Accueil / รักโบราณ / กลิ่นพิษบุปผา / บทที่ 4 ยาพิษในราตรี

Share

บทที่ 4 ยาพิษในราตรี

last update Dernière mise à jour: 2025-09-07 18:18:08

บทที่ 4  ยาพิษในราตรี

คืนแรกของการมาเยือนจวนสกุลจ้าว ค่ำคืนนี้เงียบสงัดกว่าทุกคือ แสงจันทร์ฉาบลงบนหลังคาจวนเสนบดีจ้าว ราวกับแสงสุดท้ายก่อนพายุร้ายจะกระหน่ำลงมา

ดวงจันทร์ลอยลับหลังม่านเมฆ ทิ้งให้เงาค่ำครองทั่วเรือนจวนเสนาบดี

ลมเย็นเฉียบแทรกเข้าระหว่างซี่หน้าต่างราวกับเสียงกระซิบจากโลกวิญญาณ

และนั่นคือคืนแรกที่หลานฮวาเดินทางกลับมา…

ลมเย็นหอบกลิ่นสมุนไพรประหลาดบางอย่างลอยผ่านหน้าต่างบานเล็กของห้องครัวใหญ่ ไม่มีใครรู้ว่า กลิ่นหอมนั้นไม่ใช่กลิ่นของเครื่องปรุง แต่คือ พิษ จากยอดเขาอันไร้ผู้คน

พิษนิมิตเงา

เป็นยาที่ท่านทวดเคยเตือนนางมิให้ใช้ หากไร้เหตุจำเป็น มันไม่ฆ่า ไม่เจ็บ ไม่ปรากฏร่องรอย แต่จะชักนำผู้ถูกพิษเข้าสู่ห้วงฝันอันสั่นคลอนความจริง

บิดเบือนเวลา ความทรงจำ และดึงเอาความกลัวที่ซ่อนลึกที่สุดมาเปิดโปง และหลานฮวา…เลือกใช้มันลงมือในคืนนี้

เมื่อเรือนของหลานเมยกลายเป็นของนาง

เมื่อนางก้าวเข้ามาแทนที่พี่สาว

เมื่อต้องเริ่ม ล้างบัญชี และตามหาความจริง

ในฝัน

ฮูหยินจ้าว กรีดร้องสุดเสียงเมื่อร่างของนางตกลงจากหน้าผาสูงชัน ผ้าคลุมศีรษะสีแดงของเจ้าสาวพันรัดรอำคอนาง ดึงรั้งให้นางดิ่งลึกลงไปในหุบเหวที่ไม่มีที่สิ้นสุด เสียงหัวเราะของเด็กหญิงคนหนึ่งดังแทรก พร้อมกับเสียงกระซิบ

“ท่านแม่ใหญ่…อย่าแสร้งลืม ว่าเคยขังใครไว้ใต้เรือนเมฆขาว อย่าลืมว่าเฆี่ยนตีเด็กหญิงคนหนึ่งอย่างโหดร้าย คนที่ท่านบอกว่ารักดั่งบุตรในครรภ์”

จ้าวหยงชิง สะดุ้งตื่นกลางดึกหลังจากถูกลากเข้าสู่นิมิตที่น่าสะพรึง เขามองเห็น อนุจ้าว ที่ตายจากไปนานหลายปี สวมชุดเจ้าสาวเก่าเก็บที่หลานเมยเคยใส่ลองครั้งหนึ่ง ใบหน้าถูกไฟเผาจนบิดเบี้ยว แต่ดวงตากลับแน่วนิ่ง

“ท่านรับปากจะเลี้ยงดูบุตรสาวของข้าอย่างดี…แล้วเหตุใด หลานฮวา จึงตายโหงเยี่ยงนั้น”

เขาตัวสั่น เหงื่อแตกซึม

ก่อนร่างนั้นจะค่อย ๆ ยื่นมือที่เปื้อนเลือดฉ่ำมาทางเขา

“อีกคนก็ถูกพรากไป…อีกคนท่านก็ผลักไสจนตายจ้าวหยงชิง…ท่านก่อกรรมสิ่งใดไว้กับลูกของข้า”

เสียงสะดุ้งตื่นดังขึ้นพร้อมกันหลายเรือน

ฮูหยินจ้าว ร้องเรียกสาวใช้ด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว เสนาบดีจ้าวหอบหายใจรุนแรง ใจเต้นโครมครามราวกับกำลังหนีตาย

แม้แต่บ่าวไพร่ในเรือนเล็ก ๆ ยังฝันเห็นเงาดำที่เดินไปมาในจวนทั้งคืน

คืนแรกของการกลับมา หลานฮวาไม่ได้เพียงแค่ เข้ามาอยู่ในเรือนหลานเมยและแทนที่ตัวเจ้าสาวที่ตายไปนางเริ่ม สร้างรอยร้าวในใจของทุกคนที่เคยพรากบางสิ่งจากพี่สาวของนาง

รุ่งเช้าหลังคืนอันประหลาด…

แสงแดดยามสายเริ่มสาดเข้ามาในเรือน บ่าวไพร่ทยอยตื่นขึ้นมาทำหน้าที่ของตนตามปกติ เว้นก็เพียงแต่…บรรยากาศในจวนวันนี้ ช่างเงียบงันผิดปกติอย่างประหลาด

เสียงฝีเท้าเบา ๆ ของสาวใช้คนหนึ่งดังขึ้นในห้องน้ำชา นางชื่อ ซูซู เป็นบ่าวเก่าแก่ที่คอยดูแลเรือนหลานเมยมาตั้งแต่ยังเล็ก หลังจากคุณหนูหลานฮวาย้ายเข้ามาแทนที่ นางก็ยังรับหน้าที่เดิมต่อโดยไม่มีปากเสียงตามที่นายท่านสั่ง

ซูซูเก็บถาดน้ำชาที่เหลือจากเมื่อคืนไว้ในมุมเรือน นางกำลังจะล้างขันชาที่คุณหนูหลานฮวาใช้เมื่อคืน ทว่าทันทีที่เปิดฝากาน้ำออก…

“อึ่ก…!”

มือของนางชะงักทันทีที่กลิ่นแปลกประหลาดลอยขึ้นกระทบจมูก กลิ่นหอมขื่นเจือด้วยกลิ่นยาสมุนไพรบางชนิด ผสมกับกลิ่นโลหะอ่อน ๆ ที่นางจำได้ดีว่าเคยเจอตอนสมัยช่วยท่านหมอปรุงยาให้เจ้านาย น้ำในกามีสีขุ่นข้นคล้ายยาต้มที่ทิ้งไว้นาน ไม่ใช่น้ำชาใสที่นางรินให้เมื่อคืน

ซูซูเบิกตากว้าง มือสั่นเล็กน้อย ยกขันขึ้นดูอีกใบ ยังมีกลิ่นจาง ๆ แบบเดียวกัน

“ไม่ใช่ชาแน่นอน…ใคร…ใครเป็นคนเปลี่ยน…”

นางหันไปมองประตูด้วยหัวใจที่เริ่มเต้นถี่ราวกับรู้สึกได้ถึงสายตาใครบางคน…ที่กำลังจับจ้องจากที่ไหนสักแห่ง

ทันใดนั้น

“มีอะไรหรือซูซู” เสียงหวาน ๆ ดังขึ้นเบื้องหลัง

หลานฮวาในชุดสีดำขลับ ยืนอยู่ตรงกรอบประตูด้านนอก ดวงตาเรียบนิ่งแตะเข้ากับสายตาของซูซู นางสะดุ้ง รีบวางขันน้ำในมือแล้วก้มหน้าลง

“ม…ไม่มีเจ้าค่ะ บ่าวแค่จะล้างถ้วยชา”

หลานฮวายิ้มเพียงมุมปาก เดินเข้ามาช้า ๆ แล้วแตะปลายนิ้วลงบนฝากาน้ำชาที่เปิดอยู่ กลิ่นนั้นยังคงอ้อยอิ่งอยู่ในอากาศ

“อย่าทิ้งมัน” นางเอ่ยเบา ๆ ข้าอุตส่าห์ปรุงเองกับมือ”

ซูซูชะงัก หัวใจแทบร่วงถึงตาตุ่ม“ปรุง…ปรุงคุณหนูหมายถึง…”

“หมายถึงชานั่นแหละ” หลานฮวาพูดเสียงเรียบ นางยิ้มดวงตาทอประกายเยียบเย็น “เมื่อคืนทุกคนคงฝันหวานกันใช่ไหม”

เสียงหัวเราะเบา ๆ ของหลานฮวาลอยคลอในอากาศ ก่อนที่นางจะเดินจากไปเหลือเพียงซูซูที่ทรุดนั่งลงกลางห้องน้ำชา…มือเย็นเฉียบและเหงื่อผุดเต็มหลัง แม้ใบหน้าคุณหนูหลานเมยกับคุณหนูหลายฮวาจะเหมือนกันจนแยกไม่ออก แต่แววตาเสียงหัวเราะ ช่างต่างกันราว…ฟ้ากับเหว

เสียงหัวเราะของหลานเมย มักเจือด้วยความอบอุ่น อ่อนโยน แม้จะเกิดมาในฐานะดาวนำโชค ถูกคนทั้งจวนเอาอกเอาใจ ทว่าหลานเมยกลับไม่เคยถือเนื้อถือตัว นางยังลงมาเล่นกับบ่าวไพร่อย่างไม่มีถือตัว ยามที่นางหัวเราะ เสียงนั้นคล้ายสายลมในฤดูใบไม้ผลินุ่มนวลและเบาสบาย

แต่เสียงหัวเราะของหลานฮวา…

มันเย็นยะเยือก แม้จะเบาแต่กลับคล้ายคมมีดบาดผ่านหลังคอ เหมือนลมหายใจของบางสิ่งที่ไม่อาจมองเห็นกำลังไล่หลังอยู่เงียบ ๆ

นางคือเงา เงาของดาวหายนะที่ถูกผลักไสจากแสงสว่าง

ซูซูลูบหน้าอกตนเองเบา ๆ รู้สึกว่าหัวใจยังเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ

“เหมือนกัน…แต่ก็ไม่เหมือน…”

เสียงพึมพำของนางแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยินหากหลานฮวากลับมาเพื่อแก้แค้น…หากน้ำชานั่นคือเพียงจุดเริ่มต้น…หากฝันร้ายของทุกคนเมื่อคืนไม่ใช่แค่บังเอิญ…

จ้าวหยงชิงยืนเงียบอยู่กลางลานกว้าง มือที่กำดาบแน่นจนเส้นเลือดปูด ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุประหลาดเช่นนี้ แม้จะคิดว่านั่นคืออุปทานหมู่ เพราะมีคนหน้าเหมือนกันมาแทนที่คนที่เพิ่งตายจากไป แต่เขารู้ในใจว่า นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ  เขาทำได้เพียงเก็บความสงสัยไว้ภายในใจ เพราะนางคือเบี้ยตัวเดียวที่เขาเหลืออยู่

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • กลิ่นพิษบุปผา   ตอนพิเศษ 6 พ่อลูกสายรบ แม่สายยาพิษ

    ตอนพิเศษ 6 พ่อลูกสายรบ แม่สายยาพิษเมื่อแม่จับลูกกินยาตั้งแต่ขวบครึ่ง“ขมมาก…” เด็กชายตัวน้อยน้ำตาคลอเมื่อหลานฮวาหยดยาสีดำลงปาก“อือ อมไว้” นางว่าเสียงเรียบ“ท่านแม่…ข้าอยากกินขนม”หลางหานเจิ้งรีบเข้ามาอุ้มลูกพร้อมมองภรรยาอย่างอ้อนวอน“ฮวา…ลูกยังเล็กนัก”“หากท่านออกรบแล้วโดนพิษ ท่านจะหวังให้ลูกกินขนมรอท่านรอดกลับมาหรือ”“…ข้าจะเตรียมจดหมายพินัยกรรมไว้แต่เนิ่น ๆ ก็แล้วกัน…”การฝึกเชิงยุทธของพ่อลูกตั้งแต่ซื่อเหยียนอายุห้าขวบ หลางหานเจิ้งก็ให้เขาเริ่มฝึกหมัดพื้นฐาน“ข้าเจ็บ” เด็กน้อยครวญเมื่อฝ่ามือถลอกจากไม้กระบอง“แม่เจ้าเคยขุดสมุนไพรด้วยมือเปล่ากลางหิมะ ยังไม่ร้องเลย เจ้าเป็นชายจะร้องไห้เชียวหรือ”ซื่อเหยียนมองหน้าบิดา ก่อนเงียบและฝืนฝึกต่อจากนั้นหลางหานเจิ้งก็หันหลังไปซับน้ำตา…ของตัวเอง“ใจเจ้ากล้ากว่าใจข้าเสียอีก ซื่อเหยียน…” เขากระซิบเบา ๆ ด้วยเสียงสะเอื้อน จำต้องฝึกให้บุตรชายแข็งแกร่ง แต่ก็แอบน้ำตาซึมทุกคราที่เห็นเขามีน้ำตาอุบัติเหตุจากห้องปรุงยาวันหนึ่ง ซื่อเหยียนแอบเข้าห้องของมารดาคิดว่าเป็นครัว หยิบขวดที่คิดว่าเป็นน้ำหวานขึ้นมาชิม…ตื่นมาพบตัวเองนอนอยู่ในตั่ง ห่มผ้าแน่นหนาหลาน

  • กลิ่นพิษบุปผา   ตอนพิเศษ 5 ท่านแม่ทัพกับลูกน้อย

    ตอนพิเศษ 5 ท่านแม่ทัพกับลูกน้อยใครจะคิดว่าแม่ทัพผู้ดุดันแห่งแคว้นจะกลายเป็น บิดาผู้คลั่งรักลูกได้ถึงเพียงนี้แม้จะยังคงเป็นแม่ทัพที่ศัตรูหวาดกลัวในสนามรบ แต่ภายในจวนหลาง เขาคือชายผู้เงอะงะในยามอุ้มลูก และเคร่งเครียดยิ่งกว่าออกศึกยามลูกน้อยร้องไห้กลางดึกคืนแรกหลังจากลูกเกิดหลังหลานฮวาคลอด ลูกชายตัวน้อยถูกตั้งชื่อว่า หลางซื่อเหยียน หมายถึงหมอกเย็นแห่งขุนเขาคืนแรกหลังจากลูกเกิด หลางหานเจิ้งนั่งเฝ้าข้างเปลตลอดทั้งคืน“เขาจะหายใจไม่ออกไหม”“ไม่เจ้าค่ะ เด็กทุกคนก็เป็นแบบนี้”“แน่ใจหรือหรือเราควรมีหมอเฝ้าไว้ตลอดยามค่ำ”บ่าวรับใช้ต่างพากันอมยิ้มเมื่อเห็นแม่ทัพแห่งชายแดนผู้ไม่เคยย่อมคุกเข้าให้ใคร กำลังนั่งพับเพียบอยู่หน้าตั่งของลูกน้อย ดวงตาที่เคยดุดันกลับอ่อนโยนลงราวแสงจันทร์ที่สาดลงบนยอดหญ้าเมื่อเขาอุ้มลูกครั้งแรก หลางหานเจิ้งอุ้มดาบได้หลายร้อยเล่ม แต่พออุ้มลูกกลับแข็งทื่อประหนึ่งถือศิลาต้องคำสาป“ข้า…อุ้มแบบนี้ถูกหรือไม่”“ผิดหมดเลยเจ้าค่ะ เอาท้องคุณชายน้อยแนบอก ไม่ใช่แนบแขนแข็ง ๆ ของท่าน”แต่แล้วเมื่อซื่อเหยียนเงียบเสียงและซุกหน้าลงกับอกของเขา หลางหานเจิ้งนิ่งไปนาน…ก่อนจะค่อย ๆ ก้มลงจ

  • กลิ่นพิษบุปผา   ตอนพิเศษ 4 เริ่มต้นชีวิตคู่…และชีวิตใหม่ในครรภ์

    ตอนพิเศษ 4 เริ่มต้นชีวิตคู่…และชีวิตใหม่ในครรภ์หลังจากที่หลานฮวาตัดสินใจ ลองใช้ชีวิตเยี่ยงสามีภรรยา กับหลางหานเจิ้ง ชีวิตประจำวันของทั้งสองค่อย ๆ แปรเปลี่ยนจากความเคยชินสู่ความผูกพันที่ลึกซึ้งเขาเริ่มลุกก่อนทุกเช้า ชงชาสมุนไพรให้นาง นางเริ่มคอยรอเขากลับจากว่าราชการ แล้วตักข้าวให้ในมื้อค่ำบางวันเขาจะนั่งแกะผลไม้อย่างเงียบ ๆ ให้นาง บางวันนางจะถักด้ายให้เขาเอาไปเย็บผ้าคลุมไหล่ใหม่ไม่มีคำรักพร่ำเพรื่อ ไม่มีพิธีรีตรองแต่การกระทำเล็ก ๆ เหล่านี้ค่อย ๆ เติมเต็ม ใจ ที่เคยด้านชาจากอดีตจนกระทั่งวันหนึ่ง…ยามสายของฤดูใบไม้ผลิหลานฮวารู้สึกคลื่นไส้อย่างไร้สาเหตุมาแล้วหลายวันในที่สุดนางก็ยอมให้หมอประจำจวนตรวจดู“คุณหนู…มิใช่ ฮูหยิน…ขอแสดงความยินดีด้วยขอรับ ท่านตั้งครรภ์แล้ว”นางนิ่งไปครู่หนึ่งไม่ใช่เพราะตกใจ แต่เพราะจิตใจนาง…ไม่เคยเตรียมรับข่าวนี้จริง ๆบุตรคนหนึ่ง…ในร่างของนางบุตรของนางกับเขาเมื่อหลางหานเจิ้งกลับมาถึงเรือนเขารู้ได้ทันทีว่านางมีเรื่องจะบอก หลานฮวาไม่ได้พูดอะไรทันที นางเพียงวางมือเขาเบา ๆ บนหน้าท้องของตนเอง แล้วกระซิบช้า ๆ“ท่านจะได้เป็นบิดาแล้ว”เขาชะงักไปชั่วขณะจากนั้นคุกเข

  • กลิ่นพิษบุปผา   ตอนพิเศษ 3 มือหนึ่ง…และรอยยิ้มแรก

    ตอนพิเศษ 3 มือหนึ่ง…และรอยยิ้มแรกบรรยากาศบนเรือนเหม่ยฮวานิ่งสงบเสียงใบไม้ไหวแผ่วเบา คล้ายเสียงกระซิบของหัวใจหลางหานเจิ้งยังคงนั่งอยู่ข้างนางมือเขายังประสานกับมือนางอย่างแผ่วเบาราวกับกลัวว่าแรงไปเพียงนิด จะทำให้นางผละหนีเวลาผ่านไปเพียงครู่หรืออาจเนิ่นนานกว่าที่ใครจะรู้หลานฮวาที่เคยมองลงต่ำพลันขยับนิ้วมือเล็กน้อยก่อนที่ปลายนิ้วของนางจะค่อย ๆกุมมือเขาตอบ อย่างเงียบงัน และมั่นคงหลางหานเจิ้งไม่ได้หันมามองทันทีแต่หัวใจเขาเต้นถี่ขึ้นราวกับจะขาดไม่ใช่เพราะหวังว่านางจะรักแต่เพราะรู้ว่า…นางเริ่มเชื่อใจและในจังหวะที่สายลมพัดเอาเส้นผมของนางปลิวมาสะบัดเบา ๆนางกลับยกมืออีกข้างมาจัดมันอย่างเงียบ ๆพร้อมกับ ยิ้มบาง ๆ ออกมาโดยไม่รู้ตัวรอยยิ้มที่ไม่ใช่เพื่อปกปิด ไม่ใช่เพื่อเย้ยหยันแต่เป็นรอยยิ้มแท้จริง เหมือนบุปผาที่ผลิบานโดยไม่ทันได้รู้ตัวว่า ฤดูใบไม้ผลิได้มาเยือนแล้วหลางหานเจิ้งเห็นรอยยิ้มนั้นจากหางตาเขาไม่พูดอะไร เพียงแต่โน้มตัวลงเล็กน้อยใช้แขนอีกข้างประคองลมเย็นที่พัดมาทางนางไม่ให้โดนตัว“หนาวหรือไม่”เสียงของเขายังแผ่ว อ่อนโยนเหมือนเดิมหลานฮวาส่ายหน้าช้า ๆก่อนจะเอนศีรษะพิงกับเสาเรือนอย่า

  • กลิ่นพิษบุปผา   ตอนพิเศษ 2 ใต้เงาจันทร์ ใจหนึ่งเผยความจริง

    ตอนพิเศษ 2 ใต้เงาจันทร์ ใจหนึ่งเผยความจริงหลานฮวานั่งมองเปลวเทียนที่สั่นไหวในยามค่ำคืน แสงอุ่นนั้นคล้ายคลึงกับดวงตาของหลางหานเจิ้งที่มองนางอย่างไม่เคยเปลี่ยน ตั้งแต่วันที่เขาแต่งนางเข้าจวน…จนถึงวันนี้ เขายังคงเป็นเช่นเดิมเขาอยู่ตรงนั้นเสมอ“ความรักระหว่างชายหญิง ข้าเคยเห็นมานัก…แต่ไม่เคยเข้าใจ”นางพึมพำกับตนเอง “บางที…มันอาจจะไม่ต่างจากความรู้สึกที่ข้ามีให้พี่สาวฝาแฝด ความรู้สึกอุ่นใจเมื่อได้อยู่ใกล้ ความเงียบที่ไม่อึดอัด ความคิดถึงในยามจากไกล”แม้นางจะบอกกับหลางหานเจิ้งว่า “ข้าอาจจะรักท่าน”แต่นางก็ไม่รู้ว่า รักเช่นนั้นลึกซึ้งเพียงใดนางไม่รู้ว่ารักคือแรงปรารถนาอันเร่าร้อนหรือคือความเข้าใจอันลึกซึ้งระหว่างวิญญาณสองดวง แต่สิ่งหนึ่งที่นางรู้แน่คือ…“เมื่ออยู่ใกล้เขา ข้ารู้สึกปลอดภัย รู้สึกว่าตนไม่ต้องเข้มแข็งตลอดเวลา”กับคนอื่น หลานฮวาต้องปั้นหน้า ต้องระวังคำพูด ต้องคอยรับมือกับอันตรายรอบด้าน แต่กับเขา…นางแค่นั่งนิ่ง ๆ เงียบ ๆ ก็พอ เขาไม่เร่งเร้า ไม่คาดหวังนางไม่รู้ว่าเรียกสิ่งนี้ว่ารักหรือไม่แต่หาก “รัก” คือการไม่อยากให้อีกฝ่ายหายไปจากชีวิต นางก็กลัวอยู่ลึก ๆ ว่า หากวันหนึ่งเขาหายไ

  • กลิ่นพิษบุปผา   ตอนพิเศษ 1 เกี้ยวภรรยาตนเองมิผิด

    ตอนพิเศษ 1 เกี้ยวภรรยาตนเองมิผิด“ขอเพียงเจ้าอยู่ตรงนี้… ข้าจะรอ”หลังจากเรื่องราวทั้งหมดจบลง หลานฮวาไม่เคยแสดงความยินดีหรือให้ความสนิทสนมกับสามีของตนแม้แต่น้อย นางยังคงใช้ชีวิตเช่นเคย มีเรือนของตน ไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคนอื่น และไม่เปิดใจรับใครเข้ามาเพิ่มทว่า แม่ทัพหลางหานเจิ้งกลับไม่เคยบังคับ เขาเฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ และรอ ราวกับเชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่ง ดอกไม้พิษดอกนี้จะยอมเผยกลีบงามให้เขาเห็นด้วยตนเอง“วันนี้เจ้ากินข้าวหรือยัง”“ท่านแม่ทัพอย่ากังวล ข้าไม่ใช่คนลืมกินข้าว”“เจ้ากินแต่อาหารที่คนครัวทำ ข้าฝึกฝีมือมาหลายเดือน… ลองชิมดูหน่อยสิ”หลานฮวาเหลือบมองถ้วยซุปปลาที่เขายื่นมา รอยยิ้มเล็ก ๆ ผุดขึ้นตรงมุมปาก “ท่านทำเอง”“ด้วยมือของข้าเอง ขนาดแม่ทัพยังต้องล้างปลา นั่นเรียกว่าความรักใช่หรือไม่”“ไม่แน่ใจ อาจจะเรียกว่าความว่างงาน”แม่ทัพหลางหัวเราะร่วน เสียงหัวเราะนั้นทำให้สาวใช้แถวนั้นพากันกลั้นยิ้ม เพราะไม่ค่อยมีใครได้เห็นแม่ทัพหน้านิ่งของพวกนางยิ้มเช่นนี้บ่อยนักในคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก พายุกระหน่ำจวนจนประตูเรือนหลายแห่งเปิดกระแทกเสียงดัง สาวใช้ทุกคนรีบหาที่หลบ ฝนสาดเข้าเรือนเหม่ยฮวาจนเปี

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status