงเหมือนสมเพชเวทนาเต็มที่“ภัสบอกแล้วเชียวว่าจะไปกันไม่รอด คนของเราออกจืดชืด ผู้ชายที่ไหนเขาจะทนได้...พี่พรรณบอกภัสว่าเมื่อคืนกานหายไปทั้งคืน กลับมาตอนเช้า ชำระความกันหรือยังล่ะคะ”นางส่ายหน้า“ไปดูน้องแกก่อนเถิด นอนตาลอย ซมอยู่แต่บนเตียง ถามอะไรก็ไม่ยอมบอก แม้กระทั่งกับแม่บุตเพื่อนกันแท้ๆ แม่ลองสอบถามดูแล้ว แม่บุตก็อ้อมแอ้มชอบกลอยู่เอาไว้ให้อาการดีๆ กว่านี้อีกหน่อย”“ถามดีๆ เถอะนะคะ”พรรณทิพาแค่นเสียงออกมา หล่อนไม่ชอบหน้ากานพลูมาแต่ไหนแต่ไร เพราะจะข่มกานพลูได้ต่ำต้อยกว่าก็ไม่ตลอดรอดฝั่ง สิ่งที่กานพลูเหนือกว่าพรรณทิพาก็คือการเรียน เหมือนสติปัญญาทางการเรียนรู้จะชดเชยให้กับความบกพร่องด้านอื่นๆ เมื่อกานพลูล้มลง พรรณทิพาจึงไม่ได้หยุดคิดที่จะเห็นใจญาติผู้น้องเอาเสียเลย“ว่าแต่ก่อนที่ภาดาเขาจะตีจากไปนี่น่ะ เขาได้ไข่แดงแม่กานไปกินอร่อยปากเขาแล้วหรือยัง”คุณนายจันทร์เพ็ญนิ่งอึ้ง ยังไม่ทันจะตอบ ลูกชายคนเล็กก็เดินตัวปลิวเข้ามาเสียก่อน หนุ่มน้อยมองดูทุกคนก่อนจะเอ่ยปากถาม“ผมได้
last updateLast Updated : 2025-06-21
Read more
8 ลาคราวนี้จะเป็นการสูญเสียสิ่งใดอีก
“กาน...โอ๋...ไม่เอาน่า...ไม่ร้อง”พิบูลย์โอบกอดร่างของกานพลูเข้ามาแนบอก รู้สึกถึงน้ำตาของหล่อนที่ซึมผ่านอกเสื้อเข้ามาโดนผิวเนื้อ เมื่อรับรู้เรื่องทั้งหมดจากปากของหล่อนเอง กานพลูไม่ได้บอกใครนอกจากเขา ทั้งบ้านนี้มีแต่พิบูลย์คนเดียวเท่านั้นที่หล่อนวางใจว่าเขาเป็นมิตรแท้ “ร้องไห้ทำไมกัน ดวงตาหมดสวยกันพอดี”เขานี่แหละเป็นคนพูดว่าดวงหน้าทั้งหมดของกานพลูนั้นมีดวงตาเป็นสิ่งเด่น พิบูลย์จะหยิบเอาส่วนดีของหล่อนขึ้นมาชมเชยให้กำลังใจหล่อนเสมอๆ เพราะในบ้านนี้ทั้งพรรณทิพาและภัสสรเป็นสาวสวยหากจะเปรียบเทียบสองสาวเป็นความสุกสว่างของดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์แล้ว กานพลูก็เป็นเพียงแสงของหิ่งห้อยดวงน้อยๆ เท่านั้นเอง“เรื่องขี้ผง ใครบ้างไม่เคยอกหัก ริอ่านมีความรักแล้วก็ต้องหัดทำใจไว้รับความผิดหวังด้วย”หล่อนยังสะอื้นอยู่เบาๆ กระซิบถามเขาแผ่วๆ“แล้วผู้ชายคนนั้นล่ะ พี่บูลย์...” ซุ่มเสียงนั้นไม่แน่ใจกานพลูยังอ่อนเยาว์เกินไปสำหรับโลกกว้างๆ ภายนอกที่สกปรกโสมม สติปัญญาของหญิงสาวมีเฉพาะในตำรับตำราหรอก การเรียนรู้ชีวิตกานพลูยังเรียกได้ว่าอ่อนหัดนัก“กานไม่รู้ว่าทำไมไปลงเอยที่ห้องนั้นกับเขา...แล้วก็..เขาโป๊ด้วยไม่ม
last updateLast Updated : 2025-06-21
Read more
9 อยากแนะนำแม่เลี้ยงคนใหม่
“กานยังไม่มาทำงานอีกรึ”ภาดาถาม เขามีความสุขประสาชายหนุ่มที่ใกล้จะเข้าพิธีแต่งงาน แต่ความสุขที่บ่มอยู่ในใบหน้าของเขาก็ชวนให้บุตรามองดูอย่างขัดใจเป็นอันมาก เพราะอดคิดไม่ได้ว่าเพราะผู้ชายคนนี้แหละ ที่มีส่วนผลักดันให้กานพลูไปพบกับ ‘อุบัติเหตุ’ ของชีวิตเข้าอย่างจัง“ยังมีแก่ใจถามถึงกานอีกนะ” หล่อนไม่ละเว้นให้ “กานคงจะสะบักสะบอมมากหน่อย”“จะไปเยี่ยมกานอีกหรือเปล่า”บุตราส่ายหน้า“ฉันรู้ว่าไปพูดปลอบใจกานตอนนี้ ก็เหมือนการซ้ำเติมกานอีกเท่านั้น สู้ไม่พูดอะไรซะเลยดีกว่า”แล้วบุตราก็หันไปทางอื่น ทำเหมือนกับว่าภาดาไม่มีตัวตนอยู่เบื้องหน้าหล่อนอีกต่อไป ทำให้ภาดาหัวเราะออกมาอย่างเก้อๆ แล้วก็ถอยหลบไปเหมือนกัน รู้ดีว่าขืนหากยืนอยู่ต่อไป บุตราอาจจะพูดให้เขาได้อายแน่นอนเขายังห่วงใยกานพลู ความรักที่บ่มตัวสร้างสมกันมานานปี ระหว่างเขากับหล่อนไม่ใช่เรื่องที่จะสะบั้นลงได้ในพริบตาเดียว เภรีเองก็เข้าใจเขาในเรื่องนี้ เมื่อเขาพูดถึงความรักของเขากับกานพลูให้หล่อนฟัง เขาอยากให้กานพลูได้เข้าใจเขาด้วยเหมือนกัน ดีเสียกว่าแยกทางกันด้วยการไม่เข้าใจจนวันหน้ามองหน้ากันอีกไม่ได้แล้วและเขาก็ไม่รู้ด้วยว่า ตอนนี้กานพลูไม
last updateLast Updated : 2025-06-21
Read more
10 ป้าอยากดให่้หนูแต่งงาน
“คุณพักห้องนี้”คุณจินดาเปิดประตูห้องเข้าไปก่อน บ้านหลังนี้เป็นเรือนไม้สักหลังใหญ่ อายุของบ้านนั้นไม่ต้องพูดถึงกันเลย ดูจากไม้กระดานแต่ละแผ่น วิธีการเข้าไม้แบบโบราณที่ตอกเป็นลิ่มแทนการใช้ตะปูก็บอกได้ว่า นอกเหนือจากราคาของวัสดุแล้ว ยังประมาณค่ามิได้อีก ทางด้านฝีมือหญิงสาวยกเท้าก้าวข้ามธรณีประตูที่สูงขึ้นมา เข้าไปยืนอยู่ในห้องที่ดูมืดทึมเพราะหน้าต่างไม่ได้เปิดเอาไว้ การระบายอากาศจึงยังไม่สู้จะดีนัก หญิงสาวได้กลิ่นอับของห้องอีกด้วย“คุณป้าของคุณจะพักอีกห้องหนึ่งทางโน้น”คุณจินดาเดินไปเปิดหน้าต่างห้อง เป็นหน้าต่างแบบเก่าที่ใช้ขอสับเกี่ยวเอาไว้ ลมโกรกเข้ามาทันทีที่แสงสว่างลอดผ่านเข้ามาได้ แต่กานพลูกำลังให้ความสนใจกับเตียงนอนกลางน้องนั่นมากกว่าเป็นเตียงทองเหลืองขนาดใหญ่ มีเสาตรงหัวมุมทั้งสี่มุมขึ้นไปสูงเพื่อรับกับมุ้งผ้าโปร่งบางหล่อนกะพริบตาปริบๆ มองดูเคยเห็นอยู่บ้างหรอกกับเตียงนอนและเครื่องนอนสไตล์นี้ในภาพยนตร์และในหนังสือพวกแบบบ้าน แต่ไม่เคยคิดว่าจะได้มานอนในบรรยากาศแบบนี้“เดี๋ยวดิฉันจะให้เด็กมาจัดเสื้อผ้าให้”กระเป๋าเสื้อผ้าของหล่อนมาวางเตรียมพร้อมอยู่แล้ว“ถ้าคุณจะอาบน้ำก็เชิญทางนี้
last updateLast Updated : 2025-06-21
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status