Home / โรแมนติก / หลงเด็กบำเรอใจ / 5.อาจเป็นโชคชะตา

Share

5.อาจเป็นโชคชะตา

last update Last Updated: 2025-05-22 16:34:22

วัดแห่งหนึ่งในเมืองท่องเที่ยว

เช้าวันใหม่เมฆเลื่อนคล้อยกาลเวลา ใบไม้ปลิดปลิวไสวเอนโน้มกิ่งไปมาตามธรรมชาติ ลมอ่อนพัดโชย 

ภาพถ่ายสีขาวดำชายผู้ชรา ป้ายบอกชื่อ วันชาตะและมรณะ ควันธูปลอยอบอวนตามลม ดอกไม้ ทั้งของกิน

ตามความเชื่อที่ว่านำมาไหว้แล้วจะส่งถึงผู้ตาย

"ตาจ๋า"เพียงแค่เอ่ยถึงร่มโพธิ์ร่มไทรที่เคยให้ร่มเงาบังแดดลมฝนในยามอ้างว้าง

ความกดทับแน่นจุกในอก หยาดน้ำตาร่วงเผาะราวกับเม็ดไข่มุกล้ำค่า

"หนูอาจจะต้องทำผิดคำสัญญาที่เคยให้ไว้"

"ตาบอกเสมอ ศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงเก็บไว้ให้สามีในวันแต่งงาน"

"เพื่อพระจันทร์ หนูจะต้องทำมันเพื่อแลกกับเธอ"

"ยายได้รับการผ่าตัดแล้วนะคะ"

"หนูบอกตาแล้ว ถ้าเกิดวันหนึ่งยายจับได้ว่าหนูไม่เชื่อฟังตาต้องช่วยจันทร์เสี้ยวด้วยนะจ๊ะตา "

"หนูคิดถึงตาเหลือเกิน"

ความขับค่องหมองใจพลุ่งคลื่นออกมาอีกระลอกหนึ่ง

สุสานเงียบงัน มีเพียงเสียงใบไม้ไหวกับกลิ่นควันธูปที่พัดผ่านหัวใจให้ปวดหนึบ นอกจากผู้ปฏิบัติธรรมที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย และคนเฒ่าแก่ชราถึงจะมานั่งณ สถานที่แห่งนี้ แต่ฉไหนเลยถึงได้มีเสียงใสของเด็กสาว

อีกมุมหนึ่ง

ทุกวันพระใหญ่หรือวันสำคัญต่าง ๆ คุณยายดวงแก้ว มักจะมาทำบุญให้สามีผู้ล่วงลับเสมอ ทุกครั้งหลังจากทำบุญเสร็จ ก็มักจะมานั่งสมาธิเป็นเพื่อนตา บ่อยครั้งที่ได้ยินเสียงเด็กสาวคุยกับผู้ล่วงลับ

บางครั้งเล่าเรื่องราวดี ๆ บางครั้งปรับทุกข์ แต่ครั้งนี้เธอพูดพลางร้องไห้กับทุกประโยคที่กล่าวออกมา

"โถ แม่หนูช่างน่าสารเสียจริง"

ความสลดสังเวชใจ ยายดวงแก้วไม่อาจครองใจอยู่ในสมาธิได้อีกต่อไป

การมองผู้อื่นมันเป็นเรื่องที่เสียมารยาทมาก ตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณยายไม่เคยคิดจะทำ

แต่ครั้งนี้ไม่อาจทนดูเพื่อนมนุษย์ตกทุกข์ได้ยาก

หากเรื่องราวที่เด็กสาวพูดทั้งหมดเป็นเรื่องจริง เธอเป็นเด็กใช้ได้คนหนึ่ง คุณยายรู้สึกทั้งชื่นชมในความดี ทั้งระคนสงสารที่ชีวิตเด็กคนหนึ่งต้องแปดเปื้อน

เด็กสาวใบหน้าแลดูคุ้นเคย สายตาฝ้าฟางมองไม่ถนัดมือขยับแว่นมองอีกที 

เด็กคนนั้น!

คุณยายจำเธอได้

ในวันที่ทุกคนแสนยุ่งคุณยายเดินทางมาทำบุญไร้เงาคนดูแล เธอเด็กสาวผู้น่ารักทั้งที่ไม่รู้จักกันแต่อาสาช่วยขนของเบาแรงคนแก่

วันแรกนาขวัญ

เป็นวันสำคัญคุณยายมาวัดเช่นเคย วันมหามงคลใหญ่ คุณยายนำของมาทำบุญเยอะเสียจนขนเองไม่ไหว ทั้งใส่บาตรและแจกในโรงทาน

"หนูช่วยค่ะคุณยาย"

เสียงใสใบหน้าเบิกบานช่วยขนต้นเทียน สังฆทาน ผลไม้ ขนมไทย นม อาหารคาว 

"อันนี้คืออะไรเหรอลูก"

"เป็นชุดธูปเทียนพร้อมแผ่นทองค่ะ"

"หนูทำมาถวายวัด"

"น่ารักจังลูก เดี๋ยวนี้เลยคนหนุ่มสาวสมัยใหม่ไม่ชอบทำบุญ"

"แต่หนูกลับทำสิ่งนี้มาทำบุญ ทั้งสามสิ่งล้วนมีความหมาย"

จันทร์เสี้ยวยิ้มหวานตาหยี เธอก็หวังว่าการบริจาคต้นเทียนจะชีวิตสว่างไสวไร้ความมืดมน

บริจาคธูป ความดีของเธอและเธอจะเป็นผู้มีกลิ่นตัวหอมฟุ้งขจรไปทั่วทุกสารทิศ

บริจาคแผ่นทอง เพื่อแสดงถึงความเคารพบูชา

จันทร์เสี้ยว

ใบหน้าเปียกปอน จากการร้องไห้ เมื่อได้ระบายความในใจจนหมดสิ้น จันทร์เสี้ยวรู้สึกโล่งราวกับปัญหาคลี่คลาย

เธอเตรียมจะหันหลังกลับ 

ทันใดนั้นเสียงเรียกดังขึ้นด้านหลัง

"หนู"

เสียงใครคนหนึ่งกำลังเรียก ร่างบางเบิกตาโพลง บ่อยครั้งที่มานั่งไม่เคยกลัวผีเพราะคิดว่าไม่มีจริง

หรือจะเป็นผีจริง ๆ เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอรู้สึกหนาวเสียวสันหลัง ความหนาวเหน็บเย็นเยียบแล่นจากปลายเท้าไต่มาถึงกลางหลัง เธอรู้สึกถึงลมหายใจที่ไม่มีต้นตอ ลมหวิวเย็นวาบที่แทรกผ่านหลังคอ…เหมือนใครบางคนกำลังจ้องมองอยู่ในเงาไม้

ฝีเท้าที่กำลังจะก้าวเดินหนีไม่รู้มันคือสิ่งใดกันแน่

มีบางอย่างคว้าเข้าที่หัวไหล่ จันทร์เสี้ยว เธอสะดุ้งเฮือกหน้าซีดเผือด เหงื่อผุดราวกับอาบน้ำทั้งใจเต้นโครมครามแทบทะลุอกมาเต้นนอกกาย

"อย่าหลอกหนูเลยนะคะ หนูกลัวแล้ว"

มือทั้งสองพนมไหว้เสียยกใหญ่

"หนูจ๊ะ"

"ว้าย พ่อแก้ว แม่แก้วช่วยหนูด้วย"

ขาพยายามวิ่งออกกลับยังยืนอยู่ที่เดิมเพราะมีสิ่งยึดเธอไม่ให้วิ่ง จากหนึ่งเป็นสอง ในเมื่อหนีไม่ได้ หลับตาอุดหูแล้วกัน

"ยายเอง คนจ้ะ"

ร่างสูงโปร่งมาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้เขายืนพิงต้นไม้กอดอกมองจันทรเสี้ยวที่กำลังกลัวผีกลางวันแสก ๆ 

"คนเหรอคะ"

"จับมือยายดูถ้ายังไม่เชื่อ"

จันทร์เสี้ยว แตะมือที่บ่าไหล่ด้วยอาการกล้า ๆ กลัว ๆ เพียงนิ้วเรียวสัมผัสโดนเนื้อนิ่มอุ่น เธอใจชื่นในทันที

"คนจริงด้วยค่ะ"

จันทร์เสี้ยวกำลังจะหันไปหาคุณยาย สายตาคมเข้มที่ยืนมองพลางเดินเข้ามาใกล้ อยากแกล้งให้เธอตกใจอีกครั้ง

แฮ่

ว้าย.....

จันทร์เสี้ยวตาค้างในอากาศ ผวาสุดขีด ใจหล่นวูบไปถึงตาตุ่ม ครั้งนี้เธอถึงกลับเป็นลม

ร่างบางทิ้งตัวลง ทิวสนเห็นเข้าพอดีใจหายวาบรีบโผเข้าประคองรับเธอไว้

"คุณครับ คุณ"

"เธอเป็นลมไปเสียแล้วหลานเล่นอะไรไม่รู้เรื่อง"

ทิวสนพยุงร่างของหญิงสาวขึ้นรถด้วยความระมัดระวัง เสียงใจเขายังเต้นแรงไม่หาย จากที่แกล้งกลายเป็นต้องดูแลอย่างจริงจัง

บ้านสวน

บ้านสวนเรือนบุหงาในยามเย็นคลาคล่ำด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้และไอดินชุ่มฝน พายุฝนเพิ่งหยุด ทิวสนอุ้มร่างจันทร์เสี้ยววางบนเตียงในห้องรับรองอย่างเบามือ

ดวงหน้าคมขาวเนียน ปากอิ่ม ขนคิ้ววาดโค้งสวย ขนตาเป็นแพงอนยาว เรือนหน้าครบเครื่อง ดึงดูดให้ เขาลอยมองเธออย่างลืมตัว

"สาวบ้านป่า สวยเหมือนกันนะเนี้ย"

เขาถูกกำชับให้นั่งเฝ้าเธอจนกว่าจะตื่น

จันทร์เสี้ยวรู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมของไข่เจียวลอยมาแตะปลายจมูก

"ที่นี่ คือที่ไหน "เธอกรอกตามองเพดานก่อนจะขยับตัวช้า ๆ 

เธอนึกย้อนเหตุการเมื่อตอนเช้า 

ทิวสนนั่งบนเก้าอี้ปลายเตียง สายตาคมมองเธอด้วยแววตาอ่านไม่ออก

เสียงของใครคนหนึ่งเห็นเสี้ยวจันทร์ตื่นแล้วจึงถามอาการ

"ตื่นแล้วเหรอ"

เขาคือใคร

คุณคนนั้น เธอเจอที่หน้าห้องน้ำ

"คุณ"เสี้ยวจันทร์เรียกเขาน้ำเสียงตกใจเล็กน้อย

"คุณทิวสนคะ อาหารพร้อมแล้ว คุณท่านให้มาเชิญทั้งคู่ไปทานข้าวค่ะ" คุณป้าวัยกลางคน ท่าทางนอบน้อม หยุดบทสนทนาระหว่างเธอและเขา

ร่างสูงหล่อเหล่าลุกยืนเต็มความสูง กำลังจะกล่าวขาออกไปทานข้าว 

เขามองเธอผ่านหางตา แต่ทว่าร่างบางยังคงนั่งเฉยไม่ยอมลูกตาม

"ลุกไปทานข้าว"น้ำเสียงเรียบ

"ค่ะ"จันทร์เสี้ยวตอบพลางลุกตาม

รอยยิ้มบาง ๆ ของเขา ไม่ใช่แค่แกล้ง…แต่มันเหมือนกำลังเปิดประตูบางอย่างในใจ

จันทร์เสี้ยวยังงุนงง ตะกุกตะกักถามอะไรไม่ออก เสียงฝนที่ยังเกาะใบไม้ข้างนอกทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกพาไปอยู่ในอีกโลกหนึ่ง 

โต๊ะอาหารกลางเรือนไม้  ระลานตาหลากหลายเมนู อาหารทุกอย่างวิจิตรทั้งงดงามส่งกลิ่นหอมชวนท้องร้อง

"แม่บ้านตักข้าว"เสียงคุณยายดวงแก้วสั่งป้าแม่บ้าน

เธอยืนมองเก้กัง ไม่กล้านั่งร่วมโต๊ะอาหาร 

"นั่งเร็วลูก"

คุณยายยกลูกตาลลอยแก้วมาวางตรงด้านหน้าเธอ มืออุ่นดันหลังให้เธอนั่งลงข้างเขา

ชายหนุ่มที่เธอเคยเจอเขาหน้าห้องน้ำ 

เธอนั่งลงอย่างว่าง่าย ผู้ใหญ่เชิญขนาดนี้แล้ว เกรงว่าจะเสียมารยาทถ้าหากยังยืนอยู่เช่นเดิม

"แกงส้มดอกชบาจ้ะ หนู"

คนสมัยก่อนทำอาหารใช้สัมผัสทั้งห้า รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส

"ดอกไม้นี้ยายค่อย ๆ แกะสลักจากฟักจนเป็นดอก "

คุณยายดวงแก้วตักแกงส้มดอกชบาใส่กุ้งลงบนถ้วยเล็ก ยื่นให้จันทร์เสี้ยวก่อนยื่นให้ชายหนุ่มนั่งที่นั่งข้างเธอ

"อร่อยจังเลยค่ะ"

"หนูไม่เคยทานที่ไหนอร่อยเท่าฝีมือคุณยายเลยค่ะ" คำแรกเข้าปากกลมกล่อมเหมือนเหาะได้ ความอร่อยของอาหารเธอเอ่ยชมไม่ขาดปาก

"อร่อยก็ทานเยอะ ๆ นะลูก"

"ของกินเข้าปากแล้วเป็นคนละคนเชียวนะ พูดคล่องเป็นน้ำไหลไฟดับเชียว"คนที่นั่งข้างเธอพูดโพล่งออกมา

แค่คำพูดไม่กี่ประโยคไม่สะท้านใจเธอเลยที่ผ่านมาผู้คนภายนอกดูถูกไม่ใช่น้อย ไม่ใช่ว่าเข้มแข็ง แต่มันผ่านความเจ็บปวดจนชินชาจนกลายเป็นเฉย ๆ 

"พี่เขาแหย่เล่น นะลูกอย่าถือคนบ้า"

"ไม่เป็นไรเลยนะคะ คุณยายหนูเข้าใจและชินแล้วล่ะค่ะ" เธอพูดพลางยิ้ม

"เห็นไหม ขอโทษน้องเดี๋ยวนี้"

"ยังอีก อยากให้ยายโกรธตายหรืออย่างไร" 

เพราะคำว่ารักและกตัญญู ทิวสนกลัวว่าไม่ทำตามใจผู้เป็นยาย อาจทำให้ท่านโมโหจนเข้าโรงพยาบาลจึงรีบขอโทษเด็กสาวอย่างขอไปที

"ขอโทษ"

"ไม่เป็นไรค่ะ"

"กินให้อิ่ม ๆ ซะ เพราะที่บ้านเธอคงไม่ได้ทานดีขนาดนี้หรอก"

"หลานคนนี้ ผีเจาะปากหลานมาหรือไง"

"พูดกับน้องดี ๆ หลานต้องไปส่งเธอกลับบ้านด้วย"

"....."

ทิวสนได้แต่นิ่งไม่กล้าขัด จันทร์เสี้ยวยิ้มหวานที่เขาโดนดุเรื่องเธออีกครั้ง

"หนูชื่ออะไรลูก"

"จันทร์เสี้ยวค่ะคุณยาย"

"คนนี้พี่ทิวสนนะ ส่วนยายชื่อดวงแก้ว "

"ยายจำได้วันนั้นหนูช่วยยายขนของ"

"อ้อจำได้แล้วค่ะ"

เสียงหัวเราะของยายและจันทร์เสี้ยวที่เล่าเรื่องในวัดวันพระครั้งก่อนดังกลบอีกคนที่ทานข้าวอย่างเงียบ ๆ หลังจากโดนดุ

ที่จริงเขาแค่แกล้งเล่นเท่านั้นเอง 

ประหลาดเสียจริงการได้พบเจอเธอ 

พูดคุยหยอกเย้า หัวใจของเขาที่เคยมีความโกลาหลวุ่นวายยุ่งเหยิงบัดนี้ทว่ากลับอบอวลไปด้วยความสุข

ราวกับยืนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ

สวนดอกไม้

บุหงาอาส่าหรี ยลโฉมฤดีงามหวาน พร่างพราวแต่งแต้ม พิมใจมิรู้ลืมพี่เอย

ดอกไม้หลากหลายสายพรรณ บานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมชวนให้หลงไหล ลมพัดโชยโน้มกลิ่งบุหงาเข้าหาเรือน

มือบางเอื้อมดึงชมดมดอมละมุนเย็นปากอิ่มยิ้มหวานแก่ดอกไม้ ร่ายกลอนแผ่วเบา

"เธอหอมจัง เจ้าบุหงา"

บ้านหลังนี้ราวกับน้ำมนต์เก้าวัด ที่เพียงอาบความเศร้าอ้างว้างเดียวดายพลันหายเป็นปลิดทิ้ง

เสียอย่างเดียวหลานชายคุณยายเหมือนไม่ชอบเธอ

แต่ช่างเขาเถอะ ตอนเด็กคงขาดความอบอุ่น

"กวีเอกจากไหนมาเกิดกลางเรือนดวงแก้ว"

ว้าย

"ตกใจหมดเลย" เธอยกมือทาบอกอย่างเสียขวัญ

"ทำไม มัวแต่ใจลอยคิดว่าจะขโมยอะไรดีใช่ไหม"

"นักต้มตุ๋นใช่ไหม ใช่แน่ ๆ "

"เธอเห็นยายฉันแก่แล้ว จะมาหลอกเงิน"

"'นี่คุณ หัดมองโลกในแง่ดีบ้างนะคะ คุณอาจจะเจอเรื่อง ร้าย ๆ มา"

"แต่ไม่ควรเหมารวมฉัน" เสียงหวานโต้แย้ง ไม่ยอมโดนว่าฝ่ายเดียว

แต่แล้วเสียงของยายดวงแก้วเรียกหาจันทร์เสี้ยว ทั้งคู่จึงหยุดปะทะกัน

"อันนี้ลูกชุบและถุงทองเอาไปฝากจันทร์เสี้ยว นะลูกวันไหนว่าง ๆ มาเที่ยวหายาย "

"คิดเสียว่าที่นี้คือบ้านญาติผู้ใหญ่"

"ค่ะ สวัสดีค่ะ"

เสียงเหยียบคันเร่งเครื่องเตือน จากคนภายในรถ จันทร์เสี้ยวยกมือไหว้ลาคุณยายดวงแก้ว พลางกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปยังรถ

เสียงประตูรถเปิดปิดลง

เขายังไม่ยอมออกรถในทันที

"มานั่งข้างหน้า ฉันไม่ใช่คนขับรถเธอ"

"ค่ะ ที่นั่งหลังเพราะกลัวคุณรังเกียจฉันค่ะ"

"คาดเข็มขัดด้วย"

"ค่ะ"

มือบางที่กำลังคว้าเข็มขัดมาคาด คันเร่งถูกเหยียบพุ่งออกไป แล้วเหยียบเบรกทันที 

"โอ๊ย"

หัวเธอโขกกับแผงคอนโซลรถเข้าอย่างจัง

"นี่คุณ "

"หึ เหมาะสมแล้ว พวกผู้หญิงชอบวางแผน หลอกลวง"

"คุณพูดถึงอะไรคะ"

"ฉันไม่เข้าใจ"

ไร้เสียงตอบ  มีเพียงเสียงรถที่แล่นฉิวบนท้องถนน 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หลงเด็กบำเรอใจ   30 มากกว่าสิ่งใด

    เช้าวันนี้ทิวสนเดินทางไปทำงานทั้งที่เมื่อคืนป่วยหนัก ใจเขาไม่อยากทิ้งภรรยาคนงามไว้ที่บ้านเพียงลำพัง แต่ด้วย โครงการเร่งด่วน บีบบังคับให้เขาพากายที่ไร้หัวใจเข้าประชุมพนักงานทุกฝ่ายเข้าประชุมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เมื่อได้เผลอทำในสิ่งที่เจ้านายไม่ได้สั่งและปิดบังจนเรื่องบานปลาย หัวหน้าโครงการนั่งตัวเกร็งเหงื่อตกเปิดหาเอกสารด้วยอาการร้อนรน"นี่ครับ คุณทิวสนเอกสารที่คุณต้องการ"มือที่ยื่นแฟ้มเอกสารให้ผู้เป็นนายด้วยอาการสั่นเทาเล็กน้อย ก่อนจะปาดเหงื่อบนใบหน้า สายตาคมเข้มรอบมองลูกน้องอย่างเงียบ ๆ ก่อนเอ่ยประโยคที่ทำให้พนักงานในห้องประชุมถึงกับงงกันเป็นแถว "ในเมื่อผิดพลาดไปแล้ว ก็ต้องรีบแก้ไข วันนี้ทุกคนคงต้องอยู่ทำงานจนดึก เดี๋ยวให้ฝ่ายบุคคลสั่งอาหารเย็นให้ วันนี้พอแค่นี้ไปทำงานเถอะ"ทิวสนในสายตาลูกน้องคือคนเคร่งคัดเป็นระเบียบ ดุ จริงจังกับการทำงานห้ามผิดพลาดและบทลงโทษสำหรับคนผิดพลาดนั้น ทุกคนต่างพากันหวาดกลัวเป็นที่สุด กร ถอนหายใจทันทีที่หลังพ้นประตูห้องประชุม สำหรับเขาแล้วมันคือขุมนรกที่มัจจุราชกำลังพิพากษาตัดสินโทษแก่ดวงวิญญาณผู้ได้พลั้งมือฆ่าคน "นึกว่าจะโดนไล่ออกซะแล้ว""นั่นสิ สาธุ ศั

  • หลงเด็กบำเรอใจ   ตอนที่29ฝันร้ายกลายเป็นดี

    ใบหน้าหล่อคมเต็มด้วยรอยช้ำ เสี่ยงเพ้อหลุดจากปากปลุกให้ร่างอวบอิ่มตกใจตื่นขึ้นมา"คุณทิวสน คุณทิวสนคะ"เธอเอ่ยเรียกด้วยอาการกึ่งหลับกึ่งตื่น ทว่าคนที่เธอเอ่ยปากเรียกกลับไร้เสียงตอบรับ แถมยังเพ้อไม่หยุด จันทร์เสี้ยวสลัดความง่วงที่เกาะกุมให้หลุดก่อนใช้มือไปสัมผัสตัวเขาพลางเขย่าเบา ๆ นอนอะไรขนาดนั้น เรียกก็แล้ว เขย่าก็แล้ว เธอนึกโมโหในใจ มือเรียวจึงคว้าเปิดๆหัวเตียงก่อนขยับลุกขึ้นนั่ง ตั้งท่าจะไปบ่นให้เขาเสียเต็มที่ ทว่าใบหน้าหล่อเหลาบัดนี้ซีดเซียวราวกับไก่ต้ม เธอใช้มืออังวัดไข้ เพียงสัมผัสบางเบาก็รับรู้ได้ถึงความร้อนระอุเธอจึงรีบลุกจากเตียงเดินตรงไปยังห้องแต่งตัว เปิดหาผ้าขนหนูผืนเล็กสำหรับเช็ดตัว ไม่นานเธอกลับออกมาในมือถือถังใส่น้ำอุ่นและกระเป๋ายาเดินตรงมายังเตียง เปิดกล่องยาใช้เครื่องวัดไข้ วัดที่หน้าผากเขาหน้าจอแสดงผลอุณหภูมิสูงถึงสามสิบเก้าองศา ไข้สูงเชียว ทำไมฉันต้องมาดูแลคนที่ทิ้งฉันไปด้วย แต่ช่างเถอะพรุ่งนี้ยังไงฉันก็จะไปจากที่นี่แล้ว แค่ตอนนี้ช่วยเหลือถือซะว่าเอาบุญ ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรทั้งนั้น ท่องไว้ จันทร์เสี้ยวเมื่อนึกได้ดังนั้นเธอจึงเริ่มลงมือเช็ดตัวให้เขาจนไข้ลดลง ความเ

  • หลงเด็กบำเรอใจ   ตอนที่28.ไม่ปล่อยเธอ 2

    "คุณเห็นจันทร์เป็นอะไร" มือบางที่กำแน่น...มันแน่นจนตัวเธอเองก็รับรู้ได้ถึงรอยเล็บที่ฝังลงบนเนื้อตัวเอง ทุบไปยังไหล่เขา ที่บัดนี้ไม่ยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระความเจ็บคอยย้ำเตือนตนเองภายในใจ...เจ็บตอนนี้ดีกว่ากลับมาอยู่ในสถานะเขารักก็ดีด้วย พอไม่รักเขาก็ไม่เห็นค่า..."โอ๊ย"ใบหน้าคมถึงกับนิวหน้า ราวกับว่าโดนของมีคมแทงทะลุเนื้อไหล่เขา เลือดค่อย ๆ ซึมทะลุชุดนอน"คุณเป็นอะไรคะ ทำไมถึงมีเลือด" เธอรีบปลดกระดุมเสื้อเพื่อดูที่มาของเลือดเขาไม่ตอบกับเพียงยิ้มที่เห็นคนบางคนเมื่อกี้ยังต่อว่าเขาอยู่ พอเห็นว่าเขาไม่สบายกลับแสดงอาการเป็นห่วงทันทีที่ปลดเปลื้องเสื้อออกเผยให้เห็นท่อนบนที่เปลือยเปล่ากล้ามเนื้อเป็นลอนที่เธอคุ้นเคย เลือดแดงฉานซึมทะลุผ้าปิดแผลเพราะเธอเป็นคนทำ"แผลน่าจะปริ ไปหาหมอเถอะค่ะ"เธอที่ทำเตรียมจะลุกพาเขาไปหาแต่มือหนายังคงรั้งเอวบางไว้ในอ้อมแขน"ไม่ต้องไปหรอก...แค่หนูห่วงใยพี่แผลนี้ก็หายแล้ว"คำที่เขาเอ่ยออกมามันทำให้ใจของเธอราวกับดอกไม้แห้งเฉาได้รับน้ำจากคนสวน สดชื่นแต่ต้องรอคอย ซึ่งเธอไม่อยากเฝ้ารอการดูแลจากใครอีก เธออยากเป็นดอกไม้ที่เติบโตข้างริมน้ำ"แค่วันนี้เท่านั้นค่ะ พรุ่งนี้จั

  • หลงเด็กบำเรอใจ   ตอนที่27.ไม่ปล่อยเธอ

    บรรยากาศภายในรถปกคลุมไปด้วยความเงียบ มีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่ดัง สายตาคู่งามมองทอดออกไปนอกบานกระจกรถ ใจอยากให้ถึงบ้านเสียเร็ว ๆ ไม่ต้องทนอยู่กับซาตานน้ำแข็งเช่นเขา ถึงแม้ว่าช่วงนี้ท่าทีของเขาแปลกไป อ่อนโยนขึ้น เธอก็ไม่อาจคาดเดาความคิดเขาได้ว่าจะระเบิดความเคียดแค้นใส่เธออีกตอนไหน ทว่าวันนี้เขาขับช้ากว่าปกติ ยิ่งกินอิ่มท้องผนวกกับความเย็นของเครื่องปรับอากาศเธอรู้สึกสบายตัวจนไม่อาจต้านทานความง่วง ผล็อยหลับไปในที่สุด สายตาคมลอบมองเธอลมหายใจที่ดังสม่ำเสมอจากร่างบางที่บัดนี้อวบขึ้นเล็กน้อยกำลังนอนหลับตาพริ้มแก้มเนียนอมชมพู ในขณะเดียวกัน มือหนารีบประคองใบหน้างามที่กำลังเอนตกจากการหลับลึกให้อยู่ในท่าที่นอนสบาย อย่างเบามือ อย่างเกรงกลัวว่าเจ้าของความงามนี่จะตื่น เปรียบดั่งรักษาน้ำหยุดสุดท้ายที่มีในมือไม่ให้ร่วงหายไป ทว่ามือบางกลับไม่ยอมปล่อยแขนของเขาให้เป็นอิสระเธอดึงรั้งเอาไว้ก่อนขยับตัวเข้าหากอดแขนของเขาแน่นยิ่งกว่าเชือกที่ผูกตาย...ไม่สามารถหาทางแก้ได้ "คนใจร้าย..."เสียงหวานพร่ำเพ้อพูดในขณะที่ยังหลับ แม้ยามหลับฝันเธอยังต่อว่าเขาขนาดนี้ นับประสาอะไรกับตอนตื่นเธอต้องไม่ให้อภ

  • หลงเด็กบำเรอใจ   ตอนที่26.ความจริงปรากฏ

    บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความเงียบชั่วขณะ ทุกคนทานข้าวอย่างเงียบ ๆ อย่างรอคอยคำตอบ ของจันทร์เสี้ยว "แต่ยายว่ามันคือข่าวดีสำหรับบ้านของเรานะลูก ไม่ผิดแน่นอน อาการของทิวสนเหมือนคุณตาตอนที่ยายตั้งครรภ์แม่เข็ม และเหมือนพ่อไผ่ตอนที่แม่มะลิตั้งครรภ์ทิวสน บ้านเรามันเป็นกรรมพันธุ์สามีแพ้ท้องแทนภรรยา" "ตอนนี้ทิวสนเหมือนตาสมัยหนุ่ม ๆ ง่วงนอนท้้งวัน แถมทานต้มกล้วยอีกอาการชัดขนาดนี่" "วันนี้ข่าวดีจริง ๆ อยู่ที่นี่กับตาและยายนะจันทร์เสี้ยว ไม่ต้องไปไหน ส่วนใครมันไม่ยอมรับอะไร ก็ปล่อยมันไป ตาเลี้ยงเองเหลนคนนี้" "ค่ะ ขอบคุณสำหรับความรักที่คุณตาและคุณยายมอบให้จันทร์นะคะ แต่จนไม่อาจทนอยู่ในที่มองว่าจันทร์ทำผิดได้ ให้ฉันไปเริ่มต้นชีวิตใหม่เถอะนะคะ หนูขอร้อง" "เด็กต้องเกิดท่ามกลางสายตาคนเป็นพ่อที่ไม่ยอมรับแม่ของเขามันโหดร้ายเหลือเกิน....สำหรับผ้าขาวหนึ่งผืน" ไม่เป็นไรเลยนะลูกแม่สามารถเลี้ยงลูกได้ เธอสื่อสารกับลูกในท้อง การแต่งงานครั้งนี้ค่าสินสอดแต่งงาน ยายของเธอไม่เรียกร้องสักบาท ขอเพียงเขาดูแลเธอเท่านั้นเอง ทว่าในเมื่อมันไปต่อไม่ได้ ถอยออกมาย่อมดีกว่า เงินค่าสินสอดที่เธอได้พอทำให้เธอยกฐานะจากหาเช้

  • หลงเด็กบำเรอใจ   ตอนที่25. เธอท้องใช่ไหมจันทร์เสี้ยว

    หลังจากหย่าทิวสนคิดว่าตนเก่ง เพราะเขาเคยได้รับวัคซีนทางใจมาแล้วจากภรรยาคนเดิม พอแต่งอีกครั้ง มันยังผิดหวังอีก เขาจึงมองว่ามันเป็นแค่จุดเปลี่ยนของชีวิตเวลาผ่านไปสองเดือน เขากลับหวนคิดถึงแววตานั้นอีกครั้ง นี่นายเป็นอะไร แค่เด็กขายตัวคนเดียว ที่เปลี่ยนมาเป็นเมียแต่งแค่ไม่กี่คืน จะคิดถึงทำไม นายนอนกับผู้หญิงมาตั้งเท่าไหร่ แต่ทว่าตั้งแต่เลิกกับเธอไป...เขาไม่เคย ซื้อใครอีกเลย เขาเลือกที่จะทำงานหนักในทุกวันเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นกลบความคิดถึงที่กำลังก่อตัวอย่างเงียบ ๆ ให้ดับวูบในทันที กิตตินำกาแฟมาเสริฟเขาตามเช่นเคยในทุกวัน"อเมริกาโน่ครับ"เอาออกไปเลย เหม็นจนเวียนหัวจะอ้วกเขาเอามืออุดจมูก พร้อมเดินเข้าไปยังห้องส่วนตัวที่คล้ายกลับยกบ้านมาไว้ที่ทำงาน "นายเลื่อนประชุมหน่อยนะ ฉันไม่สบาย"เขาพูดพลางล้มตัวลงนอนที่โซฟาหลับยาวตั้งแต่สิบเอ็ดโมงถึงสี่โมงเย็นเขาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเวียนหัวอยู่ดี ง่วงนอน อยากทานของดอง...เขานึกพลางคิดว่าจะไปทานที่ไหนได้"กลับโรงแรม หรือคอนโดครับ"กิตติเตรียมตัวเก็บของและขับรถไปส่งผู้เป็นนาย"กลับบ้านสวน"เขาเอ่ยพร้อมเดินผ่านห้องพักพนักงาน ได้กลิ่นบางอย่าง เขา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status