บรรดาคนไร้บ้านรวมถึงผู้ยากไร้ต่างเรียงแถวกันอย่างเป็นระเบียบ ยามนี้เมิ่งเว่ยและเมิ่งเหยียนซินพาลูกน้อง บ่าวไพร่ มาช่วยกันทำโรงทานตามที่ตั้งใจ
ส่วนเมิ่งลี่น่าก็เอาแต่โวยวายร้องไห้ดั่งเสียสติ เริ่นอี้หร่านจึงอยู่ดูแลจิตใจอันบอบช้ำของบุตรีที่เรือน
"ขอบคุณเจ้าค่ะคุณหนู ท่านช่างน้ำใจงามยิ่งนัก ขอให้สกุลเมิ่งเจริญรุ่งเรือง มั่งมีเงินทองยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะเจ้าคะ"
ใบหน้าคุณหนูรองเมิ่งประดับไปด้วยรอยยิ้มละไม แม้จะเหมื่อยขบจนแทบสิ้นแรง ทว่าคำอวยพรของเหล่าชาวบ้านกลับเป็นแรงผลักดันให้เมิ่งเหยียนซินคลายความเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี
เพราะโลกอีกด้านเมิ่งเหยียนซินเอาแต่นั่งจ้องจอแทบไม่ออกไปเจอโลกภายนอก ไม่ได้พบปะหรือช่วยเหลือผู้ใด กระทั่งทำบุญก็ยังโอนเงินออนไลน์
"ขอบคุณเจ้าค่ะท่านยาย หากไม่อิ่มก็มาเติมได้นะเจ้าคะ ยังมีอีกเยอะเลย"
"เจ้าค่ะคุณหนู"
สตรีวัยชราหลังโก่งค่อมค่อย ๆ หมุนกายออกไป เมิ่งเหยียนซินจึงเอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง "อ้อ...ท่านยายเจ้าคะ อย่าลืมไปรับเสื้อกันหนาวทางด้านโน้นนะเจ้าคะ"
หญิงชราช้อนสายตาขึ้นจากนั้
โจวฉีอึกอัก "เอ่อ...ต้องขับตัวยาออกจากทางเส้นลมปราณ และคุณหนูต้องอยู่ในเรือนร่างเปลือยกายเท่านั้น ถึงจะแน่ใจว่าพิษทั้งหมดนั้นสลายไปแล้ว"หลิวซือเหว่ยอึ้งเงียบ เพราะไม่รู้ควรช่วยนางอย่างไรในเมื่อเขาทั้งสองล้วนเป็นบุรุษ ครั้นจะหาสตรีที่มีวรยุทธ์เคยเรียนรู้เรื่องเส้นลมปราณตอนนี้คงนับว่าลำบากและดูจะสายเกินไปหลิวซือเหว่ยคิดหาทางออกชั่วครู่ โจวฉีเองก็ลำบากใจแต่พิษในกายของคุณหนูรองไม่อาจปล่อยไว้นาน"นายท่าน ทำอย่างไรดีขอรับ คุณหนูนางเป็นสตรี เราคงไม่อาจ..." โจวฉีกลืนไม่เข้าคายไม่ออกหลิวซือเหว่ยหลับตาระงับสติ เสียงทุ้มเอ่ยเรียบเรื่อย "ในเมื่อหนก่อนนางยังช่วยเหลือข้า ก็ถือว่าครั้งนี้ข้าช่วยเหลือนางเป็นการตอบแทนแล้วกัน โจวฉี เจ้าไปเปิดโรงเตี๊ยม จองไปเลยทุกห้อง อย่าให้ใครหลงเหลือเข้าใจหรือไม่ เรื่องนี้ต้องเป็นความลับที่สุด""นายท่าน ท่านอย่าบอกว่า...""ถ้าข้าไม่ช่วยนาง เจ้าจะให้ใครทำ หรือเจ้าคิดปล่อยนางกลับไปตาย"โจวฉีรับคำละล้าละลัง "ขอรับ ๆ"เมื่อตัดสินใจได้แล้วพวกเขาก็เร่งร้อนออกไป ประจวบเหมาะกับเมิ่งลี่น่าที่รำคาญคนยั้
เมิ่งเหยียนซินเดินกระทบไหล่ผู้คนเพื่อเข้าไปซื้อถังหูลู่เพราะพ่อค้าช่างอยู่ไม่เป็นที่เอาเสียเลย นางจึงเร่งสับเท้าวิ่งตามจนลืมเหลียวหลัง"เถ้าแก่ รอก่อน รอข้าก่อนเจ้าค่ะ"ชายผู้นั้นคล้ายคนหูดับ เขายังคงเดินดุ่ม ๆ ราวกับไม่ได้ยินเสียงร้องเรียกของเมิ่งเหยียนซิน พ่อค้าขายถังหูลู่เดินฝ่าฝูงชนห่างออกไปเรื่อย ๆ เมิ่งเหยียนซินก็วิ่งตามจนหอบตลอดเส้นทางการเที่ยวชมงานเทศกาลโคมไฟ คุณหนูรองเมิ่งล้วนอยู่ในสายตาคมกริบของใครบางคนดูเหมือนสถานการณ์ตรงหน้าเริ่มไม่ชอบมาพากล บุรุษร่างสูงจึงสะกดรอยตามอยู่ไม่ห่าง"นายท่าน เราเข้าไปเลยดีหรือไม่ขอรับ""ยังไม่ต้อง เจ้าไปตรวจสอบโดยรอบว่ายังมีคนอื่นอีกหรือไม่""ขอรับ"อีกคนถอยห่างจากไปแล้ว กระนั้นชายหนุ่มยังคงติดตามเพื่อสอดส่องความปลอดภัยของเมิ่งเหยียนซินอยู่ไม่ห่าง เส้นทางที่พ่อค้าขายถังหูลู่เดินออกไป ล้วนหลบเลี่ยงผู้คน เมิ่งเหยียนซินคงเอาแต่มองเจ้าผลไม้เคลือบน้ำตาลเจ้าปัญหาเลยลืมสังเกตไปชั่วขณะยัยกระต่ายน้อยจอมตะกละคิ้วเข้มขมวด
รัตติกาลมาเยือน คืนนี้จันทร์กระจ่างฟ้าน่ามองยิ่งสุดท้ายเมิ่งเหยียนซินก็หยิบเอาอาภรณ์สีแดงที่หลิวซือเหว่ยซื้อให้นางมาสวมใส่ ไม่รู้เหตุใดเขาต้องใจดีกับนางเพียงนี้ เขาอ้างว่าเป็นการตอบแทนน้ำใจที่เมิ่งเหยียนซินมอบยาสมานแผลให้เขา ยานั่นไม่กี่อีแปะจะเทียบอาภรณ์หลายตำลึงได้อย่างไรยิ่งคิดก็ยิ่งงุนงง[อาภรณ์สีชาด ไอเทมส่งเสริมความประทับใจ]เมิ่งเหยียนซินมองระบบจอโปร่งใสตาปริบ ๆ "ให้ตายเถอะเสี่ยวทู่จื่อ แต่ละไอเทมนี่ไม่เคยช่วยอะไรข้าได้เลย"[หากคุณหนูรองสามารถสร้างความประทับใจต่อหลิวกั๋วกงได้มากเท่าไหร่ เส้นทางรอดตายและสุขสงบก็มากขึ้นเท่านั้น]"แล้วทำไมข้าจะต้องเอาใจเขาด้วย"[เพราะท่านกั๋วกงคือหนึ่งภารกิจที่ท่านจะต้องทำให้สำเร็จ]เมิ่งเหยียนซินยกมือคลึงขมับ "เอาเถอะ ๆ ข้าจะลองดู ถึงยังไงตอนนี้เขาก็ไม่ได้อยากฆ่าข้าเช่นตอนแรกแล้ว"[แน่นอนเจ้าค่ะ เพราะภารกิจพิชิตใจของท่านลุล่วงไปส่วนหนึ่ง]"อย่าบอกนะว่าตากั๋วกงนั่นกำลัง..."[หลิวกั๋วกงไม่อยากสังหารหรือกำจัดสกุลเมิ่งแล้ว ภา
"อาหรง งั้นเราไปเลือกซื้อเสื้อผ้าใหม่เพื่องานคืนนี้เลยดีหรือไม่ ข้าเห็นเจ้าใส่แต่อาภรณ์สีซีด บางตัวก็มีรอยปะชุน"เลี่ยงหรงค้อมศีรษะ "คุณหนู ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ท่านเลือกเพียงของท่านก็พอแล้ว"เมิ่งเหยียนซินดีดนิ้วไปยังหน้าผากเลี่ยงหรงเพื่อหยอกล้อ "นี่แน่ะ จะเกรงใจอะไร อาภรณ์ตัวละไม่กี่ตำลึงเอง ข้ายังมีเงินอยู่อีกตั้งมาก ข้าจะบอกให้นะ อีกหน่อยข้าจะต้องเป็นมหาเศรษฐินีแน่นอน หากเจ้าต้องการสิ่งใดบอกข้าได้เลย"แน่นอนว่าเมิ่งเหยียนซินมีเงินเก็บจากการเป็นหมอดูเหลืออยู่มากทีเดียว เพราะส่วนใหญ่ที่มาดูหมอกับนางครั้งนั้นล้วนแล้วแต่เป็นบรรดาลูกหลานเศรษฐี"คุณหนู บ่าวมิกล้าหรอกเจ้าค่ะ"ดูเหมือนว่าเมิ่งเหยียนซินคงต้องใช้มาตรการยัดเยียดเสียแล้ว "ไม่ต้องเกรงใจแล้ว ปะ ไปกัน"เมิ่งเหยียนซินดึงข้อมือเลี่ยงหรงจนปลิวตามแรงของตน "คุณหนู เบา ๆ เจ้าค่ะ เดี๋ยวสะดุดล้ม หากได้รับบาดเจ็บ คืนนี้อดเที่ยวนะเจ้าคะ"เมิ่งเหยียนซินหัวเราะชอบใจ "ระแวงไปเรื่อย เจ้านี่นา โอเค ๆ ระวังแล้วค่ะ"เลี่ยงหรงนิ่วหน้า คำพูดประหลาดที่มักออกจากปากคุณหนูของตน ชวนให้นางคิดว่าเมิ่ง
"นายท่านยาสมานแผลขอรับ""วางไว้ตรงนั้นล่ะ"หลังจากเหตุการณ์อลหม่านช่วงเช้าหลิวซือเหว่ยก็คอยดูแลความเรียบร้อยจนเสร็จงาน หนำซ้ำเขายังส่งข้าวของมาบริจาคสมทบอีกมากทว่ายามนี้ท่อนขาของเขาได้รับบาดเจ็บจากความร้อน กระนั้นหลิวซือเหว่ยกลับไม่นึกใส่ใจ กั๋วกงหนุ่มยังคงก้มหน้าก้มตาทำงานที่คั่งค้างต่อไปด้วยสีหน้าเรียบเรื่อย"นายท่านต้องทำแผลหน่อยนะขอรับ ไม่เช่นนั้นอาจติดเชื้อได้""อืม รู้แล้ว"โจวฉีอ่อนใจต่อความหัวรั้นของหลิวซือเหว่ยเพราะเดิมทีหากกั๋วกงได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเขาก็มักปล่อยให้หายเองอย่างไม่ใส่ใจทว่าวันนี้โจวฉีแอบสังเกตเห็นแววตาที่เปลี่ยนไปของหลิวซือเหว่ยยามที่เขามองไปยังคุณหนูรองเมิ่งกั๋วกงอาจไม่รู้ตัวว่าสายตาของตนเป็นเช่นไร ทว่าองครักษ์ที่ดูแลเจ้านายมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกมองปราดเดียวก็ทราบว่าอีกฝ่ายคิดอ่านเช่นไร เช่นนั้นเขาขอลองเดิมพันสักครา"นายท่าน แต่ว่ายานี่คุณหนูรองเมิ่งตั้งใจนำมาให้เลยนะขอรับ"เขาไม่ได้ลวงหลอก เพราะคุณหนูรองเป็นคนฝากมาให้หลิวซือเหว
ระบบจอโปร่งแสงหายวับเดี๋ยวนั้น เมิ่งเหยียนซินยังยืนจังก้าประจันหน้ากับบุรุษใจโฉดเช่นเดิม ดูเหมือนทุกคนเริ่มอาละวาดจวนจะคว่ำหม้ออยู่รอมร่อหนำซ้ำยามนี้ก็เหลือเพียงเมิ่งเหยียนซินกับบรรดาบ่าวรับใช้เท่าหยิบมือเสียด้วย เพราะเมิ่งเว่ยขอปลีกตัวไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทราวครึ่งชั่วยามแล้วเขาจะเร่งกลับมา ดูเหมือนชายเหล่านี้จงใจหาเรื่องนางในตอนที่บิดาไม่อยู่อย่างเห็นได้ชัด"นี่หยุดนะ จะทำอะไรน่ะ" เมิ่งเหยียนซินร้องห้าม"ก็คว่ำโจ๊กนี่เสียเลย ในเมื่อพวกข้าไม่ได้กิน คนอื่นก็อย่าหวังจะได้กิน"ม่านตากลมโตขยายกว้าง เลี่ยงหรงตะโกนเสียงดังเมื่อเห็นคุณหนูของนางมุ่งหน้าตรงไปยังหม้อร้อน ๆ เพื่อปรามอีกฝ่าย "คุณหนู ระวังเจ้าค่ะ อย่าเข้าไป!"หม้อขนาดยักษ์เอียงกระเท่เร่ใกล้ถูกเทกระจาดออกมาแล้ว ทว่ากลับมีใครบางคน คว้าเมิ่งเหยียนซินเอาไว้ เขาดึงนางเข้ามาแนบอก ส่วนเท้าอีกด้านยันข้างหม้อให้กลับไปบนเตาดังเดิม มือแกร่งชี้ดาบแหลมคมไปเบื้องหน้า แม้ท่อนขาของเขาจะแข็งแรงเพียงใด ทว่าผิวหนังมนุษย์ก็ไม่อาจทานทนต่อความร้อนระอุได้ กระนั้นเขายังคงสามารถเก็บอาการได้อย่างแนบเนียน ดวงตาคมเฉี่ยวเขม้นม