Masukงานแต่งงานระหว่างนักธุรกิจสาวสวย และนายแบบหนุ่มชื่อดังที่พ่วงด้วยตำแหน่งทายาทของนักธุรกิจใหญ่ได้ถูกเนรมิตขึ้น ณ ห้องบอลรูมใหญ่ใจกลางเมือง
แขกเหรื่อในงานมากมาย กอปรไปด้วยนักธุรกิจ และคนดังในวงการล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียงมีหน้ามีตากันทั้งนั้น
ทว่านั่นก็ไม่สามารถดึงดูดสายตาของทรงโปรดเอาไว้ได้ ตอนนี้สายตาลึกล้ำของคุณหมอหนุ่มกลับโฟกัสเข้ากับใบหน้าของสาวสวยที่กำลังเดินตามติดเจ้าบ่าวของงานที่ตรงเข้ามายังกลุ่มเขามากกว่า
ทรงโปรดมองหญิงสาวอย่างไม่อาจละสายตาได้
“ใครวะเจ” กฤษณ์เป็นคนเอ่ยถามเจสันผู้เป็นเจ้าบ่าวของงาน และเป็นทั้งเพื่อนสนิทของพวกเขาด้วยเช่นกัน
“นี่ซินหยาน น้องผมเองพี่ หลานแท้ ๆ ของป๊าลี” เจสันแนะนำหญิงสาวที่ตนเป็นคนพามาให้กลุ่มเพื่อนรู้จัก ฝากฝังให้เพื่อน ๆ ช่วยกันดูแลหน่อย
ซินหยานเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจสันที่เพิ่งย้ายมาอยู่ไทยได้ไม่นานเท่าไร ยังไม่รู้จักใคร ผู้ใหญ่ฝั่งเจสันก็ยุ่ง ๆ กับการรับแขก กลัวซินหยานจะเบื่อเลยเอามาฝากกับกลุ่มนี้ไว้เพราะเห็นว่าอายุไม่ห่างกันเท่าไรนัก
“ฝากด้วยนะ” เจสันพูดทิ้งท้ายเพียงเท่านั้นก่อนจะปลีกตัวไปรับแขก และทำหน้าที่ของเจ้าบ่าวบ้าง
“ดะ... เดี๋ยวสิเฮีย” เสียงหวานของซินหยานเอื้อนเอ่ยเบา ๆ ในคอเรียกญาติผู้พี่ แต่มันไม่อาจดังพอให้เจสันสนใจได้ เพราะตอนนี้เสียงของเธอกำลังโดนสายตาลึกล้ำคู่นั้นสะกดไว้เสียแน่นิ่ง ชายหนุ่มร่างสูงกำยำที่เธอเองก็ยังจำได้ดีว่าเขาเป็นใคร
โลกมันจะกลมเกินไปแล้วนะ ประเทศไทยก็ออกตั้งกว้าง หนีหายไปได้ตั้งหลายเดือนแล้ว แต่นี่มันเวรกรรมอะไรของเธอกันถึงมาเจอจุดใต้ตำตอขนาดนี้กัน!
สายตาคมลึกล้ำมองน้องสาวของเพื่อนนิ่งนาน เขามองสบตาของคนหน้าสวยหวานที่หลบตาเขา เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายทั่วกรอบหน้า เห็นเธอมีท่าทีหวาดหวั่นราวกับแมวตัวน้อยที่กำลังกลัวจะถูกหมาป่างาบแล้วอดยกยิ้มมุมปากไม่ได้
หึ! ‘ซินหยาน’ งั้นเหรอ แต่ที่เธอเคยบอกกับเขาไม่ได้ชื่อนี้!
ทรงโปรดก้าวขายาว ๆ เพียงสามก้าวหยุดตรงหน้าหญิงสาว ก่อนจะกล่าวทักทายเธออย่างเป็นมิตร...
“สวัสดีครับ... น้องน้ำหวาน”
มิตรบ้าบออะไร สายตาเขาที่มองเธอแทบจะกลืนกินเธอลงท้องไปแล้วตอนนี้ และชื่อที่เขาเรียกทำเอาจีรนันท์และกฤษณ์ขมวดคิ้ว
“น้องเขาชื่อซินหยาน ไม่ใช่น้ำหวานนะคุณโปรด” จีรนันท์แย้งเจ้านาย
“อ้อ... เหรอครับ โทษที พี่คงหูฝาด” เสียงที่ตอบช่างเย็นยะเยือก สายตาที่สะกดทำเอาหญิงสาวหน้าซีด ซินหยานมองสบตาเขากลับไม่มีคำพูดใด ๆ ร่างสูงที่แฝงไปด้วยออร่าความดุดันของคุณหมอหนุ่ม ทำเอาเธอแทบอยากจะกลั้นใจตายเสียเดี๋ยวนี้
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ น้อง ซิน หยาน” ทรงโปรดเอ่ยเน้นที่ชื่อของเธอชัด ๆ แล้วยกยิ้มร้าย มือหนายื่นไปหมายจะทักทายอย่างสากล แต่ซินหยานหารับมิตรไมตรีพวกนั้นไม่
จับก็โง่สิ ขืนปล่อยให้เขาจับมือ ไอ้หมอบ้านี่คงไม่มีทางปล่อยเธอไปง่าย ๆ ตอนนี้สิ่งที่เธอคิดจะทำคือต้องหาทางปลีกตัวออกไป
“เอ่อ... เดี๋ยวซินขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะพี่ ๆ” หญิงสาวเลิ่กลั่กแล้วขอตัวเดินออกไป ทว่าทันทีที่เธอพ้นกรอบประตูห้องบอลรูม แขนเรียวก็โดนฝ่ามือใหญ่กระชากไว้
“ว้าย...อื้อ!” เสียงกรีดร้องของเธอหายวับเมื่อปากเล็ก ๆ โดนฝ่ามือใหญ่มาปิดไว้ วงแขนแกร่งอุ้มตัวเธอลอยเหนือพื้น
“เงียบ ๆ ถ้าไม่อยากโดนเหมือนคืนนั้น” เสียงทุ้มดุดันกระซิบขู่ชิดใบหูขาว ขนอ่อนในกายสาวลุกชันทันทีเมื่อสัมผัสเข้ากับลมหายใจอุ่น ๆ ของเขาที่รดริน
“นี่! คุณจะทำบ้าอะไร ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้เลยนะ” ใบหน้าหวานหันไปมองรอบ ๆ เมื่อครู่คนเต็มงาน แต่ตอนนี้หายไปไหนหมด บ้าชะมัด!
“นี่ ไอ้บ้า! คุณจะพาฉันไปไหน ปล่อยนะ” เธอดิ้นเร่าสลับทุบตีแผงอกแกร่ง แต่เรี่ยวแรงเท่ามดกลับทำอะไรร่างสูงกำยำของทรงโปรดไม่ได้ เขาลากเธอเข้าไปยังห้องน้ำวีไอพี ล็อกประตูแล้วโทร. สั่งลูกน้องว่าให้คอยยืนกันคนไว้ อย่าให้ใครเข้ามาในห้องน้ำนี้ได้จนกว่าเขาจะเสร็จธุระ
“คุณ จะล็อกประตูทำบ้าไร โอ๊ย!”
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“คุยอะไร เราไม่ได้รู้จักกันสักหน่อย” คนตัวเล็กเถียงเสียงกร้าว ดวงตาสวยคู่นั้นช่างแสนดื้อรั้น ยายนี่มันคุณหนูเอาแต่ใจชัด ๆ แล้วแม่แมวน้อยที่อยู่กับเขาเมื่อคืนก่อนล่ะหายไปไหน
“หึ! ฉันตามหาตัวเธอยากแค่ไหนรู้ไหม ซินหยาน... ส่วนที่เธอบอกว่าไม่รู้จักกัน เดี๋ยวฉันจะทวนให้” ว่าจบเรียวปากหยักก็ฉกจูบลงไปบนริมฝีปากอิ่มอย่างเอาแต่ใจ เธอดิ้นเร่า แต่เขาก็กดท้ายทอยเธอตรึงไว้แนบแน่น จนหญิงสาวไม่อาจต้านทานแรงอารมณ์ของเขาได้
“อย่านะ! ฮือ...”
ตื่นมาเธอก็ไม่เห็นคนเอาแต่ใจนอนข้างกาย ร่างบอบบางพยายามลากสังขารของตัวเองเข้าห้องน้ำในช่วงสายของอีกวันอย่างยากลำบาก เมื่อคืนโดนสามีเอาแต่ใจคาชุดเจ้าสาว กว่าเขาจะยอมหยุดก็ตอนที่เธอรน้องบอกว่าไม่ไหวแล้ว แทบจะต้องยกมือไหววิงวอนไม่ให้เขาทำต่อเธอพาตัวเองลงไปแช่ในอ่างที่มีน้ำอุ่นพร้อมไว้ คงจะเป็นสามีที่เตรียมให้ ส่วนเขาคงตื่นก่อนแล้วออกไปหาลูกชายทั้งสองหญิงสาวถอนหายในโล่งเมื่อได้นอนแช่น้ำอุ่น ๆ กลิ่นหอมของสบู่ทำให้เธอผ่อนคลายขึ้นมาก หลับตาซึมซับกับความสบายได้ไม่นานก็รู้สึกถึงแรงกระเพิ่มของน้ำ ร่างบอบบางโดนเบียดเสียดด้วยร่างหนาหนั่นแน่นที่มานั่งซ้อนหลัง“หิวรึยังครับ เมื่อกี้เฮียลงไปยกอาหารเช้ามาให้” เสียงทุ้มกระวิบแผ่วข้างหูขาว มือข้างหนึ่งกดนวดที่ไหล่สวยอีกข้างเค้นคลึงก้อนนุ่มหยุ่นเต็มไม้เต็มมือสลับกับบดบี้ยอดถันสีหวานที่เริ่มแข็งชันสู้นิ้ว จนคนที่ยังหลังตาพริ้มอดขนลุกเกรียวด้วยความเสียวซ่านไม่ได้ ซินหยานยกยิ้ม ชอบจังเวลาเขาทำอะไรแบบนี้ให้“เฮียไม่เหนื่อยเหรอคะ” เธอถามบ้าง เพราะเขาดูแลทั้งเธอและลูกอย่างนี้ทุกวัน ยิ่งตอนที่ได้ย้ายกลับไปอยู่ไทยด้วยกันที่บ้านหลังเล็ก ๆ แสนอบอุ่นของเขา ทรงโป
ลำพังแค่อาชีพหมอและกิจการที่เจ้าลูกเขยหมอนี่ไปลงทุนไว้และกำลังริเริ่มทำก็มากเกินจนล้น จนไม่มีเวลาได้หายใจอยู่แล้ว ไม่รู้มันจะร้อนเงินอะไรกันนักหนา จะขยันไปไหนเขาแค่อยากให้มีคนที่ดีอยู่เคียงข้างซินหยานในวันสุดท้ายที่ตาแก่อย่างเขาหมดลมหายใจ หวังแค่ให้ทรงโปรดเป็นทั้งสามีและพ่อที่ดี เป็นเสาหลักให้แก่ลูกและหลานของเขาได้และไม่รู้อะไรมันดลจิตดลใจถึงทำให้เขาเชื่อว่าทรงโปรดจะเป็นทั้งหลักยึด ทั้งครอบครัว และที่พักพิงทางใจให้ซินหยานและหลานๆของเขาได้อย่างแน่นอนซินหยานและทรงโปรดได้ฤกษ์เข้าพิธีแต่งงานกันในตอนที่ลูกชายคนแรกอายุได้สี่ขวบ ลูกชายคนที่สองอายุได้สองขวบกว่า ฤกษ์ที่ว่าคือฤกษ์สะดวกของตัวเจ้าสาวเองด้วย เพราะกว่ารูปร่างจะเข้าที่เข้าทางสวยเช้งแบบนี้ในวัยที่ลูกสองแล้วไม่ใช่เรื่องง่าย เล่นเอาคนเป็นสามีบ่นจนท้อ“เฮ้อ.. กว่าจะได้แต่ง” ชายหนุ่มบ่นเสียงอ่อนแล้วทิ้งร่างลงนอนบนเตียงใหญ่ที่ถูกจัดอย่างสวยงาม โรยด้วยกลีบกุหลาบสีขาวอย่างที่เจ้าสาวชอบ จนกลีบดอกกระดอนขึ้นตามแรงยวบจนมันฟุ้งกระจายไม่เหลือเค้ารูปหัวใจ“ก็ได้แต่งแล้วนี่ไงคะ ยังจะบ่นไม่หยุดอีก” ซินหยานบ่นกลับบ้าง พลางยืนถอดเครื่องประดับที่เป็
หลายเดือนแล้วที่ซินหยานและลูกย้ายตามทรงโปรดมาอยู่ที่ไทย ตอนที่รู้ว่าบิดาเป็นคนอยากให้ย้ายมาอยู่กันเป็นครอบครัว เธอเองก็อดกังวลใจไม่ได้ที่ต้องจากบิดา ทิ้งให้ท่านต้องอยู่เหงา ๆ คนเดียวที่คฤหาสน์หลังโตนั่น และพรากหลานออกมาจากอกอากงที่รักแสนรักหลานชายแต่เพราะบิดายืนยันหนักแน่นว่าอยากให้ลูกและหลานได้อยู่เป็นครัวครัวที่อบอุ่นสมบูรณ์ ตัวท่านเองไม่เป็นไร หากเหงาก็จะมาเยี่ยมบ่อยๆ ส่วนเธอจะบินกลับบ้านเมื่อไหร่ก็ได้ แค่อยากให้ซินหยานปักหลักสร้างครอบครัวที่เมืองไทย“ป๊ายังอยากมีลูกเขยเป็นหมออยู่นะ เกิดมันบ้าลาออกแล้วตามลูกเมียมาเกาะป๊ากินขึ้นมา แย่แน่ ๆ ” ท่านพูดว่าอย่างนั้น ทั้งที่จริงแล้วท่านแค่ไม่อยากให้ลูกเขยอย่างทรงโปรดต้องลาออกจากงานที่รัก ไม่อยากสร้างความลำบากใจให้ลูก ๆและเป็นดังที่หยางหวังพูดว่าจะมาเยี่ยมบ่อย ๆ คนแก่คิดถึงหลานชายก็มาเยี่ยมบ่อยดังปากว่าจริง ๆ มาเยี่ยมทุกเดือนอย่างน้อยครั้งละเจ็ดถึงสิบวัน เดือนนี้บ่อยกว่า หยางหวังมาไทยสองครั้ง ครั้งละหนึ่งสัปดาห์จนทรงโปรดถึงขั้นออกปากพูดว่า..“ผมว่าอาป๊าย้ายมาอยู่ไทยด้วยกันเลยดีกว่าไหมครับ” เสียงชายหนุ่มพูดอย่างหน่ายใจ ไหนบอกว่าให้พวกเข
“มาถึงขั้นนี้แล้วจะหวงอะไรอีกครับป๊า น่า.. เดี๋ยวผมเสกหลานชายเพิ่มให้นะครับ” คุณหมอปากหมาก็ยังกระเซ้าเย้าแหย่พ่อตาต่อจากที่เคยโดนกระทืบปางตาย ทุกวันนี้เขาใช้ลูกตื๊อหน้าหนาหน้าทนซื้อใจพ่อตามาได้แล้ว จะตีจะเตะจะด่าหรือสารพัดก็เอาวะ ก็อยากได้ลูกเขา แล้วตอนนี้เป็นไงล่ะ หึ!“จะกลับไทยวันนี้ใช่ไหม กี่โมงล่ะ” เมื่อพ่อตาถามทรงโปรดก็ทำหน้าเป็นหมาป่วยใส่ ไม่ตอบคำถามไม่พอ แต่ดันถามพ่อตากลับด้วยนี่สิเป็นคำถามที่เขาไม่จำเป็นต้องถามความเห็นใครก็ได้นอกจากภรรยา ทว่าเมื่อเข้ามาในครอบครัวของหญิงสาวแล้วเขาก็เคารพบุพการีของเธอเสมือนบุพการีตัวเองที่ไม่เคยมีมานานแล้ว“ป๊าครับ.. ถ้าเกิดผมจะลาออกจากหมอ ป๊าจะว่าอะไรไหม” เสียงชายหนุ่มจริงจังไร้ท่าทางล้อเล่นจนผู้อาวุโสกว่าชะงักแล้วละสายตาจากใบหน้าแป้นแล้นของหลานชายมามองขี้หน้าไอ้ลูกเขยตัวดี คิ้วขมวดมุ่น“ทำไม?” หยางหวังถามเหตุผล“ผมอยากอยู่กับลูกเมียครับ“ ทรงโปรดสารภาพตามความจริง เสียงทุ้มหนักแน่น ให้เดินทางมาหาบ่อย ๆ แบบทุกวันนี้มันเหนื่อย เหนื่อยกายแค่ไหนเขาทนได้ แต่หากเป็นไปได้ก็ไม่อยากจากครอบครัวไปสักนาที คนเคยขาดอย่างเขาแค่อยากมีชีวิตครอบครัวที่ปกติ เลี้
ทรงโปรดตื่นมาในช่วงสายของอีกวันเพราะเมื่อคืนมัวแต่ถ่างขาเมีย.. เอ้ย ถ่างตาช่วยเมียเลี้ยงลูกนานไปหน่อย...หน่อยที่แปลว่ายันเช้าเขาอุ้มลูกชายมาส่งให้พี่เลี้ยงช่วยอาบน้ำแต่งตัว ปล่อยให้ซินหยานนอนหลับพักผ่อนไปยาว ๆ บ้าง ปกติเธอจะจัดการทุกเรื่องของลูกเป็นหลักเพราะไม่ค่อยไว้ใจใคร มีพี่เลี้ยงไว้เพื่อเป็นผู้ช่วย เขาอยากให้เธอพักผ่อน และเมื่อคืนก็แทบไม่ได้นอนเพราะซินหยานมัวแต่ถ่างขะ.. ตา เธอถ่างตาดูแลลูกกับเขาเมามันกันจนเผลอครางเสียงดัง จนน้ำสุดท้ายตอนใกล้สว่างน้องแซมเลยตื่นก่อนเวลามาร้องไห้งอแง เพราะตกใจเสียงครางราวกับสัตว์ป่าของพ่อกับแม่ ก็ทำไงได้คนมันเก็บกดมานานกว่าครึ่งค่อนปี "ขอโทษนะครับ ต่อไปนี้ปะป๊าจะไม่เสียงดังให้น้องแซมตื่นอีกแล้วน้า.." คนเป็นพ่อเอ่ยขอโทษลูกชายด้วยเสียงสองที่คิดว่าน่ารักที่สุดในชีวิตแล้ว ในตอนที่อุ้มเจ้าก้อนลงมาส่งให้อากงที่ห้องเลี้ยงเด็กของบ้าน หยางหวังที่ปกติก็ตื่นเช้าทุกวันเพื่อมาออกกำลังกายก่อนจะออกไปดูแลกิจการ ทุกวันนี้กลับกลายเป็นตาเฒ่าต้องตื่นเช้ามาออกกำลังกายหนักกว่าเก่าเพื่อที่จะได้มีร่างกายแข็งแรงไว้อุ้มหลาน หยางหวังออกกำลังกายเสร็จก็รีบอาบน้ำแต่งตัวหอม
เธอส่ายหน้าจนผมยาวปลิวสยาย ความเสียวซ่านพุ่งทะยานถึงขีดสุดซินหยานก็กัดริมฝีปากจนแดงก่ำ หวีดร้องในคอแล้วร่างนวลก็กระตุกเกร็งเมื่อเขาใช้ทั้งปลายนิ้วและลิ้นร้อนแสนร้ายกาจส่งเธอไปแตะขอบรุ้งอันพร่างพราย หญิงสาวทิ้งตัวอ่อนปวกเปียกนอนแน่นิ่งแล้วกอบโกยลมหายใจเข้าปอดถี่กระชั้น เพราะในตอนที่เสียวซ่านเธอเผลอกลั้นหายในเสียเนิ่นนานเขาเกือบจะทำให้เธอขาดใจไม่กี่นาทีเท่านั้นที่ทรงโปรดปล่อยให้เธอได้พักเพราะไม่นานเขาก็จับเรียวขาขาวข้างหนึ่งมาพาดไหล่กำยำไร้ปราการปกปิด รั้งขอบกางเกงนอนลงต่ำจนท่อนเอ็นดีดขึงโด่ชี้ฟ้า เขาจับแก่นกายที่พองขยายจนเต็มตึงแทบปริแตกถูไถกับน้ำหวานสีใสที่ฉ่ำเยิ้มตรงร่องสาวแล้วค่อย ๆ กดมันเข้าไปในโพรงสวาทคับแน่น“อื้อ! เฮียขา..” ซินหยานเบิกตากว้างเพราะช่องทางรักของเธอคับแน่นกว่าเก่า และท่อนลำของเขาก็ใหญ่เกินขนาดมาตรฐานไปมากโข ทรงโปรดกัดกรามแน่น เขาเองก็ปวดตึงไม่ต่างจากซินหยาน ของเธอตอดรัดเสียจนเขาแทบขยับไม่ไหว“อา... เกือบแตกแล้วซิน” ชายหนุ่มสารภาพเสียงต่ำพร่า ก่อนจะหยุดขยับแน่นิ่ง แช่ท่อนลำที่ยังค้างอยู่เพียงครึ่งไว้เท่านั้นแล้วโน้มตัวลงประกบจูบปากซินหยานที่น้ำตาไหลออกจากหางตา เขา







