ร่างสูงยืนมองภาพเหตุการณ์จากชั้นสอง ภาพของผู้หญิงด้านล่าง เธอปาแก้วใส่หน้าผู้ชายที่ตัวใหญ่กว่าเธออย่างไม่เกรงกลัว
"เพื่อนคิมนิ" เสียงของการ์เนทดังขึ้นในจังหวะที่เดินเข้ามาหยุดยืนข้างเขาแล้วก้มมองไปยังภาพความวุ่นวายด้านล่าง
"เพื่อนนายหญิงน่ะเหรอ" โลกกลมจังนะ
"อือ เพื่อนสนิทด้วย แต่เหมือนว่ากำลังมีเรื่องนะ"
"อือ ยัยนั่นเมาแล้วจะขี้รำคาญน่ะ ไม่ชอบให้คนวุ่นวาย" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่สายตายังมองไปยังด้านล่าง
"พูดแบบนี้...รู้จักดีเลยนิ" สายตาที่มองมาของการ์เนทกำลังจับผิดเขา
"เพื่อนเก่าน่ะ" ทุกอย่างที่เขาพูดก็คือความจริง เธอเป็นเพื่อนเก่าที่ไม่ได้รู้จักกันแล้ว
"เพื่อน" เหมือนจะไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่นะ
"อือ"
"เพื่อน"
"..." ครั้งนี้เขาละสายตาจากเหตุการณ์ด้านล่างหันไปจ้องหน้าผู้ชายที่อยู่ข้าง ๆ แทน
"เพื่อนก็เพื่อน" การ์เนทพูดพร้อมกับอมยิ้ม
"พูดไม่รู้เรื่องหรือไง!!"เสียงแหกปากแข่งกับเสียงดนตรีด้านล่างทำให้ทุกคนต่างหันไปสนใจ
เคทถูกล็อกแขนทั้งสองข้างไว้ด้วยการ์ด2คน และอีกคนก็กำลังดูแลผู้ชายที่ถูกเธอปากแก้วใส่ เขาเท้าแขนไปกับราวเหล็กและจ้องมองไปยังภาพด้านล่าง ความห้าวหาญของเธอมันมีมากกว่านี้นิ ภาพลักษณ์หญิงสาวอ่อนโยนที่สื่อเขียนอะไรพวกนั้น ไม่ว่าจะอ่านกี่ครั้งก็ทำให้เขาขนลุกเสมอ จะหลุดไปจากเหตุการณ์ตรงหน้าได้ด้วยวิธีไหนอีกดีล่ะ
"ไม่ให้คนไปช่วยเพื่อนหน่อยเหรอ" การ์เนทหันมาถามเขา
"ไม่" ช่วยเหรองั้นเหรอ ปล่อยเธอไว้แบบนั้นแหละ
"ใจร้ายกับเพื่อนจังนะ" การ์เนทยังไม่เลิกพูดมาก เราทั้งคู่ไปยังภาพเหตุการณ์ด้านล่างด้วยความสนใจ
"ที่นี่มีคนแบบนี้เข้ามาได้ด้วยเหรอ!" ผู้ชายที่หัวแตกยังไม่เลิกพูดมาก
"คนแบบนี้มันแบบไหนฮะ!" แม้จะตัวเล็กนิดเดียว แต่ความกล้าในตัวไม่เคยลงเลยเมื่อเมา
"แบบเธอไง! ยัยบ้า เอามันออกไปไกล ๆ !"
"เป็นใครกล้ามาสั่ง!"
"เธอไม่รู้จักฉันเหรอ พ่อฉันน่ะ!"
"ช่างพ่อนายสิ! ฉันถามว่านายน่ะเป็นใคร ไม่ได้ถามหาพ่อ!" เขายังพูดไม่ทันจบ เธอก็ปิดประโยคของคนตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัวทันที
"ใช้ได้เลยนิ เพื่อนกันไม่ได้ต่างกันเลย" เสียงของการ์เนทพึมพำและมองภาพด้านล่างอย่างไม่ละสายตา
"..."
"ไม่ช่วยเพื่อนจริง ๆ เหรอ" การ์เนทเน้นย้ำคำว่าเพื่อน
"เมื่อไหร่จะหยุดพูด" ตั้งแต่มีเมียเดี๋ยวนี้พูดมากขึ้นเยอะเลย
"ไม่ต้องมาด่าทางสายตาหรอก" การ์เนทอ่านสายตาเขาออกเพียงแค่มองด้วยหางตาเท่านั้น ถึงจะรู้แบบนั้นแต่ก็ยังไม่หยุดพูดมาก
"เล่นขวดแล้ว" คำพูดของการ์เนททำให้เขาหันไปมองที่เคททันที
ผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่งที่สลัดแขนหลุดออกจากการเกาะกุม คว้าขวดเหล้าราคาแพงง้างขึ้นเหนือหัว ผู้ชายที่เธอพึ่งเอาแก้วปาหน้า นั่งลงกับพื้นและเอาปัดป้องด้วยความกลัว
ซ่า!!
แต่แทนที่ขวดเหล้าจะถูกปาใส่เขา เธอลดมือลงและเปิดขวดเหล้าออกพร้อมกับเทราดหัวเขาช้า ๆ ทุกคนยืนมองด้วยความตกใจ การ์ดจำนวนหนึ่งกำลังจะเข้ามาถึงตัวเธอ ก็ถูกกลุ่มผู้ชายเข้าแทรกตัวกันให้ถอยห่างจากเคท
"หึ! แล้วไหนบอกว่าไม่ช่วย" การ์เนทพูดพร้อมกับหัวเราะในลำคอเบา ๆ
"พวกนั้นรู้จักเธอ ก็เข้าไปเพราะเห็นว่าเป็นใครต่างหาก"
"อ๋อ แบบนี้นี่เอง" พูดให้ตายยังไงการ์เนทก็ดูจะไม่เชื่ออะไรเขาสักอย่าง เขาไม่สนใจคำพูดของการ์เนท แต่สนใจกับบุคคลที่อยู่ด้านล่างมากกว่า ถ้าเขาไม่ได้อยู่วันนี้ เธอจะทำไรโดยที่ไม่สนใจความปลอดภัยของตัวเองแบบนี้ตลอดเลยหรือไง
"ใครอีกเนี่ย!!" เคทโวยวายและกวาดสายตามองไปยังกลุ่มคนตรงหน้าที่เข้ามาขัดจังหวะเธอ
"เอาตัวเขาออกไป" ผู้ชายที่ยืนตรงหน้าเธอหันไปสั่งคนของตัวเอง แล้วลากตัวผู้ชายที่เลือดอาบหน้าออกไปจากตรงนั้น
"ฉันถามว่านายเป็นใคร" เธอถามย้ำอีกครั้ง
"สวัสดีครับคุณเคท ตอนนี้คุณเมามากแล้ว" เขาพูดพร้อมกับหันหลังกลับมาหาเธอ
"ใคร" เธอพยายามเพ่งสายตามองใบหน้าของเขา แต่เธอก็นึกไม่ออกว่าเป็นใคร จนสายตาไปสะดุดเข้ากับเข็มกลัดเล็ก ๆ ที่ติดซ่อนอยู่ใต้ปกเสื้อ
พึบ!
เธอเอื้อมมือไปเพื่อจะจับปกเสื้อเขามองให้เห็นชัด ๆ แต่เขาก็ก้าวถอยหลังหนีจนเคทต้องเอื้อมมือไปจับแขนเขาเอาไว้ไม่ให้หนี
"เอ่อ ปล่อยมือ...เถอะครับ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ และเหลือบมองไปยังด้านบน
แต่เธอก็ไม่สนใจ ยังเดินเข้าไปใกล้จนสายตาจดจ่ออยู่ที่เข็มกลัดสีเงินอันเล็กที่ซ่อนอยู่ใต้ปกเสื้อ สัญญาลักษณ์ดาบ 2 เล่มไขว้กัน ตรงกลางเป็นมงกุฎ ทำให้เธอรู้ทันทีว่าเป็นคนของใคร
พึ่บ!
"คะ คุณเคทจะไปไหนครับ!"
เธอเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าของตัวเองมาเปิดออกแล้ววางเงินจำนวนหนึ่งไว้บนเคาน์เตอร์ พร้อมนามบัตรของตัวเองและรีบเดินออกจากคลับไปทันที ไม่สนใจเสียงเรียกที่ตะโกนตามหลัง ร่างบางเดินตรงไปที่รถของตัวเอง แม้ในหัวจะเริ่มมีอาการมึนไม่น้อย แต่เธอจะปล่อยให้ตัวเองอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้
ปึง!
ร่างบางทิ้งตัวเข้านั่งในรถตัวเองและฟุบหน้าลงบนพวงมาลัยรถ แม้จะอยากขับรถหนีไปจากที่นี่ให้ไกล แต่อาการไม่ดีนักของตัวเองตอนนี้ก็อาจจะทำให้คนอื่นเดือดร้อนบนถนนไปด้วย
"ทำไม...ช่วงนี้เจอบ่อยจัง"
เสียงเล็กพึมพำกับตัวเอง พร้อมกับเปลือกตาค่อย ๆ ปิดลง ขอพักสายตาสักสิบนาทีแล้วค่อยขับกลับก็ได้ เขาไม่ได้จอดรถปะปนกับพวกเราหรอก ยังไงก็ไม่เจอกันแล้วแหละ
30 นาทีต่อมา
"อื้อ~"
เสียงเล็กส่งเสียงในลำคอและบิดตัวไปมา แขนของเธอชูขึ้นเหนือหัว จนกำปั้นเล็กเกือบโดนหน้าของคนที่นั่งอยู่
ตุบ!
"กรี๊ด!"
เพราะบิดตัวมากเกินไปหน่อย ในพื้นที่จำกัดของเบาะรถทำให้เธอกลิ้งร่วงลงอยู่ที่พื้น แต่มือเล็กก็ยังคว้าจับข้อมือของใครบางคนไว้ได้ทัน
"ขะ ขอโทษค่ะ" เธอยันตัวลุกขึ้นกลับมานั่งบนเบาะอย่างเดิมและหันไปขอโทษเขาโดยที่ไม่เงยหน้ามอง
"..." ไม่มีเสียงตอบรับ
"..." เธอยังก้มหน้าไม่เลิก ไม่มีตอบรับด้วยคงไม่พอใจล่ะสิ แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจนิ
"เฮ้อ~" เธอถอนหายใจออกมาและจับข้อมือตัวเองมาพลิกดู กลิ้งลงไปเมื่อกี้ทำให้เจ็บที่ข้อมือไม่น้อย
แต่อยู่ ๆ เธอก็นึกอะไรขึ้นมาได้ ภาพลำดับเหตุการณ์เริ่มเรียงเข้ามาในหัว ภาพที่ฟุบหน้าอยู่บนพวงมาลัยรถตัวเอง ใช่ฉันอยู่ที่รถของตัวเองไม่ใช่หรือไง เธอจำได้ว่าเธอพักสายตาที่รถของตัวเองนิ แล้วนี่รถใคร เมื่อเรียบเรียงเหตุการณ์ทุกอย่างเรียบร้อยเธอก็เงยหน้ามองบุคคลที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ทันที ซึ่งเขาหันมองมาทางเธอเช่นกัน
"ฮา อุ๊บ!" เธอเกือบเผลอเรียกชื่อเขาออกไป คนตัวสูงเลิกคิ้วมองผู้หญิงที่นั่งเอามือปิดปากตัวเองอยู่ข้างเขา
"..." แต่ไหนแต่ไร ไม่ว่าจะยังไงเคทก็ไม่เคยหลุดเรียกชื่อเขาเลย
"ฉัน..." เคทหันมามองเขาและกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก่อนที่จะหยุดมองอยู่ที่ตัวเขาอีกครั้ง กระดุมเสื้อส่วนบนถูกกระชากออก เผยให้เห็นแผงอกกว้าง รอยลิปสติกตามตัวเขาที่ยังหลงเหลืออยู่หลายจุด ต้นคอและกระดูกไหปลาร้ามีรอยสีแดงช้ำเลือดเกิดขึ้น
"..." เขารู้ว่าเธอกำลังเรียบเรียงทุกอย่างในหัวตัวเองอย่างช้า ๆ สายตาที่มองไปตามร่างกายของเขาในตอนนี้คงกำลังบอกตัวเองล่ะสิว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนทำ
"อึก" เธอกลืนน้ำลายลงคอและถอยห่างจากเขาจนหลังชิดกับประตู ภาพสะท้อนในฉากกั้นระหว่างเบาะหน้าและหลังสีดำทำให้เธอเห็นสภาพของตัวเองได้ชัดเจน
ลิปสติกเลอะมุมปาก ผมหยักศกของตัวเองดูยุ่งเหยิงเหมือนไปรบกับอะไรมา แล้วยังสภาพของผู้ชายตรงหน้าอีก ฉันไม่ได้ทำอะไรลงไป ฉันไม่ได้ไปโดนตัวเขา คำพูดพยายามปลอบใจตัวเองครั้งที่ร้อยดังวนอยู่ในหัว แต่ก็ต้องดับลงเพราะคำพูดของเขาเพียงประโยคเดียว
"ทั้งหมด...เธอเป็นคนทำ" ไม่จริง! ฉันไม่ได้เมาขนาดว่าไม่รู้ตัวเองแบบนั้น ฉันแค่พักสายตาแล้วมาอยู่ในนี้ได้ไง!
ย้อนกลับไป 30 นาที
"รถคุณเคทยังไม่ออกจากคลับเลยครับ"
เขามองไปยังภายนอกรถ ตั้งแต่ที่เธอเดินออกจากคลับรถก็ยังไม่ออกไปจากที่นี่งั้นเหรอ ตายแล้วมั้งยัยนั่น
"ไปดูที่ลาดจอดรถ"
"ครับ"
สิ้นเสียงคำสั่ง รถของเขาก็ขับออกในพื้นที่จอดรถVVIP แล้วไปยังที่จอดรถของร้านอีกฝั่งทันที จนในที่สุดสายตาก็สะดุดเข้ากับรถคุ้นตาที่จอดอยู่
"เจอแล้วครับ"
รถของเขาขับไปจอดเทียบข้าง รถที่จอดติดเครื่องอยู่ หลังพวงมาลัยเห็นเพียงแค่หัวเล็ก ๆ ฟุบอยู่ หลับคาพวงมาลัยเนี่ยนะ
"ให้ทำยังไงต่อดีครับ" คนของเขาเดินเข้ามาข้างรถและก้มถาม
"พาเธอกลับไปแล้วกัน"
"ได้ครับ" คนของเขาเดินไปเปิดประตูคนขับออกอย่างง่ายดาย หลับแล้วประตูไม่ล็อกอีกไม่เคยระวังตัวสักเรื่องเลยหรือไง
เขามองภาพของหญิงที่ถูกอุ้มออกจากรถได้อย่าง่ายดาย มือหนาที่สอดใต้ขาเรียวทำให้รู้ขัดตาไม่น้อย ประตูเบาะหลังรถของเธอถูกเปิดออก ก่อนที่ร่างบางจะถูกวางลงไว้ที่หลังรถ เขาก็เลื่อนกระจกรถลงและพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ก็สร้างความตกใจให้กับทุกคนไม่น้อย
"เอาตัวเธอมาไว้กับฉัน"
"ครับ" พวกเขาหันมองหน้ากันอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
"ต้องให้พูดอีกครั้งเหรอ"
"ครับ ครับ"
พวกเขารีบลนลานอุ้มเธออ้อมไปอีกฝั่ง ประตูรถถูกเปิดออกก่อนที่เคทจะถูกอุ้มเข้ามาวางในอย่างยากลำบาก เพราะพวกเขาวางตัวเธอให้ห่างจากเจ้านายของตัวเอง
"ขยับเธอเข้ามาอีก"
"ครับ" เขาขยับตัวเธอวางจนหัวชิดกับต้นขาของเจ้านายตัวเอง ใบหน้าโน้มเข้าใกล้เพราะต้องก้มตัวเข้าภายในรถที่คับแคบ
พึ่บ!
"ใกล้ไป"
มือของผู้ชายที่นั่งอยู่ สอดเข้ามากั้นระหว่างใบหน้าของเขาและเธอ ด้วยความตกใจเขาจึงปล่อยมือจากตัวเธอและถอยหลังออกมายืนก้มหน้ามองพื้น น้ำเสียงที่กำลังหงุดหงิดและเย็นยะเยือกทำให้เขารู้สึกกลัวขึ้นมาทันที เมื่อกี้เขาทำอะไรผิดไปหรือเปล่า
ครืด! ฉากกั้นถูกเลื่อนขึ้นอย่างช้า ๆ พร้อมกับรถที่เคลื่อนออก ตอนนี้เขาให้ความสนใจกับผู้หญิงที่นอนอยู่ เธอเริ่มขยับตัวแล้วพาตัวเองมานอนหนุนตักเอาไว้ มือเล็กควานสะเปะสะปะไปทั่ว
"อยู่นิ่ง ๆ" เขาต้องจับมือของเธอเอาไว้ไม่อย่างนั้นก็คงจับอะไรต่อมิอะไรไปหมด
"อื้อ!" เคทพยายามดึงมือตัวเองออก แต่เพราะถูกเขาจับไว้ทำให้เธอส่งเสียงหงุดหงิด
"..." เขาก้มมองคนตัวเล็กที่นอนหนุนตัก เป็นจังหวะเดียวกันที่ดวงตากลมโตลืมขึ้นจ้องหน้าเขา
เคทเอื้อมมือขึ้นแตะสัมผัสเส้นผมสีน้ำตาลบลอนด์สวย ก่อนจะลากมือเลื่อนลงแตะข้างแก้มเขา ปลายนิ้วลากเลื่อนลงมาแตะริมฝีปากสีแดงสด ทุกอย่างภายในรถอยู่ในความเงียบ
"เหมือนคนคนหนึ่งที่ฉันรู้จักเลย"
"..." เหมือนเหรอ ทำไมเป็นได้แค่เหมือน
"ปากสวยจัง" เธอใช้นิ้วโป้งแตะริมฝีปากของเขาแล้วลูบมันไปมา
"สวยก็จูบสิ"
"..." เธอนิ่งไปสักพักแล้วลดมือของตัวเองลง พร้อมกับสอดมือกอดตัวเองไว้แน่น
"ทำไมล่ะ ไม่อยากสัมผัสเหรอ" เขาถามเธอพร้อมกับโน้มหน้าลงเข้าใกล้
"ไม่เอาอะ ฉันจะนอน" พูดจบเธอก็หลับตาลงทันที
อะไรของยัยนี่ ไม่คิดจะเปิดโอกาสให้ใครเขาเลยหรือไง เขาวางข้อศอกยันไว้กับประตูรถและใช้มือยันหัวเองไว้ เอียงคอมองไปยังคนตัวเล็กที่นอนหลับไม่สนใจสถานการณ์ตรงหน้า เขารู้ว่าเธอพยายามหนี หนึ่งสิ่งที่เธอกำลังจะหนีไม่พ้นได้เริ่มขึ้นแล้ว และถ้าเพิ่มเข้าไปอีกเรื่องล่ะ เมื่อนึกอะไรสนุก ๆ ขึ้นมาได้ เขาก็ใช้นิ้วตัวเองปาดไปที่ลิปสติกบนริมฝีปากของเธอแล้วเอามาแต้มลงมุมปากของตัวเอง
มือหนาปลดกระดุมเสื้อตัวเองออก นิ้วมือบีบไปตามลำคอให้เกิดรอยช้ำเลือด เพราะผิวของเขาขาวทำให้เกิดรอยขึ้นได้ไม่ยาก มืออีกข้างก็ยีผมหยักศกของคนตัวเล็กให้ยุ่งเหยิงอย่างเบามือ ร่างสูงโน้มตัวเข้าใกล้และทาบทับริมฝีปากจูบลงข้างแก้ม เสียงทุ้มกระซิบพูดข้างหู โดยที่ไม่สนว่าเธอจะเมาหลับจริงหรือเปล่า
"หมดเวลาหนีของเธอแล้ว"
ณ สุสานประจำเมืองดอกบลูบอนเน็ทพลิ้วไหวตามแรงลม ดอกไม้แห่งความเศร้า การบอกลา ความเสียใจปนเหงา ความหมายของมันยังลึกซึ้งมากกว่านั้น 'แม้จะเจ็บปวด แต่จะขอจดจำเอาไว้ไม่ลืมเลือน' แม้ความหมายของมันจะเศร้าโศก แต่ความงามของดอกไม้กับชโลมใจของผู้มาเยือนได้อย่างน่าตกตะลึงกระถางดอกฮิกันบานะหรือพลับพลึงสีแดง ถูกวางลงข้างป้ายหินขนาดใหญ่ ชื่อบนป้ายสลักเคียงคู่กันสองชื่อ ฉันใช้มือลูบปัดเศษดินที่ปลิวมาเปื้อนออกและจ้องมองชื่อตรงหน้า ก่อนจะส่งยิ้มให้กับป้ายหลุมฝังศพของพ่อและแม่"ที่นี่อากาศดีไม่เปลี่ยนเลยนะคะว่ามั้ย" ปกติจะมาที่นี่คนเดียวลำพัง แต่ต่อจากนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป เพราะฉันจะมีฮาเซลมาด้วยทุกครั้ง"..." ฮาเซลยืนรอเงียบ ๆ"อาทิตย์หน้าเคทจะแต่งงานแล้วนะคะ" พูดออกไปแม้ว่าจะไม่มีเสียงตอบกลับมาก็ตาม แต่ฉันก็อยากให้ทั้งคู่ได้รับรู้"..." รอบตัวเงียบสงบมีเพียงเสียงของฉันเท่านั้นที่พูดอยู่คนเดียว"ขอบคุณสิ่งที่พ่อบอกวันนั้นนะคะ...ตอนนี้เคททำตามแล้วนะ" ฉันใช้มือลูบไปตรงชื่อของพ่อและเปลี่ยนมาเป็นชื่อของแม่"อวยพรให้เคทกับฮาเซลด้วยนะคะแม่" แม้จะไม่มีคำตอบกลับมา แต่ฉันก็เชื่อว่าทั้งคู่ต้องอวยพรเราทั้งสอง
(มาร์ชิน)(หลังจากที่โทมัสให้ของขวัญกับเคท)คอนโดใจกลางเมืองติ้ง!ตึก ตึก ตึก !เสียงฝีเท้าดังไปตามทางเดินตรงยังห้องพักของตัวเอง ร่างสูงกำกุญแจรถในมือแน่น ตอนนี้เขาคิดอยู่อย่างเดียวคือต้องออกไปเมืองนี้ให้เร็วที่สุดแม้ในใจจะอยากย้อนเวลากลับไปแก้ไขสิ่งที่ตัวเองทำผิดพลาด แต่เงินจำนวนมหาศาลที่ไม่ว่ายังไงชาตินี้ก็ไม่มีทางหาได้ทำให้เขายอมร่วมมือกับเกรซี่ ผู้หญิงที่เข้ามาเป็นเจ้านายคนใหม่ของเขาติ้ด ติ้ด ติ้ด!เสียงโทรศัพท์ส่วนตัวดังขึ้น ทำให้เขาสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ มือไม้สั่นล้วงหยิบโทรศัพท์ขึ้นดูชื่อของคนโทรเข้า ก่อนจะกดรับสาย"ครับ ครับ คุณเกรซี่" ขายาวยังคงก้าวเดินไปยังห้องของตัวเองที่อยู่สุดทางเดิน(ยัยนั่นรับไหม) เสียงในสายถามกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย"รับครับ เธอรับไปแล้ว"(ดีมาก แล้วก็รีบไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ)"ครับ ผมกำลังรีบไป" เขาหยุดยืดหน้าห้องและควานหาคีย์การ์ดเพื่อเปิดประตู(นี่โทมัส...) เสียงเรียกชื่อเขาจากคนในสาย ทำให้ต้องหยุดทุกการกระทำและตั้งใจฟังในสิ่งที่เธอกำลังจะพูด"...ครับ"(...โชคดีนะ ติ้ด!) พูดจบปลายสายก็ตัดไปทันทีตอนนี้เขาไม่มีเวลามาสนใจคำอวยพรของเธอแล้ว เพราะทุ
ย้อนกลับไปตอนเคทกำลังคุยโทรศัพท์"คิมฉันอยู่ร้านXXX คอลเลคชั่นใหม่ออกมาแล้ว"(มาจริง ๆ ด้วยสินะ มาเยอะไหม) เสียงทุ้มต่ำของฮาเซลดังผ่านโทรศัพท์ที่แนบหู"ใช่มีเยอะเลยคิม" ปากเรียกชื่อคิม แต่คนในสายไม่ใช่คิมนี่ทำเอาฉันจะหลุดปากเหมือนกันเนี่ย(นับให้หน่อยสิว่าต้องใช้กี่คน)"ได้สิ อืม~ แบบใหม่เยอะมากเลยนะเนี่ย" ฉันหันมองไปรอบร้าน สายตาก็นับจำนวนคนที่ยืนล้อมฉันอยู่(...) ปลายสายก็รออย่างตั้งใจ"ถ้าแกจะเอาหมดเลยก็ได้นะ ทั้งหมดสิบสี่แบบ" พูดจบฉันก็หันหลังให้พวกคนที่ยืนอยู่และทำเป็นเลือกชุดชั้นในต่อเดินตามกันแบบไม่เกรงใจเลยนะคนพวกนี้ ยัยเกรซี่ส่งมาแต่ละคนภายนอกก็น่ากลัวอยู่หรอก แต่ไม่เนียนเอาซะเลย(กำลังให้คนไปรอรับนะ จะมาทางไหน)"ชอปXXXไง ที่อยู่ใกล้ประตูG...ใช่ ออกคอลเลคชั่นใหม่ก่อนที่อื่นอีกนะ"(หึ! เก่งมาก เดี๋ยวจะให้รางวัลเมียคนเก่งนะครับ) คำพูดของเขาทำเอาฉันเกือบหลุดยิ้ม มันใช่เวลาไหมเนี่ย"โอเค ๆ ฉันเอาหมดเลยแล้วกันนะ"(ถ้าพ้นประตูแล้วหลับตาและปิดหูเลยนะครับ) เมื่อเขาพูดจบก็วางสายทันที แล้วเรียกพนักงานของร้านให้เข้ามาหา เพื่อสั่งให้จัดเตรียมของตามที่ต้องการ เมื่อได้ของตามที่ต้องการแล้
ณ พระราชวังประจำราชวงศ์"อีกไม่กี่วันปู่ก็ออกจากตำแหน่งแล้วใช่ไหม""ใช่" ปู่ส่งยิ้มให้ในระหว่างที่กำลังเก็บของจากลิ้นชักโต๊ะทำงาน อีกไม่กี่วันจะมีประกาศเรื่องของเลขาธิการคนใหม่อย่างเป็นทางการ ซึ่งเท่ากับว่าปู่จะได้พักผ่อนตามความต้องการอย่างแท้จริง"แล้วปู่จะกลับไปอยู่ที่บ้านหรือจะอยู่กับเคท" ฉันเดินเข้าไปกอดท่านจากด้านหลังและซบหน้าลงบนไหล่"ใครเขาจะอยู่บ้านกัน ช่วงชีวิตต่อจากนี้แหละปู่จะไปเที่ยว""ต้องแบบนี้!" ฉันไม่เคยขัดขว้างหรือไม่เห็นด้วยกับชีวิตหลังวัยเกษียณของคุณปู่ ตลอดที่ผ่านมาท่านดูแลฉันเป็นอย่างดีไม่เคยขาดตกบกพร่อง ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ปู่จะได้ทำตามใจตัวเองสักที"แล้ว...เรื่องที่แม่ของเกรซี่พูด" เมื่อนึกขึ้นได้ปู่ก็หันกลับมาถามด้วยสายตาของความเป็นห่วง"เคทรู้และเข้าใจทุกอย่างแล้วค่ะ""ปู่ขอโทษ..." ปู่จับแขนฉันที่โอบกอดท่านเอาไว้"ปู่ไม่ต้องขอโทษนะ ปู่ทำถูกแล้วไม่ว่าปู่จะทำอะไรเคทเชื่อว่าปู่ทำทุกอย่างเพื่อเคท""ไม่โกรธแม่เขานะลูก" เรื่องที่เกิดขึ้นฉันรู้ว่าไม่มีใครไม่เสียใจ ยิ่งเป็นปู่ท่านต้องเข้มแข็งต่อหน้าฉันมาตลอด"เคทไม่โกรธค่ะแล้วก็ควีนไม่เคยโกรธแม่เหมือนกัน""..." เมื่อฉัน
ณ เพนท์เฮ้าส์ชั้นบนสุด"น่าจะประมาณสองปีที่พ่อใช้เวลาทั้งหมดง้อแม่" ฮาเซลกำลังเล่าถึงเรื่องราวต่อจากนั้นให้ฉันได้ฟัง ในระหว่างที่เรากำลังทานอาหารเช้า"เวลาโกรธจริงก็น่ากลัวเหมือนกันนะ""ก็ ทำให้พ่อหยุดและกลัวแม่ได้เลย" ถ้าเป็นฉันจะอดทนเพื่อรักได้เท่าเธอหรือเปล่านะ"ต้องเข้มแข็งขนาดไหนถึงอยู่จุดนั้นได้""แม่เป็นผู้หญิงที่ใจดีมากนะ แม้ว่าพ่อจะรู้สึกตัวช้าไปหน่อยก็เถอะ""อะไรกันนี่ลูกชายกำลังบ่นพ่อตัวเองเหรอเนี่ย" ฉันพยายามกลั้นขำเพราะฮาเซลไม่ได้เข้าข้างพ่อเลยสักนิด แม้จะทะเลาะหรือดื้อกับควีนแต่เขาก็อยู่ข้างแม่มาตลอด"ที่พูดมาเรื่องจริงทั้งนั้น" แม้แต่ฮาเซลยังกลั้นขำ เมื่อนินทาถึงพ่อของเขา"แล้ว...ควีนไม่โกรธจริง ๆ ใช่ไหม" คำถามของฉันทำให้มือที่กำลังยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มหยุดชะงัก เขาวางแก้วกาแฟลงบนจานรอง แล้วเท้าคางจ้องมองมาที่ฉัน"ที่ผ่านมาแม่ไม่ได้เสียใจน้อยไปกว่าใคร แล้วอีกอย่างตอนนี้น่ะเหรอ อะไร ๆ ก็เคท""หมายความว่าไง""ก็อย่างเช่นเมื่อวานที่โทรมาก็ถามหาแต่เคท เคทกลับมายัง ทำไมไม่พาเคทไปดินเนอร์บ้างและอีกมากมาย""งั้นเหรอ" ฉันอมยิ้มให้กับสิ่งที่ฮาเซลพูด"แม่คงยังไม่รู้สินะ ว่าแม่สาวนัก
สุดท้ายช่วงเวลาแห่งความสุขและความหวังของเขากับเคทก็หยุดลง เวลาแห่งความฝันและความรักหยุดชะงักเพียงเพราะการกระทำที่บิดเบี้ยวของบางความสัมพันธ์ตุบ!"ฉันคงไม่ต้องถามว่าคือนี่อะไร แต่ฉันจะถามว่าทำแบบนี้ทำไม!" รูปถ่ายจำนวนหนึ่งถูกปาลงบนพื้นกระจัดกระจายต่อหน้าชายผู้เป็นสามีและเพื่อนสาวคนสนิทเพียงคนเดียวของเจ้าหญิงมาเรีย เสียงพูดคุยดังเล็ดลอดออกจากห้อง ลูกชายทั้งสองคนของพวกเขายืนแอบฟังหน้าห้อง"..." ทั้งห้องเข้าสู่ความเงียบ มีเพียงเสียงแม่ของเขาเท่านั้นที่พูดอยู่ฝ่ายเดียว"เป็นใครก็ได้ฉันไม่เคยสนใจ! ทำได้ยังไง เห็นฉันเป็นอะไร!""...""พระองค์ก็รู้ว่าฉันอยู่เพราะอะไร เพราะรักใข่ไหม...รู้อยู่แล้วเลยทำลายความรักของฉัน ฮึก! กี่ครั้งไม่เคยว่า แต่ครั้งนี้...ฮึก! ฉันไม่ไหวจริง ๆ" เสียงสะอื้นของแม่ทำให้ฮาเซลรู้สึกโกรธขึ้นมาทีละนิด"มาเรีย" เสียงของผู้ชายเพียงคนเดียวที่อยู่ในห้องเรียกภรรยาตัวเองด้วยเสียงแผ่วเบา"อย่าเข้ามา!" เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเสียงของแม่ตัวเองเจ็บปวดได้ขนาดนี้"ออกไปก่อนโมอา" พ่อต้องเป็นฝ่ายบอกให้แม่ของเคทออกจากห้องนี้ไป เพราะดูเหมือนว่าแม่จะไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา"...ค่ะ"