"อ๊าๆ พี่ฉัตรขา อ๊า แรงอีกค่ะ เอาพิมแรงๆ"เสียงพริมาครางกระเส่าออกมาจนแทบไม่ได้ศัพท์ เมื่อเวลานี้แก่นกายของฉัตรากำลังขยับซอยเข้าออกจากร่องหลืบกลางกายของเธออย่างร้อนแรง สามชั่วโมงมาแล้วที่เพลิงพิศวาสนี้ยังคงดำเนินต่อไม่หยุด หลังจากที่เคลียร์จบปัญหากับว่าที่พ่อตาจบได้ อรอุษาก็บอกให้พริมาและฉัตราพากันขึ้นไปพักผ่อนอาบน้ำอาบท่าหลังจากเดินทางมาถึงเหนื่อยๆ แต่พอพริมาพาคุณว่าที่สามีก้าวผ่านเข้าประตูห้องนอนเธอมาเท่านั้น ฉัตราก็กดล็อกประตูแล้วอุ้มเธอขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน "พี่ฉัตร ทำอะไรคะ""แม่พี่บอกให้เราไปอาบน้ำไง นี่พี่ก็กำลังจะพาพิมเข้าไปอาบน้ำ""แล้วทำไมถึงจะต้องอุ้มพิมไปด้วยล่ะคะ พิมเดินเองได้ค่ะ ห้องน้ำอยู่ตรงแค่นี้เอง""ก็ตอนนี้พ่อพิมอนุญาตให้เราแต่งงานกันแล้ว พี่ก็เลยกะ..ว่าจะลองพาพิมทดลองเข้าหอกันหน่อย""อีกแล้วเหรอคะ""อีกแล้ว? คืออะไร นี่อย่าบอกนะว่าพิมเบื่อพี่แล้ว""ใครว่าล่ะคะ พิมก็แค่กลัวว่าถ้าให้พี่ฉัตรบ่อยเกินไป แล้วพี่ฉัตรต่างหากที่จะเป็นคนเบื่อพิม""งั้นลองมาดูกันนะว่านานแค่ไหนกว่าวันนั้นจะมาถึง เผลอๆพี่ว่า ต่อให้พี่เอาพิมวันละสามรอบ พิมก็คงก็รอจนแก่หงำเหงือก รอจนเอ็นพี่ไร้สมรร
ชยุตนั่งทรุดตัวลงกับโซฟาแล้วยกมือขึ้นมาปิดหน้าร้องไห้ ภาพของกมลา หญิงสาวที่หลงรักเขามาตั้งแต่สมัยหนุ่มนั่งทรุดตัวลงร้องไห้กับพื้นในวันที่ได้รับรู้ความจริงว่าที่เขาแต่งงานกับเธอก็เพียงเพราะว่าหวังในทรัพย์สมบัติ เพื่อเอาไปช่วยคนรักเก่า หาได้มีใจรักเธอไม่ นับตั้งแต่วันนั้นกมลาที่เคยสดใสก็เอาแต่กักขังตัวเองไว้อยู่ในห้องนอน กมลาพาลเกลียดพริมา ลูกสาวตัวน้อยที่เกิดมาเป็นสักขีพยานในความโง่เขลาของเธอ วันๆเอาแต่เก็บตัวเองร้องไห้ คนในที่สุดเธอก็จากไป ทิ้งบาดแผลและความรู้สึกผิดไว้ติดอยู่ในใจเขาจนถึงทุกวันนี้'พี่ชยุต ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหนๆ กมลาก็จะไม่มีวันยกโทษให้อภัยพี่ พี่หลอกกมลา หวังเอาทรัพย์สมบัติของกมลาไปช่วยเหลือผู้หญิงคนอื่น กมลาไม่มีทางยอมเด็ดขาด สมบัติของกมลาจะต้องเป็นของพริมาลูกสาวกมลาเท่านั้น ห้ามพี่มีลูกกับใครใหม่แล้วเอาสมบัติของกมลาไปเสวยสุขกับมัน รับปากกมลาสิถ้าพี่รู้สึกผิดจริงๆ'คำพูดสุดท้ายยังดังกึกก้องอยู่ในหัวแทบทุกจะประโยค ความรู้สึกผิดกัดกินในใจอยู่ชั่วทุกคืนวัน และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าถึงแม้เขาจะรักอรอุษาเพียงใด แต่เขาก็รับปากกมลาเอาไว้ก่อนตาย ว่าจะมีพริมาป็นลูกแค่คนเดีย
ในที่สุดวันที่ฉัตราไม่อยากให้ถึงก็มาถึงจนได้ เรือสปีดโบ๊ทที่เขาเป็นคนขับพาตัวเองและคนตัวเล็กกลับเข้ามายังฝั่งเพียงแค่ไม่ถึงยี่สิบนาทีได้ถูกจอดไว้ที่ท่าเรือส่วนตัวของตัวเอง ใบหน้าหล่อเหลานั้นแสดงออกถึงความเครียดอย่างเห็นได้ชัดเมื่อพาพริมาก้าวขึ้นฝั่งมาบนบก แถมยังถอนหายใจออกมาเสียจนเสียงดัง ทำเอาพริมาถึงกับต้องคอยจับมือของคนตัวใหญ่มากุมเอาไว้และพูดให้กำลังใจไม่ห่าง"พี่ฉัตร พิมเป็นกำลังใจให้นะคะ"แล้วจากนั้นประตูรถตู้คันหรูสีดำก็ถูกเปิดออกเพื่อให้เธอและเขาขึ้นไปนั่ง ระหว่างนั้นทั้งสองคนยังคงนั่งกอดกันเอาไว้ตลอด ที่วันนี้ฉัตราเลือกที่จะให้ลูกน้องเป็นคนขับรถมาก็เป็นเพราะว่าตัวเองไม่มีเรี่ยวแรงที่จะจับพวกมาลัยขับมาเลยต่างหาก ไม่รู้จริงๆว่าสถานการณ์ที่จะต้องเจอจะเป็นยังไง การที่ต้องเขาไปพูดคุยกับผู้ชายสารเลว คนที่ทำให้แม่ของเขาเสียใจมาเป็นเวลายี่สิบสามสิบปี เพื่อที่วันข้างหน้าจะได้เปลี่ยนจากสถานะพ่อเลี้ยงมาเป็นพ่อตานั้นมันทำใจง่ายเสียที่ไหน ความโกรธเกลียดแค้นที่สั่งสมมา แต่ไม่สามารถทำอะไรตาแก่นั่นได้เนื่องจากว่าถูกมารดาขอร้องนั่นก็ยังพอที่จะยอมทน แต่เวลานี้กลับกลายเป็นว่าตัวเองต้องมากลายเป็
"คิดเหรอว่านายหัวจะเอาเธอจริงๆ ฉันอยู่ที่นี่มาตั้งหลายปี เห็นนายหัวเปลี่ยนผู้หญิงบ่อยยิ่งกว่าเปลี่ยนกางเกงในเสียอีก อย่าสำคัญตัวผิดแล้วก็หวังอะไรลมๆแล้งๆเข้าล่ะ ฉันขอเตือน"จังหวะที่เดินยกจานที่ทานเสร็จแล้วเข้ามาช่วยเก็บในอ่างในครัว แล้วฉัตราเองก็ขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก พริมาก็ได้เผชิญหน้าเข้ากับผู้หวังดีแบบเต็มๆ ฝ่ายนั้นยืนกอดอกพิงตัวเองกับตู้เย็น แล้วยืนมองมาที่เธอด้วยสายตาสุดเหยียด หากแต่พริมาก็ไม่ได้นึกแยแส แล้วตอบกลับผู้หวังดีไปแบบเจ็บๆ"งั้นฉันก็คงต้องขอขอบใจเธอมากเลยนะที่อุตส่าห์เสียสละเวลามาเตือนฉัน เพราะว่าถึงแม้ว่าพี่ฉัตรจะไม่เอาฉันจริงๆ แต่อย่างน้อยฉันก็ได้ลองกินแล้วว่าผู้ชายคนนี้แซ่บมากแค่ไหน ว่าเเต่เธอเถอะ อุตส่าห์เฝ้าพี่ฉัตรมาตั้งหลายปี เคยได้ลองดูบ้างสักทีหรือเปล่า หรือว่าให้พี่ฉัตรลองแล้ว แต่ว่าเธอมันไม่อร่อย เขาก็เลยต้องคอยเปลี่ยนรสชาติบ่อยๆจนได้มาเจอฉัน""อีบ้า อย่ามามั่นหน้ามากไปหน่อยเลย วันไหนถูกนายหัวถีบหัวส่งขึ้นมาฉันจะหัวเราะเยาะแกให้ดังไปสามบ้านแปดบ้าน""งั้นก็ค่อยรอเอาไว้ให้วันนั้นมันมาถึงก่อนก็แล้วกัน แต่ว่าวันนี้เขายังหลงฉันหัวปักหัวปำอยู่น่ะ ยังไงจานนี
พอกินเธอเสร็จ ฉัตราก็พาเธอเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ ก่อนจะต้องตกใจเมื่อเห็นเขาทิ้งรอยจ้ำสีแดงไว้ตามจุดต่างๆบนร่างกายเสียจนทั่ว ไม่เว้นแม้กระทั่งบริเวณกลีบบอบบางตรงกลางลำตัว ถึงว่าตอนที่ฉัตรามุดก้มลงไปเขาดูดมันเสียแรง ส่วนเธอเองก็เอาแต่มัวร้องครางเพราะความเสียวจนไม่ลืมหูลืมตาราวกับว่าส่งเสริมให้เขาทำมัน เป็นไงล่ะทีนี้ จะเดินออกไปกินข้าวยังไงทันทีที่บานประตูเปิดออก ที่หน้าห้องนั้นกลับมีหญิงสาวคนเดิมยืนแอบจิกตามองเธอด้วยสายตาที่ดูก็รู้ว่าต้องการจะประกาศศักดิ์ดา ก็เอาสิ ในเมื่อฉัตรายังคงกำมือเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ซึ่งนั่นก็จะต้องรู้แล้วว่าระหว่างเธอกับแม่ลิ้นจี่นั่น ฉัตราจะเลือกที่จะหนุนหลังใคร"นายหัวขา ป้าตาให้ลิ้นจี่มาตามนายหัวไปทานข้าวเย็นค่ะ""อื้มขอบใจ วันนี้มีอะไรกินบ้าง""ก็เยอะเลยค่ะนายหัว มีแต่ของโปรดนายหัวเผ็ดๆทั้งนั้น ลิ้นจี่รู้ว่านายชอบอาหารรสจัด ก็เลยเตรียมพวกของหวานเอาไว้ให้ด้วย ไปดูสิคะ"หญิงสาวคนนั้นยังคงพูดไปยิ้มไป สายตาและท่าทางแสดงออกเต็มๆว่าต้องการทำให้คนตรงหน้าหลงใหลได้ปลื้มไปกับท่าทีนั้นของเธอ จนพริมาเห็นแล้วก็เกิดของขึ้นเผลอกัดฟันและจิกเล็บเสียแรงลงไปบนฝ่ามือใหญ่อย่า
พริมายังคงนิ่งเงียบไม่ยอมเปิดปากพูดอะไรใดๆในขณะที่ฉัตราจูงมือเธอเดินเข้ามาในบ้านและก่อนจะพาเดินเข้าในในห้องส่วนตัวซึ่งเป็นห้องนอนตัวเอง จากนั้นทันทีที่บานประตูถูกปิดลง เสียงลูกบิดหน้าประตูก็ถูกกดล็อก แล้วคนตัวใหญ่ก็ยกสองมือขึ้นมาจับใบหน้าเธอประครองเข้าหา แล้วจึงจัดการประกบริมฝีปากลงมาทันทีทั้งที่ฉัตรากำลังจูบเธออย่างหนักหน่วง หากแต่พริมากลับยังคงยืนนิ่งเฉยไร้ซึ่งการตอบสนอง ในขณะที่เขาจัดการเปิดปากแล้วส่งลิ้นร้ายของตัวเขาเองเข้าไปรุกรานภายในปาก หากแต่นั่นก็ยังไม่สามารถทำให้พริมาคล้อยตามได้ ส่วนคนที่กำลังคลั่งจูบเธออยู่ พอเห็นว่าเธอยังคงนิ่งก็เริ่มเอะใจ "พิม เป็นอะไรหรือเปล่า""พี่ฉัตร คือว่าพิม.."จะให้เธอตอบออกมาได้ยังไงว่าที่เธอนิ่งไปเป็นเพราะว่ามีเรื่องค้างคาใจอยู่ แน่นอนว่าสายตาของผู้หญิงด้วยกันมอง มีหรือที่เธอจะไม่รู้ว่าสายตาของผู้หญิงคนเมื่อกี้ที่มองเธอและฉัตรานั้นมองมาด้วยสายตาแบบไหน พริมาไม่ได้อยากเก็บความสงสัยที่มันกำลังรบกวนจิตใจตัวเองเอาไว้แบบนี้ เพียงแต่ว่าตอนนี้เธอไม่สามารถบอกได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอและฉัตรานั้น เขาให้อภิสิทธิ์เธอในการแสดงถึงความหึงหวงเขาได้เพียงใด"