“คุณกลางเป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่าง ต่อไปหน้าที่ดูแลห้องและของใช้ส่วนตัวของคุณกลางฉันมอบหมายให้เธอดูแลแล้วกัน ปัญญาอย่างแต้วทำไม่ได้หรอก ข้าวของของคุณกลางทุกชิ้นราคาไม่น้อยเลย เข้าใจที่ฉันพูดมั้ย เบล”
“ค่ะ” เบลกลืนน้ำลายลงคอ
“ดีแล้ว งั้นฉันไปก่อนนะ” คุณแป้งพูดจบก็เดินออกจากห้องไป เบลเงยหน้าขึ้นมากระพริบตาถี่ๆ เธอรีบหายใจหายคอทันที
ปึก เบลปิดตู้ขนาดใหญ่นั้นทันที เหลือของอีกหนึ่งลังเล็กๆ ที่เธอยังไม่ได้จัดเข้าชั้นเลย เบลรีบเดินไปแกะกล่องนั้น และเธอก็สนใจทันที เพราะมันเป็นหนังสือและอัลบั้มรูป แน่นอนว่าเธออยากรู้อยากเห็นแน่นอน เมื่อพลิกเปิดดู ก็เป็นภาพถ่ายของคุณกลางอย่างไม่ต้องสงสัย
ภาพแรกก็สะกดเธอไว้ เป็นภาพคุณกลางในชุดที่มีเพียงกางเกงว่ายน้ำ แผ่นอกเขาเป็นรูปแนวสันเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ยอดอกสีชมพูเซ็กส์ซี่มาก หน้าท้องเป็นลอนกล้ามเนื้อ เธอนับได้ถึงหกลูกเลยทีเดียว
“ซ่อนรูปมาก” เบลพึมพำ เพราะจากที่เธอเห็นเขาจากที่ไกลๆ แค่เห็นว่าเขาสูงใหญ่ดูกำยำ แต่ไม่ได้บึกบึนเลยสักนิด แต่พออยู่ในชุดห่มน้อยแบบนี้ คุณกลางแน่นขนัดจริงๆ
เฮ้ย! “ทะลึ่งจริงๆเลยยายเบล” เบลหัวเราะให้กับตัวเอง เธอเปิดพลิกอีกสองสามภาพ ก็จะเป็นภาพเขาในชุดดำน้ำบ้างละ ชุดเดินเขาบ้างละ ชีวิตคุณกลางนี้ช่างวาสนาดีจริงๆเลย เธอเองก็เคยคิดเหมือนกันว่าอยากรวยและทำอะไรแบบนี้บ้าง ท่องเที่ยวรอบโลก
ด้วยความแตกต่างไร้วาสนาของตน ปึก เบลก็ปิดอัลบั้มลง และแสยะยิ้มหยันๆ จากความชื่นชมแบบผ่านๆกลายเป็นความอิจฉาอย่างช่วยไม่ได้ เธอไร้วาสนา...จึงไม่สนใจคุณกลางในอัลบั้มอีก ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน เมื่อเสร็จก็กลับบ้านไปนอน
และในคืนนั้น อย่างไม่ตั้งใจ เบลก็ฝันเห็นอ้นกับคุณแป้ง จับเธอมัดไว้ที่เก้าอี้หน้าเตียงใหญ่ที่ผ้าปูเป็นสีแดงสด และทั้งสองก็บรรเลงทิ่มแทงสลับข้างบนข้างล่างกันอย่างเมามันส์ส่งสายตายิ้มเยาะเย้ยมาหาเธอที่ถูกบังคับให้มองพวกเขาอยู่
อื้มมมม และเบลก็ตื่นมาพร้อมกับความเปียกแฉะชื้นกลางลำตัวของตัวเอง
หลังจากวันที่เบลดันไปรู้ในสิ่งที่ไม่ควรรู้ของคุณแป้งเข้า ทุกๆวันที่เธอเฉียดเข้ามาในบ้านของเศรษฐี เพื่อมาทำงาน เธอก็คอยระแวดระวัง ซึ่งระวังอะไรเบลก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ ยามว่างเธอก็ไม่ขออาสาไปช่วยเก็บผักสวนครัวให้ป้าปุ๊อีกแล้ว
แต่จะว่าไปวันนี้ทำไมที่นี่ดูครึกครื้นจัง เมื่อวานเธอไม่ได้มาเพราะในหนึ่งสัปดาห์เธอจะมีวันหยุดหนึ่งวันเป็นวันไหนก็ได้ ซึ่งเบลจะเลือกวันที่มีเรียนจนถึงเย็น
“พี่แต้ว” เบลเอ่ยเรียกสาวใช้รุ่นพี่
“เบล มาแล้วเหรอ” เบลพยักหน้า และเอ่ยถามว่า “วันนี้มีอะไรเหรอคะ บ้านดูครึกครื้นจัง”
“ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว คุณกลาง คุณกลางเธอกลับมาแล้ว” เบลพยักหน้ารับทราบอย่างเข้าใจ และแต้วก็ขอแยกไปทำงานของตนต่อ เบลจึงเดินไปยังตึกใหญ่ เธอเดินผ่านห้องที่ประตูที่ทำด้วยกระจกบางส่วน ช่องส่วนที่เป็นกระจกนั้น ทำให้เธอที่หันไปมองก็เห็นคนที่ทำให้ทั้งบ้านตื่นเต้น
เสี้ยวหน้าด้านข้างของเขา และฝั่งตรงข้ามเขาก็เป็นคุณใหญ่และคุณแป้ง เบลไม่ได้ให้ความสนใจอะไรมากนัก เพราะงานเธออยู่ข้างบน เมื่อวานคุณกลางพึ่งกลับมา และแน่นอนว่าห้องของเขาคงรอหญิงรับใช้อย่างเธอขึ้นไปจัดการอยู่แน่ๆ
คุณแป้งย้ำกับเธอเกี่ยวกับคุณกลาง นอกจากเขาจะเป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่างแล้ว ความสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อยก็เป๊ะมาก ผ้าเช็ดตัวต้องถูกเปลี่ยนใหม่ทุกวัน ผ้าปูที่นอนนานสุดก็แค่วันเว้นวันเท่านั้น ห้องนอนห้ามมีฝุ่นแม้แต่ธุลีเดียวในระดับสายตาที่เห็น ต้องตรวจเช็คของใช้ส่วนตัวทุกอย่างอย่าให้ขาดตกบกพร่อง และทันทีที่คุณกลางกลับมาคุณแป้งบอกว่าจะเพิ่มค่าแรงให้เธอเพิ่มอีกหนึ่งเท่า
เบลตอบตกลงทันที จากเดิมที่เธอรายได้พิเศษเดือนละเก้าพัน ตอนนี้เธอได้ปรับขึ้นเป็นหนึ่งหมื่นแปดพัน ไม่ทำก็โง่มากๆเลย เธออายุแค่สิบแปดก็สามารถมีรายได้ต่อเดือนถึงขนาดนี้ ทั้งๆที่มีความรู้ไม่มากไม่มาย
เมื่อเข้าไปในห้องเตียงนอนก็เรียบร้อยดี เป็นผ้าปูชุดเก่าที่เธอทำไว้ทุกๆสามวันที่เธอต้องคอยมาเปลี่ยนเพราะไม่รู้ว่าคุณกลางจะกลับมาวันไหน แม้คุณกลางจะใช้นอนไปแล้วแค่คืนเดียว แต่มันก็ถูกปูมาแล้วสามวัน เบลจึงทำการเปลี่ยนมันโดยทันที
ตอนนี้เจ้านายทั้งสามกำลังรอรับประทานอาหารเย็น เพราะฉะนั้นห้องนี้เธอจึงสามารถทำงานได้อย่างสะดวก เมื่อเปลี่ยนผ้าปูเสร็จแล้ว เธอก็เข้าไปจัดการในห้องน้ำ เช็ดน้ำที่เปียกอยู่เล็กน้อยที่หน้ากระจกที่วางขวดกระปุกครีมต่างๆมากมายไว้ เปลี่ยนผ้าเช็ดตัวเก็บของเก่าลงตะกร้า เธอทำงานไปเรื่อยๆ เวลาผ่านไปเธอแทบไม่รู้ตัวเลยว่า นานเป็นชั่วโมงที่เธออยู่ในห้องนอนนี้
ผลั๊วะ ประตูห้องถูกผลักเข้ามา เบลกำลังจะเข้าไปจัดการกับกระเป๋าเดินทางที่วางอยู่ริมผนังห้อง ร่างสูงเจ้าของห้องเดินเข้ามา เขาเห็นเธอแต่เหมือนว่าไม่ได้แปลกใจอะไร เขาคงรู้แล้ว
เออ เบลอึกอัก เขาไม่ได้เอ่ยอะไร เธอจะเอ่ยอะไรดีละ เขาอยู่ใกล้ประตูทางออก เธออยู่ด้านในสุดของห้องที่กว้างขวางนี้ ตะกร้าผ้าที่บรรจุผ้าที่จะต้องเอาออกไปซักวางอยู่ไม่ไกลจากที่เขายืนนัก
“เบล...เบล” โฟว์วิ่งเข้ามาในห้องทำงานพร้อมแท็บเล็ต เบลเงยหน้ามองหน้าพี่โฟว์ แล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น โฟว์ไม่ได้พูดอะไรยื่นแท็บเล็ตไปตรงหน้าและชี้ให้เบลดูโพส “ฟ้อง!” เบลครางออกมา เธอไม่รู้เรื่องเลย แต่จะว่าไปเธอแทบจะไม่เคยอ่านเรื่องราวว่าร้ายแรงไปถึงไหนแล้ว “สามีเบลใช่มั้ย ต้องใช่แน่ๆ ร้ายกาจมาก ตอนแรกพี่คิดว่าเขาจะไม่สนใจ ที่ไหนได้ร่อนหมายศาลไปหาทุกคนไม่มีตกหล่นเลย ใช่แล้วพวกนี้ต้องเจอแบบนี้” เบลรู้จักคุณกลางดี ที่เธอไม่สนใจตั้งแต่แรกก็เพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องถึงขั้นนี้ “เอาน่า...ที่เบลไม่รู้เรื่อง พี่ไม่แปลกใจเลย สามีเบลพี่ว่าเขาเจ๋งมาก ดั่งสุภาษิตที่ว่าอย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ เขาไม่ลดตัวลงมาพี่ว่าเขาทำถูกจริงๆ แต่ยังไงคนพวกนี้ต้องได้รับบทเรียน...ฟันธงพี่เห็นด้วย...อ๊ะอ๊ะ อย่าให้เขาไปถอนฟ้องโดยเด็ดขาด พี่รู้นะว่าเบลคิดอะไรอยู่ ปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของผู้นำครอบครัวถูกต้องแล้วน้องร
“ทำไมคุณกลางถึงอยากมีลูกอีกละคะ” “อีก?” แทนที่จะได้คำตอบ กลับมีคำถามที่เขาไม่เข้าใจ “ฉันยังไม่เคยแต่งงานแล้วฉันจะมีลูกได้ยังไง” เบลมองเขานิ่ง คนอย่างคุณกลางไม่เคยโกหก เขายอมรับการกระทำของตัวเองเสมอ “นี่เบลเข้าใจผิดอย่างงั้นเหรอ...ห้าปีที่ผ่านมาทำไมคุณกลางไม่แต่งงานกับคุณช่อคะ” “ก็ฉันไม่ได้รักเขานิ” “แต่คุณคบกับเขามาตั้งหลายปี” “ก็แค่ชอบและคิดว่าเมื่อคบกันรู้จักกันมากขึ้น ด้วยฐานะทางสังคมของเธอ ฉันจะรักเธอได้สักวันและวันนั้นก็จะเป็นวันที่ฉันจะขอเธอแต่งงาน” แม้เบลจะไ
ในเมื่อเขาขอเธอแต่งงานก่อนที่เธอจะท้อง เธอปฎิเสธ และเขาก็ไม่อยากบังคับเธอ แต่เมื่อไหร่ที่เขาทำเธอท้อง เบลจะปฎิเสธเขาไม่ได้อย่างแน่นอน “ยืนไหวมั้ย” เมื่อนิ่งพักหายใจกันไปสักพัก เขาก็เอ่ยขึ้น เบลพยักหน้ารับ และเขาก็ผละค่อยๆห่างเธอออกไป เบลมองเขาที่ว่ายน้ำตีกังเชียงไปยังอีกฝั่งของสระ ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าสระว่ายน้ำมีไว้เพื่ออะไร แต่เบลไม่มีเรี่ยวแรงเหมือนเขา เธอยังยืนอยู่ที่เดิม วางหนุนศีรษะไว้บนแขนที่พาดอยู่ที่ขอบสระ และหลับตา เรี่ยวแรงเธอไม่ได้กลับมาเร็วแบบเขา และเธอก็ยังรู้สึกที่ร่องระหว่างขา กัยอาการปวดระบมที่เนินอกอวบทั้งสอง เธอปล่อยให้น้ำบำบัดร่างกายเธออย่างสงบ เสียงน้ำที่แตกจากการแหวกว่ายยังคงดังอย่างเอื่อยๆต่อเนื่องกันไป และตลอดสามสี่วันทริปฮันนีมูนก่อนแต่งของเบลและคุณกลางก็รวนไปหมด เพราะในตอนกลางวันที่คุณกลางตามใจเบลออกไปท่องเที่ยวสถานที่สำคัญต่างๆของจังหวัด เขาจะพักในเวลาช่วงเย็นสองสามชั่วโมง พอค่ำนิดหน่อยก็เป็นเวลาท
“เชียงใหม่ยังมีอะไรมากมาย ให้เราไปหลายที่มากค่ะ” และกลางก็เริ่มสงสัยแล้วว่าตัวเองแก่แล้วเหรอ นี่แค่ครึ่งวันเท่านั้นที่เบลพาเขาตะลอนๆ ไปยังที่เธอต้องการ เขารู้สึกเหนื่อยจริงๆ แต่เธอไม่มีอาการเหล่านั้นเลยสักนิด “เบล ฉันอยากกลับไปพักแล้ว” เบลกระพริบมองเขาถี่ๆ ชิ! เบลไม่อยากขัดใจจึงยอมกลับที่พักอย่างที่เขาต้องการ พรึ่บ! กลางล้มตัวลงบนโซฟา และแหงนหน้าพิงพนัก เบลวางถุงขนมและอาหารที่เธอซื้อมาบนโต๊ะ และหยิบน้ำเปล่าไม่เย็นออกมาจากถุงในหลายๆถุงที่เธอหิ้วมาด้วย “น้ำค่ะ” เบลเปิดขวดให้เขาและทรุดนั่งลงข้างๆเขา กลางดื่มน้ำหมดไปครึ่งขวด และเขากลับไปแหงนหน้าพิงพนักเหมือนเดิม เขากับเบลอายุห่างกันสิบปี ช่องว่างระหว่างวัยที่เกิดขึ้นทำให้เขากับเธอชอบอะไรที่ไม่เหมือนกัน วันนี้เขาเห็นแล้วว่าเบลสนุกสดใส “พลังเหลือเฟือจริงๆ” กลางยิ้มขันออกมา
“เบลก็ไม่คิดว่าเขาจะเป็นจุดหมายปลายทางชีวิตของเบลหรอกค่ะ เราสองคนแตกต่างกันมาก พี่โฟว์เข้าใจความหมายของดอกกุหลาบสีน้ำเงินมั้ยคะว่ามันคือการรอคอยที่ไม่สิ้นสุด เบลเคยคิดว่าความรู้สึกของเบลที่มีให้กับเขาเปรียบเสมือนดอกกุหลาบสีน้ำเงินที่ไม่มีทางสมหวัง วันแรกที่เบลเห็นเขา...” เบลนึกถึงเมื่อหกปีก่อนได้ ตอนที่เห็นเขาจากที่ไกลๆในบ้านของคุณใหญ่ เขาไม่แม้แต่จะชายตามองเธอเลย “รักเขาใช่มั้ย” โฟว์ถามขึ้นเมื่อจู่ๆเบลก็เงียบไป “ค่ะ แต่เมื่อไหร่นั้น เบลก็ไม่แน่ใจค่ะ แต่วันที่เขาเนรเทศเบล วันนั้นเบลแย่มากๆ แย่จนไม่เข้าใจว่าตัวเองผ่านช่วงนั้นมาได้อย่างไร” ตอนนั้นเบลพยายามคิดถึงอนาคตของตัวเอง แต่มันไม่ง่ายเลย เธอทรมานเป็นที่สุด แต่เธอก็ภูมิใจในตัวเองที่เธอผ่านมันมาได้ โดยที่ไม่ทำร้ายชีวิตของตัวเองลงไป “งั้นพวกพี่พร้อมแล้วที่จะขอรู้จักกับเขา&r
“ฉันจะออกไปพบกับเขาเอง” เขาพูดพร้อมกับวางโทรศัพท์ของเบลไว้บนเตียงเมื่อเขาเดินไปส่องกระจกเช็คตัวเอง และเขาก็เดินไปเปิดลิ้นชัก หยิบแหวนของมอสออกมา “ฉันจะเอาไปคืนเขา และอาจกลับดึกหน่อยนะ” เบลยืนมองเขาตกตะลึงอ้าปากค้าง “ไม่ต้องห่วง ฉันจะดูแลเด็กนั่นเอง” ชิ! เบลหมั่นไส้เขาขึ้นมาทันที “เมื่อกี้คุณกลางพูดอะไรกับพี่มอส” เบลกลัวเหลือเกินว่าคุณกลางจอมร้ายกาจคนนี้จะพูดจาทำร้ายจิตใจพี่มอส “รายละเอียดหลักๆ ขี้เกียจเล่า เอาเป็นว่าอดีตแฟนของเบล เขารู้แล้วว่าฉันเป็นผู้ปกครองของเบล” “ผู้ปกครองเหรอคะ” กลางพยักหน้า “ผู้ปกครองที่เป็นเจ้าชีวิตของเบลไปตลอดชีวิตไงเล่า” จุ๊บ เขาเดินมาหอมแก้มเธอ “นอนเลยนะไม่ต้องรอ”