หน้าหลัก / วาย / เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว / เล่ม 2 ตอนที่ 7 ความคลุ้มคลั่งในอดีต

แชร์

เล่ม 2 ตอนที่ 7 ความคลุ้มคลั่งในอดีต

ผู้เขียน: MACARONI/1Millionmilesaway
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-19 12:25:46

          ย้อนกลับไปเมื่อสิบแปดปีที่แล้ว

        หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น หวังเยี่ยนหลงก็คลุ้มคลั่งเพราะควบคุมปราณมารไม่ได้ เขาถูกมันควบคุมความคิดจิตใจพยายามยึดร่างของเขา ยามที่สงบสติลงหวังเยี่ยนหลงก็เอาแต่นิ่งเงียบสับสน

        ครั้นปราณมารปะทุ อารมณ์รุนแรงอ่อนไหวยิ่งทวีมากขึ้น เขาเผลอร่ายอาคมโลหิตมารโดยไม่รู้ตัว จนทำให้คนที่มีโลหิตมารในร่างพลอยได้รับลูกหลงไปด้วย

        ในเวลานั้น หลิงซีแทบไม่มีทางเลือกอื่นใดแต่พอจะได้ยินเรื่องของละอองบุปผาโลหิตมาบ้างจึงส่งซวงและหลุนเข้าไปสืบหาข้อมูลเพิ่มเติม

        ระหว่างรอข่าวดี นางพยายามช่วยให้หวังเยี่ยนหลงควบคุมตนเองให้ได้ หากเขาไม่ถูกปราณมารโจมตี นางและพวกพ้องที่เหลือก็จะปลอดภัยไปด้วย

        บางครั้งหลิงซีคิดฉวยโอกาสสังหารหวังเยี่ยนหลงในเวลาที่อ่อนกำลังลง ทว่าไม่เป็นผลเลยสักครั้ง ไม่ว่าหวังเยี่ยนหลงจะมีสติหรือไม่ ปราณมารมักไม่ปล่อยให้ใครแตะต้องเขาได้ง่าย ๆ ร่างนี้เป็นของมัน ผู้ใดก็ไม่มีสิทธิ์

        ละอองบุปผาโลหิตเป็นของวิเศษของพรรคบุปผาทมิฬ สวงนไว้ให้ประมุขพรรคและครอบครัวเท่านั้น หลิงซีรายงานเรื่องที่ได้รับจากซวงและหลุนให้หวังเยี่ยนหลงได้รู้

        ทั้งสองฝ่ายเจรจากันอยู่พักหนึ่ง จนหวังเยี่ยนหลงไม่อาจรีรอได้อีกต่อไป เขาพาคนของตนเองบุกเข้าไปถึงพรรคบุปผาทมิฬ เกิดการต่อสู้กันระหว่างจ้งหยุนซีประมุขพรรคและหวังเยี่ยนหลงอย่างดุเดือด

        “ข้ามศพข้าไปก่อนเถอะ” จ้งหยุนซีข่มขู่หวังเยี่ยนหลง คิดแค่ว่าคู่ต่อสู้เป็นเพียงเด็กน้อยเพิ่งฝึกวิชาใยจะสู้เขาได้

        “ศพเจ้า?” หวังเยี่ยนหลงยิ้มมุมปาก จะใครหน้าไหนก็ไม่มีทางขวางเขาได้

        “ข้าไม่มีวันยกมันให้เจ้า” จ้งหยุนซียังคงพยายามยืนหยัดตั้งรับการโจมตีของเขาหลายกระบวนท่า

        ทว่า หวังเยี่ยนหลงไม่ได้รู้เพียงแค่วิชาสำนักตระกูลหวัง เขารู้กระทั่งวิชาพรรคทลายฟ้า อีกทั้งยังมีปราณมารศิลาหิน เพียงแค่สามอย่างก็ดูจะเหนือกว่าจ้งหยุนซีแล้ว

        “ข้าไม่ได้ขอ” เขายังคงพูดจาอวดเก่ง มองว่าศัตรูเป็นเพียงตาแก่พรรคมารไร้น้ำยา จากนี้ไปไม่ถึงหนึ่งก้านธูปก็คงจะแพ้เขาราบคาบ

        “ท่านพ่อ” เสียงเล็ก ๆ ของจ้งซูหนี่ว์วัยห้าขวบเรียกบิดาของนาง ในมือถือช่อดอกไม้ชนิดหนึ่งมาด้วย

        ประมุขจ้งเห็นดังนั้นจึงรีบบอกให้นางหนีไป อย่าได้เข้ามายุ่งวุ่นวายตรงนี้

        “ท่านพ่อ เอานี่ให้เขา เขาจะได้ไม่ทำร้ายท่านพ่อ” จ้งซูหนี่ว์รู้ว่าจุดประสงค์ของผู้บุกรุกคือสิ่งใด

        ตั้งเกิดจนป่านนี้ ใครหลายคนเคยพยายามบุกเข้ามาในพรรคบุปผาทมิฬเพื่อชิงบุปผาโลหิตเพราะสรรพคุณของมันเลื่องชื่อ

        นางไม่เข้าใจเลยว่าดอกไม้มากมายมีอยู่เต็มสวน เหตุใดถึงแบ่งให้ผู้อื่นไม่ได้ และเหตุใดต้องเข่นฆ่ากันเพื่อให้ได้มันมาครอบครอง

        ครั้งก่อนที่มอบบุปผาโลหิตให้คนผู้หนึ่งไป นางไม่เห็นว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีในพรรคบุปผาทมิฬสักนิด บิดาของนางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าดอกไม้จากสวนหายไปกี่ดอก

        “ซูหนี่ว์ เจ้าอย่ารบกวนท่านพ่อ” เสียงของพี่สาวต่างมารดาตะโกนบอกนาง จ้งซูเม่ยทำสีหน้าหงุดหงิดเมื่อเห็นว่านางกำลังยุ่งไม่เข้าเรื่อง พูดจบแล้วก็กระชากตัวนางไปอีกทางด้านหนึ่ง หางตามองหวังเยี่ยนหลงเหยียดหยาม

        นางมักจะคิดว่าบิดาของนางเก่งกว่าผู้ใด ต่อให้มีคนพยายามบุกเข้ามาด้านในย่อมไม่เหลือชีวิตรอดกลับไปสักราย ดังนั้นแล้วชายหนุ่มเลือดร้อนผู้นี้ก็ด้วยเช่นกัน

        การต่อสู้ที่ต่างฝ่ายต่างมีวิชาลับของตนทำให้เวลายืดเยื้อออกไป หวังเยี่ยนหลงเริ่มจะควบคุมปราณมารไม่ได้แล้วเผลอปลดปล่อยมันออกมาพลันสติเลือนหาย

        จ้งหยุนซีเห็นท่าทางที่แปลกไปของหวังเยี่ยนหลงจึงร่ายอาคมปลิดชีพหมายสังหาร ทว่า ปราณมารไม่ยอมให้ผู้ใดทำร้ายเจ้าของร่างยกเว้นมันเพียงผู้เดียวจึงสะท้อนอาคมทั้งหมดกลับไปยังจ้งหยุนซี อีกทั้งเข้าสิงร่างของเขาเพื่อกัดกินวิญญาณและอวัยวะภายในจนเหี้ยนเหลือแต่เพียงหนังหุ้มกระดูกบาง ๆ

        ครั้นได้ปลดปล่อยปราณมารออกไปแล้ว หวังเยี่ยนหลงจึงกลับมาคุมปราณมารที่เหลืออยู่ได้ เขาจึงได้รู้ว่าวิธีการเช่นนี้จะช่วยเขาไว้ได้แต่ก็ทำให้ร่างกายของเขาอ่อนแอด้วยเช่นกัน

        ก่อนที่คนในพรรคบุปผาทมิฬจะเข้าถึงตัวเขา ซวงและหลุนบุกเข้ามาด้านในเพื่อพาเขาหนีออกไปจากที่นั่นได้ทันท่วงที

        ผ่านไปสองอาทิตย์

        พลังปราณของหวังเยี่ยนหลงฟื้นกลับมาเป็นปกติ เขาเดินทางไปที่พรรคบุปผาทมิฬอีกครั้ง คราวนี้มุ่งมั่นจะกวาดเอาทุกสิ่งทุกอย่างมาเป็นของตนให้ได้

        ประกอบกับยามนี้พรรคบุปผาทมิฬไม่มีประมุขคอยปกครอง คนในพรรคแก่งแย่งชิงความเป็นใหญ่จนเกิดความโกลาหล เปิดจังหวะให้คนนอกเข้ามาแทรกแซงได้โดยง่าย

        หวังเยี่ยนหลงร่ายอาคมโลหิตมารเข้าร่างของคนที่ดูมีประโยชน์กับเขาให้จัดการส่วนที่เหลือให้จบภายในวันนั้น

        ความขัดแย้งภายในยุติลงอย่างเสียไม่ได้ ผู้ใดกล้าท้าทายเขา หวังเยี่ยนหลงเพียงแค่ร่ายอาคมบังคับโลหิตมาร คนผู้นั้นก็แทบจะทนไม่ไหวต้องร้องขอชีวิต

        เขาตรงไปยังเรือนของจ้งซูหนี่ว์เพราะหลิงซีบอกว่านางรู้วิธีใช้ละอองบุปผาโลหิต

        “จับตัวนางไปด้วย” หวังเยี่ยนหลงสั่งหลุนให้พาจ้งซูหนี่ว์กลับสำนักตระกูลหวัง แล้วหันไปพูดกับซวง “ขุดดอกไม้ในสวนนั่นไปให้หมดอย่าให้เหลือแม้แต่ราก”

        เด็กน้อยวัยห้าขวบไม่รู้เรื่องว่าเกิดสิ่งใดขึ้น รู้แต่เพียงว่านางต้องปรุงยาจากบุปผาโลหิตให้หวังเยี่ยนหลงทุกเจ็ดวันและมีหน้าที่คอยดูแลสวนบุปผาอยู่ในสำนักตระกูลหวังตลอดไป

        นอกจากนั้น หวังเยี่ยนหลงยังให้เฟินเยว่เป็นผู้ดูแลพรรคบุปผาทมิฬเพื่อตอบแทนที่บอกเรื่องวิธีรักษาเขากับหลิงซี

        ก่อนหน้านั้น นางเรียนรู้วิชาลับของคุณชายใหญ่สำนักตระกูลหวังมา นางจึงคิดใช้มันเพื่อช่วยเหลือจ้งหยุนซีประมุขพรรคแต่เขากลับไม่เห็นคุณค่า ทั้งยังผลักไสนางให้ออกห่าง ความฝันจะเป็นใหญ่เกือบพังทลาย

        นางคิดจะตามหาคุณชายใหญ่ที่สำนักตระกูลหวังแต่กลับได้ข่าวมาว่าเกิดเรื่องร้ายแรงภายในสำนัก เวลานี้เหลือเพียงคุณชายสามอย่างหวังเยี่ยนหลงเพียงเท่านั้น

        เฟินเยว่คิดอยู่นานว่าจะทำอย่างไร นางพลาดจากจ้งหยุนซีและคุณชายใหญ่ ฉะนั้นแล้ว นางจึงคิดจะหาประโยชน์จากหวังเยี่ยนหลงให้ได้

เคราะห์ยังดี นางไม่รีบร้อนจนเกินไปจึงค่อย ๆ สืบข่าวของหวังเยี่ยนหลงอยู่พักหนึ่งจนได้รู้ว่าปราณมารกำลังทำลายวิญญาณของเขา จึงทำทีเป็นปล่อยข่าวให้รั่วไหลถึงหูหลิงซี

        เวลานี้นางนับว่าสมหวังแล้ว พรรคบุปผาทมิฬกลายเป็นของนาง จ้งซูหนี่ว์ถูกส่งไปอยู่กับหวังเยี่ยนหลง มีเพียงจ้งซูเม่ยที่ชอบขัดขานางแต่ตราบใดที่โลหิตมารยังอยู่ในร่าง นางไม่มีทางก่อเรื่องกำเริบเสิบสาน

        นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หวังเยี่ยนหลงจึงใช้ละอองบุปผาโลหิตควบคุมปราณมารไม่ให้ปะทุ

        พรรคทลายฟ้าที่เพิ่งจะรู้ว่าคนของตนถูกหวังเยี่ยนหลงควบคุมไปแล้วครึ่งหนึ่งบุกเข้ามาหาเขาถึงที่ การต่อสู้จึงได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

        สำนักตระกูลหวังราวกับต้องคำสาป กลิ่นเลือดไม่เคยจางหายไปแม้แต่วันเดียว จิตใจของหวังเยี่ยนหลงเริ่มด้านชาและกระหายมันมากขึ้นเรื่อย ๆ

        ครานี้ปราณมารไม่ได้กัดกินเขาเพียงอย่างเดียว มันค่อย ๆ เปลี่ยนเขาให้เป็นอย่างมัน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 24 พากลับบ้าน

    เช้าวันต่อมา เหลียนเฟินงัวเงียตื่นขึ้นมาในอ้อมแขนของหวังเยี่ยนหลง ทันทีที่รู้ว่าตัวเองไม่ได้ถูกควบคุมแล้ว เขารีบพลิกตัวหนีแล้วถีบร่างหวังเยี่ยนหลงไปอีกทาง คนที่นอนหลับอยู่พลันกระเด็นตามแรงไปชนขอนไม้ใหญ่ดังพลั่ก สะดุ้งตื่นในทันที “กล้าดีอย่างไร!” หวังเยี่ยนหลงสบถ “คนชั่วช้า เจ้าทำอะไรข้า ทำไมข้าถึงขัดขืนไม่ได้” เหลียนเฟินโพล่งออกมา สีหน้าโกรธแค้นระคนเสียใจ&

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 23 ปราณมารกำเริบ

    หลังจากวันนั้น หวังเยี่ยนหลงก็เอาแต่วนเวียนวุ่นวายกับเหลียนเฟินไม่จบสิ้นไม่ว่าจะพูดยั่วยุเท่าใดก็ไม่เป็นผล จิตวิญญาณของเหลียนเฟินยังคงเป็นเช่นเดิม ไม่ปล่อยให้ความแค้นเกาะกุม ปราณมารจึงไม่อาจเข้าครอบงำได้อีก ในเมื่อเวลานี้รู้แล้วว่าเขาเป็นผู้ใดจึงไม่มีเหตุผลต้องปิดบังอีกต่อไป หวังเยี่ยนหลงจึงพาเขากลับมาที่สำนักตระกูลหวัง ระหว่างพรรคมารกลุ่มหนึ่งตาดีมองเห็นหวังเยี่ยนหลงแต่ไกล คนในนั้นรู้ทันทีว่าเป็นหวังเยี่ยนหลง ยิ่งอยู่เพียงลำพังกับชายหนุ่มอายุน้อยกว่าก็คิดว่าตนเองมีแต้มเป็นต่อ หากกำจัดเขาได้ก็คงจะมีชื่อเสียงเลื่องลือว่าสามารถโค่นล้มประมุขสำนักตระกูลหวังได้ จึงรวมหัวกันวางแผนพร้อมลอบโจมตี

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 22 ลงโทษตัวเอง

    ครั้นสำนักสะสางเรื่องพรรคมารได้แล้ว จึงหันมาสืบสวนเรื่องภายในอย่างเคร่งเครียดบาดแผลบนร่างกายเกิดจากคมกระบี่เงิน ร่องรอยอาคมที่บ่งชัดได้ว่ามาจากผู้ที่สอบผ่านขั้นกลางไปแล้ว ศิษย์ที่อยู่ในที่แห่งนี้มีเพียงศิษย์ระดับต้นเท่านั้น “ซิ่นเฉิง เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้อาจารย์ฟังได้หรือไม่” อาจารย์ผู้หนึ่งถามซิ่นเฉิง ซิ่นเฉิงกลับเล่าเรื่องราวบิดเบือนจากความจริงไปมากนักราวกับว่าความทรงจำของเขาถูกใครบางคนควบคุมอยู่ เหลียนเฟินเห็นว่านี่เป็นทางเดียวที่จะทำให้เขาถูกลงโทษอย่างสมน้ำสมเนื้อ จึงยอมรับว่าทำเรื่องทั้งหมดนั่นแต่โดยดี

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 21 เรียกสติ

    “เหลียนเฟิน!” เสียงคุ้นเคยของสตรีผู้หนึ่งดังขึ้น เรียกความสนใจของหวังเยี่ยนหลงได้เป็นอย่างดี “หมิงฮวา ดีใจนักที่ได้เจอเจ้าเสียที” เขาพูดกับนางอย่างเป็นกันเอง “หวังเยี่ยนหลง?” หมิงฮวาไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะยังมีชีวิตอยู่ นับตั้งแต่ปะทะกันครั้งก่อน ไม่มีข่าวของหวังเยี่ยนหลงหลุดออกมาอีกเลย“เจ้าทำอะไรเขา” หมิงฮวาสงสัย หากเป็นโลหิตมารย่อมไม่สามารถทำอันใดกับศิษย์ทุกคนในสำนักได้ พลังของมันรุนแ

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 20 ถูกควบคุม

    คนกลุ่มหนึ่งในชุดสีขาวแถบเขียวอ่อนวิ่งเข้ามาด้านในศาลาว่าการสายตามองเห็นศิษย์สำนักตนและคนอื่น ๆ ในนั้นนอนจมกองเลือดก็รู้สึกสลดใจที่มาช้าไป “แยกย้ายกันตรวจดู” อาจารย์ผู้หนึ่งสั่งศิษย์ของตน เขามองภาพที่เกิดขึ้นเห็นทั้งไอปราณมารและร่องรอยการต่อสู้ บาดแผลบนตัวทหารหลายคนดึงดูดความสนใจจากเขาเป็นอย่างมาก “อาจารย์ ช่วยหลิ่งอินด้วยขอรับ” เสียงของศิษย์คนหนึ่งดังขึ้น เขาร่ายอาคมรักษาขั

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 19 เครื่องมือแก้แค้น

    ครั้นทั้งสองคนเดินผ่านโรงเตี๊ยมเดิมเมื่อตอนนั้น หวังเยี่ยนหลงจึงหยุดอยู่ข้างหน้าพลางชี้ให้เหลียนเฟินดู “อาหารที่นี่ขึ้นชื่อ” เขายักยิ้ม “ข้าว่าไปที่อื่นดีกว่า อยู่ตรงนี้นานเหมือนจะไม่สบาย” เหลียนเฟินนึกถึงครั้งที่แล้ว เขาตื่นมาด้วยความงงงวยจนนึกว่าตัวเองป่วยไข้ ค้นหาอาการในตำรารักษาทั่วไปก็ไม่พบเจอสิ่งใดสายตาเหลือบเห็นสิ่งที่เรียกว่าตำราต้องห้ามจึงเปิดดูเนื้อหาด้านใน จึงได้รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร นึกโกรธตัวเองนักที่จำไม่ได้ จะถามใครก็ไม่ได้อีกเพราะเป็นเรื่องต้องห้าม

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status