เสียงเคาะประตู ทำให้หวังจื่อเย่ค่อยๆยันกายลุกขึ้นอย่างยากลำบากไปเปิดประตู เมื่อเห็นหน้าคนที่มา ก็ดีใจจนแทบเก็บอาการไม่อยู่
" คุณหนูรอง"
" ข้าได้ยินว่าเจ้าถูกท่านพ่อลงโทษโบย50ไม้ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"
" ข้าไม่เป็นไรมาก ขอบคุณคุณหนูรองที่เป็นห่วง"
" ข้าเอายามาให้ นี่เป็นยาอย่างดีจากหมอหลวงในวัง ท่านพ่อเคยแบ่งให้ข้าไว้ใช้ รับไปสิ "
" ขอบคุณขอรับ"
เขาเอื้อมมือไปหยิบขวดยาส่งยิ้มให้นาง จ้าวถิงถิงกำขวดยาแน่น ยืนนิ่งจ้องมองอยู่ไม่ไกล พอนางรู้ข่าวว่าหวังจื่อเย่ถูกลงโทษก็รีบเอายามาให้ แต่ไม่คิดว่าจะช้ากว่าจ้าวฉู่หรันไปก้าวเดียว
" งั้นข้ากลับก่อนนะ"
" ช้าก่อน"
" มีอะไรเหรอ"
หวังจื่อเย่ดึงหยกที่ห้อยเอวออกมา
" ปิ่นปักผมที่ข้าให้ท่านถูกคุณหนูใหญ่ทำให้หักไปแล้ว ข้าจึงอยากให้สิ่งนี้กับท่านทดแทน"
จ้าวฉู่หรันรับมาดู
" หยกชิ้นนี้ข้าจำได้ว่าเจ้าพกติดตัวเอาไว้ตลอดนี่นา แสดงว่ามันคงสำคัญกับเจ้ามาก"
" ใช่ มันเป็นของชิ้นเดียวที่ติดตัวข้ามาตลอด สำคัญกับข้ามาก เป็นของที่แม่ข้าให้ไว้ก่อนท่านจะจากไป"
" ในเมื่อมันสำคัญขนาดนี้ งั้นข้ารับไว้ไม่ได้หรอก"
" เพราะเป็นของสำคัญขิ้นเดียวที่ข้ามี ข้าจึงอยากมอบให้ท่าน"
" แต่ว่า "
เห็นสายตาเว้าวอนของเขา นางจึงยอมรับไว้
" ก็ได้ งั้นข้าจะเก็บรักษาไว้อย่างดีเจ้าวางใจเถอะ"
นัวนั่วเห็นทุกอย่างได้ยินทุกคำพูด ยังรู้สึกเจ็บปวดน้อยใจแทนจ้าวถิงถิง
" คุณหนู กลับกันเถอะเจ้าค่ะ"
" กลับทำไมในเมื่อมาแล้ว"
จ้าวฉู่หรันกำลังหันหลังกลับ ก็เจอกับจ้าวถิงถิงที่เดินเข้ามา
" ยามโพล้เพล้เช่นนี้เหตุใดสตรีอย่างเจ้าถึงมาอยู่ตามลำพังกับคู่หมั้นของข้า แล้วสาวใช้ของเจ้าไปไหน เหตุใดถึงไม่มาด้วย หรือว่าพวกเจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่"
" คุณหนูรองแค่เอายาใส่แผลมาให้ข้าเท่านั้น นางไม่ได้มีความคิดสกปรกอย่างที่ท่านว่า"
หวังจื่อเย่รีบพูดปกป้อง
" พี่ถิงถิงข้าแค่เอายาใส่แผลมาให้จื่อเย่ ท่านอย่าเข้าใจผิดเลย ส่วนผิงกั่วนางมีเรื่องส่วนตัวต้องทำ ข้าก็เลยมาคนเดียว"
จ้าวถิงถิงดึงเอาขวดยาในมือของหวังจื่อเย่ยัดใส่มือจ้าวฉู่หรัน แล้วเอาขวดยาของนางใส่ไว้ในมือของเขาแทน
" จื่อเย่เป็นคู่หมั้นของข้า ใช้ยาของข้าถึงจะเหมาะ เรื่องของเขาไม่ถึงตาของเจ้าที่จะมาวุ่นวาย"
" ข้าทราบแล้ว เป็นเพราะข้าคิดไม่รอบคอบเอง ขออภัยเจ้าค่ะ"
หวังจื่อเย่มองจ้าวถิงถิงด้วยสายตาไม่พอใจ
" หยกในมือเจ้าสวยดีนะ"
จ้าวฉู่หรันรีบเอาหยกหลบไว้ข้างหลัง แต่ถูกจ้าวถิงถิงแย่งมาดู
" พี่ถิงถิงคืนข้าเถอะ"
" ข้าก็แค่ขอดูหน่อยเท่านั้น เหตุใดต้องทำหน้าเช่นนั้นด้วยเล่า ของแทนใจของเจ้าทั้งสองข้าต้องคืนให้อยู่แล้ว"
นางส่งจี้หยกคืนให้จ้าวฉู่หรัน แล้วหันไปมองหวังจื่อเย่ด้วยสายตาผิดหวัง
" ทั้งที่ข้าเป็นคู่หมั้นของเจ้า แต่ของหมั้นแทนใจสักชิ้นก็ไม่มี กลับให้ของสำคัญที่สุดชิ้นเดียวของเจ้ากับนาง ดี ดีจริงๆ ในเมื่อเป็นแบบนี้ข้าย่อมส่งเสริมพวกเจ้า ข้าจะไปบอกท่านพ่อเองว่าพวกเจ้ารักกัน ให้จัดงานแต่งให้พวกเจ้าเร็วๆ ดีหรือไม่"
" พี่ถิงถิงอย่าคิดเช่นนั้น ข้ากับจื่อเย่บริสุทธิ์ใจไม่ได้คิดอะไร ข้ารู้ว่าท่านรักเขาแล้วข้าจะแย่งท่านได้อย่างไร หากการที่ข้าเอายามาให้เขาทำให้ท่านเข้าใจผิด ข้าขอโทษ ต่อไปข้าจะอยู่ห่างๆเขาให้ท่านสบายใจได้พวกท่านปรับความเข้าใจกันนะ ข้าขอตัวก่อน"
จ้าวฉู่หรันพูดไปก็น้ำตาคลอ ย่อตัวทำความเคารพจ้าวถิงถิงแล้วเดินออกไป
" เดี๋ยวก่อน"
" พี่ถิงถิงมีอะไรอีกรึ หรือว่าต้องการจี้หยกนี่งั้นท่านเอาไปเถอะ"
จ้าวฉู่หรันยื่นจี้หยกให้ นางเอื้อมมือออกไปจะรับ หวังจื่อเย่กัดฟันกรอด จ้าวถิงถิงเห็นสีหน้าไม่ยินยอมของเขาก็ยิ้มขมขื่น ก่อนจะรับจี้หยกมา
" ในเมื่อมันเป็นของสำคัญของเจ้า ก็ควรอยู่กับข้าที่เป็นคู่หมั้นถึงจะถูก เจ้าว่าไหม"
นางชูจี้หยกขึ้นแกว่งไปมาตรงหน้าหวังจื่อเย่ เขาทำได้แค่เก็บความไม่พอใจเอาไว้ นางแค่นหัวเราะก่อนส่งคืนจี้หยกให้จ้าวฉู่หรัน
" ในเมื่อเขาให้เจ้า ข้าจะแย่งเจ้าได้ยังไงหล่ะ"
กลับเข้าห้องจ้าวถิงถิงเอาปิ่นหยกที่หวังจื่อเย่เลือกให้มาเขวี้ยงทิ้ง แล้วหยิบเอาก้อนหินในกระถางต้นไม้มาทุบมันจนแตก เพื่อระบายอารมณ์
" คุณหนู ทำลายปิ่นทำไมเจ้าคะมันผิดอะไร"
" ผิดที่มันเป็นของที่จื่อเย่เลือกให้ข้า ข้าไม่ต้องการเห็นมันอีก"
สามวันผ่านไป หวังจื่อเย่แผลเริ่มหายดีเขามายืนรอจ้าวถิงถิงอยู่ที่หน้าเรือนของนางเหมือนอย่างทุกครั้ง แต่ผ่านไปนานก็ไม่เห็นนางออกมา หรือว่านางยังไม่ตื่น แต่นางไม่เคยตื่นสายนี่ เขากำลังจะไปเคาะประตู นัวนั่วก็เปิดประตูออกมา แล้วรีบปิดทันที พอเห็นเขาก็มองด้วยสายตาไม่พอใจ ไม่พูดไม่จาเดินผ่านหน้าเขาไป
" นัวนั่ว แล้วคุณหนูใหญ่หล่ะ"
" ถามทำไม"
" ข้าเป็นองครักษ์ของนาง จะถามถึงนางไม่ได้รึ"
" รู้หน้าที่ตัวเองด้วยรึว่าเป็นองครักษ์ของคุณหนูใหญ่"
" ข้ารู้ว่าเจ้าไม่พอใจข้าเรื่องวันนั้น ที่ข้าไม่ยอมช่วยนาง แต่นางกระโดดลงไปเองทั้งที่รู้ว่าน้ำเย็นเยือก นางว่ายน้ำเป็นยังไงนางก็ขึ้นมาเองได้ แต่"
" แต่คุณหนูรองว่ายน้ำไม่เป็นเลยช่วยนางตกลงเจ้าเป็นองครักษ์ของใครกันแน่ คุณหนูรองมีหยางหานอยู่แล้วเจ้าก็ยังจะไปแย่งกันช่วยนางอีก"
" เอาเป็นว่าข้าผิด ข้าผิดเอง แล้วข้าก็ถูกลงโทษแล้ว คุณหนูของเจ้ายังไม่พอใจอีกรึไง"
" เจ้า"
" นัวนั่วเหตุใดยังไม่ไปอีก"
" คุณหนู ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้"
หวังจื่อเย่อ้าปากจะพูด แต่จ้าวถิงถิงก็ปิดประตูเสียก่อน เขาจึงได้แต่ยืนเฝ้านั่งเฝ้า อยู่ตรงนั้นทั้งวัน นางก็ไม่ออกมาจากห้อง มีแต่นัวนั่วที่ยกสำรับอาหารเข้าไปให้
" คุณหนู ท่านอยู่แต่ในห้องมาหลายวันแล้วนะเจ้าคะ ไม่คิดจะออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้างเหรอ"
" ไม่หล่ะขี้เกียจ"
ก็อกก็อก
" คุณหนูใหญ่เจ้าคะ คุณหนูใหญ่"
" ใครมาเรียก นัวนั่วเจ้าไปดูสิ"
นัวนั่วไปเปิดประตู บ่าวรับใช้ก็เดินเข้ามา
" คุณหนูใหญ่เจ้าคะ ฮูหยินผู้เฒ่ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ"
" มาก็ช่างสิเกี่ยวอะไรกับข้า นางก็คงไม่อยากเห็นหน้าข้าหรอก ป่านนี้แม่ฉู่หรันคงไปเอาอกเอาใจแล้วหล่ะ"
นึกถึงหน้าของจ้าวซินหรูที่มีศักดิ์เป็นย่าของนางก็เบะปาก ตั้งแต่เล็กจนโตก็ไม่เคยชอบนาง เอะอะอะไรก็หรันเอ๋อของย่า ชิก่อนหน้าเห็นว่าไปแสวงบุญ เหตุใดถึงได้กลับมาเร็วนัก น่าจะไปสักปีสองปีไปเลยจวนนี้จะได้โล่งหูโล่งตา
" แต่นายท่านให้บ่าวมาตามคุณหนูไปทานข้าวเย็นพร้อมกันนะเจ้าคะ"
" ข้าไม่ไป"
สาวใช้นางนั้นมีสีหน้าลำบากใจ นัวนั่วจึงช่วยพูด
" คุณหนูไปเถอะเจ้าค่ะ นะเจ้าคะ ถือว่าเห็นแก่หน้านายท่าน"
จ้าวถิงถิงถอนหายใจเหนื่อยหน่าย วางตุ๊กตาผ้าที่ทำเองมาหลายวันลง
ยังไม่ทันก้าวเท้าเข้ามาในห้อง เสียงพูดคุยหัวเราะก็ดังออกมา พอนางเดินเข้าไปเสียงหัวเราะก็หยุดลง จ้าวซินหรูมองหน้านางด้วยสายตาไม่พอใจ
" พี่ถิงถิงท่านมาสักที ทุกคนกำลังรอท่านอยู่"
เสียงเหยียบใบไม้ดังกรอบแกรบใกล้เข้ามา" กลับมาทำไม ข้าบอกให้ไปไง"จ้าวฟานคิดว่าเป็นจ้าวซินหรู แต่พอหันไปมองกลับไม่ใช่" จื่อเย่"" เกิดอะไรขึ้น เหตุใดท่านถึงได้อยู่คนเดียว"จ้าวฟานเห็นหวังจื่อเย่มีไหเหล้ามาด้วย ก็คว้ามากระดกลงคอ ก่อนจะเล่าเรื่องบัดซบที่เกิดขึ้นให้ฟังหวังจื่อเย่ฟังไปก็ขมวดคิ้วไป หลายวันที่ผ่านมาเขาไม่ได้ไปไหนไกล แต่สืบหาร่องรอยอยู่แถวป่าบริเวณที่ขบวนต้าลี่เดินผ่านไม่รู้อะไรดลใจให้เขากลับมาที่นี่อีก เขาลุกขึ้นยื่นมือออกมา" ท่านไปกับข้าเถอะ เราจะไปตามหาถิงเอ๋อด้วยกัน ข้าเชื่อว่าสักวันต้องได้พบนาง"จ้าวฟานน้ำตาคลอยิ้มกว้าง ความหวังเดียวของเขาที่จะมีชีวิตอยู่คือบุตรสาวของเขาจ้าวถิงถิง ใช่ สักวันเขาต้องได้พบนางอีก ต่อไปเขาจะหนักแน่นไม่ฟังใครอีก เขาจะปกป้องนางตามใจนางทุกอย่าง ไม่มีจ้าวซินหรูมาทำให้ลำบากใจอีก ถึงต่อให้นางจะพูดอะไรเขาก็จะไม่สนใจ ตอนนี้นางคงโกนหัวบวชชีอยู่ที่วัดแล้ว เขาวางมือลงบนมือของหวังจื่อเย่ให้ฉุดเขาลุกขึ้น" ขอบใจนะ ขอบใจที่เจ้าไม่ทิ้งข้าเหมือนคนอื่น"" ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก หากวันนั้นท่านไม่ซื้อข้ากลับมาที่จวน ข้าก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นไร บางทีข้าอาจจะตาย
" หรันเอ๋อ จวนของเราถูกโจรปล้น แล้วพวกมันยังจุดไฟเผาจวนอีก ตอนนี้พวกเราไม่เหลืออะไรแล้ว"จ้าวซูฉีบอกจ้าวฉู่หรัน" อะไรนะเจ้าคะ เหตุใดถึงเป็นแบบนี้ งั้นตอนนี้เราก็ไม่มีอะไรเหลือเลยหน่ะสิ"หวังจื่อเย่เองก็ไม่คิดว่าตระกูลจ้าวจะโชคร้ายถึงเพียงนี้ เขามองดูจ้าวฟานที่หน้าตามอมแมมนั่งทุกข์ท้ออยู่กับพื้น ก่อนจะเดินไปนั่งลงใกล้ๆ" นายท่าน แล้วบ่าวรับใช้คนอื่นๆหล่ะขอรับ"" ข้าให้พวกเขาแยกย้ายกันไปหมดแล้วตอนนี้ไม่มีตระกูลจ้าวแล้ว ข้าเองก็ไม่ใช่นายท่านอีกต่อไป"" ท่านพี่ แต่ท่านยังเป็นขุนนางในราชสำนักนะเจ้าคะ"" ขุนนาง หึ เรื่องชิงตัวเจ้าสาวเจ้าคิดว่าฝ่าบาทยังไม่รู้รึ ป่านนี้คงรู้ไปทั่วทั่ววังหลวงแล้ว เจ้ายังคิดว่าตำแหน่งของข้าจะยังมีอยู่รึไง ตอนนี้คงมีคำสั่งให้กวาดล้างตระกูลจ้าวแล้ว จวนก็ถูกไฟไหม้ไปทั้งหลังทรัพย์สินของมีค่าก็ถูกปล้นไปจนหมด รอดชีวิตมาได้ก็บุญแล้ว แต่ถิงเอ๋อของข้าสิ ไม่รู้จะเป็นตายร้ายดียังไง ตอนนี้ข้าไม่มีอะไรเหลือแล้ว"" นายท่านยังไงก็ยังมีลมหายใจอยู่ ก่อนที่ทหารจะตามตัวพวกท่านเจอ ข้าว่าเราควรหาที่ซ่อนกันก่อนดีกว่า"" จื่อเย่ หยางหาน ข้าไม่ใช่นายท่านของพวกเจ้าแล้ว พวกเจ้าไปเถอะ อ
" ท่านแม่ ท่านย่า ขบวนเจ้าสาวไปแล้ว ในที่สุดข้าก็ไม่ต้องแต่งงานกับองค์ชายพิการนั่นแล้ว ข้าดีใจที่สุดเลยเจ้าค่ะ"จ้าวฉู่หรันพูดไปยิ้มไป มีจ้าวซินหรูกับจ้าวซูฉียืนขนาบข้างซ้ายขวา จ้าวฟานจ้องมองทั้งสามคนด้วยสายตาไม่พอใจ" พอใจพวกเจ้าแล้วสินะ"" ท่านพี่ จะโทษพวกข้าไม่ได้นะ ก็นางยอมไปเอง"" หากไม่เพราะพวกเจ้า นางจะยอมได้ยังไง โดยเฉพาะท่าน เพราะท่านจะฆ่าตัวตายนางถึงได้เห็นแก่ข้า ยอมขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว"จ้าวฟานชี้หน้าต่อว่าจ้าวซินหรู" ข้าทำเพื่อฉู่หรัน เพื่อหลานของข้า จะให้ข้ามองดูนางแต่งงานกับคนพิการได้อย่างไร นั่นมันชีวิตทั้งชีวิตของนางเลยนะ"" แล้วถิงเอ๋อนางไม่ใช่หลานของท่านรึ นางก็เป็นลูกของข้ามีสายเลือดตระกูลจ้าวเหมือนกัน"" หรันเอ๋อไม่เหมือนกับนาง หรันเอ๋อของข้าร่างกายอ่อนแอบอบบาง อากาศที่ต้าลี่หนาวเย็นตลอดทั้งปี ร่างกายของนางรับไม่ไหวหรอก ไม่เหมือนกับถิงถิง นางออกจะแข็งแรงบึกบึนออกอย่างนั้น ไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก"จ้าวฟานไม่อยากจะตอบโต้ด้วย เขาเดินเข้าห้องแล้วยกไหเหล้าขึ้นดื่มจนเมามาย" ผิงกั่วเจ้าเห็นจื่อเย่หรือไม่"" ไม่เห็นเลยเจ้าค่ะคุณหนู"" เจ้าไปตามเขามาพบข้าที ข้าจะไปรอในสวน"" เจ
" ข้าไม่ได้คิดแบบนั้น ข้าไม่อยากให้ท่านแต่งงานไปกับคนอื่น"" แล้วจะให้ข้าแต่งกับใครหล่ะ กับเจ้ารึ"" ชะ ใช่ ข้าอยากให้ท่านแต่งกับข้า ข้ารู้ว่าท่านชอบข้ามาตั้งหลายปี ท่านเคยบอกต่อหน้าทุกคนว่าจะแต่งงานกับข้า"หวังจื่อเย่คุกเข่าลงจับมือนางไว้"ถิงเอ๋อ ข้าอยากแต่งงานกับท่าน เราแต่งงานกันดีไหม ไม่สิ ข้าว่าเราเข้าหอกันก่อนดีกว่าไว้ค่อยแต่งทีหลัง แบบนี้ท่านก็จะได้ไม่ต้องแต่งกับองค์ชายพิการอัปลักษณ์นั่นแล้ว"นางดึงมือออกจากเขา" เมื่อก่อนข้าเคยชอบเจ้า อยากแต่งงานกับเจ้าคือเรื่องจริง แต่ตอนนี้ไม่ใช่ ข้าไม่ได้ชอบเจ้าแล้ว และข้าก็ไม่อยากแต่งงานกับเจ้าด้วย"" ไม่ ไม่จริง ข้าไม่เชื่อ ท่านรักข้ามาตั้งหลายปี จะเลิกรักง่ายๆได้ยังไง"" แล้วเจ้าหล่ะ หลงรักฉู่หรันมาหลายปี เหตุใดตอนนี้ถึงมาบอกว่าอยากจะแต่งงานกับข้า"" ข้าไม่ได้รักนางแล้ว ที่ผ่านมาข้าแค่หลงผิด ข้าคิดว่านางเป็นคนอ่อนหวานจิตใจดีแต่ข้าเข้าใจผิด นางไม่ได้แสนดีอย่างที่ข้าคิด นางเห็นข้าเป็นเพียงสุนัขรับใช้ตัวหนึ่งเท่านั้น"" อ้อ อย่างนี้นี่เอง ที่จริงนางก็ชอบดูถูกผู้อื่นมาตลอด เพียงแต่ความรักที่เจ้ามีให้นางมันปิดหูปิดตาเจ้า แต่ก็ยินดีด้วยนะที่เ
จ้าวถิงถิงมาถึงห้องโถง ก็เห็นทุกคนนั่งกันอยู่พร้อมหน้า" คาระวะฮูหยินผู้เฒ่า"จ้าวซินหรูจ้องมองจ้าวถิงถิงอย่างไม่พอใจ" คุกเข่าลง"จ้าวถิงถิงที่กำลังจะนั่งเก้าอี้ก็หยุดชะงัก จ้องมองจ้าวซินหรู" เหตุใดข้าต้องทำ"" เจ้าจงใจไม่ไปร่วมงานเลี้ยงทำให้หรันเอ๋อต้องถูกเลือกเป็นพระชายาแทนเจ้า เจ้ายังไม่รู้ความผิดอีก ข้าบอกให้คุกเข่า"จ้าวถิงถิงไม่สนใจ นางนั่งลงที่เก้าอี้พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา" ท่านพ่อไม่ได้บอกท่านรึ ว่าคืนนั้นข้าถูกโจรปล้นรถม้า ข้าหนีพวกโจรเข้าไปในป่าจนหลงทางเกือบเอาชีวิตไม่รอด ท่านพ่อกับบ่าวรับใช้ในจวนต่างก็พากันออกตามหาข้าทั้งคืน"" ข้าบอกแล้วแต่"" ข้าไม่เชื่อ เจ้าโกหก เจ้าแต่งเรื่องขึ้น อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น"" ไม่เชื่อก็แล้วแต่ท่าน"" เรื่องงานแต่งเจ้าต้องรับผิดชอบ"" ท่านแม่"" เจ้าไม่ต้องพูดข้าจะจัดการเอง"" ไหนลองพูดมาซิ ว่าจะให้ข้ารับผิดชอบยังไง"" เจ้าต้องแต่งงานแทนหรันเอ๋อ"" องค์ชายเลือกนางไม่ได้เลือกข้า"" แต่ถ้าเจ้าไปงานคืนนั้น ตำแหน่งที่หรันเอ๋อยืนก็ควรเป็นเจ้า ฉะนั้นผู้ที่ได้รับลูกบอลก็คือเจ้า เพราะเจ้าไม่ไปนางเลยต้องมารับเคราะห์แทนเจ้า"" ท่านรู้ได้ยังไงว่าถ้
หวังจื่อเย่มาที่เรือนของจ้าวถิงถิง เห็นในห้องนางมืดมิด เหตุใดถึงไม่จุดเทียนหรือว่านางไม่อยู่ในห้อง" นี่เจ้าเห็นคุณหนูใหญ่หรือไม่ นางอยู่ที่ใดแล้วเหตุใดถึงไม่มีใครเข้าไปจุดเทียนในห้องนาง"" คุณหนูใหญ่นางหลับแล้ว"" หลับแล้ว แต่นี่พึ่งยามซวีเองนะ ปกตินางจะนอนยามห้ายนี่""เห็นนัวนั่วบอกว่าคุณหนูใหญ่ไม่ค่อยสบายเลยนอนเร็ว ยังสั่งห้ามใครรบกวน"" แบบนี้นี่เอง"หวังจื่อเย่มองดูกล่องใส่ปิ่นปักผมในมือ งั้นพรุ่งนี้ค่อยให้นางละกันก่อนฟ้าสาง ฮ่าวหยูมาส่งจ้าวถิงถิงที่จวน " ปล่อยข้าได้แล้ว"เขาส่ายหน้ากอดนางไว้แน่นไม่ยอมปล่อยเขาอยากกอดนางไว้แบบนี้ จะต้องทำยังไงนะเขาถึงจะได้อยู่กับนาง จ้าวถิงถิงตีมือเขาให้ปล่อย เขาจำใจปล่อยนางลงจากหลังม้าแล้วรอรับนาง นางเดินเข้าทางประตูหลังจวน ก่อนไปก็หันมามองโบกมือไล่เขาให้ไปได้แล้ว เดินไม่ทันจะถึงเรือนก็เจอกับหวังจื่อเย่" คุณหนูใหญ่ ท่านจะไปไหนแต่เช้ามืดรึ"นางถอนหายใจเหนื่อยหน่าย" ข้าจะไปไหนมาไหนต้องรายงานเจ้าด้วยรึ"" ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น ข้าก็แค่เป็นห่วงท่าน เมื่อคืนเห็นบ่าวรับใช้บอกว่าท่านไม่สบายเลยนอนเร็ว ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างหายหรือยัง แล้วได้ให้หมอม