หน้าหลัก / วาย / หวนคืนลิขิตรัก [Mpreg] / ตอนที่ 4 หมากรุกแห่งโชคชะตา

แชร์

ตอนที่ 4 หมากรุกแห่งโชคชะตา

ผู้เขียน: หลูซื่อเต๋อ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-16 14:24:55

แสงแดดยามสายสาดลงลานกว้างหน้าตำหนักหลวง โคมแดงร้อยเรียงดังดาราแขวนกลางนภา กลิ่นกำยานหอมจางลอยแทรกสายลมเคล้ากับเสียงพิณแว่วเบา พิธีคัดเลือกคู่หมั้นขององค์ชายจวิ้นอี่เปิดฉากท่ามกลางเหล่าขุนนางตระกูลสูงศักดิ์

เซี่ยเหยียนอวี่ในชุดผ้าไหมฟ้าครามปักลายเมฆมังกร ยืนอย่างสงบ สง่างามดุจหยกชั้นดี ดวงเนตรเรียบนิ่งแต่ทอประกายคมลึก เขามิได้มาที่นี่เพื่อค้นหารัก หากแต่มาเพื่อช่วงชิงชะตาที่เคยสูญสิ้นกลับคืน

ไป๋เหวินเจี๋ยหมอหลวงหนุ่มปรากฏข้างกาย เสียงนุ่มราวสายน้ำเอ่ยเตือน “พิธีนี้มิใช่เพียงแค่การคัดเลือก มันคือการชิงชัยท่ามกลางดวงตานับร้อย”

“ข้าย่อมรู้ดี” เหยียนอวี่เอ่ยเบา รอยยิ้มบางประดับมุมปาก หากแววตานั้นเยือกเย็นราวหิมะ

เสียงกลองสามครั้งดังก้อง บัลลังก์มังกรทองยังว่างเปล่า แต่ทว่าผู้แรกที่ก้าวออกมากลับไม่ใช่เจ้าของพิธี หากแต่เป็นบุรุษที่เคยฝากบาดแผลไว้กลางใจเขา

ฉินลี่หรง ขุนนางหนุ่มรูปงามภายใต้อาภรณ์สีม่วงเข้ม ปักลายนกยูงด้ายทองก้าวออกมาอย่างองอาจ รอยยิ้มอ่อนโยนของเขาอาบไว้ด้วยพิษร้าย ดวงตาคมกริบดุจงูที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืด เมื่อสายตานั้นสบกับแววตาของเหยียนอวี่ โลกทั้งใบพลันเยียบเย็นลงราวลมหิมะกระหน่ำกลางฤดูร้อน

“นายน้อยเซี่ย เป็นเกียรติที่ได้พบเจ้าในพิธีนี้” ฉินลี่หรงเอ่ยกล่าวด้วยถ้อยคำสุภาพ แต่กลับทำให้ผู้ฟังได้ยินแล้วรู้สึกขมขื่นดั่งยาพิษที่ถูกใส่มาในชาหอมหวาน

เหยียนอวี่โค้งศีรษะเล็กน้อย ตอบด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง “ข้าก็รู้สึกเช่นนั้น ท่านฉิน”

“เจ้ามีสายตาที่... ราวกับว่าเคยเห็นอะไรมากกว่าที่ควร” ฉินลี่หรงกล่าวพร้อมรอยยิ้มคลุมเครือ

หมายความว่ายังไง

ใจเหยียนอวี่เต้นแรงราวต้องมนต์เมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายกล่าว มันฟังดูเหมือนว่าปีศาจร้ายตนนี้ล่วงรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับตัวเขา เล่ห์เหลี่ยมของฉินลี่หรงทำให้เขาไม่อาจไว้ใจคนตรงหน้าได้แม้เพียงนิดเดียว เขาพยายามสงบใจก่อนตอบกลับ “ข้าเป็นเพียงบุรุษธรรมดาจากตระกูลเซี่ย ท่านคิดมากไปกระมัง”

พิธีการคัดเลือกคู่หมั้นให้องค์ชายจวิ้นอี่ดำเนินต่อไป ขุนนางประกาศชื่อผู้เข้าร่วมทีละคนตามลำดับเพื่อให้แสดงความสามารถที่ตระเตรียมมา ท่ามกลางเสียงชื่นชมและสายตาที่จับจ้องของผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้น เหยียนอวี่มิได้สนใจผู้เข้าแข่งขันคนอื่น นอกไปจากจับจ้องสายตาไว้แค่เพียงชายผู้หนึ่งซึ่งยืนอยู่หน้าบัลลังก์ทองอย่างฉินลี่หรง มือเขาปรับแขนเสื้อเล็กน้อย เผยให้เห็นหยกสีเขียวเข้ม แกะสลักลวดลายประหลาดแฝงอักขระโบราณ

ความเยือกเย็นแล่นผ่านแผ่นหลังเหยียนอวี่ทันที มีบางอย่างส่งสัญญาณบอกเขาว่านี่ไม่ใช่เรื่องปกติ หยกนั้นเป็นมากกว่าเพียงเครื่องประดับยศธรรมดาทั่วไป เขาไม่เคยเห็นมันมาก่อนในอดีต แต่เสี้ยววินาทีแรกที่สายตากวาดไปพบมัน ความรู้สึกที่แปลกประหลาดเกิดขึ้นในห้วงหนึ่งของจิตใจทันที

ไม่ใช่หยกธรรมดาแน่นอน

เขาแต่ข่มใจกักเก็บความสงสัยเอาไว้ก่อนหันหน้าหนี ทุกความรู้สึกถูกซุกไว้ใต้หน้ากากสงบเงียบ ในเวลานี้เขาต้องมุ่งมั่นต่อพิธีการคัดเลือกคู่หมั้นตรงหน้าเสียก่อน หลังจากนั้นค่อยตัดสินใจอีกทีว่าจะเดินหน้าเผชิญกับเรื่องใดต่อไป

ผู้เข้าร่วมการคัดเลือกคนก่อนหน้าแสดงความสามารถพิเศษเสร็จสิ้นลง ถึงคราของเหยียนอวี่ เขาสูดหายใจลึกก่อนจะก้าวออกไปกลางลาน ทุกสายตาจับจ้อง เขาไม่ได้แสดงกลอนหรือพิณดังเช่นคนอื่น ๆ หากแต่เลือกหยิบพู่กันขึ้นมาแทน

หมึกไหลรินจรดลงกระดาษขาว วลีหนึ่งปรากฏอย่างสง่างาม

‘สายน้ำย้อนคืนมิอาจเปลี่ยนโชคชะตา ทว่าดวงใจที่เข้มแข็ง... กำหนดลิขิตได้’

เสียงชื่นชมดังรอบทิศ ทว่าเหยียนอวี่มิได้เหลียวมอง เขาเพียงหันไปสบตาฉินลี่หรงในชั่วขณะหนึ่ง การปะทะกันด้วยสายตานั้นเงียบงันแต่ทรงพลัง ไม่มีใครสังเกตเห็นประกายไฟในแววตาของทั้งคู่นอกไปจากไป่เหวินเจี๋ย

เมื่อเหยียนอวี่เดินกลับเข้ามาหลังจากแสดงเสร็จ หมอหลวงรีบปรี่เข้ามาใกล้แล้วเอ่ยกระซิบทันที “ท่านกำลังเล่นกับไฟแล้วนายน้อยเซี่ย”

เหยียนอวี่ตอบเรียบ “หากไฟนั้นเผาผลาญศัตรูได้ ข้ายินดี”

เมื่อพิธีสิ้นสุด เหยียนอวี่มองฉินลี่หรงจากมุมหนึ่งของลาน รอยยิ้มของเขายังคงงดงาม แต่สำหรับเหยียนอวี่ มันคือหน้ากากของปีศาจร้าย

“เจ้าเองก็ซ่อนความลับไว้ใช่หรือไม่... ฉินลี่หรง” เขาพึมพำกับสายลมที่เพิ่งพัดผ่านไปเมื่อครู่ “และข้าจะเปิดโปงมัน ด้วยมือของข้าเอง”

เขาหันหลังเดินจากมา ใบไม้ร่วงปลิวล้อลม ดุจหมากบนกระดานที่เริ่มเคลื่อน หมากรุกแห่งโชคชะตาได้เริ่มต้นแล้ว และเขาจะไม่ยอมเป็นเพียงตัวเบี้ยของผู้ใดอีกต่อไป

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หวนคืนลิขิตรัก [Mpreg]   ตอนที่ 10 ชาแห่งความลับ

    แสงจันทร์สาดทอผ่านหน้าต่างฉลุของตำหนักหย่งชิง สะท้อนเงาร่างเซี่ยเหยียนอวี่ซึ่งนั่งนิ่งหน้าตู้กระจก มือเรียวปรับมงกุฎหยกบนเรือนผม ดวงหน้างามสง่าดุจหยกสลักฉายแววครุ่นคิดลึกล้ำ เหมือนบึงน้ำกลางคืนที่ไร้ผิวนิ่ง เขานึกถึงภาพขององค์ชายจวิ้นอี่ที่พบในสวนหย่อมของวังหลวงก่อนหน้านี้ คำพูดของท่านอ๋องที่ฟังดูเหมือนจะเจือปนกลิ่นของอดีต และสายตาที่คล้ายมองเห็นเขาลึกเกินไปกว่าคนที่เพิ่งจะได้เจอหน้ากันก๊อก ๆ ๆเสียงเคาะประตูแผ่วเบาดังขึ้น“นายน้อย ข้ามีจดหมายจากตำหนักหลงอวิ๋นเจ้าค่ะ” เสี่ยวหลานกล่าว พลางยื่นม้วนกระดาษที่ผนึกด้วยตราส่วนพระองค์เหยียนอวี่คลี่ผนึกอย่างสงบ ตัวอักษรหมึกดำเรียบง่าย... แต่ถ้อยคำมีน้ำหนัก“พบกันคืนนี้ เพื่อดื่มชาร่วมสนทนา”จากจวิ้นอี่ ไม่มีคำอธิบายเพิ่มเติม มีเพียงเงาแห่งความเงียบที่แฝงความหมายเอาไว้ภายใต้จดหมายนั้น“บอกผู้ส่งสารว่าข้าจะไป และเจ้าช่วยเตรียมชุดให้ข้าด้วย... ขอเรียบง่าย แต่สง่างาม”ยามค่ำคืน ตำหนักหลงอวิ๋นยืนเงียบสงบอยู่ท่ามกลางตำหนักอีกหลายองค์ในราชสำนัก โคมแดงแขวนเรียงรายดุจดวงดาว แสงจันทร์ทาบผ่านเงาต้นหลิว กลิ่นกำยานลอยเจืออากาศ บรรยากาศราวกับภาพฝันที่แฝง

  • หวนคืนลิขิตรัก [Mpreg]   ตอนที่ 9 หน้ากากแห่งความเปราะบาง

    แสงแดดยามเช้าทาบผ่านม่านไหมของตำหนักหย่งชิง เงารำไรสะท้อนบนพื้นไม้ขัดเงาดั่งเงาใจ เซี่ยเหยียนอวี่ยืนหน้าตู้กระจกโบราณ มือเรียวปรับมงกุฎหยกบนเรือนผมที่ถักอย่างบรรจง ชุดผ้าไหมขาวปักลายบัวเงินขับใบหน้าเขาให้ยิ่งงดงามดุจหยกสลัก ทว่าสิ่งที่เด่นที่สุดมิใช่โฉมภายนอก หากแต่เป็นดวงเนตรที่แฝงไว้ด้วยไฟในเงานิ่งวันนี้ เขาตัดสินใจสวมหน้ากากอันใหม่แล้ว หน้ากากแห่งการแสดงตามแผนที่เขาได้วางเอาไว้ มันจะทำให้เขาดูเปราะบาง และอ่อนไหว เพื่อลวงสายตาคนทั้งวังให้เผยความจริงภายในใจที่มีต่อเขาออกมาให้หมด“นายน้อย ท่านพร้อมหรือยังเจ้าคะ?” เสียงเสี่ยวหลานดังขึ้น พร้อมกลิ่นชาดอกมะลิในถาดไม้แกะสลักเหยียนอวี่หันมาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนกว่าปกติ ท่าทีดูอ่อนแรงกว่าในทุกวัน เขาเอื้อมมือไปหยิบชามะลิในถาดขึ้นมาจิบพลางกระแอมเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยพูดต่อ “ขอบใจเสี่ยวหลาน... แต่วันนี้ข้ารู้สึกอ่อนเพลียเล็กน้อย ขอพักอีกสักหน่อยแล้วค่อยไป”เสี่ยวหลานนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนตอบ “รับทราบเจ้าค่ะ! นายน้อยพักผ่อนต่ออีกสักหน่อย ข้าจะดูแลท่านให้ดีที่สุดเจ้าค่ะ” แม้คำพูดฟังอ่อนหวาน แต่ในแววตามีความอยากรู้บางอย่างแวบผ่านเขาเพียงยิ้มจางก่อนใช้เว

  • หวนคืนลิขิตรัก [Mpreg]   ตอนที่ 8 สายลมแห่งความภักดี

    ยามรุ่งสาง หมอกบางคลอเคลียเหนือสวนหย่อมของตำหนักหย่งชิง กลิ่นดอกบัวลอยอบอวลในอากาศ เซี่ยเหยียนอวี่ยืนอยู่กลางลานฝึก ร่างในชุดขาวเคลื่อนไหวดุจสายน้ำ ดาบไม้ในมือเหวี่ยงพริ้วด้วยพลังสงบแต่มั่นคง ทุกกระบวนท่าแฝงความรู้สึกคั่งค้าง ไม่ว่าจะเป็นความระแวงต่อเครื่องรางหยกของฉินลี่หรง หรือสายตาเยือกเย็นขององค์ชายจวิ้นอี่ และคำนินทาที่แทรกซึมกระจายไปทั่ววังกำลังเริ่มก่อคลื่นพายุใหญ่เขาวางดาบลงหลังผ่านระยะเวลาฝึกซ้อมมาช่วงหนึ่ง หยาดเหงื่อผุดขึ้นตามร่างกายจนเปียกท่วม แต่สายลมยามเช้าพัดแผ่วเบาผ่านมา นำพาให้ความเหน็ดเหนื่อยและความว้าวุ่นในจิตใจให้คลี่คลายลงบ้างเล็กน้อย เขาชายตามองเงาของตนบนพื้นหินก่อนจะพึมพำกับตัวเองเมื่อความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของเขาระหว่างนั้น “สนามรบนี้ ไม่ใช่สำหรับผู้ที่ไร้เกราะใจ”“นายน้อย ท่านฝึกหนักยิ่งนัก” เสียงอ่อนโยนของเสี่ยวหลานดังก่อนจะยื่นถาดน้ำสมุนไพรพร้อมรอยยิ้มสุภาพเกินจริงเหยียนอวี่รับถ้วยชามาอย่างเรียบเฉย สายตาลอบมองใบหน้าของสาวใช้เพียงครู่หนึ่งก่อนจะหันไปทางอื่น “ขอบใจ เสี่ยวหลาน” น้ำเสียงของเขาฟังดูนุ่มนวล หากแต่เยือกเย็นยิ่งแสงตะวันยามสายเคลื่อนผ่าน เหยียนอ

  • หวนคืนลิขิตรัก [Mpreg]   ตอนที่ 7 ลิขิตแค้นในเงื้อมมือ

    แสงแดดยามสายส่องลอดบานหน้าต่างตำหนักหย่งชิง กลิ่นชาดอกมะลิอบอวลคลุ้ง เซี่ยเหยียนอวี่นั่งสงบอยู่หน้าโต๊ะไม้จันทน์แดงในห้องตำรา พู่กันเปื้อนหมึกในมือเป็นดั่งโลหิตที่กำลังไหลลื่นลงบนแผ่นกระดาษ ตัวอักษรที่ปรากฏขึ้นแต่ละตัวงดงาม เฉียบคม และเปี่ยมไปด้วยพลัง ราวสลักจากความทรงจำและคำสาบานในห้วงลึกแห่งหัวใจเขายกถ้วยขึ้นจิบช้า ๆ ดวงตาหวานลึกลอบระแวดระวัง แม้บรรยากาศดูเงียบสงบ ทว่าในความเงียบนั้น พายุที่กำลังก่อตัวในม่านหมอกเริ่มครุกรุ่นขึ้นตั้งแต่วันที่เขาเห็นฉินลี่หรงพกหยกแปลกตาไว้ติดตัว เขาเฝ้าตามหามาตลอดว่ามันคือหยกอะไร จะว่าเป็นตราประดับยศก็หาใช่ไม่ เพราะไม่ปรากฏลายประทับของตราประจำตระกูลบนหยกนั้น ด้วยสัญชาตญาณบางอย่างทำให้เขาตั้งข้อสงสัยว่านั่นไม่ใช่เพียงเครื่องประดับหยกธรรมดาทั่วไป อักขระโบราณที่สลักเอาไว้บนนั้นมันบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าหยกนี้มีหน้าที่พิเศษของมันเขาตามหาตำราที่บันทึกเกี่ยวกับเรื่องราวของหยกเอาไว้ แต่ก็ยังไม่เจอเล่มไหนที่เล่าถึงหยกของฉินลี่หรง จนกระทั่งเช้าวันนี้ที่อยู่ ๆ เขาก็ดันเจอม้วนตำราเล่มหนึ่งตกอยู่หลังชั้นวางตำราท้ายห้อง เขาหยิบขึ้นมาดูด้วยความสงสัย ก่อนจะพบว่าภ

  • หวนคืนลิขิตรัก [Mpreg]   ตอนที่ 6 สายตาแห่งอดีต

    แสงจันทร์โปรยปรายเหนือสวนหลวง เงาสนโบราณทอดยาวลงบนพื้นหิน ดอกเหมยขาวร่วงพลิ้วตามลมราวหิมะในฤดูใบไม้ผลิ เซี่ยเหยียนอวี่ยืนนิ่งใต้ศาลาริมสระบัว มือบางแตะขอบระเบียงหิน ดวงเนตรจ้องลึกลงในเงาน้ำที่ไหวระลอก ความว้าวุ่นจากวันก่อนยังหลงเหลืออยู่ฉินลี่หรงและเครื่องรางหยกนั้น... ท่านอ๋องจวิ้นอี่ในงานเลี้ยง... และสายตานับร้อยที่รอให้เขาพลาดพลั้งวังหลวงคือเขาวงกตแห่งเล่ห์กล ทุกย่างก้าวต้องรอบคอบ ทุกคำพูดต้องชั่งน้ำหนัก เขานึกถึงชาติก่อน วันที่เดินสวนนี้ด้วยหัวใจเปี่ยมรัก เพียงหวังพบท่านอ๋องจวิ้นอี่เพียงครู่เดียว...ทว่าเหตุการณ์นั้นกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเพลิงที่เผาผลาญทำลายทุกสิ่งในชีวิตของเขาจนสิ้น“ข้าจะไม่ยอมให้ท่านครอบครองหัวใจข้าอีก” เขากระซิบกับเงาน้ำ“ผู้ใดกันที่เจ้าเอ่ยถึง?” เสียงทุ้มนุ่มดังจากเงาไม้ เหยียนอวี่สะดุ้ง หันกลับมาพบองค์ชายจวิ้นอี่ในชุดที่ดูเบาสบายกว่าในงานเลี้ยงยืนอยู่ตรงหน้า เงาใต้ต้นสนทาบลงบนดวงหน้าคมคาย รอยยิ้มบางปรากฏที่มุมปาก แตกต่างจากความเย่อหยิ่งในท้องพระโรง หากแฝงไว้ด้วยบางอย่างลึกซึ้ง“ฝ่าบาท... ข้าเพียงพูดกับตนเอง” เหยียนอวี่ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบราวกับน้ำนิ่

  • หวนคืนลิขิตรัก [Mpreg]   ตอนที่ 5 น้ำแข็งแห่งวังหลวง ลวงเล่ห์เงาจันทร์

    ยามเช้าแห่งวังหลวงอาบด้วยแสงแดดอ่อนละมุน ทาบทอลงบนตำหนักทองและหอคอยลอยท่ามกลางกลุ่มหมอกประหนึ่งภาพวาดจากสรวงสวรรค์ กลิ่นกำยานเจือจางลอยแทรกกับเสียงระฆังจากหอสูง เซี่ยเหยียนอวี่ก้าวลงจากเกี้ยว มือบางแตะขอบเบา ๆ ดวงหน้าเรียบสงบ หากแฝงแววคมลึกไว้ในดวงตานั้นนี่คือวันแรกที่เขาก้าวเข้าสู่ราชสำนักอีกครั้ง หลังจากผ่านพิธีการคัดเลือกคู่หมั้นเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ตอนนี้เขายังคงอยู่ในฐานะว่าที่คู่หมั้นแห่งองค์ชายจวิ้นอี่เท่านั้น และการเข้าสู่วังหลวงครั้งนี้ก็มิใช่เพื่อความรัก แต่เพื่อทวงชะตาที่เคยพ่ายแพ้กลับคืนมาเท่านั้นหลี่กงกง ขันทีชราก้าวนำทาง สองข้างทางมีองครักษ์ยืนเรียงราย ดวงตาของเหยียนอวี่นิ่งสงบราวรูปสลัก ทว่าแฝงแรงกดดันที่อัดแน่นทุกย่างก้าว ราวกับวังหลวงทั้งวังกำลังจับจ้องเขาตำหนักหย่งชิงที่พักชั่วคราวต้อนรับเขาด้วยพิธีรีตองครบครัน ทว่าเบื้องหลังรอยยิ้มและเสียงก้มคารวะ ไม่ได้ทำให้เหยียนอวี่รู้สึกปลอดภัยนัก เขารู้ดีว่าในตำหนักแห่งนี้เต็มไปด้วยสายลับของฉินลี่หรงที่ซ่อนตัวเอาไว้เสี่ยวหลาน สาวใช้ผู้นำกลุ่มเดินเข้ามาหลังจากที่เขาเข้ามานั่งพักในห้องโถงของตำหนัก ก่อนจะเอ่ยวาจาสุภาพด้วยแววต

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status