หลังจากผ่านคืนเร่าร้อนมาสามคืน ดงชิกก็ได้รู้แล้วว่าแพทตี้เป็นผู้หญิงที่ยังสดใหม่ของวงการผู้หญิงกลางคืน แต่เขาก็ไม่สามารถเลี้ยงดูเธอได้เพราะครอบครัวของเขาไม่อนุญาตให้เขาเลี้ยงดูผู้หญิงคนไหน ถ้าหากจะใช้เงินซื้อมาครอบครองแล้วจบแบบนั้นครอบครัวของเขาไม่ว่า ถึงแม้ว่าจะเสียดายในความสดใหม่ของหญิงสาวที่มีรูปร่างและหน้าตาที่สวย เซ็กซี่ น่าครอบครอง แต่ผู้ชายคนนั้นก็คงไม่ใช่เขา
“เรายังเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหม...แพทตี้” เสียงทุ้มของดงชิกเอ่ยถามในค่ำคืนสุดท้ายที่เขาได้ร่วมรักกับเธอ
“แน่นอนสิดงชิก ขอบคุณนะที่ไม่รังเกียจที่จะเป็นเพื่อนกับผู้หญิงกลางคืนแบบแพทตี้” หญิงสาวบอกหลังจากที่นั่งลงบนเตียง เธอเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จหลังจากร่วมรักกับเขาครั้งสุดท้ายในเช้านี้
“คุณจะรับงานออฟอีกไหม... ถ้ารับอีกแล้วผมยังอยู่ไทย คุณเลือกผมได้ไหม”
เขายังคงเสียดายความสดใหม่ของเธอ ถึงแม้จะไม่ได้เลี้ยงดูแต่อย่างน้อยได้กลายเป็นลูกค้าประจำของเธอก็ยังดี
“เรื่องนั้นฉันยังไม่แน่ใจค่ะดงชิก แต่ฉันไม่อยากจะรับเลยสักนิด” ใบหน้าสวยหันไปมองสมาร์ทโฟนเครื่องเก่าของตนก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าต้องรีบไปโอนเงินให้มารดา
“เงินนี้ถึงจะไม่มาก แต่ผมก็คิดว่ามันจะทำให้คุณไม่ต้องออกไปกับผู้ชายอีกนาน”
เขายิ้มพร้อมทั้งหยิบธนบัตรแบงก์สีเทาออกมาให้เธอหนึ่งปึก นั่นก็หมายความว่าเขาให้เงินเกินกว่าที่ตกลงกันไว้ แพทตี้มองเงินที่เขาส่งให้ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองสบตาของเขา กับดงชิกเธอนั้นไม่ได้รู้สึกผูกพันเหมือนตอนที่อยู่กับแดนเนียล เพราะเขาคือผู้ชายคนที่สองของเธอในการทำงานขายบริการ
“ขอบคุณนะดงชิก”
เธอบอกเขาเพียงเท่านั้น ก่อนที่จะหยิบเงินที่ได้มาจากการขายร่างกายของเธอให้กับผู้ชายที่เจอกันได้ไม่นานมาใส่ในกระเป๋าสะพายใบเล็ก
“ถ้าผมยังอยู่พัทยา ผมจะแวะไปเลี้ยงดื่มคุณนะแพทตี้ ขอบคุณคุณเหมือนกันที่ยอมออกมากับผม และมอบความสุขให้กับผม” เขาบอกก่อนที่จะดึงเธอเข้าไปกอด เรียวแขนเสลากอดเขาตอบก่อนที่จะผละออก
“ฉันกลับก่อนนะคะ บ๊ายบายค่ะ”
ร่างเพรียวในชุดเสื้อกล้ามที่มีเสื้อแขนยาวสีดำคลุม สวมกางเกงวอร์มสีขาวเดินไปหยิบกระเป๋าและเดินไปเปิดประตูห้อง ก่อนที่จะออกหญิงสาวเหลียวมามองเขาและส่งยิ้มให้หนุ่มเกาหลีใจดีอีกครั้ง จากนั้นร่างระหงจึงออกจากห้องไปพร้อมกับหยดน้ำตาเม็ดเล็กๆ ที่ไหลลงมา
‘จบสิ้นสักที ความสุขชั่วคราว หนูหาเงินให้พ่อได้แล้วนะแม่’
หญิงสาวคิดในใจก่อนที่จะยกมือบางขึ้นมาปาดน้ำตาแล้วเดินตรงไปที่ลิฟต์ตัวเดิมที่เธอกับดงชิกใช้ขึ้นลงคอนโดตลอดระยะเวลาสองวันสามคืน
ทันทีที่ออกจากคอนโดของลูกค้าคนที่สองของเธอมาได้ หญิงสาวก็เรียกวินมอเตอร์ไซค์ไปส่งที่ธนาคารทันที แพรวาหรือแพทตี้เลือกโอนแบบตู้ฝากอัตโนมัติ เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว
เมื่อโอนเงินเข้าบัญชีตนเองเสร็จ หญิงสาวจึงโอนต่อไปให้มารดา จากนั้นจึงจัดการโทรไปแจ้งข่าวดีให้กับทางบ้าน มารดาของเธอดีใจ และรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ที่บุตรสาวสามารถช่วยแก้ปัญหาครั้งนี้ได้
ถึงแม้จะรู้สึกทุกข์อยู่ในใจว่าบุตรสาวต้องไปทำงานที่เสี่ยงอันตราย แต่จะทำอย่างไรได้ก็ในเมื่อเธอเองก็ช่วยเหลือใครไม่ได้เลย
ดาวอะโกโก้สาวเรียกวินมอเตอร์ไซค์อีกครั้งเพื่อกลับคอนโดที่เธอและเพื่อนอาศัยอยู่ด้วยกัน เธอมองสายเรียกเข้าที่มีถึงสี่ห้าสาย ซึ่งก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากแอมมี่ เพื่อนที่เธอสนิทที่สุด
และเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวในพัทยาที่จริงใจกับเธอมากที่สุด ใช้เวลาไม่นานพี่วินก็พาหญิงสาวไปส่งถึงที่หมาย ค่าวินที่เธอเสียไปสองรอบเกือบสองร้อยบาท และแน่นอนว่ามันย่อมแพงในเมืองท่องเที่ยวเช่นนี้
ร่างบางเดินขึ้นห้องไปอย่างรวดเร็ว เธอต้องรีบพักผ่อนก่อนที่จะกลับเข้าไปที่อะโกโก้คืนนี้หลังจากครบกำหนดที่ดงชิกบาร์ฟายเธอออกไป ทันทีที่เปิดประตูห้องเธอก็พบว่าเพื่อนสนิทของเธอยังนอนหลับสนิทอยู่
หญิงสาวจึงย่องเบาเข้าไปจากนั้นจึงเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชำระล้างร่างกายจากกลิ่นคาวโลกีย์อีกครั้ง ถึงแม้ว่าเธอจะอาบน้ำมาจากคอนโดของดงชิกแล้ว แต่กลิ่นครีมอาบน้ำของเขามันก็ไม่ใช่กลิ่นที่เธอใช้เป็นประจำ
“สามดอกหนึ่งร้อยบาทค่ะ” เด็กหญิงตัวน้อยที่มาช่วยมารดาขายดอกไม้เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม“เอาสามดอกจ้ะ”แพรวาบอกพร้อมกับส่งเงินให้ เด็กหญิงยกมือไหว้ก่อนที่จะรับเงินมาแล้วส่งดอกไม้ให้กับลูกค้าใจดี“ขอบคุณค่า...ขอให้คุณน้าสวยๆ รวยๆ ได้เป็นมาดามนะคะ”คำขอบคุณผสมคำอวยพรของเด็กหญิงรุ่นราวคราวเดียวกับอินทัชเรียกเสียงหัวเราะเอ็นดูออกมาจากหญิงสาวที่นั่งฝั่งตรงกันข้าม แอมมี่ส่ายหน้าไปมาให้กับความใจดีของเพื่อนสนิท กับความไร้เดียงสาของเด็กขายดอกไม้“อันนี้หม่ามี๊ให้อินทัช อันนี้ให้น้องอันนา และอีกดอกให้ป้าแอมมี่กับน้องแองจี้ค่ะ”“ขอบใจจ้ะ..ขอให้ได้เป็นมาดาม คิกๆๆๆ”แอมมี่ไม่วายรับดอกไม้มาก่อนเอ่ยแซว แพรวายิ้มเขินส่งไปให้ คำว่ามาดาม มีคำจำกัดความมาจากอะไร เธอรู้ดี แต่เธอก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าชีวิตนี้จะได้เป็นมาดามของใครสักคนดีที่ว่าดอกกุหลาบทั้งสามมีพลาสติกสีสวยห่อหุ้มก้านจับอยู่ เธอเลยให้เด็กๆ ถือได้ แอมมี่เมื่อรับดอกไม้มาจากเพื่อนสาวแล้วจึงส่งให้กับบุตรสาว โชคดีที่ก้านกุหลาบไม่มีหนาม“ขอบคุณครับ/ค่ะ” สองพี่น้องเอ่ยคำขอบคุณมารดาพร้อมกัน“หม่ามี๊ครับ ทำไมเด็กผู้หญิงคนนั้นต้องมาขายดอกไม้ด้วยล่ะครับ”อินท
ภาพของหนุ่มฝรั่งกับผู้หญิงไทยผิวขาวผมดำยาวคลุมแผ่นหลังไปถึงบั้นท้ายเดินจูงเด็กชายวัยห้าขวบกับเด็กหญิงวัยสามขวบเดินออกมาจากประตูทางออกของผู้โดยสารขาเข้า การเดินทางมารอบนี้สองสามีภรรยาไม่มีผู้ติดตามมาด้วยเป็นการเดินทางมาแบบครอบครัวเมียร์จริงๆ“ลุงโอเว่น ป้าแอมมี่ น้องแองจี้ สวัสดีครับ” เสียงเด็กชายวัยห้าขวบร้องเรียกชื่อของคนที่มารอรับ“โอ้โห... หลานชายป้าโตเป็นหนุ่มแล้วหล่อเชียว” แอมมี่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นร่างเล็กของหลานชาย ลูกชายคนแรกของเพื่อนสนิท“นั่นสิ.. โตแล้วหล่อเหมือนพ่อเรานะเนี่ย”โอเว่นเห็นด้วยก่อนที่จะยักคิ้วให้เพื่อนสนิทที่เดินเข็นรถเข็นที่มีกระเป๋าเดินทางหลายใบตามหลังภรรยาและลูกๆ มา“น้องอันนาก็โตวัยจังเลย ดูสิกลายเป็นสาวขี้อายไปแล้ว น่ารักจัง”อันนา บุตรสาวคนเล็กของแพรวากับสตีเว่นมีนิสัยต่างจากพี่ชาย เธอขี้อายแต่ทว่าเรียนรู้เร็ว ส่วนอินทัชนั้นช่างเจรจา ช่างซัก ช่างถามตามวัยของเขา“น้องแองจี้ก็โตแล้วนะครับ”แองจี้คือลูกสาววัยหนึ่งขวบของแอมมี่และโอเว่น ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกันเมื่อสองปีที่แล้ว โดยโอเว่นขอเธอแต่งงานขณะที่ไปเยี่ยมแพรวาตอนครั้งที่แพรวาคลอดน้องอันนา ทั้งคู่แต่งงานก
พ่อแม่ลูกสวมกอดกัน แพรวากราบลาก่อนที่จะให้ตากับยายได้อุ้มหลานชายอีกครั้งหนึ่ง เด็กชายอินทัช เมียร์ ดูเหมือนจะรู้เขาร้องไห้ออกมาเนื่องจากรู้สึกผูกพันกับตายายอยู่ไม่น้อยแพรวากลั้นน้ำตาอุ้มลูกขึ้นรถตู้ที่มีป้าเดซี่และน้องเอวานรออยู่ สตีเว่นยกมือไหว้ลาพ่อตาแม่ยายอย่างน่าเอ็นดู แพรวายกมือขึ้นโบกลาบิดามารดาในขณะที่รถตู้ค่อยๆ ขับเคลื่อนออกจากบริเวณบ้านไปสองเดือนต่อมาหลังจากกลับมาจากประเทศไทยแพรวาก็ทำหน้าที่ภรรยาและแม่ที่ดีไม่มีขาดตกบกพร่อง แม้จะคิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อแม่ที่ประเทศไทยบ้าง แต่พอได้หายคิดถึงบ้างก็เพราะเทคโนโลยีสมัยใหม่ อินทัชส่งเสียงอ้อแอ้เข้าไปตามสายให้คนอีกซีกโลกได้ชื่นใจ แพรวาแค่เห็นว่าบิดาและมารดายังแข็งแรงดีเธอก็รู้สึกสบายใจ“อุ๊บ!!! แอว๊ะ”เสียงอาเจียนของคุณนายเมียร์ดังขึ้นหลังจากที่เพิ่งเข้ามาในครัวในยามเช้า ป้าเดซี่ต้องรีบเข้ามาดู เพราะปกติคุณนายเมียร์ไม่เคยมีอาการแบบนี้“คุณนายเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” เธอถามด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเป็นห่วง“เหม็นกระเทียมค่ะ ปกติไม่ได้เหม็นขนาดนี้”ป้าเดซี่ถึงกับทำหน้าสงสัย เพราะที่คุณนายบอกมานั้นไม่ผิด ปกติคุณนายเมียร์จะไม่เหม็นหรือแพ้อะไ
เช้าวันใหม่ในวันแรกในจังหวัดเชียงใหม่ วันนี้แพรวามีแพลนว่าจะพาบิดามารดาเข้าเมืองไปเลือกซื้อเสื้อผ้าใหม่ ป้าเดซี่กับเอวานเดินทางมาจากในเมืองเพื่อมารับครอบครัวเมียร์และบิดามารดาของคุณนายเมียร์ สตีเว่นทำหน้าที่อุ้มลูกชายอย่างน้องอินทัชระหว่างที่ภรรยาของเขาพาครอบครัวเลือกซื้อเสื้อผ้า ป้าเดซี่อยากไปเที่ยวชมวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่ พอดีกับแพรวาที่จะพาครอบครัวไปแวะไหว้พระพอดี“วัดนี้ชื่อวัดพระสิงห์ค่ะ เป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดเชียงใหม่อีกวัดหนึ่งและเป็นอีกหนึ่งวัดที่นักท่องเที่ยวจากทั้งไทยและต่างประเทศมักจะแวะเวียนมาเที่ยวชมอยู่ไม่ขาด”ไกด์จำเป็นอย่างแพรวาเริ่มบอกเล่าประวัติความเป็นมาของวัดพระสิงห์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ให้กับสามีและป้าเดซี่ที่ดูจะสนอกสนใจกับประติมากรรมแบบล้านนา กรุ๊ปทัวร์ต่างมองมาที่สาวไทยที่มีใบหน้าสวย ผิวขาวผุดผ่องที่ดูภายนอกเหมือนจะเป็นไกด์จากบริษัทใดบริษัทหนึ่ง แต่ดูอีกทีก็เหมือนจะเป็นคนในครอบครัวของฝรั่งกลุ่มนั้นด้วยสายตาชื่นชมที่การพูดสำเนียงภาษาเยอรมันราวกับว่าเกิดและเติบโตที่ประเทศเยอรมนีก็ไม่ปาน“นั่นไกด์หรอ หรือว่านักท่องเที่ยวเหมือนกัน”“น่าจะเ
สิบชั่วโมงกับการเดินทางไกล เด็กน้อยทั้งสองรวมไปถึงป้าเดซี่ต่างพากันสลบไสลตั้งแต่ถึงจังหวัดตากแล้ว จน ณ เวลานี้รถตู้เคลื่อนตัวเข้าสู่อำเภอบ้านเกิดของแพรวาทั้งสามคนก็คงยังไม่ตื่น สตีเว่นเปิดห้องพักที่โรงแรมในเมืองให้กับป้าเดซี่ เอวานและคนขับรถได้พัก ส่วนสามคนพ่อแม่ลูกก็ไปพักที่บ้านของแพรวา ขณะที่รถตู้เคลื่อนไปจอดหน้าบ้านทรงโมเดิร์นหลังขนาดกลาง ชายหญิงวัยกลางคนก็รีบเดินออกมาต้อนรับด้วยความตื่นเต้น“พ่อจ๋า...แม่จ๋า หนูกลับมาแล้วจ้ะ”แพรวาอุ้มลูกน้อยวัยหนึ่งขวบลงมาจากรถตู้ สองตายายน้ำตาซึมที่ได้เห็นหลานชายตัวจริง ไม่ใช่เห็นเพียงการพูดคุยผ่านกล้องอย่างเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา“จ๋า...”เด็กน้อยเลียนแบบมารดาเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของตาและยายได้เป็นอย่างดี“อินทัช...หลานตา”“อินทัช...หลานยาย”สองตายายรีบเรียกชื่อหลานชายตัวน้อยขึ้นมาทันที ก่อนที่คุณยายจะส่งมือมารออุ้มหลานชายตัวน้อย อินทัชมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะโผเข้าไปหาอ้อมแขนของคุณยายยิ้มสวยตรงหน้าอย่างง่ายดาย“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะลูก เข้าบ้านก่อนไปๆ เดินทางกันมาเหนื่อยๆ”คุณตารีบบอกบุตรสาวและบุตรเขยพร้อมทั้งคนที่มาด้วยกันทันที“พ่อจ๋าแม
หลังจากที่พาบุตรชายดื่มด่ำบรรยากาศที่เมืองพัทยาอยู่สามวันครอบครัว ‘เมียร์’ ก็พากันเดินทางมุ่งหน้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแพรวา เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวพาบุตรชายกลับมาเยี่ยมตากับยาย การเดินทางไปครั้งนี้แพรวาได้เหมารถตู้จากพัทยาไปจังหวัดเชียงใหม่ โดยคนขับรถตู้คืออดีตการ์ดของอะโกโก้ที่เธอเคยทำงานอยู่ มาม่าซังจินตนาเป็นคนจัดหามาให้“คุณน้าแพรฮะ บ้านคุณน้าอยู่ไกลไหมฮะ” เด็กชายเยอรมันเอ่ยถามคุณน้าคนสวยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น“ไม่ไกลเท่าไหร่ครับ แต่ว่าเอวานต้องนอนหลับก่อนนะ ตื่นมาก็คงถึงพอดี”เสียงหวานเอ่ยออกมาเป็นภาษาเยอรมันจนคนขับรถอดที่จะรู้สึกชื่นชมหญิงสาวอดีตดาวอะโกโก้คนนี้ไม่ได้ เขาเห็นเธอเป็นเด็กที่ตั้งใจทำงาน เป็นคนดีมีน้ำใจ เวลาที่หญิงสาวออกไปกับลูกค้ากลับมา มักจะซื้อเหล้าหรือไม่ก็เครื่องดื่มชูกำลังเลี้ยงพวกการ์ดหน้าร้านเสมอ เขายังแอบคิดว่าสักวันเธอจะต้องได้เจอคนดีๆ มารักและสร้างครอบครัวกับเธอ จนในวันนี้ เขาอดที่จะดีใจไปกับเธอไม่ได้“พี่แบงค์ อยากทานอะไรไหมจ๊ะ”และเธอไม่เคยคิดว่าเขามารับจ้างเพียงเท่านั้น เธอคอยถามไถ่ความต้องการของเขาตลอดเส้นทาง“ไม่เป็นไรครับ น้องแพทตี้กับ