공유

บทที่ 6  

작가: สั่งไม่หยุด
หรงจือจือไม่คิดเลยสักนิด ทั้งที่สองคนทะเลาะกันมาถึงขั้นนี้แล้ว ฉีจื่อฟู่จะยังคิดถึงเรื่องร่วมเรือนหอได้อีก

นางถอยหลังกลับไปอีกสามก้าว เว้นระยะห่างจากอีกฝ่ายไว้ ก่อนจะเอ่ยขึ้นพร้อมสีหน้าเยือกเย็น “ท่านพี่ ก่อนที่จะจัดการเรื่องขององค์หญิงม่านหวา ท่านกลับไปที่เรือนของท่านก่อนเถิด!”

ฉีจื่อฟู่เอ่ยอย่างไม่อยากเชื่อหูตนเอง “หรือถ้าไม่ได้เป็นภรรยาหลวง แม้แต่สัมผัสตัวเจ้าก็ไม่ยอมให้ข้าสัมผัสแล้วหรือ?”

หรงจือจือมิได้ให้คำตอบอย่างตรงไปตรงมา เพียงแต่เอ่ยว่า “ท่านพี่เชิญกลับไปเถิด!”

สีหน้าของฉีจื่อฟู่ ในที่สุดก็เยือกเย็นลงอย่างถึงที่สุดแล้ว “ดี! ทุกคนต่างบอกว่าเจ้ารักข้า ยอมทุ่มเททุกอย่างเพื่อสกุลฉีเราด้วยความยินดี ข้ากลับมองว่าสิ่งที่เจ้ารักมากกว่า คือตำแหน่งฮูหยินซื่อจื่อ อย่างเจ้าก็แค่เห็นแก่ทรัพย์สมบัติและชื่อเสียงเกียรติยศเท่านั้นถึงได้ยอมสมรสกับข้า!”

หรงจือจือเงียบเชียบไม่เอ่ยปาก เพียงแต่อยากหัวเราะออกมาเท่านั้น เพื่อชื่อเสียงเกียรติยศและทรัพย์สมบัติอย่างนั้นหรือ? ในฐานะบุตรีสายตรงคนโตของมหาราชครูหรง ด้วยตำแหน่งของบิดา ณ วันนี้เวลานี้ ต่อให้นางจะแต่งเข้าจวนอ๋องเป็นพระชายาอ๋องก็ย่อมทำได้

หากมิใช่เพราะท่านพ่อและซิ่นหยางโหวหมั้นหมายนางไว้ตั้งแต่ยังเป็นทารก ซื่อจื่อจวนโหวที่ป่วยใกล้ตายคงไม่มีวาสนาได้รับนางไปเป็นภรรยาหรอก

ทว่าบัดนี้ ไม่อยากเชื่อว่าฉีจื่อฟู่จะกล้าเอ่ยวาจาเช่นนี้ออกมา…

ช่างเถิด คุยไม่ถูกคอ ก็ไม่จำเป็นต้องคุย

เห็นดวงหน้างามพิลาสของหรงจือจือเย็นชาอย่างถึงที่สุด แฝงด้วยความห่างเหินที่เห็นได้ชัด และความเด็ดขาดแน่วแน่ของการผลักไส ดูไม่เห็นเค้าว่าจะพยายามแก้ต่างเพื่อตัวนางเองแม้แต่น้อย

ฉีจื่อฟู่ก็ดึงหน้าตึง ก่อนจะออกไปด้วยสีหน้าเย็นชา

กระทั่งเขาเดินออกไปแล้ว เจาซีถึงจะเข้ามา พลางถามไถ่หรงจือจือด้วยความเป็นห่วง “ฮูหยินซื่อจื่อเจ้าคะ เหตุใดซื่อจื่อถึงได้ออกไปเจ้าคะ? พวกท่านมิได้พบหน้ากันนานสามปี เขาไม่ค้างที่เรือนของท่านหรือเจ้าคะ?”

หรงจือจือ : “ข้าไล่เขาเอง”

เจาซี : “?”

หรงจือจือไม่พูดพร่ำทำเพลง ก็อธิบายเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ให้เจาซีได้เข้าใจอย่างกระจ่าง

เจาซีฟังจบก็โกรธจนตัวสั่น นางกำลังสงสัยอยู่แล้วเชียวว่าเหตุใดเมื่อตอนออกจากวังหลวง ถึงได้รู้สึกว่าสถานการณ์ดูจะแปลกไป พวกนายหญิงเอาแต่พูดถึงเรื่องเป็นอนุไม่จบสิ้น

ทว่าเจาซีครุ่นคิดแล้ว ก็เอ่ยขึ้นว่า “ฮูหยินซื่อจื่อ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านก็น่าจะยิ่งต้องการให้ท่านซื่อจื่ออยู่ต่อมิใช่หรือเจ้าคะ? หากท่านอ่อนโยนและเอาใจใส่เขามากกว่านี้สักหน่อย ไม่แน่เขาอาจเปลี่ยนใจกลับมาก็ได้เจ้าค่ะ?”

หรงจือจือตอบกลับอย่างเถรตรง “หากเขานอนค้างที่เรือนนี้ ข้าคงมีแต่จะรู้สึกสะอิดสะเอียน”

นางได้รับการอบรมสั่งสอนในฐานะบุตรีในตระกูลบุญหนักศักดิ์ใหญ่ และถูกปลูกฝังหลักสามเชื่อฟังสี่จริยามานานหลายปี ยังอดทนกับคนแบบนี้ไม่ได้ บางทีในตัวนาง อาจแอบซ่อนความดื้อรั้นไว้อยู่ก็เป็นไปได้

อีกอย่าง จิตใจของคนแบบนี้ จะไปอยากให้เปลี่ยนใจกลับมาเพื่ออะไร?

มันใช่ของที่ควรจะต้องหวงแหนเสียที่ไหน?

เจาซีสะอึกไปเพราะคำพูดของคุณหนูตนเอง ถูกต้องแล้ว หากนางต้องออกเรือนกับคนแบบนี้ แค่คิดความโกรธก็คุกรุ่นอยู่เต็มอกแล้ว

เจาซีถามด้วยเสียงเบาหวิว “คุณหนู แล้วท่านไม่รู้สึกเสียใจเลยหรือเจ้าคะ?”

หรงจือจือเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบ “จะเสียใจเพื่ออะไร? ตอนแรกที่ยอมแต่งกับฉีจื่อฟู่ที่ป่วยขี้โรค ก็เพียงเพราะว่าบิดาไม่อยากถูกตราหน้าว่าทิ้งสัญญาหมั้นหมายหลังจากได้ดิบได้ดีแล้วก็เท่านั้น”

“ข้าแต่งเข้ามาก็เพื่อรักษาชื่อเสียงเกียรติยศของตระกูล และเพื่อการสมรสของคุณหนูคนอื่นในสกุลหรง จุดนี้เจ้าเองก็เข้าใจดี”

“สิ่งที่บุตรีในตระกูลสูงส่ง ถูกตระกูลขุนนางปลูกฝัง และคิดคำนึงไว้ในใจตลอด ก็คือผลประโยชน์ต่อวงศ์ตระกูล และเกียรติยศของตนเอง มิใช่ความรักที่ไร้ประโยชน์เหล่านั้น ในเมื่อไร้หัวใจแล้ว จะถามถึงความเสียใจอะไรอีก?”

หากเป็นความโกรธหรือผิดหวังมีแน่ แต่ความเสียใจ…ไม่มี!

บุรุษผู้เลิศล้ำในเมืองหลวงมีอยู่มากมาย ในเมืองหลวงที่ยอดคนอัจฉริยะมีอยู่ทั่วทุกแห่งหน เมื่อสามปีก่อน คนที่วิชาการไม่เอาไหนการต่อสู้ก็ไม่พร้อม มีเพียงรูปโฉมใบหน้าเท่านั้นที่พอดูได้อย่างฉีจื่อฟู่ หากไม่ใช่เพราะหมั้นหมายกันไว้แล้ว นางคงไม่แม้แต่ชายตาแล

เจาซีฟังจบก็เงียบไป นางรู้มาตลอดว่าคุณหนูของตนเองเป็นคนมีเหตุผล แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีเหตุผลได้ถึงเพียงนี้ หนนี้นางพูดไม่ออกบอกไม่ถูกว่านี่เป็นเรื่องดี หรือเป็นเรื่องเลวร้ายกันแน่

ในตอนนี้เอง บ่าวรับใช้ที่กลับไปสืบข่าวที่เรือนสกุลหรงก็เข้ามา และเริ่มรายงานว่า “ฮูหยินซื่อจื่อ นายท่านมีคำสั่งให้ท่านเดินทางกลับจวนมหาราชครูในวันพรุ่งนี้ขอรับ”

บ่าวรับใช้คนนี้เป็นคนที่หรงจือจือให้ติดตามมาจากเรือนมารดา จึงเรียกมหาราชครูหรงว่านายท่านเช่นเดิม

หรงจือจือ : “ข้ารู้แล้ว”

ก็เป็นเรื่องสมควรแล้ว ที่จะต้องกลับไปหารือกับท่านพ่อสักครั้ง การที่สองสกุลสมรสกัน ก็เพื่อผูกสัมพันธ์อันดีระหว่างสองตระกูลเข้าด้วยกัน หากว่าต้องการหย่าร้าง ทั้งความสัมพันธ์และอิทธิพลอำนาจที่ควรจะต้องตัดขาดจากกัน ก็ยังจำเป็นต้องขอให้ท่านพ่อเร่งจัดการตัดขาดจากกันในเร็ววันถึงจะเหมาะสมที่สุด

……

นางถานโกรธจนนอนไม่หลับตลอดคืน เอาแต่พลิกตัวไปมาบนเตียงนอน แม้ว่าจะหงุดหงิดที่บุตรชายตนเองเอาแต่ใจไม่รอบคอบ แต่กระนั้นก็ยังรู้สึกเคียดแค้นหรงจือจือที่ไม่รู้จักดูสถานการณ์มากกว่า

ซิ่นหยางโหวรู้สึกอึดอัดรำคาญที่นางเอาแต่พลิกตัวไปมา จนหลับไม่ลงเลยสักนิด ก็หยัดกายขึ้นด้วยความโมโห “เจ้านอนไปคนเดียวแล้วกัน!”

พูดจบก็ลุกไปนอนที่ห้องหนังสือของตนเองเลยทันที

เสี้ยวขณะนี้ นางถานยิ่งรู้สึกโกรธเกลียดเคียดแค้นหรงจือจือ เพราะสมรสสะใภ้ไร้คุณธรรม ในเรือนนี้ถึงได้ยุ่งเหยิงไปหมด บุตรชายไร้วาสนาเรื่องคู่ครอง หนทางข้างหน้าก็มืดมัว ส่วนตนเองก็เพิ่งจะเลิกระหองระแหงกับท่านโหวได้เพียงไม่กี่ปี กลับต้องมามีปัญหาซ้ำอีกครั้ง

กอดความโกรธแค้นไว้ในใจ เช้านี้นางตั้งใจตื่นเร็วขึ้นกว่าปกติ

ณ ห้องโถงหลักภายในเรือนของตนเอง นางกำลังคอยให้หรงจือจือเข้ามาน้อมคารวะตนเองในยามเช้า

สาวใช้เฉินที่ประจำอยู่ในเรือนของนางเตรียมจะจุดถ่านไฟจินซือเพิ่มอีกสองถาด เพื่อขับไล่ความหนาวเย็นในห้องโถง ทว่านางถานกลับเอ่ยว่า “ไม่ต้องจุดไฟแล้ว ปล่อยให้อากาศในห้องโถงนี้เย็นไปแบบนี้แหละ ประเดี๋ยวหรงจือจือก็มาแล้ว ข้าจะให้นางคุกเข่าบนพื้นสักพัก นางจะได้มีสติขึ้นสักหน่อย!”

หากมิใช่เพราะเห็นแก่บุตรชายที่ยังต้องการความช่วยเหลือจากมหาราชครูหรง นางไม่มีทางยอมให้นางหรงเข้ามาแม้แต่ในห้องนี้แน่ แต่จะให้นางไปคุกเข่าสำนึกผิดด้านนอก!

สาวใช้เฉินเอ่ยว่า : “ทว่าฮูหยินเจ้าคะ หากไม่จุดไฟเพิ่ม ท่านจะไม่หนาวหรือเจ้าคะ?”

ความจริงนางถานก็รู้สึกหนาวยะเยือก แต่เพื่อทรมานหรงจือจือแล้ว นางจึงปากแข็งเอ่ยไปว่า “ข้าไม่เป็นอะไร ในมือข้ายังมีถุงน้ำร้อน ขอแค่จิบชาร้อนสักหน่อย ร่างกายก็อุ่นขึ้นเยอะแล้ว”

สาวใช้เฉินเป็นห่วงฮูหยินของตนเอง : “ไม่สู้จุดก่อนสักพัก ไว้ฮูหยินซื่อจื่อมาถึงแล้ว ค่อยดับถาดไฟเป็นอย่างไรเจ้าคะ?”

นางถาน : “ข้าบอกแล้วว่าต้องการให้ภายในห้องเย็นจัด! หากจุดไฟไว้ก่อน เมื่อนางเข้ามาแล้ว ห้องจะยังไม่อุ่นอยู่สักระยะหรือ? ข้าไม่ยอมปล่อยให้นางสบายแบบนั้นหรอก!”

สาวใช้เฉินเห็นฮูหยินยืนกรานหนักแน่นเพียงนี้ ก็ได้แต่ทำตามคำสั่ง ทว่าปากก็ยังส่งเสียงบ่นออกมาอย่างอดไม่ได้ “ซื่อจื่อฮูหยินก็เหลือเกินจริง ๆ เมื่อวานก่อเรื่องวุ่นวายเช่นนั้นขึ้นในวังยังไม่ว่า ตกดึกยังไล่ให้ท่านซื่อจื่อไปนอนในห้องหนังสืออีก ไร้ซึ่งลักษณะของสะใภ้ผู้มีคุณธรรมอย่างแท้จริงเจ้าค่ะ!”

พอเอ่ยว่าบุตรชายของตนเองต้องไปนอนในห้องหนังสือขึ้นมา นางถานยิ่งโกรธ “ประเดี๋ยวข้าจะสั่งสอนนางให้รู้ซึ้งเอง มีอย่างที่ไหนจะเป็นลูกสะใภ้แบบนี้?”

“สามีไม่กลับมาสามปี แทนที่จะเอาใจใส่ดูแลเขาให้ดี กลับไล่ให้เข้าไปค้างแรมที่ห้องหนังสือ เพี้ยนไปแล้วหรืออย่างไร? ธรรมเนียมในครอบครัวมหาราชครูหรง เป็นเช่นนี้เองหรือ?”

“คงเพราะครอบครัวข้าตาบอดเอง ถึงได้รับนางอสรพิษชั้นเลวไม่เอาไหนแบบนี้มาเป็นสะใภ้!”

ในปากของนางถานล้วนมีแต่ถ้อยคำดูถูกหรงจือจือ โดยที่ลืมไปหมดสิ้นแล้วว่า ตอนแรกหรงจือจือเป็นคนไปขอบัวไหมสวรรค์มาให้ฉีจื่อฟู่ และรักษาพิษที่อีกฝ่ายมีมาตั้งแต่ในครรภ์จนหายสนิท ในตอนนั้นสกุลฉีรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของอีกฝ่ายเป็นอย่างยิ่ง

สาวใช้เฉินขานรับอย่างเห็นด้วยเต็มที่ “จริงเจ้าค่ะ! นางยังบอกอีกว่าจะขอหย่าขาด ไม่รู้จักคิดเสียบ้าง ว่าหลังจากหย่าร้างกันแล้ว จะไปหาคู่สมรสที่ดีเหมือนอย่างจวนโหวของพวกเราได้ที่ใดอีก!”

นางถานฟังจบ ใบหน้ายิ่งสะท้อนความเยือกเย็นออกมา

มิใช่เพียงเพราะความกรุ่นโกรธที่มีต่อหรงจือจือเท่านั้น แต่เพราะความหนาวเย็นในเหมันตฤดูนี้ การไม่จุดเตาไฟ ก็ชวนให้รู้สึกหนาวสะท้านตั้งแต่ฝ่าเท้าขึ้นมาจริง ๆ

เมื่อต้นเหมันตฤดู หรงจือจือได้สั่งให้คนเตรียมถ่านไฟจินซือชั้นดีนำมาส่งให้แล้ว นางถานมิเคยได้ต้องความหนาวเย็นแม้แต่เสี้ยวเดียว ทว่าบัดนี้เข้าฤดูหนาวเต็มตัวแล้ว กลับหยุดจุดถ่านไฟไล่ความหนาวเย็นกะทันหัน ไหนเลยจะทนไหว?

ไม่นานนัก นางถานหนาวเย็นจนแทบทนไม่ไหวแล้ว ก็ถามขึ้นว่า “นางอกตัญญูคนนี้ นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว เหตุใดยังไม่เข้ามาคารวะยามเช้าอีก?”

สาวใช้ในเรือนครั้นออกไปสืบข่าวเรียบร้อยก็กลับมารายงานว่า : “ฮูหยินเจ้าคะ ฮูหยินซื่อจื่อตื่นแล้วเจ้าค่ะ คิดว่าประเดี๋ยวก็คงมาถึงเจ้าค่ะ!”

นางถานผงกศีรษะ กัดฟันทนความหนาวเย็นรอคอยต่อไป

ความหนาวเย็นทั้งหมดที่นางต้องทนรับไว้ในยามนี้ อีกไม่นานนางจะต้องให้นางหรงชดใช้คืนจนหมดสิ้น ให้นางหรงคุกเข่าบนพื้นดินกลางฤดูหนาวเสีย มันจะต้องหนาวเย็นยิ่งกว่าตนเองในยามนี้แน่!
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 468

    ไทเฮาทรงพิโรธ ถลึงพระเนตรใส่ฮ่องเต้น้อย “ฮ่องเต้ นี่เจ้าปฏิบัติต่อเสด็จแม่ของเจ้าแบบนี้รึ?”เฉินเยี่ยนซูพูดด้วยเสียงนุ่มนวล “หากไทเฮาทรงรู้สึกว่าฝ่าบาทปฏิบัติต่อพระองค์ไม่ดี มองว่าท่านอ๋องดูแลพระองค์ได้ดีกว่า เช่นนั้นกระหม่อมก็ยินดีช่วยส่งพระองค์ไปยังที่ดินศักดินาของท่านอ๋องใหญ่ ให้ท่านอ๋องดูพระองค์ในช่วงบั้นปลาย”พระพักตร์ของไทเฮาซีดขาว สังเกตเห็นความประชดประชันในแววตาโอรสตัวเองใช้มือข้างหนึ่งจับพนักเก้าอี้พร้อมกับตรัส “ช่างเถอะ ข้าเองก็รู้สึกคิดถึงอดีตฮ่องเต้เช่นกัน”เช่นนี้ก็หมายความว่ายอมจำนน บ่งบอกว่ายอมถูกกักบริเวณและคัดคัมภีร์นางคิดมาโดยตลอดว่าฮ่องเต้ยังชันษาน้อย คงจะจำอะไรไม่ได้มาก แต่ดูจากตอนนี้ เหมือนว่าฮ่องเต้จะยังจำได้มิน่าเล่า เขาถึงได้ไม่ยืนอยู่ฝั่งของนางกับสกุลเซี่ย เอาแต่เข้าข้างราชเลขาธิการเมื่อพูดถึงท่านอ๋องใหญ่ หรือก็คือพระเชษฐาต่างมารดาของฮ่องเต้ นางเซี่ยมีอาการตกใจเช่นกัน เกี่ยวกับเรื่องเมื่อตอนนั้น นางยอมรับว่าไทเฮาเลอะเลือนไปเล็กน้อยฮ่องเต้น้อยมีท่าทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยิ้มว่า “ในเมื่อเรื่องนี้จบลงแล้ว เช่นนั้นเราจะกลับไปจัดการราชกิจก่อน”เฉินเ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 467

    แม้แต่ฮ่องเต้น้อยก็ยังต้องยกนิ้วหัวแม่มือให้หรงจือจือในใจ ไม่แปลกเลยที่ท่านราชเลขาธิการจะชอบนาง ช่างฉลาดหลักแหลม แม้แต่วิธีแก้ปัญหาเช่นนี้ก็ยังสามารถคิดออกมาได้ นางเซี่ยรีบพูดด้วยรอยยิ้ม “ความจริงจวนอ๋องเฉียนของพวกข้าก็ไม่เลว หากมหาราชครูหรงต้องเลือกระหว่างสองสกุลก็คงตัดสินใจได้ยากเช่นกัน”“จือจือ เจ้าลองเลือกใหม่อีกครั้งดีหรือไม่ หากเจ้าเลือกอู๋เหิง บิดาของเจ้าก็ไม่น่าจะว่าอะไร”“เจ้าก็รู้ แม่สามีของข้าชอบเจ้ามากมาโดยตลอด หลายปีมานี้ก็ปกป้องและรักใคร่เจ้าไม่น้อย”หัวคิ้วของหรงจือจือกระตุก เข้าใจว่านางเซี่ยกำลังยกพระชายาอ๋องเฉียนมาเพื่อโน้มน้าว อยากให้นางเห็นแก่การดูแลที่พระชายาอ๋องเฉียนมีต่อตัวเองตลอดหลายปีมานี้และเลือกจีอู๋เหิงไทเฮาฟังถึงตรงนี้ก็ตรัสเช่นกัน “พระชายาซื่อจื่อพูดได้ถูกต้อง! หรงจือจือ ตอนนี้ข้าต้องการให้เจ้าแต่งงานกับอู๋เหิง ส่วนฮ่องเต้นั้นต้องการให้เจ้าแต่งงานกับราชเลขาธิการเฉิน”“พวกข้าสองแม่ลูกแทบจะบาดหมางกันเพราะเจ้าอยู่แล้ว เจ้าลองตรองดูให้ดีว่าจะแต่งงานกับผู้ใด!”“ในเมื่อเจ้าแต่งเพราะคำสั่งของบิดา คิดว่าหากมีข้าอยู่ด้วย ต่อให้เจ้าเลือกอู๋เหิง บิดาเจ้าก็คงไ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 466

    ฮ่องเต้หย่งอันเข้าใจแล้วว่า เหตุใดท่านราชเลขาธิการได้ยินว่าเสด็จแม่เรียกตัวหรงจือจือมาพบแล้วจึง…เขามองไทเฮาพร้อมกับตรัสด้วยความเสียใจ “โอ้? มันสายไปแล้ว! ลูกพระราชทานสมรสไปแล้ว ราชโองการก็เขียนเสร็จแล้ว ประทับตราพระราชลัญจกรแล้วเช่นกัน!”“เหตุใดเสด็จแม่จึงไม่หารือกับลูกตั้งแต่เมื่อวาน หากเป็นเมื่อวาน เรื่องนี้คงพอมีหนทางให้ตกลงกันได้”ไทเฮาตรัสอย่างไม่เชื่อ “เป็นความจริงหรือ?”ฮ่องเต้หย่งอัน “ย่อมเป็นความจริง ราชโองการยังอยู่ในมือเซิ่งเฟิงอยู่เลย!”ตอนแรกเขาจะให้ขันทีอาวุโสหยางเป็นคนถือ ประเดี๋ยวหรงจือจือกลับสกุลหรงไปแล้วค่อยประกาศราชโองการ แต่ท่านราชเลขาธิการไม่วางใจยืนกรานที่จะขอรับไป ให้เซิ่งเฟิงเป็นคนเก็บรักษาไทเฮาพิโรธมากนางเซี่ยร้อนใจเช่นกัน รีบคุกเข่าว่า “ฝ่าบาท ได้โปรดถอนราชโองการด้วยเถิด อู๋เหิงต้องการแต่งงานกับท่านหญิงเช่นกัน!”ฮ่องเต้หย่งอันยิ้มเยาะ “พระชายาซื่อจื่อกล่าวเช่นนี้ ฟังดูเหมือนท่านราชเลขาธิการไม่ได้ตั้งใจจะแต่งงานกับหรงจือจืออย่างไรอย่างนั้น สินสอดแปดร้อยหาบ เกรงว่านี่คงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งแคว้นต้าฉีมา!”นางเซี่ยรีบพูด “ฝ่าบาท จวนอ๋องเฉียนของพ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 465

    ฮ่องเต้น้อยเห็นนางเซี่ยยอมรับผิดรวดเร็วแบบนี้ก็ไม่ได้ทำให้นางลำบากใจอีก อย่างไรเมื่อครู่นี้เขาก็เห็นว่า อีกฝ่ายก็พยายามช่วยขอความเมตตาให้หรงจือจืออย่างสุดความสามารถ แต่เมื่อฮ่องเต้น้อยมองไปที่นางกำนัลนางนั้น เขายิ่งคิดก็ยิ่งโมโหเดินเข้าไปถีบอีกฝ่าย “ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง แม้แต่ท่านราชเลขาธิการก็ยังกล้าสาด! เจ้าจงสวดภาวนาให้ท่านราชเลขาธิการปลอดภัย มิเช่นนั้น ครอบครัวเจ้าทั้งเก้าชั่วโคตรก็ยังชดใช้ไม่ได้!”นางกำนัลถูกถีบกลิ้งกับพื้นรู้สึกได้รับความอยุติธรรม นางจะรู้ได้อย่างไรว่าท่านราชเลขาธิการจะมาและช่วยบังน้ำเย็นให้กับท่านหญิง หากรู้มาก่อน ต่อให้นางจะใจกล้าเพียงใดก็ไม่กล้าทำแบบนี้แต่ฮ่องเต้กำลังพิโรธ นางไม่กล้าร้องว่าอยุติธรรม กลัวว่าฮ่องเต้จะพิโรธหนักกว่าเดิมได้แต่คำนับศีรษะด้วยความเคารพ “บ่าวสมควรตาย ฝ่าบาทโปรดประทานอภัย!”เจาซีมองด้วยความสะใจ เมื่อครู่นี้นางกำนัลคนนี้ใช้อำนาจข่มขู่ บอกว่าเป็นคำสั่งของไทเฮา ห้ามขัดขืนเด็ดขาดตอนนี้ ฮ่องเต้จะทุบตีนางอย่างไร สั่งสอนนางอย่างไร นางก็ได้แต่ทนรับไว้เสียงความเคลื่อนไหวด้านนอกย่อมดังเข้าไปในตำหนักเมื่อฮ่องเต้หย่งอันเข้าไป พระ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 464

    หรงจือจืออยากอธิบายว่าตัวเองไม่ได้กลัว แต่เมื่อสบเข้ากับสายตาห่วงใยของเขา จู่ๆ นางก็พบว่าตัวเองพูดอะไรไม่ออก ภายในใจอ่อนระทวยไปหมดทั้งๆ ที่เขาถูกราดน้ำเย็น ทั้งๆ ที่เขากำลังหนาวทว่าเขากลับไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย มีเพียงความรู้สึกที่เป็นห่วงนางนางรีบนำผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดน้ำเย็นบนใบหน้าเขาโดยไม่ได้มาสนใจว่าชายหญิงไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวกัน อย่างไรก็จะแต่งงานกับเขาอยู่แล้วเฉินเยี่ยนซูผงะ ดวงตาหงส์เร่าร้อนขึ้นมาหลายส่วนฮ่องเต้น้อยตรัส “มัวทำอันใดกันอยู่? ยังไม่รีบไปเตรียมเสื้อผ้าสะอาดกับน้ำร้อนให้ท่านราชเลขาธิการอีก!”“หากท่านราชเลขาธิการป่วยไข้ขึ้นมา! เราจะตัดหัวพวกเจ้าให้หมด”“น้ำขิงด้วย! เตรียมน้ำขิงให้ท่านหญิงกับท่านราชเลขาธิการทันที!”หรงจือจือจะบอกตัวเองไม่ต้องการน้ำขิง แต่เมื่อเห็นท่าทีของฮ่องเต้หย่งอัน นางก็ไม่ได้ปฏิเสธนางกำนัลที่ราดน้ำเย็นใส่เฉินเยี่ยนซูตกใจกลัวจนน้ำตาแทบเล็ด คุกเข่าตัวสั่นเทิ้มร่วมกับนางกำนัลคนอื่นๆผู้ที่ถูกราดน้ำเย็นคือท่านราชเลขาธิการ นั่นคือท่านราชเลขาธิการของฮ่องเต้เชียวนะ ก่อนที่ฮ่องเต้จะทรงว่าราชกิจ พระองค์จะต้องถวายการคำนับแด่ท่านราชเลขาธิการตาม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 463

    ไทเฮาโกรธจนหน้าเขียว ชี้นิ้วไปที่นาง “ดี ดี ดี เจ้าดีมาก!”แม้ภายในใจนางจะไม่พอใจถึงขีดสุด กระนั้นก็มีความนับถือบางส่วนเจืออยู่ด้วยอดนึกถึงถ้อยคำที่อดีตฮ่องเต้เคยพูดกับตัวเองไม่ได้ มหาราชครูหรงเป็นเสาหลักของบ้านเมือง อุทิศความสามารถและความทุ่มเททั้งหมดเพื่อชาติบ้านเมือง เขาถึงกล้ากราบทูลฎีกาที่ภัยถึงชีวิต เสียก็แต่เถรตรงเกินไปมองหรงจือจือตอนนี้แล้วเหมือนบิดาของนางมาก!ทว่า ความชื่นชมนี้ไม่อาจระงับเพลิงโทสะภายในใจนางแต่อย่างใด “ไปเตรียมน้ำเย็นเดี๋ยวนี้ ข้าอยากเห็นนักว่าเจ้าจะมีชีวิตรอดไปเห็นผู้บันทึกประวัติศาสตร์กล่าวโทษข้าหนือไม่!”นางเซี่ย “ไทเฮา!”ไทเฮามองนางปราดหนึ่ง พูดด้วยหน้าบึ้งตึง “พอแล้ว พี่หญิงนั่งลงเถอะ ข้าเองก็ทำเพื่อสั่งสอนลูกสะใภ้ในอนาคตให้ท่าน!”นางเซี่ยเห็นหรงจือจือเดินออกไปภายในใจปั่นป่วนว้าวุ่น จากนั้นลุกขึ้นเพื่อเข้าไปห้ามปรามด้วยตัวเองพระพักตร์ของไทเฮาย่ำแย่กว่าเดิมเมื่อเห็นพี่หญิงของตนเป็นเช่นนี้สั่งว่า “ห้ามพระชายาซื่อจื่อเอาไว้ อย่าให้นางก่อกวน!”บรรดานางกำนัล “เพคะ!”หรงจือจือคุกเข่าท่ามกลางหิมะ มองนางกำนัลยกถังน้ำเย็นเข้ามา ส่วนนางเซี่ยที่จะเข้

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status