ร่างสูงยกยิ้มน้อยๆ ตอบกลับเหล่าพยาบาลวอร์ดออโธฯ ถึงแม้จะหงุดหงิดแค่ไหน แต่ด้วยภาพลักษณ์อารมณ์ดีขี้เล่นที่ทุกคนรู้จักมาตลอด ทำให้มีคนเอ่ยทักทายตลอดทาง เขาเลยต้องฝืนอาการหงุดหงิดไว้ภายในใจ มุ่งหน้ากลับไปยังห้องทำงานตนเอง
นึกถึงคำพูดเพื่อนๆ ก็ยังเซ็งไม่หาย ไม่รู้ไอ้ข่าวที่เจ้าของร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามตามจีบมันดังไปไกลขนาดนี้ได้ยังไง ตัวเขาก็ใช่ว่าจะเล่นด้วย พอเขาปฏิเสธก็ไม่มีใครเชื่อ
ที่จริงแค่ตั้งใจขึ้นมาเข้าห้องน้ำด้านบน บวกกับแวะคุยกับไอ้หมอกเล็กน้อย ใครจะไปคิดว่าเพื่อนสนิททั้งสอง พวกมันดันรวมตัวอยู่ด้วยกันทั้งคู่ พอเจอหน้าปุ๊บก็แซวปั๊บ
คุณหมอหนุ่มเดินพ้นออกจากประตูลิฟต์เพื่อเลี้ยวกลับไปยังห้องทำงานของตน แต่ต้องชะงักปลายเท้าทันทีเมื่อมองเห็นคนสองคนที่ยืนคุยกันหน้าเครียด
คนหนึ่งคือหมอเจตน์คุณหมอที่คบกันตั้งแต่สมัยเรียน
ส่วนอีกคน...คือคนที่เพิ่งตามตื๊อชวนกันไปกินข้าว
ไม่รู้ว่ากินคนเดียวไม่เป็นเลยต้องไล่ชวนคนอื่นอีกรึเปล่า!!
ด้วยมุมนี้ที่เขายืนอยู่ทั้งสองอาจไม่เห็นว่ามีใครอยู่ตรงนี้ แต่สำหรับระดับสายตาที่เขามองไป เห็นชัดแจ๋วเลยละ โดยเฉพาะท่าทีที่ดูสนิทสนมถึงแม้จะไม่ได้ถึงเนื้อถึงตัวกัน แต่ก็รู้สึกได้ถึงความเป็นกันเองที่ทั้งสองมีให้กัน
แล้วที่คุยกันหน้าเครียดขนาดนั้น ไม่ใช่บังเอิญเจอแล้วทักทายกันแน่นอน
ลำพังแค่ไอ้เจตน์ยืนคุยกับผู้หญิงนานๆ ก็ดูพิลึกมากแล้ว ถ้าลากเข้าโรงแรมเลยไม่เน้นคุยเขาก็พอรู้มาว่ามีบ้าง
สงสัยเทียร์จะได้อกหักจริงๆ แล้วล่ะ
ส่วนตัวเขาเอง....ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรขนาดนั้น ที่ยังยืนแอบมองอยู่ตรงนี้ ก็แค่ไม่เข้าใจเฉยๆ ว่าในเมื่อมีหมอเจตน์อยู่แล้วจะมายุ่งกับเขาอีกทำไม
ธารณ์ยืนมองสักพัก จนคนทั้งสองคล้ายเอ่ยร่ำลาแล้วแยกกันไปคนละทาง โดยคนตัวเล็กเดินไปลงลิฟต์สำหรับผู้มาใช้บริการ ส่วนคนเป็นหมอเดินย้อนมาอีกทางคล้ายจะกลับห้องทำงาน ซึ่งมันเป็นทางเดียวกับที่เขายืนอยู่พอดี
"มาไง?" เจตน์เลิกคิ้วถามคนที่ยืนปักหลักอยู่อย่างงุนงง เห็นมันยืนนิ่งๆ จ้องมองมาไม่ขยับไปไหนจนเขาต้องหยุดเดินแล้วเอ่ยปากถาม
"ก็ไม่ไง เห็นคุยกันอยู่....ก็เลยไม่อยากไปขัด"
"อ้อ"
"อ้อคือ?" ชายหนุ่มย้อนถามด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิดอย่างไม่รู้ตัว
"อะไรมึง" เจตน์มุ่นคิ้วถามเพื่อนงงๆ ที่อยู่ๆ มันก็ขึ้นเสียงใส่
"ไม่ไร ก็แค่แปลกใจเห็นมึงมีหญิง"
"อืม" ร่างสูงตอบรับสั้นๆ หรี่ตามองคนตรงหน้า ยกยิ้มน้อยๆ คล้ายถูกใจอะไรสักอย่าง
"กูไม่ได้ไรนะ ก็แค่ไม่เคยเห็น แฟนเหรอ?" ธารณ์ย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นมันยังมองมาแปลกๆ ความจริงตอนเรียนกลุ่มของเขาจะมีเพื่อนสนิทสองคนคืออวัศย์และรพีภัทร
ส่วนเจตน์ค่อนข้างเป็นคนเก็บตัวไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แต่ในคณะก็น่าจะสนิทกับเขาที่สุด ด้วยความที่บางงานที่อาจารย์สั่งเก็บคะแนน ต้องทำเป็นคู่ เขาที่เป็นเศษส่วนเกินมักโดนไอ้สองคนนั้นไล่ไปหาคู่เองตลอด ด้วยเหตุผลสั้นๆ คือเขาช่างสาระแน เพื่อนเยอะดี
แล้วนั่นแหละถึงเพื่อนเยอะก็มีคู่กันหมดแล้วไหมล่ะ!
สุดท้ายโชคชะตาก็บังคับให้มาคู่กับไอ้คนไม่ค่อยมีปากพูดอย่างไอ้เจตน์ แล้วก็เป็นแบบนั้นเรื่อยๆ จนเรียนจบก็ต่อเฉพาะทางสาขาเดียวกัน แถมยังได้มาทำงานด้วยกันอีก
เพราะฉะนั้นการที่เขาแปลกใจที่เห็นมันคุยกับผู้หญิงก็ไม่น่าจะใช่เรื่องผิดอะไร....ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องอื่นสักนิด!
"ทำไม? มาสืบเรื่องกูแทนเทียร์เหรอ"
"ก็น้องกูเห็นมึงอยู่กับเขา" ธารณ์ถือโอกาสโยนไปที่น้องสาวตัวเองทันที ก็เทียร์คงจะอยากรู้จริงๆ นั่นแหละ
"ถ้าน้องมึงอยากรู้กูยิ่งไม่บอก" เจตน์ยักคิ้วกวนๆ ตอบกลับ
"เออ! เดี๋ยวกูให้เทียร์มาถามเอง"
"ไม่มีอะไร" เจตน์ตอบกลับเสียงเรียบทันทีเมื่อเห็นเค้าความยุ่งยากมาแต่ไกลหากธิติมาเป็นคนมาถามเอง
ดูแล้วไม่จบง่ายๆ
"..."
"สรุปมึงอยากรู้เอง หรือเทียร์?"
"เกี่ยวไรกับกู" ธารณ์ถามกลับอย่างหงุดหงิด
"ก็ได้ข่าวว่า...เขาตามจีบมึงไม่ใช่เหรอ" ไม่แปลกที่เรื่องนี้จะถึงหูมัน ธารณ์คิดอย่างเซ็งๆ
"ก็เหมือนมึงกับน้องกูนั่นแหละ" เขาแสดงให้เห็นว่าความรู้สึกเขากับมันไม่ต่างกัน มันก็โดนน้องสาวเขาตามจีบเช่นกันแต่ไม่สนใจ
"แต่กูว่าไม่เหมือนนะ"
"ทำไม" คู่สนทนาขมวดคิ้วถามกลับอย่างไม่เข้าใจ
"ไม่เหมือนแล้วกัน" เจตน์ตอบกลับอย่างมั่นใจ!
"อ่า....พี่ไทม์ลืมที่เพ้นท์พูดไปเถอะค่ะ" คนที่ดีใจจนเผลอลืมตัวพูดเรื่องแฟนเก่ารีบตอบกลับเสียงอ่อยๆ"ลืมไม่ได้หรอก พูดมาสิ""...""เล่ามา" เมื่อเขาพูดย้ำอีกเสียงเรียบเธอจึงเริ่มเล่าเรื่องที่รู้มา"คือเพ้นท์เพิ่งรู้ว่าความจริงพี่พายไม่ได้แย่งพี่..เอ่อ เขาไป แต่พี่พายไปได้ยินว่าเขาพูดถึงเพ้นท์เสียๆ หายๆ แล้วจะหลอกพาเพ้นท์เข้าโรงแรม พี่พายเลยแกล้งไปตีสนิท จะได้พิสูจน์ด้วยถ้าเขารักเพ้นท์จริงจะต้องไม่สนใจพี่พาย แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ เขาเลือกที่จะนอกใจเพ้นท์" เธอเอ่ยเล่ารวบรัด จะได้พูดถึงแฟนเก่าให้น้อยที่สุด"..." ธารณ์นิ่งฟัง ทดไว้ในใจถึงไอ้ที่ชื่อก้องภพ บังอาจจะมาลากเมียกูเข้าโรงแรม!"พี่ไทม์โกรธเหรอคะ" เธอเอ่ยถามคนรักเสียงอ่อย เมื่อเห็นเขานิ่งไป"พี่ไม่ได้โกรธเรา" แต่ไอ้เหี้ยนั่น! ได้เจอกันแน่"แล้วทำไมเงียบไป""พี่แค่ดีใจที่เพ้นท์มีพี่สาวที่ดี" เขาพอรู้มาบ้างว่าก่อนหน้านี้พวกเธอไม่ถูกกัน แต่การที่เรวิกาทำแบบนี้กับเพ้นท์ แปลว่าลึกๆ แล้วก็คงรักและเป็นห่วงน้องสาวอยู่เหมือนกัน"นั่นสิคะ วันนี้เพ้นท์ดีใจมาก เหมือนได้ครอบครัวกลับมาเลย รู้สึกตัวเองโชคดีชะมัด ที่มีครอบครัวที่ดี" เธอยกยิ้มก
"พี่ไทม์คะ ชุดนี้มาได้ยังไง" รวีธารคว้าชุดเดรสสีหวานที่แขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้า เลิกคิ้วมองคนรักงงๆ"พี่สั่งมาให้ น่ารักดี""อีกแล้วเหรอคะ อาทิตย์นี้สามชุดแล้วนะ"ธารณ์เดินมาหาคนที่หน้ายู่ ฉุดแขนคนรักให้นั่งลงบนตัก หลังจากที่ตนเองทรุดนั่งลงบนเตียง โอบกอดคนตัวเล็กแน่น จมูกโด่งซุกไซ้จากทางด้านหลัง ในขณะที่มือเคลื่อนเข้าไปในเสื้อตัวหลวม"ก็พี่เห็นแล้วอยากให้เพ้นท์ใส่นี่""พี่จะเห็นอะไรแล้วซื้อทุกอย่างแบบนี้ไม่ได้ค่ะ" เธอปรามคนรักเสียงเข้มเพี๊ยะ!"โอ๊ย! เพ้นท์" เขาร้องลั่นทันทีเมื่ออยู่ๆ โดนคนตัวเล็กตีมือเสียงดัง"อย่าเนียนค่ะ""ไม่ได้เนียนสักหน่อย" เขาตอบกลับก่อนจะยื่นหน้าไปหอมแก้มร่างบาง"พี่ไทม์อะ! พอเลยมาคุยกันก่อน" เมื่อเห็นคนรักเริ่มโวยวาย เจ้าตัวจึงอุ้มคนตัวเล็กมานั่งข้างกัน หันหน้าเธอมาสบสายตา เอ่ยถามเธอ"ว่าไงครับ""เพ้นท์รู้สึกว่าของพี่ไทม์เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ เสื้อผ้าก็จะเต็มตู้แล้ว" รวีธารชี้ไปยังตู้เสื้อผ้าที่นับวันของเขาจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆดูเหมือนจะเยอะกว่าครั้งก่อนที่เขาขนเสื้อผ้ามาอยู่กับเธออีกพอมาคิดๆ ดูก็น่าจะเป็นไปได้ เพราะหลังๆ ธารณ์มักจะเอาเสื้อผ้าใหม่ๆ มาใส่เสมอ ขนจาก
รวีธารสบตากับคนที่มองกันอยู่ทั้งน้ำเสียงและสายตาอ้อนวอน "พี่ไทม์...รักเพ้นท์จริงๆ เหรอคะ""พี่ไม่รู้ว่าสิ่งที่พูดจะทำให้เราเชื่อได้ไหม แต่พี่ยืนยันได้ว่าไม่เคยทำแบบนี้กับใคร พี่ไม่เคยพาใครไปบ้าน ไม่เคยเก็บเสื้อผ้าไปอยู่กับใครที่ไหน ไม่เคยมาตามง้อใครแบบนี้ด้วย" สิ่งที่เขาพูดมา มันก็คงจะเหมือนที่พี่ชากับพี่นาวบอก ว่าบางอย่างการกระทำอาจจะชัดเจนกว่าคำพูด"แล้ว...พี่ไทม์รู้เรื่องเกี่ยวกับเพ้นท์แล้วใช่ไหม" การที่เขาได้เปิดใจคุยกับเฮีย แปลว่าเขาน่าจะรู้เรื่องปูมหลังของเธอ "เพ้นท์ไม่ได้สมบูรณ์แบบ เป็นตัวอัปมงคลของบ้าน""เพ้นท์อย่าพูดแบบนี้" เขาดึงเธอเข้ามากอดแน่น "ทุกสิ่งทุกอย่างไม่เกี่ยวกับเราเลย สิ่งที่มันเกิดขึ้นไม่มีใครห้ามได้""แล้วพี่ไทม์ โอเคใช่ไหม""พี่รักเพ้นท์ ไม่ได้รักปัจจัยอะไรทั้งนั้น ของพวกนั้นไม่ได้ทำให้พี่รู้สึกว่าคุณค่าเราจะลดลงสักนิด" ไม่เกี่ยวเลยว่าเธอจะเป็นลูกเต้าใคร ใครจะเป็นเมียหลวงเมียน้อย เขารักที่เธอเป็นเธอแค่นั้น"พี่ไทม์...""เพ้นท์พี่รู้...ที่ผ่านมา พี่ไม่เคยพยายามอะไรให้เห็นเลย ขนาดจีบพี่ยังไม่เคยทำ แต่ถ้าจะให้พี่มาตามจีบเรากลับพี่คงทนไม่ไหว ไม่ใช่พี่จะอดทนเพื่อเ
"ตอนนี้คุณไทม์ยังโทรมาไม่หยุดเลยค่ะ" รวีธารหน้าเจื่อนโชว์หน้าจอให้พี่สาวทั้งสองคนดู ใบชาปรายตามองก่อนจะเอ่ยตอบกลับ"ไม่ต้องสนใจเพ้นท์ ใจแข็งไว้""ใช่ เราไม่ได้ทำอะไรผิด พวกนั้นนั่นแหละผิด" ตามด้วยลัลนาที่พูดขึ้นน้ำเสียงจริงจัง"พี่นาวกับพี่ชาโกรธมากเลยเหรอคะ ความจริงไม่ใช่ความผิดหมอพีร์กับหมอหมอกเลยนะคะ เป็นเพราะคุณไทม์ต่างหาก" คนที่คล้ายเป็นต้นเหตุพูดขึ้นอย่างรู้สึกผิด ที่ทำให้พวกเขาทะเลาะกัน"เพ้นท์อย่างพวกพี่จะไปโกรธอะไรพวกนั้น" ใบชาหัวเราะน้อยๆ ตอบกลับยิ้มๆ"อ้าว ก็เห็นพวกพี่ดูโกรธมาก แถมหนีกันมาอีก""พวกพี่ไม่ได้โกรธ แล้วก็ที่มานี่ไม่ได้หนี แต่อยากมา" ดาราสาวตอบกลับอย่างเอ็นดู"อยากมาเหรอคะ?""เห้อ! น้องน้อย เราซึมซับบรรยากาศเที่ยวแบบนี้ไว้นะ เพราะต่อไปเราจะไม่ได้มาอีก" ใบชาเอ่ยเตือน"ทำไมคะ?""ก็หมอไทม์ไม่มีทางปล่อยให้เรามา เหมือนกับหมอกแล้วก็คุณพีร์ไง""อ้าว แล้วที่เรามานี่คือ...""พวกพี่อยากมา เลยถือโอกาสแกล้งงอนไปเลย อย่างน้อยเที่ยวที่กรุงเทพฯ ไม่ได้ที่นี่ก็ไม่เลว" ลัลนายกตอบกลับยิ้มๆ ยกแก้วตรงหน้าขึ้นดื่ม"นี่เรื่องจริงเหรอคะเนี่ย""หมายถึงเรื่องไหน เรื่องที่พวกพี่แกล้งงอน ห
รวีธารมองคนที่นั่งอยู่บนโซฟากว้างกลางห้อง หลังจากที่กลับมาถึงรีสอร์ต เขาก็ขอเข้ามาพักในห้องเธอก่อนเนื่องจากตัวเขายังไม่ทันได้จองห้อง มาถึงก็ไปตามหาเธอเลย คนตัวสูงส่งยิ้มมาให้เมื่อเห็นเธอยังคงจ้องมองนิ่ง ปากก็บ่นว่าปวดขาปวดตัวอะไรสักอย่าง"คุณอยากได้อะไรไหม" เธอไม่รู้ว่าเขาอยากได้ยา หรือของกินอะไรไหม"พี่แค่อยากอยู่กับเพ้นท์" รวีธารไม่ตอบอะไร เดินไปหยิบขนมปังที่เธอซื้อตุนไว้เผื่อหิวช่วงกลางคืนเนื่องจากรีสอร์ตแห่งนี้ เน้นการพักผ่อนแบบธรรมชาติ จึงค่อนข้างห่างไกลในตัวเมืองหรือร้านค้าพอสมควร"กินนี่รองท้องก่อนค่ะ" คนตัวสูงหน้าเจื่อนเล็กน้อยเมื่อไม่ได้รับการตอบรับ ยื่นมือไปรับขนมปังจากเธอ แกะกินรองท้องอย่างที่คนตัวเล็กบอก เพิ่งคิดได้ว่าไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้า"ถ้าพี่จะรบกวนเพ้นท์สั่งข้าวให้พี่ได้ไหม พี่ยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า" ร่างบางมองคนที่ขอร้องท่าทางน่าสงสาร ก่อนจะพยักหน้าตอบรับ จัดการสั่งอาหารตามที่เขาบอก"นั่งรออยู่นี่ค่ะ เดี๋ยวเขามาส่ง" เธอบอกเขาก่อนจะผุดลุกขึ้น เมื่อสั่งอาหารเรียบร้อย"เพ้นท์ไปไหน" คนตัวสูงละล้าละลังฉุดมือเธอเมื่อเห็นคนตัวเล็กทำท่าจะเดินหนี หัวใจร้อนรนไปหม
"เดี๋ยวจอดตรงนี้ให้กูก่อน กูจะเข้ารีสอร์ต" ธารณ์บอกเพื่อนที่ขับรถอยู่ให้จอด เมื่อกำลังจะผ่านรีสอร์ตของหมอพีร์ ที่ตากับยายมันเปิดทิ้งไว้ตั้งแต่ก่อนเริ่มทำโรงแรม"ไม่เข้าบ้านก่อนเหรอมึง" รพีภัทรเอ่ยถามเพื่อนเมื่อเห็นท่าทางเร่งรีบของมัน"คุณนาวครับตอนนี้เพ้นท์อยู่ไหนครับ""นาวก็ไม่รู้สิคะ น้องตัวคนเดียวคงไม่ต้องมาคอยบอกใครหรอกว่าไปไหน" ธารณ์หน้าเจื่อนๆ ลอบมองเพื่อนสนิททั้งสองคนที่นั่งเงียบอยู่บนรถเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่านั่งเงียบตั้งแต่เจอกันที่สนามบินหลังจากที่เมื่อคืนเพื่อนสนิททั้งสองคนกลับบ้าน ตัวเขาที่นั่งรอฟังข่าวอย่างใจจดใจจ่อก็ได้รับข่าวดี ทั้งสองยอมบอกแล้วว่าเพ้นท์อยู่ที่ไหน ซึ่งไอ้หมอทั้งสองคนต้องบรรยายความน่าสงสารอย่างหนัก กว่าจะยอมบอกแต่ก็ต้องแลกมากับการที่พวกเขาสามคนโดนเมินกันหมด ถามคำก็ตอบคำ"ถ้ายังไงมีอะไรก็โทรมานะมึง" อวัศย์ยิ้มแหยๆ บอกเพื่อนก่อนจะหันหน้าหนีเมื่อเห็นคนรักปรายตาดุๆ มองมาหลักๆ คือพวกเขาสองคนโดนตึงๆ ใส่เพราะดื้อดึงจะตามมาด้วยนี่แหละเรื่องไอ้ไทม์ไม่ค่อยเท่าไหร่ ทีแรกพวกเธอแพลนกันจะเที่ยวกันตามประสาสาวๆ แต่เรื่องอะไรจะยอมเขากับไอ้พีร์ไม่ยอมลูกเดียว สุดท้ายก็