แชร์

แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย
แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย
ผู้แต่ง: ลภัสลัล

บทที่ 1 ตกกะไดพลอยโจร

ผู้เขียน: ลภัสลัล
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-12 15:00:39

"สู้ ๆ เมษยา..เธอต้องทำได้"

หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยในชุดเดรสสายเดี่ยวสีแดงพึมพำให้กำลังใจตัวเองอยู่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ด้วยความตื่นเต้นระคนกังวล

อีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้เธอต้องทำงานที่สำคัญมาก ๆ นั่นคือการสวมรอยเป็นคู่หมั้นของบุตรชายผู้มีพระคุณ ซึ่งเธอไม่ได้อยากทำสักนิดเพราะรู้เต็มอกว่าการสวมรอยเป็นคนอื่นมันผิดกฎหมาย และต้องทำสิ่งผิดบาปอย่างทำให้สองคนที่รัักกันต้องเลิกกัน

แต่ทว่าด้วยความจำเป็นบางอย่างทำให้เธอตกกระไดพลอยโจนเดินเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้

เธอสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เรียกความกล้า และความมั่นใจให้ตัวเอง ก่อนจะก้าวเดินเข้าไปภายในคฤหาสน์

"มาแล้วเหรอ" เสียงทักทายจากเจ้าของบ้านอย่างคุณหญิงสาริกาดังขึ้นทันทีที่เธอเดินเข้าไปถึงห้องโถงใหญ่

"สวัสดีค่ะคุณสาริกา" เธอยกมือไหว้ไปตามมารยาททั้งที่ความจริงหมดความเคารพ และความศัรทธาในตัวสาริกาไปแล้ว

ก่อนหน้านี้เธอยกให้สาริกาเป็นผู้มีพระคุณ เธอเคารพนับถือสาริกามากเพราะท่านยื่นมือเข้ามาช่วยในวันที่เธอกับครอบครัวลำบาก

เธอยังจำเหตุการณ์ในคืนนั้นเมื่อเดือนก่อนได้ดี..

เธอ แม่ และน้องสาวกำลังหนีหัวซุกหัวซุนจากเจ้าหนี้ของพ่อเลี้ยงเฮงซวยที่หวังจับเธอ แม่ และน้องสาวไปทำงานที่ซ่องชดใช้หนี้

คืนนั้นพวกเธอวิ่งหนีกันท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำลงมา แต่ก็หนีไม่รอดเพราะน้องสาวต่างพ่อที่เป็นโรคหัวใจตั้งแต่แรกเกิดดันอาการกำเริบจนไม่สามารถวิ่งหนีต่อได้

พวกเธอถูกแกงค์ทวงหนี้โหดตามทัน และจับตัวไว้ได้ ตอนนั้นเธอโคตรรู้สึกอัปยศอดสูในชีวิตคิดว่าทุกอย่างคงจบสิ้นลงแล้ว

เธอกับแม่ถูกพวกแกงค์ทวงหนี้โหดลากตัวไป ขณะที่น้องสาวต่างพ่อถูกปล่อยทิ้งให้นอนหายใจรวยรินอยู่บนถนนราวกับหมา

มันเป็นภาพที่เจ็บปวดหัวใจที่สุด..

นาทีนั้นเธอได้แต่วิงวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้มีใครยื่นมือเข้ามาช่วย หรือไม่ก็ขอให้หลุดพ้นจากเหตุการณ์เลวร้ายนี้ไปได้

เหมือนสวรรค์จะเมตตาเธอกับครอบครัวอยู่บ้างเพราะจู่ ๆ ก็มีรถหรูคันหนึ่งวิ่งฝ่าสายฝนมา เธอจึงไม่รอช้าวิ่งเข้าไปยื่นขวางหน้ารถแล้วขอความช่วยเหลือทำให้ได้พบกับสาริกา

เธอขอร้องอ้อนวอนคนแปลกหน้าอย่างสาริกาจนท่านยอมช่วยด้วยการจ่ายหนี้จำนวนหนึ่งล้านให้ แล้วยังช่วยพาน้องสาวเธอส่งโรงพยาบาล

ในวันที่น้องสาวเธอต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจด่วนก็เป็นสาริกาที่ยื่นมือเข้าช่วยเรื่องค่ารักษาอีกครั้ง แค่นั้นไม่พอท่านยังช่วยเหลือเรื่องที่พักอาศัยและหางานให้แม่เธอทำด้วย

เธอซาบซึ้งในบุญคุณของสาริกามากเทิดทูนให้เธอเป็นนางฟ้า และสัญากับตัวเองแน่วแน่ว่าจะต้องตอบแทนบุญคุณให้ได้ 

ซึ่งเธอไม่รู้เลยว่าทุกอย่างที่สาริกาทำล้วนมีผลประโยชน์แอบแฝงตั้งแต่ต้น

มารู้ก็สายไปเสียแล้ว..

สาริกาเอาเรื่องบุญคุณมาอ้างให้เธอทำในสิ่งที่ผิด พอปฏิเสธก็โดนท่านขู่ว่าจะส่งเธอกับครอบครัวกลับไปให้พวกเจ้าหนี้ 

ซึ่งแน่นอนว่าเธอยอมให้เป็นแบบนั้นไม่ได้จึงจำใจทำตามที่สาริกาต้องการ คือการสวมรอยเป็นคู่หมั้นในวัยเด็กของบุตรชายท่านที่กลับมาทวงคำสัญญา 

จุดประสงค์ก็เพื่อทำให้บุตรชายของท่านกับคนรักที่เป็นแม่หม้ายลูกติดเลิกกันเพราะท่านรับไม่ได้ที่บุตรชายเพียงคนเดียวเลือกผู้หญิงมีตำหนิ

"นั่งสิ" เสียงของสาริกาดังขึ้นอีกครั้งทำให้เมษาหลุดจากภวังค์ความคิด ก่อนจะเดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งบนโซฟา

สาริกาไล่สายตามองเด็กสาวตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า แล้วยกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจในความว่านอนสอนง่ายของเด็กสาวที่ยอมแต่งหน้า ทำผม แต่งตัว และทำตามคำสั่งของเธอทุกอย่าง

จากเด็กกะโปโลกลายเป็นสาวสวยสะพรั่ง เธอคิดไม่ผิดจริง ๆ ที่ยอมลงทุนช่วยไว้ในคืนนั้น

เธอไล่สายตามองเด็กสาวอยู่อย่างนั้นครู่ใหญ่ แล้วจึงเอ่ยต่อ

"อย่าลืมที่คุยกันไว้ล่ะ จำเอาไว้ว่าเธอชื่อลียาเป็นคู่หมั้นของลูกชายฉัน อีกสักพักลูกชายฉันกับแฟนคงจะมาแล้ว"

"ค่ะ" เมษาขานรับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทว่าสวนทางกลับหัวใจที่มันเต้นแรงจนเธอต้องประสานมือกันบนหน้าตักแน่นพยายามข่มความรู้สึกหลากหลายที่เริ่มประเดประดังเข้ามา 

ขณะเดียวกันก็ได้แต่ภาวนาขอให้ตัวเองทำงานนี้ได้สำเร็จภายในวันเดียวด้วยเถอะจะหลุดพ้นไปจากคนใจร้ายอย่างสาริกาสักที

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   The end

    “อ๊ะ!” เมษาหลับตาพริ้มเมื่อแก่นกายหนาค่อย ๆ สอดใส่ผ่านปากทางรัก ฝากฝังความเป็นชายของเขาเข้ามาถึงครึ่งลำอย่างรวดเร็วจากหยาดน้ำหวานเปียกชื้นที่ทำหน้าที่แทนสารหล่อลื่นลำกายหนาชำแรกผ่านม่านความเจ็บปวดที่ตอดรัดเขาอย่างบ้าคลั่ง เพียงไม่กี่วินาทีขนาดอันใหญ่โตก็ถูกโอบอุ้มด้วยความอบอุ่นจากร่างกายของหญิงสาวที่ตอนนี้ตัวสั่นเกร็งอย่างห้ามไม่อยู่“ฮึก..” เมษากัดริมฝีปาก ใบหน้าหวานเชิดขึ้นสูงเมื่อคนตัวโตทิ้งน้ำหนักลงจนร่างกายเบียดแนบกันไร้ช่องว่าง“เจ็บไหมคะ?” เจ้านายกระซิบถามเสียงต่ำขณะโน้มตัวลงจูบซับไปตามใบหน้าเรียว“เจ็บนิดหน่อยค่ะ..แต่ทนไหว” หญิงสาวตอบเสียงอ้อนอาจเป็นเพราะห่างหายมานาน และขนาดที่ใหญ่โตของชายหนุ่มเลยทำให้รู้สึกเจ็บน้อย ๆ ทว่าแม้จะเจ็บแต่เธอก็ไม่อยากให้เขาแยกจากเลยแม้แต่วินาทีเดียว สองมือเรียวจิกผ้าปูที่นอนระบายความเจ็บที่เคล้าระคนไปกับความเสียวซ่านจนแทบจะแยกไม่ออก เสียงลมหายใจหนัก ๆ ที่ข้างใบหูทำให้เลือดในกายของเธอสูบฉีด ในที่สุดเธอก็ปรับตัวได้ “พี่จะขยับแล้วนะ” เจ้านายกระซิบ สอดผสานฝ่ามือของเขาและเธอเข้าด้วยกัน กดลงที่เหนือศีรษะเล็กแล้วเริ่มขยับ ในจังหวะแรกเนิบนาบและมั่นคง

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 90 รักนะ

    @โรงแรมภายในห้องทรงสี่เหลี่ยมที่ถูกเปิดไฟดาวน์ไลท์หน้าห้องน้ำเอาไว้ ให้ความสว่างเพียงสลัว ๆ เท่านั้น กลิ่นอโรม่าลอยจาง ๆ ในอากาศทำให้บรรยากาศโรแมนติกไม่น้อย เดินมาถึงห้องนอนเมษาก็อดหัวใจเต้นแรงไม่ได้เมื่อเห็นบนเตียงนอนสีขาวที่โรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดงเป็นรูปหัวใจตรงกลางถูกโรยเป็นตัวอักษรคำว่า 'พี่นายรักน้องเมย์'ตรงปลายเตียงมีผ้าขนหนูที่ถูกทำเป็นรูปหงส์สองตัวหันหน้าเข้าหากันมันเหมือนเตียงสำหรับคู่บ่าวสาวชัด ๆ สมองพานก่อเกิดภาพแสนลามกขึ้นมา"ชอบไหมครับ" เธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกคนตัวโตสอดแขนเข้ามาโอบกอดเอวคอดจากด้านหลังพร้อมกับน้ำเสียงสุดเซ็กซี่ที่ดังชิดกกหูตามมาด้วยลมหายใจร้อนผะผ่าวทำขนกายเธอลุกซู่ ในท้องรู้สึกปั่นป่วนแปลก ๆ"ชอบค่ะ เหมือนเตียงในเรือนหอบ่าวสาวเลย" ใบหน้าเรียวที่เคลือบด้วยรอยยิ้มแสนหวานเอียงขึ้นมองสบสายตาร่างสูงด้านหลัง"งั้นเรามาเข้าหอกันไหมครับ" ได้ทีเจ้านายก็ชวนทำเรื่องอย่างว่าทั้งที่สัญญาดิบดีว่าแค่นอนกอดเฉย ๆ เอาจริง ๆ ที่พูดแบบนั้นเขาก็แค่หลอล่อคนตัวเล็กเขาของขาดมาตั้งไม่รู้กี่เดือนจะให้ทนไหวได้อย่างไรกัน แน่นอนว่าเมษาเองรู้ทันคนตัวโตอย่างที่รู้ ๆ กันดีทั้งเธอแล

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 89 คืนดี

    หลังจากคืนดีกันสิ่งแรกที่เจ้านายทำคือพาหญิงสาวไปเดท เขาเลือกร้านอาหารที่เป็นร้านโปรดของเธอ เขาอยากให้เธอประทับใจที่สุดกับการกลับมาเริ่มต้นใหม่เพราะที่ผ่านมาการเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาไม่ดีเท่าไรนัก ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าไม่ดีมาก ๆ..แต่นี่สินะที่คนโบร่ำโบราณกล่าวไว้ว่าเกลียดสิ่งไหนมักได้สิ่งนั้นวันนี้เขากล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่ารักผู้หญิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามสุดหัวใจ รักแบบไม่คิดว่าจะรักได้มากขนาดนี้"อย่ามองแบบนี้สิคะ เมย์เขินนะ" เมษาที่ถูกชายหนุ่มจ้องมองแทบจะกลืนกินถึงกับหน้าแดงระเรื่อออกอาการเขินจนเก็บไม่อยู่ บ่อยครั้งที่ถูกเขามองด้วยสายตาแบบนี้แต่อย่างที่บอกว่าเธอก็ไม่เคยต้านทานมันได้สักทียิ่งหลังจากกลับมาคืนดีกันเขาก็ใช้สายตาแบบนี้แทบทุกวันแทบทุกเวลาที่อยู่ด้วยกัน แค่นั้นไม่พอเขายังติดสกินชิพเธอชนิดที่ว่าเหมือนกาวตราช้างก็ไม่ปราน วันแรกที่ตกลงคืนดีกันเขาก็ไปแสดงตัวว่าเป็นแฟนเธอที่มหาวิทยาลัยโดยเฉพาะกับเพื่อนร่วมห้องที่แอบชอบเธอกะว่าจะไม่ให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้เธอเลยสิ แต่บอกตามตรงว่าแทนที่จะไม่พอใจเธอกับรู้สึกดีด้วยซ้ำที่เขาแสดงความหึงหวงออกมา และกล้าจะเป

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 88 ให้โอกาส

    วันต่อมา.."อรุณสวัสดิ์ครับน้องเมย์"เสียงทักทายดังขึ้นเหนือศีรษะทำเมษาที่กำลังลืมตาตื่นถึงกับตาเบิกโพลงอาการง่วงหายเป็นปลิดทิ้ง เธอดีดตัวลุกขี้นนั่งอัตโนมัติเมื่อเงยขึ้นเห็นคนตัวโตนั่งพิงหัวเตียง และกำลังจับจ้องมาที่เธอ สองคิ้วสวยขมวดมุ่นจำได้ว่าเมื่อคืนเธอนั่งทำรายงานจนดึกจึงเข้านอน โดยตอนที่เธอเข้านอนชายหนุ่มยังฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะ แต่ไหง่เช้านี้ตื่นมาเขาถึงอยู่บนเตียงได้ แล้วเขาขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร"คุณขึ้นมาบนเตียงตั้งแต่เมื่อไร" ไม่ปล่อยให้ตัวเองสงสัยเปล่งเสียงถามตรง ๆ "ราวตีสองได้แล้วครับ นอนตรงนั้นแล้วปวดเมื่อยไปทั้งตัวพี่เลยมานอนบนเตียง" เจ้านายเอ่ยเสียงอ่อนพลางส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้หญิงสาวด้วยกลัวว่าเธอจะโกรธ ที่เขาพูดไปไม่ใช่คำแก้ตัว แต่รู้สึกปวดหลังปวดขาจริง ๆ จึงมานอนที่เตียงกับเธออย่างถือวิสาสะใบหน้าแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากลัวเธอโกรธ ทว่าเมษากลับแอบอมยิ้ม ในสายตาเขาเธอดุมากเลยหรือถึงให้ออกอาการขนาดนี้ เจ้านายคนใจร้ายหายไปไหนเสียแล้ว เธออยากจะหัวเราะออกมา แต่ก็ต้องกลั้นเอาไว้"ฉันเข้าใจ คนแก่ก็แบบนี้แหละปวดหลังปวดนู่นปวดนี่ป็นธรรมดาจะไม่ถือโทษแล้วกัน" เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 87 ส่วนลึกในใจ

    "ซี๊ดด.."เจ้านายซูดปากออกมาเบา ๆ ในตอนที่กำลังหยัดกายลุกขึ้นยืน มือกอบกุมหน้าท้องแกร่งเอาไว้ ใบหน้าเหยเกคล้ายคนกำลังเจ็บปวด เมษาเห็นก็อดสงสัยไม่ได้ "คุณเป็นอะไร""พี่รู้สึกปวดท้องนิดหน่อยครับ"พอฟังคำตอบเธอก็เดาได้ทันทีว่าที่ชายหนุ่มปวดท้องน่าจะเพราะทานอาหารที่เธอทำมากเกินไป สิ่งที่แอบกังวลก็เป็นจริงถึงเธอจะตั้งใจแกล้ง แต่ก็ไม่ได้อยากให้เขาถึงขั้นเจ็บตัว"ไปหาหมอไหม" ถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ทว่าคนตัวโตกลับส่ายหน้าปฏิเสธพร้อมกับเดินกอบกุมท้องออกไปยังห้องโถงเดินมาหย่อนก้นนั่งที่โซฟาโดยมีเมษาเดินตามมาติด ๆ ด้วยรู้สึกเป็นห่วงต่อให้เขาบอกว่าปวดท้องนิดหน่อยก็ตาม"แน่ใจจริง ๆ นะว่าจะไม่ไปหาหมอ" เดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งข้าง ๆ แล้วถามย้ำอีกครั้ง "ฉันว่าไปหาหมอดีกว่า"ใบหน้าเรียวและดวงตากลมแสดงออกถึงความเป็นห่วงเป็นใยอย่างปิดไม่มิดเจ้านายเห็นก็แอบหัวใจพองโตถือว่าที่เขาทนทานอาหารรสชาติแย่จนเกลี้ยงไม่เสียเปล่าอย่างน้อยก็ทำให้เห็นว่าหญิงสาวยังมีความรู้สึกต่อเขาไม่มากก็น้อยไม่อย่างนั้นคงไม่มีท่าทีเป็นห่วงแบบนี้"แน่ใจครับ ไม่ได้เจ็บมากเดี๋ยวก็คงหายไปเอง" เขาระบายยิ้มออกมาบาง ๆ สายตาจ้องมองใ

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 86 ค่าดอกไม้2

    เจ้านายเดินไปหย่อนก้นนั่งที่โซฟาในห้องโถง ขณะที่เมษาเดินขึ้นไปยังห้องนอนเพื่อเอาของไว้ แล้วลงมายังชั้นล่างอีกครั้ง"ฉันจะไปทำกับข้าว คุณนั่งรอก่อน" บอกกล่าวกับร่างสูงที่นั่งบนโซฟาแล้วเดินเข้าไปในครัว แต่เมื่อมาถึงเธอกลับบอกให้แม่บ้านทำเมนูต่างให้ สวนปรุงรสเธอจะเป็นคนปรุงเองสั่งเสร็จก็นั่งบนเก้าอี้แถวนั้นรอแม่บ้านทำอาหาร แม่บ้านห้าคนเร่งทำเมนูอาหารที่หญิงสาวสั่งพัลวัน ใช้เวลาราวยี่สิบนาทีก็เสร็จเหลือเพียงให้คนเป็นเจ้านายมาปรุงรส"มาปรุงรสได้เลยค่ะคุณหนู" แม่บ้านคนหนึ่งบอกกล่าว เมษาจึงลุกเดินไปยื่นหน้าเตาที่วางเรียงกันสี่อัน ก่อนจะยื่นมือไปหยิบขวดน้ำส้มสายชูมาบีบใส่ผัดผักรวมในกระทะ ตามด้วยหม้อแกงอีกสามหม้อ จากนั้นก็หยิบขวดเกลือมาเปิดฝาเหยาะใส่ต่อสร้างความงุนงงให้เหล่าแม่บ้านที่ยืนมองอยู่ด้านหลังไม่น้อย ต่างพากันมองหน้าไปมาเพราะจะทักท้วงก็ไม่กล้าเมษยกยิ้มร้ายมุมปากพลางไล่สายตามองกับข้าวบนเตา เธอใช้แค่น้ำส้มสายชูกับเกลือปรุงรสด้วยนึกหมั่นไส้คนตัวโตจึงอยากแกล้งเขา ดูสิยังจะบอกว่าได้ทานข้าวกับคนที่รักอร่อยอยู่ไหม"เสร็จแล้วจัดโต๊ะได้เลยนะคะ แล้วก็ทอดไข่เจียวให้เมย์สักสองฟองด้วยนะคะ" เธอ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status