แชร์

แย่งชิงหัวใจดวงเดียว

ผู้เขียน: จันทร์ส่องแสง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-27 10:37:38

ณ ตำหนักบูรพาเร้นแสงอรุณของวังหลวงเป่ยเหลียง

ภายใต้ม่านบัวโรยแสงอาทิตย์ยามสาย กลิ่นชาจางๆ จากกาน้ำร้อนที่เริ่มเย็นชืดแตะปลายจมูก ทว่าเจ้าของตำหนักยังไม่คิดจิบแม้สักหยดเดียว

ซางหลาง ไท่จือแห่งเป่ยเหลียงผู้ครองแววตาเฉียบคม ท่วงท่าสง่าผ่าเผยเยี่ยงอ๋องผู้ทรงอำนาจ อีกทั้งยังนิ่งเฉยไม่ต่อคำ

…แต่ในยามนี้กลับยืนเหม่อมองม่านผ้าไหมปลิวไสวอยู่เบื้องหน้าอย่างเงียบงัน

เขาไม่พูด ไม่แม้แต่จะขมวดคิ้ว แต่คนใกล้ชิดที่อยู่ข้างกายมาแต่เยาว์วัยก็รู้ดี

ขันทีหนุ่มชื่อเสี่ยวหลัน เดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง ถ้วยชาที่เติมไว้เริ่มคลายไอร้อน แต่หัวใจขององค์ชายยังร้อนรุ่มอยู่ในอก

“องค์ชาย...ชาเย็นหมดแล้วขอรับ” เสี่ยวหลันกลั้นใจเอ่ยขึ้นอย่างนุ่มนวล

“ข้าน้อยคิดว่า...หากพระองค์ยังคิดถึงคุณหนูไป๋ฮวานัก เหตุใดไม่ไปพบ...”

เสียงนั้นแผ่วราวสายลม แต่คำตอบของซางหลางกลับทำให้เสี่ยวหลัน ถอนหายใจยาว

“ให้เวลานางบ้าง...ให้ใจของนางได้รู้เสียทีว่าเมื่อคิดถึงใคร มันทรมานเพียงใดอย่างที่ข้ากำลังเผชิญอยู่” เขาเอ่ยเสียงเบา แต่แฝงด้วยแรงอารมณ์อ่อนไหว ใบหน้าเศร้าสร้อยหรือที่เรียกว่าซึม

เสี่ยวหลันยืนนิ่ง รู้ดีว่าความรู้สึกขององค์ชายไม่เ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   อี้หลิน

    ที่กลางโต๊ะวางถ้วยชาจีนเนื้อโปร่ง ประดับลายเถาดอกเหมยล้อแสงเงาไหวระริก กลิ่นชาดอกหมื่นปีลอยกรุ่นละมุนทั่วห้องเจียวหยูในอาภรณ์เรียบง่ายนั่งกุมถ้วยชาในมือ ดวงหน้าอ่อนกว่าวัยแต้มรอยยิ้มจาง ยกถ้วยชาขึ้นจิบเบาๆฝั่งตรงข้ามคือสามีของตงเกา ที่ยังแฝงไว้ด้วยความสงบ เยือกเย็นแม้เคยผ่านสมรภูมิหลายแห่งเขาวางเทียบเชิญงานเลี้ยงน้ำชาด้วยลายมืองดงามของอ้ายเฉิงลงบนโต๊ะด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม“นายหญิงอ้ายฉิงยังลงมือเขียนเทียบเชิญด้วยตัวเองสินะ” เจียวหยูยิ้ม“นายหญิงผู้ใส่ใจในทุกเรื่องราวหมดจดงดงามยิ่งกว่าใคร” เจียวหยูสำทับเบาๆ"ฮูหยินเจ้าที่ไม่คิดอะไร แต่ข้ากลับคิดไม่ตก… เทียบเชิญจากท่านอ๋องเฉิงอู๋มาถึงแล้ว แต่นี่ยังไม่เห็นเงา อี้หลิน เลย นางตั้งใจจะไม่มางานจริงหรือครั้งนั้นที่เราเข้าไปคารวะท่านอ๋องกับพระชายาอ้ายฉิงนางก็ไม่มา ข้าหนักใจกับลูกคนนี้เสียจริง"เจียวหยูทอดถอนใจเบา ๆ"ข้าก็จนปัญญา นางไม่แม้แต่ส่งนกพิราบสื่อสารกลับมา ข้าคิดว่านางคงแอบซ่อนตัวอยู่ในป่าไผ่ใกล้หุบเขาชิงอวิ๋นขี่ม้าล่าสัตว์เล่นสนุกกับพวกชนเผ่า ตามนิสัยเดิม…"พลางวางถ้วยชาลงอย่างแผ่วเบา"อี้หลิน… ลูกสาวของเราแม้จะบอกว่าเหมือนข้าแต่กลับไ

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   แย่งชิงหัวใจดวงเดียว

    ณ ตำหนักบูรพาเร้นแสงอรุณของวังหลวงเป่ยเหลียง ภายใต้ม่านบัวโรยแสงอาทิตย์ยามสาย กลิ่นชาจางๆ จากกาน้ำร้อนที่เริ่มเย็นชืดแตะปลายจมูก ทว่าเจ้าของตำหนักยังไม่คิดจิบแม้สักหยดเดียวซางหลาง ไท่จือแห่งเป่ยเหลียงผู้ครองแววตาเฉียบคม ท่วงท่าสง่าผ่าเผยเยี่ยงอ๋องผู้ทรงอำนาจ อีกทั้งยังนิ่งเฉยไม่ต่อคำ…แต่ในยามนี้กลับยืนเหม่อมองม่านผ้าไหมปลิวไสวอยู่เบื้องหน้าอย่างเงียบงันเขาไม่พูด ไม่แม้แต่จะขมวดคิ้ว แต่คนใกล้ชิดที่อยู่ข้างกายมาแต่เยาว์วัยก็รู้ดี ขันทีหนุ่มชื่อเสี่ยวหลัน เดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง ถ้วยชาที่เติมไว้เริ่มคลายไอร้อน แต่หัวใจขององค์ชายยังร้อนรุ่มอยู่ในอก“องค์ชาย...ชาเย็นหมดแล้วขอรับ” เสี่ยวหลันกลั้นใจเอ่ยขึ้นอย่างนุ่มนวล “ข้าน้อยคิดว่า...หากพระองค์ยังคิดถึงคุณหนูไป๋ฮวานัก เหตุใดไม่ไปพบ...”เสียงนั้นแผ่วราวสายลม แต่คำตอบของซางหลางกลับทำให้เสี่ยวหลัน ถอนหายใจยาว“ให้เวลานางบ้าง...ให้ใจของนางได้รู้เสียทีว่าเมื่อคิดถึงใคร มันทรมานเพียงใดอย่างที่ข้ากำลังเผชิญอยู่” เขาเอ่ยเสียงเบา แต่แฝงด้วยแรงอารมณ์อ่อนไหว ใบหน้าเศร้าสร้อยหรือที่เรียกว่าซึมเสี่ยวหลันยืนนิ่ง รู้ดีว่าความรู้สึกขององค์ชายไม่เ

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ถึงเวลาพบกัน

    หลังเหตุการณ์การมอบของกำนัลที่กลายเป็นเวทีประชันคารม “เช่นนั้นข้าซางหลางขอตัวก่อนในเมื่อการดื่มน้ำชาด้วยความสงบของเจ้ามีข้ามาเป้นตัวขัดจังหวะ” ซางหลางประสานมือสีหน้าเศร้าสร้อย ไป๋อวี้ส่ายหน้ายิ้มๆ“เดิมข้าแปลกใจ ว่าพี่ซางหลางเปลี่ยนไปเพราะพี่เว่ยจินมา และเพราะเขามีใจให้แฝดพี่ของข้าสินะเดิมพี่ซางหลางไม่ใช่คนที่ชอบความวุ่นวาย” ไป่ฮวาถอนหายใจไป๋ฮวายังนั่งมองประตูที่ซางหลางก้าวจากไป รอยยิ้มบางอย่างแฝงในแววตาต่างจากเว่ยจินที่ยังหันมาเอ่ยอ่อนโยนกับนางว่า“หากเจ้าต้องการพูดคุยหรือพักผ่อนใจ...ข้าจะไม่กวนใจเช่นกัน ไว้เจ้าอยากจะพบปะกันวันไหนข้าจะรีบมาทันที”ไป๋ฮวายิ้มบางๆ อย่างรู้สึกผิดปนระแวดระวัง นางรับรู้ถึงพายุที่หมุนวนรอบตัว แต่ไม่อาจห้ามมันได้ขณะนั้นเอง เสี่ยวหยาสาวใช้ก็วิ่งเข้ามาพร้อมซองเทียบเชิญในมือ“คุณหนูเจ้าคะนายหญิงส่งเทียบเชิญมาค่ะ เป็นงานเลี้ยงน้ำชาที่จวนอ๋องไร้พ่ายอ้าวไท่จือทั้งสองกลับไปแล้วหรืเจ้าค่ะ”ไป๋ฮวาขมวดคิ้วเล็กน้อย“เลี้ยงน้ำชาหรือ เมื่อไหร่กัน”เสี่ยวหยายิ้มกว้าง“ใช่เจ้าค่ะ บอกว่าอยากเชิญทุกคนร่วมงานเพื่อให้หายตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และ...เพื่อเปิดตัวแขกสำคัญที

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   เมื่อเอ่ยถึงนางหัวใจก็อ่อนโยน

    ยามเช้าของฤดูใบไม้ผลิอาบแสงแดดอ่อนกลิ่นบุปผาภายในสวนด้านหลังของจวนอ๋องไร้พ่าย ต้นท้อผลิดอกบานสะพรั่ง สีชมพูระเรื่อกระจายคลุมไปทั่วดั่งม่านบางไป๋ฮวานั่งอยู่บนศาลากลางสวน ถือชาชั้นดีในถ้วยเซรามิกบางใสราวหยาดน้ำแข็ง ดวงตาของนางทอดมองกลีบดอกที่ปลิวลมด้วยแววคิดไม่ตกแม้จะรอดปลอดภัยกลับมาจากเหตุการณ์เมื่อค่ำคืน แต่ใจของนางกลับว้าวุ่นเพราะบางอย่างเสียงก้าวเท้าหนักแน่นแต่ไม่รีบร้อนดังใกล้เข้ามา ก่อนร่างสูงในชุดประจำตระกูลจะปรากฏตัวใต้ชายคา"ตื่นแต่เช้าเชียวนะพี่สาวเมื่อคืนท่านหลับสบายดีไหม" ไป๋อวี้ยิ้มมุมปากเล็กน้อย "ข้า...นอนไม่ค่อยหลับ มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย" ไป๋ฮวาเอ่ยเบาๆ ขณะรินชาให้อีกฝ่ายเขารับถ้วยชาไปโดยไม่ปฏิเสธ แล้วทรุดกายนั่งลงข้างพี่สาวอย่างเงียบงันสักพักจึงเอ่ยขึ้นเหมือนคนพูดกับลม"เมื่อคืนท่านเห็นนางหรือไม่...อี้เหยา"ไป๋ฮวาขมวดคิ้วน้อยๆ “นางดูเรียบร้อยดี นิสัยก็น่ารัก”ไป๋อวี้ยกถ้วยขึ้นแนบริมฝีปาก แต่แทนที่จะจิบทันที เขากลับเอ่ยเสียงเบานัก“นาง...น่าเอ็นดู”“ก็จริงน่าสดใสน่ารักมากทีเดียว” ไป๋ฮวาพูดขึ้นเบาๆไป๋อวี้นิ่งคิดเล็กน้อย ก่อนคลี่ยิ้มแบบที่ไม่ใช่รอยยิ้มประจำของเขา

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ผิดฝา

    หน้าจวนอ๋องไร้พ่ายยังมีโคมไฟแก้วส่องแสงเรืองรอง ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดจากเหตุการณ์ลักพาตัวที่ยังไม่คลี่คลายเสียงกีบม้าดังเข้ามาจากหน้าประตู ก่อนร่างของไป๋ฮวาในชุดคลุมตัวยาวสีอ่อนจะถูกประคองลงจากหลังม้าโดยไป๋อวี้ผู้ที่ตอนนี้มีใบหน้าเยือกเย็นไร้รอยยิ้ม“บอกท่านพ่อกับท่านแม่ข้าไปไม่นานแล้วจะรีบกลับมา” เสียงเขาเรียบนิ่งแต่มีบางอย่างในน้ำเสียงที่ฟังดูอ่อนลงกว่าปกตินักไป๋ฮวาซึ่งแม้ถูกจับตัวไป แต่ก็ยังรักษาความสง่างามของธิดาแห่งอ๋องไร้พ่ายได้อยู่ไม่บกพร่องเหลือบมองน้องชาย ดวงตาอบอุ่นเปล่งประกายขอบคุณแต่ไร้คำพูดใด"จะไปตามหาหญิงคนนั้นหรือ." กล่าวเพียงเท่านั้น ก่อนที่ไป๋อวี้จะควบม้าจากไปไป๋ฮวากลับเข้าไปในความปลอดภัยของบ้าน “หวางเยว่ คุณหนูทั้งสองกลับมาแล้วขอรับ ตะตะแต่นายน้อยกลับออกไปอีกแล้ว” เสียงของขันทีหยุนเจ๋อที่รีบมารายงานความคืบหน้ากับเฉิงอู๋อ๋อง“ดี ส่งคนแจ้งไปยังไท่จือทั้งสองว่า ไป๋ฮวากลับมาที่จวนแล้ว”หยุนเจ๋อยังห่วงนายน้อยของเขา“ละละแล้วนายน้อยเล่าขอรับ” เฉิงอู๋อ๋องถอนหายใจยาว“ปล่อยเขาไปอาจมีบางอย่างที่ต้องสะสาง”หน้ากระท่อมร้างไป๋อวี้มาหยุดยืนมองแสงไฟที่ลอดออกมาเข้าไปข้างใน

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ชักจะวุ่นกันใหญ่

    ทั่วเขตวังหลวงยังคงเต็มไปด้วยเสียงฝีเท้าขององครักษ์และทหารที่ค้นหาไป๋ฮวาองค์หญิงของอ๋องไร้พ่ายที่หายตัวไปอย่างลึกลับไป๋อวี้ไม่อาจทนนั่งรออยู่เฉย ๆ ได้อีกแม้จะมีคนทั้งกองทัพค้นหา แต่หัวใจเขากลับร้อนราวไฟเผา ลางสังหรณ์ของเขาไม่เคยพลาด จะต้องมีใครทำเรื่องร้ายแรงนี้เพื่อให้เขาต้องเดือดร้อน“ข้าจะไปเอง” ขันทีหยุนเจ๋อผุดลุกขึ้นนั่งทั้งๆ ที่นอนสัปหงกใกล้จะหลับมิหลับแหล่“องค์ชายจะไปจริงๆ หรือขอรับมันดึกแล้วขอรับ”“ไม่ต้องตามข้าจะไปเพียงลำพัง” สาวเท้ายาวๆ ยังคอกม้าขันทีหยุนเจ๋อได้แค่เพียงถอนหายใจเรื่องนี้ต้องถึงหูเฉิงอู่อ๋องแน่ๆ เขารับรองไป๋อวี้ตัดสินใจ ควบม้าออกนอกจวนอย่างเงียบงัน ทิ้งเพียงคำสั่งไว้กับหยุนเจ๋อว่า “ห้ามบอกผู้ใดว่าเขาออกจากจวนยามดึก”หยุดม้าลงตรงที่ไป๋ฮวาหายตัวไปเมื่อยามบ่าย “เจ้าต้องการพบไป๋ฮวาหรือไม่”ไป๋อวี้ชะงัก หันมองรอบกาย“เจ้ารู้หรือว่าพี่สาวข้าอยู่ที่ใด”“ข้ารู้...แต่เจ้าต้องตามข้ามาเพียงผู้เดียว หากพาใครมา ไม่อย่างั้นข้าจะฆ่านางเสีย”ไป๋อวี้กัดฟันแน่น ดวงตาคู่นั้นแดงก่ำด้วยความโกรธและหวาดกลัวปะปนกัน เขามองหญิงอัปลักษณ์ตรงหน้าเต็มตาอีกครั้ง“ชั่วช้าที่สุดเจ้าต้อง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status