อีกทั้งยังโชคดีที่เจ้าสัวเทิดเข้าใจคนเป็นลูกสาว และไม่ได้คิดอยากเอาเรื่องราวกับผู้ชายคนนั้น เพราะท่านรู้สึกเป็นห่วงสภาพจิตใจของปลายฟ้าที่ถูกทำลายจนบอบช้ำอย่างน่าสงสาร และยินดีรับเลี้ยงหลานให้โดยไม่เคยต่อว่าอะไรเธอเลยสักคำ
หลังจากที่ปลายฟ้าคลอดลูกออกมาได้ไม่กี่เดือน หญิงสาวก็ฝากให้มารดาเป็นผู้ดูแลหลาน ในระหว่างที่หญิงสาวต้องรีบกลับมาช่วยคนเป็นบิดาทำงานทุกๆ อย่างที่อยู่ในประเทศไทย
เนื่องจากสถานการณ์มันบังคับให้ปลายฟ้า ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือคนเป็นบิดา ดังนั้นเมื่อผิดหวังจากความรัก หญิงสาวจึงไม่อยากจะทำตัวให้เจ้าสัวเทิดต้องเสียใจ กับคนเป็นลูกสาวอย่างเธอเป็นครั้งที่สอง เธอจึงต้องตั้งใจทำงานให้กับท่าน ด้วยการบริหารงานของตนในส่วนที่สามารถรับผิดชอบแทนคนเป็นบิดาได้
แม้กระทั่งเรื่องการประมูลเกาะปลาดาว ที่ทำให้เป็นปัญหากับนายทุนใหญ่ที่มีชื่อว่านายชลทิศ จนถึงขั้นสั่งคนตามติด เพราะต้องการจะปลิดชีวิตของเธอมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังทำไม่สำเร็จสักที
“คุณพ่อขาเราคงใช้ชีวิตอย่างประมาทไม่ได้อีกแล้วนะคะ ครั้งนี้มันอุกอาจมาก นี่ขนาดว่าเป็นเวลากลางวันแท้ ๆ แต่พวกมันกลับไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทำราวกับว่าบ้านเมืองของเราไม่มีขื่อมีแป”
“แต่ตอนนี้ลูกไม่ต้องห่วงนะ เพราะพ่อได้จ้างคนคุ้มกันมาให้ลูกแล้ว ต่อจากนี้หนูสามารถทำงานทุกอย่างได้สะดวกสบาย โดยไม่ต้องกังวลในเรื่องของความปลอดภัย เพราะคนคุ้มกันที่พ่อได้จ้างมา เขาเป็นมือหนึ่งขององค์กรที่รับดูแลด้านนี้มาโดยเฉพาะ และพ่อก็ได้เซ็นสัญญาว่าจ้างกับเขาไปแล้ว”
ปลายฟ้านึกถึงใบหน้าของผู้ชายคนนั้นขึ้นมาทันที หลังจากที่ได้ฟังบิดาพูดประโยคนั้นจบลง และเธอคงไม่กล้าจะบอกกับท่านออกไปตามตรง ว่าคนที่เธอได้เห็นใบหน้าเขาตอนที่ใกล้จะหมดสตินั้น มันดันละม้ายคล้ายกับผู้ชาย ที่ทำให้อนาคตของเจ้าตัวต้องสะดุดลง
“คุณพ่อคงจะลืมว่าเราเคยจ้างคนคุ้มกันมาแล้วตั้งหลายที่ แต่หนูก็ไม่เคยจะปลอดภัยจริงๆ เลยสักที อย่างดีก็แค่เอาตัวรอดกันไปได้ ส่วนคนคุ้มกันของเราต่างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วท้ายที่สุดก็ขอลาออกไปกันเอง แล้วแบบนี้มันจะคุ้มหรือคะที่คุณพ่อต้องมาคอยจ่ายเงินก้อนใหญ่ ที่ดูเหมือนจะได้ไม่คุ้มเสียเลยสักที”
“แต่ครั้งนี้พ่อกลับรู้สึกมั่นใจ ว่าพ่อหามือดีที่สุดมาให้ลูกได้”
ก๊อก ๆๆ
“ขออนุญาตครับท่าน”
ปลายฟ้ายังไม่ทันได้แย้งบิดากลับไป สายตาของหญิงสาวก็เลื่อนไปมองประตูห้องที่ถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับใบหน้าของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นฝันร้ายที่สุดในชีวิตของเธอ
เจ้าของร่างบางที่นั่งอยู่บนเตียงชะงักค้าง พลางทอดสายตามองข้ามไปทางด้านหลังของคนเป็นบิดา แล้วก็ได้เห็นเจ้าของร่างสูงกว่า เดินตรงเข้ามาหยุดยืนอยู่ในระยะที่ห่างจากเธอเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น
คิมหันต์!
ทุกอย่างคือความจริง และมันเป็นสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมาย...
ดวงตากลมโตสั่นระริก ก่อนจะจิกสายตามองจ้องคนที่เคยเป็นเจ้าของหัวใจ ที่ยังคงทำให้ปลายฟ้ามีความรู้สึกลึกซึ้งฝังอยู่ในความทรงจำ ถึงแม้ว่ามันจะผ่านมานานหลายปีแล้วก็ตาม
“นี่มันเรื่องอะไรกันคะคุณพ่อ!? อย่าบอกหนูนะคะว่า....” ปลายฟ้าโวยวายลั่น แต่คนเป็นบิดานั้นกลับไม่ได้ให้ความสนใจ
“อ้อ มาพอดี มาทางนี้สิเรฟ ทั้งคู่คงยังไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวเลยสินะ ถ้าอย่างนั้นพ่อจะแนะนำให้เลยก็แล้วกัน ผู้ชายคนนี้คือคนที่พ่อจ้างวานให้เขามาคุ้มกันลูก ฝีมือของเขาปลายก็น่าจะได้เห็นแล้วใช่มั้ย? พ่อเชื่อว่าเขาคงจะทำให้หนูมั่นใจ ได้ว่าจากนี้ต่อไปจะไม่มีใครกล้าเข้ามาทำอันตรายกับลูกได้”
ยกเว้นเขา...คนเดียวเท่านั้น!
ปลายฟ้ารู้สึกโกรธจัดจนเลือดขึ้นหน้า ถ้าไม่ติดว่าตัวเองกำลังนอนบาดเจ็บอยู่บนเตียงนี่แล้วละก็ เธอจะขอพุ่งตัวเข้าไปตบหน้าเขาให้สมกับความแค้นที่มี แต่มันดันติดตรงที่เรื่องราวระหว่างเธอและเขา เจ้าสัวเทิดไม่เคยรู้ว่าคนที่เป็นผู้ให้กำเนิดของแป้งร่ำกับผู้ชายที่ทำให้ลูกสาวของตนต้องเสียใจมันคือใคร? และที่สำคัญคิมหันต์ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเขาทำให้เธอท้อง จนต้องหนีกลับมาเมืองไทยด้วยหัวใจที่แตกสลาย...
“สวัสดีครับ เรียกผมว่าเรฟก็ได้นะครับ คุณหนูปลายฟ้า”
หญิงสาวโกรธจนลมออกหู แต่ก็รู้ตัวดีว่าเธอจะต้องปั้นหน้าเพื่อสะกดอารมณ์เอาไว้ เพราะยังมีบิดาที่ยังยืนอยู่ด้วยกัน
เมื่อกลับมาถึงบ้านตอนช่วงหัวค่ำ ทั้งสองคนจึงเดินไปส่งแป้งร่ำที่ห้องนอน ก่อนจะอยู่เป็นเพื่อนลูกสาวสักพัก จนเจ้าตัวหลับไปแล้วนั่นแหละ ทั้งสองคนถึงได้พากันกลับมาที่ห้องเพราะคิมหันต์ต้องการทำให้ปลายฟ้าเซอร์ไพรส์ เขาจึงตีเนียนหน้าตาย หลังจากที่เก็บงำความลับนี้ไว้กับตัวมาหลายวัน“คุณไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนเถอะ เหนื่อยกับลูกมาทั้งวัน ผมว่าจะไปดูความเรียบร้อยด้านล่างนั่นสักหน่อย เดี๋ยวผมมา”หญิงสาวทำเป็นเมิน ก่อนเดินจ้ำเท้าเข้าห้องไปโดยไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำหลังจากอาบน้ำชำระร่างกาย ปลายฟ้าก็มานั่งแปรงผมอยู่หน้ากระจกเงาราวชั่วโมงกว่าๆ แต่ก็ไม่เห็นทีท่าว่าคนเป็นสามีจะเข้ามาในห้องไวเท่าความคิดเมื่อได้ยินเสียงของลูกบิดประตู ที่ถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับคนเป็นสามีและเมื่อได้เห็นใบหน้าของอีกฝ่าย ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่ถูกกักเก็บเอาไว้ก็ตีตื้นขึ้นมาอีกครั้ง แต่อีกคนก็ยังไม่รู้ตัวงอนผัว!...แล้วเขาจะรู้ตัวตอนกี่โมง?ด้วยความหมั่นไส้หญิงสาวจึงทำท่าจะเดินหนีเขาไปอีกทาง แต่ถูกเจ้าของร่างใหญ่คว้าตัวมากอดไว้ได้จากทางด้านหลัง“คุณกำลังงอนผมอยู่ใช่มั้ย?” เขาฝังจมูกโด่งไล้ลงตามข้างแก้มของเธอเบาๆ ตอนถาม ส่วนห
ห้องรับรองแขกชัญญ่ายอมคายความลับของพี่ชายให้ปลายฟ้าได้รับรู้ทุกอย่าง กระทั่งสถานะของตนซึ่งรวมไปถึงเหตุผลของการมาที่เกาะปลาดาวแห่งนี้ด้วยเช่นเดียวกัน“ฉันก็แค่อยากเห็นหน้าพี่สะใภ้ ว่าตัวจริงจะสวยงามตามที่พี่คิมเขาเล่าให้ฉันฟังมากแค่ไหน ฉันไม่อยากเห็นพี่ปลายแค่รูปถ่ายนี่นา พอดีว่าพี่คิมเขาอยากได้งาน เขาจึงวางแผนการให้ฉันได้มาที่นี่ ถ้าพี่ปลายจะโกรธพี่คิมก็โกรธไปสิคะ แต่พี่อย่าโกรธฉันเลยนะ...ฉันขอโทษ ”เมื่อโบ้ยความผิดให้คนเป็นพี่ชายเสร็จสรรพ เจ้าตัวก็ขยับเข้าไปใกล้คนที่เรียกว่าพี่สะใภ้ทีละนิดๆ แถมยังเรียกชื่อกันซะสนิทเชียว“แน่ใจนะว่าเป็นแผนของคิมหันต์แค่เพียงคนเดียว เธอไม่ได้มีเอี่ยวด้วยน่ะ” ปลายฟ้าเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยหางตาตอนถาม เพราะยังไม่อยากจะเชื่อชัญญ่าตามนั้น“พี่ปลายยังไม่รู้อะไร พี่คิมน่ะเขาเป็นคนเจ้าแผนการจะตายไป พี่คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือไง ที่พี่คิมเขายอมมาเป็นคนคุ้มกันให้กับพี่ ทั้งที่มีผู้ว่าจ้างแถบตะวันออกกลาง ยอมจ่ายค่าตัวให้พี่คิมเขาต่างหาก ซึ่งมันมากถึงเก้าหลักเลยนะพี่ปลาย แต่พี่คิมเขาก็ไม่เอา...”เรื่องนี้คิมหันต์ไม่เคยเล่าให้ปลายฟ้าฟัง อีกทั้งเธอเองก็ยังอยากจะร
เมื่อได้ยินคำถามนั่นชัญญ่าถึงกับทำหน้าตาเลิ่กลั่ก จากนั้นจึงหันซ้ายแลขวาซึ่งดูทีท่าแล้วไม่ค่อยน่าไว้วางใจ ปลายฟ้าต้องการจับคนทั้งคู่ให้มั่น แล้วคั้นให้ตายไปพร้อมกันเลยทั้งสองคนเพราะสิ่งที่เธอกำลังกังวลใจ มันน่าจะมีความเป็นไปได้มากกว่าครึ่ง ซึ่งไม่มีวันที่เธอจะยอมปล่อยผ่านมันไปง่าย ๆ“คุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าเรื่องที่พวกคุณแอบไปกินกันลับหลังฉันมันเป็นเรื่องผิด แล้วทำไมพวกคุณยังคิดที่จะทำ เคยนึกถึงความถูกต้องกันบ้างมั้ย อายุขนาดนี้แยกแยะชั่วดีกันไม่ได้เลยหรือไง”ยิ่งได้ว่าออกไปมันก็ยิ่งทำให้ปลายฟ้า ของขึ้นเสียจนอยากจะฆ่าทั้งสองคนให้ตกตายตามกันไป“เดี๋ยวนะคะ ในเมื่อมันเป็นเรื่องงาน ทำไมคุณจะต้องโกรธขนาดนั้นด้วยละคะ คุณไม่ดีใจเหรอที่สามีของคุณทำหน้าที่ของเขาได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง”ชัญญ่ามองใบหน้าของปลายฟ้า ที่แสดงความเจ็บปวดผ่านทางสายตาออกมาให้เห็น เช่นเดียวกันกับคำพูดของเธอซึ่งฟังดูแล้วมันคล้ายกับกำลังดูหนังคนละม้วน ชวนพูดคนละเรื่องเดียวกันยังไงยังงั้นเลย...แล้วชัญญ่าก็ยังไม่คิดที่จะเฉลยให้อีกฝ่ายได้ฟัง ว่ากำลังเข้าใจอะไรผิดๆ และคงปล่อยให้ปลายฟ้าคิดไปเองตามนั้น“เอาแบบนี้ดีกว่านะคะคุณปล
เช้าวันต่อมาคิมหันต์ตื่นนอนตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสว่าง เพราะเขามีงานบางอย่างที่จำเป็นต้องไปจัดการ และทำให้เสร็จทันก่อนที่จะถึงวันสำคัญของตัวเอง“เดี๋ยวผมขอตัวเข้าไปทำธุระที่ฝั่งโน้นสักหน่อยนะ สัญญาว่าจะรีบกลับมาให้ทันมื้อค่ำของเรา”คิมหันต์บอกกับปลายฟ้า ที่ยังไม่ทันจะหายจากอารมณ์หงุดหงิด แต่แล้วสามีก็ยังคิดจะทิ้งเธอกับลูกไป ทั้งที่งานสำคัญจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้“คุณจะไปที่ไหน? กับใคร? แล้วธุระที่ว่านั่นมันคือธุระอะไร? และสำคัญกับคุณแค่ไหนเหรอ? ”เธอซักไซ้เขาราวกับว่าอีกฝ่าย ได้กลายเป็นนักโทษที่อยู่ในเรือนจำ ทำเอาเจ้าตัวถึงกับไปไม่เป็น “อ่า...ผมแค่จะไปคุยธุระกับคนที่รู้จักกันแค่นั้นเอง” คิมหันต์ตอบไม่ตรงประเด็น และปลายฟ้าก็เห็นว่าเขาไม่ยอมสบตากับเธอตอนพูด“ไม่ต้องห่วงเรื่องงานในวันพรุ่งนี้นะ เดี๋ยวผมจะให้ออแกไนซ์มาคุยรายละเอียดเรื่องงานกับคุณ เธอชื่อ ชัญญ่า ผมฝากคุณด้วยละกัน”เขาฝากฝังปลายฟ้าเรื่องงาน หรือฝากให้เธอดูแลออแกไนซ์นั่นกันแน่...แถมเรียกแม่นั่นว่า ชัญญ่า อย่างสนิทสนมเจอกันแค่เพียงวันเดียว แต่สามีกลับฝากฝังผู้หญิงคนนั้น ไว้กับเธอได้อย่างหน้าตาเฉย เธอก็เลยตอบเขากลับไปว่า“ได้ค
เช้าวันรุ่งขึ้นคิมหันต์มองเรือลำใหญ่ที่วิ่งออกมาจากชายฝั่งผ่านกล้องส่องทางไกล จนกระทั่งเรือลำนั้นได้เข้ามาจอดเทียบท่าที่เกาะปลาดาวซึ่งคนที่อยู่บนเรือลำดังกล่าว ก็คือคณะที่มาจากบริษัทจัดทำออแกไนซ์ และเวลานี้ทุกคนต่างก็ช่วยกันขนของ ทยอยลงมาจากเรือลำที่เขาเป็นคนส่งให้ไปรับมาจากอีกฝั่งรูปร่างบอบบางของหญิงสาวเชื้อสายจีน-อิตาลี ได้ก้าวเท้าลงมายืนอยู่ที่บนพื้นทราย ขณะกวาดสายตามองหาใครบางคน จนได้พบกับเป้าหมายจากนั้นจึงเดินเข้าไปหาเจ้าของร่างใหญ่ พร้อมกับกล่าวคำทักทายซึ่งคล้ายกับคนคุ้นเคย“สวัสดีค่ะรุ่นพี่ สบายดีไหมคะ?”“สบายดีแล้วเราล่ะชัญญ่า ไม่เจอกันนานโตขึ้นเยอะเลยนะเรา” คิมหันต์เอ่ยทักและถามอีกฝ่ายกลับไปเช่นเดียวกัน“ฉันสบายดีค่ะ แล้วก็มีบางอย่างที่ฉันตั้งใจจะเอามาฝากพี่ด้วยนะ ไม่รู้ว่าพี่จะสนใจไหม?”ประโยคบอกเล่ากึ่งคำถามทำให้อีกคนต้องหันซ้ายแลขวา เหมือนกับกลัวว่าใครจะเห็นเข้าจากนั้นเจ้าของร่างสูงก็เดินจูงมือหญิงสาวปริศนา แล้วพาไปพูดคุยกันในมุมลับตาแต่ไม่ว่าคิมหันต์จะขยับตัวไปทางไหน มันก็ยังอยู่ในสายตาของใครบางคน ปลายฟ้าได้เห็นการกระทำของคนทั้งคู่จากบนอาคารที่อยู่สูงสุด เธอถึงกับส
เกาะปลาดาวช่วงต้นเดือนกุมภาพันธุ์ครอบครัวของปลายฟ้า ก็มักจะพากันมาจัดงานรำลึกถึงผู้วายชนม์ นั่นก็คือคนเป็นบิดาของเธอในทุกๆ ปี และสถานที่จัดงานก็คือเกาะปลาดาวเหมือนที่ผ่านมาแต่ปีนี้ปลายฟ้าต้องการทำบรรยากาศของงานให้มีความสนุกครึกครื้นเพิ่มขึ้นมาบ้าง ซึ่งระยะหลังก็สามารถทำใจกันได้แล้วนั่นแหละส่วนตัวของคิมหันต์เองก็ได้กลายเป็นคุณพ่อติดลูก ซึ่งความผูกพันธ์อันนี้ที่ทำให้เขาตัดสินใจ ลาออกจากองค์กรของบอดี้การ์ดและนักฆ่า ซึ่งเขาคิดว่าคงจะไม่กลับเข้าไปทำอาชีพนั้นอีกแล้วคิมหันต์ไม่ต้องการเสี่ยงอันตราย แล้วทำให้คนในครอบครัว ต้องมาคอยเป็นห่วงเป็นใยในตัวเขาเหมือนที่ผ่านมาการจัดงานครั้งนี้คิมหันต์จึงเสนอปลายฟ้า ให้เธอว่าจ้างบริษัทที่รับจัดงานออแกไนซ์ แล้วหลังจากที่ตกลงกันได้ เขาจึงนำโบชัวร์มาให้เธออ่านถึงรายละเอียดต่างๆ พลางปล่อยให้เธอเลือกเอา ตามที่ใจของเธอต้องการหญิงสาวนั่งอ่านมันอย่างขะมักเขม้น ก่อนเหลือบไปเห็นคนเป็นสามีจ้องมองมาที่เธอ ด้วยสายตาที่เจ้าตัวอ่านเขาได้ไม่ยากนักหากแต่ทำเป็นสนใจกับเอกสารตรงหน้า ขณะที่สายตาก็คอยชำเลืองมองสามีของตัวเองเป็นระยะๆ“คุณกำลังคิดอะไรอยู่เหรอคะ?”ก็รู้แห