หน้าหลัก / โรแมนติก / แฟนเพื่อน / บทที่ 2 [ กำเนิดตัวจุดประกายความคาว ]

แชร์

บทที่ 2 [ กำเนิดตัวจุดประกายความคาว ]

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-30 16:11:28

             สรุป..มีที่ลงคือร้านก๊วยเตี๋ยว พรีมปรับอารมณ์ไม่ทันกับขิมเลยจริงๆ ที่ตอนนี้ซัดเอาๆ มากกว่าหนึ่งถ้วยเข้าไปแล้ว

              " เดี๋ยว..คืออะไร ไหนบอกจะประหยัด "

              นั้นเลยทำให้เธอเผลอไปฉวยมือที่ถือตะเกียบอยู่ของขิมไว้อย่างช่วยไม่ได้ เพราะมันคาใจ

          " อาใยเย่า! อินๆ ไอเออะ!"

             " โอโห..คุณเพื่อน มีความเป็นกุลสตรีบ้างไหมนี่ "

               คิดจะหาเรื่อง แต่กลับต้องมาอมยิ้มแทน พลางถาม ก่อนคนถูกถามจะกลืนคำเบอเร่อลงคอ.

              " อึก! บ่นไร..ฉันบอกให้กินๆไปเถอะ หายากนะโอกาสที่ฉันจะกินเยอะแบบนี้.."

            แล้วกินต่อ..

             " เดี๋ยว.." แต่เหมือนพรีมจะไม่ยอม เธอยื้อเอาไว้อีกรอบ พร้อมยักคิ้วตัดสินใจถาม " เรื่องไอ้แบงค์ใช่ปะ "

             " อะไร! "

            ทำขิมชะงักกลางคัน และเริ่มหน้าเหวอ

             " แกอกหักจากมันเลยมาเรียนที่นี่ใช่ปะ "

             เงียบไปในที่สุด ลดมือลงมากวนเส้นในชามเล่น พลางก้มหน้า..

              " อย่าเผือก.."

              " ไม่เอาน่าขิม ฉันเพื่อนแกน่ะเว้ย บอกฉันได้ทุกเรื่อง ทำไมจะไม่รู้ "

            " เปล่า.."

               ทั้งๆที่พรีมเริ่มจะซีเรียส ต่างจากขิมที่ยังคงเหมือนเดิม ใจเธอแข็งพอๆกับหิน ถ้าอะไรก็ตามที่ทำให้เธอกลายเป็นคนแพ้ล่ะก็ เธอจะกลบเกลื่อนตัวเองโดยการทำแบบนี้ทันที ...หนีปัญหา และ ไม่ยอมรับความจริง...

            " ขิม.. แกไม่จำเป็นต้องหนีใจตัวเองมาอยู่ไกลขนาดนี้ก็ได้.."

                "..."

             " แกจะไหวไหม แกเป็นคนติดบ้าน.."

              ที่สำคัญ เธอเป็นคนใจร้อน อย่างเช่นประโยคสุดท้ายที่พรีมถามนี้ เธอถึงขั้นทุ่มช้อนลงกับชามจนน้ำกระเซ็น

              ปัก!

              " แล้วจะให้ทำไงวะพรีม.. มันไปเอากับคนอื่นอะ!"

           ก่อนจะเอามือปิดหน้า การกระทำตรงนี้มันไม่ได้ทำให้พรีมตกใจเลย คำพูดของคนตรงข้ามต่างที่ทำเธออึ้ง

             " ขิม..."

              "..."

              " จริงเหรอวะ..."

              แต่แล้วในขณะที่เธอกำลังจะอ้าปากพูดต่อ กลับต้องมาชะงักเพราะเสียงนี้ พร้อมบุคคลใหม่เข้ามาเยือน

             " สวัสดีค่ะน้องๆ สนใจจะไปทำงานกับพี่ป่าว..."

             " เอ่อ.."

              อยู่ๆ เสียงนี้ก็แทรกเข้ามา ขัดคนกำลังดราม่าพร้อมกับนามบัตร อีเจ๊เพศที่สามยิ้มกว้างจนเผยฟันทุกซี่ เหมือนไม่ทุกข์ร้อนอะไร ท่ามกลางความงงของพรีมและขิม ที่ตอนนี้ค้างไปแล้ว

           " คะ?"

            ขมวดคิ้วพร้อมกันเป็นปม รอให้อีเจ๊มันอธิบาย

            " คืองี้นะคะน้อง..." ตั้งท่ามาดมั่นอย่างกับตัวเองคือนางแบบ "พี่น่ะเป็นแมวมองพริ๊ตตี้ นางบงนางแบบอะไรทำนองเนี้ย แล้วก็เห็นพวกน้องมาแต่ไกลโน้น.... "

                 จีบปากจีบคอพูดสลับกับการทำท่าทำทางกระแดะ ชี้ไปฝั่งที่พวกเธอเดินมาในตอนแรก

                 " แล้วยังไงคะ?"

                ก่อนขิมจะเป็นฝ่ายแทรก เลิกคิ้วเชิงกวน จนอีเจ้แกเก็บความกระแดะกลับไป เปลี่ยนเป็นมาพูดจริงจังแทน

                 " ก็ไม่ยังไงหรอกค่ะ พี่เห็นพวกน้องน่ะใสๆ เลยอยากจะชวนไปทำงานด้วย สนใจปะ รายได้ดีนะ "

                   " งานที่ว่าน่ะงานอะไร "

                   ขิมถามต่อ มองอีเจ้ตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความไม่ไว้ใจ ก่อนอีเจ้แกจะถือวิสาสะไปยกเก้าอี้มานั่งคุย

                " คืองี้นะ.."

                  " ขายตัวเหรอ"

                " ขิม.."

              ในขณะที่พรีมพยายามจับแขนปรามให้ขิมใจเย็นลง

              " ไม่น่าไว้ใจนะแก..."

               " เอาน่าแก..ฟังเขาหน่อย"

              " ใช่เลยนังหนู ฟังพี่แปปนึงก็ดีนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรหรอก"

               ทำเอาอีเจ้ได้ใจ เสี้ยมให้พรีมเห็นด้วย และเหมือนจะได้ผล

             " ค่ะ งานอะไรเหรอคะ พอดีพรีมกับเพื่อนกำลังหางานอยู่พอดีเลย "

               " จริงเหรอ..." อีเจ้ลิงโลดมีโอกาสกระแดะขึ้นมาอีกครั้งหลังจากได้ยินคำนี้

               " ดีจัง.. ว่าแต่อายุเท่าไหร่ล่ะ "

               ก่อนจะมาหุบปากทันทีก็ตอนที่ขิมแทรกเข้ามาใหม่

             " ทำไมต้องรู้.."

            " ขิม.." ทว่า เหมือนเดิม เธอโดนพรีมปราม " แกเงียบๆได้มั้ย ถ้าแกไม่โอเคกับเขา เดี๋ยวฉันคุยเองก็ได้ เผื่อมันจะเป็นงานดีนะแก "

             กระซิบกระซาบกันต่อหน้า จนอีเจ๊แกเริ่มไปไม่ถูก

            " จะไว้ใจได้เหรอพรีม.."

             " เอาน่า..ไม่ลองไม่รู้ นี่อาจเป็นโชคของเราก็ได้นะ "

               พรีมกล่อม จนกระทั่งขิมเงียบไป ยอมนั่งนิ่งๆ แต่โดยดี

            " อือๆ"

               " เค.."

               ก่อนพรีมจะหันกลับมาหาอีเจ๊คนเดิมอีกครั้ง แล้วยิ้มแห้ง

              " แฮ่.. อย่าถือสาเพื่อนพรีมเลยนะคะ มาค่ะคุยต่อ งานที่พี่ว่าเงินเยอะจริงเหรอคะ"

             " จริงสิ..อย่างน้องนี่ครั้งนึงมากสุด ห้าหมื่นยังได้เลยนะ "

               " โห!! "

             มาถึงคำอุทานนี้ กับตาลุกวาวตกใจของขิม ได้ทีอีเจ้แกโม้ใหญ่

               "ไม่เหนื่อย ไม่เหงื่อ ไม่ปลวก งานสบายๆไม่ต้องขายตัวแบบใครบางคนว่าด้วย "

              ประโยคหลังขิมหันมาทลึงตาใส่ ทำเอาอีเจ้หลบตาแทบไม่ทัน แต่ก็ยังไม่วายจะโม้ต่อ

              " ว่าแต่เรียนอยู่ใช่ไหม "

             " ใช่ค่ะ กำลังจะเข้าปีหนึ่ง "

             " หืม...มาจากต่างจังหวัดเหรอ "

             " ใช่...โอ๊ย!"

                  แต่แล้วพรีมก็ถูกขิมกระทุ้งศอกเอาจนได้

                หลังจากที่เธอเผลอหลุดปากพูดออกไป

                " ดีเลยสิ ปีหนึ่งกำลังได้ประสบการณ์ ลองดูมั้ย เป็นฟรีแลนซ์ก็ได้นะ ..ออกงานครั้งหนึ่ง ไม่ต่ำกว่า ห้าพัน"

            " โห.."

               "..."

             " แต่ว่า.."

               ประโยคหลังพรีมเปรยตาไปหาขิม อีเจ้เห็นอย่างนั้นเลยดึงกระดาษแข็งออกมาจากกระเป๋าทันที

             ..มันเป็นไม้ตาย...

             " แต่ถ้าตัดสินใจทันทีไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ กลับไปคิดกันก่อนได้ ถ้าจะทำยังไงก็ค่อยโทรหา นี่ค่ะ...นามบัตรพี่"

                ในขณะที่พรีมรับมาอย่างเลี่ยงไม่ได้

               " โอเค..งั้นพี่ไปก่อนนะ อย่าลืมเก็บไปคิดล่ะ งานนี้น่ะ จ่ายค่าเทอมน้องสองคนได้สบายๆเลย แล้วพี่จะรอสายนะคะ.." " ค่ะพี่..ขอบคุณค่ะ.."

             ทิ้งท้ายไว้แค่นั้น อีเจ้แกก็เดินสั่นตูดออกไป ปล่อยขิมนั่งหน้าบึ้งอยู่ข้างๆ ก่อนจะหันมามองนามบัตรในมือพรีม แล้วหย่อนจมูก

            " ชี่..."

               ปัก!

            " ฮ้า....!! กว่าจะถึงขาแทบลาก "

               เสียงอู้อี้ของพรีมดังขึ้นหลังจากมาถึงที่พัก เธอทุ่มตัวลงกับเบาะที่นอน ก่อนจะหันมายิ้มกับขิม

               " อะไร.."

               " ฉันว่างานพี่เขาน่าสนใจดีนะ "

                " แกจะทำจริงๆน่ะเหรอ งานที่อื่นมีตั้งเยอะ เราเลือกได้"

             " โอ่ว..แกก็เห็น ไอ้ที่เราไปหาเมื่อกี้ เขารับแต่พนักงานประจำ แล้วเดี๋ยวเราก็ต้องเรียน"

              " ก็แค่โซนนี้ ที่เราเดินเท้าได้หรอก ยังไม่ลองไปไกลกว่านี้เลย "

             " แกไปคนเดียวเหอะ ฉันไม่เอาด้วยหรอก นั่งวินไม่เป็น โหนรถเมล์ไม่เก่งอย่างใครเขา  แหยะ ไม่เอาๆ"

               พรีมบ่นอุบพลางโบกไม้โบกมือเป็นท่าประกอบ ก่อนมาหยุดเพราะประโยคนี้ ที่ขิมหรี่ตาขวับไปมองพรีมแบบไม่ค่อยจะพอใจ พลางขมุบขมิบปากใส่ไม่มีสียง

              " กระ-แดะ "

               " ห๊ะ!!"

                ทว่า พรีมกลับรู้ ถึงขนาดเด้งตัวขึ้นมา ทำท่าจะแทรก แต่กลับถูกขิมขัดขึ้นมาซะก่อน

                " ฉันจะรอจนกว่ามหาลัยเปิด ให้รู้ก่อนว่าในนั้นเป็นไงบ้าง จะได้รู้ช่วงเวลาไปทำงานได้ แต่เชื่อเหอะ..คนอย่างอีขิมน่ะ ไม่ทำแน่นอนงานครั้งละห้าพัน! อะไรจะได้เงินไวขนาดนั้น ทำไร.? ขายยาเหรอ!"

             พลางเดินหนีไป ปล่อยให้พรีมนั่งอ้าปากเหวอ

             " โหย...ขิม! ปากคอแกนะ ช่างเราะร้ายยย"

            แถมหันกลับมายักไหล่ยียวนให้ทีนึงด้วย

             ปลีกตัวมาอยู่ในห้องน้ำ มานั่งลงตรงชักโครก แล้วกดโทรหาแม่

               (ฮัลโหล..)

               " แม่คะ..."

               (ถึงแล้วหรือลูก)

                " แล้วค่ะ .."

                 ( ที่พักเป็นไง น่าอยู่ดีไหม )

                ก่อนขิมจะมาสะดุดกับคำถามนี้ ที่ทำให้เธอต้องมองไปรอบๆ เหลือบตามองเพดานกลั้นน้ำตาไว้

             " อึก..ดีค่ะแม่ น่าอยู่ดี"

             แสร้งบอกฝั่งตรงข้าง พร้อมหลับตาลง กัดปากไว้

            ( ดีแล้ว ขิมอยู่นั่นก็ดูแลตัวเองด้วยนะลูก แม่เป็นห่วง)

             " ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ขิมไม่ได้อยู่คนเดียวสักหน่อย พรีมก็มา "

             ( แต่ก็ผู้หญิงทั้งคู่ถูกไหม? เราสองคนเคยเข้ากรุงเทพซะที่ไหนกันล่ะ )

              " ...."

             ( ดูแลกันดีๆล่ะกัน มีอะไรก็โทรหาแม่ โทรหาบ่อยๆนะ )

          "..คะ...ค่ะ"

            ( งั้นพักผ่อนเถอะลูก )

           " เอ้อ..แม่ "

                (จ๊ะ)

               " แล้วพี่ขอนล่ะ..ไม่อยู่เหรอ "

               ( อ่อ..รายนั้น ป่านนี้ยังไม่เข้าบ้านเลย ประจำล่ะ เที่ยวเตร่ตามประสา)

                " แล้วทิ้งแม่ไว้คนเดียวเนี่ยนะ!"

              ( ฮ่าๆๆ แล้วทำไมล่ะ แม่ไม่ได้แก่ขนาดอยู่ลำพังไม่ได้สักหน่อย นี่น่ะมันบ้านแม่ มีแต่คนรู้จักกันทั้งนั้น เราน่ะ..ดูแลตัวเราเถอะ ไม่ต้องห่วงแม่ )

              มาถึงตรงนี้ ทำขิมหน้าหงอยขึ้นมาทันที เมื่อเธอนึกภาพตามคำที่แม่เธอบอก ภาพความสุขในครอบครัวที่ผ่านมา บรรยากาศของเด็กบ้านนอกที่หายไป มาถึงตอนนี้ ในที่มีแต่ผู้คนแปลกหน้าหน้า ..มันทำเธอเหงา

          " ค่ะแม่..."

           ( งั้นแค่นี้นะจ๊ะ..แม่จะนอนแล้วล่ะ)

              " คิดถึงแม่นะคะ "

                ก่อนจะวางสายไป แล้วปิดหน้าร้องไห้ ..

                 จะนานหน่อยแหละ กว่าขิมเธอจะชินกับที่ใหม่

                 คงจะนานหน่อยล่ะ กว่าเธอจะลืมภาพๆนึงไปได้

                  ...ภาพต้นเหตุที่ทำเธอมาอยู่ที่นี่...

                ' แบงค์รักขิมนะ..สัญญาได้ไหมว่าจะไม่ทิ้งกัน..'

                "ฮึกๆ..โฮๆ.."

                ติ้ด ติ้ด ...

                 " อืม..ขิม แกตั้งนาฬิกาปลุกเหรอ.."

                 " อืม.."

                   หลังเสียงอู้อี้ของคนถูกถามรับคำ พร้อมมือพรีมเอื้อมไปหยิบมาดู

                   " หกโมงเนี่ยนะ!!!"

                  " ..."

                " ตื่นทำไมว้า.."

                 ในขณะที่ขิมพยายามยกหัวตัวเองขึ้น ลากร่างลุกจากที่นอน แต่พรีมกลับเอาหัวแหย่เข้าไปในปลอกหมอน

                " ไปเช้าๆสิดี มีเวลาเยอะ "

              " ไปไหน??"

               ถามเสียงอู้อี้อยู่ในนั้น

               " ไปหางานทำน่ะสิถามได้ "

               " ห่ะ!"

                 ก่อนจะแหย่หัวเข้าไปมากกว่าเดิม ก็ตอนขิมพูดประโยคนี้

                " แล้วแกก็ต้องไปกับฉัน "

                 " ไม่!"

               ที่ทำให้ขิมถึงกับชะงัก หน้าบึ้ง

               " เอ้า! ไม่ไปแล้วเมื่อไหร่จะมีงานทำ "

                เริ่มโวยวายออกมาเสียงดัง

                " มันเช้าไปอ่า..ฉันตื่นไม่ไหวหรอก "

                 ทว่าพรีมกลับไม่สนใจฟัง พยายามเบี่ยงตัวหนี

              " แกก็ฝึกให้มันชินๆซะสิ ต่อไปถ้าได้งานขึ้นมา รึเวลามีเรียน จะได้ตื่นได้"

              ขิมแนะนำ แต่เหมือนพรีมเธอจะคิดต่าง

              " ใครบอกว่าฉันจะทำงานเช้า "

              " หมายความว่าไง "

                " ฉันจะทำงานกับพี่คนนั้นแหละ งานช่วงสาย งานกลางคืน มันสะดวกดี "

               " ห๊ะ.." ที่ทำเอาขิมอึ้งไปเลย มองคนที่นอนอยู่ด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ " เพื่อไรวะ.."

              " อะไร "

               " แกก็รู้งานแบบนั้นมันเสี่ยง "

              " เสี่ยงตรงไหน"

             " พริตตี้อะไรนั่นอะ"

              " ก็แค่พริตตี้นะขิม ฉันไม่ได้ไปขายตัว "

               " ต่างกันตรงไหน "

               " ขิม แกจะอคติเกินไปแล้วนะ "

               " ก็ฉันได้ยินมาอย่างนั้นนี่"

                " พริตตี้ดีๆ ทำงานเอาความสามารถแลกเงิน ก็มีถมเถไป ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวเสมอไปมั้ง "

                 คือ..พอขิมพูดคำไหน พรีมเธอก็จะเถียงออกมาทุกครั้ง ต่อปากต่อคำไม่เลิก จนขิมรู้สึกรำคาญ คนอะไรไม่มีความคิด เธอคิดแบบนี้ ไม่สนใจแล้วว่าพรีมจะใช้ชีวิตยังไง ทางใครทางมันก็แล้วกัน ...แค่ลำพังในตอนนี้ ความรู้สึกเธอมันก็แย่พอแล้ว...

                " เฮ้อ..งั้นก็แล้วแต่แกล่ะกัน ฉันไปละ"

                " โอเค..ไว้เจอกัน "

                  ส่ายหน้าเอือมระอา ก็ตอนที่พรีมชูมือขึ้นมาบ๊ายบ่าย ทั้งที่หน้าเธอยังยัดอยู่ให้กองผ้า  ก่อนจะเดินคอตกมาอาบน้ำ แล้วออกมาผจญภัยเพียงลำพัง

                ปิ๊น..ปี้นนนน

                และเหมือนจะจริงอย่างที่คิดด้วย นี่ขนาดเธอมาเช้านะเนี่ย ความวุ่นวายยังมีเลย อุตส่าห์วางแผนไว้ดิบดี ว่าจะฝึกนั่งรถเมล์ฟรีไปรอบเมืองซะหน่อย สรุปมาตื่นคนซะนี่! เลยหนีไม่พ้นรถแท็กซี่จนได้

              " ไปไหนน้อง"

              " เอ่อ..ไปสุขุมวิทค่ะ "

                " ขึ้นมาเลย "

                เพราะแค่เสียงคนขับถาม เธอยังสะดุ้งเลย ...คงต้องฝึกความเกร่งให้มากกว่านี้... ทำเธอจะมีความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัว

              ...สุขุมวิท...

            นั่งซ้อมใบ้จนกระทั่งถึง

           " นี่ค่ะพี่ "

            ยื่นเงินให้คนขับ แล้วกระโดดขึ้นฟุตบาท คราวนี้มีร้องเท้าผ้าใบเป็นยานพาหนะแล้วนะ ขิมกำชับสายสะพายเป้ตัวเองแน่น สูดหายใจเข้าปอดจนล้น ก่อนจะเดินไปตามทาง รุดหน้าตามหาแหล่งงานจากรายชื่อที่เขียนไว้ วางแผนไปให้ครบทุกที่ หมดในแผ่นกระดาษนี่ คงจะทันรถเมล์เที่ยวสุดท้ายพอดี  แต่ทว่า..เรื่องไม่คาดคิดกลับมาเกิดขึ้นกับเธอจนได้

            ปี๊นนนนนน!

           " ว้าย!!!"

            ตุบ!

            เพราะในขณะที่เธอกำลังจะข้ามถนนตรงทางโค้ง มีรถคันนึงวิ่งตรงเข้ามาเฉี่ยวเธอ!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • แฟนเพื่อน   ตอนพิเศษ

    วันแห่งความสุข เข้าสู่ประตูวิวาห์ช่วงเวลาเหมาะเจาะ ดั่งใจของคนตั้งและวางไว้ งานแต่งระหว่างคนทั้งคู่ ซึ่งอายุจะห่างกันเท่าไหร่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ถูกจัดขึ้นในโบสถ์แบบฉบับของคริสเตียน ปัทมาในชุดเจ้าสาวขาวผ่อง ชายกระโปรงผ้าแก้วแฝงกำมะหยี่แวววับเม็ดเล็กๆ ถูกปล่อยลากพื้นยาวเป็นวา และอีกผืนนึงเอามาปิดเครื่องหน้าไว้เล็กน้อย ทำเจ้าสาวรายนี้ช่างหน้าค้นหายิ่งนัก เดินอวดร่างบางมาพร้อมกับวงแขนให้ยืมควงอย่างยศกร พ่อผู้ให้กำเนิดอาสาเดินมาส่ง ท่ามกลางพรมแดง และพยานผองเพื่อนมากกว่าร้อยคน....ทุกคนยิ้ม เธอเองก็ยิ้ม..." ตื่นเต้นจังค่ะพ่อ ..."เสียงหวานใส ทว่า เบาหวิว กระซิบกระซาบ ระหว่างทางเดิน ยศกรเลิกคิ้วให้ลูกสาว พร้อมรอยยิ้มแค่มุมปาก พยายามอย่างมากที่จะไม่ให้น้ำตาหยดแห่งความรู้สึกหน่วงๆ ซึ่งไข่ในหินถูกขโมยไปหยดนี้ไหลลงมา เมื่อรู้ว่าอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า เขาจะต้องยกลูกสาวให้กับผู้ชายคนอื่นไปครอบครองแล้ว" ใจเย็นๆลูกรัก.. มันคือเรื่องธรรมชาติมากสำหรับผู้หญิง "" แต่มันตื่นเต้นจริงๆนี่คะ ฟังเสียงหัวใจหนูสิ มันแทบจะระเบิด "" อื้ม...พ่อรู้ลูกพ่อรู้ เก็บความตื่นเต้นตรงนั้น ไว้ใช้ในยามเบ่งหลานของพ่อจะ

  • แฟนเพื่อน   บทที่ 34 [ อวสาน ]

    ค่ำคืนที่ขิมเหนื่อยมาก แต่คงไม่เท่ากับสาวใช้ในบ้านจรัญทิพย์ หลังเก็บแก้วเปล่ากับจานชามที่เขากินกันไม่หยุดไม่หย่อนไปเก็บหลายรอบ นับตั้งแต่เช้าจวบค่ำขิมเพิ่งจะได้พัก ใช้เวลาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้านานพอสมควรจนกระทั่งดึก คืนนี้เธอคงจะค้างที่คฤหาสน์หลังใหญ่นี้ เนื่องจากว่าที่เจ้าบ่าวขอเมาไปส่งเธอไม่ได้ และจะไม่ให้ไปเองด้วย เพื่อนฝูงที่ไม่รู้มาจากทางไหนไหลกันเข้ามาจนงานไม่มีกร่อยทั้งๆที่เคลยืนยันหนักแน่นว่าไม่ได้เชิญจริงจัง เพียงแค่บอกต่อๆกันไปเท่านั้น ไม่คิดว่ามันจะเยอะขนาดนี้ ขิมเลยขอตัวตั้งแต่ตอนนั้นเพราะไม่อยากจะไปยืนเก้ๆกังๆ เป็นผู้หญิงคนเดียว“ เฮ้อ..”ก็อกๆๆ“ เข้ามาได้เลยจ๊ะ “เสียงใสตะโกนออกไปทางประตู ยืนรอคอยจนกระทั่งมันเปิด“ คุณขิมคะ การ์ดอวยพรและของขวัญจากแขก พี่เจิมเก็บมาให้หมดแล้วนะคะ วางอยู่ในห้องคุณเคลค่ะ ““ ค่ะ ขอบคุณนะคะ “เธอสาวเท้าเดินตามหลัง ไม่รอช้าด้วยความตื่นเต้น“ โห้ เยอะไปหมดเลย จากใครบ้างคะเนี่ย “ห่อปากตาเป็นประกายด้วยความตื้นตันเมื่อมาถึง พลิกไปพลิกมามองดูชื่อ เธอไม่เคยรู้สึกดีใจอะไรอย่างนี้มาก่อน“ หืม มีแต่ของพี่เคลทั้งนั้นเลยค่ะพี่เจิม “หันไปยิ้มกว้างกับสาว

  • แฟนเพื่อน   บทที่ 33 [ คำสำนึกผิดของพรีม ]

    กิจกรรมรับน้องบรรยากาศคึกครื้นสนุกสนานถูกจัดขึ้นด้วยรุ่นพี่มากฝีมือ ให้เข้ากับน้องๆวัยใสที่เพิ่งย่างก้าวผ่านมัธยมมาไม่กี่เดือน เครื่องหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยสีผสมอาหารชนิดล้างสามวันแทบจะไม่ออก หนึ่งในนั้นก็คงจะหนีไม่พ้นขิม ด้วยสภาพดูไม่จืด อาจจะเพ่งไม่ออกเลยด้วยซ้ำ หากไม่รู้จักมักจี่กันมาก่อนอย่างเช่นพรีม ที่ตอนนี้เธอยืนมองอยู่ไกลๆ รอจังหวะคนน้อยและความพร้อม คำขอโทษมันจะหลุดมาจากปากเธอตอนไหนนั้น ไม่มีใครรู้ ทว่า รับปากกับรัลโด้แล้ววันนี้เธอต้องทำ ไม่ใช่เพื่อกระเป๋าใบหรูราคาแสนแพง แต่เพื่อตัวเธอเองต่างหาก ที่แท้จริงก็ไม่อยากเป็นนักหรอกไอ้ศัตรูกับเพื่อนสมัยอนุบาล ความผูกพันธ์มันล้นเหลือมากกว่านั้นและที่สำคัญพ่อแม่ของทั้งคู่ต่างสนิทชิดเชื้อกันไม่ต่างกับญาติเพราะบ้านใกล้เรือนเคียง หนักใจแทนผู้ปกครองแน่นอน ถ้าพรีมยังคงทำตัวมีปัญหา นึกไปถึงรัลโด้ที่เคยขู่กันไว้ ตั้งแต่ต้นว่าจะทำให้เธอสิ้นอนาคตจนพ่อแม่อับอายแน่นอนถ้าหล่อนร้ายไม่เลิก ในเมื่อเลี้ยงไม่เชื่องสอนไม่จำ แถมนิสัยไม่เปลี่ยน ใครเล่าจะมายอมทน อย่างรัลโด้ยิ่งเสียเวลาเข้าไปใหญ่ การหักดิบเหล่านี้คงต้องเกิดขึ้นเข้าสักวันแน่ ขืนเธอคิดไม

  • แฟนเพื่อน   บทที่ 32 [ สเต็ก??? ทำไมต้องกินในโรงแรม ]

    ผ่านไปแล้วเรื่องดราม่า สิ่งที่ปัทมาหรือว่าขิม หญิงสาวจากชลบุรีที่บึ่งขึ้นมาเรียนกรุงเทพ เพราะเหตุผลน้ำเน่าแค่ว่า...หนีคนรัก.... วันนี้ถูกจับติด ติดกับด้วยมารดาของเธอเอง ที่มีความฉลาดไม่แพ้กัน สั่งขิมห่างกับเคลสักระยะหนึ่ง เพื่อดัดนิสัยผู้ชายใจรวนเรปากหนัก เพียงแค่สามวันเท่านั้น แต่เชื่อไหม เคลแทบจะกัดลิ้นตัวเองตาย“สามวันที่ห่างก็คือห่างจริงๆสิน่า ขิมไม่รับโทรศัพท์พี่เลย “หน้าเศร้าหงอยปนสลดเกาะกระจกรถ หลังจากเปิดประตูให้หญิงสาวขึ้นมานั่ง“ ขิมเรียนหนัก พี่เคลก็รู้นี่คะ มีกิจกรรมรับน้องด้วย ““ ห้านาทีก็ไม่มีให้กันเลยเหรอ ““ แน่ะ อย่ามางอแงนะ ก็เราตกลงกันก่อนแล้ว สามวันพี่มารับ ก็นี่ไงคะสามวันแล้ว ไปค่ะ ไปกันได้หรือยัง ขิมอยากให้ปากคำจะแย่ละ ““ ทีอย่างนี้รีบนักนะ ““ อะอ้าววว ช่วยไม่ได้ ก็เพราะแฟนเก่าพี่ไม่ใช่รึไง ที่ทำเราสองคนต้องห่างกันอย่างนี้น่ะ พี่ต้องมีความแค้นฝังลึกบ้างนะ”เหลือบตามองร่างสูง ขณะเขาจ้องลงมาขมวดคิ้ว แค่ขิมเพ่งลึกเข้าไปนัยม่านตาก็อ่านใจได้แล้วล่ะ เลยชิงพูด“ ขิมไม่ยอมโทษตัวเองหรอก ที่ขิมวิ่งออกมา เพราะพี่นั่นแหละ ทำท่าเหมือนอาลัยอาวรณ์แฟนเก่าก่อนเอง ชิ “ทำเคลหล

  • แฟนเพื่อน   บทที่ 31 [ คุณแม่ขอร้อง ]

    บรรยากาศชักจะทะแม่ง เมื่อทุกคนพากันมานั่งมองหน้า ไม่มีใครเริ่มเปิดประเด็น อึดอัดมายังขิมตอนนี้ที่นั่งเอามือจิกกันจนเจ็บ ก้มหน้างุนไม่กล้าเผชิญหน้ากับใคร เธอยังไม่รู้ว่าคดีเอเดลตกบันไดนั้นได้คลี่คลายไปแล้ว ทว่า ยังคิดว่าตัวเองคือคนผิด ส่วนเรื่องหล่อนขโมยเพชรเก้ๆกังๆพร่ำจะบอก แต่ดูเหมือนจังหวะตรงนั้นยังไม่มาหาเธอสักที“เอ่อ...”ลำบากมายังคุณนายนภา ผู้กล้าแสดงออก หล่อนเห็นว่าทุกอย่างเริ่มตึงเครียด ขี้คล้านจะอยู่ตรงนี้นาน อีกทั้งต้องมาสบตากับสามีเก่าอยู่บ่อยๆ เลยต้องเป็นฝ่ายจำใจพูด แต่ทว่า กลับถูกทางฝั่งฝ่ายชาย แย่งชิงซะก่อน คุณนายอารีย์ไม่อยากถูกมองว่าหล่อนนั้นหยิ่ง เป็นเจ้าบ้านแต่กลับนั่งเงียบ ทั้งๆที่หล่อนนี้ ไม่เคยเจอะเจอเรื่องแบบนี้ ที่เป็นฝ่ายผิดแล้วต้องมารับผิดชอบใคร เลยไม่ค่อยคุ้นชิน กับคำว่าขอโทษ“ ดิฉันต้องขอโทษทุกๆเรื่อง แทนลูกชายด้วยนะคะ ที่ทำไม่ดีต่อหนูขิม ทั้งเรื่องพาเข้ามาอยู่ที่นี่ ซึ่งดูเหมือนไม่ให้เกียรติ และการคบหาดูใจกัน ดิฉันเองก็เพิ่งจะมาทราบเรื่องนี้ ก็ไม่กี่วันที่ผ่านมาเองค่ะ “สบตากันระหว่างผู้เป็นแม่ ในขณะทุกคนเอาแต่นั่งเงียบ เนื่องจากมีมารยาท“ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ

  • แฟนเพื่อน   บทที่ 30 ซื่อบื้อ

    ‘ เอ่อ..พาไปไม่ได้หรอกค่ะ ตอนนี้หนูกะว่าจะเลิกกับเขา ‘‘ ห๊ะ!!’สองคนผสานเสียง หญิงสาวถึงทีสะดุ้งเฮือก ทบทวนประโยคใหม่ ตัวเองพูดอะไรผิดไป ปาดน้ำตาทิ้งยามที่สิงขรจ้องหน้า เค้นยิ้มเสมือนรู้สันดานน้องสาว“ เลิกเรอะ! โอเค งั้นกลับบ้าน แล้วไหนเสื้อผ้าล่ะ “แกล้งถาม ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่ใช่เลย เสื้อผ้าเธอไม่มีติดตัวสักชิ้น รู้อยู่แก่ใจตั้งแต่ก้าวออกมาจากคฤหาสน์หลังนั้น คนมันคิดจะเลิก มีโอกาสขนาดนั้น ทำไมยังคงทิ้งไว้อยู่“ เอ่อ...”“ แม่ ขิมมันได้กับเขาแล้ว”เงยหน้าเบิกตาโตเท่าที่เคยทำ ครั้นได้ยินประโยคที่พูด พร้อมฝ่ามือใหญ่อีกรอบ บินว่อนแล้วลงตรงกลางหัวผั๊ว!!!“ โอ้ยแม่! ““ รู้แล้ว!! แกจะย้ำให้ฉันอกแตกตายเลยรึไง แค่นี้เป็นลมมาสิบตลบ ยังไม่สาแก่ใจอีกรึ ““ ฮ่าๆๆๆ “ขณะคนเปิดประเด็นย้ำขำลั่น ต่างจากเจ้าตัวอย่างขิม คราวนี้ก้มหน้าสลดหนักกว่าเก่า ความกดดันทำเธอผสานมือเข้าหากัน หยดน้ำตาหล่นแมะลงพื้นกระเบื้อง“ ขอโทษจ๊ะแม่ “ยกมือไหว้ รู้สึกแย่สุดๆ“ เฮ้อ...ขิมเอ๊ย มาตายน้ำตื้นๆ แกห่างบ้านมาได้กี่วันทำไมแม่จะไม่รู้เล่า คบกันไม่พ้นเดือน ได้กันก็ว่าทำใจลำบากแล้ว นี่มาบอกว่าจะเลิก คิดดีแล้วหรือ...”

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status