เนื่องจากร้านกาแฟ ปิดประมาณ 2 ทุ่ม อันนา เลยได้มีโอกาสทำงานพิเศษที่นี่ต่อหลังจากที่เธอเลิกเรียน
เธอทำงานเป็นพนักงานพาร์ทไทม์อยู่ที่ร้านนี้แห่งนี้ ซึ่งร้านกาแฟร้านนี้อาจไม่ได้ใหญ่โตหรูหรา แต่เต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นและเสียงพูดคุยอย่างเป็นกันเองจากพนักงานและลูกค้าประจำ
เมื่อหญิงสาวมาถึงก็ยิ้มให้เจ้าของร้านและเพื่อนร่วมงาน ก่อนจะเริ่มงานของตัวเอง
เธอจะต้องทำงานพิเศษหลังเลิกเรียน เนื่องจากต้องการช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อและแม่ แต่เธอก็ไม่เคยละเลยเรื่องการเรียน
ขณะที่เธอกำลังจัดเรียงขนมบนตู้กระจกอย่างตั้งใจ เสียงเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ก็ดังขึ้นจากด้านนอก มันแทรกผ่านบรรยากาศอันเงียบสงบของร้าน ก่อนจะค่อย ๆ แผ่วลงราวกับกลืนหายไปกับสายลม และในที่สุด ทุกอย่างก็สงบนิ่งเมื่อเครื่องยนต์ดับลง
เธอชะงักมือไปชั่วครู่ รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจาง ๆ ที่ยังค้างอยู่ในอากาศ และเพียงไม่นาน ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าประตูร้าน
อันนา เงยหน้ามอง และต้องตกใจเมื่อเห็นพีท เดินเข้ามา
“นี่นายมาทำอะไรที่นี่? ฉันคิดว่าฉันหนีพ้นนายแล้วนะ นายยังจะตามฉันมาอีกหรอเนี่ย เราไม่ได้อยู่ในเวลาทำโครงการวิจัยกันนะ”
อันนา ไม่คิดว่า พีท จะตามเธอมาถึงร้านกาแฟที่เธอทำงานอยู่
“ฉันมาหากาแฟดื่ม” พีท ตอบหน้าตาย
ชายหนุ่มเดินไปนั่งที่โต๊ะใกล้ ๆ เคาน์เตอร์ แบบสบายอารมณ์
ที่แท้เขาไม่ได้ตามเธอต่อ เพราะกลับไปเอารถมอเตอไซด์คู่ใจ เพื่อจะขับมาหาเธอที่ร้านกาแฟ
อันนา เหลือบตามองเขาอย่างสงสัย
“นายไม่เคยมาแถวนี้นี่”
“ก็ลองเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง” พีท ตอบเรียบ ๆ ด้วยเสียงทุ้มนุ่มลึก
เขาเสยผมขึ้นอย่างแผ่วเบา ปลายนิ้วลากผ่านเส้นผมอย่างเป็นธรรมชาติ ท่าทางเรียบง่ายแต่กลับดูมีเสน่ห์เหลือเกิน ราวกับทุกอิริยาบถของเขาสามารถสะกดสายตาของผู้คนรอบข้างได้
บรรยากาศในร้านกาแฟเต็มไปด้วยเสียงกระซิบกระซาบของเพื่อนร่วมงานที่แอบมองพีทเป็นระยะ ๆ ทุกคนต่างจับจ้องชายหนุ่มที่มาด้วยท่าทีสงบนิ่งแต่ดูโดดเด่นเกินกว่าจะเป็นลูกค้าทั่วไป
เขาเอนตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างสบายใจ รู้สึกได้ถึงสายตาอยากรู้อยากเห็นจากเพื่อนพนักงานคนอื่น ๆ
“จะรับอะไรดีคะ คุณลูกค้า?” อันนา เดินมา เพื่อจดออเดอร์และยังคงจ้องเขาด้วยความระแวง
พีท นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้น “ขอ...ลาเต้ร้อน”
“รับอะไรเพิ่มไหมคะ คุณลูกค้า?”
“ครับ” พีท ยิ้มบาง “ขอเบเกอรี่เพิ่มด้วยนะ ให้เธอแนะนำว่ามีอะไรอร่อย สั่งให้ฉันสัก 2 เมนูนะ” ชายหนุ่ม ไม่พูดแค่นั้นเขายังแกล้งยื่นหน้ามาพูดใกล้ๆ เธอ
อันนา ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจ
“งั้นรอแป๊บนึงนะคะคุณลูกค้า”
เธอบอกพร้อมเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์
ในขณะที่นิดหน่อยเพื่อนร่วมงานร่างตุ้ยนุ้ย เป็นคนที่มีอัธยาศัยและอารมณ์ดีมาก เธอเป็นพนักงานที่ทำงานประจำอยู่ที่ร้าน
และ
พี่ลิน พนักงานอีกคน รีบกรูเข้ามาหาหญิงสาวทันที
“อันนา! จะไม่อธิบายอะไรหน่อยเหรอ? ใครกันอ่ะ โคตรหล่อเลย” นิดหน่อยเขย่าตัว อันนา อย่างแรง
แรงเขย่าของนิดหน่อยทำให้ร่างบางๆ ของหญิงสาวสั่นครอน
นิดหน่อยทำหน้าตื่นเต้น “นี่มันละครโรแมนติกชัด ๆ”
“บ้าเหรอ นิดหน่อย” อันนา กระซิบตอบ “เขาเป็น...แค่คนรู้จักน่ะ”
“คนรู้จักที่หล่อขนาดนี้น่ะเหรอ? ” พี่ลิน หรี่ตาถาม
“บอกมาตรง ๆ ดีกว่า เขาเป็นแฟนใช่ไหม? ” พี่ลินถามแบบไม่อ้อมค้อม
“ไม่ใช่!คร้าพี่ลิน” อันนา ส่ายหน้าทันที
แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปทางพีทอีกครั้ง เขายังคงนั่งอยู่ที่เดิม ท่าทางสงบนิ่งราวกับไม่มีอะไรผิดปกติ
เมื่อของพร้อมเสริ์ฟ…..
อันนา วางแก้วลาเต้ร้อน และเบเกอรี่ ลงตรงหน้า พีท พลางถอนหายใจเฮือกหนึ่ง
เธอควรจะชินกับความกวนประสาทของเขาได้แล้ว
“นี่ค่ะ ลาเต้ร้อนและเบเกอรี่ คุณลูกค้า" เธอพยายามทำเสียงเป็นทางการที่สุด หวังจะตัดบทสนทนา
แต่ พีท กลับไม่แม้แต่จะมองแก้วกาแฟตรงหน้า ดวงตาคมกริบของเขายังจับจ้องที่เธออย่างมั่นคง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบง่ายแต่หนักแน่น
“วันนี้ฉันจะรอเธอ จนกว่าเธอจะทำงานร้านกาแฟเสร็จ แล้วไปกินข้าวกับฉันหน่อย ฉันจะพาไปเปลี่ยนบรรยากาศ"
ตึก ตัก — ตึก ตัก
หัวใจของอันนาสะดุดจังหวะไปชั่วขณะ คำพูดของเขาไม่ได้ฟังดูเหมือนการขอร้องเลยสักนิด แต่เป็นการบอกให้รู้ว่ามันจะต้องเป็นแบบนั้น ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้
เธอขมวดคิ้ว พยายามไม่แสดงอาการหวั่นไหว
"นี่นาย… สั่งฉันเหรอ?”
พีท ยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ "ถ้าเธออยากจะมองแบบนั้น ก็แล้วแต่"
เธออ้าปากจะเถียง แต่กลับพูดไม่ออกไปชั่วขณะ เพราะสายตาของเขาไม่ได้มีแค่ความกวนประสาทอย่างที่เธอเคยคิด แต่มันมีอะไรบางอย่างที่เธอไม่กล้าจะตีความ
"นาย…" เธอเรียกเสียงเบา
เขาโน้มตัวไปข้างหน้า วางแขนลงบนโต๊ะก่อนจะยิ้มบาง ๆ ให้เธอ
อันนา เม้มริมฝีปากแน่น รีบเบือนหน้าหนี
บ้าจริง… ผู้ชายคนนี้กำลังทำให้เธอหวั่นไหวอีกแล้ว
เสียงเครื่องบดกาแฟทำงานเป็นจังหวะ….
ขณะที่ อันนา พยายามทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้ หวังจะให้คนที่นั่งรออยู่มุมร้านเบื่อหน่ายและจากไปเอง แต่ดูเหมือนเธอจะประเมินความดื้อด้านของ พีท ต่ำเกินไป
ชายหนุ่มนั่งไขว่ห้างอยู่ที่โต๊ะตัวเดิม มุมปากประดับด้วยรอยยิ้มบาง ๆ แววตาคมจับจ้องมาที่เธอโดยไม่คิดจะหลบซ่อนความตั้งใจแม้แต่น้อย ทำให้เธอเริ่มรู้สึกหงุดหงิด
"นี่นาย ฉันไม่ว่าง ฉันต้องทำงาน และเลิกดึก" เสียงตอบเสียงที่แข็งขึ้น เหมือนเธอตั้งใจจะปฏิเสธให้ชัดเจน
"งั้นฉันก็จะรอจนกว่าเธอจะเลิกงาน" ชายหนุ่มตอบกลับทันควัน ไม่มีท่าทีจะยอมแพ้แม้แต่นิดเดียว
อันนา ถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ มือกำผ้าเช็ดโต๊ะแน่นขึ้นกว่าเดิม
พีท ยักไหล่ราวกับไม่ใส่ใจอะไรทั้งนั้น
หญิงสาว เม้มปากแน่น
นี่เขาคิดว่าตัวเองเป็นใครกันถึงกล้าทำแบบนี้? ทำไมต้องมายุ่งกับเธอขนาดนี้ด้วย?
เธอไม่เข้าใจเลยจริง ๆ แต่สิ่งที่แน่ใจคือ...วันนี้ คงไม่มีทางกำจัดเขาไปได้ง่าย ๆ แน่!
เวลาผ่านไป…….
ร้านเริ่มเงียบลง ลูกค้าเริ่มทยอยกลับกันไปจนเหลือเพียงไม่กี่คน
พีท ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม
เขาดูสบายใจราวกับร้านนี้เป็นบ้านของเขาเอง
เธอพยายามไม่มองไปที่เขา แต่ก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าแววตาคู่นั้นยังคงเฝ้ามองเธออยู่ตลอดเวลา
"นี่ นายจะนั่งอยู่แบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่?" อันนา ถามในที่สุด ปากเริ่มสั่นเล็กน้อยเพราะความหงุดหงิดปะปนกับความประหม่า
"จนกว่าเธอจะเลิกงานไง" เขาตอบกลับอย่างง่ายดาย
"แต่มันดึกแล้วนะ นายควรกลับไปได้แล้ว"
ชายหนุ่ม ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู ก่อนจะเงยหน้ามองเธอด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ "ฉันรอได้ ไม่เห็นเป็นไรเลย"
อันนา เม้มปากแน่น เธอรู้ดีว่าถ้าเธอไม่พูดอะไร เขาก็คงจะรอจริง ๆ และไม่ยอมไปไหนแน่ ๆ
"ก็ได้ แต่ฉันไม่รับผิดชอบนะถ้านายจะเบื่อจนหลับไปเอง" หญิงสาวประชดพลางเช็ดแก้วกาแฟที่วางอยู่หลังเคาน์เตอร์
เสียงหัวเราะแต่มีเสน่ห์ของพีทได้ยินเบา ๆ ก่อนที่เขาจะยันตัวลุกขึ้นเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ บังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นสบตา
"ฉันไม่มีวันเบื่อหรอก ถ้าฉันได้นั่งมองเธอ" สายตาคมกริบของชายหนุ่มช่างยั่วยวนยิ่งนัก
หัวใจเธอเต้นแรงขึ้นกว่าเดิม รู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาที่แก้ม เธอรีบหันไปหยิบผ้าขึ้นมาขัดแก้วโดยไม่สนใจเขาอีก พยายามทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"อย่ามาพูดอะไรบ้า ๆ แถวนี้ได้ไหม อายคนอื่นเค้านะ?" เธอพึมพำเสียงเบา
พีท ยิ้มมุมปาก "เธอคิดว่าฉันพูดเล่นเหรอ?"
อันนา ไม่ตอบ เธอเพียงแค่ก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองต่อไป แต่ลึก ๆ แล้ว เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอกำลังเล่นตลกกับเธออย่างร้ายกาจ
ในที่สุด เวลาปิดร้านก็มาถึง
หญิงสาว ถอนหายใจโล่งอกขณะถอดผ้ากันเปื้อนออก วางมันลงบนโต๊ะใกล้ ๆ
ก่อนจะหันไปเจอ พีท ที่ยังคงยืนพิงเคาน์เตอร์มองเธออยู่
"เลิกงานแล้วใช่ไหม?" เขาถามเสียงนุ่ม
"ใช่ นายควรกลับได้แล้ว" อันนา ตอบ พลางคว้ากระเป๋าสะพายขึ้นมาพร้อมจะเดินหนีจากเขาให้เร็วที่สุด
แต่ก่อนที่เธอจะได้ก้าวออกไป เสียงจากเพื่อนร่วมงานก็ดังขึ้นอย่างจงใจ
"อันนา ไปกินข้าวกับเขาเถอะ! เขาอุตส่าห์รอเธอนานแล้วนะ สงสารจะตายไป เธอปล่อยให้เขานั่งรอนานแล้วนะ" พี่ลิน พูดขึ้น และดูเหมือนจะเข้าข้างชายหนุ่ม
"นั่นสิ ๆ ไม่บ่อยเลยนะที่เราจะเห็นหนุ่มสุดฮอตมายืนรอใครนานขนาดนี้" นิดหน่อยกล่าวสนับสนุน
"ว้าว~ โรแมนติกจังเลย~" นิดหน่อย พูดพลางยกมือขึ้นแตะแก้ม ทำท่าเขินอายเกินจริง ก่อนจะหันไปทำตากรุ้มกริ่มกับพี่ลินที่ยืนข้าง ๆ ราวกับกำลังดูฉากรักหวานซึ้งในละครหลังข่าว
พี่ลิน ที่ถูกลูกเล่นของนิดหน่อยเล่นงานเข้าเต็ม ๆ หัวเราะคิก พลางพยักหน้าเห็นด้วย ดวงตาเป็นประกายซุกซน
"ใช่ ๆ แบบนี้ไม่ไปไม่ได้แล้วล่ะอันนา"
อันนา หันขวับไปมองยังตัวต้นเสียง ที่กำลังหัวเราะคิกคักกันอยู่หลังเคาน์เตอร์ ความร้อนวูบวาบแล่นขึ้นมาถึงปลายหู เธอขมวดคิ้ว กระซิบเสียงดุ
พีท ที่ยืนฟังอยู่นั้นยิ้มบาง ๆ ดวงตาคมแพรวพราวไป
ด้วยแววขบขัน และ…บางอย่างที่ อันนา ไม่กล้ามองนานเกินไป
"เห็นไหม ไม่ใช่แค่ฉันที่คิดว่าเธอควรไปกับฉัน สาวๆ ที่น่ารักทั้ง 2 คนยังเห็นด้วยเลย"
ทั้ง นิดหน่อย และพี่ลิน ได้ยินอย่างนั้น ยิ่งเขินอายเข้าไปใหญ่ ราวกับตนเองเป็น อันนา หญิงสาวที่กำลังถูกชายหนุ่มรูปงามตามตื๊ออย่างไม่ลดละ
อันนา เม้มริมฝีปากแน่น เธออึกอัก มองซ้ายมองขวาหาทางหนี แต่เพื่อนร่วมงานดันพยักหน้าเชียร์รัว ๆ ทำให้เธอแทบจะหมดหนทางถอย
สุดท้ายเธอก็ถอนหายใจออกมาแรง ๆ ยกมือขึ้นแตะแขนตัวเองราวกับพยายามปลอบใจ
"ก็ได้…" เธอพึมพำ เสียงแผ่วราวกับไม่อยากให้ใครได้ยิน "แค่…มื้อเดียวนะ!"
พีท ยิ้มกว้างขึ้น ดวงตาของเขาทอแสงวาววับ ก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้เธอจนลมหายใจอุ่นร้อนแผ่วเบาอยู่ข้างแก้ม
"แน่นอน…" เสียงทุ้มต่ำกระซิบชิดข้างหู
"แค่มื้อเดียว"
อันนา กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปสบตาเขา เพราะเธอรู้ดี… ว่าแววตาของเขาไม่ได้หมายความว่า "แค่ มื้อเดียวเลยสักนิด!"