“ฝันร้ายหรือคะ ไม่เป็นไรนะ พี่อยู่ตรงนี้แล้วนะคะ ไม่มีใครมาทำอะไรหนูได้ พี่สัญญา”
ปาลิดาจับมือเด็กน้อยวัยหกขวบที่น่าสงสารคนนั้นแล้วลูบหลังมือเบา ๆ อย่างอ่อนโยน เด็กหญิงที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งมาหนึ่งปีแล้ว เธอกำลังต่อสู้กับโรคร้ายอย่างเข้มแข็ง แม้หัวใจจะอ่อนแอลงทุกวัน
“หนูคิดถึงเพื่อน ๆ หนูอยากไปโรงเรียนจัง”
“อีกไม่นานหนูก็จะได้ไปโรงเรียนแล้ว หนูจะหายป่วยและกลับมาเล่นกับเพื่อน ๆ ได้” ปาลิดาพยายามเก็บกลั้นน้ำตาเอาไว้ เผยรอยยิ้มอบอุ่นปลอบประโลม เธอยอมถอดสร้อยคอที่เปรียบเสมือนเครื่องรางของชีวิตออกมา สร้อยคอเงินที่มีจี้ทองคำเป็นรูปเครื่องดักฝันแบบชาวอินเดียนแดง “พี่ได้เครื่องรางนี้มาจากนางฟ้า เธอจะปกป้องเด็ก ๆ ทุกคน ถ้าหนูใส่เครื่องรางนี้ไว้ หนูจะไม่ร้องไห้และไม่ฝันร้ายอีกเลย”
ปาลิดาสวมสร้อยคอให้เด็กหญิงข้าวฟ่างแล้วกล่อมเกลาจนสาวน้อยหลับไป...
“ฝันดีนะคะ”
สวยจัง...ชายหนุ่มสุดเซอร์ที่ยืนอยู่ตรงประตูห้องมองพยาบาลสาวด้วยความชื่นชม ไม่ใช่เพียงแค่ความสวยของรูปร่างหน้าตาเท่านั้นที่ทำให้เขาประทับใจ แต่ความใจดีมีเมตตาของเธอนั้นต่างหากที่กระแทกใจเขาอย่างแรง ความจริงเขาเจอเธอมาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่มีโอกาสทักทายกันเสียที แต่วันนี้เขาจะไม่ปล่อยให้โอกาสมันหลุดมือไปอีกแล้ว
“คุณพยาบาลครับ”
เธอห่มผ้าให้สาวน้อยเสร็จพอดี จึงเงยหน้ามองคนที่ทักทายด้วยรอยยิ้ม
“อ้อ คุณพ่อของน้องข้าวฟ่างหรือคะ น้องเพิ่งหลับไปเลยค่ะ”
ก้องภพชะงักนิดหน่อยเมื่อถูกเรียกว่าคุณพ่อ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างขัดเขิน
“เปล่าครับ ผมไม่ใช่คุณพ่อของน้อง ผมเป็นคุณอาครับ ผมชื่อก้องภพนะครับ หรือจะเรียกก้องก็ได้”
เธออายนิดหน่อยที่เข้าใจผิด “ขอโทษด้วยนะคะคุณก้องภพ พอดีเห็นคุณมาเยี่ยมน้องทุกวัน ฉันก็เลยเข้าใจว่าคุณ...”
“ความจริงผมก็เป็นเหมือนพ่อของเธอนั่นแหละ เพราะพ่อแม่เธอเสียชีวิตไปหมดแล้วครับ ตอนนี้ผมเป็นผู้ปกครองของเธอ ยังไงก็ขอบคุณคุณพยาบาลมากเลยที่ดูแลหลานผมเป็นอย่างดี”
“ไม่เป็นไรค่ะ เป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว”
“แต่ยัยข้าวฟ่างติดคุณพยาบาลมากเลยครับ บ่นหาแต่พี่นางฟ้าตลอดเลย ยังไงถ้ามีโอกาส ผมขอเลี้ยงกาแฟคุณพยาบาลสักครั้งนะครับ”
“ได้สิคะ เอาไว้ตอนที่น้องหายป่วยดีมั้ยคะ”
“โอเคครับ ผมจะรอนะครับ”
สายตาของก้องภพบ่งบอกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เขาไม่ได้อยากเลี้ยงขอบคุณที่เธอใจดีกับหลานของเขาหรอกนะ แต่เขาแค่อยากทำความรู้จักกับเธอให้มากกว่านี้ต่างหาก...
“มันอาจเริ่มจาก...” ความสงสาร...ไม่ใช่หรอก มันไม่ใช่ความสงสารเลย แต่มันเป็นความรู้สึกอยากปกป้องผู้หญิงคนนี้ต่างหาก “เริ่มจากตอนนั้น ตอนที่เธอนอนอยู่บนเตียง ใกล้กับร่างของแม่ผม ผมเช็ดน้ำตาให้เธอ เด็กผู้หญิงที่ผมเคยรู้สึกอิจฉามาตลอด ผมบอกไม่ถูกหรอกว่าทำไม แต่ผมสัมผัสถึงหัวใจที่อบอุ่นของเธอได้ ผมรู้สึกดีเวลาอยู่กับเธอ เธอมีอะไรหลายอย่างที่เหมือนแม่ของผม”ปวีณาพอจะเข้าใจ “ถ้าคุณต้องการเธอจริงๆ คุณก็ควรแสดงความจริงใจกับเธอ ทำให้เธอรู้ว่าคุณรักเธอมากแค่ไหน ฉันจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งที่สอง หรือจะเรียกว่าครั้งสุดท้ายก็ได้ ลองจีบเธออีกครั้ง”เขายิ้มดีใจ “ขอบคุณครับ ผมจะทำให้ดีที่สุด คุณรอดูได้เลย ผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็น”“ถ้ามันต้องใช้เวลานานล่ะ”“นานแค่ไหนผมก็จะสู้ครับ ถ้าปลายทางของผมคือเธอ ผมไม่มีวันถอย”บทส่งท้ายเป้าหมายของเขา...คือเธอส่วนเป้าหมายของเธอ...คือไปให้ไกลจากเขาเขาจะทำยังไงให้เธอใจอ่อน และยอมเชื่อใจเขาอีกสักครั้ง มันอาจเป็นเรื่องง่ายหากผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ปาลิดา ซึ่งเป็นผู้หญิงที่ใจแข็งยิ่งกว่าหินเขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะใจเธอ ทั้งที่เขาก็สามารถเลือกใครก็ได้ เขาหล่อ รวย มี
“คุณวิน! พอได้แล้ว”“ไม่ต้องอายหรอกน่า คนรักกันมันน่าอายตรงไหน ผมรักปาลิดาครับทุกคน รักมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆเลย”ปาลิดาอายจนแทบจะมุดแผ่นดินหนี แอบบิดแขนเขาเพื่อลงโทษความบ้าของเขา แต่เขากลับยิ้มกวนใส่เธอซะงั้น ทุกคนที่มองเหตุการณ์พากันยิ้มและปรบมือให้ท่านประธานสุดเท่กันใหญ่ โดยเฉพาะน้ำพราวกับสุกัญญาที่พากันน้ำตาไหลด้วยความดีใจ หมอมินทร์แอบยิ้มด้วยความพอใจ เขาตัดสินใจถูกที่ทำแบบนี้ เพราะนอกจากจะแก้ข่าวให้ปาลิดาได้แล้ว ชัชวินยังยอมเปิดเผยความรู้สึกต่อหน้าทุกคน ที่สำคัญกว่านั้น หมอนิวราคงยอมปล่อยเขาซะทีภูมินทร์ยกนิ้วให้ชัชวิน แล้วหันหลังเดินจากไปอย่างอารมณ์ดี ส่วนหมอนิวราทั้งรู้สึกอายและเสียหน้า จึงรีบเดินหนีไปอีกทาง “เราแต่งงานกันเมื่อไหร่ เชิญทุกคนด้วยนะ”ปาลิดาทำหน้าแทบไม่ถูก ตอนนี้เธอไม่กล้าสู้หน้าใครเลย โดยเฉพาะแม่บุญธรรมและเพื่อนทั้งสองคน “ทำแบบนี้ทำไม”“ก็อยากประกาศให้ทุกคนรู้”เธอเม้มปากแน่น อยากจะด่า “แต่เรา...”“หรืออยากให้ผมพูดมากกว่านี้ เอามั้ย”“คุณ!”ชัชวินเห็นปวีณาเดินออกไป เขาผละจากปาลิดาแล้วเดินตามปวีณาไปทันทีสุกัญญากับน้ำพราวรีบเดินมาหาเธอด้วยท่าทางราวกับมุ่งร้าย ขณะทุกค
“เออ ฉันก็ได้ยินมา แต่ไม่เห็นหลักฐานเลย พยาบาลคนนั้นเป็นใครก็ยังไม่รู้”ปาลิดาแอบหน้าซีด ดูเหมือนข่าวลือจะเลอะเทอะไปกันใหญ่ “ถ้าเรื่องนี้เป็นความจริง ฉันว่าพยาบาลคนนั้นน่าจะโดนไล่ออกไปแล้วล่ะ”“จริงด้วย” สุกัญญาสนับสนุน แต่น้ำพราวกลับมองปาลิดาอย่างสงสัย“ยัยแก้ว!”ปาลิดาตกใจสะดุ้ง “อะไร”“เมื่อหลายวันก่อน ท่านประธานมาถามหาแกที่เคาน์เตอร์ ถามคำถามแปลก ๆด้วย”“ถามอะไรวะ” สุกัญญาสนใจขึ้นมาเลย“ถามว่า...เธอมีแฟนแล้วอย่างนั้นเหรอ?”สุกัญญาหน้าเหวอ “ทำไม...ประธาน...ถึงอยากรู้ ว่ายัยแก้ว...มีแฟน หรือ ไม่มีแฟน”น้ำพราวจ้องหน้าเผือดสีของปาลิดาอย่างคาดคั้น หลังจากสงสัยมาสักระยะแล้ว วันนี้เธอต้องเค้นความจริงออกจากปากเพื่อนให้ได้“บางข่าวลือ บอกว่าพยาบาลที่ป้ายรถเมย์ คือพยาบาลที่สวยที่สุดในแผนกเด็ก”สุกัญญาหันมองปาลิดา ที่กลายเป็นผู้ต้องหาไปเรียบร้อยแล้ว “มีอะไรจะบอกเพื่อนมั้ย”ปาลิดาสะอึก รีบไกวมือปฏิเสธ“จะให้โอกาสอีกครั้ง พูดมาให้หมด”“จะให้พูดอะไรล่ะ มันไม่ได้...” เธอไม่อยากโกหกเพื่อนเลย แต่เธอยังไม่พร้อมจะเล่าให้ใครฟังตอนนี้ เธออยากให้ใจมันแข็งแรงขึ้นก่อน “ข่าวลือก็ข่าวลือ พวกแกก็รู้ว่ามันผ่
เมื่อจัดการกับเพื่อนเรียบร้อยแล้ว ชัชวินก็รีบตามปาลิดาไปที่ป้ายรถเมล์หน้าโรงพยาบาล เขาฝ่าผู้คนเข้าไปจนถึงตัวเธอ แล้วคว้ามืเล็กไว้แน่น“คุณ”“จะคุยตรงนี้ หรือไปกับผม”“อะไรของคุณอีกเนี่ย ปล่อยฉัน”“โอเค คุยตรงนี้ใช่มั้ย”เธอหน้าเสีย เพราะไม่ใช่แค่คนทั่วไปที่ยืนอยู่เต็มป้ายรถเมล์ แต่ยังมีบุคลากรในโรงพยาบาลอีกหลายคนที่กำลังมองมาที่เธอและเขาอย่างสงสัย“คิดจะทำอะไรของคุณ” เธอกระซิบถาม“ทำในสิ่งที่คุณไม่กล้าคิดเลยล่ะ”ท่าทางจริงจังของเขาทำให้เธอแอบกลัว “เอาไว้ค่อยคุยกัน ที่นี่ไม่เหมาะ คุณกลับไปซะเถอะ”“ผมไม่กลับ” เขากระดกคิ้วกวน ๆ “จนกว่าเราจะได้คุยกัน”“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ”“แต่ผมมี”“งั้นก็เชิญพูดไปคนเดียว” เธอแกะมือเขาออกแล้วหันหลังจะเดินหนี“ผมรักคุณ”ปาลิดาชะงักงัน ขณะคนทั้งป้ายรถเมล์พากันหันมองเขากับเธอเป็นตาเดียว ก่อนจะเริ่มซุบซิบเม้าท์มอยด์เหมือนผึ้งแตกรัง ปาลิดาตั้งสติได้ คว้าข้อมือของเขาแล้วลากออกไปด้วยกันจนไกลพอ“เป็นบ้าอะไรของคุณเนี่ย!”“ใช่ ผมเป็นบ้า บ้าก็เพราะคุณไง”“คุณวิน!”“ผมรักคุณได้ยินมั้ย” เขามองเธอด้วยสายตาจริงจัง “ผมรักคุณยูมิ”“พอเถอะ ฉันฟังคุณมาจนเบื่อแล้ว อย่าเ
“โอเค ๆ” ชัชวินพยายามใจเย็น ควบคุมสติ “เธอลางาน เพราะมีธุระกับแฟน แต่เธอมีแฟนแล้วเหรอ?”“ก็คิดว่าใช่นะคะ” น้ำพราวตอบพลางมองสีหน้าร้อนใจของท่านประธานด้วยความสงสัย“ธุระอะไร? คุณพอจะรู้มั้ย?”“ไม่แน่ใจค่ะ” แต่เขาต้องถามลงลึกรายละเอียดขนาดนั้นเลยเหรอ เขาจำเป็นต้องรู้? “อ้อ นึกออกแล้วค่ะ เห็นว่าจะไปบางแสนหรือพัทยานี่แหละค่ะ”“พัทยา! บ้าไปแล้ว!”“อะไรนะคะท่าน!”เขากัดฟันกรอด รีบเดินออกมาแล้วกดเบอร์โทรศัพท์ของก้องภพทันที“ไอ้ก้อง ไอ้ก้อง รับโทรศัพท์สิวะ!” เขารอด้วยใจลุ้นระทึก พอปลายสายรับโทรศัพท์เท่านั้นแหละ เขาก็ใส่ทันทีแบบไม่มียั้ง “มึงอยู่ไหน มึงคิดจะทำอะไร มึงหยุดคิดเลยนะ ไม่งั้น กูไม่ปล่อยมึงไว้แน่”ก้องภพถึงกับงง “เออไอ้วิน อะไรของแกวะ มาเป็นชุดเลย”“ตอนนี้มึงอยู่ไหน! มึงอยู่ไหน!”ก้องภพชะงัก ที่โดนตะคอกใส่รัว ๆ เขาไปทำอะไรผิดมารึเปล่า? “อะไรวะ เสียงดังโวยวาย ฉันก็อยู่ที่โรงพยาบาลแกนี่แหละ พอดีฉันนัดกับคุณแก้วเอาไว้น่ะ กำลังจะไปบางแสนด้วยกัน”“ไปบางแสน!”ชัชวินอ้าปากหวอ เขาก้าวเข้าลิฟต์แล้วกดเลขชั้นลานจอดรถทันที เขาไม่มีวันยอมให้ก้องภพพาปาลิดาไปทะเลอย่างแน่นอน ไม่มีวัน!เมื่อถึงลานจอ
“นี่ผมต้องสอนคน....อย่างเจ้านายเหรอ?”“ก็ผมไม่เคยจีบใคร ไม่เคยชอบใครก่อนเลย ผมต้องเริ่มยังไง ต้องทำไง”“ไม่เห็นยากเลยครับ โผล่ไปหาเธอบ่อย ๆ สิครับ แล้วก็ชวนเธอไปเดต ผมว่าโปรไฟล์อย่างเจ้านาย ไม่มีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธลงหรอก”“แล้วถ้าเธอไม่เชื่อผมล่ะ เธออาจคิดว่าผมไปหลอกเธอก็ได้” ซึ่งมีโอกาสสูงมาก ที่เธอจะระวังตัวเองไม่ให้โดนหลอกซ้ำสอง เขาไม่น่าเลย ไม่น่าคิดทำอะไรโง่เง่าปัญญาอ่อนแบบนั้นเลย “ถ้าเธอเกลียดล่ะ”“เป็นไปไม่ได้หรอกครับ เจ้านายช่วยจัดการพ่อเลี้ยงของเธอ แถมยังช่วยดูแลแม่ของเธอที่กำลังป่วยหนักไว้ด้วย ไม่มีเหตุผลที่เธอจะเกลียดเจ้านายเลย”มีสิ...มีเยอะเลยแหละ“แต่เธอไม่รู้นี่ ผมกลัวเธอจะไม่ให้อภัยผม ผมเคยทำเลวกับเธอไว้มาก เธออาจไม่เชื่อใจผมอีกแล้ว”“งั้นเจ้านายจะยอมเสียเธอไปเหรอ”“ไม่” เขาตอบทันควัน“งั้นไม่ต้องกลัวอะไรเลยครับ ไปหาเธอ ไปแสดงความจริงใจให้เธอเห็น ทำให้เธอมองมาที่เจ้านายคนเดียว ทำให้เธอรู้ว่าเจ้านายรักเธอมากแค่ไหน”ใช่แล้ว...ทำให้เธอเห็นสิว่าเขารักเธอมากแค่ไหน ทำให้เธอรู้สิว่าที่ผ่านมานั้นมันคือเรื่องจริง เขารักเธอมาตลอด เขารักผู้หญิงที่ชื่อปาลิดา แม้ปากจะพูดว่าไม่ แต