/ วาย / เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว / เล่ม 2 ตอนที่ 11 หัวใจดวงเดิม

공유

เล่ม 2 ตอนที่ 11 หัวใจดวงเดิม

last update 최신 업데이트: 2025-06-21 15:26:18

        เช้าวันต่อมา

          เมื่อคลี่คลายเรื่องราวทุกอย่างได้แล้ว เหล่าศิษย์จากสำนักต่าง ๆ จึงออกเดินทางกลับสำนักของตนเอง หลิ่งอินหันมายิ้มและบอกลาเหลียนเฟินด้วยท่าทีสดใส

          “อาเฟิน เจอกันใหม่ ขอบคุณที่ช่วยข้า” หลิ่งอินพูดจบแล้วก็รีบวิ่งตามศิษย์พี่ของเขากลับไป

          “อาเฟินหรือ อาเฟิน” หลวนเล่อสะกิดแขนของเหลียนเฟิน ยิ้มมีเลศนัย

          “ทำไมหรือ” เหลียนเฟินยังคงไม่รู้ตัวว่านางต้องการสื่อสิ่งใด

          “อาเฟิน เขาเรียกเจ้าเช่นนี้ หมายความว่าอันใด” หลวนเล่อหรี่ตามองท่าทางคนตรงหน้า

          “เขาเรียกชื่อข้า ไม่เห็นมีอันใดแปลกนี่ขอรับ” เหลียนเฟินทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

          “นี่ศิษย์น้องที่รัก หน้าเจ้าแดงแล้วนะ ไม่แปลกจริงหรือ อีกอย่างเขาเรียกข้าว่าอะไรนะ ศิษย์พี่หญิงหลวนเล่อแห่งวังธาราเหมันต์ ชื่อข้าจะไม่ยาวไปหน่อยหรือ” นางยังคงจ้องมองศิษย์น้องจับพิรุธ

          “ไม่รู้สิขอรับ” เหลียนเฟินไม่อยากตกเป็นเป้านิ่งเดินหนีนางไปทางท่าเรือด้วยท่าทีรีบร้อน

          “อาเฟิน เจ้าเขินอายหรือ อาเฟิน” หลวนเล่อตะโกนเสียงดังทำให้เหลียนเฟินรีบเดินจ้ำอ้าวกว่าเดิม

         

          หลิ่งอินผู้เป็นศิษย์สำนักเขาศิลาหยกอายุยี่สิบปีผู้นี้ มีรูปร่างสูงกว่าเหลียนเฟินอยู่หนึ่งคืบ ร่างกายภายนอกดูแข็งแรงเหมือนคนปกติทั่วไป แต่ภายในกลับอ่อนแอ

          เขาสอบผ่านเข้าสำนักเมื่ออายุห้าขวบ เริ่มฝึกวิชาและร่ำเรียนการต่อสู้เหมือนศิษย์สำนักคนอื่น ๆ ทั่วไป

          จู่ ๆ วันหนึ่งถูกไอของปราณมารหลั่งไหลเข้ามาจนทำร้ายร่างกายและอวัยวะภายในของเขาบอบช้ำ บิดามารดาของเขาเศร้าเสียใจอย่างหนักเพราะเป็นบุตรชายเพียงคนเดียว ไม่อาจสูญเสียเขาไปได้

          อาจารย์สำนักเขาศิลาหยกเคยบอกบิดามารดาของเขาแล้วว่าการยืดอายุของเด็กน้อยผู้นี้มีแต่จะทำร้ายเขาเปล่า ๆ ทางที่ดีควรจะตัดใจแล้วให้เขาจากไปอย่างสงบเสียดีกว่า

          ทว่าเสียงร่ำไห้คร่ำครวญขอให้เอาชีวิตของตนไปแทนทำให้อาจารย์ต้องลองหาวิธีอื่นมาช่วยเหลือ

          “ท่านนักพรต โปรดช่วยลูกชายข้าด้วย ท่านอยากได้สิ่งใดข้าจะหามาให้ท่าน” บิดาของเขาอ้อนวอนคุกเข่าหน้าสำนักเขาศิลาหยกอยู่ทุกเช้าค่ำ

          “ร่างกายของเขาอ่อนแอนัก เวลานี้ข้าช่วยเขาได้ แต่วันดีคืนดีเขาอาจจะจากพวกเจ้าไปอีกครั้ง” อาจารย์สำนักเขาศิลาหยกกล่าวกับทั้งสอง

          “ต่อให้ช่วยไปแล้วลูกชายข้ามีลมหายใจอีกเพียงแค่หนึ่งวันก็ตาม ข้าไม่สน ท่านนักพรตได้โปรดช่วยเขาด้วยเถิด อายุยังน้อยแท้ ๆ ข้าเพียงแค่อยากเห็นเขาเติบโตอย่างมีความสุขก็เพียงเท่านั้น” มารดาของเขาเอ่ยปากร้องไห้ฟูมฟาย

          “เอาเถอะ ๆ ข้าจะหาวิธี” อาจารย์รับปากจะช่วย คืนนั้นเขานั่งคิดอยู่ทั้งคืนว่าจะช่วยลูกศิษย์ตัวน้อยอย่างไร

          ทันใดนั้น เขาสัมผัสได้ถึงเสียงเต้นของหัวใจอยู่ใต้ฐานศิลาหยกของสำนัก

          “แปลกนัก ไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน” เขาพึมพำกับตัวเองแล้วร่ายอาคมตรวจตราสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่

          พลันวิญญาณของคนทั้งสองปรากฏขึ้น

          “อาจารย์ขอรับ” เสียงเด็กน้อยผู้เป็นเจ้าของร่างเอ่ยปากเรียก

          “เสี่ยวหลิ่งอิน” อาจารย์เรียกเขาน้ำเสียงเอ็นดู

          “อาจารย์มาดูนี่เถิดขอรับ” หลิ่งอินเดินมาจูงมือเขาพาไปยังวิญญาณของชายหนุ่มผู้หนึ่งที่กำลังหลับใหล

          “เจ้าพาอาจารย์มาที่นี่ทำไมหรือ”

          “ปลุกเขาเถิด”

          “แต่ว่าวิญญาณของเจ้าจะหายไปนะเสี่ยวหลิ่งอิน” อาจารย์สำนักเขาศิลาหยกห้ามปราม เขารู้ว่าวิญญาณของคนที่หลับใหลนั้นมีความปรารถนาแรงกล้าซ่อนอยู่ แม้ตัวจะตายจากไปแล้วแต่ยังหลงเหลือสิ่งเหล่านี้เอาไว้ราวติดค้างคำสัญญาในภพนี้

          เด็กน้อยยิ้มให้อาจารย์ของเขา “อาจารย์ ตัวข้าน้อยใกล้จะดับสูญอยู่แล้วขอรับ วาสนาคงมีอยู่เท่านี้ หากเป็นพี่ชายผู้นี้ อย่างน้อยก็ยังจะพอทำให้ท่านพ่อท่านแม่ของข้าน้อยไม่โศกเศร้านักไม่ใช่หรือขอรับ”

          “...” อาจารย์ของเขาไม่ตอบ เอามือลูบหัวศิษย์ตัวน้อย ความคิดความอ่านของเขามากมายเกินเด็กผู้หนึ่งจริง ๆ

          “ฝากดูแลท่านพ่อท่านแม่ข้าน้อยได้หรือไม่ขอรับ” หลิ่งอินยิ้มให้พลางทำหน้าตาอ้อนอาจารย์ของเขาเป็นครั้งสุดท้าย

          “อื้ม ข้ารับปาก”

          “หากชาติหน้ามีจริง เจอกันใหม่นะขอรับ” เสียงและภาพของเขาค่อย ๆ เลือนหายไป สีหน้ายิ้มแย้มสดใสเช่นนั้นคงจะไม่ได้เห็นอีกต่อไปแล้ว

          อาจารย์สำนักเขาศิลาหยกร่ายอาคมปลุกชายหนุ่มให้ตื่นขึ้น ก่อนจะใช้วิชาและสมุนไพรรักษาร่างกายของหลิ่งอินอย่างสุดความสามารถ

          เขาเคยลองทำเช่นนี้มาแล้ว แต่ทว่าร่างกายของเขาไม่ตอบสนอง ครั้งนี้จึงนำหัวใจของคนผู้นี้มาสับเปลี่ยน ยามที่วิญญาณของเขาลงมาประทับอยู่ในร่างของหลิ่งอิน ร่างกายเหมือนค่อย ๆ ฟื้นฟูตนเอง

          “หลิ่งอิน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” เขาถามคนที่กำลังนอนทำหน้ายู่ยี่เพราะเจ็บปวด “นอนพักก่อนเถิด พรุ่งนี้ข้าจะต้มยามาให้เจ้าดื่ม”

          รุ่งเช้า

          หลิ่งอินน้อยลืมตา มองรอบตัวเห็นสถานที่แปลกไป ครั้นได้ยินเสียงเปิดประตูจึงหันไปมอง

          “หลิ่งอิน เจ้าฟื้นแล้วหรือ” อาจารย์คนเดิมถามด้วยความแปลกใจ ก่อนรีบเข้าไปจับเส้นชีพจรและโคจรพลังปราณ

          “ท่านเป็นผู้ใด” เขาถามพลางขยี้ตา สีหน้างุนงง

          “จำไม่ได้หรือ อาจารย์ของเจ้าอย่างไรเล่า” เขาเอ่ยปากแล้วยกถ้วยยามาให้หลิ่งอิน “ดื่มเถิด เจ้าไม่สบาย”

          “ขอรับ” หลิ่งอินรับถ้วยยามาอย่างว่าง่าย ผิวที่เคยซีดเผือดกลับมามีชีวิตชีวาบ้างแล้ว อาจารย์อย่างเขาจึงพอโล่งใจได้บ้างว่าอย่างน้อยก็ทำสิ่งที่หลิ่งอินน้อยฝากฝังไว้สำเร็จ

          หลักจากถามไถ่เรื่องราวเผื่อว่าหลิ่งอินคนใหม่นี้จะจำสิ่งใดเกี่ยวกับตนเองได้บ้าง กลับไม่พบคำตอบใด เจ้าตัวจำอะไรไม่ได้แม้แต่เรื่องเดียว ส่วนร่างกายที่เคยบาดเจ็บ เวลานี้ค่อย ๆ ฟื้นฟูขึ้นมาบ้างแล้ว หากแต่จะให้ฝึกวิชาหรือโคจรพลังปราณเหมือนศิษย์คนอื่น ๆ คงจะยากเอาการ

          ทันทีที่ได้ข่าวบุตรชาย บิดามารดาของเขาก็รีบมาเยี่ยมที่สำนักด้วยความตื่นเต้น

          “เสี่ยวหลิ่งอิน ลูกแม่” นางตะโกนเรียกเขา สีหน้ายินดี

          “...” หลิ่งอินที่จำความไม่ได้นิ่งเฉย แต่บิดาและมารดาก็เข้าใจได้

          “เจ้าไม่ต้องกังวลหรอก เพียงแค่เจ้าฟื้นขึ้นมา ข้ากับแม่ของเจ้าก็ดีใจมากแล้ว เสี่ยวหลิ่งอิน” ทั้งสองคนสวมกอดบุตรของตนเองด้วยความคิดถึง หันมาขอบคุณอาจารย์ยกใหญ่ที่ช่วยเหลือ

          นับตั้งแต่นั้นมา

          หลิ่งอินผู้นี้ก็ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ เขาเติบโตมาท่ามกลางความรักของอาจารย์และเพื่อนร่วมสำนัก คอยดูแลบิดามารดาอย่างดีจนทั้งสองจากไปเพราะโรคชรา

          “หลิ่งอิน เจ้าเบา ๆ หน่อย ฝืนร่างกายเกินไปจะแย่เอา” อาจารย์พยายามห้ามเขา

          “อาจารย์ ศิษย์ทนได้ขอรับ” รอยยิ้มกว้างของเขาทำให้อาจารย์ถอนหายใจ

          ครั้งนั้นเขายังคิดอยู่เลยว่าทำเช่นนี้จะดีหรือ แต่ในวันที่บิดามารดาของหลิ่งอินจากไป เขาเห็นคนทั้งสองพร้อมเสี่ยวหลิ่งอินในความฝันราวกับมาเพื่อบอกลาครั้งสุดท้าย

          “อาจารย์ คิดถึงท่านเหลือเกิน” เสี่ยวหลิงอินเดินมาหาเขา“ข้าไปจริง ๆ แล้วนะขอรับ”

          “ท่านนักพรต ขอบคุณมากขอรับสำหรับทุกเรื่องที่ผ่านมา หลิ่งอินผู้นั้น หวังว่าเขาจะพบสิ่งที่รอคอยนะขอรับ”

          ทันทีที่พวกเขาพูดจบ ร่างของทั้งสามก็หายไปในม่านหมอก เสียงหัวเราะยินดียามได้หวนมาพบกันใหม่ของพ่อแม่ลูกทั้งสามคนยังคงก้องอยู่ในความคิดของเขา “ดีแล้ว ดีแล้ว ลาก่อนเสี่ยวหลิ่งอิน”

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 24 พากลับบ้าน

    เช้าวันต่อมา เหลียนเฟินงัวเงียตื่นขึ้นมาในอ้อมแขนของหวังเยี่ยนหลง ทันทีที่รู้ว่าตัวเองไม่ได้ถูกควบคุมแล้ว เขารีบพลิกตัวหนีแล้วถีบร่างหวังเยี่ยนหลงไปอีกทาง คนที่นอนหลับอยู่พลันกระเด็นตามแรงไปชนขอนไม้ใหญ่ดังพลั่ก สะดุ้งตื่นในทันที “กล้าดีอย่างไร!” หวังเยี่ยนหลงสบถ “คนชั่วช้า เจ้าทำอะไรข้า ทำไมข้าถึงขัดขืนไม่ได้” เหลียนเฟินโพล่งออกมา สีหน้าโกรธแค้นระคนเสียใจ&

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 23 ปราณมารกำเริบ

    หลังจากวันนั้น หวังเยี่ยนหลงก็เอาแต่วนเวียนวุ่นวายกับเหลียนเฟินไม่จบสิ้นไม่ว่าจะพูดยั่วยุเท่าใดก็ไม่เป็นผล จิตวิญญาณของเหลียนเฟินยังคงเป็นเช่นเดิม ไม่ปล่อยให้ความแค้นเกาะกุม ปราณมารจึงไม่อาจเข้าครอบงำได้อีก ในเมื่อเวลานี้รู้แล้วว่าเขาเป็นผู้ใดจึงไม่มีเหตุผลต้องปิดบังอีกต่อไป หวังเยี่ยนหลงจึงพาเขากลับมาที่สำนักตระกูลหวัง ระหว่างพรรคมารกลุ่มหนึ่งตาดีมองเห็นหวังเยี่ยนหลงแต่ไกล คนในนั้นรู้ทันทีว่าเป็นหวังเยี่ยนหลง ยิ่งอยู่เพียงลำพังกับชายหนุ่มอายุน้อยกว่าก็คิดว่าตนเองมีแต้มเป็นต่อ หากกำจัดเขาได้ก็คงจะมีชื่อเสียงเลื่องลือว่าสามารถโค่นล้มประมุขสำนักตระกูลหวังได้ จึงรวมหัวกันวางแผนพร้อมลอบโจมตี

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 22 ลงโทษตัวเอง

    ครั้นสำนักสะสางเรื่องพรรคมารได้แล้ว จึงหันมาสืบสวนเรื่องภายในอย่างเคร่งเครียดบาดแผลบนร่างกายเกิดจากคมกระบี่เงิน ร่องรอยอาคมที่บ่งชัดได้ว่ามาจากผู้ที่สอบผ่านขั้นกลางไปแล้ว ศิษย์ที่อยู่ในที่แห่งนี้มีเพียงศิษย์ระดับต้นเท่านั้น “ซิ่นเฉิง เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้อาจารย์ฟังได้หรือไม่” อาจารย์ผู้หนึ่งถามซิ่นเฉิง ซิ่นเฉิงกลับเล่าเรื่องราวบิดเบือนจากความจริงไปมากนักราวกับว่าความทรงจำของเขาถูกใครบางคนควบคุมอยู่ เหลียนเฟินเห็นว่านี่เป็นทางเดียวที่จะทำให้เขาถูกลงโทษอย่างสมน้ำสมเนื้อ จึงยอมรับว่าทำเรื่องทั้งหมดนั่นแต่โดยดี

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 21 เรียกสติ

    “เหลียนเฟิน!” เสียงคุ้นเคยของสตรีผู้หนึ่งดังขึ้น เรียกความสนใจของหวังเยี่ยนหลงได้เป็นอย่างดี “หมิงฮวา ดีใจนักที่ได้เจอเจ้าเสียที” เขาพูดกับนางอย่างเป็นกันเอง “หวังเยี่ยนหลง?” หมิงฮวาไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะยังมีชีวิตอยู่ นับตั้งแต่ปะทะกันครั้งก่อน ไม่มีข่าวของหวังเยี่ยนหลงหลุดออกมาอีกเลย“เจ้าทำอะไรเขา” หมิงฮวาสงสัย หากเป็นโลหิตมารย่อมไม่สามารถทำอันใดกับศิษย์ทุกคนในสำนักได้ พลังของมันรุนแ

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 20 ถูกควบคุม

    คนกลุ่มหนึ่งในชุดสีขาวแถบเขียวอ่อนวิ่งเข้ามาด้านในศาลาว่าการสายตามองเห็นศิษย์สำนักตนและคนอื่น ๆ ในนั้นนอนจมกองเลือดก็รู้สึกสลดใจที่มาช้าไป “แยกย้ายกันตรวจดู” อาจารย์ผู้หนึ่งสั่งศิษย์ของตน เขามองภาพที่เกิดขึ้นเห็นทั้งไอปราณมารและร่องรอยการต่อสู้ บาดแผลบนตัวทหารหลายคนดึงดูดความสนใจจากเขาเป็นอย่างมาก “อาจารย์ ช่วยหลิ่งอินด้วยขอรับ” เสียงของศิษย์คนหนึ่งดังขึ้น เขาร่ายอาคมรักษาขั

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 19 เครื่องมือแก้แค้น

    ครั้นทั้งสองคนเดินผ่านโรงเตี๊ยมเดิมเมื่อตอนนั้น หวังเยี่ยนหลงจึงหยุดอยู่ข้างหน้าพลางชี้ให้เหลียนเฟินดู “อาหารที่นี่ขึ้นชื่อ” เขายักยิ้ม “ข้าว่าไปที่อื่นดีกว่า อยู่ตรงนี้นานเหมือนจะไม่สบาย” เหลียนเฟินนึกถึงครั้งที่แล้ว เขาตื่นมาด้วยความงงงวยจนนึกว่าตัวเองป่วยไข้ ค้นหาอาการในตำรารักษาทั่วไปก็ไม่พบเจอสิ่งใดสายตาเหลือบเห็นสิ่งที่เรียกว่าตำราต้องห้ามจึงเปิดดูเนื้อหาด้านใน จึงได้รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร นึกโกรธตัวเองนักที่จำไม่ได้ จะถามใครก็ไม่ได้อีกเพราะเป็นเรื่องต้องห้าม

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status