เข้าสู่ระบบEP.5
“ไม่หรอก แค่พูดถึง ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีให้” “นายดูไม่กลัวนะครับ” “ขึ้นชื่อว่าสิ่งที่มองไม่เห็นมันก็น่ากลัวทั้งนั้นแหละ ถ้ามึงอยากรู้ไว้ยัยนั่นฟื้นกูจะถามให้” “ไม่ต้องก็ได้ครับ” “ทำไมล่ะ มึงอยากรู้ไม่ใช่เหรอ” ภานุยิ้มฝืนๆ ถึงตอนนี้เขาไม่อยากรู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งที่มองไม่เห็นแล้ว ยิ่งรู้ก็ยิ่งกลัว“แล้วนายจะนอนนี่เหรอครับ” “ใช่ ผู้หญิงคนนั้นต้องการให้กูช่วย” “ครับ?” “ไม่ต้องสงสัยหรอก มึงไปเตรียมเสื้อผ้าให้กูด้วย แล้วมึงจะนอนไหนก็เรื่องของมึง” แม้จะไม่เข้าใจเวลาที่มองเห็นแววตาคล้ายกับคนโรคจิตในตอนที่เจ้านายพูดถึงผู้หญิงคนนั้นแต่ลูกน้องหนุ่มก็พยักหน้ารับคำสั่ง ภาวนาอย่าให้มีเหตุการณ์แปลกๆระหว่างที่เขาขับรถกลับไปเอาของเลยเพราะแค่นี้ก็เกินจะรับไหว @วันต่อมา ร่างของหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงคนป่วยกระตุกเบาๆ เสียงรอบข้างที่เข้ามารบกวนรวมถึงอาการระบมช้ำที่เข้าเล่นงานทำให้ร่างอรชรลืมตาโพลงขึ้นมาจนพยาบาลที่ตรวจอาการอยู่ตกใจ “โอ๊ยยย”ความเจ็บปวดที่สะโพกทำให้มิลินร้องออกมาเสียงดัง “คะ…คนไข้ฟื้นแล้ว”พยาบาลสาวกล่าวด้วยความดีใจ นิ้วเรียวยาวขยี้ตาไล่ความงัวเงียก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบห้องผู้ป่วยVIP และดึงสายตากลับมามองตัวเองที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย แขนขาของเธอมีรอยถูกมัดจางๆ มันทำให้เธอประหลาดใจอย่างมาก “นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย พวกคุณทำอะไรฉัน แขนขาฉันไปโดนอะไรมา” “คนไข้เกือบจะเสียชีวิตค่ะ” “ห๊ะ?หมายความว่าไง” “เหมือนว่าจู่ๆอวัยวะภายในร่างกายของคนไข้หยุดทำงานเอาเสียดื้อๆ คนไข้ชีพจรอ่อนลงทุกที แต่น่าแปลกที่ในระหว่างนั้นมีเสียงสวดมนต์ดังแทรกตลอดและคนไข้ดิ้นพล่านได้ด้วยค่ะ ก็เลยต้องมัดไว้กับเตียง หมอช่วยชีวิตเรื่อยๆแล้วทุกอย่างมันก็กลับมาปกติเฉยเลย อวัยวะทุกอย่างใช้งานได้ปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วหลังจากนั้นคนไข้ก็หลับไปอีกหนึ่งวันเต็มๆ จนถึงตอนนี้ที่ฟื้นมาเนี่ยค่ะ หมอมาดูอาการตลอดทุกอย่างปกติดีจนน่าสงสัยไปหมด ฉันก็ไม่รู้จะเรียกสิ่งนี้ว่าอะไรเหมือนกัน” ไม่อยากเชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับตัวเองจริงๆ มันน่าเหลือเชื่อ ท่าทางแปลกๆเหมือนหวาดระแวงอะไรบางอย่างของพยาบาลก็ทำให้เธองงเข้าไปใหญ่ “นี่คุณไม่ได้ล้อฉันเล่นใช่ไหม” “เรื่องจริงค่ะ เรื่องคอขาดบาดตาย พยาบาลไม่กล้าเอามาล้อเล่นหรอกค่ะ” “….”มิลินหยิกแขนตัวเองเบาๆ ความเจ็บที่ได้รับตอกย้ำว่านี่ไม่ใช่ความฝัน พยาบาลคงไม่ได้ล้อเธอเล่น “จำเหตุการณ์ก่อนหน้าที่จะมาโรง’บาลได้ไหมคะ” “….จำได้ ฉันเป็นลมแล้วก็เพิ่งรู้สึกตัวเนี่ย” “ถูกต้องค่ะ แล้วจำเรื่องราวทุกอย่างได้ใช่ไหมคะ มีความจำส่วนไหน หายไปไหม” “ก็จำได้ปกติ เหมือนแค่นอนหลับไป ฉันรู้สึกเหมือนว่าเพิ่งเป็นลมไปแป๊บเดียวเอง” “งั้นก็คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วค่ะ แล้วตอนนี้มีอาการอะไรไหมคะ” “ไม่มี”ยังอยู่ในอาการสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้น ใจเธอมันหวิวอย่างบอกไม่ถูก เธอนอนทำใจให้สงบให้หายจากอาการช็อค ระหว่างนั้นก็ให้พยาบาลตรวจร่างกายไป “ …แล้วฉันจะออกจากที่นี่ได้วันไหน” “หมอคงต้องมาตรวจอีกรอบนะคะ แล้วก็ต้องคุยกับญาติคนไข้ก่อนด้วย” “ญาติ? เตชินท์?” “ไม่มีคนชื่อเตชินท์นะคะ มีแต่คุณมาร์ติน เมื่อคืนเขานอนเฝ้าคุณทั้งคืนเลยนะคะ” “ใครคือมาร์ตินเหรอ” “เอ้าคุณไม่รู้จักคุณมาร์ตินเหรอคะ นึกว่ารู้จักกันซะอีก เห็นคุณตินเฝ้าหน้าห้องทั้งคืน ฉันก็นึกว่าคุณตินจะมาเฝ้าแฟนซะอีก” “แฟน? คงจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะคะ ถ้าเป็นผู้ชายตัวสูงๆขาวๆ เป็นคนช่วยพาฉันมาที่นี่ฉันไม่รู้จักค่ะ ….แล้วเขาเป็นใครเหรอคะ” “เขาเป็นนักธุรกิจแล้วก็เป็นหลานของเจ้าของโรงพยาบาลนี้ค่ะ” “หลาน?” “ใช่ค่ะ” “แค่นี้เองเหรอ” “ใช่ค่ะ” “รู้อะไรเกี่ยวกับเขามากกว่านี้ไหม” “ไม่ทราบเลยค่ะ อันนี้ข้อมูลเบื้องต้นที่เขาเล่าต่อๆกันมาค่ะ” มิลินตัดเรื่องของมาร์ตินออกไปจากหัว ฉุกคิดขึ้นมาได้กะทันหันว่าต้องโทรหาเตชินท์ ป่านนี้ทุกคนคงเป็นห่วงเธอแย่ แต่เมื่อมองหาของสำคัญอย่างกระเป๋าสะพายบนโต๊ะและรอบๆตัวกลับไม่พบ “กระเป๋าฉันล่ะ” “ไม่ทราบเลยค่ะ น่าจะอยู่ที่คุณตินนะคะ” “งั้นขอยืมโทรศัพท์ได้ไหม” “ได้ค่ะ” “ขอบใจ แต่ออกไปก่อนได้ไหม ไม่ชอบให้ใครอยู่ด้วยตอนคุยโทรศัพท์” “ค่ะ”พยาบาลสาวปลดล็อกหน้าจอโทรศัพท์ให้มิลินจากนั้นก็ต้องจำใจไปรอข้างนอกตามคำสั่ง หญิงสาวลงจากเตียงอย่างทุลักทุเล เมื่อเท้าเหยียบพื้นเย็นเฉียบก็เซเล็กน้อย เดินเข้าไปห้องน้ำพร้อมกับเสาน้ำเกลือ นำโทรศัพท์ของพยาบาลสาวมากดโทรหาลูกน้องเพียงคนเดียวที่จำเบอร์ได้นั่นคือเตชินท์ รอสายอยู่นานแต่สุดท้ายปลายสายก็กดรับเบอร์แปลก (ครับ ใครครับ) “ฉันมีนเอง” (นายหญิง!)เตชินท์ตะโกนลั่นด้วยความดีใจ ตามมาด้วยเสียงของใครหลายคนที่อยู่บริเวณนั้นแทรกเข้ามาด้วยความดีใจไม่ต่างกัน (นายหญิงยังไม่ตาย) “ก็เออสิวะ”ปลายสายเฮลั่น สบายใจอย่างมากหลังจากที่กลัดกลุ้มมานาน (นายหญิงอยู่ไหนครับ เป็นยังไงบ้างครับ) “ใจเย็นนะ ตอนนี้ฉันอยู่โรงพยาบาล ยืมโทรศัพท์คนแถวนี้มา” (นายหญิงเป็นอะไรไปครับ! แชร์โลเคชั่นมาเดี๋ยวผมจะไปรับ!) “ไม่ต้อง ฉันกลับไปเองได้ ฉันแค่เป็นลมน่ะ วิ่งหนีพวกแม่งโคตรเหนื่อยเลย แล้วไอ้เมฆาเป็นไงบ้าง” (ไอ้เมฆารักษาตัวอยู่ มันไม่ตายผมไม่รู้ว่ามันจะแค้นนายหญิงมากกว่าเดิมไหม) “เอาอย่างงี้ดีไหม เพื่อลดแรงปะทะ ปล่อยข่าวให้ด้วยนะว่าฉันตายไปแล้ว จะเหตุผลอะไรก็ตามใจ” (ครับ ผมจะลองดู) “แล้วไอ้เวรกานต์ล่ะ”มิลินกำหมัดแน่นเมื่อนึกถึงบุคคลที่เป็นต้นเหตุของความซวยทั้งหมด (ไอ้กานต์มันหนีไปแล้วครับนายหญิง จะให้ตามหามันไหมครับ) “ยังไม่ต้อง ทำตามที่บอกไปก่อน แค่นี้ก่อนนะ แล้วเจอกันนะ ไม่ต้องห่วงฉัน”มิลินกระซิบบอกเบาๆ ก่อนจะกดวางสาย หลังจากนั้นเธอทำลายหลักฐานโดยการบล็อคและลบเบอร์ที่โทรออก “สร้อย!”กะว่าจะล้างหน้าล้างตา แต่ภาพที่ปรากฏในกระจกทำให้เธอใจหายวูบ ใบหน้าซีดเผือดโดยอัตโนมัติ ของสำคัญอย่างกุหลาบซ่อนพิษของเธอมันหายไปจากลำคอ มันหายไปได้ยังไง เปิดดูในเสื้อก็ไม่พบ มองรอบห้องน้ำก็ไม่เห็น มิลินกุลีกุจอเดินออกจากห้องน้ำตรงมาที่เตียง รื้อดูว่าสร้อยหล่นอยู่ไหน ทั้งใต้หมอนและผ้าห่มก็ไม่พบ ทำให้หญิงสาวมือไม้สั่นไปหมด แกร่ก~ ประตูห้องพักVIP ถูกเปิดออกมีคนเข้ามา ซึ่งเธอไม่ได้สนใจมาร์ตินที่เดินมาพร้อมกับอาหารและยาที่พยาบาลจัดเตรียมมาให้ “คุณหาอะไร มากินข้าวก่อน นี่กำลังร้อนๆเลย” “สร้อยฉันอยู่ไหน”มิลินตรงเข้าไปดึงกระเป๋าสะพายของเธอที่เขาถือมาด้วยมาค้นดูข้างใน ใจเสียอย่างมากเมื่อเทของในกระเป๋าออกหมดแต่ก็ไม่เจอมัน “สร้อยอะไรของคุณ” “ก็สร้อยของฉันที่วันนั้นคุณชมว่ามันสวยไง” “หายเหรอ” “ทำไมคุณถึงรู้ว่ามันหาย”มองอีกฝ่ายด้วยสายตาเชือดเฉือน ดวงตากลมโตจ้องมองไปในนัยน์ตาเจ้าเล่ห์คู่นั้นไม่พบพิรุธแต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะปักใจเชื่อ “ก็คุณหาไม่เจอไง ก็แปลว่าหาย” “ฉันขอดูกระเป๋าคุณหน่อย” “ผมจะเอาของคุณไปทำไม มันคืออะไรผมยังไม่รู้เลย” “…”ไม่รอให้เจ้าของอนุญาต มิลินคว้ากระเป๋าของเขามาค้นทุกซอกทุกมุมอย่างละเอียด แต่สุดท้ายก็ไม่เจอตามที่เขาบอก มันทำให้เธอเป็นกังวลอย่างหนัก จนแทบจะร้องไห้ออกมา “เห็นไหม บอกแล้วว่าไม่มี” “…”แต่โจรที่ไหนมันจะยอมรับว่าตัวเองขโมยของและเอาของมาให้ค้น ของที่เธอมีสำคัญกับเธอมาก หากเขาเป็นพวกคลั่งไคล้ไสยศาสตร์และต้องการของที่เธอมี มีสิทธิ์ที่เขาจะขโมยของเธอไป “หมอไม่ฝากอะไรให้คุณเหรอ มันไม่มีเลยเหรอ” “ก็ไม่มีนะ คุณมากินข้าวเถอะ ผมจัดโต๊ะให้เรียบร้อยแล้ว”ตอนพิเศษ 4 ปัจจุบันที่สวยงามปัจจุบัน@หลายเดือนต่อมา“เรื่องที่มีนเล่าโคตรสะใจเลย”“เรื่องที่ตินเล่าก็ทำให้มีนรักตินมากขึ้นนะ แบบมากๆเลยนะ เสียดายมากนะ วันนั้นตินน่าจะอยู่รอมีนฟื้น เราจะได้เจอกันเร็วขึ้นกว่านี้”“หลังจากที่มีนฟื้นมาจากการจมน้ำช่วงนั้นผมยุ่งมากเลย ทำให้ไม่ได้ตามมีนต่อ ผมโคตรเป็นห่วงมีนเลย ต่อมาเจอมีนอีกทีมีนก็กลายเป็นยักษ์ขมูขีไปแล้ว”“ฮ่าๆๆ มีนชอบตัวเองตอนนั้นมาก ตอนนี้ความรู้สึกที่เล่าให้ตินฟังมันสะใจมากไม่ได้เจ็บปวดแล้วนะ”“นี่สิมิลินคนแกร่งของผม”“มีนยังร้ายอยู่นะแต่ซ่อนพิษตัวเองไว้ ซึ่งตอนนี้มีนเป็นนางฟ้าสุดสวยของตินนะ มีนจะไม่ใช้ความร้ายกาจกับตินอีก”“ครับ แม่นางฟ้าคนสวยของผม ผมก็จะไม่ทำให้พิษที่มีนซ่อนไว้เผยออกมาอีกแน่นอน”คนคลั่งรักกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันบนโซฟา กอดกันกลมอย่างมีความสุข โดยได้ยินเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากของลูกชายซึ่งเล่นกับทวดของเขาเสียงดังเล็ดลอดมาในห้องที่ปิดประตูไม่ค่อยสนิทนัก แต่ทั้งสองก็ยังคงหยอกล้อกันด้วยความมันเขี้ยว เติมความหวานให้กันในช่วงที่มีเวลา“มีนรักตินมากเลยอ่ะ ขอบคุณที่ตอนนั้นช่วยมีน คอยเอาเสบียงมาส่ง คอยตามดูมีนอยู่ห่างๆนะ”มิลิ
ตอนพิเศษ 3 คลุ้มคลั่งมาเฟียหนุ่มเปียกโซกหนาวสั่น เขายืนดูกู้ภัยปั๊มหัวใจของมิลินด้วยความห่วงใย ญาติของมิลินตามมาในทันที เขาจึงต้องหลีกออกไปเล็กน้อยเพื่อเปิดทางแต่ก็ชะเง้อมองดูห่างๆ“ผมว่าผู้หญิงคนนี้ต้องปลอดภัย นายกลับกรุงเทพเถอะครับ เดี๋ยวไม่ทันการ” โอภาสพยายามดึงมาร์ตินออกมา หากช้าไปกว่าเวลาที่กำหนดงานจะมีปัญหาหนักกว่าเก่า“แต่กูยังไม่อยากกลับ”“เดี๋ยวเธอก็ถึงมือหมอ ไปก่อนเถอะครับ”มาร์ตินจิ๊ปากด้วยความหงุดหงิดห่วงหน้าพะวงหลัง หากไปตอนนี้เขาก็คงไม่มีอารมณ์คุยงาน แต่ทางเลือกมีไม่มาก เขาต้องตัดใจจากมิลิน ปล่อยให้กู้ภัยช่วยชีวิตมิลินต่อ ส่วนตัวเขาต้องกลับไปทำงานต่อทันที@โรงพยาบาลมิลินเหม่อมองเพดานขาวโพลนของห้องพักผู้ป่วยอย่างหมดอาลัยตายอยาก เธอไม่รู้ว่าเธอจะมีชีวิตต่อไปทำไม ทำไมกู้ภัยต้องช่วยเธอไว้ หากรอดไปได้เธอคงโดนแม่บ่นจนหูชา ความรู้สึกตอนนี้คือเธออยากจะหนีออกจากโรงพยบาลและหายไปไม่อยากพบหน้าใคร“อยากออกไปจากที่นี่ ได้ยินไหม! ใครก็ได้ปล่อยฉันที!”มิลินขยับได้ยากลำบากเพราะมือและเท้าถูกมัดไว้กับเตียง แต่เธอก็พยายามดิ้นให้ถึงที่สุด“น้องคลุ้มคลั่งพี่จำเป็นต้องทำอย่างนี้นะ”พยาบ
ตอนพิเศษ2 ความเจ็บปวด@คอนโดโอมเมื่อเท้าเล็กก้าวพ้นขอบประตูเข้ามาในห้องโอม การฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีของมิลินก็หยุดลงทันที ไอความเย็นจากเครื่องปรับอากาศภายในห้องกระทบกายบ่งบอกว่าโอมอยู่ในห้อง เธอจะนำน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ที่ซื้อมาระหว่างทางไปเทใส่แก้วให้โอม เท้าเล็กดันไปเหยียบกับอะไรบางอย่างหน้าห้องเสียก่อน“ระ…รองเท้าใคร”ตั้งคำถามขึ้นมาแต่หัวใจดวงน้อยดันสั่นระรัว รองเท้าส้นสูงคู่นี้ไม่ใช่ของเธอแน่นอน แต่มันคุ้นตาเธอมากเสียจนเธอคิดในแง่ดีต่อไปไม่ได้ มือเรียวที่สั่นเทาหยิบขึ้นมาดู เธอต้องการคำตอบของความสงสัยทั้งหมดจึงรีบเดินไปหาโอม“…!”มิลินอ้าปากค้าง ชุดชั้นในของผู้หญิงกองเรี่ยราดอยู่เต็มพื้น เธอเดินตามมันไปก็พบเจ้าของของมันนอนอยู่บนเตียงเดียวกับโอมโดยทั้งสองปราศจากเสื้อผ้าห่อหุ้มร่างกาย มีเพียงผ้าห่มที่ปกปิดท่อนล่างไว้ ผู้หญิงที่นอนกับโอมก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเพื่อนที่คบกันมานานหลายปี เป็นคนที่เธอไว้ใจ เป็นเพื่อนที่เธอรักมากที่สุดในชีวิต น้ำตาไหลเอ่อออกมาอย่างไม่อาจกลั้นได้ หัวใจดวงน้อยเจ็บปวดคล้ายมันกำลังถูกทุบอย่างรุนแรงจนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ แทบจะยืนไม่ไหว ชาไปทั่งร่างกรี๊ดดดดดดดด
ตอนพิเศษ1 อดีต@หลายปีก่อนหน้ามิลินในชุดนักศึกษาถูกระเบียบก้าวเท้าเข้ามาในสนามบาสเกตบอลในช่วงเย็นหลังจากเลิกเรียน เธอมองซ้ายมองขวามองหาโอมซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของเธอ เขาเป็นนักบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัย เธอจึงนำน้ำและขนมติดไม้ติดมือมาฝากเขาด้วยเพื่อจะได้ให้เขามีแรงซ้อมและทุกครั้งที่มา มักจะเจอเพื่อนนักบาสของโอมซ้อมอยู่ก่อนแล้วในสนาม ซึ่งหากเจอผู้ชายคนอื่นเธอไม่อยากเข้าใกล้ เพราะเธอมักจะถูกพวกผู้ชายเหล่านั้นแซวเล่นหรือไม่ก็ถูกกลั่นแกล้ง“ไงจ๊ะ น้องมีน เอาเสบียงมาให้ไอ้โอมเหรอ”สิ่งที่เธอไม่ชอบก็เกิดขึ้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ชายทั้งสี่คนเดินเข้ามาหาเธอ พวกเขามีจุดประสงค์จะมาเอาน้ำและขนมที่เธอซื้อมาให้โอมไปทาน บางครั้งเธอเลยต้องซื้อมาฝากพวกเขาด้วยเพื่อตัดปัญหา แต่วันนี้เธอตั้งใจนำมันมาให้โอมเพียงคนเดียวจึงรีบวิ่งหนี“จะหนีไปไหน เห้ย!พวกมึงตามดิ๊”“พวกพี่อย่ามายุ่งกับมีนสิ มีนเอาของมาให้พี่โอม ไม่ได้เอามาให้พวกพี่”“เป็นคนหวงกินตั้งแต่เมื่อไร”“พวกพี่มีตังก็ไปซื้อเองสิ อย่ามาแย่งของมีนนะ”“ใจร้ายจังครับคนสวย”“พี่ๆอย่ามายุ่งกับมีนนะ”ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาทั้งสี่มายืนล้อมเธอหมายจะกลั่
แชะ!เสียงกดชัตเตอร์จากกล้องถ่ายรูปราคาแพงทำให้มิลินที่นั่งอยู่บนรถไหวตัวด้วยความตกใจ แต่เมื่อเธอหันมาเห็นกล้องจึงโพสต์ท่าให้ตากล้องส่วนตัวถ่ายทุกอิริยาบถของเธอเก็บไว้ “ดึงเกาะอกขึ้นนิดนึง มันจะเห็นทั้งเต้าละนะครับ”“อย่างนี้เหรอ”เธอดึงลงมาอย่างยั่วยวน เผยความเซ็กซี่ให้เขาเห็นโดยไม่ปิดบัง“อยากโดนอีกรอบเหรอครับ”เขาเข้ามาดึงเกาะอกให้กลับที่เดิม“มีนชอบยั่วตินเฉยๆ”“ชุดมีนมันจะแหวกกี่ที่ครับ”“ก็ชอบแบบนี้ รูปที่ตินถ่ายออกมามันก็ดูไม่ได้โป๊นะ”ภาพที่เขาถ่ายให้มันถูกใจเธออีกเช่นเคย จนอดใจที่จะเก็บไว้ดูคนเดียวไม่ได้ต้องโพสต์ภาพลงโซเชียลส่วนตัว‘คุณแม่แซ่บมากเลย เกาะอกจริงๆ เซ็กซี่มากแม่’‘คนท้องที่แซ่บที่สุดอยู่ตรงนี้ ใครอย่ามาเทียบเคียงหญิงมีนของฉันนะยะ’‘นางแบบสวยที่สุด ตากล้องรู้ใจสุด อยากได้ตากล้องส่วนตัวแบบนี้บ้าง’‘ถ่ายหนึ่งได้ถึงสอง อวดความสวย อวดผัวที่ถ่ายรูปเก่ง น่าอิจฉา’ มิลินคลี่ยิ้มกว้างด้วยความสดใส ยื่นโทรศัพท์ไปให้มาร์ตินดูคำชมของคนในโซเชียล เธอไม่รู้ว่ามีใครอิจฉาเธออย่างที่พูดรึเปล่า แต่ตอนนี้เธออิจฉาตัวเองที่มีความสุขมากขึ้นทุกวัน“ตินเคยไปเรียนถ่ายรูปจริงจังไ
EP.74“มองเหี้ยอะไรนักหนา”เสียงของโอภาสดังขัดจังหวะสวีทหวานของเจ้านาย เขาไม่อาจทนเพื่อรักษาบรรยากาศได้เพราะเตชินท์กวนประสาทและตั้งใจหาเรื่องเขาก่อน“มึงนั่นแหละมองอะไรวะ”ผั๊วะ!เตชินท์เป็นฝ่ายเริ่มปล่อยหมัดหนักๆใส่โอภาส โอภาสจึงไม่ยอมง่ายๆกระทำแบบเดียวกันคืน จากนั้นทั้งสองก็ปล่อยหมัดใส่กันไม่ยั้งมิลินกับมาร์ตินยืนมองนักมวยมือสมัครเล่นอย่างเอือมระอา ปล่อยให้ทั้งสองก่นด่าและต่อยกันคนละหมัดจนมีรอยแผลบนใบหน้าคนละแผล“หยุด!”มาร์ตินใช้น้ำในแจกันดอกไม้มาสาดใส่ทั้งสองจนเปียกปอนทำให้ทั้งสองแยกตัวออกห่างจากกันได้ “เป็นหมารึไง อยู่บ้านเดียวกันจะทะเลาะกันทำไม”“…”“ตอบ!”“…”ไร้คำตอบจากปากของทั้งคู่มีเพียงการก้มหน้ารับผิดที่ไม่อาจรู้ได้ว่าสำนึกจริงๆรึเปล่า“มึงจะทะเลาะกันทำไม”“ตินคืนนี้ฉันอยากให้ลูกน้องเราทั้งสองนอนด้วยกัน จะได้ละลายพฤติกรรมกัน และรักกันมากขึ้น”“โถ่นายหญิง ไม่เอาครับ”เตชินท์รีบปฏิเสธทันที คงจะอยู่ร่วมห้องกับคนที่ไม่ชอบไม่ได้“ผมเห็นด้วยนะ”มาร์ตินยกนิ้วโป้ง เห็นด้วยกับความคิดมิลินเสียงจิ๊ปากของโอภาสดังพอๆกับเสียงถอนหายใจของเตชินท์ คงไม่อาจหนีได้ ผู้เป็นนายสั่งอย่า







