ไม่ๆๆ ฉันไม่ตื่นเต้นเลย แม่คงนัดทานข้าวธรรมดาแหละ เนอะ! ตึกตัก ตึกตัก ฟู่วววว~ คิดบวกไว้ก๊อนนนน
พอมือเรียวบางดันประตูสีดำเข้าไปข้างใน เท้าสองข้างก็ชะงัก! เดี๋ยวนะ!? ทำไมมีคนอื่นอยู่ในห้องด้วย ผู้ชายสองคนนี่ใคร?
เฮือกกกก!! หรือว่าไปติดค่าหวยเค้าป่าว แต่เเค่เจ้าของแผงหวยต้องแต่งตัวหล่อเต็มยศขนาดนี้เลยหรอวะ?
" มาถึงแล้วก็มานั่งสิ จะยืนรอเสิร์ฟอาหารรึไงลูกสาว " เสียงคุณนายแม่ทำฉันตื่นจากผวังค์
สองขาเรียวค่อยๆเดินมาที่โต๊ะสี่เหลี่ยมที่มีอาหารวางรออยู่แล้วเต็มโต๊ะ หัวกระเซอะกระเซิงถูกจัดแล้วดีขึ้นนิดหน่อยค่อยๆก้มหน้าขอโทษและหย่อนก้นนั่งเก้าอี้ฝั่งซ้ายถัดจากคนเป็นแม่
อึดอัดชะมัด! ฉันทำหน้าไม่ถูกเลย เพราะไม่เคยเห็นหน้าผู้ชายสองนี้ด้วยซ้ำ ใจก็กลัวจะถูกฆาตกรรมคาห้องอาหารเพราะแม่เบี้ยวค่าหวยเค้าไว้หลายบาทรึป่าวก็ไม่รู้
" อะแฮ่ม " อะไรอีกแม๊......
"นี่ลุงประวิทย์ เป็นเพื่อนกับพ่อเรา" อ่อ.. เป็นเพื่อนพ่อนี่เอง ใจหายใจคว่ำหมด นึกว่าจะไม่มีชีวิตรอดไปหาผู้ชายในอนาคตซะแล้ว!
" นี่ มะลิลา ค่ะ เป็นลูกสาวคนเดียวของวัลย์ ตอนนี้เรียนบริหารอยู่ปี3 แล้วค่ะ "
" สวัสดีค่ะคุณลุงประวิทย์ " ฉันยิ้มหวานตอบพร้อมยกมือไว้แนบอกและก้มหน้าสวยๆ
" เรียกลุงวิทย์เฉยๆก็ได้ลูก เรียกประวิทย์มันทะแม่งๆ 555 " เออแหะ... แถมเป็นคนอารมณ์ดีซะด้วย ฉันเริ่มหายใจคล่องขึ้นมาบ้าง
" นี่อคิณลูกชายลุงครับ เรียกพี่คิณก็ได้ " ชื่อหล่อเข้ากับหน้าตาเลยแหะ แต่นิ่งไปหน่อย ถ้าชื่อชื่อประยุทธ์นี่ฉันไม่คบค้าสมาคมด้วยหรอกนะ!
" สวัสดีค่า "
" ครับ " แค่เนี๊ยะ.... เค้าโมโหหิวรึป่าว
หลังจากแนะนำกันเสร็จ ก็เริ่มทานข้าวตรงหน้ากันสักที คุณลุงคุยเก่งมาก ถามถึงการเรียน สารทุกข์สุขดิบ บลาๆๆ ฉันตอบไปยิ้มไปและเติมข้าวจานที่สองแล้วจ้า... หิวมากแม่!
พอของหวานเริ่มมาเสิร์ฟเท่านั่นแหละ แม่ก็เริ่มเข้าเรื่องแบบหน้าตึงเครียด ไม่เกรงใจโบท็อกซ์สักนิด ฉันเริ่มรับรู้ปัญหาของแม่และของที่บ้านไปพร้อมกัน ว่าตอนนี้บริษัทของแม่ที่สร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงกับพ่อกำลังจะถึงทางตัน! ปัญหาภายในที่คาราคาซังมาหลายปี แต่ทำไมแม่ไม่เคยบอกให้ฉันรู้เรื่องพวกนี้เลย ตาฉันเริ่มร้อน คอเริ่มตีบ หายใจไม่ออก ฉันตกใจกับเรื่องที่แม่จะขายหุ้นทั้งหมดให้ลุงประวิทย์ดูแลต่อ!
" ทำไมแม่ไม่บอกหนู? " เสียงสั่นเครือถามกลับคนเป็นแม่
" ถ้าแม่บอก หนูก็จะเครียดไปด้วย แม่อยากให้ตั้งใจเรียน และสดใสเป็นกำลังใจให้แม่เหมือนที่หนูทำทุกๆวัน " แม่บีบมือฉัน และมองตาที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาสีใส แต่แม่ไม่ร้องไห้เลย แววตามีแต่เป็นห่วงเป็นใยคนตรงหน้าเท่านั้น
" เอาหละ ใจเย็นๆนะหนูมะลิ เราปรึกษากันแล้ว ลุงจะไม่ซื้อหุ้นทั้งหมดของพ่อกับแม่หนู แต่จะให้อคิณเข้าไปช่วยแก้ปัญหาและบริหารแทนไปก่อน แต่ต้องตกลงทำเงื่อนไขกัน "
ฉันสบตาคุณลุงด้วยความตื้นตัน พ่อโชคดีจังที่มีเพื่อนที่ดี ทั้งๆที่พ่อไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว เงื่อนไขอะไรก็ว่ามาเถอะ! ฉันพร้อมทำทุกอย่างเพื่อแม่และครอบครัวแล้วตอนนี้!
———————————————
เงื่อนไขอะไรน้าาาาาาาา
" หมอดีใจด้วยนะครับ ภรรยาคุณตั้งครรภ์ได้ 2 เดือนแล้วครับ "" !!!!!!!! " คนเป็นพ่อหมาดๆกำลังยืนช๊อคกับสิ่งที่ได้ยิน เค้ารีบวิ่งไปเขย่าตัวหมอเบาๆ" มะหมอพูดจริงนะครับ!! ไม่ได้โกหกผมนะ!! "" ผมเป็นหมอ จะโกหกคุณเพื่ออะไร " บุคลากรในชุดกราวน์ยืนตอบคำถามแบบอมยิ้มนิดๆ เค้าเข้าใจความรู้สึกนี้ดี ความรู้สึกที่กำลังจะได้เป็นพ่อคนน้ำตาลูกผู้ชายอกสามศอกกำลังตีตื้นขึ้นมาเต็มดวงตา ตอนนี้เขาไม่ได้ยินเสียงรอบข้างเลยสักนิด ในหัวมีแต่คำพูดของหมอเป็นเสียงเอคโค่ซ้ำๆภรรยาคุณตั้งครรภ์ ภรรยาคุณตั้งครรภ์....กว่าสติจะกลับเข้าร่าง พยาบาลก็เข็นรถเข็นที่มีร่างบางออกมาจากห้องฉุกเฉิน" พี่คิณ พี่คิณคะ! เป็นอะไร " คนตัวโตคุกเข่าลงตรงหน้าเธอ เอื้อมไปจับมือบางเบา น้ำตาไหลคลอเบ้าจนรีบผวากอดคนตัวเล็กบนรถเข็น" ขอบคุณนะครับ เขาเป็นของขวัญที่วิเศษที่สุดเลย " เธอรับรู้ถึงความเปียกชื้นที่หัวไหล่ จนต้องโอบกอดคนตัวโตแล้วลูบหลังเบาๆ " Happy birthday ล่วงหน้านะคะ ว่าที่คุณพ่อ " คำพูดสุดท้ายของภรรยา ทำให้เค้ากอดร่างบางแน่นกว่าเดิม จนเค้าค่อยคลายตัวเองออกมาจ้องมองไปที่พุงน้อยๆเธอยกมือมาโอบใบหน้าที่แดงก่ำ ใช้หัวแม่มือเช็ดน้ำตา
" มะลิ ตื่นได้แล้วครับ ถึงแล้ว " ฮือออ ไม่อยากลืมตาเลยอะ อยากหลับยาวๆ" ค่อยไปนอนต่อที่ห้อง "เสียงสารถีปลดเบลล์แล้วลงจากรถไปเปิดท้ายรถเพื่อยกกระเป๋าเข้าที่พักฉันพยายามฝืนสังขารตัวเองเพื่อลงจากรถ นี่กูยังไม่สามสิบเลยนะ!? แรงมันหดหายไปไหนหมดวะ?พอลงจากรถ ร่างบางก็เยียดแขนเพื่อยืดเส้นยืดสาย นั่งรถมาหลายชั่วโมง พอเหลียวมองรอบๆ สายลมเบาๆบวกกับกลิ่นทะเลอ่อนๆ พอยังช่วยให้สมองคลายความตึงเครียดได้บ้าง แถมเสียงคลื่นซัดหาดบ่งบอกว่าเรามาถึงจุดหมายปลายทางแล้วพอเช็คอินกับทางรีสอร์ต ลากกระเป๋าเข้าห้องเสร็จ ฉันรีบปีนขึ้นเตียงและทำท่าจะหลับอีกรอบ" งั้นมะลิพักสายตาก่อนนะครับ ตอนนี้สี่โมงเย็น ค่ำๆพี่เรียก เราไปหาอะไรกินกัน " กูนั่งเฉยๆทั้งทางบอกกูพักสายตา คนขับรถทั้งทางตอนนี้กินลมชมวิวอยู่ระเบียง จ่ะ!พอตะวันเริ่มลับขอบฟ้า บุรุษในชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้า กางเกงขาสั้นสีขาวเดินไปหยุดข้างเตียงใหญ่ ยืนมองภรรยาตัวเองที่หลับพริ้มเหมือนเธอกำลังฝันหวานเค้านั่งลงที่ขอบเตียง ยกมือมาเกลี่ยผมที่ปรกหน้านวลออก ใช้นิ้วชี้เขี่ยปลายจมูกเธอเบาๆ จนคนที่กำลังฝันหวานรู้สึกตัว " อือออออ" ขี้เซาซะด้วยฉันลืมตาขึ้นมาเพื่
รถเมอร์เซเดสเบนซ์สีดำวาวแล่นเข้าสู่รั้วโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง จุดหมายปลายทางคือจุดรับส่งนักเรียนตัวน้อยกะป้อมวัยสี่ขวบที่นั่งห้อยขาไปมาบนม้านั่ง ในปากยังเคี้ยวลูกชิ้นปิ้งจนแก้มข้างหนึ่งป่องนูนออกมาเป็นลูก" มะลิ พ่อมาแล้ว "" คุมพ่ออออออ " เด็กหญิงผมเปียกระโดดลงจากเก้าอี้ด้วยความดีใจ รีบวิ่งไปที่รถแล้วเปิดประตูขึ้นไปนั่งข้างๆผู้เป็นบิดา" คุมแม่ไปไหน "" เตรียมชุดสวยรออยู่ที่บ้านครับ "" เตรียม'ไมเหยอ "" เราจะไปงานวันเกิดลูกชายลุงประวิทย์ครับ "รถคันดังกล่าวแล้วเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่เวลาหนึ่งทุ่มตรง สามพ่อแม่ลูกเปิดประตูลงจากรถแล้วมองเข้าไปในบ้าน ที่มีเสียงเด็กๆดังเจี๊ยวจ๊าวพอดีกับเจ้าของบ้านเดินออกมาต้อนรับพอดี" สวัสดีค่ะ คุณไมค์ คุณวัลย์ เชิญเข้ามาในบ้านก่อนค่ะ " และไม่ลืมก้มทักทายสาวน้อยชุดกระโปรงสีม่วงลายขนมหวานที่กำลังแหงนมองด้วยความงุนงง" สวัสดีค่ะคนสวย หนูมะลิใช่ไหมเอ่ย " เด็กน้อยยิ้มแป้นและพนมมือป้อมๆพร้อมกล่าวสวัสดีค่ะด้วยภาษาของวัยที่ยังไม่ค่อยแข็งแรงทุกคนเดินตามกันเข้ามาในบ้าน แล้วเลี้ยวขวาเดินไปยังลานสนามหญ้าข้างบ้าน ที่ตอนนี้ประดับตกแต่งด้วยลูกโป่งและไฟสีนวล บนโต
ฉันหายใจเหนื่อยหอบอยู่ใต้ร่างใหญ่ ปากหนากระตุกยิ้มมุมปาก แล้วก้มลงมาหอมที่ขมับเจ้าสาวเบาๆ" ถ้าเหนื่อยพี่ทำเอง " สิ้นเสียงแหบ แขนแกร่งก็ยกขาเธอทั้งสองขึ้นพาดบ่า สะโพกฉันลอยขึ้นเล็กน้อยเปิดทางให้เค้าเข้ามาง่ายกว่าเดิมเอ็นใหญ่ที่แข็งชูชันกำลังค่อยๆสอดเข้ามาช้าๆ เค้ากอดล็อกขาเธอแน่น จากนั้นก็รัวสะโพกจนคนใต้ร่างกรีดร้องเสียงแหลมปึก ปึก ปึก ปึก ปึก !!!!ฉันหายใจไม่ทัน! ลำพังแค่ครางคอก็แห้งแล้ว!" อืม มะลิ~ ตอดพี่อีก"ปึก!! ปึก!! ปึก!!" ซี๊ดดดดดดด แทบเสร็จ! "เค้าปล่อยขาเธอลงแล้วพลิกเธอให้นอนคว่ำ หน้าฟุบกับหมอน สะโพกขาวถูกยกขึ้นตั้งฉาก ลิ้นร้อนๆเลียชิมแก้มก้มขาวอย่างลุ่มหลง ลากโลมมาถึงกลีบบวม ตะหวัดลิ้นไปทั่วจนเธอเกร็ง จิกหมอนแน่น แล้วกรี๊ดออกมาเค้าเลื่อนริมฝีปากขึ้นไป ตะบมพรมจูบตามแนวร่องหลังขาวเนียน ไม่ลืมเลียชิมทุกตารางนิ้ว วาดแขนไปโอบกอด เขี่ยยอดถันไปมาสลับกับบีบเค้นเต้าอวบแล้วปึก!" อ๊าย!! "เค้าช่วยยกตัวเธอขึ้น นำทางมือเรียวไปจับหัวเตียง กระซิบที่ซอกคอให้ไออุ่นมันวิ่งพล่าน" จับให้แน่นๆนะครับ "เค้าปล่อยมือเธอแล้วลูบตั้งแต่หัวไหล่ขาว ลงมาแผ่นหลังที่กำลังแอ่นได้รูปสวย ไล้มาจนถึงบั
ปึง!เจ้าบ่าวหมาดๆดันเธอติดผนังทันทีที่ปิดประตู ปิดปากหวานๆด้วยจูบสุดเร่าร้อน สอดลิ้นกวาดต้อนดูดเรียวลิ้นน้อยๆจนเธอไม่ทันตั้งตัว ดูดเท่าไรความหวานจากปากเจ้าสาวก็ยิ่งหวานขึ้นเรื่อยๆจนเค้าไม่อยากหยุด จนมือน้อยเริ่มทุบหัวไหล่บ่งบอกว่าเธอกำลังจะขาดอากาศหายใจ" แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก พะพี่คิณ อื้ออ อาบน้ำกันก่อนมั้ยคะ " เค้าไม่ฟังฉันเลย พอหลุดจากการดูดดื่ม ก็ย้ายลิ้นมาดูดที่ซอกคอขาวๆแทน " อ๊ะ "ใบหน้าคมไม่ยอมหยุดสูดดมความหอมจากซอกคอเธอ แถมยังสร้างรอยคิสมาร์กไว้ทั่ว มือข้างนึงรูดซิปเจ้าสาวลง ยิ่งข้างปลดกระดุมเสื้อตนเอง จนชุดสีขาวฟูฟ่องหลุดจากร่างบางระหงไปกองกันที่ปลายเท้าเค้าไล่ปากลงมาที่เต้าอวบชูเม็ดบัวสีชมพูล่อตาล่อใจจนอดไม่ได้ที่จะแวะชิมดูดดึงเรียกเสียงครางใสให้กระสัน " อ๊ะ พะ พี่คิณ อื้อ! "ลิ้นร้อนๆเลียวนจนยอดอกชุ่มช่ำไปด้วยน้ำลายใส เม้มดูดจนพอใจ แล้วลากเลียลงมาต่อที่หน้าท้องแบนราบ แกล้งงับสะดือบุ๋มให้เธอสะดุ้ง เกี่ยวขอบแพนตี้ตัวจิ๋วให้พ้นร่างบาง แล้วนั่งย่อตัวลงเค้ายกเรียวขาเธอข้างนึงมาพาดไว้ที่หัวไหล่จ้องมองกลีบอวบๆสีชมพูที่ปิดสนิทแต่เยิ้มไปด้วยน้ำเมือกสีใสๆแหงนหน้าขึ้นไปมองสีหน้าของเจ้าส
งานแต่งสุดยิ่งใหญ่ของสองบริษัทชื่อดังถูกจัดขึ้นภายในโรงแรมหรูในอาทิตย์ถัดมา เนื่องด้วยเจ้าบ่าวบ่นว่ารอเธอเรียนจบไม่ไหว ทั้งๆแค่อีกแค่ปีเดียวเท่านั้นอาทิตย์ทั้งอาทิตย์วุ่นวายสุดๆ ไม่ว่าจะเรื่องชุด เรื่องสถานที่ เรื่องการ์ดเชิญ กูแทบจะกรี๊ดวันละเป็นสิบรอบ อีดอก เหนื่อย!!!!" อิฝ้าย มึงดื่มแบบนี้ มึงแต่งหน้าให้กูได้แน่นะ " เจ้าสาวจัดแจงชุดกระโปรงฟูฟ่องแล้วนั่งเก้าอี้ตรงข้ามช่างแต่งหน้าจำเป็น" นี่ใคร อิฝ้ายนะคะ " พูดเสร็จก็ยกแชมเปญดื่ม อึก อึก แล้ววางลงบนโต๊ะใกล้ๆ ปึง! ถ้าแก้วไม่หนามีสิทธิ์แตกกูบอกเลย" มึงทะเลาะกับพี่ลมเหรอ " นางเบ๊ะปาก นั่งไขว้ห้างโชว์เรียวขาขาวๆที่กระโปรงแหวกมาถึงต้นขา ชุดเพื่อนเจ้าสาวที่นางใส่เป็นสายเดี่ยวสีม่วงขับผิวนางให้มีออร่าไปอีก" ช่างหัวมัน มึงอย่าพูดถึง นี่งานมงคลมึงนะ " แรงงง!! แล้วนางก็ละเลงใบหน้าฉันด้วยใบหน้าบึ้งๆสองบ่าวสาวยิ้มชื่นมื่นยืนตอนรับแขกหน้างาน บ้างก็มาขอถ่ายรูปแถมมีของขวัญติดไม้ติดมือเล็กๆน้อยๆ" พี่คิณเหนื่อยมั้ย นั่งพักก่อนก็ได้นะคะ เดี๋ยวมะลิรับแขกเอง"" แค่มีมะลิยืนข้างๆ พี่ก็หายเหนื่อยแล้วครับ " ปากหวาน แต่ฉันก็ยิ้มเขิน~" อะแฮ่ม "" พี่