หน้าหลัก / โรแมนติก / โอบฟ้ามาห่มดิน / บทที่ 5 ให้ความรักเป็นหนังสือ - 75%

แชร์

บทที่ 5 ให้ความรักเป็นหนังสือ - 75%

ผู้เขียน: จรสจันทร์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-30 13:06:59

“เหม็นเหล้า!” ทันทีที่พูดจบ พราวนภาก็รู้สึกเหมือนโลกพลิกกลับ กว่าจะรู้ตัวอีกครั้งหญิงสาวก็พบว่าตนนอนอยู่ใต้ร่างเขาเสียแล้ว

“พี่ดิน!” เธอตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมด ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายเต้นกระหน่ำรัวเร็วจนแทบกระดอนออกมาข้างนอก สมองเริ่มทำงานอย่างหนักว่าจะทำอย่างไรต่อไปดีถึงจะพ้นไปจากสถานการณ์ล่อแหลมนี้ได้

ทว่ายังไม่ทันได้ใช้ความคิดอะไร พราวนภาก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนกอีกครั้งเมื่อจู่ ๆ ก็มีมือร้อนผ่าวข้างหนึ่งสอดเข้ามาในเสื้อแล้วเข้าเกาะกุมหน้าอกอย่างถือวิสาสะ

“พี่ดินบ้า!” ด้วยความตกใจจึงทำให้พราวนภาใช้เท้าถีบชายหนุ่มไปอย่างแรงจนนฤบดินทร์หงายหลังตกโซฟา จากนั้นก็ตาลีตาเหลือกลุกขึ้นแล้ววิ่งไปยืนอยู่ให้ห่างจากคนเมาแล้วหื่น

นฤบดินทร์คลำศีรษะตัวเองพลางทำหน้านิ่วคิ้วขมวดราวกับคนเพิ่งตื่นนอน เขามีท่าทางงุนงงเล็กน้อยขณะที่เงยหน้าขึ้นมองเธอ

“อ้าว พราวเองหรือ มาทำอะไร บอกว่าไม่ให้มาไม่ใช่หรือ” ชายหนุ่มลุกขึ้นจากพื้นแล้วเอนตัวนอนบนโซฟาตามเดิม เขาหันไปมองบนโต๊ะแล้วก็เลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย

“ใครเก็บ พราวเก็บหรือ”

พราวนภาเห็นว่าเขาดูเหมือนคนที่ไม่รู้ตัวเลยว่าเมื่อครู่ทำอะไรลงไป จึงพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุดแม้ว่าผิวเนื้อบริเวณที่ถูกเขาสัมผัสจะยังคงร้อนผ่าวราวกับมือเขายังเกาะกุมเอาไว้อยู่

“ใช่ พราวเก็บเองแหละ”

ชายหนุ่มพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนพูดว่า

“อืม ก็ดี ฝากด้วยนะ ล้างจานให้ด้วย”

จากนั้นเขาก็หลับไปอย่างรวดเร็วจนหญิงสาวได้ยินเสียงกรนเบา ๆ พราวนภายืนเท้าเอวพลางกลอกตามองเพดานอย่างอดกลั้นไม่ให้วิ่งเข้าไปทุบคนช่างสั่งด้วยความหมั่นไส้

“ให้มันได้อย่างนี้สิ ขนาดเมาอยู่แท้ ๆ ยังไม่วายออกคำสั่ง”

หญิงสาวยืนสงบสติอารมณ์ที่กระเจิดกระเจิงไปก่อนหน้าให้เข้าที่เข้าทาง ครั้นพอตั้งหลักได้แล้วจึงเข้าครัวไปจัดการเก็บล้างจานชามและแก้วจนสะอาด จากนั้นก็เอาถุงเศษอาหารและขวดสุราที่หมดแล้วออกไปทิ้งถังขยะหน้าบ้าน เมื่อกลับเข้ามาอีกครั้ง ก็เห็นว่านฤบดินทร์ยังคงนอนที่เดิม

เห็นทีคืนนี้ชายหนุ่มคงยึดโซฟาเป็นที่นอนแล้ว ดังนั้นพราวนภาจึงขึ้นไปหยิบผ้าห่มจากห้องนอนของเขามาห่มให้ และเพิ่มอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้สูงขึ้นอีกเล็กน้อย เสร็จเรียบร้อยจึงคิดจะเดินกลับบ้าน

พลันนั้น จู่ ๆ ความคิดแสบสันอย่างหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัว พราวนภารีบวิ่งขึ้นไปบนห้องของมัญชุดา มารดาของเขาแล้วหยิบบางอย่างถือติดมือออกมาด้วย เธอยืนมองใบหน้าหลับใหลของชายหนุ่มแล้วก็แย้มยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

นฤบดินทร์ตื่นขึ้นในเวลาเกือบเที่ยงของวันถัดมา คิ้วเข้มขมวดมุ่นเมื่อรู้สึกว่าศีรษะหนักอึ้งราวกับมีหินก้อนใหญ่มาถ่วงไว้ ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปรอบตัว เห็นบนโต๊ะตรงหน้าว่างโล่งราวกับว่าเมื่อวานไม่มีการสังสรรค์ระหว่างเขากับเพื่อนในหมู่บ้าน ครั้นพอเห็นผ้าห่มที่กองอยู่บนตักเขาก็พอรู้แล้วว่าใครเป็นคนมาเก็บกวาดให้

มุมปากของชายหนุ่มยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบาง ๆ เมื่อนึกถึงพราวนภา เขาสะบัดศีรษะแรง ๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปที่ครัวเพื่อหายาแก้ปวดมากิน แล้วดื่มน้ำเย็นจัดตามไปเกือบครึ่งขวด

ในครัวสะอาดเอี่ยมอ่อง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพราวนภามาจัดการให้อีกเช่นเคย เพราะหากเป็นมัลลิกา พี่สาวของเขาก็คงโวยวายลั่นบ้านแล้วไล่ให้เขาขึ้นไปนอนบนห้องแน่

ครั้นพอนึกถึงพราวนภา ชายหนุ่มก็จำได้ว่าเมื่อคืนตนฝันถึงหญิงสาว และฝันนั้นก็ช่างเหมือนจริงยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นหอมประจำตัวของเธอ และรสสัมผัสเนียนนุ่มมือจนไม่อยากตื่นจากฝัน

เอ๊ะ...เดี๋ยวก่อน!

“ฝันหรือเรื่องจริงวะ” ถ้าเป็นเรื่องจริงก็หมายความว่าเขาเกือบปล้ำพราวนภาอย่างนั้นหรือ!

“ไอ้บาสนะไอ้บาส” ชายหนุ่มได้แต่นึกโทษตัวต้นเหตุอย่างภราดร เพราะเมื่อวานมีการท้าทายกันขึ้น ภราดรท้าเขาว่าหากเขาสามารถดื่มสุราคนเดียวหมดหนึ่งกลม อีกฝ่ายจะล้มเลิกความคิดเรื่องการจีบพราวนภา ซึ่งแน่นอนว่าเขารับคำท้าอย่างไม่ลังเล และผลที่ตามมาก็คือเขาเมาปลิ้นจนหลับคาที่

ว่าแต่...ตกลงแล้วการที่เขาเกือบปลุกปล้ำพราวนภานั้นเป็นความฝันหรือเรื่องจริงกันแน่

ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางนวดขมับเบา ๆ คิดในใจว่าคงต้องลองตะล่อมถามหญิงสาวดูว่าเมื่อวานเขาเผลอทำอะไรเกินเลยไปบ้างหรือเปล่า

นฤบดินทร์เดินขึ้นไปบนห้องของตนเพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย ตั้งใจว่าหลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วจะลองเดินไปบ้านโน้นเพื่อฝากท้องสักมื้อ และจะได้คุยกับพราวนภาถึงเรื่องเมื่อวานนี้ด้วย

ทว่าพอเขามองเงาของตัวเองบนกระจกบานใหญ่ในห้องน้ำก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นสภาพของตัวเองที่สะท้อนออกมา

บนหน้าผากของเขามีสีน้ำตาลเขียนเอาไว้ว่า “คนขี้เมา” และบริเวณรอบปากของเขาก็ถูกวาดให้เป็นยักษ์เหมือนในละครจักร ๆ วงศ์ ๆ ของไทย แถมยังมีรอยเลือดตรงมุมปากที่วาดจากลิปสติกอีกด้วย

...ฝีมือใคร ไม่ต้องเดาก็รู้

“ยายหนูพราว!”

นฤบดินทร์นิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่ออาการปวดศีรษะกำเริบขึ้นอีกครั้งแม้ว่าจะกินยาแก้ปวดไปแล้วก็ตาม คิดในใจว่าหลังจากกินข้าวที่บ้านของพราวนภาเสร็จแล้วคงต้องกลับมานอนพักสักครู่

ชายหนุ่มเดินเข้าไปในบ้านอีกหลังอย่างคุ้นเคยโดยไม่ต้องขออนุญาตเจ้าของบ้าน เขาเข้าไปในห้องนั่งเล่นก่อนเป็นที่แรกเพราะรู้ดีว่าผู้อาวุโสของบ้านจะนั่งดูโทรทัศน์กันอยู่ในนั้น ส่วนบิดามารดาของคู่แฝดก็ออกไปทำงานกันแล้ว

“อ้าวตาดิน มาหาข้าวกินล่ะสิ” พิทยา ผู้เป็นปู่ของพราวนภากับสองฝาแฝดเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นเขาเดินเข้าไปพร้อมกับยกมือไหว้

“ครับ” ชายหนุ่มตอบสั้น ๆ ก่อนจะผงกศีรษะเป็นเชิงขออนุญาตแล้วเดินไปอีกทาง

เมื่อใกล้ถึงห้องครัว นฤบดินทร์ก็ได้ยินเสียงภัทร์นรินท์กับภานุภัทร์กำลังคุยกันด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นอยู่ตรงลานซักล้างด้านหลังห้องครัวจึงเดินเข้าไปหา เขาเห็นทั้งคู่นั่งยอง ๆ ก้มมองอะไรบางอย่างจนศีรษะแทบชนกันจึงชะโงกไปดูบ้าง และสิ่งที่ปรากฏต่อสายตาก็คือลูกแมวสามสีตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่งนอนหมอบอยู่บนพื้นหญ้าพร้อมกับส่งเสียงเล็ก ๆ ขู่ไม่ให้ใครเข้าใกล้

“ทำอะไรกันน่ะ” ชายหนุ่มถามหลานตัวแสบทั้งสองคน ภานุภัทร์เป็นฝ่ายชิงตอบก่อน

“ลูกแมวจากไหนก็ไม่รู้น้าดิน พีทได้ยินเสียงเมี้ยว ๆ ก็เลยลองเดินหาดู มัน...” ยังพูดไม่จบ ภัทร์นรินท์ก็ชิงพูดขึ้นมาบ้าง

“มันมีเลือดไหลที่ขาด้วยละน้าดิน สงสัยโดนหมาไล่กัดมาแน่เลยน่าสงสาร พายจะอุ้มไปหาคุณย่าให้พามันไปหาหมอแต่มันก็ไม่ยอมให้จับเลยละ มันข่วนพายด้วย” พูดจบก็โชว์แขนที่มีรอยข่วนเป็นทางยาวให้ดู

“รีบไปล้างแขนแล้วให้คุณย่าทายาให้เลยเร็วเข้า หรือไม่ก็ให้พี่พราวทาให้ ถ้าชักช้าแล้วเล็บแมวมันมีเชื้อโรคขึ้นมา ระวังเถอะแขนจะเน่า”

นฤบดินทร์เคยได้ยินณวัฒน์เล่าให้ฟังอยู่บ่อย ๆ เกี่ยวกับโรคต่าง ๆ ที่มากับสัตว์เลี้ยง และหลายโรคก็สามารถแพร่สู่คนได้จึงไม่อยากชะล่าใจ

ภัทร์นรินท์เบิกตากว้างด้วยความตกใจทันที เด็กหญิงก้มมองแขนตัวเองครู่หนึ่งก่อนจะหันหลังกลับวิ่งเข้าไปในบ้านพร้อมกับตะโกนเรียกผู้เป็นย่าเสียงดังลั่น

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 25 เข้าหาผู้ใหญ่ - 100%

    ทั้งสองหนุ่มคุยกันอีกเพียงไม่กี่ประโยคก็พากันแยกย้าย และไม่มีใครแตะเรื่องที่อัครัฐเคยลักพาตัวพราวนภาไปที่บ้านเพราะไม่ต้องการขุดเอาเรื่องเก่ามาพูดให้ขัดเคืองใจนฤบดินทร์ดูเวลาแล้วเห็นว่าเพิ่งบ่ายสี่โมงเท่านั้น เขาจึงตัดสินใจว่าคืนนี้จะกลับบ้าน คิดได้ดังนั้นจึงรีบกลับไปโรงแรมเพื่อเก็บข้าวของทุกอย่างลงกระเป๋าไว้ตามเดิม กระเป๋าเหลือพื้นที่ว่างอีกเพียบเพราะของฝากหลายรายการได้ถูกนำออกไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงจัดใหม่ให้เหลือเพียงสองกระเป๋าเพื่อให้ง่ายต่อการขนย้ายหลังจากเช็กเอาต์ ชายหนุ่มก็ขับรถไปคืนเพื่อนที่ร้านอาหาร จากนั้นก็นั่งแท็กซี่กลับมาบ้านด้วยตนเองโดยมาถึงบ้านในเวลาประมาณสองทุ่มนฤบดินทร์กดออดหน้าบ้านแล้วยืนรอให้คนในบ้านมาเปิดด้วยใบหน้าเรียบนิ่งหากแต่แววตานั้นระยิบระยับไปด้วยความตื่นเต้นเพราะอยากเห็นสีหน้าบิดามารดาว่าจะเป็นอย่างไรเมื่อเห็นหน้าเขาคนมาเปิดประตูเป็นบิดาของเขาตามคาด ท่านเขม้นมองเขาจนหัวคิ้วขมวดมุ่นจนเขาต้องแกล้งพูดออกไปว่า“อะไรกันครับพ่อ อายุยังไม่เข้าเลขเจ็ดเลย หูตาฝ้าฟางแล้วหรือครับ”“ไอ้ดิน! นี่แกมาโผล่อยู่ที

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 25 เข้าหาผู้ใหญ่ - 70%

    ในเมื่อเขาจะมาขอลูกสาวบ้านนี้เขาก็ต้องเรียกอีกฝ่ายว่าน้ากับยายตามพราวนภา ไม่ได้เรียกพี่กับป้าเหมือนเมื่อก่อน ครั้นจะเรียกจันทร์เจ้าว่าคุณแม่ตามแฟนสาวก็ยังเกรงใจอีกฝ่ายมากอยู่จันทร์เจ้ายิ้มกว้างก่อนจะหันไปพูดกับมารดา “ว่าไงคะคุณแม่ มีหนุ่มมาขอหนูพราวแล้วนะ”“แม่จะว่าอะไรล่ะ ก็สองคนนี้เขารักกันมาตั้งนานแล้วนี่นา ใคร ๆ เขาก็ดูออกกันทั้งนั้นแหละ แหม...” ได้ยินอย่างนั้นนฤบดินทร์จึงได้แต่ยิ้มเขิน“ส่วนน้าน่ะไม่ขัดข้องหรอก น้าเห็นดินมาตั้งแต่เด็ก ดินดูแลน้องยังไงบ้างน้าก็เห็นอยู่ในสายตาทั้งหมด เพราะฉะนั้นน้าเชื่อว่าในอนาคตข้างหน้าดินก็จะดูแลน้องได้ดีแน่นอน บอกตามตรงว่าถ้าเป็นดิน น้าก็หมดห่วงเรื่องหนูพราวแล้วนะ” ทั้งน้าและยายยิ้มให้ชายหนุ่มอย่างเอ็นดูเมื่อเห็นเขายกมือไหว้ขอบคุณอย่างอ่อนน้อม“ลุกนั่งข้างบนเถอะดิน ว่าแต่พ่อเขาน่ะรู้รึยัง” จันทร์เจ้าถามถึงภาวิน“ยังครับ ผมยังไม่ได้เข้าบ้านก็เลยยังไม่มีใครรู้ว่าผมกลับมาแล้ว เพราะตามจริงกำหนดกลับของผมจะต้องเป็นอีกหกเดือนข้างหน้า”“นั่นสิ

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 25 เข้าหาผู้ใหญ่ - 35%

    พราวนภาหอบหายใจถี่จนอกกระเพื่อมไหว นฤบดินทร์เลื่อนตัวขึ้นมานอนด้านข้าง ดึงผ้าห่มมาคลุมไว้ด้วยกันแล้วกอดเธอไว้แนบอกหญิงสาวสังเกตเห็นกล่องถุงยางอนามัยที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงแล้วรู้สึกแปลก ๆ จู่ ๆ ก็ไม่รู้สึกตื่นเต้นอย่างที่คิดแต่กลับกลัวมากกว่า ใบหน้าของบิดาลอยเข้ามาในห้วงความคิดก็ยิ่งรู้สึกผิดจนในใจปวดหนึบ“พี่ดิน” เธอเปลี่ยนใจแล้ว ขอเลื่อนของขวัญออกไปก่อนดีกว่าเพราะตอนนี้รู้สึกไม่สบายใจ“ครับ” น้ำเสียงอ่อนโยนของเขาที่ขานรับก็ทำให้เธอรู้สึกผิดอีกเช่นกัน อุตส่าห์รับปากเขาไว้เองแท้ ๆ แต่ทำไม่ได้ กลายเป็นว่าเธอผิดคำพูดทั้งกับบิดาของตัวเองและคนรัก“วันนี้พราวขอเลื่อนไปก่อนได้ไหม พราวขอโทษ” เธอไม่กล้าเงยหน้ามองเขา แต่ถ้าทำตามคำพูดของตนที่ให้ไว้ เธอก็จะไม่กล้ามองหน้าบิดาเช่นกันนฤบดินทร์เชยคางของเธอให้รับจูบจากเขาครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า“จะขอโทษทำไม พี่เข้าใจพราว พี่เคยบอกแล้วไงครับว่าทุกอย่างแล้วแต่พราว ถ้าพราวไม่พร้อมพี่ก็รอได้ไม่ซีเรียส พี่ไม่ได้รักพราวเพราะเรื่องอย่างว่าสักหน่อย”

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 24 ทวงของขวัญ - 100%

    “พี่ดิน นี่มันโรงแรมหรูกลางกรุงเลยนะ มันไม่ได้มีแค่ห้องพักอย่างเดียว แต่มีบุฟเฟ่ต์นานาชาติหัวละพันห้า บุฟเฟ่ต์เบเกอรี่หัวละห้าร้อย มีสปาที่ค่าเมมเบอร์แพ้งแพง และมีห้องจัดเลี้ยงนั่นนี่เยอะแยะไปหมด และที่พราวพูดไปทั้งหมดนั้น พราวมาใช้บริการหมดแล้วในชุดนักศึกษานี่แหละ เพราะฉะนั้นถ้าพราวจะขึ้นไปห้องพักกับพี่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกจนคนอื่นต้องหันมามองหรอก”นฤบดินทร์คิดตามที่พราวนภาพูดแล้วก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย...เธอพูดถูก เป็นเขาที่กังวลไปเองเมื่อขึ้นมาถึงห้องพัก พราวนภาก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่ถึงสามใบ เขาจึงบอกไปว่า“แค่ของฝากก็ใบหนึ่งเต็ม ๆ แล้ว อีกสองใบเป็นเสื้อผ้ากับรองเท้าที่พี่ซื้อใหม่ตอนอยู่ที่โน่น” เขาพูดจบก็เดินไปสวมกอดเธอจากทางด้านหลังแล้วก้มลงจูบซอกคอหอมกรุ่นของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา“คิดถึง” เขาซุกหน้าอยู่กับลาดไหล่ของเธอนิ่ง รู้สึกเหมือนว่าความวูบโหวงในใจได้รับการเติมเต็มแล้วนฤบดินทร์นึกได้ว่าตั้งแต่กลับมาถึงเขายังไม่ได้อาบน้ำชำระร่างกายเลย หากจะนัวเนียกับหญิงสาวก็เกรงว่าจะมีกลิ่นไม่พึ

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 24 ทวงของขวัญ - 70%

    “ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ ไม่ดีใจหรือที่พี่มาหา” ชายหนุ่มเอาคำพูดที่เธอเคยพูดกับเขาตอนอยู่สนามบินเมื่อครั้งไปหาเขาที่บอสตันมาพูดบ้าง ทำเอาเธอเบิกตากว้างเมื่อได้ยินเสียงของเขาชัดเจน“พี่ดิน! ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ” พราวนภาทั้งตกใจและแทบไม่อยากเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง ก่อนจะถูกความดีใจเข้ามาแทนที่จนอัดแน่นเต็มอก“ใช้ประตูสารพัดที่ของโดราเอมอนน่ะเลยมาโผล่ที่นี่ได้” เขาตอบหน้าตาย แต่เพื่อนทั้งสองคนของพราวนภาแอบหัวเราะกันคิกคัก หญิงสาวจึงตีแขนเขาเบา ๆ หนึ่งทีก่อนจะแนะนำเพื่อนสนิทของตนให้นฤบดินทร์รู้จัก“พี่ดิน นี่เก้ากับหลิงหลิง ที่พราวเคยเล่าให้ฟังบ่อย ๆ ไง”นฤบดินทร์ยิ้มและผงกศีรษะให้เล็กน้อยอย่างเป็นมิตร ก่อนจะถามแฟนสาวของตน “จะไปไหนกันหรือ”“พราวว่าจะไปเดินเล่นหาอะไรกินที่ห้างกับเพื่อนน่ะ”“เราไปกับหลิงหลิงสองคนก็ได้ พราวไปกับพี่เขาเถอะ” กาญจน์เกล้ารีบพูดขึ้นทันทีเพราะอยากให้ทั้งสองคนใช้เวลาอยู่ด้วยกันนาน ๆ อีกทั้งเพิ่งได้ยินพราวนภาบ่นไปหมาด ๆ ว่าคิดถึงแฟน

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 24 ทวงของขวัญ - 35%

    หลังจากสองหนุ่มขึ้นมานั่งบนรถกันเรียบร้อยแล้ว ศิวัฒน์ซึ่งทำหน้าที่ขับก็ถามขึ้น “แล้วนี่นึกยังไงถึงจะไปอยู่โรงแรมก่อนวะ บ้านช่องมีก็ไม่กลับ”นฤบดินทร์ยิ้มบาง ๆ เมื่อใบหน้าของพราวนภาลอยเข้ามาในหัว แต่เขาไม่อาจบอกเรื่องนี้กับเพื่อนได้ จึงได้แต่บอกเหตุผลอื่นไป“อยากจัดการเรื่องงานอะไรให้เรียบร้อยก่อนน่ะแล้วค่อยเข้าบ้านทีเดียว พรุ่งนี้นัดที่บริษัทไว้แล้วด้วยไงว่าจะเอาเอกสารไปยื่นให้เขา” เพราะเขาอยากจะเซอร์ไพรส์บิดามารดาเรื่องงานด้วย ก็เลยยังไม่เข้าบ้านวันนี้“มึงนี่ก็โชคดีว่ะ ไม่ต้องวิ่งหางานให้เหนื่อย เออใช่ กูลืมเล่าไป มึงจำไอ้เวย์ได้ใช่ไหมที่มันค้ายาน่ะ” ศิวัฒน์มองหน้าเขาก่อนจะหันไปมองถนนตามเดิม“อืม ทำไม”“มันโดนขาใหญ่สั่งเก็บไปตั้งแต่สองเดือนที่แล้วน่ะ เห็นพี่โตบอกว่ามันคงทำตัวเอิกเกริกเกินไป อย่างคราวยายเกรซก็ทีหนึ่งแล้วที่มันทำให้เรื่องราวบานปลายจนคนวงในเขารู้กันไปทั่วว่ามันค้ายา”“อ้อ พวกขาใหญ่ก็เลยกลัวว่าจะโดนลากไปเอี่ยวด้วยก็เลยฆ่าตัดตอนงั้นสิ” คราว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status