บทนำ
“ผับ ๆๆ…” เสียงเสียดสีของสองกายที่ กำลังสอดประสานกลายเป็นหนึ่ง ยิ่งฟังยิ่งกระตุ้นความกำหนัดให้ปะทุถึงขีดสุด ดุ้นยักษ์ที่กำลังชำแรกแทรกผ่านความนุ่มลึก ทำเอาพวกเขาเสียวซ่านจนแทบลืมตัวตน เขาแข็งขึง ในขณะที่เธอก็อ่อนนุ่มแต่ร้อนผ่าว เขาเหยียดขยาย ในขณะที่เธอตอดรัดตลอดลำกายแกร่ง เขาขยับตอกอัด ในขณะที่เธอก็ส่ายร่ารับได้ทุกจังหวะการสอดใส่ ประหนึ่งร่างกายทั้งคู่เกิดมาเพื่อเติมเต็มซึ่งกันและกัน
“อ๊ะ! อื้อ!” เสียงเธอครางตามจังหวะที่ถูกกระแทกกระทั้น รับกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อเป็นจังหวะเดียวกัน
“อา…!” เขาเองก็คำรามเสียงแหบห้าว นึกไม่ถึงว่าร่างกายของผู้หญิงคนนี้จะให้ความรู้สึกดีถึงปานนี้ โดยเฉพาะความรัดรึงที่กำลังตอดตุบๆ มันทำเอาเขาอยากทะลายทำนบปลดปล่อยให้สายธารสวาทสาดกระเซ็นใส่ความแนบแน่นของเธอเต็มที อีกไม่นานหรอก รอให้เขาเสพสมเรือนร่างงดงามผุดผาดนี้ให้หนำใจซะก่อน ถึงตอนนั้นเขาจะปลดปล่อยให้เธอได้กลืนกินมัน
กายแกร่งแข็งขึงและร้อนผ่าวราวแท่งเหล็กที่กำลังขยับเข้าขยับออกเสียดสีจนเนินสาวร้อนฉ่า ไม่ใช่แค่เธอที่กำลังเสียดเสียวกับดุ้นยักษ์ที่ขยับตอกอัดลงมาซ้ำๆ เขาเองที่เป็นฝ่ายโรมรันก็ไม่ได้รู้สึกต่างกัน ยิ่งเขาขยับความคับแน่นก็ยิ่งบีบอัดจนต้องครางระงม ความกำหนัดที่มันกำลังพลุ่งพล่านอย่างที่ไม่เคย ทำให้เขาแทบระเบิด เหงื่อเม็ดเล็กๆ ที่กำลังผุดพรายเต็มใบหน้าของ ไม่ได้ทำให้พวกเขารู้สึกเหน็ดเหนื่อย กลับเป็นแรงกระตุ้นให้พวกเขาเข้าหากันอย่างรุนแรงมากขึ้น แนบแน่นขึ้น เธอยังคงส่ายร่าแอ่นรับตัวตนทั้งหมดที่เขาให้ ในขณะที่เขาก็โยกขยับสลับบดเบียดจนกายสาวสั่นคลอน
แสงไฟสลัวๆ จากหัวเตียงที่สาดกระทบมายังเรือนร่างเปลือยเปล่าขาวเนียนกำลังปลุกปั่นความกำหนัดของเขาให้พุ่งพล่านยิ่งกว่าเดิม เธอเป็นใคร คำนี้ยังดังก้องอยู่ในหัว แล้วอะไรทำให้เธอต้องมาทำงานแบบนี้ คิดมาถึงตรงนี้ เขาก็อดโมโหไม่ได้ เผลอระบายออกมาด้วยการกระแทกใส่เนินสาวแรงๆ จนเธอครางประท้วงใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเก แน่นอนว่าเขารู้ดีว่านี่คือครั้งแรกของเธอ แต่ที่ไม่รู้คือ...ทำไมเธอต้องเป็นสาวไซด์ไลน์ ถึงครั้งนี้จะเป็นครั้งแรก แต่ครั้งต่อๆ ไปล่ะ จะมีผู้ชายอีกกี่คนที่ได้ทำอย่างที่เขาทำ เพียงแค่คิด เขาก็เดือดดาลขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล พลันสะโพกสอบก็ขยับตอกอัดรุนแรงขึ้นอีก
“อื้อ! เจ็บ” เธอครางประท้วง แน่นอนว่ากายสาวที่ไม่เคยถูกกร้ำกราย ครั้นต้องมาเจอความกราดเกรี้ยวดุดัน อีกทั้งขนาดที่ไม่ธรรมดา เธอย่อมต้องออกอาการ แต่ยิ่งเธอร้องดังขึ้นเท่าไหร่ สะโพกสอบก็ยิ่งโหย่งขยับรุนแรงขึ้นเท่านั้น ไม่ใช่แค่สะโพกที่กำลังทรมานกายสาว มือทั้งสองข้างก็กำลังบีบขยำคลึงเคล้าทรวงสล้างทั้งสองข้างอย่างเมามัน จากเสียงครางประท้วงค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเสียงครางหวีดหวิวด้วยความรัญจวน พลันปลีขาข้างหนึ่งถูกเขายกขึ้นมาวางบนไหล่แกร่ง ท่านี้เปิดเปลือยให้ทั้งคู่สัมผัสกันแนบแน่นขึ้น ลึกซึ้งขึ้น ลึกจนเธอต้องร้องเสียงหลง
“อา…!” เขาเองก็ครางเสียงพร่า พยายามจะยืดความสุขนี้ออกไปให้ยาวนานที่สุด แต่แล้วความสุขนี้ก็ถูกบางอย่างเข้ามาแทรกแทรง
“ตื๊ด……..ตื๊ด……….ตื๊ด…………” เขาพยายามไม่สนใจเสียงโทรศัพท์ของตัวเองที่วางอยู่ข้างโคมไฟ แต่แสงสว่างของมันก็พอจะทำให้เขารู้ได้ว่าปลายสายเป็นใคร แต่เขาก็เลือกที่จะปล่อยผ่านพยายามไม่แยแส แต่ดูเหมือนคนโทรก็จะไม่ยอมแพ้ ยังคงพยายามต่อสายกลับมาอีกครั้ง กระทั่งในที่สุดเขาก็ต้องกดรับมันด้วยความขุ่นเคือง
“มีอะไร” เขากรอกเสียงห้วนกลับไปให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขากำลังอารมณ์ไม่ดี
“ผู้หญิงที่นายให้หา เขาทำคีย์การ์ดสลับกับคนอื่น ทำให้ขึ้นไปหานายไม่ได้ ตอนนี้เขารออยู่ด้านล่าง ให้ผมทำยังไงต่อดีครับ” เสียงปลายสายของคนที่เป็นทั้งเลขาและผู้ติดตามทำเอาชายหนุ่มถึงกับหันขวับไปมองคนที่นอนระทดระทวยอยู่บนเตียงด้วยความตกใจและดีใจไปพร้อมกัน ดีใจที่เธอไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด ขณะเดียวกันก็ตกใจที่ตัวเองดันไปพรากพรหมจรรย์ของยัยผู้หญิงขี้เมาที่ไหนไม่รู้ที่พลัดหลงเข้ามา แต่ถ้าจะให้ถอยตอนนี้ เขาก็ทำไม่ได้เหมือนกัน แค่คิดว่าจะต้องหยุด อะไรๆ ที่มันยังค้างอยู่ในตัวเธอมันก็เริ่มส่งสัญญาณประท้วงจนเขารวดร้าวไปหมด
“จ่ายค่าเสียเวลา แล้วให้เขากลับไป” เขาปรายตาลงมองคนที่นอนกระสับกระส่ายคล้ายกำลังกระสัน เพราะความปรารถนายังไม่บรรลุถึงขีดสุด ก่อนจะตัดสินใจตอบออกไปในที่สุด
“ตื๊ด!” ตอบเสร็จเขาก็วางทันที โดยไม่เปิดโอกาสให้ปลายสายได้ซักถามหรือทักท้วงอะไร ก็ในเมื่อความหอมหวานตรงหน้ายังรอให้เขาสานต่อ แล้วเขาจะเสียเวลาไปเพื่ออะไร
‘อย่าบอกนะว่าลูกฉันทะลุยาคุมมาเกิด ฮือ…! ก็พ่อพันธุ์เขาแข็งแรงขนาดนั้นมันก็คงไม่แปลกหรอก แต่จำเป็นต้องแข็งแรงขนาดนี้ไหมเล่า’เห็นเธอนิ่งไปราวกับจมอยู่กับความคิดของตัวเอง เขาก็พลอยไม่สบายใจไปด้วย แน่นอนว่าเขาไม่อยากเห็นภรรยาต้องเครียดโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะเมื่อเธอกำลังท้องอยู่แบบนี้ ดังนั้นเขาจึงต้องคลายความสงสัยทั้งหมดให้เธอ “เธอไม่ได้กินยาคุมหรอก ไอ้ที่กินอยู่ทุกวันน่ะ เป็นยาบำรุงที่ฉันแอบเอาไปเปลี่ยนเองแหละ” “คุณภาคิน คุณทำแบบนี้ได้ยังไง ทำทำไม” เธอถามพลางทุบที่หน้าอกเขาแรงๆ ด้วยความโมโห “เธอไม่อยากมีลูกกับฉันเหรอ ไม่ได้อยากสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับฉันเหรอ หรือว่าจริงๆ แล้วเธอไม่เคยรักฉันเลย” เขาตัดพ้อด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยแกมผิดหวัง แน่นอนว่าเห็นแล้วเธอก็ต้องรู้สึกผิดจนต้องรีบอธิบาย “ฉันรักคุณค่ะ อยากมีลูกแล้วก็อยากสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับคุณ แต่มันยังไม่ใช่ตอนนี้ ฉันยังไม่พร้อม ฉันกลัว” เธอปิดหน้าร้องไห้จนเขาต้องดึงตัวเธอเข้ามากอดปลอบ “ไม่เป็นไรนะ เราจะผ่านทุกอย่างไปด้วยกัน มันก็แค่ช่วงแรกที่ฮอร์โมนเธอเปลี่ยน เธออาจจะกลัวโน่นกลัวนี่ กลัวก
“โอ๊ย! ฉันไม่คุยกับคุณแล้ว ฉันจะกลับบ้าน” เธอสบัดแขนแรงๆ ก่อนจะรีบเดินออกไปเร็วๆ แต่ไปไม่ถึงไหนก็ถูกคนชอบเอา…ใจใส่เมียกอดเอาไว้ทั้งตัว จนเธอพยายามดิ้นอีกครั้ง กระทั่ง… “เฮ้ย! เป็นอะไรไปเมียจ๋า” เขาร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ เมื่อจู่ๆ คนที่ตนกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงเป็นลมล้มพับไป โชคดีที่ถูกเขากอดไว้ ไม่อย่างนั้นเธอคงล้มลงไปกองกับพื้น เอ๊ะ! หรือว่าไม่ดี เพราะนี่อาจจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอเป็นลม “ช่วยด้วยๆ เมียฉันเป็นลม ไอชาติเมียฉันเป็นลม” เขาอุ้มเธอออกมาหน้าห้องพร้อมกับตะโกนโหวกเหวกเสียงดัง ในขณะที่เลขาอย่างชาติมาเพียงเดินออกมากดลิฟต์ “เฮ้ย! ทำบ้าอะไรของแกวะไอชาติ ทำไมไม่ช่วยฉันก่อน” เขาโวยวายอีกครั้ง “ผมไม่ใช่หมอ คงช่วยอะไรนายไม่ได้ แต่ถ้านายอยากได้คนช่วย นายต้องไปโรงพยาบาลครับ” คำตอบของคนที่อยู่ในลิฟต์ทำให้ท่านประธานชะงักไปนิดนึง ก่อนจะรีบอุ้มร่างไร้สติของเมียรักตามเข้าไป ให้ตายสิ! ใครจะคิดว่าคนที่เคยควบคุมตัวเองได้ดีเสมอมา บทจะสติหลุดก็หลุดจนเบลอได้ขนาดนี้ นี่แหละนะที่เขาว่าควรรักอย่างมีสติ กะอีกแค่เรื่องง่ายๆ แค่นี้ แต่เขากลับคิดไม่ได้ เพราะมัวแต่เป็
ชายหนุ่มผละออกมา จากนั้นจึงส่งบางอย่างเข้าไปแทนที่ปากและลิ้นของตัวเอง บางอย่างที่มันทั้งแข็งกร้าว ดุดัน และยิ่งใหญ่ถูกส่งพรวดเข้ามาในกายสาวจนเธอทำหน้าเหยเก “แน่นมากคนดี” เสียงเขาคำรามลั่นขณะขยับโหย่งสะโพกเป็นจังหวะเนิบนาบ แต่เพราะความคับแน่นที่กำลังตอดรัดตลอดทั้งลำแกร่ง เลยทำให้เขาจำต้องเร่งจังหวะเร็วขึ้น สะโพกสอบที่ตอกอัดลงมาเนินสาวเกิดเป็นเสียงดังน่าฟัง และเสียงนี้ก็เปรียบเสมือนตัวกระตุ้นความกำหนัดของทั้งคู่ให้พลุ่งพล่านขึ้นอีก แน่นอนว่าพวกเขารู้ดีว่าจะจะจัดการกับความซ่านกระสันที่มันกำลังร้อนระอุนี้ยังไง แต่ที่ไม่รู้คือ…เธอจะได้นอนอีกทีตอนไหน ก็นี่มันแค่เริ่มต้นเองนี่นา แต่เชื่อเถอะว่าทั้งหมดนี้ล้วนแต่ผ่านกระบวนการคิดวิเคราะห์ของท่านประธานหนุ่มมาแล้วทั้งสิ้น ก็คนมันหวงนี่นา แล้ววิธีนี้มันก็ดันใช้ได้ผล ส่วนเรื่องหื่นน่ะเหรอ ก็แค่ผลพลอยได้แหละ เอ! หรือจะเป็นแค่ข้ออ้าง สามเดือนต่อมาหลังจากที่ทั้งคู่แต่งงานกันแล้ว “เมียจ๋า ไปแต่งตัวเร็ว เดี๋ยวไปทำงานสายไม่รู้ด้วยนะ” เขาพยายามปลุกเธอให้ลุกขึ้นไปบริษัทด้วยกัน “อื้อ…! คุณไปเถอะ วันนี้ฉันไม่ไปค่ะ” เธอบอกอย่างงั
ชุดสายเดี่ยวผ้าพลิ้วถูกเกี่ยวสายให้หลุดร่วงลงมาทั้งสองข้าง เผยให้เห็นอกอวบชูชันที่ไร้ซึ่งเครื่องพันธการ แน่นอนว่าตอนนี้เขายังไม่มีเวลามอง แต่มือเขายังว่างพอที่จะสำรวจความอวบอูมนั้นได้ ก้อนเนื้อกลมกลึงที่กำลังถูกเขาบีบขยำ ทำเธอครางสะท้านในลำคอ จากที่ทำใจกล้าเป็นฝ่ายเริ่มจูบเขาก่อน กลับกลายเป็นฝ่ายถูกเขาจูบกลับมาด้วยความเร่าร้อนรุนแรงกว่า ไหนจะมือเขาที่กำลังคลึงเคล้นอยู่ที่ทรวงสล้างนั่นอีก ทำเอาสมองเธอมึนเบลอ จับต้นชนปลายแทบไม่ถูก “เธอคือยาบำรุงหัวใจฉันนะทูนหัว” เขากระซิบข้างหู ก่อนจะยกเธอลงจากตัก เพื่อจัดการเสื้อผ้าที่เกะกะของตัวเองทิ้งไป ปลดปล่อยให้ท่อนเอ็นลำใหญ่ได้เป็นอิสระ ปฏิเสธไม่ได้ว่าความแข็งขึงที่กำลังโดดเด้งเด่นตระหง่านอยู่ตรงหน้าตรึงเอาสายตาคู่งามของเธอให้ไม่อาจละไปไหนได้ แต่ยิ่งเธอจับจ้องมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเหยียดขยายมากเท่านั้น “อืม…!” เขาถึงกับครางกระหึ่ม เมื่อจู่ๆ สองมือของเธอก็แตะต้องลงมาสัมผัสที่ดุ้นยักษ์ลำใหญ่ ครั้นพอมันผงกหัวรับ สองมือก็เปลี่ยนเป็นกางโอบรอบลำราวกับกลัวมันดิ้นหลุดมือ “อา…!” จากเสียงครางแปรเปลี่ยนคำรามลั่น เมื่อไม่ใช
ผ่านมาเกือบค่อนคืนที่เธอหลบอยู่แต่ในห้องของตัวเอง ไม่แม้แต่จะออกมาหาอะไรกินเหมือนอย่างเคย เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะเธอเตรียมการมาอย่างดีแล้วน่ะสิ เรียกว่ามีเสบียงพร้อมที่จะกบดานได้จนถึงเช้า ถึงมันจะไม่ได้ดีมาก แต่มันก็ช่วยให้พยาธิในท้องไม่ประท้วงมากเกินไป ดังนั้นหลังจากจัดการฟาสต์ฟู้ดที่เตรียมไว้เรียบร้อย เธอจึงรีบอาบน้ำเพื่อเข้านอน แน่นอนว่าเธอจะงอนแค่ถึงเช้าเท่านั้นแหละ หลังจากได้นอนจนอิ่ม เธอก็จะออกไปคุยกับเขาดีๆ เหมือนไม่เคยมีเรื่องขุ่นข้องหมองใจกันมาก่อน เพื่อที่จะได้ไปทำงานพร้อมกัน “แผนการช่างแยบยล ทำไมฉลาดขนาดนี้เนี่ยแวววิวาห์” เธอชื่นชมตัวเองก่อนทิ้งตัวลงบนที่นอนนุ่มๆ อย่างสบายอารมณ์ “สมน้ำหน้าอยากหื่นดีนัก” เธอนอนยิ้มอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะหลับไปในที่สุด กระทั่งกลางดึกที่เงียบสงัด เงียบจนได้ยินเสียงแอร์ ทันใดนั้นประตูห้องที่เคยถูกปิดสนิทก็ค่อยๆ เปิดกว้าง ตามมาด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่โชยเข้ามา เอ่อ…เดี๋ยวนะ นี่ไม่ใช่นิยายสยองขวัญแต่อย่างใด เพราะกลิ่นที่ว่านั่นมันคือกลิ่นสบู่จากชายคนหนึ่งที่เพิ่งอาบน้ำมา และเขาคนนั้นก็กำลังแอบย่องเข้ามาหาเมีย “ร้ายนักนะยั
“ไม่ได้หรอก แผลภายนอกอาจจะไม่เป็นอะไรมาก แต่ข้างในเราไม่รู้ บางทีมันอาจจะช้ำในอยู่ก็ได้ เพราะงั้นเราไม่ควรนิ่งเฉย ไปให้ตรวจให้แน่ใจดีกว่า จะได้ไม่ต้องมานั่งกังวล” เขาบอกสีหน้าเคร่งเครียด แน่นอนว่าเขาเป็นห่วงเธอเหนือสิ่งอื่นใด “โอย! เป็นห่วงสองคนนั้นเหอะ ฉันแค่โดนตบโดนข่วน แต่สองคนนั้นโดนถีบ ถ้าจะมีคนช้ำในคงไม่ใช่ฉันแน่” เธอยอมรับออกมาในที่สุด “ก็ไหนว่าไม่สู้คน” เขาเปลี่ยนมากระซิบกระซาบทันที เมื่อทุกอย่างมันกลับตาลปัตร “นี่! ถามจริงเหอะ อยู่ด้วยกันมา คิดว่าฉันเป็นคนแบบนั้นจริงดิ” เออจริง เธอยังห่างไกลจากคำว่าไม่สู้คน แต่สภาพที่เห็นมันทำให้เขาเข้าใจแบบนั้นนี่นา “ก็แล้วทำไมถึงอยู่ในสภาพสะบักสะบอมแบบนี้เล่า” “สองต่อหนึ่งนะคุณ แล้วตัวก็ไม่ใช่เล็กๆ ด้วย ให้ตายสิ! ตอนเด็กๆ แม่ของยัยสองคนนั้นให้กินยอดไม้แทนนมรึไง สูงเป็นยีราฟกันทั้งคู่เลย” ก็ไม่รู้ว่าที่เหน็บ เป็นเพราะอิจฉาหรืออะไรกันแน่ แต่พอเหน็บเสร็จเธอก็พูดต่ออีก “แล้วก็ไม่ใช่แค่ฉันหรอกนะที่สะบักสะบอม สองคนนั้นก็อ่วมเหมือนกัน” ตอนนี้เองที่ทำให้เขาต้องหันไปมองสภาพสองคนนั้นให้ชัดๆ อี
“ดาด้ามากับคุณพ่อค่ะ แต่เห็นว่าท่านต้องคุยงานกับคุณ ดาด้าก็เลยตั้งใจจะเข้ามานั่งรอคุณกับคุณพ่อที่นี่ นึกไม่ถึงว่าพอเข้ามาผู้หญิงคนนี้ก็…ก็อย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ” ดารินเรียกคะแนนสงสารด้วยการจับไปที่หน้าของตัวเองเพื่อเรียกคะแนนสงสาร “สะตอมากแม่!” แวววิวาห์พูดขึ้นมาลอยๆ ทำเอาคนที่กอดแขนผู้ชายของเธอถึงกับกัดฟันกรอด แต่ก็ยังพยายามเก็บอาการ กระทั่ง… “โอ๊ย!” แวววิวาห์ที่กำลังจะลุกขึ้นหลังจากนั่งจมปุ๊กอยู่พักนึง มีอันต้องล้มลงไปตามเดิมพร้อมกับเสียงร้องที่ทำให้ผู้ชายหนึ่งเดียวอย่างท่านประธานถึงกับต้องรีบกระโจนไปหา “เจ็บตรงไหน” เขาเข้ามาโอบประคองแวววิวาห์ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความห่วงใยและวิตกกังวล ทำเอาคนที่ถูกสลัดอย่างไร้เยื่อใยแทบจะกรีดร้องออกมา “ทำไมต้องเป็นห่วงมันขนาดนั้นคะคิน คนที่คุณต้องเป็นห่วงคือดาด้านี่ ไม่ใช่มัน” ดารินชี้ไปยังแวววิวาห์ด้วยสายตาอาฆาตมาดร้าย “แล้วทำไมผมต้องเป็นห่วงคุณ ในเมื่อเราไม่ได้เป็นอะไรกัน” เขาสวนกลับไปด้วยนัยน์ตาดุดัน “แล้วทีนังนั่นล่ะ คุณเป็นอะไรกับมัน” ดารินชี้ไปที่แวววิวาห์ด้วยความอิจฉาแกมโมโห “ห
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ขณะที่แวววิวาห์นั่งทำงานอยู่ในห้อง เสียงเคาะประตูทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นมอง ยังไม่ทันจะได้ขานตอบใดๆ ประตูห้องก็ถูกผลักเข้ามา พร้อมกับสาวสวยสองนาง แน่นอนว่าเธอไม่ได้คุ้นหน้าเลยสักนิด “เอ่อ…ขอโทษนะคะ ตอนนี้ท่านประธานไม่อยู่ ยังไงฝากเรื่องหรือเบอร์โทรเอาไว้นะคะ ทันทีที่เขากลับมา จะให้ติดต่อกลับไปค่ะ” ในเมื่อไม่รู้จัก จึงเป็นแขกของใครไปไม่ได้นอกจาก…เจ้าของห้อง แต่ให้ตายเถอะ! แค่คิดว่าเขามีแขกที่ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบนี้มาหา มันก็อดหึงไม่ได้ “แกเป็นใคร ทำไมมาอยู่ในห้องของคิน” หนึ่งในสองสาวเปิดฉากถามอย่างไม่เป็นมิตรนัก “อืม! จะตอบว่าไงดีล่ะ ถ้าตอบว่าพนักงาน ฉันก็ดันเป็นมากกว่านั้น เอาเป็นว่าเรื่องที่ฉันเป็นใครน่าจะไม่ใช่ประเด็นหลักที่ทำให้คุณต้องมายืนอยู่ตรงนี้หรอกใช่ไหมคะ เอ๊ะ! หรือว่าใช่” เห็นหน้าที่อีกฝ่ายจับจ้องมา เธอจึงไม่ค่อยแน่ใจนักว่าอีกฝ่ายตั้งใจมาหาเขาหรือเธอกันแน่ แต่ให้ตายเถอะ! คนไม่รู้จักกันจะมาหากันด้วยเรื่องอะไรเล่า “แกสินะที่เป็นคนรับโทรศัพท์คินวันนั้น” นั่นปะไร ถึงว่าทำไมมันดูแหม่งๆ ตั้งแต่นาทีแรกที่เข้ามา ชัดแล้วสินะว่า
“งั้นก็ห้ามออกไปไหนเด็ดขาด รอฉันอยู่ที่นี่จนกว่าฉันจะกลับมา เข้าใจไหม” เธอพยักหน้ารับ แต่กลับยังจ้องไปที่ริมฝีปากเขาไม่วางตา อีกทั้งท่าทางลุกลี้ลุกลนของเธอก็ทำให้เขาอดคลางแคลงไม่ได้ จนต้องยกมือขึ้นมาหวังลูบที่ใบหน้าตัวเองอย่างสำรวจ แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอย่างที่คิด เธอก็หยิบทิชชูในมือขึ้นมาปาดเช็ดที่ปากให้เขาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบก้มหน้าเม้มปากด้วยความกระดากอาย “สงสัยฉันคงมูมมามไปหน่อย” เธอเงยหน้ามอง ทันทีที่สบกับนัยน์ตาวิบวับเป็นประกายของเขาก็ต้องก้มลงไปอีก เห็นแบบนี้เขาก็ยิ่งได้ใจ “ใครใช้ให้เธอทั้งหอมทั้งหวานจนฉันอดใจไม่ไหวล่ะ จริงๆ นี่ก็ยังไม่อิ่มเลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่าไอ้ชาติ….ติมา โทรเข้ามาซะก่อน ป่านนี้ฉันคงได้กินจนหนำใจ แต่ไม่เป็นไร ไว้คืนนี้ฉันจะกินชดเชย” ให้ตายสิ! เขาพูดเรื่องแบบนี้ได้หน้าตาเฉย ในขณะที่เธอกลับรู้สึกว่าหน้าของตัวเองกำลังร้อนผ่าวราวกับถูกไฟอัง หรือจะเป็นเพราะจินตนาการของเธอมันยอดเยี่ยมเกินไป เพราะขณะที่เขาแค่พูด แต่เธอกลับเห็นภาพเหล่านั้นเป็นฉากๆ ฮือ! ตอนนี้แทบไม่รู้เลยว่าระหว่างเธอกับเขา ใครกันแน่ที่หื่นกว่ากัน “ทำไมวันนี้เงียบจัง หรือเ