แชร์

บทที่ 1303

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
เฟิงเหยียนรู้ความหมายของปันอวิ๋น พวกเขาตอนนั้น แม้จะเป็นพวกเด็กน้อยไฟแรง แต่ท้ายสุดก็ยังมีพลังที่อ่อนแอเกินไป

ในสายตาสภาผู้อาวุโสเหล่านั้น คงจะเหมือนแค่มดง่ามพยายามเขย่าต้นไม้กระมัง

ดังนั้นอันที่จริงหลังจากผ่านไปนานขนาดนี้ ไม่เพียงแต่เหล่าศิษย์พี่น้องจะตระหนักได้ถึงความผิดพลาดใจอดีต

เฟิงเหยียนตระหนักได้ถึงความจริง อันท่จริงผ่านไปนานขนาดนี้ เขาก็ไม่ได้แค้นเคืองเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

เพราะว่า ตอนนี้พอนึกย้อนไป ต่อให้เหล่าพี่น้องทั้งหมดตอนนั้นล้วยนืนอยู่ข้างเขา สนับสนุนเขา อยู่ร่วมแนวเดียวกันกับเขา...

แล้วมันจะทำไมล่ะ?

พวกเขาตอนนั้น ล้วนเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่มุ่งมั่น แต่ปีกยังไม่กล้าแข็งพอ ยังเป็นแค่เด็กเท่านั้น

พวกเขาต่อให้ตื่นรู้ขึ้นมา แล้วจะทำอะไรได้ ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น

กระทั่งเป็นไปได้ว่า โอกาสที่จะได้โบยบินก็ยังไม่มี คงถูกสภาผู้อาวุโสหักปีกทิ้งกันหมด

หลังจากเห็นความจริงชัดเจน คนก็จะเปลี่ยนเป็นสงบลงมา ความเคียดแค้นเหล่านั้นก็จะกระจายหายไป

ดังนั้นเฟิงเหยียนหลังจากได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น บนหน้าก็เผยรอยยิ้มจาง เอ่ยถามเสียงต่ำว่า "ไกลหน่อยสินะ?"

"สองคนนั้นไกลอยู่" ปันอวิ๋นตอบ "สถาน
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1319

    การเคลื่อนไหวแบบนี้ จั๋วซือหรานเองก็ไม่ได้จงใจจะเลี่ยงเขาหรือก็คือ จั๋วซือหรานแต่ไหนแต่ไร การหยิบของข้ามมิติแบบนี้ ก็ไม่เคยหลบเลี่ยงคนของตนเองมาก่อนตนเองก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ชีวิตแบบหลบๆ ซ่อนๆ ความสามารถเหล่านี้ของตนเอง ยังไงก็ต้องใช้อยู่บ่อยๆ ต่อหน้าคนนอกก็ว่าไปอย่าง แต่ต่อหน้าคนกันเอง ถ้าหากต้องมาปิดบังอยู่ตลอดเวลาเช่นนั้นนางก็คงจะเหนื่อยมาก ดังนั้น นางจึงไม่ค่อยจะปิดบังคนของตนเองมาตลอดส่วนสำหรับเขาก็อดยอมรับไม่ได้ ถึงแม้ตอนนี้ชายตรงหน้าจะสมองพังไปแล้ว แต่ในใจจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กั้นคนผู้นี้เอาไว้ในกรอบของคนนอก"เป็นอะไรไป?" จั๋วซือหรานสังเกตเห็น สายตาของเฟิงเหยียนดูเกร็งเขม็งหน่อยๆ จึงถามขึ้นว่า "ไม่กินหรือ? ทำไมเอาแต่มองข้าล่ะ?"จากนั้นมือของนาง ก็ถูกชายหนุ่มกุมไปแล้วบนมือจู่ๆ ก็มีความอบอุ่นโอบเข้ามา ทำให้จั๋วซือหรานตกตะลึงไปฝ่ามือที่อบอุ่นของชายหนุ่ม ปกคลุมอยู่บนหลังมือนาง ห่อหุ้มมือนางไว้ จากนั้นก็พลิกฝ่ามือนางหันขึ้นด้านบนดวงตาเรียวยาวน่ามองของเขา ม่านตาปรือลงเล็กน้อย สายตาจ้องอยู่บนฝ่ามือนางจ้องมองอย่างลึกซึ้งจั๋วซือหรานไม่ใช่ว่ามองไม่ออก เขาน่าจะมีปฏ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1318

    มีสัมผัสอ่อนโยนบนริมฝีปาก เย็นเล็กน้อย นุ่มนวลการเคลื่อนไหวแผ่วเบา สัมผัสลงมาบนริมฝีปากนางจั๋วซือหรานหลังจากสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลนี้ ก็เบิกตาโพลงขึ้นมาแล้วจึงเห็นใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติ...อยู่ใกล้แค่คืบดวงตาเขาปรือๆ กึ่งปิดกึ่งเปิด เหมือนสายตายังดูเหม่อลอยอยู่ พอถูกขนตาหนานั่นบังไว้ก็ยิ่งดูเลื่อนลอยขึ้นไปอีกจั๋วซือหรานกระพริบตา ริมฝีปปากงับเบาๆ ไปบนริมฝีปากเขาคิ้วของชายหนุ่มขมวด ดวงตากึ่งปิดค่อยๆ เปิดขึ้น จ้องมองนางด้วยสายตาสงบนิ่งจั๋วซือหรานถอยออกไปเล็กน้อย มองเขาด้วยสายตาสงสัยจากนั้นจึงได้กลิ่นสุราห้าพิษบนตัวเขา จั๋วซือหรานถามว่า "ดื่มจนเมาแล้วหรือ?"ชายหนุ่มไม่ปฏิเสธ ก้มศีรษะเล็กน้อยเป็นการยอมรับโดยปริยายครู่ต่อมา เขาก็เอ่ยขึ้นเสียงต่ำว่า "ไม่ค่อยสบายหรือ?""ข้าน่ะนะ?" จั๋วซือหรานย้อนถามเขาพยักหน้า ยื่นมือไปแตะๆ ที่หน้าผากนาง "ตรงนี้ มันขมวด"จั๋วซือหรานเข้าใจขึ้นมา น่าจะเพราะในมิติของตนเองก่อนหน้านี้ นางถูกพวกแมลงระดมเข้าใส่จนปวดหัว ผลคืออารมณ์เลยไปแสดงออกบนสีหน้าถูกเขาเห็นเข้าแล้วชายคนนี้ จึงคิดว่านางร่างกายไม่ค่อยสบายโดยสัญชาตญาณบวกกับว่าดื่มสุรามานิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1317

    และความหวั่นไหวของจั๋วซือหราน...เหล่าสัตว์อสูรของนางก็สามารถสัมผัสได้!ดังนั้น ให้ตายเถอะ ในมิติจึงอึกทึกครึกโครมขึ้นมาเลย!จั๋วซือหรานยิ่งแน่ใจ ว่าเจ้านี่จงใจแน่ๆ!อสูรกลืนแมลงตัวนี้ เห็นได้ชัดว่าวิวัฒนาการถึงระดับหนึ่งแล้ว ความคิดอ่านดูสุขุมรอบคอบละเอียดถี่ถ้วนแน่นอนว่าเจตนาแกล้งแหย่เล็กๆ เมื่อครู่นี้ ก็เป็นเรื่องจริงเช่นกันจั๋วซือหรานมองมันอย่างเคืองๆ ฟังเสียงเอะอะของเจ้าพวกแมลงนางขมวดคิ้วขึ้นอย่างจนใจ จากนั้นก็บอกกับอสูรกลืนแมลงอย่างเคืองๆ ว่า "เจ้าจงใจหาเรื่องสินะ ข้าเองก็ยุ่งจะตายอยู่แล้ว เชื่อไมว่าข้าจะจับเจ้าโยนออกไป...?"ในดวงตากลมโตเหมือนระฆังทองแดงของอสูรกลืนแมลงคู่นั้น แววตาดูอ่อนโยนลงกว่าความเป็นอริก่อนหน้านี้มากมันจ้องมองจั๋วซือหรานอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า "เจ้าไม่ทำหรอก""เฮอะ อย่าเลย เจ้าอย่ามายั่วข้า" จั๋วซือหรานเบ้ปากอสูรกลืนแมลงก็เหมือนจะมีแววขบขัน พูดซ้ำคำที่เพิ่งพูดไปอีกครั้ง "เจ้าไม่ทำหรอก"ไม่ใช่ว่ามันเชื่อมั่นหญิงสาวคนนี้ส่งเดช แต่ว่า...มันอยู่ในมิติที่ไม่รู้จักนี้มาแล้วพักหนึ่งเจ้าพวกแมลงที่เป็นศัตรูโดยธรรมชาติของมันเหล่านั้น แม้จะไม่เข้ามายั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1316

    อันที่จริงนางก็ไม่ต้องการพักผ่อนอะไรนัก เพราะเพิ่งจะตื่นได้ไม่นาน จึงไม่ค่อยอยากนอนก็เลยเข้าไปในมิติดีกว่าจะว่าไป บรรยากาศในห้องเซี่ยอวิ๋นซีก่อนหน้านี้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกสุดอันที่จริงบรรยากาศในมิติของจั๋วซือหรานเองก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเหมือนกันเพราะว่าในมิตินาง เจ้าพวกก้อนเนื้อกับเมงมุมของนาง และยังรวมถึงพวกสัตว์ประหลาดอย่างพวกผีเสื้อที่นางเก็บมาก่อนหน้านี้ด้วย ถึงยังไงก็เป็นพวกแมลงนั่นล่ะตอนนี้ล้วนขดตัวกันอยู่ในด้านหนึ่งของมิติส่วนอีกด้านที่แบ่งแยกอย่างชัดเจน ก็คืออสูรกลืนแมลงที่คลุมเกราะกระดูกทั่วร่างตัวนั้นจั๋วซือหรานมองบรรยากาศที่กระอักกระอ่วนกว่าความรักของพ่อแม่ด้านในนี้รู้สึกจนใจบอกไม่ถูกดูท่าพวกศัตรูโดยธรรมชาติจะเลี้ยงไว้ด้วยกันไม่ได้จริงๆ...แต่ยังดีที่ บรรยากาศกลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้ก็ส่วนนึง แต่ก็ยังถือว่าค่อนข้างสงบดีใครต่างก็ไม่ไปหาเรื่องใครดูเหมือนจะรักษา...ความสมดุลที่แปลกประหลาดเอาไว้อยู่เพียงแต่ว่าสภาพสมดุลนี้ ก็รักษาไว้ได้ถึงแค่ตอนที่จั๋วซือหรานเข้ามาจั๋วซือหรานพอเข้ามาในมิติ บรรยากาศที่สมดุลนี้ก็เหมือนถูกพังทลายลงไม่ใช่บอกว่าพอนางเข้าไป

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1315

    จั๋วเฮ่ออิงมองไปที่ประตูทันควัน ท่าทางกระอักกระอ่วนขึ้นมาทันทีก่อนหน้านี้ตอนเจอจั๋วซือหราน ก็กระอักกระอ่วนมากพอแล้วตอนนี้ที่เห็นเซี่ยอวิ๋นซียืนอยู่ในประตูต่อให้ร่างเซี่ยอวิ๋นซีจะเล็กบาง จั๋วเฮ่ออิงรูปร่างสูงใหญ่แต่ตอนนี้ด้านความรู้สึกทำให้คนรู้สึกว่า...เหมือนเขาจะตัวเตี้ยกว่าเซี่ยอวิ๋นซีเสียอีกจั๋วซือหรานมองฉากนี้ ในใจก็คิดว่า นี่กระมังที่เขาเรียกกันว่า...บารมีจั๋วซือหรานไม่ได้สงสัยใคร่รู้กับเรื่องความรักของพ่อแม่ และไม่มีความเห็นใดด้วยขอเน้นไปที่ไม่มีความเห็น ไม่ปฏิเสธ และไม่ยุยงส่งเสริมดังนั้นนางจึงไม่พูดอะไร แค่มองไปทางเซี่ยอวิ๋นซี เอ่ยขึ้นว่า "ทำของหร่อยมาให้ท่าน เสี่ยวหวายนอนอยู่หรือ?"เซี่ยอวิ๋นซีไม่ได้มองจั๋วเฮ่ออิงนัก แค่เดินเข้ามา ยื่นมือรับกล่องอาหารที่ลูกสาวเตรียมไว้เพื่อตนเองจากมือของเขาไปตอนที่นางยื่นมือมา จั๋วเฮ่ออิงที่เดิมทีไม่ได้มีท่าทางอะไร เพียงแค่จ้องมองนางตาปริบๆจู่ๆ ก็มีการเคลื่อนไหวขึ้น เขาเบี่ยงตัวหลบมือของเซี่ยอวิ๋นซี ไม่ให้นางจับกล่องอาหารเพียงแค่พูดว่า "หนักน่ะ ข้าช่วยเจ้ายกเข้าไป จากนั้นก็เอียงตัวคิดจะเข้าห้องผ่านข้างตัวนาง"แต่เซี่ยอว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1314

    จั๋วซือหรานหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ อันที่จริงก็ไม่รู้ว่าจะปลอบจวงอี๋ไห่อย่างไรและไม่ใช่นางที่จะมาตำหนิหรือให้อภัย...นางเป็นแค่ผู้ฟังเท่านั้นแต่ในเมื่อนางจับพลัดจับผลู ช่วงชีวิตลูกชายเขาไว้ทั้งสามคนเช่นนั้น นางเองก็มีคุณสมบัติพูดอะไรหน่อยจั๋วซือหรานชี้ไปที่ถาดนั่น "อาหารจะเย็นแล้ว เจ้ายกไปให้ชิ่งหมิงเถอะ"นางพูด พลางหยิบขวดใบหนึ่งออกมา สาดผงส่วนหนึ่งลงไปในเนื้อย่าง "ไม่ต้องกังวล ผงขิงนี้ข่มผลของผลทรายมณีไว้ได้พอดี"จวงอี๋ไห่พอได้ยินคำนี้ ก็มองไปที่ถาดนั้น ในสีหน้า ยังคงดู...ลังเลอยู่บ้างจั๋วซือหรานมองออกถึงความลังเลของเขา เป็นเหมือน...ความรู้สึกผิด และเจือความรู้สึกประหวั่นตอนเข้าใกล้บ้านเกิดอะไรทำนองนี้?หากจะพูดให้ถูกต้องหน่อยล่ะก็ จั๋วซือหรานรู้สึกว่า...จวงอี๋ไห่ตอนนี้ ก็น่าจะคล้ายๆ กับความรู้สึกที่จั๋วเฮ่ออิงที่มีให้กับนาง"ข้า..." จวงอี๋ไห่ลังเล "ข้า...ไม่เคยคิดว่าเขาจะจำข้าได้"จั๋วซือหรานมองเขาผาดหนึ่ง "คิดมากไปแล้ว เรื่องที่เจ้ากับเขาจำได้หรือจำไม่ได้ ข้ายุ่งด้วยไม่ได้ ข้ารักษาเขาหายแล้ว ภารกิจของข้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว"ในสายตาของจวงอี๋ไห่มีความซาบซึ้งต่อนาง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1313

    "ช้าเพิ่งรู้...โอ้ ว่าที่แท้ภรรยาของข้า...คนที่แต่งงานกับข้า เป็นหญิงสาวไม่เคยดูถูกข้า หญิงสาวที่อ่อนโยนแลงดงามมาโดยตลอด ถูกข้าทำร้ายจนตาย"ตาของจวงอี๋ไห่เย็นลงเรื่อยๆ สีหน้าก็ขาวซีดปั้นยากขึ้นเรื่อยๆความชิงชังในดวงตาเขา ราวกับมียาพิษขมขื่น กำลังกัดกร่อนทำลายจากในตัวเขาทำเอาหัวใจของเขาแทบจะเน่าไปแล้ว"พวกเขาเอายาพิษที่จำทำร้ายนางจนตายพวกนั้น มาบอกข้าว่าเป็นยำบำรุง แต่ละชามที่ให้นาง ทุกๆ ชามที่ป้อนนางดื่มลงไป..."จั๋วซือหรานมองดวงตาเขา ชั่วขณะหนึ่งไม่รู้ว่าควรพูดอะไรกับเขาคำปลอบโยนหรือคำพูดอื่นใด เหมือนจะเบาบางเกินไปเวลานี้และไม่รู้ว่าความทรางจำที่เหมือนพิษร้ายกัดกระดูกนี่ ถูกจวงอี๋ไห่กดไว้ในใจมานานแค่ไหนแล้วตอนนี้พอเห็นจวงชิ่งหมิง จึงระเบิดออกมาอย่างฉับพลันจั๋วซือหรานรู้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สภาวะอารมณ์แบบนี้ แทนที่จะปลอบโยนเขา สู้ให้เขาระเบิดออกมาเลยจะดีกว่าจะดีกับร่างกายมากกว่าด้วยไม่เช่นนั้นถ้าเก็บกดเอาไว้ มีแต่จะทำลายตัวเองจากภายในลงมาจวงอี๋ไห่นิ่งงันไปนาน ราวกับจะพยายามกลืนกลิ่นคาวเลือดที่จุกขึ้นมาในคอ ตอนที่พูดคำพูดเหล่านั้นออกไปก่อนหน้านี้จากนั้น จึงเอ่ย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1312

    จวงอี๋ไห่ได้ยินคำพูดของคุณหนู ก็หัวเราะขึ้นมา "ขอบคุณคุณหนู""ไม่ต้องขอบคุณข้า" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "ไม่ได้ให้เจ้าดื่มเปล่าๆ พอตื่นตัวแล้วก็เล่ามาเถอะ ว่าเกิดอะไรขึ้นกัน ถ้าหากชิ่งหมิงเป็น...แล้วทำไมเขาถึงไม่รู้จักเจ้า?"จวงอี๋ไห่ถอนหายใจ แล้วจึงค่อยๆ ดึงรายละเอียดอกมาจากความทรงจำเหล่านั้นในสมองที่พยายามจะไม่นึกถึงเลยก่อนหน้านี้"เขา..." จวงอี๋ไห่สูดลมหายใจลึก และไม่รู้เพราะฤทธิ์สุราแรงไป หรือว่าเพราะอารมณ์ ดวงตาของเขาจึงแดงก่ำ "เข้าไม่เคยเห็นข้ามาก่อน..."แล้วจึงนึกไปถึงเด็กน้อยในความทรงจำที่ดูเงอะงะ แต่กลับน่ารักราวหิมะหยกอยู่เสมอจวงอี๋ไห่สูดกายใจลึกแต่ก็ยังข่มอารมณ์ในใจไม่ได้ ก้มหน้าลงฉับพลันเอ่ยเสียงต่ำว่า "บางทีควรบอกว่า เขาไม่รู้ว่าข้าเป็นใครต่างหาก"จากนั้น จวงอี๋ไห่ก็เล่าเรื่องราวออกมาแบบกระชับได้ใจความที่แท้ เขาเคยเป็นลูกหลานของตระกูลจวงแคว้นเหยี่ยน และพี่สาวในตระกูลที่เคยดูแลเวินป๋อยวนคนนั้น ตอนนั้นที่นางแต่งงานกับลูกหลานตระกูลจวง ก็คือจวงอี๋ไห่นี่เองส่วนเรื่องหลังจากนั้น จั๋วซือหรานก็พอจะรู้อยู่คร่าวๆตอนที่พี่สาวในตระกูลของเวินป๋อยวนตั้งท้อง ก็ถูกวาง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1311

    จวงอี๋ไห่นิ่งงันไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะเอ่ยอะไร กลับคุกเข่าทั้งสองลงก่อนคุกเข่าลงต่อหน้าจั๋วซือหรานการกระทำนี้ ทำให้จั๋วซือหรานประหลาดใจอยู่บ้าง ดวงตาเบิกกว้างขึ้นฉับพลัน"นี่เจ้า..."จวงอี๋ไห่โขกหัวให้นางอย่างตั้งใจ เอ่ยขึ้นว่า "คุณหนู ข้าต้องขอขอบคุณท่านก่อน..."จั๋วซือหรานเลิกคิ้วที่จวงอี๋ไห่อยากขอบคุณเขา จั๋วซือหรานไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะตนเองช่วยลูกชายทั้งสองของเขาไว้ แล้วยังพาเขากับลูกทั้งสองออกมาจากเมืองอวิ๋นด้วยแต่นั่นก็ขอบคุณมาแล้ว เป็นเรื่องก่อนหน้านี้ไปแล้วตอนนี้หัวข้อที่พวกเขาคุยกันอยู่ ไม่เกี่ยวกับลูกทั้งสองของเขา แต่เกี่ยวกับชิ่งหมิง...เขากลับโขกศีรษะขอบคุณนางจั๋วซือหรานไม่ใช่คนโง่ รู้ว่าขอบคุณเรื่องที่นางรักษาชิ่งหมิงจนหายดีนั่นเองแต่จั๋วซือหรานก็ยังกจงใจแกล้งโง่ถามมาอีก "เพราะลูกชายสองคนของเจ้าหรือ? เจ้าขอบคุณข้ามาตั้งกี่รอบแล้ว จนหูข้าแทบจะด้านหมดแล้วนะ ทำไมถึงยังคุกเข่าโขกศีรษะอีก..."จวงอี๋ไห่หัวเราะขืนๆ เขารู้ว่าคุณหนูเป็นคนที่ฉลาดแค่ไหน และรู้ว่าคำนี้ของนางคือจงใจแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง เพื่อเปิดประเด็นให้เขาพูดออกมาได้ง่ายขึ้น"ลุกขึ้นมาพูดก่อนดีก

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status