อะไรนะ เดินทางวันมะรืนนี้.. นี่ก็เท่ากับว่าเธอจะมีเวลาเตรียมตัวไปเชียงรายแค่วันเดียวและทุกอย่างไม่ว่าที่พัก สถานที่ทำงานรายละเอียดของงานก็พร้อมสำหรับการเริ่มงานทันที นั่นคือเมื่อไปถึงทุกอย่างจะพร้อมสำหรับเธอ แต่ว่ามันเร็วไปไหม.. ใครจะเตรียมตัวทันไปซ้ำเธอยังต้องทำงานที่นั่นตั้งเกือบห้าเดือน แล้วงานทางนี้ล่ะ หญิงสาวคิดอย่างกังวล จริงอยู่แม้ว่าบ้านเกิดครอบครัวของตนจะอยู่ที่นั่น แต่เธอก็ยังอยากหาประสบการณ์ในการทำงานในเมืองกรุงแห่งนี้ก่อนอีกสักปีหรือสองปีนี่ก่อนจะกลับไปทำงานที่บ้านเกิดของตนจริงๆ มุกรวีก็เหมือนๆ กับสาวน้อยทั่วไปที่พอเรียนจบก็อยากทำงานในเมืองกรุงเพื่อหาประสบการณ์หรือเพราะยังติดความศิวิไลซ์ในเมืองหลวงของไทย...
“ไม่ต้องห่วง งานทางนี้มีคนทำหน้าที่แทนคุณ และหากเมื่อคุณกลับมาคุณก็จะต้องเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่ต้องห่วงงานทางนี้” เขาพูดเหมือนมานั่งอยู่ในใจเธอ
“แต่ว่า เอ่อ มันเร็วไปไหมคะ คือไข่มุก เอ๊ย ดิฉันตั้งตัวไม่ทันและไม่ทันได้เตรียมตัวอะไรเลย”
“สรุปคือคุณจะไม่ไป”
“เอ่อ คือ ไม่ใช่ค่ะ แหม โอกาสดีๆ แบบนี้มาถึงใครจะไม่ไปล่ะคะ เพียงแต่ดิฉันไม่ทันได้เตรียมอะไรก็เท่านั้น”
“ไม่ต้องเตรียมอะไรหรอกคุณไข่มุก เพราะที่นั่นมีทุกอย่างพร้อมสำหรับคุณ” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงปรกติ พิศมองใบหน้าหวานซึ้งดวงตากลมโตสุกใสของหญิงสาวตรงหน้าอย่างหมายมาดโดยที่มุกรวีไม่ทันได้เห็นเพราะมัวแต่ก้มอ่านเอกสารตรงหน้า...
เธอทำให้เขาร้อนรุ่มโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย ให้ตายสิ แค่มองก็ทำให้เลือดร้อนๆ และความปรารถนาก็แล่นพล่านไปทั้งกาย อีกทั้งกลิ่นหอมอ่อนๆ จากกายสาวซึ่งเขาไม่เคยได้กลิ่นจากกายของผู้หญิงไหนนั่นอีกมันทำให้เขาอยากคลุกเคล้าดอมดม ผิวขาวเนียนละเอียดเปล่งปลั่งดูยวนยั่วให้สัมผัส... เขาอยากรู้นักว่ามันจะเนียนนุ่มมือเพียงใด ไอศูรย์คิดขณะมองหญิงสาวที่มัวแต่สนใจเอกสารในมือ...
i
“เอ่อ ท่านประธานคะ จะเดินทางไปพร้อมดิฉันจริงๆ หรือคะ” มุกรวีเอ่ยถามชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ซึ่งยืนอยู่ข้างๆ และใกล้จนได้กลิ่นกายของบุรุษเพศซึ่งก่อกวนจิตใจให้ไหวหวามอย่างน่าละอาย
หากได้สูดกลิ่นของเขาแบบชิดใกล้กว่านี้จะรู้สึกอย่างไรนะ... เธอบ้าไปแล้วยายไข่มุกคิดแบบนี้ได้อย่างไร หญิงสาวเอ็ดตัวเองในใจพลางเงยหน้ามองร่างสูงใหญ่ของเขาซึ่งข่มให้เธอดูตัวเล็กลงโดยปริยาย และชายหนุ่มข้างๆ นี้ก็ทำให้มุกรวีรู้สึกเหมือนยืนข้างยักษ์ใหญ่เพราะตอนนี้เขาหน้าบึ้งตึงเหมือนยักษ์ที่กำลังหิวอย่างไรอย่างนั้น แต่มุกรวีไม่อาจรู้ตัวหรอกว่าตนนั้นคิดถูกแล้ว เพราะไอศูรย์เป็นยักษ์ซึ่งพร้อมจะเขมือบเนื้อหวานๆ ของเธอนั่นล่ะ…
“ใช่.. หรือว่าคุณมีปัญหา แล้วผมเคยบอกแล้วใช่ไหมว่า ให้เรียกผมว่าอย่างไร”
“คือ ดิฉัน ไข่มุก...” หญิงสาวอึกอักแล้วยิ่งต้องเบิกตาโตเมื่อเขาฉวยข้อมือเล็กของตนให้เดินตามเขาไปยังรถยนต์คันหรูรุ่นใหม่ล่าสุดซึ่งมาจอดรับถึงหน้าบ้านพักหลังเล็กซึ่งเธออยู่กับเพื่อนรักสองคน
“เฮ้ย ไข่มุกจะไปไหนน่ะ แล้วนายนั่นเป็นใคร หยุดนะโว้ย นั่นแกจะพาเพื่อนฉันไปไหนปล่อยเพื่อนฉันนะไอ้พวกมาเฟียข้ามชาติ..” เสียงร้องโวยวายของ อรอลิน เพื่อนรักซึ่งเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กที่เพิ่งตื่นแล้วลงมาหาน้ำดื่มแล้วเห็นว่าเพื่อนรักกำลังถูกผู้ชายจับจูงไปหน้าตาเฉยก็เกิดตกใจคิดว่าเพื่อนรักจะถูกฉุดลักพาตัวก็ร้องโวยวาย ร่างบางในชุดนอนกางเกงลายการ์ตูนโดเรมอนตรงเข้าหยิบร่มคันใหญ่ใต้บันไดแล้วปรี่เข้าไปหาร่างสูงของผู้ชายคนนั้น ตั้งใจจะฟาดผู้ชายแปลกหน้าร่างสูงใหญ่ที่กำลังจูงมือเพื่อนรักของตนไปยังรถยนต์คันใหญ่ซึ่งติดเครื่องรออยู่โดยไม่สนใจอะไร ตอนนี้อรอลินต้องการเพียงปกป้องเพื่อนรักเท่านั้น
“อลิน อย่า...” มุกรวีหน้าตื่นหันมามองเพื่อนรักที่วิ่งเข้ามาหาอย่างหมายมาดศีรษะของไอศูรย์ด้วยความตกใจและเป็นห่วงเพื่อนรัก ในขณะที่อรอลินเงื้อมือขึ้นสูงเพื่อจะฟาดร่มลงบนศีรษะของไอศูรย์ ร่างสูงใหญ่ของมาร์โคก็เข้ามาขวางอย่างทันท่วงทีพร้อมกับมือหนาคว้าร่มในมือของอรอลินไว้แล้วกระชากอย่างแรงจนร่มหลุดมือและทำให้อร อลินเสียหลักล้มก้นกระแทกพื้นอย่างจัง
“โอ้ยย ไอ้หมาฝรั่งบ้า แกทำร้ายฉันทำร้ายเพื่อนฉัน ฉันจะแจ้งความจับแกแน่ๆ” อรอลินลุกขึ้นด้วยความฉุนเฉียวมือหนึ่งลูบก้นงอนของตนเองป้อยๆ อีกมือก็ชี้หน้ามาร์โคอย่างเจ็บใจ แม้ว่าตัวเองจะตัวเล็กกว่าอีกฝ่ายมากมายนักก็ตาม
“อลิน เดี๋ยวก่อนๆ เอ่อ คุณมาร์โคคะ อลิน หยุดก่อนๆ” มุกรวีสะบัดมือหลุดจากมือหนาของไอศูรย์ก็รีบวิ่งมาขวางระหว่างหญิงชายทั้งสอง
“อะไรเล่าไข่มุก อย่ามาขวางน่าอลินจะจัดการมัน ไอ้พวกมาเฟียข้ามชาติพวกนี้มันคิดว่าบ้านนี้เมืองนี้เป็นของมันรึไงวะ เข้ามาสิโว้ยแม่จะชกให้หน้าหงาย”
“โธ่ อลินฟังก่อน นะๆ” มุกรวีพยายามขวางร่างเล็กๆ ของเพื่อนรักซึ่งทำท่าจะโผนเข้าหามาร์โคบอดีการ์ดหน้าเข้มของไอศูรย์ซึ่งกอดอกยืนมองคนตัวเล็กที่เต้นเหยงๆ ทำท่าจะเข้ามาทำร้ายเขาด้วยความขบขันแต่ใบหน้าของมาร์โคแสดงออกมาเพียงความเรียบเฉย
ยายเปี๊ยกเอ๊ย ตัวเท่าลูกแมวแต่ทำท่าราวกับแม่เสือหวงลูกตัวแค่นี้จะทำอะไรเขาได้ มาร์โคคิดในใจ...
“นี่คุณมาร์โคเป็นบอดีการ์ดของเจ้านายไข่มุกเองนั่นไงยืนอยู่ตรงโน้น...นั่นคือคุณไอศูรย์เป็นเจ้านายของไข่มุกเป็นท่านประธานใหญ่ด้วย แล้วนี่คืออรอลินเพื่อนของฉันค่ะคุณไอศูรย์ คุณมาร์โค”
“อ้าว ก็ๆ...”
“คือว่าไข่มุกกำลังจะไปทำงานแล้วจะต้องไปประจำอยู่ที่สาขาของโรงแรมในเครือบริษัทซึ่งจะเปิดใหม่ที่เชียงรายไข่มุกเห็นอลินยุ่งๆ แล้วไข่มุกเองก็มัวแต่เก็บของเลยลืมบอก ขอโทษด้วยนะจ๊ะ” มุกรวีบอกเพื่อนรักเบาๆ พลางหันมายิ้มให้ชายหนุ่มทั้งสองที่ยืนมองพวกเธอเงียบๆ ด้วยสายตาอ่านไม่ออก
ตอนที่94. อวสาน“นี่แนะๆ เด็กช่างซัก” ไอศิยาซุกไซ้จมูกกับพวงแก้มยุ้ยๆ ของลูกสาวจนแม่หนูน้อยหัวเราะคิกคักอย่างถูกอกถูกใจ“เอ่อ คุณหนูซินดี้ครับ” เสียงเควินเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจครอบครัวสุขสันต์“มีอะไรคะพี่เควิน”“ให้ผมช่วยดูแลน้องเวียงพิงให้ไหมครับ น้องเวียงพิงครับอยากไปหาพวกพี่ๆ ไหมครับ คุณลุงเควินสุดหล่อจะพาไป” ชายหนุ่มเอ่ยขอและชักชวนหนูน้อยพลางพยักพเยิดไปทางพี่ๆ และหนูน้อยเวียงพิงก็พยักหน้าทันทีพร้อมกับกางแขนป้อมๆ ไปหาลุงเควินสุดหล่อ“ไปๆ พิงจาไปหา ปี้จาย ปี้ร้าก” แล้วเควินก็อุ้มน้องเวียงพิงไปหาพี่ๆ ซึ่งกำลังเล่นขี่ม้าลุงมาร์โคอย่างสนุกสนานทันที เคียงภูหันมามองภรรยาคนสวยด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ และนึกขอบคุณเควินที่เข้ามาได้จังหวะพอดี“ว้ายยย...พี่ภูจะทำอะไรคะ” ไอศิยาร้องอย่างตกใจเมื่อจู่ๆ สามีสุดหล่ออุ้มเธอขึ้นแนบอก แต่เมื่อเงยหน้าสบตาสามีจอมเจ้าเล่ห์แล้วไอศิยาก็ต้องก้มหน้างุดอย่างขัดเขิน“คนบ้า...”“บ้าก็บ้ารักน้องซินดี้คนเดียวนั่นล่ะครับ”“ไม่น่ารักคนแก่จอมหื่นเลย” เธอเอ่ยเสียงเบาเมื่อสามีวางร่างเธอลงบนเตียงกว้างในห้องนอนแสนสวยของบ้านพักริมหาดอันงดงาม“แล้วรักมากไหมครับ”“ค่ะ รักมาก”ไอศิ
ตอนที่93.“ไอรักไข่มุกที่สุด และรักลูกๆ ของเรามากไอบอกไข่มุกรึยังนะ” เขาเอ่ยเสียงพร่าชิดแก้มแดงปลั่งอย่างแสนรัก“ค่ะไอบอกแล้ว ไข่มุกก็รักไอมากที่สุดและรักลูกๆ ของเรามากเหมือนกัน”“นับจากนี้เราจะรักกันทุกวันนะครับ” ชายหนุ่มพูดเข้าทางตนเองหน้าตาเฉยขณะเล้าโลมร่างงามอย่างไม่ปล่อยให้เธอได้มีเวลาคิด ริมฝีปากหยักสวยก็เคล้าคลอดูดดื่มหยอกเย้าริมฝีปากระเรื่อด้วยความเร่าร้อนหิวกระหาย เขาจุมพิตเธอเหมือนว่าห่างหายจากจุมพิตมาแสนนานนับปี ก่อนจะค่อยๆ แทรกกายแกร่งเข้าสู่ความอ่อนนุ่มชุมชื้นที่พรักพร้อมของเธอ แล้วจับจูงมือบางไปเที่ยวชมวิมานแห่งรักที่เขาถักทอขึ้นเพื่อเธอเพียงผู้เดียวอย่างสุขสม...งานแต่งงานของไอศูรย์กับมุกรวีถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ในเวลาสองปีถัดมาบนเกาะส่วนตัวของมาร์โค ซึ่งเขาได้รับมรดกจากผู้เป็นตาที่มอบให้เขาก่อนท่านจะเสียชีวิตจึงทำให้ในตอนนี้มาร์โคไม่ใช่เพียงเศรษฐีหนุ่มทายาทคนโตของควินซ์ กัสซินี่เท่านั้น หากแต่เขายังเป็นทายาทคนเดียวของ เดล ซาปาเตโน ตระกูลดังมั่งคั่งร่ำรวยอีกหนึ่งตระกูลของสเปนงานแต่งงานเรียบหรูที่มีรูปบ่าวสาวพร้อมลูกๆ วัยสองขวบครึ่งอยู่ในภาพแต่งงานนั้นดูอบอุ่นและอบอว
ตอนที่92.ภาพทารกตัวแดงยับย่นที่แผดเสียงร้องไห้จ้านั้นก็ตรึงตาตรึงใจของผู้เป็นบุพการีทั้งสองอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ น้ำตาแห่งความปลื้มปีติของผู้เป็นพ่อแม่ไหลซึมขอบตาเมื่อพยาบาลทำความสะอาดร่างกายทารกน้อยทั้งสองแล้วก็นำเด็กๆ มาให้คุณพ่อคุณแม่ได้ชื่นชมและให้เด็กน้อยทั้งสองได้ดูดดื่มน้ำนมหยดแรกจากจากทรวงอกของมารดา แค่เห็นทารกตัวแดงๆ เมื่อแรกเกิดซึ่งทุกๆ ส่วนที่ประกอบขึ้นเป็นทารกน้อยก็บอกได้ทันทีว่าเด็กทั้งสองนั้นจะเป็นลูกของใครไปไม่ได้นอกจากลูกของเขา ไอศูรย์ อเล็กซิโอ กัสซินี่ กับมุกรวี กัสซินี่เท่านั้นมือบางสั่นระริกของมุกรวีไล้แก้มใสๆ ของทารกน้อยทั้งสองที่กำลังหลับตาพริ้มดื่มกินน้ำนมจากอกของตนอย่างตื้นตันใจในขณะที่ไอศูรย์เองก็รู้สึกไม่แตกต่างกัน เขาเฝ้ามองปากน้อยๆ นั้นดูดดื่มน้ำนมอย่างหิวหระหายด้วยความรักมือหนาโอบร่างของคนทั้งสามไว้อย่างสุดแสนรักสุดหัวใจ...“ขอบคุณนะครับที่รัก ขอบคุณที่ให้ลูกที่น่ารักกับผม...ลูก...ลูกๆ ของเรา” ชายหนุ่มจุมพิตหน้าผากมนเบาๆ ใบหน้าหล่อเหลายิ้มกระจ่างด้วยความยินดี“ค่ะลูกเรา ลูกของเรา...” มุกรวีกล่าวด้วยน้ำตานองหน้า หากแต่เป็นน้ำตาแห่งความปลาบปลื้ม ความเจ็บป
ตอนที่91.“ว่าไงจ๊ะ ที่รัก” เคียงภูยั่วเย้า ดวงตาคมกรุ้มกริ่ม มองภาพนางฟ้าน้อยๆ ที่นั่งหน้าแดงก่ำอยู่ตรงหน้าอย่างแสนรัก“อ้าว.. นี่พี่ภูมีเมียเป็นใบ้รึไงน้า...”“คนบ้า...” สาวน้อยค้อนให้สามีซึ่งยิ้มยั่วใส่ตาพลางหลบริมฝีปากและจมูกคมที่ฉกวูบเข้ามาใกล้จนเคียงภูพลาดที่จะจุมพิตแก้มนวล แต่ได้จุมพิตเรือนผมสลวยแทน หากชายหนุ่มก็เกี่ยวรัดร่างบางไว้ในอ้อมแขนแนบแน่น“สายแล้วนะครับ น้องซินดี้ไม่หิวเหรอ”“ตายแล้ว กี่โมงแล้วคะ”“จะสิบโมงแล้วจ้ะที่รัก” เขาตอบพลางไล้เรือนผมสลวยเล่นอย่างเพลิดเพลินไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยให้เธอได้ห่างหายจากอ้อมกอด และไอศิยาก็ได้พบว่าเขาอาบน้ำแล้วและแต่งกายอยู่ในชุดลำลองสบายๆ“เอ่อ พี่ภูปล่อยน้องซินดี้สิคะ น้องซินดี้อยากอาบน้ำ” เธอบอกในขณะที่กอดผ้าห่มแนบกายแน่นเพื่อหลบเลี่ยงสายตาวาวๆ ของเขาที่มองมาด้วยความปรารถนาที่ปิดไม่มิด“ก็ไปสิจ๊ะ มาเดี๋ยวพี่พาไป”“มะ ไม่ต้องค่ะ น้องซินดี้จะไปเอง” เธอรีบบอกปัดเมื่อคนตัวโตทำท่าจะช้อนร่างเธออุ้มเข้าห้องน้ำอย่างปากว่าจริงๆ แต่คำพูดต่อมาของเขายิ่งทำให้เธอหน้าร้อนด้วยความขัดเขิน“เชื่อพี่เถอะว่าน้องซินดี้ต้องการความช่วยเหลือจากพี่ เพราะเมื่อ
ตอนที่90.หลังจากน้ำชำระร่างกายเสร็จแล้วเจ้าบ่าวหมาดๆ ก็เดินมาชะโงกหน้ามองเจ้าสาวแสนสวยซึ่งแกล้งนอนหลับอย่างขบขันเจ้าสาวผู้กลัวฝน เปลือกตาบางขยุกขยิกเหมือนระแวงนั้นน่ารักน่าเอ็นดูนัก“อืม นอนเร็วจัง เหนื่อยมากเหรอจ๊ะน้องซินดี้..” ชายหนุ่มแกล้งถามชิดแก้มนวล ลมหายใจร้อนๆ เป่ารดแก้มใสจนคนที่แกล้งหลับนอนใจสั่นและไม่สามารถควบคุมร่างกายที่ตื่นเร้าเพราะมือและริมฝีปากร้อนๆ ซึ่งแกล้งขบใบหูบางอย่างหยอกเย้า จนขนอ่อนในร่างกายลุกชัน“ไม่ตอบสงสัยหลับจริงๆ แบบนี้เราก็ลักหลับเจ้าสาวได้ล่ะสิ” ไม่พูดเปล่ามือหนาก็ยังแกล้งสอดเข้าไปใต้ผ้าห่มนุ่มและลูบไล้บั้นเอวบางแผ่วๆ และมันก็ได้ผลเมื่อคนที่หลับตานิ่งอยู่นั้นลืมตาทันทีและหันมามองเขาตาเขียว“อะ...อุ๊บส์...” ยังไม่ทันที่เจ้าสาวจะได้เอ่ยอะไร เจ้าบ่าวที่จ้องจะพาเจ้าสาวเข้าหอก็ประทับจุมพิตเร่าร้อนลงบนกลีบปากงามทันที ลิ้นร้อนผ่าวดูดกลืนทุกอณูเนื้อหวานล้ำจากริมฝีปากสาวมือก็ไม่หยุดสร้างความปั่นป่วนให้เรือนกายสาวน้อยซึ่งบัดนี้เปล่าเปลือยโดยที่เธอเองไม่ทันได้รู้ตัว และเมื่อไอศิยารับรู้ว่าตัวเองเปลือยเปล่าก็พบว่าคนตัวโตที่กำลังมองเธอด้วยแววตาหวานล้ำนั้นก็ไม่มีเสื้อ
ตอนที่89.“คุณก็ตั้งแง่กับพ่อภูเขาเกินไป ทีคุณทำกับแอนนี่ยิ่งกว่านี้อีกทำไมไม่คิดบ้างล่ะคะ พ่อภูเขายังเป็นสุภาพบุรุษกล้าทำกล้ารับ ซ้ำยังรักษาเกียรติไม่ล่วงเกินน้องซินดี้มากไปกว่ากอดจูบประสาคนรักกันก็ดีเท่าไหร่แล้ว ผิดกับคนแถวๆ นี้กับลูกชายเขานะคะ ปากหนักแถมท่ามากจนเกือบเป็นเรื่อง”“โธ่ แอนนี่ล่ะก็”“มันจริงไหมล่ะคะ..” คุณอรสามองสามีตาเขียวและคุณควินซ์ก็ต้องเข้ามากอดร่างซึ่งยังคงความงามมิสร่างนั้นอย่างเอาใจแต่มิวายจะโอดครวญน้อยๆ เมื่อภรรยาอ้างถึงเรื่องเก่าคราวหลัง“เราก็แก่ลงทุกวันนะคะ เอาชนะคะคานกันไปก็ลูกหลานเราเองที่เป็นทุกข์” คุณอรสาปลอบสามีกลายๆ“ก็ผมแค่หมั่นไส้ไอ้ลูกเขยที่รักของคุณเท่านั้นล่ะ”“ก็คนมันเหมือนกันไงคะ พอเจอคนที่เหมือนกันก็เลยเขม่นกัน รับไม่ได้”“ครับผมยอมรับผิดแล้วครับ ให้ลูกแต่งงานอาทิตย์หน้าก็ได้”ในที่สุดคุณควินซ์ก็ยอมแพ้และเมื่อสิ้นคำพูดนั้นเสียงเฮของลูกๆ ก็ดังลั่น พร้อมกับร่างสูงของเคียงภูวิ่งถลามากอดว่าที่พ่อตาอย่างดีใจจนลืมตัว ส่วนว่าที่พ่อตาก็ได้แต่หน้าแดงจัดเพราะขัดเขินลูกๆ ที่ก็ต่างพากันยิ้มล้อเลียน แต่ทุกคนต่างก็มีความสุขและคนที่เป็นสุขออกนอกหน้ามากกว่าใค