แชร์

เจ็บปวดยิ่งนัก2

ผู้เขียน: จันทร์ส่องแสง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-08 22:34:26
ร่างสูงของไท่จือหนุ่มนอนนิ่งอยู่บนตั่งไม้สัก กลิ่นสมุนไพรที่บดตำสดใหม่ลอยคลุ้งไปทั่วห้อง เงาร่างบอบบางของไป๋ฮวานั่งอยู่ข้างเตียง ไม่ได้แม้แต่จะขยับตัวออกไปไหนตั้งแต่ช่วงบ่าย

ไป๋ฮวา ก้มหน้าซับเหงื่อบนหน้าผากของเว่ยจินเบาๆ แววตาของนางคล้ายมีบางอย่างที่ลึกเกินคำพูด

“เจ้า…คนชอบปากแข็งนัก แต่กลับยอมเอาตัวบังคนอื่นไว้แบบนั้น”

เสียงกระซิบเบาแทบเป็นลมลอยจากริมฝีปากของนาง

“เฮ้อหากเป็นอะไรไป…ข้าจะทำอย่างไร คงเสียใจน่าดูที่ไม่มีเว่ยจินอยู่ที่นี่แล้ว”

ประตูห้องเปิดออกอย่างเบา ๆ ซางหลางก้าวเข้ามาพร้อมกับห่อยาบำรุงชั้นเลิศจากวังหลวงที่ถืออยู่ในมือ พลางยิ้มจาง ๆ

“เขายังไม่ฟื้นหรือ” เขาถามเสียงต่ำ

ไป๋ฮวาหันมายิ้มให้บางๆ แล้วพยักหน้า

“ยังเลย…หมอบอกว่าอย่างน้อยคืนนี้ต้องดูอาการให้แน่ชัด ข้าไม่กล้าห่างเขากลัวว่าหากฟื้นขึ้นมาอย่างน้อยก็ยังมีคนตามหมอ”

ซางหลางวางห่อยาไว้ข้างเตียง แล้วมองเว่ยจินสักครู่ ก่อนจะเอ่ยเบา ๆ

“เจ้าดูแลเขาดีจริงๆ ….”

ไป๋ฮวาชะงัก ดวงตาสั่นไหวเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันได้ตอบ ไป๋อวี้ ที่ยืนอยู่ตรงประตูเอ่ยขึ้น

“ไท่จือซางหลางดูหน้าท่านสิ ทำราวกับว่าโลกจะแตกเสียให้ได้ พี่สาวข้า…คงแค่สงสารเข
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ความหวังจากความสงสาร

    แสงตะเกียงบนโต๊ะหนังสือส่องผ่านม่านบางสะท้อนเงาอ่อนโยนลงบนใบหน้าเรียบนิ่งของ อ้ายฉิง ที่นั่งจิบชาเงียบๆ มือเรียวสวยวางถ้วยชาลงเบา ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบแต่จริงจัง“ข้าได้ยินมา... ว่าในงานเลี้ยงน้ำชา วันนั้น ไป๋ฮวาเป็นฝ่ายรินชาให้กับซางหลางก่อน”เฉิงอู๋อ๋อง ที่ยืนอยู่ริมหน้าต่างเบือนหน้ากลับมาช้าๆ แววตาครุ่นคิดก่อนจะตอบเสียงหนักแน่น“เรื่องนั้น... ไว้ค่อยพูดกันอีกทีเถิด เว่ยจินก็ไม่ได้ทำอะไรผิด และเจ้าเองก็เห็น เขา...ช่างน่าสงสารยิ่งนัก”อ้ายฉิงเงยหน้าขึ้นมองเขา แววตานิ่งสงบแต่ลึกซึ้ง ราวกับมองเข้าไปถึงความคิดของบุรุษตรงหน้า“ท่านอ๋อง...ท่าน กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่”หยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงแน่วแน่“ความพอใจของไป๋ฮวา ถือเป็นที่สุดแล้วสำหรับคนเป็นแม่อย่างข้าในเมื่อไป๋ฮวาเลือกซางหลาง ข้าก็ควรจะยอมรับ... และซางหลางเอง ก็หาได้ทำผิดอันใด”เฉิงอู๋อ๋อง เงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ แล้วโน้มตัวสวมกอด อ้ายฉิง ไว้แน่น ดวงตาที่เคยเฉียบคมกลับหม่นแสงลง“ข้าแค่... สงสารเว่ยจิน เขาสูญเสียบิดา สูญเสียบ้านเมือง บัดนี้... ข้าก็ไม่อยากให้เขาต้องสูญเสียหัวใจไปอีก หากไป๋ฮวาจะลองเปิดใจให้เ

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ทางแยก

    “เจ้า...งดงามในแบบของเจ้าจริงๆ น้องสาวของข้า... และเจ้าคู่ควรกับคนที่เห็นค่าของเจ้า”คำพูดนี้ทำให้อี้เหยาเริ่มสั่นสะท้าน แต่ก็ยังคงห้ามไม่ให้น้ำตาไหลออกมาได้“หากใครไม่เห็นค่าของเจ้า ก็แค่...จากไป...”เสียงของอี้หลินช่างเต็มไปด้วยความมั่นคงและความรักอย่างที่อี้เหยาไม่เคยได้รับมาก่อน ราวกับเป็นการสั่งสอนที่เตือนใจว่าไม่จำเป็นต้องเสียใจต่อความไม่ยุติธรรมใดๆ ที่ได้รับ“พี่หลินข้า” น้ำตาของอี้เหยาสุดท้ายก็ไหลออกมาเงียบๆ แต่ไม่ใช่ด้วยความโศกเศร้า... มันคือการปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดที่เก็บไว้ในใจ“เจ้าจะผ่านมันไปได้ ...พี่เชื่อว่าเจ้าเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก พี่ขอสัญญา...เราจะจากไปหากเขาไม่เห็นค่าในตัวพวกเรา” อี้หลินพูดพร้อมกับค่อยๆ ปลอบน้องสาวด้วยคำพูดที่อ่อนโยนที่สุดและเมื่อการปลอบใจเสร็จสิ้น อี้เหยาก็ยิ้มบางๆ ให้กับอี้เหยา ไม่ได้ตอบอะไรออกไป... แต่มันทำให้รู้สึกดีขึ้นอย่างประหลาดแสงดาวพร่างพรายกระจายทั่วท้องฟ้า ขณะที่ ซางหลาง เดินกลับมายังตำหนักบูรพาด้วยท่าทางที่เงียบเหงา ใบหน้าของเขายังคงแฝงไปด้วยความหนักหน่วงจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น เขาก้าวเท้าอย่างช้าๆ ผ่านห้องโถงที่เงียบส

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ใครๆก็เจ็บปวด

    เสียงฝีเท้าดังเร่งรีบของ ซางหลาง สะท้อนมาตามทางเดินยาวของจวน เขายังสวมชุดเดิมจากเมื่อคืน สีหน้าอิดโรยแต่มีแววดีใจระคนเร่งด่วนในดวงตา“ท่านอ๋อง เว่ยจินฟื้นแล้ว” เขาเอ่ยทันทีที่เห็น เฉิงอู๋อ๋อง ซึ่งกำลังพูดคุยอยู่กับ อ้ายฉิง และ จิวฮัวเฉิงอู๋อ๋องเงยหน้าขึ้นจากแผนที่ตรงหน้า สีหน้าที่หม่นหมองจากเหตุการณ์ก่อนหน้าเหมือนสว่างวูบขึ้นมาเล็กน้อย“จริงหรือ” เขาก้าวฉับๆออกมาโดยไม่รอคำตอบใดต่อ พาอ้ายฉิง จิวฮัว และตงเกาไปพร้อมกันภายในห้องสงบงามที่อบอวลไปด้วยกลิ่นสมุนไพร เว่ยจินนั่งพิงหมอนใบใหญ่ มีไป๋ฮวาและไป๋อวี้นั่งอยู่ตรงหน้า ใบหน้ายังซีดเผือด แต่สายตาเริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งเมื่อเห็นเฉิงอู๋อ๋องเดินเข้ามา“ท่านอา…”“เจ้าเก่งมาก ที่ไม่ยอมแพ้” เฉิงอู๋อ๋องเอ่ยเสียงทุ้ม แต่น้ำเสียงกลับหนักอึ้ง“ข้ามีเรื่องที่เจ้าต้องรู้...” ไม่พูดพร่ำทำเพลงเรื่องสำคัญที่สุดและสมควรที่สุดที่เว่ยจินจะรู้เว่ยจินขมวดคิ้ว ร่างกายเหมือนแข็งทื่อรอรับคำพูดถัดไปเฉิงอู๋อ๋องเดินเข้ามาใกล้ จับมือของเว่ยจินแน่นแล้วกล่าวช้า ๆ“โตวโฮฉิน... ฮ่องเต้ของพวกเราบิดาของเจ้า... ถูกเป่ยซวีประหารต่อหน้าต่อตาข้า ข้าขออภัย... ข้าช่วย

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ใครกันเจ็บปวดกว่าใคร

    อี้เหยานั่งอยู่เงียบๆ บนม้านั่งไม้ใต้อุโมงค์ไม้เลื้อย ดอกชิงเหอปลิวหล่นใส่ตักนางอย่างแผ่วเบามือบางยกขึ้นปัดกลีบดอกไม้ไปมา ก่อนสายตาจะเหม่อมองไกลไปยังห้องที่เว่ยจินพักรักษาตัวเสียงฝีเท้าเบาๆ ดังเข้ามาใกล้ ก่อนที่อี้หลินจะย่องเข้ามาหา“วันนี้ไม่ไปเฝ้าไข้ไท่จือเว่ยจินหรือน้องสาวแสนซนของพี่”อี้เหยาไม่ตอบคำถามนั้นทันที นางเพียงนิ่งไป ก่อนพูดอย่างช้าๆ ว่า“พี่สาว…ท่านคิดว่าท่านกับคุณชายไป๋อวี้ คู่ควรกันหรือไม่”อี้หลินชะงักเล็กน้อย ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น“ถามทำไม”อี้เหยาหันหน้ากลับมา ดวงตาของนางมีแวววูบไหวจางๆเหมือนคนที่กำลังตกในห้วงคิดจนน้ำตาเอ่อที่ขอบตา แต่ยังไม่ยอมไหลออกมา“ข้ากับท่าน…เราเป็นเพียงบุตรสาวของหญิงรับใช้กับองครักษ์…ในจวนอ๋องไร้พ่ายเมื่อก่อนข้าเคยแปลกใจ ว่าทำไมท่านพ่อไม่พาเรามาอยู่แคว้นเป่ยเหลียงแต่วันนี้…ข้ารู้แล้ว ก็เพราะฐานะของพวกเราต่ำต้อย… เราควรอยู่ในที่ของเรา”อี้หลินนั่งลงข้างๆ พลางยกมือลูบหลังน้องสาวเบาๆ“เจ้าลืมไปหรือไม่ ว่าฐานะของคนเรานั้นไม่มีวันเท่ากันหรอกแต่ค่าของหัวใจ…เจ้าสามารถเลือกได้เสมอ ว่าจะมีไว้ให้ใคร”อี้เหยายิ้มน้อยๆ อย่างขื่นขม“แล้วหากหัวใจของเขามี

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ความในใจอี้เหยา

    เสียงหวีดร้องดังขึ้นตามคำสั่งนั้น บางคนถูกลากออกไปจากหน้าประตูท้องพระโรงบางคนทรุดกายลงกลางบันไดวังหลวง เลือดเปื้อนพื้นหินหยกจนไม่อาจลบเลือนได้แต่ไม่มีใครในท้องพระโรงกล้าเอ่ยวาจาคัดค้านไม่มีแม้แต่เสียงกระซิบ เพราะที่นี่...ไม่ใช่แคว้นเป่ยเอียนของโตวโฮฉินอีกต่อไปบัลลังก์มังกรที่ได้มา…จากคมดาบและเลือด“ฝ่าบาท… เว่ยจิน บุตรแห่งโตวโฮฉิน บัดนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะปกป้องโตวโฮฉินจากการหลบหนีของเรา”เป่ยซวีเลิกคิ้วเพียงน้อย เสี้ยวหนึ่งของรอยยิ้มบิดเบี้ยวโผล่บนริมฝีปาก“หึ… ลูกหมาตัวนั้นยังไม่ตายหรือ”เขายกถ้วยสุราขึ้นจิบช้าๆ ดวงตาฉายแววเย็นยะเยือก“หากเว่ยจินยังไม่ตาย ก็จงตายเสีย… คืนนี้ ส่งคนของเราไปที่เป่ยเหลียง แฝงตัวเข้าไปใน จวนอ๋องไร้พ่าย ฆ่าเจ้าลูกหมานั่นเสีย”เสียงของเป่ยซวีเย็นเฉียบ ราวน้ำแข็งที่กรีดผ่านกระดูกทหารผู้นั้นก้มต่ำลงกว่าเดิม รับคำสั่งโดยไม่กล้าแม้แต่จะสบตาทันใดนั้น เสียงหัวเราะทุ้มต่ำก็ดังขึ้นในตำหนักเงียบสงัด“ฮ่าๆๆ … ใครจะกล้ามาต่อกรกับข้าต่อจากนี้ข้าได้ยินมาว่า ‘เฉิงอู๋อ๋อง’ ถึงกับปลด ป้ายอ๋องไร้พ่าย ลงเสียแล้ว…เจ้าสุนัขจงรักภักดีนั่น คงเสียใจนักที่มองไม่ออกว่าใครค

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   สัญญาว่าจะแก้แค้น

    แสงแดดยามเช้าสาดทาบลงบนลานกว้างหน้าจวนอ๋องไร้พ่ายเงาของ ป้ายอ๋องไร้พ่าย ที่เคยตระหง่านเหนือบานประตู ถูกลดลงมาวางไว้กับพื้นอย่างเงียบงันในขณะเดียวกันบรรยากาศรอบข้างก็เต็มไปด้วยความรู้สึกปวดร้าวปะปนกับความอาลัยที่ยังอบอวลอยู่ตงเกา ยืนนิ่งอยู่ไม่ห่างจากป้ายนั้นนัก ริมฝีปากเม้มแน่น น้ำตาหยดเงียบๆเขาคือขุนพลคนสนิทที่ตามรับใช้เฉิงอู๋อ๋องมานาน ยิ่งมองเห็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติภูมิของทัพไร้พ่ายถูกปลดลงมา ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนหัวใจถูกฉีกทึ้งอ้ายฉิง เห็นดังนั้นจึงเดินเข้ามาใกล้ แล้วจึงเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยน“ตงเกา... ท่านอ๋องของพวกเราทำดีที่สุดแล้วนะ ท่านก็เห็นนี่”เฉิงอู๋อ๋อง ที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก หันหน้ามาทางกลุ่มผู้คนแววตาเขาเรียบสงบ แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยแรงอารมณ์ที่สั่นคลอนทันใดนั้น จิวฮัวพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ทั้งที่น้ำตาเอ่อขอบตา“ท่านอา... ข้าไม่เคยโทษท่านเลย มีแต่จะรู้สึกดีใจเสียอีก ที่ท่านอายอมเสี่ยงชีวิตไปช่วยข้าและเว่ยจินหากไม่มีท่านอา วันนี้ข้าคงไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้แล้ว และเว่ยจิน…ก็คง…จะ”เสียงของนางสั่นเครือจนน้ำตาไหลอาบแก้ม แต่กลับไม่มีใครกล้าพูดแทรกออกมากระทั่ง ปาหวางฮ่องเต้ ที

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status