แชร์

บทที่ 135

ผู้เขียน: สั่งไม่หยุด
ฉีจื่อฟู่เผยอปาก แต่ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี

ภายในใจทั้งผิดหวังทั้งเสียใจ ถึงขั้นโกรธแค้นที่หรงจือจือเลือดเย็นกับตัวเอง เหตุใดนางจึงไม่ยอมไปคุกเข่าเพื่อเขา?

นางให้ความสำคัญต่อเรื่องของน้องสี่มากกว่าเขาได้อย่างไร ทั้งยังยุยงให้ท่านพ่อทำแบบนี้อีก?

เรื่องนี้ทำให้เขาอดคิดไม่ได้ สมัยที่พวกเขาเพิ่งแต่งงานกัน จือจือจะให้ความสำคัญต่อเขาเป็นอันดับแรกในทุกๆ เรื่อง ไม่จำเป็นต้องให้เขาพูดก็จะเสนอตัวไปอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยตัวเอง

เมื่อได้ยินว่าปรมาจารย์ซื่อคงมีบัวไหมสวรรค์ นางก็ไม่สนใจร่างกายที่บอบบางของตัวเอง ยอมคุกเข่าขึ้นเขาไปทีละก้าวๆ เพื่อขอโอสถมาให้เขา

กระทั่งในเวลาที่เขาไม่ยอมกินโอสถเพราะกลัวรสขม นางก็จะปลอบประโลมด้วยรอยยิ้ม บอกว่าเขาทำตัวเหมือนเด็ก

ทว่าตอนนี้…

ความแตกต่างนี้ทำให้เขาทั้งรู้สึกอึดอัดและเสียใจ เบ้าตาแดงก่ำ ทิ้งตัวลงนอนด้วยความโมโหและพลิกตัวหันหลังให้ทุกคน

ทำให้อวี้ม่านหวาที่ตอนแรกร้องไห้อยู่ในอ้อมอก ต้องนิ่งค้างอยู่กลางอากาศอย่างกระอักกระอ่วน “ท่านพี่ฟู่?”

ฉีจื่อฟู่คิดว่าจือจือเห็นตัวเองไม่ชอบใจแล้วจะเข้ามาปลอบ แค่ประโยคเดียว เพียงแค่ประโยคเดียวเท่านั้น เขาก็จะยอ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 462

    นางเซี่ยได้ยินไทเฮาตรัสเช่นนี้ก็ผงะ นางหวังเพียงให้น้องหญิงช่วยให้การแต่งงานนี้ลุล่วง หวังเพียงขู่ให้หรงจือจือกลัว ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นลงไม้ลงมือกระมัง?หากราดน้ำเย็นใส่หรงจือจือจริงๆ และถูกลูกชายรู้เข้า เกรงว่าเขาคงไม่ยกโทษให้นางนางพูดอ้อนวอนว่า “ไทเฮา ไม่ต้องถึงขั้นนั้นหรอกเพคะ จือจือเพียงแต่คิดไม่ถี่ถ้วนไปชั่วขณะ…”นึกไม่ถึงว่าไทเฮาจะตัดบทนาง “ข้าว่านางคิดถี่ถ้วนแล้วต่างหาก ทั้งยังแน่วแน่มาก! ลากตัวออกไป!”“ราดเสร็จแล้วคุกเข่ากลางหิมะสองชั่วยาม! ข้าจะสั่งสอนให้นางรู้ว่า ผู้ใดคือประมุขของวังหลวง!”นางเซี่ยบิดผ้าเช็ดหน้า สีหน้าเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงนางรู้สึกเรื่องนี้หลุดการควบคุมของนางไปแล้ว ความพิโรธของไทเฮาเหมือนจะไม่ใช่เพื่อบุตรชายนางอย่างเดียว!นางรู้จักน้องหญิงของนางดี หรงจือจือเพียงแค่ปฏิเสธเรื่องของบุตรชายนาง อีกฝ่ายไม่น่าจะถึงขั้นโมโหขนาดนี้เมื่อเห็นนางกำนัลจะเข้ามาลากตัวหรงจือจือก็เอ่ยเสียงเรียบ “หยุด ไม่ต้องให้พวกเจ้าลาก ข้าเดินออกไปเองได้”นางเซี่ยร้อนรนกระวนกระวาย สงสัยว่าหรงจือจือเคยไปก้าวล่วงไทเฮาเรื่องอื่นด้วยหรือไม่ รีบพูดว่า “จือจือ เจ้ารีบตอบตกลงไปเถอะ!”

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 461

    “ที่เรียกเจ้ามาวันนี้ ก็เพราะต้องการให้ไทเฮาทรงช่วยพูดไกล่เกลี่ยให้เรื่องมงคลระหว่างสองครอบครัวลงเอยด้วยดี”ไทเฮายิ้มเยาะ “แต่ดูจากตอนนี้ คล้ายว่าบุตรสาวสายตรงคนโตของมหาราชครูหรงนางนี้จะไม่เห็นข้าในสายตา เช่นนี้ข้าพูดไกล่เกลี่ยไปจะมีประโยชน์อันใด?”หรงจือจือ “หม่อมฉันมิกล้าเพคะ! หม่อนฉันไม่เคยขุ่นเคืองพระชายาซื่อจื่อ ย่อมไม่มีอันใดต้องไกล่เกลี่ย”“เหอะ…” ไทเฮาแค่นเสียงเย็น ยกถ้วยชาขึ้นพร้อมกับมองหรงจือจือ “ข้าไม่อยากต้องอ้อมค้อมเสแสร้งกับเจ้า พูดมา เจ้าจะแต่งงานกับหลานชายข้าหรือไม่!”หรงจือจือ “ขอไทเฮาโปรดประทานอภัย”ถ้วยชาในมือไทเฮาเกือบจะขว้างถูกหรงจือจือเมื่อฟังถึงตรงนี้ ถ้วยชาแตกกระจาย น้ำร้อนกระเซ็นซ่าน หากไม่ใช่เพราะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหน้าชั้นสำหรับฤดูหนาว เกรงว่าหรงจือจือคงถูกลวกไปแล้ว!ไทเฮาตรัสอย่างเดือดดาลด้วยสีหน้าดำทะมึน “หรงจือจือ เจ้ามันไม่เห็นคุณค่าความหวังดี จะไม่ไว้หน้าข้าสักนิดใช่หรือไม่?”นางเซี่ยลุกไปประคองหรงจือจือขึ้นมา ปากพูดเกลี้ยกล่อมว่า “จือจือ อย่าทำให้ไทเฮาทรงกริ้ว รีบลุกขึ้นก่อน”“เจ้ากับราชเลขาธิการเพิ่งจะหมั้นหมายกันแค่หนึ่งวัน ข่าวยังไม่แพร่กระจา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 460

    หากท้ายที่สุดแล้วผู้ที่ท่านพี่เลือกให้หรงเจียวเจียว เป็นคนเช่นจีอู๋เหิง นางหวังก็คงไม่เกิดความคิดนี้ขึ้นมาเพราะนางคิดว่า คุณชายที่ดีพร้อมทุกด้านอย่างจีอู๋เหิง ก็คู่ควรกับบุตรสาวของตนทว่าบุตรชายของหยางซื่อหลาง นับเป็นอะไรกัน จะคู่ควรกับเจียวเจียวแก้วตาดวงใจของตนได้อย่างไร?ครั้นหรงเจียวเจียวได้ยินถึงตรงนี้ ดวงตาก็เปล่งประกาย “เช่นนั้น...เช่นนั้นก็ขอบคุณท่านแม่ยิ่งนัก”...ยามพลบค่ำหลังมหาราชครูหรงพูดคำเหล่านั้นกับพวกนางหวังสองแม่ลูกเสร็จ ก็ไปรออยู่ที่ห้องหนังสือ ผู้ที่อยู่ใต้บัญชาสืบเจอว่าหรงเจียวเจียวเอง ก็ส่งคนออกไปตามหาที่อยู่ของสาวใช้จ้าวเป็นการส่วนตัวเช่นกันเขานั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยความหดหู่ใจหากบุตรสาวไม่มีอะไรไม่ชอบมาพากล ไหนเลยจะเชื่อฟังคำพูดของตน กลับอยู่ไม่นิ่ง และรีบเคลื่อนไหวเช่นนี้?เดรัจฉานผู้นี้ หรือว่าจะมีเอี่ยวในการทำร้ายท่านย่าของนางจริง ๆ หรือ?...เช้าวันรุ่งขึ้นคนของตำหนักไทเฮามาเชิญให้หรงจือจือเข้าวัง หัวใจของหรงจือจือเต้นตึกตัก ที่จริงนางยังไม่ลืมที่นางเซี่ยพูดกับตนเอาไว้ก่อนหน้านี้ เรื่องที่หากไม่รู้จักอยู่ให้เป็น ก็จะให้ไทเฮาให้ตนเป็นภรรยาของจีอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 459

    อย่างไรสกุลหยางก็ต้องพึ่งพาตนสองสามส่วน ไม่กล้าไม่ให้เกียรติบุตรสาวของตนอย่างแน่นอนแต่คิดไม่ถึงเลยว่า เมื่อหรงเจียวเจียวได้ยินดังนั้น ก็เอ่ยขึ้นมาทั้งตื่นตระหนก “ท่านพ่อ ท่านพ่อจะลำเอียงเกินไปแล้วนะเจ้าคะ! พี่หญิงแต่งงานครั้งที่สองดีขนาดนั้น เหตุใดข้าได้แต่งงานแค่กับบุตรชายของซื่อหลางล่ะ?”มหาราชครูหรงขมวดคิ้ว “ที่พี่สาวเจ้าได้แต่งงานดี ๆ เป็นเพราะตัวนางโดดเด่นมากพอ ท่านเสนาบดีชอบนาง ส่วนเจ้า เจ้ายังดูถูกบุตรชายคนโตสายตรงของซื่อหลาง?”“สภาพผีเข้าผีออกอย่างเจ้า หากเจ้าไม่ใช่ลูกสาวของข้า ลูกนอกสมรสของซื่อหลาง ก็ไม่มีวันแต่งงานกับเจ้าหรอก!”หรงเจียวเจียวได้รับความอับอาย ในแววตาคลอเต็มไปด้วยน้ำตา “ท่านพ่อ ในสายตาของท่านพ่อข้าต่ำตมเช่นนี้เลยหรือ?”มหาราชครูหรง “คนเราต้องทำตัวเองต่ำต้อยก่อน คนอื่นถึงได้มาดูถูกได้! หากตัวเจ้าไม่ทำเรื่องโง่ ๆ ออกมามากมายเช่นนี้ วันนี้ข้าก็คงไม่พูดกับเจ้าเช่นนี้หรอก”“เรื่องนี้ก็ตกลงตามนี้ ไม่ต้องพูดถึงอีกแล้ว!”“แล้วก็ เหวินหมัวมัวกับฝานซิงจนปัญญาจริง ๆ แต่จือจือบอกข้าว่า นางกุมหลักฐานอยู่ในมือแล้ว ฆาตกรนั้นไม่เป็นเจ้าก็แม่เจ้า!”“ขอเพียงหาตัวสาวใช้จ้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 458

    จวนสกุลหรงหลังมหาราชครูหรงตรวจนับคลังทั้งจิตใจห่อเหี่ยว ก็รู้สึกว่าเกรงว่าตนต้องขายขี้หน้าอย่างแน่แท้ หรือว่าจะออกจากบ้านไปยืมเงินมาเพิ่มเป็นสินเจ้าสาวสักหน่อย เพื่อประคับประคองหน้าตาของจวนสกุลหรง?แต่การยืมเงิน ก็จะทำให้ตนขายขี้หน้าเช่นกันเฮ้อ ตนเป็นขุนนางมานานกว่าเสนาบดีเฉินตั้งหลายปี เหตุใดจึงไม่มั่งคั่งอย่างอีกฝ่ายนะ?หรงม่อชิงที่ก่อนหน้านี้มักจะอิจฉาเฉินเยี่ยนซู ในวันนี้จะไม่ยอมรับก็ไม่ได้ ระยะเวลาการเป็นขุนนางของอีกฝ่ายน้อยกว่าตน ทว่าความดีความชอบมากกว่าตนจริง ๆ เวลาที่ฝ่าบาทตกรางวัลให้ก็มากกว่าตนมหาราชครูหรงหอบเรื่องในใจแสนหนักหนามุ่งหน้าไปยังเรือนเฮ่าเย่ว์ระหว่างทางกลับบังเอิญเจอกับหรงจือจือหรงจือจือเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ท่านพ่อ ข้าอยากคุยกับท่านพ่อเรื่องท่านย่า ไม่อย่างนั้นขอเวลาสักครู่ได้หรือไม่?”มหาราชครูหรงมิได้ปฏิเสธ เขากลับอยากรู้ว่า หรงจือจือมีแผนการอะไรอยู่กันแน่...เรือนเฮ่าเย่ว์ในวินาทีนี้ หรงเจียวเจียวเพิ่งใส่ยาเสร็จ เปลี่ยนชุดเสร็จ ร้องไห้จนเหมือนคนขี้แยก็มิปานนางหวังพูดปลอบ “เอาละ เลิกร้องไห้ได้แล้ว! วันนี้เจ้าก็จริง ๆ เลย อย่างไรมีแขกมากม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 457

    ทว่าคิด ๆ ดูแล้วอยู่ที่จวนเสนาบดี ของของเขาก็ไม่เท่ากับของของนางหรือ?จึงฝืนปลอบให้ตนยอมตอบตกลงไป “ขอรับ!”เดิมทีมหาราชครูหรงคิดจะรอให้เฉินเยี่ยนซูไปก่อน แล้วค่อยไปสั่งสอนหรงเจียวเจียว แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาจึงตัดสินใจว่าอย่างไรอีกเดี๋ยวค่อยไปตรวจนับจำนวนในคลังเสียหน่อย เรื่องอื่นเดี๋ยวค่อยว่ากันหลังตนตรวจนับจำนวนเสร็จ...หลังคนสกุลเฉินออกไปจากจวนมหาราชครู เฉินเยี่ยนซูก็เข้าวังไปอ่านฎีกาเป็นเพื่อนฮ่องเต้น้อยหนึ่งชั่วยาม แล้วไปจัดการงานที่กรมขุนนางทุกคนต่างเห็นว่าในฤดูหนาว เขากลับถือพัดเล่มหนึ่งไว้ในมือ พร้อมยังคลี่ออกมาพัดทีสองทีอยู่เป็นระยะ ไม่แยแสความรู้สึกของคนที่ยืนอยู่ข้างเขาแต่อย่างใดท่านเสนาบดีไม่หนาว แต่พัดสองสามทีเช่นนี้ พวกเขาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หนาวนะกระทั่งฮ่องเต้น้อยยังคำราม “ท่านเสนาบดี ตอนที่ท่านพัดช่วยอยู่ให้ห่างจากเราหน่อย หนาวจนฮ่องเต้อย่างเราอยากฟ้องกรมขุนนางแล้ว!”“วันนี้ท่านเป็นอะไรกันแน่? ท่านร่างกายอ่อนแอ ร่างกายมีความเย็นมากเกินไปไม่ใช่หรือ?”ฤดูหนาวแสนหนาวเหน็บขนาดนี้ กลับเอาเจ้าสิ่งนี้มาเล่นเนี่ยนะ?เซิ่งเฟิงเห็นท่าทางไม่ควรค่าของเจ้านายบ้านตน ก็อด

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status