ห้องโถงรับแขก งานเลี้ยงรับรององค์รัชทายาทชีอัน และองค์ชายเก้า ซึ่งได้มีขุนนางในเมืองอีกจำนวนหนึ่งมาร่วมด้วย แน่นอนวาค่ำคืนนี้ บรรดาบุตรสาวขุนนางที่ยังไม่ออกเรือนต่างตั้งใจประโคมกาย เพื่อมาประชันความงามกันต่อหน้าบุรุษสูงศักดิ์ ซึ่งเป็นแขกคนสำคัญของเมืองชายแดนแห่งนี้ เผื่อว่าพวกนางคนใดคนหนึ่ง อาจโชคดีมีวาสนาก้าวสู่ตำหนักของหนึ่งในสองบุรุษแน่นอนว่าคุณหนูหลี่เหนียง นั่งเฉิดฉายอยู่เคียงข้างไท้เฟย ใบหน้างามประดับรอยยิ้มน้อยๆ อย่างมีจริต นางไม่สนหรอกว่าสตรีต่างแคว้นจะงามเพียงใด เพราะนางคือสตรีที่ไท้เฟยเลือกแล้ว “ไยน้องสาวข้ายังไม่มาอีกเล่า” องค์รัชทายาทเอ่ยถามถึงจ้าวหลันถิง นั่นทำให้หลี่เหนียงที่กำลังมั่นใจในความสูงส่งของตน เผลอตวัดสายตามองไปที่ชายหนุ่มสูงศักดิ์อย่างลืมตัว ทว่าหญิงสาวถึงกับใบหน้าซีดเผือด เมื่อสบเข้ากับแววตากระด้างขององค์รัชทายาทต่างแดน“ใบหน้าข้าคงน่าชังมากสินะ! แม่นาง!”คำถามของแขกคนสำคัญ เรียกสายตาของทุกคนให้หันมองไปที่หลี่เหนียงเป็นจุดเดียว หญิงสาวรีบหันไปหาไท้เฟยเพื่อขอความช่วยเหลือ ทว่ากลับต้องกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ เมื่อสตรีที่นา
“แค่เล็กน้อยเจ้าค่ะ”คำพูดที่สนิทชิดเชื้อ บอกได้ว่าญาติผู้น้องคนนี้ ต้องสำคัญต่อชายสูงศักดิ์มากทีเดียว แล้วใครกันที่บอกว่าคุณหนูสกุลแม่ทัพ ไม่ใช่ที่รักของคนรอบข้าง จึงต้องถูกส่งมาแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์“ข้าลู่เชียน องค์รัชทายาทชีอัน ขออภัยไท้เฟยที่ข้าตั้งคำถามต่อท่าน โดยไม่ได้หมอบกราบอย่างที่คนอื่นกระทำ เช่นนั้นข้าคงต้องคุกเข่าสินะ!”“อย่าเพคะ!”ไท้เฟยร้องห้ามเสียงหลง เมื่อองค์รัชทายาทกำลังจะคุกเข่าลงต่อหน้า ร่างท่วมของไท้เฟยสั่นราวกับอากาศหนาวเหน็บ ทั้งที่เวลานี้ติดจะร้อนเสียมากกว่า“เช่นนั้นตอบคำถามข้าได้หรือยัง”“เอ่อ...คือว่า...”จ้าวหลันถิงไม่คิดว่าจะต้องยืมมือใครจัดการเรื่องพวกนี้ แต่นางไม่ได้มีเวลามาต่อกรไร้สาระกับแม่สามีมากนัก จึงอยากจัดการทุกอย่างให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม เพื่อให้กิจการของนาง ที่กำลังเติบโตไม่ต้องสะดุดที่สำคัญอยู่ต่างบ้านต่างเมือง จะมามัวเป็นนางเอก ทำดีเพื่อชนะใจแม่ผัว มันเป็นไปไม่ได้ เพราะคนจะเกลียด ดีแค่ไหนก็เกลียดอยู่วันยังค่ำ เลยต้องใช้มือคนอื่นมายุติมันลง ไม่ต้องมารักนางแค่ไม่วุ่นวายกันก็พอแล้ว“นางถูกเลี้ยงดูด้วยเสด็จย่ามาตั้งแต่ยังเล็ก ไม่เคยมีเรื่องเสื่อ
หกเดือนต่อมา เรือนที่ภายนอกยังคงดูทรุดโทรม ทว่าภายในนั้นกลับตกแต่งเอาไว้อย่างงดงาม จ้าวหลันถิงนั่งรอการมาเยือนของแขกที่นางเชื้อเชิญ ด้วยการขายสิ่งของบางอย่างไป และนางจงใจให้มันไปปรากฏต่อหน้าเขา รวมถึงเรียกหาปีกที่แกร่งพอต่อกรกับสกุลสามี ให้มาเสียพร้อมกันเลย หญิงสาวแปรงผม ที่ตอนนี้กลับมานุ่มสลวยอย่างเบามือ พื้นฐานตัวตนเจ้าของร่างนี้งดงามอยู่แล้ว แค่การแต่งตัวนั้นอ่อนหวานจนดูไร้สีสัน ต่างกับนางในตอนนี้ที่ร้อนแรงราวเปลวเพลิง ความงามนี้มิได้คิดใช้มัดใจสามี แต่เพราะคนเยี่ยงนาง มิอาจอยู่กับความทรุดโทรมของร่างกายได้ หลายเดือนที่นางอดทนฟื้นฟูร่างกายนี้ และสร้างอีกตัวตน เพื่อรองรับตัวนางในยามคับขัน มันไม่ง่ายเลยแต่พอเห็นใบหน้างดงามนี้ทีไร มันคุ้มค่ากับความอดทน ที่มีมาตลอดหลายเดือนนับตั้งแต่ตื่นมาในร่างสตรีและต่างโลกต่างยุค ด้านหน้าเรือน สวี่อ๋องผู้รั้งตำแหน่งแม่ทัพ เพิ่งกลับมาถึงบ้านได้เพียงไม่กี่ชั่วยาม ก็ต้องมีเรื่องให้เขานั่งไม่ติด เมื่อมีคนนำสิ่งของบางอย่างมามอบให้ แต่เมื่อก้าวมาเห็นเรือนของภรรยา เขาเหมือนถูกตีซ้ำเข้าที่กลางแสกหน้
“ว่าแต่เจ้ามีไข่และน้ำมันได้อย่างไรนะ ในเมื่อสกุลสวี่ไม่ได้มอบมันให้เรา”“ท่านลุงต้าจงกับท่านป้าอู่มอบให้เจ้าค่ะ”“ใครรึ!”“ท่านลุงท่านป้า ทำสวนผักอยู่ตีนเขาท้ายจวนเจ้าค่ะ ตอนที่บ่าวออกไปหาสมุนไพรมาต้มให้คุณหนู ท่านลุงท่านป้าได้ช่วยเหลือเจ้าค่ะ”“อืม...แสดงว่าพวกเขา ต้องมีอาหารและยาที่เราต้องการ”“ท่านลุงท่านป้าไม่ได้มีเงินทองมากนักเจ้าค่ะ สิ่งของที่หาได้ก็ถูกซื้อในราคาที่ต่ำมาก”“ให้พวกเขาขายให้เรา ให้ราคาที่สูงหน่อย ไม่ว่าเนื้อหรือยา เสื้อผ้า ให้พวกเขาจัดการแทนเรา จะได้ไม่ถูกสงสัย”“เจ้าค่ะ”เมื่อรู้สึกว่าพวกนางกระซิบกันอยู่นาน จนทำให้เสียงสนทนาขาดหายไป ทำให้ด้านนอกมีการเคลื่อนไหวเล็กน้อย จ้าวหลันถิงยกยิ้มมุมปาก เมื่อนึกเรื่องสนุกขึ้นมาได้“เอาน้ำล้างเท้าของข้า ไปสาดใส่ต้นไม้ด้านหน้าสักหน่อยสิ มันเฉามากแล้ว”จ้าวหลันถิง ชี้มือไปยังทิศทาง ที่นางต้องการให้สาวใช้สาดน้ำ คนมาเยือนคงยังไม่กล้าที่จะขยับตัวให้ถูกจับได้ อี้เหยายกอ่างน้ำล้างเท้า เดินออกไปสาดยังพุ่มดอกไม้ในทิศทางที่ผู้เป็นนายบอกเสียงหายใจฟืดฟาดดังแว่วให้ได้ยิน ทว่าหญิงสาวกลับแสร้งไม่รับรู้ ก่อนจะเดินกลับเข้าห้อง สองนายบ่าวหัว
“เจ้าหิวหรือไม่” จ้าวเฉินเปลี่ยนการสนทนา เพื่อไม่ให้สาวใช้ผู้น่าสงสารต้องตั้งคำถาม ที่เขายังยากจะตอบได้ นับว่าการบังคับให้เขาเรียนทุกอย่างของพ่อ มันส่งผลดีต่อเขาในวันนี้ ที่ไม่ได้อยู่พบหน้า หรือโต้เถียงกันกับเรื่องเดิมๆ เกี่ยวกับความเป็นเพศที่สามของเขาเมื่อนึกถึงครอบครัว เขาก็เข้าใจเจ้าของร่างได้เป็นอย่างดี ว่านางคงอยากกลับไปสู่อ้อมกอดของพ่อแม่พี่น้อง แต่เพราะคำว่าธรรมเนียมปฏิบัติ สองนายบ่าวจึงทำได้แค่อดทน แต่ไม่ใช่เขา! ในเมื่อมีโอกาสได้เป็นหญิงสาว ก็ต้องเป็นผู้หญิงที่ครบเครื่อง สวย! เก่ง! ร้อนแรง! ส่วนเรื่องความรวยนั้น เขามั่นใจว่าใช้เวลาไม่นานเลย ถ้ารู้จักใช้สิ่งที่ติดตัวมา บวกกับรู้จักบ่อเงินบ่อทอง ที่พร้อมจ่ายเพื่อสิ่งที่ต้องการแน่นอนว่าต้องเริ่มจากคุณหนูบ้านคนรวย ที่รักสวยรักงาม ฮูหยินที่อยากมัดใจสามี สตรีเหล่านี้คือบ่น้ำซับที่พร้อมหยิบยื่นเงินให้แก่ความพอใจ ขอแค่สิ่งนั้นทำให้พวกนางคือที่หนึ่งในสายตาบุรุษ มันคืองานถนัดของเขา “บ่าวจะรีบไปต้มโจ๊กให้นะเจ้าคะ” “เดี๋ยว!” “มีอันใดเจ้าคะ” “เดี๋ยวข้าไปช่วย”
ชายแดนตะวันตกแคว้นหยวน จวนอ๋องสวี่ฟง เรือนท้ายจวน ฝั่งตะวันตก หญิงสาวร่างกายซูบผอม นั่งดวงตาอิดโรยมองไปยังสาวใช้ ที่กำลังผ่าฟืนสำหรับใช้ก่อไฟ เพื่อขับไล่ความเหน็บหนาวในยามค่ำคืน ซึ่งมันเป็นความทรมานที่ยาวนานในทุกคืน สำหรับสตรีบอบบางทั้งสองคน “แค่กๆ” จ้าวหลันถิงไอถี่ๆ ก่อนจะมองยังอุ้งมือที่ใช้ปิดปากเมื่อครู่ เลือดสีเข้มซึ่งปรากฏต่อสายตา บอกได้ว่าภายในของนางกำลังย่ำแย่ และยากนักจะเยียวยาได้ “คุณหนู เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” สาวใช้รีบทิ้งขวานในมือวิ่งมาหาผู้เป็นนาย ก่อนจะมองไปที่มือของคุณหนูที่ได้กำมันเอาไว้ เพื่อปกปิดบางอย่างมิให้นางได้เห็น หญิงสาวแสร้งไม่สนใจ สิ่งที่ผู้เป็นต้องการปกปิด นางเป็นสาวใช้ข้างกายที่เติบโตเคียงกัน ทำไมจะไม่รู้ว่าตอนนี้อาการของผู้เป็นนายย่ำแย่แค่ไหน “ข้าไม่เป็นไร เจ้าเหนื่อยมากไหม ข้าขอโทษนะที่ช่วยเจ้าไม่ได้เลย”จ้าวหลันถิงเปลี่ยนเรื่องคุยทันที แต่ทุกอย่างที่นางพูดมันคือความจริงจากใจของนางทั้งสิ้น “คุณหนูไปรอบ่าวด้านในก่อนนะเจ้าคะ” “ข้าขอโทษนะอี้เหยา”