" คุณหนูใหญ่ หากเป็นวันอื่นท่านมาช้าก็ไม่เป็นไร แต่วันนี้มีฮูหยินผู้เฒ่าอยู่ด้วย ท่านไม่ควรให้ผู้ใหญ่ต้องรอนาน"
จ้าวซูฉีพูดตำหนิ จ้าวถิงถิงนั่งลงจ้องหน้าจ้าวซูฉี
" เป็นแค่ภรรยารอง มีสิทธิ์อะไรมาตำหนิข้า ท่านไม่ใช่แม่ของข้า ไม่ต้องสะเออะมาสั่งสอนข้า"
จ้าวซูฉีข่มอารมณ์โกรธไว้ก้มหน้างุด แสร้งทำเป็นเศร้าแต่สองมือกำแน่น
" พอแล้ว เจ้าก็ยังเหมือนเดิมสินะ ดื้อรั้นเอาแต่ใจไร้มารยาท ไม่เหมือนหรันเอ๋อของข้า น่ารักอ่อนหวานแสนดี "
จ้าวซินหรูจ้องมองจ้าวถิงถิงด้วยสายตาไม่พอใจ ก่อนจะหันไปส่งยิ้มอ่อนโยนให้จ้าวฉู่หรัน
" เอาหล่ะๆ กินข้าวกันเถอะ"
จ้าวฟานพูดตัดบท
" ท่านย่า ข้าจำได้ว่านี่เป็นของโปรดของท่าน"
จ้าวฉู่หรันคีบเนื้อปลานึ่งซีอิ๊ว ใส่ชามข้าวจ้าวซินหรู
" หรันเอ๋อของย่าน่ารักที่สุด ยังจำได้ว่าย่าชอบ"
จ้าวถิงถิงมองทั้งสองแล้วเบะปากหมั่นไส้ก่อนจะคีบเนื้อไก่ผัดเผ็ดเข้าปาก
" หรันเอ๋อปีนี้เจ้าอายุเท่าไหร่แล้ว"
" 16เจ้าค่ะ"
" อืม16แล้ว สมควรมีคู่ครองได้แล้ว อาฟานได้มองหาใครไว้บ้างหรือยัง หรือมีตระกูลใดส่งแม่สื่อมาสู่ขอหรือไม่"
หวังจื่อเย่มองหน้าจ้าวฉู่หรัน ทั้งสองสบตากัน จ้าวถิงถิงมองทั้งสองสลับไปมา หวังจื่อเย่เห็นจ้าวถิงถิงมอง เขาก็รีบเบนสายตาไปทางอื่น
" ยังเลยขอรับ เรื่องของหรันเอ๋อเอาไว้ก่อนให้ถิงเอ๋อแต่งออกเรือนไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน"
" เหอะ ถึงนางจะเป็นพี่สาว แต่ด้วยนิสัยของนางจะมีตระกูลใดมาสู่ขอหล่ะ ขืนรอนางแต่งก่อน หรันเอ๋อก็ไม่ต้องแต่งพอดี"
" ท่านแม่ไม่ต้องห่วง ถิงเอ๋อมีคู่หมั้นแล้ว ข้ากำลังหาฤกษ์ให้พวกเขาแต่งกันเร็วๆนี้"
" ใครรึ บุรุษโชคร้ายผู้นั้น"
" ท่านย่า อย่าพูดอย่างนั้นสิเจ้าคะ"
จ้าวฉู่หรันพูดขึ้น
" ข้าพูดผิดตรงไหน จะมีใครทนนิสัยเอาแต่ใจเจ้าอารมณ์อย่างนางได้ "
" คู่หมั้นของพี่ถิงถิงคือจื่อเย่เจ้าค่ะท่านย่า"
" จื่อเย่ใครกัน รึว่า"
" ใช่เจ้าค่ะ เป็นองครักษ์ของพี่ถิงถิง"
จ้าวซินหรูมองตามสายตาของจ้าวฉู่หรันเห็นชายหนุ่มหน้าตาเคร่งขรึมดูสง่างามยืนอยู่ไม่ไกล
" คนนั้นรึ"
" เจ้าค่ะ จื่อเย่เป็นองครักษ์ของพี่ถิงถิงมาหลายปี ติดตามนางมาตั้งแต่เด็กๆแล้วเจ้าค่ะ"
" อืม ก็หน่วยก้านดีนี่ เป็นองครักษ์ของนางติดตามนางมานานก็คงจะรับนางได้ ที่จริงข้าก็เห็นเจ้าอยู่หลายครั้งแต่ไม่ได้มองให้ชัดๆ ว่าแต่นางคงเป็นคนบอกว่าอยากแต่งงานกับเจ้าสินะ เพราะฐานะอย่างเจ้าคงไม่อาจหาญมาสู่ขอนางเองหรอก ส่วนเจ้าอาฟาน เจ้าเป็นถึงขุนนางขั้นสี่ หากจะเลือกเขยก็คงต้องเป็นบุตรชายจากตระกูลใหญ่ไม่ก็ขุนนางสำคัญในราชสำนัก ข้าพูดถูกหรือไม่"
" ขอรับท่านแม่ ถิงเอ๋อเลือกเอง เรื่องคู่ครองข้าให้อิสระกับนาง ถึงจื่อเย่จะไม่มีชาติตระกูล ไม่ได้เป็นคุณชายสูงศักดิ์ แต่เขาก็เป็นคนดีมีฝีมือเก่งกาจ ข้าไม่มีบุตรชายหากถิงเอ๋อแต่งงานกับเขา เขาก็จะเป็นเขยแต่งเข้า ต่อไปทุกอย่างของข้าก็จะให้เขาสืบทอด"
" ท่านพ่อ ข้ามีเรื่องบอกท่านเจ้าค่ะ ข้ามาคิดดูแล้ว ข้าไม่ควรบังคับจิตใจใคร ข้าไม่อยากแต่งงานกับเขาแล้วเจ้าค่ะ"
หวังจื่อเย่หันควับไปมองหน้านาง ไม่รู้ว่านางมีแผนอะไรอีก
" เจ้า เจ้าพูดอะไรรู้ตัวไหม เจ้าคิดว่าเรื่องแต่งงานเป็นเรื่องเล่นรึยังไง วันก่อนบอกข้าว่าชอบเขา อยากแต่งงานกับเขา ข้าก็ประกาศต่อหน้าทุกคนว่าให้เจ้ากับเขาหมั้นกัน แล้ววันนี้เจ้ามาบอกว่าไม่อยากแต่ง ถิงเอ๋อ ข้าคงตามใจเจ้ามากไปสินะ"
" ท่านพ่อ ก็แค่หมั้นปากเปล่าไม่ได้มีพิธีหรือของหมั้นนี่เจ้าคะ ที่สำคัญเขาให้ของหมั้นแทนใจกับฉู่หรันไปแล้ว ไม่เท่ากับว่าพวกเขาหมั้นกันหรอกรึ"
" หรันเอ๋อ ที่นางพูดจริงหรือไม่"
" ไม่จริงเจ้าค่ะท่านพ่อ ข้ารู้ว่าพี่ถิงถิงกับจื่อเย่เป็นคู่หมั้นกัน แล้วข้าจะไปรับของหมั้นจากเขาได้ยังไง"
" จริงรึ แต่ข้าเห็นกับตาว่าเขาให้ของมีค่าที่สุดหนึ่งเดียวที่เขามีกับเจ้า เจ้าก็พกมันติดตัวอยู่นี่"
" ไม่ ไม่มีเจ้าค่ะ พี่ถิงถิงเข้าใจผิดแล้ว"
" หยกชิ้นนั้นไม่ได้อยู่ที่เจ้าหรอกรึ"
" ข้า "
ทุกคนมองไปที่จ้าวฉู่หรัน
" เอามาให้ข้าดูหน่อย"
จ้าวฟานแบมือออกมารอ จ้าวฉู่หรันส่ายหน้าไม่ยอมรับ จ้าวถิงถิงลุกขึ้นไปกระชากจี้หยกที่ห้อยเอวของจ้าวฉู่หรันส่งให้จ้าวฟาน จ้าวฟานเห็นแว่บเดียวก็จำได้ ว่านี่เป็นจี้หยกที่หวังจื่อเย่พกติดตัว ก็หันไปมองหน้าหวังจื่อเย่
" เจ้าจะอธิบายว่ายังไง"
" นายท่าน ข้ายอมรับว่าให้จี้หยกกับคุณหนูรองจริงๆ แต่ไม่ใช่ของหมั้นหรือของแทนใจอะไร ข้าเห็นว่าปิ่นที่ข้าให้นางคราวก่อนถูกคุณหนูใหญ่ทำหัก ข้าเลยชดเชยให้นางด้วยจี้หยกชิ้นนี้"
" อย่างงั้นรึ แต่จี้หยกชิ้นนี้เป็นสิ่งที่เจ้าพกติดตัวตลอดไม่เคยถอด ในเมื่อเป็นของสำคัญของเจ้า เหตุใดจึงไม่ให้ถิงเอ๋อเป็นของหมั้น แต่กลับให้หรันเอ๋อแทน"
" จี้หยกไม่ได้มีค่าอะไร เป็นเพียงหยกธรรมดาไม่มีราคา ข้าคิดว่าจะหาของที่มีราคาแพงให้คุณหนูใหญ่ ให้สมฐานะของนาง เลยไม่ได้ให้จี้หยกชิ้นนี้กับนาง"
" เจ็บไหม"
จ้าวถิงถิงหันไปถามหวังจื่อเย่ เขาขมวดคิ้วไม่เข้าใจ
" ก็เจ้าแถจนถลอกหมดแล้ว เจ็บหรือไม่"
" ข้า"
" เอาหล่ะ ในเมื่อมันเป็นของสำคัญของเจ้าก็ควรให้ถิงเอ๋อที่เป็นคู่หมั้นของเจ้าถึงจะถูก"
" ท่านพ่อพูดถูกเจ้าค่ะ ข้าก็คิดจะมอบจี้หยกให้พี่ถิงถิงอยู่แล้ว"
จ้าวฉู่หรันพูดขึ้นมาน้ำตาคลอ จ้าวซินหรูเห็นแบบนั้นก็ยิ่งสงสารหลานรัก แย่งเอาจี้หยกเจ้าปัญหาในมือจ้าวฟาน มายัดใส่มือคืนให้จ้าวฉู่หรัน
" ในเมื่อจื่อเย่ให้หรันเอ๋อ มันก็ต้องเป็นของหรันเอ๋อจะเอาไปให้คนอื่น ใช้ได้ที่ไหน"
" ข้าอิ่มแล้ว ขอตัวก่อนนะเจ้าคะ "
จ้าวถิงถิงกระแทกตะเกียบเสียงดัง แล้วลุกขึ้นเดินออกไปด้วยความไม่พอใจ
จ้าวซูฉีร้อนใจรีบพูดขึ้นมา
" จื่อเย่ นี่เจ้ายังไม่ได้ให้ของหมั้นนางใช่ไหมนางถึงได้พูดเช่นนี้"
" หลายวันมานี้ข้ายังไม่ได้ออกจากจวนไปไหน ก็เลยยังไม่ได้หาซื้อมาให้นาง"
" นั่นไงข้าว่าแล้วเชียว นางคงน้อยใจเลยพูดประชดไปแบบนั้นว่าจะถอนหมั้น งั้นเจ้าก็รีบหาอะไรไปให้นางสักอย่างสิ พอนางได้แล้วก็จะเลิกน้อยใจ ทุกคนก็รู้ว่านางชอบเอาแต่ใจแค่ไหน อีกอย่างนางชอบเจ้ามานานจะให้เลิกชอบวันสองวันคงไม่ใช่ ท่านเห็นด้วยกับข้าไหมเจ้าคะท่านพี่"
จ้าวฟานพยักหน้าเห็นด้วยกับที่จ้าวซูฉีพูด
จ้าวซูฉียิ้มมุมปาก เหลือบมองหวังจื่อเย่ ในใจก็นึกดูแคลน บุตรสาวของนางต้องได้แต่งงานกับคุณชายสูงศักดิ์มีชาติตระกูลไม่ใช่บุรุษต่ำต้อยไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างหวังจื่อเย่ คนอย่างเขาเหมาะสมแล้วกับจ้าวถิงถิง ไม่ใช่บุตรสาวของนาง
หวังจื่อเย่มาที่ตลาดกับหยางหาน เพื่อซื้ออะไรสักอย่างไปเป็นของหมั้นให้จ้าวถิงถิง
โดยให้หยางหานเป็นคนช่วยเลือก
" ได้หรือยัง"
" เดี๋ยวสิเลือกก่อน ของแบบนี้ต้องใจเย็นๆอันนี้ก็งามอันนั้นก็ใช่ อันนั้นก็ด้วย วุ้ย มีแต่งามๆทั้งนั้นเลย ข้าเลือกไม่ถูกอ่ะ จื่อเย่เจ้าก็ช่วยข้าเลือกหน่อยสิ ไม่ใช่สิ นี่เป็นของที่เจ้าจะใช้เป็นของหมั้นแทนใจให้กับคุณหนูใหญ่นะ เจ้าต้องเลือกเองถึงจะถูกไหม"
" อันไหนก็เอามาเถอะน่า"
เขายืนหน้าบึ้งอยู่หน้าร้านเครื่องประดับ ก็แค่เลือกๆแล้วซื้อไปให้นางให้มันจบๆไป คนไม่ได้รักจะใส่ใจอะไรนักหนา
ฮ่าวหยูมองหญิงสาวที่นั่งขดตัวอยู่มุมห้องไม่ร้องไห้ ไม่โวยวายไม่พูดจา เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ เดินไปใกล้นางยื่นมือให้จ้าวถิงถิงปัดมือเขาออก" ไปให้พ้น"" เรื่องเมื่อคืน ข้าไม่ได้ต้องการให้มันเกิดขึ้น"นางจ้องหน้าเขาด้วยสายตาไม่พอใจ" ไม่ต้องการ แต่เอาข้าทั้งคืน เหอะ คำพูดกับการกระทำของเจ้ามันช่างสวนทางกันจริงๆ"" ข้า"ฮ่าวหยูพูดไม่ออก" ข้าก็ลืมไปว่าเจ้ามันเป็นโจร จะมีสัจจะในหมู่โจรได้ยังไง บอกว่าจะทำค่อยๆแต่เจ้าก็"นางไม่ได้พูดต่อ นึกถึงเมื่อคืนที่เขาร่วมรักกับนาง คนอะไรแรงดีไม่ดีตก กระแทกอยู่นั่นแหละ ทั้งใหญ่ทั้งยาวจนนางจุกไปหมด ฮ่าวหยูถึงกับหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา" ข้า ข้าขอโทษ เจ้ายังเจ็บอยู่หรือไม่"" ยังจะมีหน้ามาถามอีก"นางลุกขึ้นเผชิญหน้ากับเขา ก่อนจะดันตัวเขาออกเดินไปนั่งลงที่โต๊ะน้ำชารินชาดื่ม อืม ชุ่มคอหน่อย เมื่อคืนครางมากจนคอแห้งเจ็บคอไปหมด" เรื่องเมื่อคืนเป็นลูกน้องของข้าที่แอบใส่ยาปลุกกำหนัดในเหล้า ทำให้ข้าควบคุมตัวเองไม่ได้ ข้าก็ไม่รู้ว่าพวกเขาไปจับตัวเจ้ามาให้ข้า"" อืม ช่างเถอะ เรื่องมันผ่านมาแล้วก็ให้มันแล้วไป คิดซะว่าเราช่วยกันเปิดประสบการณ์"ฮ่าวหยูอ้าปากค้าง นี่นางเป็น
ฮ่าวหยูจ้องมองหญิงสาวที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง แสงไฟจากตะเกียงสาดส่องมาเห็นใบหน้านวลเนียนผุดผ่อง งดงามจนไม่อาจละสายตา อดไม่ได้ที่จะใช้มือลูบไล้แก้มป่อง นิ้วโป้งสัมผัสปากจิ้มลิ้มที่นุ่มนิ่มน่าจูบ มองต่ำลงมาที่ทรวงอกอวบใหญ่ ไล่ต่ำลงไปที่กลางกาย เหตุใดถึงได้โหนกนูนเช่นนี้ เกิดมา25ปีไม่เคยร่วมรักกับหญิงใดมาก่อน แม้จะเคยเห็นหญิงงามมานักต่อนักแต่ไม่มีใครที่เขาอยากสัมผัสเท่าคนตรงหน้าจะด้วยฤทธิ์ยาปลุกกำหนัด หรือเพราะความงามของนางเขาก็ไม่รู้แน่ ตอนนี้มือหยาบหนากำลังลูบไล้โหนกนูนของนางอยู่" อืมม อูมใหญ่ อยากเลียจัง"จ้าวถิงถิงรับรู้ถึงสัมผัสแปลกๆช่วงล่าง นางค่อยๆลืมตาขึ้นมาก็ตกใจ นี่นางอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ แผล่บ แผล่บ แผล่บ ซู้ดดด"อืมหวาน หวานมาก ซู้ดดด"นางตกใจยิ่งกว่าเมื่อรู้ว่าตอนนี้นางเปลือยเปล่า ยังมีชายคนหนึ่งกำลังดูดเลียตรงนั้นของนางอยู่ เขาทั้งเลียทั้งดูด กลืนน้ำหวานจากรูของนางอย่างเอร็ดอร่อยกรี๊ดดดด นางกรีดร้องผลักไสเขาออก ฮ่าวหยูพลันได้สติ แต่ก็แค่แป๊บเดียวฤทธิ์ยาก็เข้าครอบงำอีก หญิงงามเปลือยกายอ้าซ่าอยู่ตรงหน้าใครจะอดใจไหว จ้าวถิงถิงลงจากเตียงคว้าผ้ามาปิดคลุม แต่ฮ่าวหยูกระโจนเข้
จ้าวถิงถิงนั่งอยู่ริมหน้าต่าง มองเห็นโคมไฟลอยอยู่บนท้องฟ้าไกลๆ วิบวับราวหิ่งห้อยหันไปมองนัวนั่วที่นั่งเล่นอยู่ไม่ไกลก็ถอนหายใจ" ไป"" ไปไหนเจ้าคะ"" เจ้าอยากไปเที่ยวงานไม่ใช่รึ"" คุณหนูจะพาข้าไปหรือเจ้าคะ"นัวนั่วพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น" อืม ไปดูซิรถม้ายังมีอยู่หรือเปล่า"" เจ้าค่ะคุณหนู"ใช้เวลาสักพักก็มาถึงงาน" ที่จริงข้าก็ไม่อยากจะมาสักเท่าไหร่หรอกเจ้าค่ะ ข้าอยากให้คุณหนูมาเที่ยวพักผ่อนมากกว่า"พูดไปก็มองนู่นมองนี่ สายตาเป็นประกายบ่งบอกว่าตื่นตาตื่นใจ" คุณหนูตรงนั้นมีอะไรไม่รู้คนมุงกันเพียบเลย ไปดูกันเจ้าค่ะ"นัวนั่วจูงมือจ้าวถิงถิง เบียดเสียดผู้คนไปดู" ว้าวคุณหนู แสดงเชิดสิงโตลอดห่วงไฟเจ้าค่ะ"จ้าวถิงถิงเหลือบมองนัวนั่วที่จ้องมองการแสดงอย่างตื่นเต้น ปรบมือส่งเสียงเชียร์ไม่หยุด นางส่ายหน้ายิ้มบางๆด้วยความเอ็นดูพอการแสดงจบลงผู้คนก็แยกย้าย ไม่คิดว่าคนเยอะขนาดนี้ยังได้เจอจ้าวฉู่หรัน นางจะเดินเลี่ยงไปทางอื่นแต่จ้าวฉู่หรันก็วิ่งเข้ามาหานางเสียก่อน" พี่ถิงถิงไหนว่าไม่มาไง ดีใจจังที่ได้เจอท่าน"นางมองเลยไปข้างหลัง เห็นหยางหานกับหวังจื่อเย่เดินตามมา" ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่าไม่มา ข้าก
" คุณหนูเจ้าขา วันนี้อากาศดีไปเดินเล่นไหมเจ้าคะ"" อืมก็ได้"เปิดประตูห้องออกมาก็เจอหวังจื่อเย่ยืนอยู่นางไม่สนใจเดินผ่านเขาไป เขาเดินมาขวางหน้ายื่นถุงผ้าให้ นางปรายตามองแว่บหนึ่งไม่พูดอะไรเดินเลี่ยงออกมา เขาก็ตามมาขวางหน้าอีก" ข้าให้ท่าน"" ข้าไม่ต้องการ"นางเดินหนีแต่เขาก็เดินตาม" แต่นี่เป็นของหมั้น ท่านอยากได้มาตลอดไม่ใช่รึ ข้าก็ไปหาซื้อมาให้ท่านแล้วนี่ไง"นางหยุดชะงัก หันหันกลับมามองเขา ก่อนจะหยิบถุงผ้าในมือเขามาเปิดดู เป็นกำไลหยกสีชมพู นางเก็บใส่ถุงส่งคืนให้เขา" สีชมพูเป็นสีที่ฉู่หรันชอบ ส่วนข้าเกลียดสีชมพูที่สุด เจ้าเอาไปให้นางเถอะ อีกอย่างเมื่อวานข้าก็พูดชัดเจนไปแล้วว่าข้าไม่อยากแต่งงานกับเจ้า ของสำคัญย่อมอยู่กับคนสำคัญ ในเมื่อฉู่หรันสำคัญกับเจ้านักก็ไปเอาใจนางเถอะ ไม่ต้องมายุ่งกับข้า"หวังจื่อเย่หยิบกำไลหยกสีชมพูออกมาดูแล้วมองตามจ้าวถิงถิง ถอนหายใจเหนื่อยหน่าย เหตุใดนางถึงได้ยึดติดกับจี้หยกชิ้นนั้นของเขานัก จ้าวถิงถิงเดินเล่นสักพักก็ไปนั่งอยู่ศาลาริมน้ำ" คุณหนูหิวไหมเจ้าคะ ข้าไปเอาน้ำชากับขนมมาให้ดีไหม"" อืมก็ดีเหมือนกัน รีบไปรีบมานะ"" เจ้าค่ะ"นัวนั่วเดินออกไปหวังจื่อเย
" คุณหนูใหญ่ หากเป็นวันอื่นท่านมาช้าก็ไม่เป็นไร แต่วันนี้มีฮูหยินผู้เฒ่าอยู่ด้วย ท่านไม่ควรให้ผู้ใหญ่ต้องรอนาน"จ้าวซูฉีพูดตำหนิ จ้าวถิงถิงนั่งลงจ้องหน้าจ้าวซูฉี" เป็นแค่ภรรยารอง มีสิทธิ์อะไรมาตำหนิข้า ท่านไม่ใช่แม่ของข้า ไม่ต้องสะเออะมาสั่งสอนข้า"จ้าวซูฉีข่มอารมณ์โกรธไว้ก้มหน้างุด แสร้งทำเป็นเศร้าแต่สองมือกำแน่น" พอแล้ว เจ้าก็ยังเหมือนเดิมสินะ ดื้อรั้นเอาแต่ใจไร้มารยาท ไม่เหมือนหรันเอ๋อของข้า น่ารักอ่อนหวานแสนดี "จ้าวซินหรูจ้องมองจ้าวถิงถิงด้วยสายตาไม่พอใจ ก่อนจะหันไปส่งยิ้มอ่อนโยนให้จ้าวฉู่หรัน" เอาหล่ะๆ กินข้าวกันเถอะ"จ้าวฟานพูดตัดบท" ท่านย่า ข้าจำได้ว่านี่เป็นของโปรดของท่าน"จ้าวฉู่หรันคีบเนื้อปลานึ่งซีอิ๊ว ใส่ชามข้าวจ้าวซินหรู" หรันเอ๋อของย่าน่ารักที่สุด ยังจำได้ว่าย่าชอบ"จ้าวถิงถิงมองทั้งสองแล้วเบะปากหมั่นไส้ก่อนจะคีบเนื้อไก่ผัดเผ็ดเข้าปาก" หรันเอ๋อปีนี้เจ้าอายุเท่าไหร่แล้ว"" 16เจ้าค่ะ"" อืม16แล้ว สมควรมีคู่ครองได้แล้ว อาฟานได้มองหาใครไว้บ้างหรือยัง หรือมีตระกูลใดส่งแม่สื่อมาสู่ขอหรือไม่"หวังจื่อเย่มองหน้าจ้าวฉู่หรัน ทั้งสองสบตากัน จ้าวถิงถิงมองทั้งสองสลับไปมา หวังจ
เสียงเคาะประตู ทำให้หวังจื่อเย่ค่อยๆยันกายลุกขึ้นอย่างยากลำบากไปเปิดประตู เมื่อเห็นหน้าคนที่มา ก็ดีใจจนแทบเก็บอาการไม่อยู่" คุณหนูรอง"" ข้าได้ยินว่าเจ้าถูกท่านพ่อลงโทษโบย50ไม้ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"" ข้าไม่เป็นไรมาก ขอบคุณคุณหนูรองที่เป็นห่วง"" ข้าเอายามาให้ นี่เป็นยาอย่างดีจากหมอหลวงในวัง ท่านพ่อเคยแบ่งให้ข้าไว้ใช้ รับไปสิ "" ขอบคุณขอรับ"เขาเอื้อมมือไปหยิบขวดยาส่งยิ้มให้นาง จ้าวถิงถิงกำขวดยาแน่น ยืนนิ่งจ้องมองอยู่ไม่ไกล พอนางรู้ข่าวว่าหวังจื่อเย่ถูกลงโทษก็รีบเอายามาให้ แต่ไม่คิดว่าจะช้ากว่าจ้าวฉู่หรันไปก้าวเดียว" งั้นข้ากลับก่อนนะ"" ช้าก่อน"" มีอะไรเหรอ"หวังจื่อเย่ดึงหยกที่ห้อยเอวออกมา" ปิ่นปักผมที่ข้าให้ท่านถูกคุณหนูใหญ่ทำให้หักไปแล้ว ข้าจึงอยากให้สิ่งนี้กับท่านทดแทน"จ้าวฉู่หรันรับมาดู" หยกชิ้นนี้ข้าจำได้ว่าเจ้าพกติดตัวเอาไว้ตลอดนี่นา แสดงว่ามันคงสำคัญกับเจ้ามาก"" ใช่ มันเป็นของชิ้นเดียวที่ติดตัวข้ามาตลอด สำคัญกับข้ามาก เป็นของที่แม่ข้าให้ไว้ก่อนท่านจะจากไป"" ในเมื่อมันสำคัญขนาดนี้ งั้นข้ารับไว้ไม่ได้หรอก"" เพราะเป็นของสำคัญขิ้นเดียวที่ข้ามี ข้าจึงอยากมอบให้ท่าน"" แต่