หน้าหลัก / รักโบราณ / นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี / ตอนที่28 เรียกร้องให้เผาท่านหญิง

แชร์

ตอนที่28 เรียกร้องให้เผาท่านหญิง

ผู้เขียน: คุณแม่แฝดสาม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-28 16:48:09

ทางด้านเหว่ยอ๋องพอกลับมาถึงเมืองหลวง เขาและว่านชิงอี ก็ได้แวะที่สำนักงานสืบสวนคดีก่อนเป็นที่แรก เพราะอยากรู้เรื่องที่ให้จับคนร้ายมาขังเพื่อรอไต่สวน แต่กลับต้องผิดหวังเมื่อ องค์ชายซีห่าวบอกว่า นักฆ่าทั้งสิบคนถูกลอบสังหารฆ่าปิดปากจนหมด 

 “เจ้าว่าอย่างไรนะ!” เหว่ยอ๋องแผดเสียงออกมาอย่างผิดหวัง

 “ข้าก็ไม่คิดว่าคนบงการ จะคิดจัดการกับกลุ่มคนร้ายเช่นนี้ คงไม่อยากให้เรื่องราวถูกสาวถึงตัว แล้วทางหมู่บ้านตงซานเป็นเช่นไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ?”

 “ก็เรียบร้อยดี เหมือนมีคนจงใจสร้างสถานการณ์ขึ้น ให้ข้าและนางออกไปจากเมืองหลวง ข้าคิดว่าชาวบ้านคงไม่รู้เรื่องอันใด แต่ชิงอีได้ทิ้งคนให้คอยสอดส่องและคอยรายงานแล้ว” องค์ชายซีห่าว สะดุดคำเรียกที่เหว่ยอ๋องเรียกท่านหญิงว่าชิงอี สงสัยความสัมพันธ์ของพวกเขาคงรุดหน้าไปเป็นอย่างดีสินะ

 “เหตุใดท่านหญิงถึงได้กลายเป็นชิงอีเฉยๆ แล้วเล่า ความสัมพันธ์ของพวกท่านทั้งสอง คงพัฒนาไปเป็นอย่างดีสินะ?”

 “เจ้าพูดอะไรข้าก็แค่สนิทกับนางมากขึ้น” เหว่ยอ๋องพอถูกผู้เป็นน้องกล่าวล้อขึ้นมาก็ถึงกับวางตัวไม่ถูก

 “ท่านพี่…คุยเสร็จหรือยังเพคะ” ว่านชิงอียิ่งเห็นเขาทำตัวไม่ถูกก็ยิ่งอยากแกล้ง เหว่ยอ๋องพอถูกเรียกเช่นนี้ใบหน้าก็ยิ่งแดงก่ำ แต่ว่านชิงอีฉีกยิ้มอย่างเบิกบานใจที่ได้กลั่นแกล้งเขา บุรุษเวลาเขินอายช่างน่ารักเสียจริง

 “แล้วองค์ชายสืบเรื่อง หอนางโลมชมจันทร์ไปถึงไหนแล้วเพคะ”

 “เหมือนว่าเขาจะรู้ตัว ไม่มาปรากฎตัวที่หอชมจันทร์อีกเลย คุณหนูว่านลองถามวิญญาณตนนั้นอีกทีได้หรือไม่ ว่าเขาผู้นั้นลักษณะท่าทางเป็นอย่างไร หากไปถามที่หอชมจันทร์ข้าว่าอาจจะทำให้เขาไหวตัวทัน”

 “ได้แต่ว่าวันนี้รัชทายาทไม่มาหรือเพคะ? แล้วบุตรสาวสามตระกูลใหญ่ไม่มาแล้วใช่หรือไม่?” นางก็แค่เอ่ยถามไปอย่างนั้นเพราะรู้ดีว่าพวกนางไม่มีทางกลับมาแน่ องค์ชายซีห่าวมองว่านชิงอียิ้มๆ อย่างรู้ทันความคิดของนางเป็นอย่างดี สตรีสามนางนั้นต้องเจอคนเช่นท่านหญิง คราวนี้คงเข็ดขยาดไปอีกนาน

 “รัชทายาทติดงานในราชสำนักคงไม่ได้มาสักสองสามวัน เขาฝากข้าให้บอกท่านทั้งสองคน” เหว่ยอ๋องและว่านชิงอีพยักหน้ารับรู้ ก่อนว่านชิงอีจะถามขึ้น

 “แล้วคดีโรงพนันมีใครไปจับคนร้ายมาสอบสวนหรือยังเพคะ?”

 “เรื่องนี้ข้าก็รอปรึกษาพวกเจ้าสองคน คือว่าคนร้ายที่ถูกขังอยู่ในคุกอยู่ๆ ก็เสียชีวิต ข้าให้ทหารเฝ้าอย่างดีแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่า เหตุใดเขาถึงเสียชีวิตได้” องค์ชายซีห่าวเอ่ยขึ้นอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี

 “หม่อมฉันว่าทหารที่เฝ้ายาม ต้องมีส่วนรู้เห็นเป็นไส้ศึกเป็นแน่ เกลียดจริงๆ พวกที่ยอมละทิ้งความเป็นคน เพื่อผลประโยชน์ที่อาจได้มาแค่เพียงฉาบฉวย เห็นทีว่างานนี้หม่อมฉันจะต้องร้ายและเด็ดขาดให้ถึงขั้นสุดแล้วละเพคะ”

 “อย่างไร?” เหว่ยอ๋องและองค์ซีห่าวเอ่ยขึ้นพร้อมกัน

 “ก็ต้องทำให้เห็นสักครั้งว่ากองสืบสวนคดี ไม่ใช่ที่ที่ใครจะมาหยามเกียรติ ลอบเข้ามาทำร้ายคนถึงในคุกแล้วจะลอยนวลไปได้” องค์ชายซีห่าวคิ้วขมวดเข้าหากัน เพราะคิดตามคำพูดของนาง แต่ก็ยังคิดไม่ออกว่ามันคือวิธีอะไร เหว่ยอ๋องก็เช่นเดียวกัน เขาคิดแผนการของนางไม่ออกจริง ๆ ว่าต้องทำอย่างไร ว่านชิงอียกยิ้ม

 “ศพคนตายอยู่ที่ไหนหรือเพคะ?”

 “ห้องเก็บศพ” องค์ชายซีห่าวเอ่ยตอบ แต่ยังไม่ทันที่ว่านชิงอีจะก้าวขาออกไปที่ห้องเก็บศพ ก็มีคนหลายสิบคนมาร้องตะโกนร้องเรียนเรื่องท่านหญิงอยู่หน้าสำนักงานสืบสวน และยังมีฝ่ายกรมยุติธรรม เดินเข้ามาในสำนักงานสืบสวนพร้อมทหารอย่างขึงขัง 

 “ถวายบังคมเหว่ยอ๋อง องค์ชาย ท่านหญิง เนื่องจากมีคนร้องทุกข์เกี่ยวกับท่านหญิง กระหม่อมจึงมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงพ่ะย่ะค่ะ” เนี่ยนเจินกรมยุติธรรมเอ่ยขึ้นอย่างนอบน้อม

 “ร้องทุกข์เกี่ยวกับข้า! เรื่องอันใดกัน?” ว่านชิงอีเอ่ยถามขึ้นอย่างแปลกใจปนสงสัย

 “เอ่อ..มีคนเห็นว่า วันที่ไทเฮาเดินทางมาที่นี่ วันนั้นท่านหญิง ได้ใช้เวทมนต์สร้างภาพลวงตา ให้ผู้คนหวาดกลัว อีกทั้งท่านหญิงยังมีทาสรับใช้ที่เป็นวิญญาณ ผู้คนหวาดระแวงกลัวว่าท่านหญิง จะเป็นปีศาจที่อยู่ในร่างมนุษย์พ่ะย่ะค่ะ” พอได้ยินคำตอบ ว่านชิงอีก็กำหมัดแน่น ต้องมีคนยุยงปลุกปั่นเรื่องนี้อยู่เบื้องหลังเป็นแน่ แต่ก็ดีจะได้จัดการให้มันจบ ๆ ไปเสียทีเดียว 

 “ฮุ่ยเจียงให้คนที่มาร้องเรียนข้า เข้ามารวมกันที่ลานหน้าสำนักงาน เหล่าทหารที่ทำงานกรมสืบสวน ให้มารวมตัวกันทุกคนด้วยเช่นกัน วันนี้ข้าพร้อมจะเชือดไก่ให้ลิงดูละ” ว่านชิงอีเอ่ยขึ้นอย่างเย้ยหยัน เหว่ยอ๋องรีบเดินมาจับแขนว่านชิงอี ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วงและกังวล

 “เจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ไม่มีใครกล้าแตะต้องเจ้า ข้าจะปกป้องเจ้าเอง”

 “ท่านอ๋องอย่าทรงกังวลเลยเพคะ หากไม่จัดการในวันนี้ในวันข้างหน้า เรื่องราวเหล่านี้ก็จะเกิดขึ้นอีกจนได้ ความคิดของคนเรา หากได้หวาดระแวง แล้วไม่ทำให้คลายสงสัยก็จะยิ่งค้างคาใจ วันนี้หม่อมฉันจะทำให้ทุกคนเห็นว่า ภัยร้ายกว่าปีศาจก็คือจิตใจมนุษย์” เหว่ยอ๋องเมื่อเห็นว่านางมีความตั้งใจที่แน่วแน่เช่นนี้ ก็ไม่อยากขัดแต่ว่าเขาพร้อมจะยืนอยู่เคียงข้างนาง 

 ฮุ่ยเจียงเดินกลับมารายงานกับว่านชิงอีว่า ทุกคนมารวมตัวกันอยู่ตรงลานสำนักงานเรียบร้อยแล้ว ว่านชิงอีจึงเรียกปิงปิง ตงไห่ อีถง ลู่หลิงให้ออกไปพร้อมกันกับนาง พอทุกคนเห็นท่านหญิง เหว่ยอ๋อง องค์ชายซีห่าว เดินออกมาก็รีบทำความเคารพอย่างพร้อมเพรียง ว่านชิงอีกวาดตามองทุกคนอย่างเย็นชา ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ 

 “เอาละในเมื่อทุกคนมารวมตัวกันมากมาย เพื่อร้องเรียนว่าข้านั้นเป็นปีศาจ เพราะเกิดความไม่สบายใจ พวกท่านคิดว่าอยากให้ท่านกรมยุติธรรม จัดการกับข้าอย่างไรกันละ?”

 “พวกเราต้องการให้จับท่านหญิงเผาไฟต่อหน้าทุกคน เพื่อกำจัดภัยร้ายที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า” ชายในกลุ่มแกนนำเอ่ยตะโกนเสียงดัง เพื่อปลุกใจให้ทุกคนเห็นด้วย 

 “เผาไฟ ๆ ” เสียงผู้คนเอ่ยร้องขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน ว่านชิงอียกแขนมาไพล่หลัง มองลงไปด้านล่างอย่างเย็นชา ก่อนจะยกมือขึ้นบอกว่าให้เงียบเสียงลง

 “ดี!ข้าผู้ถูกฮ่องเต้แต่งตั้งให้เป็นท่านหญิงและคุมตำแหน่งผู้บังคับบัญชาหน่วยสืบสวน วันนี้ข้ารับทราบถึงข้อกล่าวหา และยอมรับความต้องการของทุกคน ว่าต้องการเผาข้า! หากเป็นเช่นนั้น ทุกคนมาฟังเรื่องราวต่อไปนี้พร้อมกัน” ว่านชิงอีหันไปมองปิงปิง ก่อนจะผายมือให้อีถงปรากฎตัวต่อหน้าทุกคน ร่างกายของนางชุ่มโชกไปด้วยเลือด สร้างความหวาดกลัวและสยดสยอง ให้กับทุกคนเมื่อร่างของนางปรากฏขึ้น ทุกคนต่างพากันยืนตัวแข็งค้างด้วยความหวาดกลัวจนไม่กล้าขยับ

 “สตรีนางนี้นามว่าอีถง ถูกสามีที่ติดเหล้าและการพนันทำร้ายจนเสียชีวิตต่อหน้าลูก ๆ วิญญาณของนางได้มาขอร้องข้าให้ช่วยเหลือ เพราะมีข้าเพียงคนเดียวที่สามารถมองเห็นวิญญาณของนาง สตรีนางนี้เสียชีวิตแล้ว แต่ก็ยังเป็นห่วงลูก ๆ อีกสามคน ที่บิดาจับมัดไว้เพื่อจะนำไปขาย หากไม่มีคนเช่นข้า พวกท่านคิดว่าเด็กอีกสามคนชีวิตจะเป็นอย่างไร” คนต่อไปว่านชิงอีผายมือให้กับลู่หลิง

 “สตรีนางนี้นามว่าลู่หลิงทำงานอยู่หอคณิกาชมจันทร์ ถูกลูกค้าจิตใจอำมหิตทำร้ายจนเสียชีวิต นางที่เป็นเพียงวิญญาณไม่สามารถบอกใครได้ นางจึงมาหาข้าให้ช่วยสืบคดีหาตัวคนร้ายมาลงโทษ และเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับวิญญาณของนาง” คนต่อไปว่านชิงอีผายมือให้ตงไห่ เขาจึงปรากฎกายขึ้น

 “บุรุษผู้นี้ทำงานอยู่โรงบ่อนพนัน ถูกลูกค้ามีเงินท่านหนึ่งเสียพนันอย่างหนัก จนหลุดโทสะทำร้ายเขาจนตาย หากเขาไม่มาหาข้าถามหน่อยเถิด ใครจะแก้ต่างให้กับชีวิตที่เสียไปของเขา การเสียชีวิตของเขา ไม่มีใครพูดถึงเลยแม้แต่น้อยเพราะเหตุใด? เหตุเพราะทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ หวาดกลัวอำนาจของคนมีเงิน แต่ว่าล่าสุดข้าได้จับผู้จัดการร้านบ่อนพนันมาขัง แต่เป็นเรื่องน่าเศร้าที่เขาได้เสียชีวิตในคุกในวันนี้ แต่เพราะมีคนเช่นข้าที่ทุกคนกล่าวหาว่าเป็นปีศาจ ชายที่เสียชีวิตในคุกจึงได้มีโอกาสแก้ต่างให้กับตนเอง” กล่าวจบนางก็ผายมือให้ผู้จัดการโรงพนัน ก่อนเขาจะปรากฎกายขึ้นช้า ๆ

 “ท่านพูดเถิด”

 “ข้าผู้ที่เป็นผู้จัดการร้านโรงพนัน เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่างและอีกหลายคนก็เห็นเช่นกัน แต่ว่าพวกเราไม่กล้าที่จะพูดออกไป เพราะถูกปิดปากด้วยเงิน วันนี้ข้าสามารถพูดได้ เพราะข้าไม่ได้มีชิวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว เขาส่งคนมาฆ่าปิดปากข้าด้วยเข็มพิษ ซึ่งคนที่ฆ่าข้านั้นก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน ท่านหญิงเขาผู้นั้นพ่ะย่ะค่ะ” กล่าวจบเขาก็ชี้ไปยังทหาร ในเครื่องแบบของกรมสืบสวน คราวนี้ผู้คนต่างส่งเสียงอืออึงฟังไม่ได้ศัพท์ เหว่ยอ๋องส่งสัญญาณให้คนเข้าไปจับกุมตัวเขาทันที ชายผู้นั้นยอมรับให้จับกุมแต่โดยดีโดยไม่ขัดขืนแต่อย่างใด แต่จู่ ๆ เขาก็ล้มลงสิ้นใจตายทันที ว่านชิงอีมองภาพนั้นอย่างสลดใจ เขาคงเตรียมตัวเอาไว้แล้ว จึงได้เตรียมยาพิษเอาไว้ฆ่าตัวตายเช่นนี้

 “วันนี้พวกท่านก็เห็นกับตาตนเองแล้ว หากวิญญาณเหล่านี้ต้องการความช่วยเหลือ เพราะตายไปด้วยความไม่เป็นธรรม พวกเขาจะต้องไปพึ่งพาผู้ใด ใช่แล้วพึ่งพาปีศาจเช่นข้าอย่างไรละ หากในทางกลับกันหากเป็นชีวิตของพวกท่านละ จะเรียกร้องความเป็นธรรมให้ตนเองอย่างไร คนที่คร่าชีวิตผู้อื่นที่ยังลอยนวล นั้นต่างหากที่เรียกว่าปีศาจ ข้ามีวิญญาณมาขอความช่วยมากมาย แต่ถูกกล่าวหาว่าเป็นปีศาจ ส่วนคนที่ฆ่าชีวิตผู้อื่น แล้วยังลอยนวลเป็นเทพเซียนอย่างนั้นหรือ?” ว่านชิงอีกล่าวออกไปน้ำเสียงแข็งกร้าวและดุดัน 

 “ท่านหญิงกระหม่อมผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ ท่านหญิงหม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ ได้โปรดระงับโทสะและรับการคารวะด้วยเถิด” ทุกคนไม่เว้นแต่ทหารในกรมสืบสวน คุกเข่าลงอย่างสำนึกผิด และซาบซึ้งใจกับสิ่งที่นางได้เหลือเหล่าดวงวิญญาณที่ต้องตายไปอย่างไม่เป็นธรรม

 “วันนี้ข้าจะไม่เอาผิดผู้ใด แต่ข้าอยากจะพูดให้ทุกคนเข้าใจและนำกลับไปคิด ไม่มีผู้ใดดีพร้อมไปหมดทุกสิ่งทุกอย่าง แต่หากว่าคนผู้นั้น มีด้านดีมากกว่าด้านเสีย ก็ยังถือว่าคนผู้นั้นก็เป็นคนดีคนหนึ่งเช่นกัน”

 “ขอบพระทัยท่านหญิงที่เมตตา”

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่30 การมาของวิญญาณ

    ดึกสงัดในค่ำคืนเดือนมืด ว่านชิงอีและพี่สาวอีกสองคนของนางก็ยังไม่พากันเตรียมตัวเข้านอน เพราะว่านชิงอีไหว้วานให้พี่สาวทั้งสอง ช่วยพับยันต์ที่นางเขียนขึ้นมามากมาย เพราะอีกไม่นานจะเป็นเทศกาลปีใหม่ ว่านชิงอีจึงอยากจะทำไว้แจกผู้คน แต่ในความรู้สึกส่วนตัวลึกๆ นางมีลางสังหรณ์ว่าจะมีเรื่องราวไม่ดีเกิดขึ้น นางจึงคิดว่าหากมียันต์ป้องกันภูตผีพกติดตัวกันเอาไว้ ก็อาจจะพอช่วยอยู่ได้บ้างแม้จะไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย ว่านชิงอีปรายตามองปิงปิงที่นอนเล่นอยู่บนเตียงของนาง ส่วนดวงวิญญาณอีกสามดวงนั่งอยู่อีกมุมหนึ่ง “เหตุใดเจ้าถึงต้องทำเยอะขนานนี้กัน? ว่านชิงหลานเริ่มรู้สึกเบื่อ เพราะนั่งทำมาหลายชั่วโมงแล้ว เสี่ยวหมานพยักหน้าเห็นด้วยที่ เพราะนางก็เริ่มเมื่อยมือเช่นเดียวกัน “งั้นพี่ใหญ่พี่รองก็ไปนอนเถิดเจ้าค่ะ วันหลังคอยมาพับใหม่” ว่านชิงอีมองเห็นความเหนื่อยล้าของพี่สาวทั้งสอง จึงรีบบอกให้ไปพักผ่อนเสียง “ถ้าเช่นนั้นข้าไปก่อนนะ” ว่านชิงหลินและว่านชิงหลานรีบเอ่ยลา เพราะร่างกายเริ่มล้าและง่วงนอนเต็มที หลังจากพี่สาวของนางจากไปไม่นาน จู่ ๆ ลมก็พัดอย่างรุนแรงคล้ายจะมีลมฝน แต่กลิ่นที่มาพร้อมกับล

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่29 ฆ่านางทิ้งเสีย

    ทางด้านสามตระกูลใหญ่ ที่ยามนี้มารวมตัวกันอยู่ที่จวนของตระกูลกู้ เพื่อรอฟังข่าวว่าวันนี้ท่านหญิงจะเป็นเช่นไร เมื่อมีข่าวออกมาว่าผู้คนได้ไปรวมตัวกัน ที่หน้าสำนักงานหน่วยสืบสวนเพื่อเรียกร้องให้จับท่านหญิง มาเผาไฟต่อหน้าทุกคน ฝ่ายกรมยุติธรรมเมื่อถูกกดดันจากราษฎร จึงต้องเข้าไปตรวจสอบ เพื่อความสบายใจให้แก่ทุกคน แม้ว่าเรื่องนี้ฟังดูแล้วข้อกล่าวหาอาจดูเกินจริง และดูเหมือนใส่ร้ายท่านหญิงจนเกินไป แต่เนี่ยนเจินกรมยุติธรรมก็ต้องทำตามหน้าให้ดีที่สุด สร้างความพอใจให้กับสามตระกูลใหญ่เป็นอย่างมาก พวกเขาจึงนัดกันมานั่งจิบชา รอฟังข่าวอยู่ที่จวนเสนากู้ สามฮูหยินและคุณหนูทั้งสามต่างพากัน พูดคุยอย่างอารมณ์ดี พวกนางคิดว่าอย่างไรวันนี้ท่านหญิงก็คงไม่รอด เพราะเหตุการณ์วันนั้นหลายคนเห็นกับตาตนเอง ว่านางสามารถสร้างภาพลวงตาทำให้ผู้คนหวาดกลัว ข้อกล่าวหาว่านางเป็นปีศาจไม่ดูเกินจริงเลยสักนิด “รายงานขอรับ” บ่าวจวนเสนาบดีกู้รีบเข้ามารายงาน หลังออกไปเกาะติดสถานการณ์ เกี่ยวกับท่านหญิงมาทั้งวัน เมื่อได้ยินเสียงตะโกนบอกของบ่าวที่มารายงาน ทุกคนก็ตั้งอกตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ “เรียนท่านเสนาตอนนี้ผู้คนที่รวมตัวกัน ไป

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่28 เรียกร้องให้เผาท่านหญิง

    ทางด้านเหว่ยอ๋องพอกลับมาถึงเมืองหลวง เขาและว่านชิงอี ก็ได้แวะที่สำนักงานสืบสวนคดีก่อนเป็นที่แรก เพราะอยากรู้เรื่องที่ให้จับคนร้ายมาขังเพื่อรอไต่สวน แต่กลับต้องผิดหวังเมื่อ องค์ชายซีห่าวบอกว่า นักฆ่าทั้งสิบคนถูกลอบสังหารฆ่าปิดปากจนหมด “เจ้าว่าอย่างไรนะ!” เหว่ยอ๋องแผดเสียงออกมาอย่างผิดหวัง “ข้าก็ไม่คิดว่าคนบงการ จะคิดจัดการกับกลุ่มคนร้ายเช่นนี้ คงไม่อยากให้เรื่องราวถูกสาวถึงตัว แล้วทางหมู่บ้านตงซานเป็นเช่นไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ?” “ก็เรียบร้อยดี เหมือนมีคนจงใจสร้างสถานการณ์ขึ้น ให้ข้าและนางออกไปจากเมืองหลวง ข้าคิดว่าชาวบ้านคงไม่รู้เรื่องอันใด แต่ชิงอีได้ทิ้งคนให้คอยสอดส่องและคอยรายงานแล้ว” องค์ชายซีห่าว สะดุดคำเรียกที่เหว่ยอ๋องเรียกท่านหญิงว่าชิงอี สงสัยความสัมพันธ์ของพวกเขาคงรุดหน้าไปเป็นอย่างดีสินะ “เหตุใดท่านหญิงถึงได้กลายเป็นชิงอีเฉยๆ แล้วเล่า ความสัมพันธ์ของพวกท่านทั้งสอง คงพัฒนาไปเป็นอย่างดีสินะ?” “เจ้าพูดอะไรข้าก็แค่สนิทกับนางมากขึ้น” เหว่ยอ๋องพอถูกผู้เป็นน้องกล่าวล้อขึ้นมาก็ถึงกับวางตัวไม่ถูก “ท่านพี่…คุยเสร็จหรือยังเพคะ” ว่านชิงอียิ่งเห็นเขาทำตัวไม่ถูกก็ยิ่งอยากแกล้ง เหว่ยอ๋องพอ

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่27 ยันต์ความรัก

    ณ หมู่บ้านตงซานหลังจากจากเกิดเหตุการณ์ในค่ำคืนที่ผ่านมา ก็ไม่มีใครกลับไปนอนอีกต่างพากันนั่งรอให้ถึงเช้า อู่ถงพอเปิดประตูออกมาในตอนเช้าตรู่ ก็ต้องชะงักกับสตรีราวเจ็ดแปดคน มายืนรออยู่หน้าเรือนพัก ในมือมีอ่างใส่น้ำ เพื่อให้ทุกคนได้ล้างหน้าล้างตา ฮุ่ยเจียงเดินมารับอ่างจากสตรีนางหนึ่ง แล้วยกเข้าไปด่านในให้กับท่านหญิง ส่วนอู่ถงเดินมารับอ่างน้ำอีกอันเพื่อนำไปให้เหว่ยอ๋อง หลังจากทุกคนล้างหน้าล้างตากันเสร็จ สตรีที่มาคอยช่วยดูแลก็นำน้ำชาและโจ๊กมาให้ทุกคน ว่านชิงอีมองเห็นวิญญาณห้าดวงที่ยืนมองอยู่ห่างๆ ก็สะกิดปิงปิงให้ไปเรียกเข้ามา “พวกท่านมีอะไรหรือไม่?” “ทูลท่านหญิง พวกกระหม่อมไม่มีที่ไป ขอติดตามเป็นทาสรับใช้ท่านได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” ว่านชิงอีได้ฟังก็พยักหน้า “ได้ต่อไปก็คอยฟังคำสั่งของปิงปิงก็แล้วกัน” ห้าดวงวิญญาณปรายตามองเด็กน้อยวัยห้าขวบ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ท่านหญิงจะให้พวกข้าฟังคำสั่งจากเด็กคนนี้หรือ?” ว่านชิงอียกยิ้ม “อย่าดูถูกความสามารถนางเชียวนะ” ปิงปิงพอได้ยินนางเอ่ยชม ก็ยกแขนขึ้นมากอดอกอย่างเย่อหยิ่ง “พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าใครที่เป็นคนทำวิชาอาคมพวกนี้ ในนิมิตข้าเห็นชายผู้หนึ่งแต่ว่าไม่

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่26 ห่มผ้าผืนเดียวกัน

    พอพานางมาถึงเรือนที่พัก ว่านชิงอีก็หลุดหัวเราะออกมากับกิริยาท่าทางของเขา ที่ดูถือตัวขึ้นมาเมื่อสตรีนางนั้นอยากเช็ดคราบสุราที่นางทำหกใส่แขนเสื้อของเขา “เป็นบุรุษรูปงามก็แบบนี้แหละเพคะไปที่ไหนมีแต่สตรีหมายปอง” “เจ้าไม่โกรธเคืองสตรีเหล่านั้นหรือ?” “โกรธแล้วจะทำอย่างไรได้เล่าเพคะ ห้ามสายตาสตรีเหล่านั้นได้ที่ไหนกัน แต่ว่ามันก็ทำให้หม่อมฉันภูมิใจ ที่ท่านอ๋องหล่อเหล่ามากขนานนี้ มากจนจนหม่อมฉันใจละลาย มอบหัวใจให้ท่านไปจนหมดแล้ว” เหว่ยอ๋องยกนิ้วขึ้นมาเคาะจมูกนาง สตรีนางนี้พูดจาเป็นเรื่องเป็นราว ไม่มีท่าทีกระดากอายเลยสักนิด เขาละจนใจกับความมึนของนาง ก่อนองครักษ์จะตามเข้ามา เหว่ยอ๋องจึงเดินไปนั่งเก้าอี้ข้างเตียง “พวกเจ้าก็หามุมที่จะนอนเอาเองละกัน” “แต่ว่าหากตกดึกอากาศจะหนาวหรือไม่ ฮุ่ยเจียงไปเอาผ้าห่มบนรถม้ามาเพิ่มอีกมีหลายผืน” ว่านชิงอีนึกกังวล เพราะตกดึกอากาศมักจะหนาวเย็น ฮุ่ยเจียงกลับมาพร้อมกับผ้าห่มในอ้อมแขน เหว่ยอ๋องคิ้วกระตุกเมื่อคิดว่า สิ่งที่นางเคยใช้ องครักษ์ของเขาจะได้ใช้ด้วย ไม่ได้เขาไม่มีทางยอม “เอามานี่ ส่วนผ้าห่มที่ทางนี้จัดหาให้พวกเจ้าเอาไป” “ท่านอ๋องแต่ว่าผ้าห่มจะครบคนหร

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่ 25 สายสิญจน์ปราบวิญญาณ

    ชายสี่คนเดินตามอีถงและลู่หลิงที่พาเดินเข้ามาลึกพอสมควร ก่อนที่นางทั้งสองจะหยุดเดิน แล้วหันกลับมาแสยะยิ้มให้พวกเขา จากใบหน้าที่ปกติยามนี้เนาะเฟะมีหนอนชอนไช ดวงตาหลุดออกมานอกเบ้า ชายทั้งสี่ตาเหลือกถลนกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า ก่อนจะพากันร้องลั่นด้วยความหวาดกลัว ก่อนจะพากันวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต พอหยุดพักหายใจ ก็เห็นร่างวิญญาณที่น่าเกลียดน่ากลัวมาอยู่ตรงหน้า พวกเขาหวาดกลัวจนหมดสติ อีถงและลู่หลิงจึงเดินออกไปหากลุ่มที่ยืนรออยู่ “นายท่าน” พวกเขาอีกหกคนหันมาตามเสียง ก็ถึงกับผงะกับใบหน้าที่น่าเกลียดน่ากลัวของนางทั้งสอง พอหันมามองชายที่ยืนอยู่กับเด็ก ยามนี้เขาก็ดึงคอออกจากหัวอย่างช้า แล้วโยนเล่นไปมา ส่วนเด็กน้อยก็ยืดมืออันแสนยาวเหยียดขึ้นไปโหนต้นไม้ แกว่งไกวตนเองไปมา ชายทั้งหกคนหมดสติไปทันทีด้วยความกลัว ก่อนปิงปิงจะรีบไปส่งข่าวกับว่านชิงอี ไม่นานกลุ่มของท่านอ๋องก็มาถึง “พวกเจ้าทำได้ดีมาก” ว่านชิงอีเอ่ยชม มีผู้ช่วยเป็นวิญญาณก็ดีแบบนี้ไม่ต้องเปลืองแรง “อู่ถงจับมัดพวกเขาเอาไว้ ส่งคนไปแจ้งทางการให้มาเอาตัวพวกเขาไป บอกองค์ชายซีห่าวให้ส่งคนมาช่วยข้ามากหน่อย อีกอย่างบอกองค์ชายซีห่าวชายสิบคนนี้ ข้ากลับ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status