ลมยามเช้าพัดผ่านใบมะพร้าว แสงแดดสีอ่อนตกกระทบผิวของภพขณะที่เขายืนมองสวนกว้างเบื้องหน้า ต้นมะพร้าวเหล่านี้… ยังคงยืนต้นแข็งแรงเหมือนเมื่อสิบปีก่อน แต่เจ้าของสวนกลับไม่ใช่เด็กชายวัยสิบสามอีกต่อไป เขากลายเป็นชายหนุ่มที่เติบโตจากบาดแผลในอดีต
แป้นเฝ้ามองลูกชายเธอเงียบๆ ตั้งแต่เขากลับมา เขาเปลี่ยนไปมาก ภพไม่ได้เป็นเด็กที่พูดเก่งเหมือนเมื่อก่อน เขาเงียบขึ้น ละเมียดละไมกับความคิดของตัวเอง และเลือกที่จะไตร่ตรองทุกอย่างก่อนพูด เขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับคอมพิวเตอร์ นั่งทำงานแบบ Work from Home หรือบางวันก็มาช่วยแม่ดูแลสวน แต่แป้นรู้… ว่าในดวงตาของลูกชาย ยังมีบางอย่างที่ค้างคาใจ จนกระทั่งวันหนึ่ง…
"ผมคิดว่าจะเข้ามหาวิทยาลัยที่ไทยครับแม่"
แป้นเงยหน้าขึ้นจากตะกร้ามะพร้าวที่กำลังคัดแยก เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะวางมือลง
"ลูกจะไหวเหรอ ทั้งเรียนแล้วก็ทำงาน?"
ภพนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้างๆ
"ผมอยากเรียนเพิ่มเติมครับ และเก็บเงินไปด้วย" เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นคง "แม่จะได้เหนื่อยน้อยลง ถ้าผมมีงานเพิ่มขึ้น"
เขาเอื้อมมือไปกอดแม่ กอดแน่นเหมือนเมื่อสิบปีก่อน
แป้นรับไออุ่นของลูกชายด้วยหัวใจที่สั่นไหว
เธอรู้… ว่าภพคิดเยอะ คิดมาก และพยายามวางแผนทุกอย่างให้ดีที่สุด
เธอรู้… ว่าเขาอยากดูแลเธอ
แต่เธอก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้
"แล้วลูกจะอยู่ที่ไหน?"
"ผมมีบ้านเช่าในเมืองครับ แม่จะเข้าไปอยู่กับผมก็ได้นะ"
แป้นส่ายหน้าเบาๆ "แม่ขออยู่ที่นี่เถอะ แม่อยากใช้ชีวิตเป็นชาวสวน แม่ชอบธรรมชาติ"
ภพพยักหน้า เขาเข้าใจดีว่าแม่ผูกพันกับที่นี่แค่ไหน
"แต่แม่ห่วงลูกนะ" แป้นเอ่ยเสียงเบา "ถึงลูกจะอายุยี่สิบหกแล้ว แต่การใช้ชีวิตที่ไทยมันไม่ง่าย"
"ผมดูแลตัวเองได้ครับแม่" ภพยิ้มบางๆ "แล้วผมก็จะดูแลแม่ด้วย"
การตัดสินใจกลับมาเรียนมหาวิทยาลัยในไทย อาจเป็นเพียงข้ออ้างของภพ
ข้ออ้าง… ที่จะทำให้เขาได้อยู่ใกล้สิ่งที่หัวใจเขาตามหา
สิ่งที่เขาเองก็ยังอธิบายไม่ได้
แต่เขารู้เพียงอย่างเดียวว่า…
เขาอยากเจอใครบางคน
เด็กคนนั้น…
"กนก"
เกือบสองปีแล้ว... ที่พบรักเฝ้าดูน้องอยู่ห่าง ๆ ทุกครั้งที่เขาเห็นกนกเดินผ่าน ได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วเบาหรือเห็นน้องอ่านหนังสือเงียบ ๆ อยู่ใต้ต้นไม้หัวใจของเขามักเต้นแรงขึ้นเสมอมันไม่เคยแน่ใจในความรู้สึกของตัวเองมากขนาดนี้ จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาเริ่มเข้าใจว่า กนกไม่ใช่แค่เด็กผู้ชายที่เขาเคยรู้จักในอดีต
แต่เป็นใครบางคนที่เขาอยากดูแล...อยากอยู่เคียงข้างและอยากเป็นเหตุผลของรอยยิ้มของน้อง
คืนนั้นภพรักตัดสินใจบอกแม่
"แม่ครับ ผมคิดว่าผมคงชอบกนกเข้าแล้ว...ผมคิดถึงน้องบ่อยมาก"
แป้นชะงักไปเล็กน้อย เธอหันไปมองลูกชาย ราวกับพยายามไตร่ตรองความหมายของคำพูดนั้น
"พบหมายถึงกนกเหรอ?"
พบรักพยักหน้าช้าๆ สายตาของเขามีความลังเล แต่ก็เต็มไปด้วยความรู้สึก
"มันเป็นความรู้สึกที่ผมอธิบายไม่ได้"
"แต่ผมรู้สึกว่า... ผมอยากเจอเขา"
"อยากดูแลเขา"
"อยากให้เขามีความสุข"
ตอนแรกเธอคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ความผูกพันในวัยเด็ก เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากความทรงจำที่หลงเหลืออยู่ แต่ยิ่งฟังลูกชายพูด เธอกลับรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่ลึกซึ้งกว่าแค่ "ความคิดถึง" มันไม่ใช่ความทรงจำที่หวนคืน มันคือความรู้สึกที่เติบโตไปพร้อมๆ กับตัวเขา
แป้นมองลูกชายของตัวเอง เธอรู้ดีว่าพบรักเติบโตมาเป็นคนแบบอ่อนโยน ใจดี และมีหัวใจที่งดงามเสมอเขาไม่ใช่คนที่พูดถึงใครแบบนี้ง่ายๆ เธอไม่ได้คาดคิดเลยว่าเด็กชายที่เธอเฝ้าดูแลมาตลอดจะตกหลุมรักเด็กชายอีกคนหนึ่ง แต่เมื่อเธอเห็นประกายในดวงตาของพบรัก เธอก็เข้าใจได้ทันที
หากมันคือ "ความรัก" จริงๆ ... มันก็คงเป็นความรักที่บริสุทธิ์ที่สุด
เธอถอนหายใจยาว ก่อนจะวางมือลงบนมือของภพเบา ๆ
"ลูกแน่ใจเหรอ?"
"ครับ" พบรักตอบเสียงหนักแน่น
แป้นพยักหน้าช้าๆ เธอรู้ว่าเธอไม่อาจบังคับความรู้สึกของลูกได้
"ถ้าลูกอยากดูแลน้องจริง ๆ ลูกต้องไปคุยกับคุณเพชร" แป้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "เราเป็นหนี้บุญคุณคุณเพชร ครอบครัวเขาดูแลเราตอนที่เราลำบาก เราจะไม่ทำอะไรที่ทำให้เขาต้องลำบากใจเด็ดขาด"
ดวงตาของเขาฉายแววมุ่งมั่นแสดงให้เห็นกระจ่างชัดว่าพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องกนก พร้อมจะอยู่เคียงข้างน้อง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นและไม่ว่าวันหนึ่งกนกจะจดจำเขาได้หรือไม่...เขาก็จะรักและปกป้องน้องอย่างดี
วันรุ่งขึ้น แป้นเดินเข้าไปในสถานีอนามัยพร้อมกับภพรัก คุณเพชรเงยหน้าจากโต๊ะทำงาน เมื่อเห็นทั้งสองคน สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย
"แป้น มีอะไรหรือเปล่าคะ?"
แป้นยิ้มบาง ๆ แต่แววตาเต็มไปด้วยความกังวล "พอดีเราอยากคุยกับคุณเพชร พอจะสะดวกไหมคะ…"
คุณเพชรขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนพยักหน้าให้ทั้งสองนั่งลง
"ขอบคุณน้าเพชรมากนะครับ ที่ช่วยดูแลครอบครัวผมมาตลอด"
"ไม่เป็นไรหรอก อะไรที่ช่วยได้ก็ช่วยกัน"พบรักพยักหน้า ก่อนเงียบไปชั่วขณะ ราวกับกำลังทบทวนคำพูดในใจ
"ช่วงเวลาที่ผ่านมา ผมได้เจอกนก…"แค่ชื่อของลูกชาย คุณเพชรก็เริ่มรู้สึกกังวล
"ผมกลับรู้สึกว่า มีบางอย่างที่ผมผูกพันกับน้อง… ผมอธิบายไม่ได้ แต่มันเป็นความรู้สึกที่ติดอยู่ในใจเสมอ"
เขาหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง "เขาเป็นกำลังใจของผม… หลายครั้งในการต่อสู้กับความรู้สึกเจ็บปวดในอดีต"
คุณเพชรจ้องมองพบรัก ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสน
ภพรักเหลือบมองแม่ ก่อนหันกลับมามองหน้าคุณเพชรด้วยความมุ่งมั่น
"ผมอยากดูแลน้อง… ได้ไหมครับ?"
คำว่า ดูแล ทำให้คุณเพชรขมวดคิ้ว
"ภพหมายความว่ายังไง?" น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความระแวง
พบรักเม้มริมฝีปาก ก่อนตัดสินใจพูดออกมาตรง ๆ
"ผมรู้สึกว่าผมชอบกนกครับ"
คุณเพชรนิ่งงันไปชั่วขณะ มือที่วางอยู่บนโต๊ะเผลอกำแน่นโดยไม่รู้ตัว
"ความรู้สึกของผม… มันไม่ใช่แค่ความผูกพันของเด็กสองคน" พบรักพูดต่อ "มันเป็นความรู้สึกห่วงหา… อยากดูแล อยากอยู่เคียงข้าง และอยากให้น้องได้รับอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุด"
คุณเพชรกะพริบตาช้า ๆ หัวใจเธอเต้นรัว ความทรงจำในอดีตตีกลับมาอย่างไม่ทันตั้งตัว
กนก… ลูกของเธอ…
เด็กชายที่ต้องผ่านความเจ็บปวดมาตั้งแต่ยังเล็ก เด็กชายที่เคยหลงอยู่ในโลกแห่งความมืด จนเกือบลืมวิธีมีความสุข เธอพยายามปกป้องลูกจากทุกสิ่งที่อาจทำให้เขาเจ็บปวดอีก
แล้วตอนนี้… คนที่เคยเป็นบาดแผลของอดีต กำลังเข้ามาหาอีกครั้ง
หน้าบ้านหลังเล็กที่เงียบงัน มีเพียงเสียงสะอื้นปะปนกับเสียงลมอ่อน ๆ ที่พัดผ่านราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน ปล่อยให้มีเพียงสองร่างในอ้อมกอดกันแน่นอยู่กลางห้วงเวลาอันแสนเจ็บปวด ภพกอดร่างของกนกแน่น รู้สึกได้ถึงแรงสั่นจากการร้องไห้ที่ไม่มีทีท่าจะหยุดลงง่าย ๆ น้ำตาของคนน้องเปียกเสื้อเขาจนชื้น และแรงกอดของกนกก็เหมือนเป็นการยึดเหนี่ยวสุดท้ายไว้กับความจริง“ฮึก… พี่ภพ… มันเจ็บ…” เสียงสะอื้นแผ่วเบารอดออกจากริมฝีปากสั่น“ไม่เป็นไรแล้ว…” ภพกระซิบเบา ๆ มือใหญ่ลูบหลังคนน้องอย่างอ่อนโยน“พี่อยู่นี่แล้ว ไม่มีใครทำร้ายกนกได้อีกแล้วนะ…”กนกส่ายหน้าเล็กน้อย ซุกหน้าลงที่ไหล่กว้าง เสียงร้องไห้เปลี่ยนเป็นสะอื้นอย่างทรมาน“มันย้อนกลับมา… ภาพพวกนั้น… ตอนเด็ก… ทำไมถึงลืมมันไปได้ ฮึก… ทำไมถึงเพิ่งจำได้ตอนนี้…”“ไม่ต้องโทษตัวเองนะคนเก่ง…” ภพก้มลงจูบผมนิ่ม ๆ ซับน้ำตาที่เปื้อนแก้มเนียนด้วยความอดทนที
วันนี้พี่ภพชวนผมออกจากบ้านตั้งแต่เช้า อากาศสดชื่นกว่าทุกวัน หรือบางทีอาจเป็นเพราะวันนี้พี่ภพอยู่ข้าง ๆเราไปเดินชมสวนดอกไม้ด้วยกัน แสงแดดอ่อน ๆ ทาบลงบนทุ่งกว้างที่เต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้ที่กำลังผลิบาน นี่เป็นครั้งแรกที่เราถ่ายรูปคู่กัน พี่ภพยิ้มให้กล้อง ผมเองก็ยิ้มตามไปโดยไม่รู้ตัวแปลกดีนะ… ทำไมตอนนี้ผมรู้สึกว่ารอยยิ้มของพี่ภพเป็นเหมือนบ้านช่วงบ่าย พี่ภพบอกว่าจะพาผมไปในสถานที่แห่งหนึ่ง "สถานที่แห่งความทรงจำ"ผมไม่ได้ถามว่ามันคือที่ไหน เพราะสิ่งเดียวที่พี่ภพบอกผมก็คือ—"จับมือพี่ไว้แน่น ๆ นะ"และช่วงนี้ ผมกล้าจับมือพี่ภพแล้วด้วยเรานั่งรถมาด้วยกัน ข้างทางเริ่มคุ้นตาขึ้นเรื่อย ๆ ผมคิดว่าเรากำลังเดินทางกลับไปที่บ้านพี่ภพแต่พอรถเลี้ยวเข้าเส้นทางเล็ก ๆ ผมกลับรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างประหลาดมันไม่ใช่บ้านของพี่ภพ แต่เป็นบ้านเก่าหลังนึงที่สภาพดี แต่ไม่มีใครอยู่แล้ว เมื่อก้าวลงจากรถ ผมรู้สึกเหมือนถูกสายลมที่มองไม่เห็นกระแทกเข้ามาเต็มแรงลมพัดเอื่อย
ในห้วงเวลาอบอุ่นช่วงปิดเทอมผ่านไปอย่างรวดเร็ว กนกอยู่บ้านมาหลายสัปดาห์แล้ว พี่ภพเองก็ติดโปรเจกต์ปีสุดท้ายและกำลังเตรียมตัวเข้าสู่ชีวิตการทำงาน ทำให้เราไม่ได้เจอกันบ่อยนัก มีเพียงข้อความสั้นๆ ที่ส่งหากันเป็นระยะจนกระทั่งวันนี้พี่ภพมาหาน้าแป้น และทักมาหาเขา"วันนี้มาหาพี่หน่อย อยู่เป็นเพื่อนตอนทำงานได้ไหม?"กนกอ่านข้อความแล้วบอกแม่ว่าจะออกไปข้างนอกกับพี่ภพ เมื่อเจอกัน เราทานมื้อเที่ยงด้วยกัน ก่อนที่พี่ภพจะขับรถพาเขาไปยังห้องพักบรรยากาศภายในรถเงียบสงบ มีเพียงเสียงเพลงบรรเลงคลอแผ่วเบา อากาศเย็นกำลังดีทำให้รู้สึกสบายใจ กนกไม่ได้ถามว่าทำไมพี่ภพถึงพาเขามาที่ห้องพัก—เขาแค่ไว้ใจคอนโดของพี่ภพอยู่ไม่ไกลจากหอในของเขานัก เป็นห้องขนาดกว้าง แบ่งพื้นที่ใช้สอยอย่างเป็นระเบียบ พื้นที่ครัวเล็กๆ อยู่มุมหนึ่ง ห้องนอนเชื่อมกับพื้นที่ทำงาน เตียงกว้างและดูนุ่มมาก"เราจะนั่งอ่านหนังสือที่เตียงพี่ก็ได้นะ ถ้าง่วงก็นอนได้เลย""ครับ"กนกตอบรับโดยไม่ถามอะไร เขาหยิบหนังสือนิยายขึ้นมาเปิด แต่ในใจก็แอบสงสัยว่าพี่ภพให้มาอยู่เป็นเพื่อน หรือแค่ต้
"อ้อมกอดของแม่"คืนนี้เงียบสงบกว่าทุกคืน ลมหายใจของกนกอุ่นขึ้นเมื่อนอนอยู่ข้างแม่ อ้อมกอดที่คุ้นเคยทำให้เขารู้สึกปลอดภัย ราวกับได้ย้อนกลับไปเป็นเด็กตัวเล็กๆ อีกครั้ง"วันนี้แม่ขอนอนกับลูกชายคนโปรดได้ไหมครับ?""ได้ครับแม่"กนกขยับตัวให้แม่เข้ามาใต้ผ้าห่มอุ่นๆ พอเพชรล้มตัวลงนอน กนกก็รีบซุกตัวเข้าหาแม่ทันที โอบกอดแน่นราวกับไม่อยากให้เวลานี้ผ่านไปเพชรหัวเราะเบาๆ ก่อนจะลูบผมลูกชายอย่างอ่อนโยน "เป็นยังไงบ้างลูก ปีแรกในมหาวิทยาลัย เหนื่อยไหม?""เหนื่อยครับ แต่ก็สนุกมากด้วย""เรียนยากไหม?""ก็ยากนิดหน่อยครับ แต่ยังดีที่มีมิวช่วยติวให้ มิวเก่งมากเลยครับแม่""ดีจังเลย แม่จำได้ว่าลูกเล่าเรื่องมิวให้ฟังบ่อยๆ แล้วหนูพราวล่ะ เป็นไงบ้าง?""พราวก็ยังตลกเหมือนเดิมเลยครับแม่ ถ้าผมเครียดๆ เบื่อๆ พราวนี่แหละที่ทำให้ผมยิ้มได้""ดีแล้วล่ะลูก มีเพื่อนดีก็ช่วยกันประคองไปนะ มีอะไรให้แม่ช่วยก็บอกได้ อย่าเก็บไว้คนเดียว"กนกพยักหน้ารับ แล้วเงียบไปครู่หนึ่งเพชรมองลูกชายด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนจะถามสิ่งที่ค้างคาใจ "แล้วพี่ภ
หลังจากนั้นพบรักก็พากนกกลับบ้าน เด็กหนุ่มเดินเข้าบ้านพร้อมความรู้สึกที่อบอุ่น แม้จะมีความหวาดกลัวและกังวลบางอย่างยังค้างอยู่ในใจ แต่การมีพี่ภพอยู่เคียงข้าง คอยโอบกอด คอยปลอบโยน ทำให้เขารู้สึกว่า… ไม่ได้เผชิญทุกอย่างเพียงลำพังและยิ่งรู้สึก… ชอบพี่ภพมากขึ้นทุกวันวันนี้ดูเหมือนว่าเขาจะใช้พลังไปเยอะ ทั้งร่างกายและหัวใจเลยเหนื่อยล้าเต็มที กนกหยิบหนังสือนิยายขึ้นมา หวังว่าจะอ่านเล่นสักหน่อยก่อนจะหลับไปแต่ก่อนที่เปลือกตาจะหนักอึ้ง มือถือก็สั่นเบา ๆ แจ้งเตือนข้อความจาก LINEพี่ภพ: “นอนหรือยังครับ”กนก: “กนกจะอ่านหนังสือนิยายสักหน่อย แล้วก็คงจะนอนแล้วครับ”พี่ภพ: “นอนไวจัง เพิ่งสามทุ่มเอง”กนกหลุดยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับกนก: “พี่ภพมีอะไรหรือเปล่าครับ”พี่ภพ: “พี่เหนื่อยนิดหน่อย พอดีส่งงานให้ลูกค้าอยู่ กำลังปั่นงานเลย”กนก: “วันนี้พี่ภพกลับไปในเมืองหรอครับ”
เพชรมองหน้าลูกชายตัวน้อยที่กำลังยิ้มกับโทรศัพท์ รอยยิ้มเล็ก ๆ ที่เจ้าตัวอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าแสดงออกมา“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรกันครับ คุณกนกของแม่?”กนกสะดุ้งเงยหน้าขึ้น ก่อนจะรีบปฏิเสธเสียงอ้อมแอ้ม “ยิ้มอะไรกันล่ะครับ แม่คิดไปเอง กนกไม่ได้ยิ้มสักหน่อย”เพชรหัวเราะเบา ๆ “ก็เห็นยิ้มกับโทรศัพท์ไง”เด็กหนุ่มเม้มปาก หันไปมองหน้าจออีกครั้ง ก่อนจะยอมรับเสียงเบา “ก็...พี่ภพ LINE มาบอกนะครับว่าอยู่บ้านตัวเองแล้ว”“อ้อ”“แต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน กนกก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน” เจ้าตัวพูดต่อ “แต่ว่าพี่เขาบอกว่าบ้านอยู่ใกล้ ๆ บ้านเราตรงนี้นี่เอง”เพชรพยักหน้ารับรู้ ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่แววตายังคงมองสำรวจลูกชายของตัวเอง“วันนี้เขาจะมาหาหรือเปล่า?”“พี่ภพเหรอครับ?”“จ้ะ”“เห็นบอกว่าวันนี้จะพาไปเที่ยวสวนมะพร้าวเล็ก ๆ”เพชรเลิกคิ้วเล็กน้อย “สวนมะพร้าว?”กนกพยักหน