" จื่อเย่ เจ้ามีความคิดเห็นยังไง"
" ข้าต่ำต้อยไม่คู่ควรกับคุณหนูใหญ่ขอรับ"
หวังจื่อเย่รีบปฏิเสธทันที ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าจ้าวถิงถิงชอบเขา แต่เขาไม่ได้ชอบนาง คนที่เขาชอบคือจ้าวฉู่หรันต่างหาก
" เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่สนใจเรื่องฐานะคู่ควรไม่คู่ควร ข้าไม่สน ข้าสนแค่ว่าข้าชอบเจ้าและข้าก็เลือกเจ้าแล้ว"
จ้าวถิงถิงพูดหนักแน่นส่งยิ้มให้หวังจื่อเย่ ก่อนจะมองหน้าจ้าวฉู่หรัน เห็นแววตาไม่พอใจอยู่ในดวงตาคู่นั้น
" ว่ายังไง เจ้าจะแต่งงานกับถิงเอ๋อไหม หากเจ้าไม่มีปัญหาอะไร ข้าจะให้เจ้ากับนางหมั้นหมายกันไว้ก่อน"
หวังจื่อเย่มีสีหน้าลำบากใจ เมื่อเห็นสายตากดดันของจ้าวฟาน เขาก็จำใจยอมรับ งานเลี้ยงในวันนี้แขกเหรื่อที่มาร่วมงานล้วนแต่เป็นขุนนางในราชสำนัก หากเขาปฏิเสธไม่เพียงแต่ทำให้จ้าวถิงถิงอับอาย แต่ยังทำให้จ้าวฟานต้องเสียหน้าอีกด้วย
" ขอรับ"
เขาตอบรับด้วยความไม่เต็มใจ สายตาจ้องมองจ้าวฉู่หรันที่กำลังมองเขาอยู่ นางส่งยิ้มบางๆให้ แต่ในดวงตาคู่นั้นกลับหม่นหมองผิดหวัง
" ดี ดี งั้นข้าขอประกาศให้ทุกคนรับรู้ วันนี้นอกจากจะเป็นงานวันเกิดข้าจ้าวฟานแล้วข้ายังมีข่าวดีแจ้งให้ทุกท่านทราบ จ้าวถิงถิงบุตรสาวคนโตของข้า คุณหนูใหญ่แห่งจวนตระกูลจ้าว กับหวังจื่อเย่เป็นคู่หมั้นหมายกัน ส่วนงานแต่งจะจัดขึ้นในเร็วๆนี้ ได้ฤกษ์เมื่อไหร่จะเรียนเชิญทุกท่านอีกที"
" พวกเราขอดื่มให้ใต้เท้าจ้าว ให้คุณหนูใหญ่กับคู่หมั้น"
" ดื่มๆ"
" จื่อเย่ ข้ากับเจ้าเป็นคู่หมั้นกันแล้ว ไหนหล่ะของแทนใจของข้า"
" ข้าไม่มี ท่านก็รู้ว่าข้าเป็นเพียงบ่าวคนหนึ่งในจวน กำพร้าบิดามารดาไม่มีของมีค่าอะไร "
" ข้าไม่ได้ต้องการของมีค่าสักหน่อย อะไรก็ได้ที่เป็นของของเจ้า ใช้เป็นของหมั้นข้า"
" ไว้ข้าจะไปหาซื้อมาให้วันหลัง"
" ได้ ข้าจะรอ"
นางยิ้มกว้างให้เขา ส่วนเขาได้แต่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ตอนเช้านางมาเดินเล่นในสวน เจอจ้าวฉู่หรันที่กำลังเดินมาพอดี
" พี่ถิงถิงท่านก็มาเดินเล่นเหมือนกันเหรอเจ้าคะ"
จ้าวถิงถิงไม่ตอบ สายตาจ้องมองไปที่ปิ่นปักผมสีขมพูบนหัวของจ้าวฉู่หรัน ก็จำได้ว่าปิ่นนั้นเป็นปิ่นที่นางหยิบขึ้นมาให้หวังจื่อเย่เลือก ระหว่างปิ่นสีชมพูกับปิ่นหยกสีเขียวนางเหมาะกับอันไหนมากกว่า และเขาก็เลือกปิ่นหยกสีเขียวให้นาง ไม่คิดว่าเขาจะเลือกปิ่นสีชมพูอีกอันมาให้จ้าวฉู่หรัน ก็ว่าอยู่ว่าทำไมวันนั้นเขาถึงไม่ได้ตามนางมาในทันที แต่บอกกับนัวนั่วว่ามีเรื่องต้องไปทำเรื่องที่ว่าคือกลับไปซื้อปิ่นปักผมอันนี้ให้จ้าวฉู่หรันสินะ
" พี่ถิงถิง"
นางหยิบปิ่นออกมาจากหัวของจ้าวฉู่หรัน
" พี่ถิงถิงปิ่นของข้า"
" ปิ่นนี้เป็นคู่หมั้นข้าให้เจ้าสินะ "
" ใช่ จื่อเย่ให้ข้า แต่นั่นมันก็ก่อนที่ท่านพ่อจะประกาศว่าท่านกับเขาเป็นคู่หมั้นกัน หากท่านอยากได้ท่านก็บอกให้เขาซื้อให้สิ ไม่ใช่มาแย่งของข้า"
เพล้ง จ้าวถิงถิงเขวี้ยงปิ่นทิ้งจนแตก ชิ้นส่วนกระจายไปถูกเท้าของหวังจื่อเย่ที่เดินมาพอดี เขามองเห็นจ้าวฉู่หรันร้องไห้ก้มเก็บชิ้นส่วนปิ่นที่แตก ก็ไม่พอใจจ้องหน้าจ้าวถิงถิง
" คุณหนูใหญ่เหตุใดต้องทำแบบนี้ด้วย"
" เจ้าเป็นคู่หมั้นของข้า แต่กลับซื้อของให้หญิงอื่น ข้าไม่ชอบ ทั้งที่ข้าเป็นคู่หมั้นของเจ้าแต่เจ้าไม่เคยซื้ออะไรให้ข้าเลย ปิ่นอันนี้ก็คือปิ่นอีกอันข้าให้เจ้าช่วยเลือกในวันนั้น ทีข้าเจ้าไม่ซื้อให้ แต่กลับซื้อให้นาง"
" ข้าบอกแล้วไงว่าวันหลังข้าจะซื้อให้ท่านอีกอย่าง ปิ่นอันนี้ข้าให้คุณหนูรองก่อนที่นายท่านจะประกาศว่าเราหมั้นกัน ฉะนั้นเรื่องนี้ข้าไม่ผิด คุณหนูรองก็ด้วย"
" แล้วใครผิด ข้างั้นสิ"
" ท่านรู้ดีแก่ใจ"
นางมองเขาด้วยสายตาผิดหวัง ก่อนจะหันไปมองจ้าวฉู่หรันด้วยสายตาไม่พอใจ อยากจะดูสิว่าหากนางกับจ้าวฉู่หรันตกน้ำพร้อมกันเขาจะเลือกช่วยใคร นางเข้าไปดึงตัวจ้าวฉู่หรันกระโดดลงสระน้ำไปด้วยกัน
" คุณหนู" " คุณหนู"
นัวนั่วกับผิงกั่วตกใจร้องเรียกคุณหนูของพวกนาง หวังจื่อเย่กับหยางหานรีบกระโดดลงน้ำลงไปช่วยจ้าวฉู่หรันที่กำลังจะจม ไม่มีใครสนใจช่วยจ้าวถิงถิงเลย
จ้าวถิงถิงมองดูองครักษ์สองคนกำลังช่วยจ้าวฉู่หรันขึ้นจากน้ำ หยางหานเป็นองครักษ์ของจ้าวฉู่หรัน สมควรช่วยจ้าวฉู่หรันก็ถูกแล้ว แต่หวังจื่อเย่นี่สิ เขาเป็นทั้งองครักษ์และคู่หมั้นหมาดๆของนาง แต่ไม่สนใจนางว่าจะเป็นจะตายยังไง
" คุณหนู"
ผิงกั่วรีบเข้าไปรับจ้าวฉู่หรัน
" คุณหนู จื่อเย่ทำไมเจ้าไม่ช่วยคุณหนูของข้า"
หวังจื่อเย่ได้สติหันไปมอง เห็นจ้าวถิงถิงยังอยู่ในน้ำมองเขาด้วยสายตาไม่พอใจ เขารีบกระโดดลงไปช่วย แต่จ้าวถิงถิงก็ปีนขึ้นไปเองก่อน เขารู้ว่านางว่ายน้ำเป็นยังไงก็ช่วยตัวเองได้ถึงได้เลือกช่วยจ้าวฉู่หรันที่ว่ายน้ำไม่เป็น ที่นางทำแบบนี้ก็เพราะต้องการเรียกร้องความสนใจจากเขา
กลับถึงเรือนจ้าวถิงถิงเก็บตัวเงียบไม่พบใคร แม้แต่หมอจะมาดูอาการก็ไม่ให้เข้ามา
" ถิงเอ๋อนี่พ่อเอง ให้ข้าเข้าไปได้หรือไม่"
เห็นนางเงียบไม่ตอบจึงได้แต่ส่ายหัว
" เจ้าคอยดูแลนางให้ดี ถ้ามีอะไรก็ให้รีบไปเรียกข้า"
"เจ้าค่ะนายท่าน"
จ้าวฟานไปที่เรือนของจ้าวฉู่หรัน จ้าวซูฉีกำลังป้อนยานางอยู่
" เป็นอย่างไรบ้าง"
" แค่กแค่ก ท่านพ่อ ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ แค่กแค่ก"
" ท่านพี่ คุณหนูใหญ่นับวันยิ่งเอาแต่ใจเพียงเพราะปิ่นอันเดียวที่จื่อเย่ซื้อให้หรันเอ๋อ นางก็ไม่พอใจแย่งปิ่นไปทำลาย ยังทำให้หรันเอ๋อตกน้ำอีก หากท่านไม่ตักเตือนนางบ้างข้าเกรงว่า "
" เรื่องถิงเอ๋อข้าจะเตือนนางเองเจ้าไม่ต้องมายุ่ง เจ้าดูแลบุตรสาวเจ้าให้ดีเถอะ"
พูดจบก็เดินออกไป
หวังจื่อเย่คุกเข่าอยู่ลานบ้าน เสื้อผ้าเปียกโชกยังไม่ได้เปลี่ยน
" เจ้าเป็นทั้งองครักษ์และคู่หมั้นของถิงเอ๋อเหตุใดถึงไม่ช่วยนาง แต่ไปกลับไปช่วยหรันเอ๋อ"
" ข้ารู้ว่าคุณหนูใหญ่ว่ายน้ำเป็นเอาตัวรอดได้ เลยเลือกช่วยคุณหนูรอง นางร่างกายอ่อนแอตั้งแต่เด็กรูปร่างผอมบาง ในน้ำก็หนาวเย็นนัก"
" ใช่ หรันเอ๋อว่ายน้ำไม่เป็น ส่วนถิงเอ๋อว่ายน้ำเป็น หรันเอ๋อร่างกายอ่อนแอถิงเอ๋อร่างกายแข็งแรง แต่เจ้าก็บอกนี่ว่าในน้ำมันหนาวเย็น ต่อให้ว่ายน้ำเป็นต่อให้แข็งแรงแต่นางก็เป็นสตรี ไม่ต้องพูดถึงในฐานะคู่หมั้น แต่พูดถึงในฐานะองครักษ์ เจ้าบกพร่องต่อหน้าที่ไม่ดูแลปกป้องนาง หรันเอ๋อมีหยางหานเป็นองครักษ์ ถึงเจ้าไม่ช่วยนางยังไงเขาก็ต้องช่วยนางอยู่แล้ว เอ่อถง ลงโทษโบยเขา50ที"
" ขอรับนายท่าน"
เสียงไม้กระทบเนื้อดังทั่วทั่งบริเวณลานกว้าง กลิ่นคาวเลือดฟุ้งออกมา แผ่นหลังของหวังจื่อเย่แตกยับ เขากัดฟันแน่นไม่เปล่งเสียงร้องสักแอะ ถึงต่อให้ย้อนเวลากลับไปได้เขาก็จะทำอย่างเดิม ช่วยคนที่เขารัก จ้าวฉู่หรัน
เสียงเหยียบใบไม้ดังกรอบแกรบใกล้เข้ามา" กลับมาทำไม ข้าบอกให้ไปไง"จ้าวฟานคิดว่าเป็นจ้าวซินหรู แต่พอหันไปมองกลับไม่ใช่" จื่อเย่"" เกิดอะไรขึ้น เหตุใดท่านถึงได้อยู่คนเดียว"จ้าวฟานเห็นหวังจื่อเย่มีไหเหล้ามาด้วย ก็คว้ามากระดกลงคอ ก่อนจะเล่าเรื่องบัดซบที่เกิดขึ้นให้ฟังหวังจื่อเย่ฟังไปก็ขมวดคิ้วไป หลายวันที่ผ่านมาเขาไม่ได้ไปไหนไกล แต่สืบหาร่องรอยอยู่แถวป่าบริเวณที่ขบวนต้าลี่เดินผ่านไม่รู้อะไรดลใจให้เขากลับมาที่นี่อีก เขาลุกขึ้นยื่นมือออกมา" ท่านไปกับข้าเถอะ เราจะไปตามหาถิงเอ๋อด้วยกัน ข้าเชื่อว่าสักวันต้องได้พบนาง"จ้าวฟานน้ำตาคลอยิ้มกว้าง ความหวังเดียวของเขาที่จะมีชีวิตอยู่คือบุตรสาวของเขาจ้าวถิงถิง ใช่ สักวันเขาต้องได้พบนางอีก ต่อไปเขาจะหนักแน่นไม่ฟังใครอีก เขาจะปกป้องนางตามใจนางทุกอย่าง ไม่มีจ้าวซินหรูมาทำให้ลำบากใจอีก ถึงต่อให้นางจะพูดอะไรเขาก็จะไม่สนใจ ตอนนี้นางคงโกนหัวบวชชีอยู่ที่วัดแล้ว เขาวางมือลงบนมือของหวังจื่อเย่ให้ฉุดเขาลุกขึ้น" ขอบใจนะ ขอบใจที่เจ้าไม่ทิ้งข้าเหมือนคนอื่น"" ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก หากวันนั้นท่านไม่ซื้อข้ากลับมาที่จวน ข้าก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นไร บางทีข้าอาจจะตาย
" หรันเอ๋อ จวนของเราถูกโจรปล้น แล้วพวกมันยังจุดไฟเผาจวนอีก ตอนนี้พวกเราไม่เหลืออะไรแล้ว"จ้าวซูฉีบอกจ้าวฉู่หรัน" อะไรนะเจ้าคะ เหตุใดถึงเป็นแบบนี้ งั้นตอนนี้เราก็ไม่มีอะไรเหลือเลยหน่ะสิ"หวังจื่อเย่เองก็ไม่คิดว่าตระกูลจ้าวจะโชคร้ายถึงเพียงนี้ เขามองดูจ้าวฟานที่หน้าตามอมแมมนั่งทุกข์ท้ออยู่กับพื้น ก่อนจะเดินไปนั่งลงใกล้ๆ" นายท่าน แล้วบ่าวรับใช้คนอื่นๆหล่ะขอรับ"" ข้าให้พวกเขาแยกย้ายกันไปหมดแล้วตอนนี้ไม่มีตระกูลจ้าวแล้ว ข้าเองก็ไม่ใช่นายท่านอีกต่อไป"" ท่านพี่ แต่ท่านยังเป็นขุนนางในราชสำนักนะเจ้าคะ"" ขุนนาง หึ เรื่องชิงตัวเจ้าสาวเจ้าคิดว่าฝ่าบาทยังไม่รู้รึ ป่านนี้คงรู้ไปทั่วทั่ววังหลวงแล้ว เจ้ายังคิดว่าตำแหน่งของข้าจะยังมีอยู่รึไง ตอนนี้คงมีคำสั่งให้กวาดล้างตระกูลจ้าวแล้ว จวนก็ถูกไฟไหม้ไปทั้งหลังทรัพย์สินของมีค่าก็ถูกปล้นไปจนหมด รอดชีวิตมาได้ก็บุญแล้ว แต่ถิงเอ๋อของข้าสิ ไม่รู้จะเป็นตายร้ายดียังไง ตอนนี้ข้าไม่มีอะไรเหลือแล้ว"" นายท่านยังไงก็ยังมีลมหายใจอยู่ ก่อนที่ทหารจะตามตัวพวกท่านเจอ ข้าว่าเราควรหาที่ซ่อนกันก่อนดีกว่า"" จื่อเย่ หยางหาน ข้าไม่ใช่นายท่านของพวกเจ้าแล้ว พวกเจ้าไปเถอะ อ
" ท่านแม่ ท่านย่า ขบวนเจ้าสาวไปแล้ว ในที่สุดข้าก็ไม่ต้องแต่งงานกับองค์ชายพิการนั่นแล้ว ข้าดีใจที่สุดเลยเจ้าค่ะ"จ้าวฉู่หรันพูดไปยิ้มไป มีจ้าวซินหรูกับจ้าวซูฉียืนขนาบข้างซ้ายขวา จ้าวฟานจ้องมองทั้งสามคนด้วยสายตาไม่พอใจ" พอใจพวกเจ้าแล้วสินะ"" ท่านพี่ จะโทษพวกข้าไม่ได้นะ ก็นางยอมไปเอง"" หากไม่เพราะพวกเจ้า นางจะยอมได้ยังไง โดยเฉพาะท่าน เพราะท่านจะฆ่าตัวตายนางถึงได้เห็นแก่ข้า ยอมขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว"จ้าวฟานชี้หน้าต่อว่าจ้าวซินหรู" ข้าทำเพื่อฉู่หรัน เพื่อหลานของข้า จะให้ข้ามองดูนางแต่งงานกับคนพิการได้อย่างไร นั่นมันชีวิตทั้งชีวิตของนางเลยนะ"" แล้วถิงเอ๋อนางไม่ใช่หลานของท่านรึ นางก็เป็นลูกของข้ามีสายเลือดตระกูลจ้าวเหมือนกัน"" หรันเอ๋อไม่เหมือนกับนาง หรันเอ๋อของข้าร่างกายอ่อนแอบอบบาง อากาศที่ต้าลี่หนาวเย็นตลอดทั้งปี ร่างกายของนางรับไม่ไหวหรอก ไม่เหมือนกับถิงถิง นางออกจะแข็งแรงบึกบึนออกอย่างนั้น ไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก"จ้าวฟานไม่อยากจะตอบโต้ด้วย เขาเดินเข้าห้องแล้วยกไหเหล้าขึ้นดื่มจนเมามาย" ผิงกั่วเจ้าเห็นจื่อเย่หรือไม่"" ไม่เห็นเลยเจ้าค่ะคุณหนู"" เจ้าไปตามเขามาพบข้าที ข้าจะไปรอในสวน"" เจ
" ข้าไม่ได้คิดแบบนั้น ข้าไม่อยากให้ท่านแต่งงานไปกับคนอื่น"" แล้วจะให้ข้าแต่งกับใครหล่ะ กับเจ้ารึ"" ชะ ใช่ ข้าอยากให้ท่านแต่งกับข้า ข้ารู้ว่าท่านชอบข้ามาตั้งหลายปี ท่านเคยบอกต่อหน้าทุกคนว่าจะแต่งงานกับข้า"หวังจื่อเย่คุกเข่าลงจับมือนางไว้"ถิงเอ๋อ ข้าอยากแต่งงานกับท่าน เราแต่งงานกันดีไหม ไม่สิ ข้าว่าเราเข้าหอกันก่อนดีกว่าไว้ค่อยแต่งทีหลัง แบบนี้ท่านก็จะได้ไม่ต้องแต่งกับองค์ชายพิการอัปลักษณ์นั่นแล้ว"นางดึงมือออกจากเขา" เมื่อก่อนข้าเคยชอบเจ้า อยากแต่งงานกับเจ้าคือเรื่องจริง แต่ตอนนี้ไม่ใช่ ข้าไม่ได้ชอบเจ้าแล้ว และข้าก็ไม่อยากแต่งงานกับเจ้าด้วย"" ไม่ ไม่จริง ข้าไม่เชื่อ ท่านรักข้ามาตั้งหลายปี จะเลิกรักง่ายๆได้ยังไง"" แล้วเจ้าหล่ะ หลงรักฉู่หรันมาหลายปี เหตุใดตอนนี้ถึงมาบอกว่าอยากจะแต่งงานกับข้า"" ข้าไม่ได้รักนางแล้ว ที่ผ่านมาข้าแค่หลงผิด ข้าคิดว่านางเป็นคนอ่อนหวานจิตใจดีแต่ข้าเข้าใจผิด นางไม่ได้แสนดีอย่างที่ข้าคิด นางเห็นข้าเป็นเพียงสุนัขรับใช้ตัวหนึ่งเท่านั้น"" อ้อ อย่างนี้นี่เอง ที่จริงนางก็ชอบดูถูกผู้อื่นมาตลอด เพียงแต่ความรักที่เจ้ามีให้นางมันปิดหูปิดตาเจ้า แต่ก็ยินดีด้วยนะที่เ
จ้าวถิงถิงมาถึงห้องโถง ก็เห็นทุกคนนั่งกันอยู่พร้อมหน้า" คาระวะฮูหยินผู้เฒ่า"จ้าวซินหรูจ้องมองจ้าวถิงถิงอย่างไม่พอใจ" คุกเข่าลง"จ้าวถิงถิงที่กำลังจะนั่งเก้าอี้ก็หยุดชะงัก จ้องมองจ้าวซินหรู" เหตุใดข้าต้องทำ"" เจ้าจงใจไม่ไปร่วมงานเลี้ยงทำให้หรันเอ๋อต้องถูกเลือกเป็นพระชายาแทนเจ้า เจ้ายังไม่รู้ความผิดอีก ข้าบอกให้คุกเข่า"จ้าวถิงถิงไม่สนใจ นางนั่งลงที่เก้าอี้พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา" ท่านพ่อไม่ได้บอกท่านรึ ว่าคืนนั้นข้าถูกโจรปล้นรถม้า ข้าหนีพวกโจรเข้าไปในป่าจนหลงทางเกือบเอาชีวิตไม่รอด ท่านพ่อกับบ่าวรับใช้ในจวนต่างก็พากันออกตามหาข้าทั้งคืน"" ข้าบอกแล้วแต่"" ข้าไม่เชื่อ เจ้าโกหก เจ้าแต่งเรื่องขึ้น อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น"" ไม่เชื่อก็แล้วแต่ท่าน"" เรื่องงานแต่งเจ้าต้องรับผิดชอบ"" ท่านแม่"" เจ้าไม่ต้องพูดข้าจะจัดการเอง"" ไหนลองพูดมาซิ ว่าจะให้ข้ารับผิดชอบยังไง"" เจ้าต้องแต่งงานแทนหรันเอ๋อ"" องค์ชายเลือกนางไม่ได้เลือกข้า"" แต่ถ้าเจ้าไปงานคืนนั้น ตำแหน่งที่หรันเอ๋อยืนก็ควรเป็นเจ้า ฉะนั้นผู้ที่ได้รับลูกบอลก็คือเจ้า เพราะเจ้าไม่ไปนางเลยต้องมารับเคราะห์แทนเจ้า"" ท่านรู้ได้ยังไงว่าถ้
หวังจื่อเย่มาที่เรือนของจ้าวถิงถิง เห็นในห้องนางมืดมิด เหตุใดถึงไม่จุดเทียนหรือว่านางไม่อยู่ในห้อง" นี่เจ้าเห็นคุณหนูใหญ่หรือไม่ นางอยู่ที่ใดแล้วเหตุใดถึงไม่มีใครเข้าไปจุดเทียนในห้องนาง"" คุณหนูใหญ่นางหลับแล้ว"" หลับแล้ว แต่นี่พึ่งยามซวีเองนะ ปกตินางจะนอนยามห้ายนี่""เห็นนัวนั่วบอกว่าคุณหนูใหญ่ไม่ค่อยสบายเลยนอนเร็ว ยังสั่งห้ามใครรบกวน"" แบบนี้นี่เอง"หวังจื่อเย่มองดูกล่องใส่ปิ่นปักผมในมือ งั้นพรุ่งนี้ค่อยให้นางละกันก่อนฟ้าสาง ฮ่าวหยูมาส่งจ้าวถิงถิงที่จวน " ปล่อยข้าได้แล้ว"เขาส่ายหน้ากอดนางไว้แน่นไม่ยอมปล่อยเขาอยากกอดนางไว้แบบนี้ จะต้องทำยังไงนะเขาถึงจะได้อยู่กับนาง จ้าวถิงถิงตีมือเขาให้ปล่อย เขาจำใจปล่อยนางลงจากหลังม้าแล้วรอรับนาง นางเดินเข้าทางประตูหลังจวน ก่อนไปก็หันมามองโบกมือไล่เขาให้ไปได้แล้ว เดินไม่ทันจะถึงเรือนก็เจอกับหวังจื่อเย่" คุณหนูใหญ่ ท่านจะไปไหนแต่เช้ามืดรึ"นางถอนหายใจเหนื่อยหน่าย" ข้าจะไปไหนมาไหนต้องรายงานเจ้าด้วยรึ"" ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น ข้าก็แค่เป็นห่วงท่าน เมื่อคืนเห็นบ่าวรับใช้บอกว่าท่านไม่สบายเลยนอนเร็ว ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างหายหรือยัง แล้วได้ให้หมอม