ณ คฤหาสน์ ศิลาแดง ของ อศิร ศิลาหัตร์ทัย หรือที่ทุกคนรู้จักเขาในนามเสี่ยโอมพร้อมภรรยา อดีตนางแบบคนสวยครีมหอม นับเวลานี้ผ่านมาสามสิบกว่าปีเห็นจะได้ แต่ทุกสิ่งอย่างภายในบ้านยังคงเหมือนเดิม เรือนรับรองก็ยังคงตั้งตระหง่านอยู่มุมเดิมของบ้าน ต่างก็แต่ตัวคฤหาสน์ที่ถูกต่อเติมออกไปอีกเพื่อรองรับสี่หน่อของทั้งคู่ ในเวลาเดียวกันนั้นชั้นบนสุดของคฤหาสน์ที่ติดกับมุมสวน ดูกำลังมีเรื่องให้วุ่นวายเฉกเช่นทุกวันเนื่องจากที่ตรงนั้นเป็นห้องทำงานของลูกชายคนโตจอมเอาแต่ใจและหัวร้อนของพวกเขา…
“ ถ้ามันว้อนมาก ก็จัดการส่งมันไปพบยมบาลซะ!” เสียงเข้มและเยือกเย็น สั่งเสียงดังก้อง พร้อมเอกสารในมือฟาดลงบนโต๊ะอย่างหัวเสีย “ รับทราบครับบอส!” เอลิก ผู้ช่วยของ เจ้าไฟ อนาลา ศิลาหัตร์ทัย รับคำสั่งจากหัวหน้าของเขาซึ่งกำลังนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานตรงหน้า หลังจากนั้นเอลิกก็เดินออกไปจัดการตามที่ได้รับคำสั่งทันที “นายน้อยไฟคะ!” “หยุด! จะเข้าไปทำไม!” แม่บ้านชื่อแต๋วร้องตะโกนและกำลังจะวิ่งสวนกับเอลิกเข้าไปในห้องทำงานของอนาลา แต่กลับถูกการ์ดหน้าประตูขวางเอาไว้ “โอ้ย! ถ้าฉันบอกว่า นายหญิงครีมหอมให้มาเรียกนายน้อยไฟไปพบเดี๋ยวนี้! จะให้เข้าไหมหะ!” แต๋วยืนเท้าเอวใส่การ์ดอย่างไม่เกรงกลัว “เออ เธอกลับไปก่อน เดี๋ยวฉันจะแจ้งบอสเอง” “อย่าลืมบอกนายน้อยด้วยน่ะ ว่าเรื่องด่วน!” พอแต๋วเดินหนีไป การ์ดคนดังกล่าวก็จะเดินเข้าไปรายงานตามที่ได้ยิน “บอสครับ” “ไม่ต้อง” เมื่อการ์ดกำลังจะเอ่ยปาก อนาลาหรือเจ้าไฟที่ได้ยินทุกอย่างแล้วเขาก็ลุกขึ้นขัด พลางเตรียมเดินออกไป เผยให้เห็นว่าเขาเป็นชายหนุ่มร่างสูงสง่า ไหล่กว้างและทรงพลัง เขาเป็นคนที่ดูสุขุมและเคร่งขรึมอยู่เสมอ คิ้วหนาเข้มที่เรียงตัวอย่างสมบูรณ์แบบช่วยขับเน้นดวงตาคมกริบที่มักมองด้วยสายตาแน่วแน่เหมือนสามารถอ่านใจคนได้ ผิวขาวเนียนของเขาชวนให้นึกถึงความบริสุทธิ์ที่ตัดกับบุคลิกอันหนักแน่นและลึกลับ เขาสวมชุดสูทสีแดงเลือดทับกับเสื้อเชิ้ตสีดำ ชุดนั้นกระชับพอดีตัว เผยให้เห็นความแข็งแกร่งของรูปร่าง ราวกับนักล่าผู้ทรงอำนาจในเงามืด เขาเดินอย่างทะมัดทะแมง ออกไปพบผู้เป็นแม่ที่เรียกหา “อ้าว! พี่ไฟมานั่นพอดีเลยครับแม่!” อนาคิน น้องชายของอนาลา ชายหนุ่มเจ้าชู้ขี้เล่นที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ร่างกายของเขาสมส่วนกำยำไม่แพ้พี่ชาย แต่ผิวกลับออกไปเข้มอย่างนักกีฬาดูน่าดึงดูดใจ ดวงตาซุกซน และรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขาเผยถึงความมั่นใจเต็มเปี่ยมตอนที่เรียกชื่อพี่ชายเสียงดัง “แม่เรียกผมทำไมครับ?” เจ้าไฟเอ่ยเมื่อเดินมาจนถึงทั้งสอง “นั่งก่อนสิ” เขาจึงนั่งลงข้างๆ หญิงวัยกลางคน ผู้มีรูปร่างสง่างามสมกับอดีตนางแบบชื่อดัง แต่ชายหนุ่มกลับดูออกว่าใบหน้าของแม่นั้นดูไม่ค่อยสดใสนัก “แม่ได้ยินมาจากพ่อว่าไฟจะไปอเมริกาจริงหรือเปล่า?” ครีมหอมคุณหญิงแม่คนสวยของทั้งสองหนุ่ม ถามด้วยความกังวลใจ คนฟังอย่างเขาก็เผยยิ้มจางที่มุมปาก “ครับ ตอนที่ไปเรียนต่อ ผมได้ซื้อเกาะไว้ ตั้งใจว่าจะทำรีสอร์ท” ครีมหอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยินที่ลูกบอก ในขณะเดียวกันเจ้าไฟเองก็อมยิ้มบางๆ เพราะรีสอร์ทที่เขาบอกมานั้น ก่อสร้างใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่เขาแค่ยังไม่ได้บอกครอบครัว “แน่ใจนะ ว่าจะไปทำรีสอร์ท? ไม่ใช่ไปทำอะไรที่ไม่ดีลับหลังแม่กับพ่อหรอกใช่ไหม!” เจ้าไฟชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อได้ยินคำพูดของแม่ ก่อนจะรีบแก้ตัวทันที “บ้าน่าแม่! ผมจะไปทำรีสอร์ทจริงๆ ครับ!” ครีมหอมสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดพลางมองต่ำอย่างไม่เชื่อ “แม่จะเชื่อก็ได้ แต่จะไปยังไง เอาใครไปด้วยหรือเปล่า?” ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก ก่อนจะอธิบายแผนการของตน “ก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอกครับ จะเอาคนไปมากมายทำไม เพราะคนงาน ผมก็เตรียมหาไว้ที่นั่นแล้ว คนที่จะไปด้วยจากที่นี่ก็มีแค่เอลิกกับนีวาย” ครีมหอมขมวดคิ้วทันที “นีวาย? แล้วเขาจะไปกับลูกจริงเหรอ?” เธอถามอย่างไม่เชื่อ แม้จะรู้ว่าทั้งสองสนิทกัน “ครับ แต่แม่ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจ้างนีวายไป ไม่ได้ให้มันไปทำให้ฟรีๆ มันเป็นสถาปนิกที่เก่ง แม่ก็รู้” “คิดแบบนั้นก็ดี แล้วจะเริ่มไปกันเมื่อไหร่?” “เดือนหน้านี่แหละครับ ขอผมเคลียร์งานทางนี้ก่อน ถ้าปล่อยให้คีรินดูแลต่อเลย ผมกลัวว่าน้องจะไม่ไหว เพราะมันคงไม่ได้มีแค่เรื่องงานที่คีรินต้องรับผิดชอบแทนผม” เขาพูดพลางกัดฟันเหมือนคิดแค้นถึงใครในใจ “แม่ขอเถอะ จะทำอะไรก็ให้คิดหน้าคิดหลัง เพราะชีวิตคนมีค่า ไม่ใช่ว่าลูกจะทำอะไรก็ได้ ลูกไม่ใช่พระเจ้านะ!” ครีมหอมย้ำเสียงแข็ง เนื่องจากรู้ดีว่าลูกชายคนนี้ชอบทำอะไรที่ไม่ถูกต้องอยู่ตลอด เจ้าไฟจึงหันมาทำหน้าตาออดอ้อนใส่แม่ พลางทำเสียงสองเสียงสามที่มีแค่แม่เท่านั้นที่จะได้รับ เพราะเขาไม่เคยอ่อนโยนต่อผู้หญิงคนไหน “โธ่แม่ครับ ไม่ต้องห่วงเลย ผมโตแล้ว คนที่แม่ต้องห่วงคือไอ้คินต่างหาก!” ประโยคสุดท้ายเขาเบี่ยงประเด็นไปทางน้องชายซึ่งนั่งเขี่ยมือถือร่วมอยู่ข้างๆ “เอ้า! โยนมาทางผมเฉยเลย!” อนาคินขมวดคิ้วทันที” อย่านะแม่ แม่อย่ามามองคินแบบนี้นะ” อนาคินรีบยกมือปรามแม่ที่กำลังจะหันมาบ่นตัวเอง ครีมหอมถอนหายใจ ลูกชายสองคนนี้แหละที่ชอบทำตัวให้เธอหนักใจอยู่เรื่อย “ แม่รู้น่า เห็นน้าคิตตี้บอกว่าลูกไปปรึกษาน้าเขา อยากจะทำผับงั้นเหรอ” “ ใช่ครับ” อนาคินตอบรับด้วยสีหน้าตื่นเต้น แต่แม่กลับทำหน้าเป็นกังวลจนเขาต้องรีบอธิบายเพิ่ม “ก็คินชอบเที่ยวกลางคืนชอบดื่มนี่ครับแม่ ไหนแม่บอกว่าถ้าพวกผมทำอะไรแม่จะไม่ห้ามไม่ใช่เหรอ คินก็ไม่ได้คิดจะทำอะไรเลวๆ เหมือนพี่ไฟสักหน่อย” “ เอ้า” คนพี่สะดุ้งที่ถูกน้องโยนบาปคืนมาให้ สีหน้าของเขาแสดงถึงความโกรธอย่างเห็นได้ชัด “ไหนมาโยนให้ฉันแบบนี้วะ ไอ้น้องเวร” “ พอๆ เลยนะ!” ครีมหอมที่เป็นคนกลางรีบปรามก่อนที่เรื่องจะไปกันใหญ่ “อย่ามาทะเลาะกันให้แม่เห็นนะ แม่ไม่ชอบ เอาเป็นว่าอย่าให้แม่รู้ก็แล้วกันว่าลูก กับลูก!” เธอเอ่ยพลางชี้นิ้วจิ้มอกลูกชายทั้งสองสลับกัน “ทำอะไรที่ไม่ดีขึ้นมาล่ะก็ แม่จะตัดขาดให้หมดเลย!” ลูกชายทั้งสองนั่งเงียบในทันทีก่อนจะยิ้มแห้งๆ อย่างมีพิรุธเพราะที่แน่ๆ ไม่มีใครฟังคนเป็นแม่สักคน เนื่องจากนิสัยของลูกชายสองคนนี้ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ“ อือ” แก้มขวัญได้สติตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ตอนที่ฟ้าสางแสงแดดส่องผ่านเข้ามาทาบลงบนตัวเธอ ร่างเล็กค่อยๆ ดันร่างกายที่อ่อนล้าขึ้น “ พี่ไฟ” เธอเรียกหาชายคนนั้นเบาๆ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว แก้มขวัญจึงค่อยๆ พยุงร่างกายขึ้นนั่งก่อนที่เธอจะแสดงสีหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ “ เมื่อคืน มันครั้งแรกของเรานะ” เธอบ่นพึมพำ เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันทำให้เธอรู้สึกดีทุกอย่าง เธอยอมรับว่าตัวเองตั้งใจให้มันเป็นไปแบบนั้น แต่มันคงจะดีกว่านี้ถ้าหากตื่นขึ้นมาแล้วเขายังอยู่ตรงนี้กับเธอ “ สงสัยเราคงจะตื่นสายเกินไป” หญิงสาวพยายามคิดบวก ก่อนจะลุกและเก็บเสื้อผ้าที่เขาถอดของเธอออกขึ้นมาสวมใส่ “ โอ๊ย” แต่เธอก็ต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บ มือเล็กกุมที่หน้าท้องน้อยของตัวเอง “ ทำไมมันถึงได้ปวดแบบนี้ล่ะ” พอนึกถึงเหตุการณ์ที่เป็นคำตอบ ปากอิ่มก็อมยิ้มพลางหูแดงขึ้นมาทันที ณ แคมป์ก่อสร้าง “ ใกล้ความสำเร็จขึ้นเยอะเลยครับหัวหน้า นี่เก็บรายละเอียดอีกนิดหน่อย ก็หาเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งมาลงได้เลย” สำเนาหัวหน้าคนงานรายงานให้เจ้าไฟที่ยืนฟังอยู่ได้ทราบ “ อือ ดีมาก อย่าลืมบอกทุกคนว่าให้ตั้งใจทำงานดีๆ ล่ะ เพรา
“ กีรติกร” “ พี่ไฟ ยังไม่นอนเหรอคะ ” หญิงสาวหน้าแดงจนต้องรีบหลบสายตา เวลานั้นเขาก็ลุกขึ้นนั่ง “ เธอเป็นอะไร” เขาจ้องเธอด้วยใบหน้านิ่งขรึม “ แก้มฝันร้าย” มุมปากข้างซ้ายของเจ้าไฟกระตุกขึ้นในทันทีเมื่อได้เห็นท่าทีที่เธอแสดงออก เขาเดินลงจากเตียงและเดินสาวขายาวไปหาน้องที่มุมประตู “ เธอเลยจะมาขอนอนกับฉันใช่ไหม” ไม่พูดเฉยเขาใช้มือเชยคางตัวเล็กให้เงยหน้าขึ้นมาจ้องตา ความกลัวที่มีในแววตาของเธอมันช่างน่าขัน เธอกลัวเขาแต่เธอก็กลัวอย่างอื่นมากกว่าจนยอมที่จะมาขอนอนกับเขาเนี่ยน่ะ? ง่ายไปแล้วหรือเปล่า “ ไม่ได้เหรอคะ เตียงพี่ก็ออกจะกว้างนี่” เสียงหวานๆ ของเธอทำให้ชายหนุ่มหลุดจากห้วงความคิด “ จะถามว่าได้ไหม…มันก็ได้แหละ แต่เธอไม่กลัวว่า…ฉันจะทำอะไรให้เธอเหรอกีรติกร” ในขณะเดียวกันนิ้วโป้งใหญ่สอดเข้าไปในปากของน้อง กลิ่นตัวของเธอมันช่างหอมหวานจนเขาแทบจะอดใจไม่ไหว ไหนจะดวงตากลมโตราวลูกแก้วที่มองมา หัวใจของเจ้าไฟถึงกับร้อนผ่าวเมื่อรับรู้ได้ถึงแรงดูดเบาๆ ตรงนิ้วโป้ง พอเห็นเขายิ้มเธอจึงดึงมือเขาออกพร้อมกับหลบหน้า “ อยากจะทำอะไร ก็ทำเลยค่ะ แต่แก้ม..ยังมีไข้อยู่นะ” เจ้าไฟส่ายหน้าเลิ่กลั่กให้กับคำพูด
“ ไม่เห็นอะไรเลยครับหัวหน้า” สำเนาพาเจ้าไฟมาดูกล้องวงจรปิดที่มีเพียง 4-5 ตัวบนเกาะ แต่กลับไม่พบถึงอะไรหรือใครที่เป็นพิรุธเลย “ แบบนี้ก็แสดงว่าคนที่ทำเป็นคนใน”เขาบ่นพึมพำแววตามีความกลุ้มใจดั่งกลับว่าเขาพอจะรู้อะไรบางอย่าง แต่แค่คิดกับมันไม่ตกก็เท่านั้น “ อีแก้มขวัญ!!” อยู่ๆ แป้งร่ำก็เกิดความโมโหและบุกมาหาแก้มขวัญถึงบ้าน “ เธอมาทำไมแป้งร่ำ” ป้าซาร่าที่กำลังช่วยเช็ดเป่าผมให้แก้มขวัญอยู่ตรงโซฟาในบ้านหันมาถามเธอ “ แกอย่าเสือก อีคนใช้” แป้งร่ำหันไปตวาดป้า ป้าก็ของขึ้นไม่ยอมโดนว่าฝ่ายเดียว “ ต๊าย! เก่งแต่ว่าคนอื่น มึงดีตายแหละอีแป้งร่ำ” “ นี่มึงกล้าขึ้นกูขึ้นมึงกับกูเพราะมันเหรอหะ” “ ก็เอ้อน่ะสิ ก็แก้มขวัญเขาดีกว่ามึง แถมยังเป็นเมียหัวหน้า แล้วมึงอะเป็นใคร แถมยังนิสัยต่ำๆ กูต้องเคารพด้วยหรือไง” แป้งร่ำกำหมัดแน่น เพื่อจะพยายามสงบสติอารมณ์ตัวเอง “ มึงหรือเปล่าที่ถูกมันเป่าหูน่ะอีแก่ น้ำหน้าอย่างอีเด็กนี่เหรอ เป็นเมียเจ้าไฟ” แป้งร่ำกอดอกพลันหัวเราะเยาะทั้งคู่ ก่อนจะชะงักให้กับเสียงใครบางคน “ แล้วถ้าใช่ เธอจะทำไม” แป้งร่ำรีบหันไปมอง “ ฟะไฟ” เธอตกใจที่เห็นว่าชายหนุ่มเดินมายืนข้างๆ
“ อ๋าย!!!!” แป้งร่ำกรี๊ดลั่นบ้าน จนคนเป็นแม่อย่างทิพย์ต้องรีบวิ่งเข้ามาเขย่าตัวลูกสาว “ เป็นอะไรไปหลาน” อนันดาเองก็เดินเข้ามาถาม “ ลุงไม่ได้ยินที่พวกคนงานมันพูดเหรอ ว่าอีเด็กแก้มขวัญนั่นมันกลับมาแล้ว คนที่ไปพามันกลับมาก็คือเจ้าไฟ เห็นว่าหายไปด้วยกันทั้งคืน แถมตอนกลับยังเอาแต่อุ้มยัยเด็กนั่นไม่ยอมปล่อย ป่านนี้คงได้เสียเป็นผัวเมียกันแล้วมั้ง” แป้งร่ำโวยวายมีสีหน้าท่าทีไม่พอใจเป็นอย่างมาก “ เอาน่ะหลาน จะกลุ้มใจเรื่องนั้นไปทำไม ผู้ชายนะมันจะมีเมียกี่คนก็ได้” “ แต่แป้งอยากเป็นคนแรก ที่สอนความเป็นชายให้กับไฟ ลุงไม่เข้าใจเหรอ!” “ อย่าคิดมากไปเลยน่ะลูก แล้วไปแล้วก็ให้มันแล้วไป ยังไงซะเด็กน้อยท่าทางจืดชืดแบบนั้นไม่มีทางที่จะสู้ลูกสาวของแม่ได้หรอก” ทิพย์พยายามพูดให้ลูกสาวใจเย็น “ตอนนี้เรามาคิดกันต่อดีกว่านะ ว่าถ้าเจ้าไฟรู้ว่าพวกเราเป็นต้นเหตุ มันจะเกิดอะไรขึ้น” สีหน้าของคนพูดหมองลงด้วยความกังวล แต่สามีของเธอก็ตอบกลับด้วยคำพูดที่ทำให้สบายใจขึ้นมาได้บ้าง “ จะไปคิดอะไรให้ปวดหัวล่ะทิพย์ ทั้งเกาะเนี่ยยังมีกล้องวงจรปิดไม่ถึง 5 ตัวเลย แล้วฉันก็หลบกล้องทุกตัวแล้ว จ้างให้ก็จับไม่ได้หรอก ถ้าเ
เช้าของวันต่อมาเอลิกเดินไปทั่วบริเวณแคมป์ก่อสร้าง “ มีใครเห็นบอสไฟบ้างไหม” เขาเดินเข้ามาในโรงอาหารแล้วถามกับคนงานที่นั่งทานข้าวกันอยู่ “ ห๊า หัวหน้าไฟก็หายไปอีกคนหนึ่งงั้นเหรอ” โสนเดินถือจานข้าวเข้ามาถาม “ ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้าบอสเขาจะไปไหนที่ไม่ใช่ที่นี่เขาก็ต้องบอกก่อนสิ แต่นี่ฉันหาทั่วแล้วแต่ไม่เจอ” “ หรือว่าเขาจะออกไปตามหายัยเด็กแก้มขวัญนั่นหรือเปล่า” โสนเอ่ยขึ้นเป็นเชิงคาดเดา ก่อนที่พ่อของเธอจะเสริม “ นั่นสิ เห็นคุณนีวายก็เพิ่งกลับมาเมื่อชั่วโมงก่อนเอง ผมว่ารีบเกณฑ์คนออกไปตามหาดูเถอะ” ในระหว่างนั้นนีวายก็เดินเข้ามา “ เกิดอะไรขึ้นอีก” ทุกคนที่กำลังลุกนั่งลุกยืนหันมาจ้องเขา ซึ่งตอนนี้มีใบหน้าอิดโรยดั่งคนที่ไม่ได้หลับได้นอน ” บอสไฟ หายไปครับ ไม่รู้ว่าออกไปตามหากีรติกรหรือเปล่า” นีวายถึงกับถอนหายใจแรง หลังจากนั้นทุกคนก็ได้แยกย้ายกันออกไปเดินหา พวกเขาเดินไปยังหลังเกาะ ไม่นานก็เห็นใครบางคนกำลังเดินลุยน้ำทะเลมาทางนี้จากที่ไกลๆ “ นั่นๆ คุณนีวายครับ นั่นใช่หัวหน้าไฟหรือเปล่า” “ แล้วทำไมถึงกลับมาสภาพนั้น นั่นยัยแก้มขวัญเหรอ?” โสนจ้องมองร่างสีขาวๆ ซึ่งกระทบกับแสงอาทิตย์จนแ
“ วิ่งให้เร็วกว่านี้พี่ไฟ วิ่ง!! มันมาแล้วพี่ อ้าย!!” “ มันมีหมาป่าอยู่บนเกาะแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย!” เจ้าไฟบ่นด้วยความฉงน ก่อนพาร่างของหญิงสาว กระโดดลงที่ลำธารซึ่งขวางอยู่ด้านหน้าเพื่อหนีตาย เมื่อสองร่างกระแทกลงกับน้ำก็แยกตัวออกจากกัน แก้มขวัญที่ยังตั้งสติไม่มาก เหมือนกำลังจะจมหายไป แต่ชายหนุ่มก็รีบใช้แขนคล้องเอวของเธอมาแนบกายไว้ ก่อนจะรีบพาว่ายหนีอย่างทุลักทุเล แก้มขวัญที่เหมือนจะไม่มีแรงเหลือแล้วกอดคอของชายหนุ่มแน่น เจ้าไฟจึงให้เธอขี่หลังและว่ายผุดๆ โผล่ๆ ในน้ำ จนไปถึงอีกฝั่งได้ก็เผลอกินน้ำกันไปหลายอึก “ เฮ้อ” เมื่อขึ้นฝั่งมาได้ทั้งคู่ก็หอบเหนื่อย เจ้าไฟยกนิ้วกลางใส่หมาป่าพวกนั้น แต่กลับมีเรื่องให้ตกใจยิ่งกว่า เมื่อพวกมันที่เขาคิดไว้ว่าจะไม่ตามมาแล้วดันกระโดดลงน้ำว่ายตามมาเสียได้ “ พี่ไฟ!!” แก้มขวัญเห็นแบบนั้นก็เรียกเขาอย่างตกใจ ชายหนุ่มจึงรีบอุ้มร่างของเธอขึ้นแบกอีกรอบ เขาพาหญิงสาวมาซ่อนในถ้ำ ทำให้พวกหมาป่าที่พึ่งจะข้ามฝั่งมาหาทั้งคู่ไม่เจอ “ เฮ้อ หนีกระสุนหนีระเบิดยังไม่ขนาดนี้เลย” เขาบ่นพึมพำพลางเอนตัวพิงกับก้อนหินใหญ่ด้านหลัง หายใจหอบเหนื่อย จ้องมองพวกหมาป่าที่วิ่งผ่าน