“จะให้เป็นเศรษฐียังไง แค่ไหน ฉันว่ามันไม่ใช่เรื่องดีเลยนะโมนา เธอลืมไปแล้วเหรอว่าพวกเราโดนลักพาตัวมา”
“ฉันรู้ แต่เธอจะทำยังไงล่ะ ห้องออกแน่นหนาขนาดนี้ จะหนีไปได้ยังไง ฉันว่าเรารออยู่เฉยๆ ดีกว่านะ”
“งั้นแล้วแต่เธอเลย ฉันละเหนื่อยใจกับเธอจริงๆ”
[ด้านหนึ่งของคฤหาสน์หลังใหญ่]
“คาริส...ทำไมวันนี้ลูกถึงกลับบ้านได้ล่ะ ก่อนหน้านั้นแม่ไม่เคยเห็นว่าลูกจะสนใจที่กลับมาบ้านเลย”
ท่านผู้หญิงซาเรียเอ่ยถามบุตรชายคนกลางด้วยความสงสัย
“ลูกอยากกลับมาหาท่านแม่ คิดถึงท่านแม่ขอรับ”
ร่างสูงใหญ่สวมกอดผู้เป็นแม่ทันที เมื่อก้าวเข้าไปยังภายในคฤหาสน์หลังใหญ่
“แล้วอิลยาสล่ะลูก น้องมาด้วยหรือไม่ แม่อยากจะทานข้าวกันพร้อมหน้า วันนี้ท่านพ่อของลูกบ่นถึงพวกเจ้าอยู่พอดี”
“อีกสักพักขอรับ เห็นว่ากำลังเคลียร์งานที่บริษัทขอรับท่านแม่ แล้วนี่ท่านพี่ฮาซีฟอยู่หรือไม่ขอรับท่านแม่”
คาริสกวาดสายตาไปทั่วบริเวณภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ของเขา ซึ่งมีความกว้างใหญ่เป็นอย่างมาก ห้องนับร้อยอาณาบริเวณกว้างใหญ่ครอบคลุมพื้นที่นับสิบเอเคอร์เลยทีเดียว ข้าทาสบริวารเกือบร้อยชีวิตเดินไปมาภายในคฤหาสน์
“คงจะอยู่ฮาเร็มกับแม่พวกสาวๆ พวกนั้น นอกจากทำงานก็มีเรื่องนี้แหละที่พี่ชายของลูกพึงพอใจเป็นหนักหนา”
“งั้นลูกขอตัวก่อนนะขอรับ”
จุดประสงค์ของการเข้าบ้านวันนี้ของคาริสก็คือตามสืบการหายตัวไปของสาวไทยทั้งสี่ ซึ่งเขาคิดว่าต้องเป็นฝีมือของพี่ชายของเขาอย่างแน่นอน
บริเวณคฤหาสน์หลังใหญ่ ถ้าจะเรียกว่าปราสาทก็คงจะไม่ผิดอะไร เพราะความใหญ่โตรโหฐานของตัวคฤหาสน์ที่ต้องใช้เวลานับสิบวันกว่าจะเดินครบทั่วพื้นที่ การจัดสรรห้องนั้นเป็นสัดส่วน บุตรชายทั้งสามคนจะถูกแบ่งออกเป็นส่วนกลาง ปีกซ้าย และปีกขวา ซึ่งแต่ละส่วนนั้นมีพื้นที่กว้างขวางเป็นอย่างมาก เทียบเท่ากับบ้านหลังใหญ่เลยทีเดียว
“ท่านพี่ฮาซีฟอยู่ไหน”
คาริสเอ่ยถามสาวใช้ที่ยืนเฝ้าหน้าประตูบานใหญ่ของสถานที่ ที่เรียกว่า ‘ฮาเร็ม’
“เอ่อ...นายท่านกำลัง...อยู่กับนางสนมเจ้าค่ะ”
“เปิดประตู ข้ามีเรื่องจะคุยกับท่านพี่”
“เจ้าค่ะนายท่าน”
ประตูห้องขนาดใหญ่ถูกเปิด คาริสเดินเข้าไปยังห้องชั้นในซึ่งมีมากมายหลายห้องสลับซับซ้อน โดยพื้นที่ส่วนกลางของห้องจะเป็นลักษณะลานกว้าง ซึ่งมีสระน้ำ เตียงนอน ซึ่งมีสนมหลายสิบคนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้นบางเบาที่มองเห็นทะลุไปถึงไหนๆ
“ท่านพี่ขอรับ” คาริสมองพี่ชายของตัวเองที่กำลังอยู่ในสระน้ำและมีเหล่าบรรดาสาวๆ กำลังปรนนิบัตินับสิบคน
“เจ้านึกยังไงถึงบุกมาหาพี่ถึงที่นี่...คาริส”
มือของพี่ชายเขากำลังจับศีรษะของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า กำลังก้มผุดก้มเงยกับไอศกรีมแท่งโตของเขา โดยไม่ละอายสายตาของผู้เป็นน้องชายแต่อย่างใด
“ข้ามาเยี่ยมท่านพี่ขอรับ”
สายตาของคาริสกวาดสายตาไปทั่วบริเวณห้องโถงใหญ่ เหล่าบรรดาสตรีสาวงามต่างส่งสายตาอันหวานฉ่ำมาที่เขา ชายหนุ่มรูปงาม ใบหน้าคมคายดวงตาสีเทาคมเข้ม จมูกเป็นสันยาวรับกับปากที่เป็นกระจับเรียวได้รูปภายใต้กุตรา (ผ้าคลุมผม) ที่คลุมเส้นผมสีดำเอาไว้ ดวงตาอันแหลมคมที่ถูกปกคลุมด้วยแพขนตาหนา กำลังกราดไปรอบๆ เพื่อตรวจตราทุกพื้นที่ของห้องอย่างละเอียด
“เจ้าบอกพี่มาตามตรงเถิดคาริส เจ้าไม่ได้มาเยี่ยมพี่จริงๆ อย่างที่เจ้าบอกกับพี่แน่นอน”
สายตาคมดุจับจ้องไปที่น้องชายของเขาเขม็ง คาริสคงต้องการที่จะรู้ความจริง ว่าเขาซ่อนพวกสตรีสาวสวยเหล่านั้นไปไว้ที่ตรงไหนอย่างแน่นอน
“งั้น...ขอข้าตรวจห้องท่านพี่ได้ไหมขอรับ”
“เชิญเจ้าตรวจได้ตามสบาย พี่ไม่มีอะไรจะต้องปกปิดเจ้าอยู่แล้ว”
ฮาซีฟมั่นใจว่าน้องชายเขาจะไม่เจอสาวๆ พวกนั้นอย่างแน่นอน หลังจากนี้เขาคงต้องรีบเคลียร์ทุกอย่างเสียแล้ว ก่อนที่เจ้าน้องชายหัวรั้นของเขาจะรู้ความจริง
“ขอรับ” คาริสเดินไปตามจุดต่างๆ ทันที คาริสต้องการเคลียร์ปัญหาคาใจ ถ้าพวกเธอไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาจะได้ตัดพี่ชายเขาออกจากเรื่องน่าสงสัยนี้ มันคือหน้าที่ของเขาที่จะต้องช่วยทีมจัดงานรับผิดชอบ
“ไม่ต้องตามข้ามา!” เสียงเข้มออกคำสั่งกับสาวใช้ ที่พากันกรูเดินตามหลังคาริสอย่างตื่นตระหนก เพราะชีคหนุ่มไม่เคยที่จะย่างกรายเข้ามาในนี้เลยสักครั้ง
“เจ้าค่ะ”
“นายคาริส...มีอันใดหรือเจ้าคะ”
เซริเดินออกมารับหน้า เมื่อผู้เป็นนายกำลังเดินตรวจตราบางอย่างมายังจุดที่เธอกำลังยืนอยู่ เซริได้รับคำสั่งจากนายท่านของเธอเรียบร้อยแล้ว ต่อให้นายคาริสจะเดินหาสักเท่าไร ก็มิมีวันเจออย่างแน่นอน เซริมั่นใจ
“ข้าจะตรวจห้องใต้ดิน เจ้าเปิดให้ข้าด้วยเซริ”
“เจ้าค่ะ” หัวหน้าสาวใช้ทำตามคำสั่ง
เวลาผ่านไปราวสิบนาที...
“เจ้าเจอสิ่งที่เจ้าต้องการหรือไม่คาริส”
ร่างกำยำกำลังนอนแผ่หราบนเตียงนอนขนาดใหญ่ ที่มีเหล่าบรรดาสาวงามกำลังนวดตัวหลังจากการอาบน้ำเสร็จสิ้น
“ไม่ขอรับ...งั้นข้าขอตัวก่อนนะขอรับท่านพี่ เชิญท่านพี่ตามสบายเถิดขอรับ”
“อืม...ถ้าเจ้าแคลงใจพี่อีก พี่ยินดีให้เจ้าตรวจตรานะคาริส”
ริมฝีปากได้รูปภายใต้เคราที่ตัดแต่งอย่างประณีตยกยิ้มราวกับถือชัยชนะบางอย่างในมือ ถ้าเขาไม่ได้เชยชมสาวงามชาวไทยนั่น ก็ไม่มีอะไรที่จะมาหยุดยั้งเขาได้ แม้กระทั่งน้องชายในสายเลือดของเขาก็ตาม
[ฮาเร็ม]
“นำตัวนางมา!”
ฮาชีฟสั่งสาวใช้ หลังจากที่น้องชายของเขาจากไป
“คะ-คนไหนหรือเจ้าคะนายท่าน มีตั้งสี่คนนะเจ้าคะ”
เซริเอ่ยถามผู้เป็นนายด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ความยิ่งใหญ่และความมีอำนาจเป็นที่เกรงขามของทุกคน ทำให้ข้าทาสบริวารต่างทราบกันดี ว่านายท่านคนนี้น่ากลัวเพียงใด
“คนที่เจ้าคิดว่าจะสนองข้าได้ โดยไม่ต้องให้ข้าออกแรง”
หนึ่งในสี่คนนั้น มีสาวงามคนหนึ่งที่ฮาซีฟนั้นถูกใจเป็นอย่างมาก เขาคงต้องเก็บเธอคนนั้นไว้หลังสุด เพราะเขารู้มาว่าเธอคือคนที่พยศที่สุดในบรรดาสี่คน ซึ่งฮาซีฟต้องใช้เวลาในการปราบม้าพยศตัวนั้นเองด้วยวิธีที่เหมาะสม คำพูดของท่านพ่อผุดขึ้นมาในหัวของเขาทันที ‘ลูกต้องหาทายาทสืบสกุล’ เธอคือคนที่เหมาะสมจะสืบทอดทายาทของเขา เธอคือแม่พันธุ์ที่ดี!
“เจ้าค่ะนายท่าน”
เซริรับคำผู้เป็นนาย ก่อนจะเดินออกไป เป้าหมายของเซรินั้นก็คือ ‘นางที่ดูจะฉลาดในการเอาตัวรอดที่สุด’
[เมืองไบยาร์...ประเทศซาเลวีเนียร์] “ข้าจะส่งคนไปรับครอบครัวของเจ้าในวันพรุ่งนี้...เจ้าได้นัดหมายครอบครัวของเจ้าไว้หรือไม่โมนา”ฮาซีฟมองร่างอวบอิ่มที่กำลังเลือกเครื่องประดับเพชรนิลจินดา กับเหล่าบรรดาสาวใช้ที่ล้อมหน้าล้อมหลัง “ค่ะ...โมนาได้โทรไปบอกเรียบร้อยแล้วค่ะ...ที่รักคะ...โมนา อยากจะขออะไรคุณหน่อยได้ไหมคะ” “อืม...ได้สิ” “ถ้าโมนาต้องอยู่ที่นี่กับคุณตลอดไป โมนาอยากจะขอให้พ่อแม่ของโมนามาอยู่ด้วยกับโมนาที่นี่ได้มั้ยคะ” “ได้สิ...ข้าคิดว่าก็ดีเหมือนกัน เจ้าจะได้ไม่กังวลเป็นห่วงพ่อกับแม่ของเจ้า เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่ได้เป็นปัญหากับข้าเลย บ้านออกกว้างขวางใหญ่โต มีห้องเป็นร้อยๆ ห้อง มีบ่าวรับใช้มากมาย และอีกอย่างท่านพ่อกับท่านแม่ของข้าก็พึงใจเจ้าอยู่ไม่น้อย ที่รู้ว่าเจ้าอาจจะตั้งครรภ์ลูกของข้าในไม่ช้า”ฮาซีฟมองหญิงสาวอันเป็นที่รัก ถึงแม้เธออาจไม่ใช่คนที่เขาเลือกตั้งแต่แรก แต่เมื่อเขาได้สัมผัสทุกอย่างจากเธอแล้ว เธอเหมาะสมกับเขาอย่างที่สุด ทั้งบทรักร้อนแรงทุกค่ำคืน เธอคนนี้สนองให้เขาโดยไม่ขาดตกบกพร่อง โดยไม่ต้องพึ่งสตรีสาวงามคนอื่นเลย เธอร้อน
ความกระสันเข้าครอบงำร่างงาม เมื่อริมฝีปากหนาไล้ลงมาจนถึงเนินอกสวย มือของเขาปลดชุดนอนนุ่มลื่นของเธอออกพร้อมกับปลายลิ้นสากกำลังลากไล้ตามมา มืออีกข้างหนึ่งดึงชุดของเธอพ้นออกจากร่างของเธออย่างรวดเร็ว ร่างอวบอิ่มปรากฎแก่สายตาของชีคหนุ่ม เขาจับจ้องไปที่อกอวบใหญ่ที่มีลูกเชอรี่สีแดงสดปรากฏอยู่ตรงกลาง“เจ้าสวยเหลือเกิน...ข้าอยากกินเจ้าทุกวันเลยรู้ไหม”สายตาคมเข้มจับจ้องไปที่เรือนร่างขาวโพลนที่สะท้อนแสงไฟบนหัวเตียงสาดส่องร่างงามอรชร ราวกับต้องมนต์สะกด “อุ้ย! คุณปิดไฟสิคะ...ฉันอายนะ”ธาริกายกมือขึ้นมาปิดอกอวบของเธอ แต่ทว่าก็ยังไม่ทันกับมือหนาที่มาคว้ามือของเธอออก สายตาคมจ้องอย่างไม่กระพริบราวกับไม่เคยเห็นมาก่อน “ข้าอยากเห็นเจ้าทั้งตัว เจ้าไม่ต้องอาย ข้าคือสามีของเจ้า ข้าจะแต่งงานกับเจ้า เจ้าจงเชื่อใจข้าเถิด...”พูดจบปากร้อนของชายหนุ่มก็ฉกลงมาที่ปลายถันสีชมพูสด ลิ้นสากลากไล้วนเม็ดทับทิมระเรื่อที่แข็งชัน ดุนดัน ดูดเม้มเข้าไปในปากอย่างหิวกระหาย “อาร์...” ร่างบางเอ่ยครางอย่างรัญจวนในสัมผัส เสียงเต้นของหัวใจของเธอถี่รัว มือบางคว้าร่างหนาเอาไว้ “อื้ม...” ปลายลิ้
[อีกด้านหนึ่ง...]บรรยากาศยามเย็นบนโต๊ะรับประทานอาหารมื้อค่ำ... “ทาน-ได้มั้ย-พ่อหนุ่ม”เสียงของหญิงสาววัยกลางคนกำลังสนทนาด้วยภาษามือกับลูกเขยชาวต่างชาติ ที่กำลังรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่กำลังจ้องมอง เพื่อคอยลุ้นผล “ขะ-ขอรับ” อิลยาสส่งสัญญาณเพื่อบอกให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเขาเข้าใจประโยคคำถามนั้น “แม่คะ...แม่ลืมลูกสาวคนนี้ไปแล้วเหรอคะ”ธาริกาอดไม่ได้ที่จะแซะ ตอนนี้ทั้งบ้านกำลังเห่อลูกเขยกันยกใหญ่จนลืมเธอคนนี้จนหมดสิ้น “พี่นับดาวพูดเหมือนตัวเองอิจฉาเลยครับ”ภัคพลน้องชายคนรองเอ่ยแซวพี่สาว “อะไรเต้...พี่ไม่ได้อิจฉาซะหน่อย ก็แค่เตือนคนบางคนก็เท่านั้น ได้ลูกเขยลืมลูกสาวตัวเองซะงั้น” “พ่อว่าที่น้องพูดก็ถูกนะนับดาว ลูกทำไมต้องคอยต่อว่าเขานัก พ่อก็เห็นว่าเขาไม่เคยโต้แย้งอะไรลูกเลยสักครั้ง ลูกต้องปรับตัวนะนับดาว เราเป็นเมียเค้า ก็ต้องคอยเอาใจสามี” “พ่อก็อีกคน...สรุปไม่มีใครอยู่ข้างนับดาวเลยสิคะเนี่ย” “เมย์ไงคะพี่นับดาว จะอยู่ข้างพี่เองค่ะ”เมวิกาน้องสาววัยสิบหกปีเอ่ยขึ้นอย่างเอาใจ “พ
“อ๊ะ!” ร่างบางสะท้านตกใจกับสัมผัสนั้น ปากหนาทำงานอย่างหนัก ความเสียวซ่านก่อวนทั่วร่างบาง มือเล็กขยุ้มกลุ่มผมเอาไว้แน่น เมื่อความซาบซ่านเล่นงานร่างงามราวกับผีเสื้อนับล้านบินวนตรงช่องท้องของเธอ รินลดารู้สึกราวกับว่าร่างของเธอกำลังล่องลอยไปในอากาศ “ข้ารักเจ้า เจ้าต้องเป็นของข้าแต่เพียงผู้เดียว อื้ม...”เสียงทุ้มแหบพร่าครางกระเส่า บทรักเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ มือหนาแยกเรียวขาสวยออกจากกัน แก่นกายใหญ่ผงาดตั้งชันปวดหนึบ ร่างกำยำแทรกเข้าหาร่างบาง กดดุ้นใหญ่ไล้ไปมากับร่องกุหลาบสวยที่มีน้ำหวานเคลือบชื้นแฉะเต็มร่องรู “อ๊ะ! คุณ! อ๊าร์!!”ความเสียวซ่านเล่นงานร่างบางอย่างหนักจนทำให้ร่างของเธอเบียดเด้งโหนกนูนเข้าหาแท่งร้อนอย่างอัตโนมัติ ใบหน้าสวยแดงกล่ำเพราะความก๋ากั่นของตัวเอง รินลดาต้องการเขา เธออยากให้เขาเข้าไปอยู่ในร่างกายเธอ “โอวว์ เจ้า! ช่างร้อนแรงนัก!! อ่าร์!!!” เสียงครางของชายหนุ่มมาพร้อมกับแท่งใหญ่โตกดดันเข้ากับช่องทางรักของเธอ เอวหนาเด้งเข้า เพื่อดันดุ้นใหญ่ให้ลึกจนสุดลำ! ความคับแน่นโอบรัดแท่งร้อนจนร่างกำยำสั่นเทา! “อาร์...อื้อ...”ความเสียวซ
“แต่งงานกันหรือ? แล้วเขาจะอยู่บ้านของเราได้มั้ยนับดาว เขาทำงานอะไร?”อดุลย์มองว่าที่ลูกเขยอย่างพินิจพิจารณาตั้งแต่หัวจรดเท้า “เขามีธุรกิจอยู่ที่ประเทศเขาค่ะพ่อ” “ธุรกิจอะไรช่วยขยายความให้พ่อฟังหน่อย” “น่าจะเยอะค่ะพ่อ นับดาวพูดตรงๆ นะคะ เขารวยระดับมหาเศรษฐีพันล้านหมื่นล้านเลยค่ะพ่อ บ้านของเขาก็เป็นปราสาทคฤหาสน์มีคนรับใช้เป็นร้อยค่ะ นับดาวก็อธิบายไม่ถูกค่ะ แต่ประมาณนี้แหละค่ะ” “แล้วเขาจะมาอยู่บ้านหลังเล็กๆ ของเราได้เหรอนับดาว ครอบครัวเราพ่อแม่ และน้องอีกสามคน พ่อว่าเขาจะอึดอัดเอานะ” “นับดาวก็ไม่ทราบค่ะพ่อ ถ้าเขาอยากอยู่กับนับดาวจริงๆ เขาก็คงจะซื้อบ้านอยู่ที่นี่ค่ะ เขาจะซื้อคฤหาสน์ยังได้เลย พ่อไม่ต้องห่วงเขาหรอก นับดาวบอกเขาแล้วว่าไม่ต้องมา เขาก็ไม่เชื่อยังดื้อดึงที่จะมาอีก”ธาริกาหันไปทำตาเขียวใส่ชีคหนุ่ม ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เรื่องวุ่นวายเหล่านี้คงไม่เกิดขึ้นแน่นอน และเธอก็คงไม่ต้องยุ่งยากมาอธิบายพ่อกับแม่เธออีก “ลูกจะพูดแบบนั้นได้ยังไง...นับดาว แม่ว่าเขาต้องชอบลูกมากเลยแหละ ถึงได้ตามมาขนาดนี้ คนนี้เป็นน้องชายคนเล็ก และคนกลางก็เป
“ฉันจะบอกแม่ฉันยังไงดีคะ?”รินลดาหันไปถามเขา เธอรู้สึกเก้อเขินเป็นอย่างมากที่จะต้องบอกความเป็นจริงกับแม่ของเธอ “ก็บอกว่าข้าเป็นสามีของเจ้า กำลังจะแต่งงานกับเจ้าสิ” “แล้วแม่ฉันจะไม่ตกใจเหรอคะ” “ข้าว...ลูกพูดอะไรกัน จะบอกแม่ได้หรือยังว่าพ่อหนุ่มนี่เป็นใคร และไหนจะคนที่ยืนคุมข้างนอกนั่นอีก บอกแม่มาเดี๋ยวนี้นะ” “เอ่อ...แม่ฟังข้าวให้จบก่อนนะคะ...คือว่าคุณคนนี้ชื่อ คาริสค่ะแม่...เขา...เอ่อ...เขาเป็นแฟนของข้าวค่ะแม่ และเขาจะมาสู่ขอข้าวกับแม่ เราจะแต่งงานกันค่ะ” “อะไรนะ! แฟนของข้าว! และจะแต่งงานกัน! ข้าวไปเจอเขายังไง และทำไมแม่ไม่เคยรู้เลย...โอย...นี่แม่งงไปหมดแล้วข้าว”วรีรัตน์ยกมือทาบอกราวกับจะเป็นลมหมดสติลงตรงนั้น “คือ...คุณคาริสเป็นเจ้าของงานที่จ้างข้าวกับนับดาวไปทำงานค่ะแม่...และ...เอ่อ...เขาชอบข้าว ก็เลยตามข้าวมา และจะมาขอข้าวแต่งงานค่ะแม่”รินลดาจำเป็นต้องกุเรื่องของเขากับเธอ ถ้าแม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์ที่เธอโดนลักพาตัวไปล่ะก็ คงต้องเป็นเรื่องใหญ่อีกแน่นอน “ข้าวไปทำงานยังไม่ถึงเดือนเลยด้วยซ้ำ ไปชอบกันตอนไหนลูก...มันเร็