ช่วงสายของอีกวันสองร่างกำลังพัวพันกันในอ่างอาบน้ำโมรินนั่งเปลือยกายอยู่บนตักของชายหนุ่ม ใบหน้าหวานซีดเผือดซบลงบนบ่าแกร่งอย่างไร้เรี่ยวแรงปึก ปึก ปึก สองแขนโอบรั่งสะโพกมนไว้แน่นพร้อมกับกระทุ้งแก่นกายเข้าใส่ตามความปรารถนา หญิงสาวหลับตาข่มความเจ็บปวดไว้จนกว่าเขาจะกระทำเธอจนพอใจ"อ๊ะ....อ๊ะ"แรงตอกอัดของเขาหยาบโลนจนเธอไม่สามารถกลั้นเสียงครางไว้ อลันหอบหายใจอย่างหนักเมื่อท่อนเอ็นถูกตอดรัดแน่นจนเสี่ยววาบ ปึก ปึก ปึกสองมือจับเอวเล็กไว้มั่นเร่งจังหวะตอกอัดกระทุ้งเข้าใส่ด้วยความบ้าคลั่ง"โอ๊ยย!...อึก...ฮือ.."คนบนตักส่งเสียงร้องด้วยความทรมานจนแทบจะไม่มีหยาดน้ำตาหลงเหลือแล้ว เธอกอดชายหนุ่มไว้แน่นพร้อมจิกเล็บลงบนไหล่กว้างของเขาเพื่อระบายความเจ็บปึก ปึก ปึก"อ๊าสส!!!!"เป็นอีกครั้งที่เขาปล่อยน้ำรักเข้าไปในช่องทางรักของคนตัวเล็ก ชายหนุ่มจูบลงบนศรีษะระถุยของโมรินก่อนจะเลื่อนลงมาจูบริมฝีปากขาวซีดอย่างดุดัน สองมือเคล้าคลึงเต้าอวบอิ่มไปพร้อมกันเมื่อพอใจแล้วจึงผละเธอออกหากว่าแก่นกายของเขายังคงเชื่อมต่ออยู่กับเธอ ผิวขาวเนียนทุกสัดส่วนเต็มไปด้วยรอยเขียวแดง ยิ่งตรงหน้าอกแทบจะไม่หลงเหลือพื้นที่ว่างไ
ร่างกำยำที่คร่อมอยู่บนร่างของเธอแซะยิ้มอย่างผู้เหนือกว่า โมรินใช้สองแขนพยายามผลักดันเขาออกไป ชายหนุ่มที่เห็นเธอกำลังต่อต้าน เขาจึงดึงเข็มขัดหนังออกจากเอว แล้วพันธนาการเธอด้วยเข็มขัดหนังเส้นนั้น"แกจะทำอะไรฉัน" หญิงสาวใต้ร่างหอบหายใจแรงขึ้น ไม่รู้ทำร่างกายเธอยิ่งรุ่มเร้าขึ้นกว่าเดิม"เธอคิดว่าฉันจะทำอะไรละ" เขาก้มลงกระซิบข้างหูเธอเบาๆ ก่อนจะลงมือฉีกชุดเดรสบนตัวเธอออก เหลือไว้เพียงชุดบราสีชมพูบนอก"กรี๊ดดดดด...อึก...ฮือๆ" โมรินร้องลั่นออกมาทันที ที่เสื้อผ้าของเธอถูกกระชากทิ้งไปอย่างไม่ใยดี "ปล่อยฉันไปเถอะ" ดวงตาเล็กมองใบหน้าเขาอย่างขอร้องโมรินครุ่นคิด เธอเริ่มเปลี่ยนจากน้ำเสียงแข็งกร้าวเป็นเสียงอ้อนวอนหวังว่าเขาจะปล่อยเธอไป"พวกเรามาคุยกันดีๆเถอะ นายปล่อยฉันก่อนสิ แล้วเรามาคุยกัน" หญิงสาวเริ่มออกอุบาย ทว่าชายหนุ่มตรงหน้ากลับเฉยเมย"ไม่ปากดีแล้วเหรอ" เขาแซะยิ้มอีกครั้งพร้อมยื่นมือไปบีบปลายคางเธอเอาไว้ ความหยิ่งผยองของเธอมันหายไปไหนแล้วละ เขารู้สึกสนุกเมื่อเห็นเธอทำตัวอวดดี ราวกับว่าตัวเธอดีหนักหนา และคนอย่างเขาก็ไม่ควรแตะต้อง แต่สุดท้ายก็แค่ลูกแมวในกำมือชายหนุ่มปล่อยปลายคางเธอให้เป็น
โมรินก็ยังคงร้องให้อยู่เฉกเช่นนั้น เธอวางหัวพิงกับกระจกรถ ดวงตากลมพร่ามัวไปด้วยน้ำตา ในสมองของเธอยังคงจำเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อครู่ได้ดี ไม่ใช่ว่าเธอเป็นคนเห็นแกตัว แต่เขาต่างหากที่มองข้ามเธอไป เขาอาจจะลืมไปแล้วว่ายังมีเธอที่กำลังรอเขาอยู่ตลอด ลินินเหลือบมองโมรินพลางดึงทิชชูในกล่องออกมายื่นให้เพื่อนสาวข้างกายซับน้ำตา นี่ไม่ใช่ครั่งแรกที่เธอเห็นเพื่อนอยู่ในสภาพนี้ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับโมรินบ่อยมาก จนบางครั้งเธอก็ชินไปแล้วกับการเห็นเพื่อนเสียใจ เธอเข้าใจทั้งสองคนดี แต่ด้วยเวลาและหน้าที่การงานของเขามันทำให้เขายิ่งห่างหายไป "เราไปเที่ยวปาร์ตี้กันดีกว่า" ลินินเอ่ยตัดบทเพื่อให้โมรินหันมาพูดคุยกับเธอ แต่ก็ไม่เป็นผล เพื่อนของเธอยังคงเงียบอยู่อย่างนั้น "แฟนแกเป็นคนบอกให้ฉันมารับเองแหละ เขายังห่วงใยแกแค่เขาไม่มีเวลา" ลินินยังคงพูดอธิบายต่อไปให้โมรินสบายใจ เวลาต่อมาสองสาวเดินเข้ามาในงานปาร์ตี้ที่เพื่อนในแก็งของลินินเป็นคนจัดขึ้น สภาพของโมรินยังคงเหม่อลอยอยู่อย่างนั้น เธอคาดหวังไว้มาก กว่าจะได้ไปเที่ยวด้วยกันอีกกับเขาเธอต้องรออีกเป็นอาทิตย์ โมรินนั่งลงบนโซฟาในห้องโถงใหญ่ ก่อนจะเข้ามาด้านใ
ยิ่งคนตัวเล็กพยายามดิ้นรนออกเเรงต่อต้านมากแค่ไหน ก็ดูเหมือนว่ามันจะสูญเปล่า เรียวลิ้นที่ช่ำชองของเขาพยายามจะครอบครองริมฝีปากเธอ โมรินหายใจติดขัด อยากจะผลักเขาออกไป ทว่าแขนแกร่งของเขาก็โอบรัดเธอราวกับโซ่เหล็กเส้นใหญ่ แถมร่างกำยำก็ยังทาบทับร่างเธออีก เมื่อไร้เรี่ยวเเรงต่อต้าน โมรินจึงเผลอไผลไปกับรสจูบของเขา... ใบหน้าของเธอก็แดงก่ำ ในสมองเธอเป็นสีขาวชั่วขณะ เมื่อพอใจแล้วเขาก็ยอมปล่อยเธอ หญิงสาวหอบหายใจราวกับคนขาดอากาศหายใจ ผมเผ้ายุ่งเหยิง คนตรงหน้ากระตุกยิ้มมุมปาก เขาเลียริมฝีปากตัวเอง ราวกับว่าเป็นรสชาติที่ถูกใจ หญิงสาวเชิดหน้าขึ้น นัยน์ตาตาคมเข้มคู่นั้นกำลังจ้องมองเธออยู่เช่นกัน เสื้อนักศึกษาสีขาวแขนยาวถูกพับขึ้น ทรงผมหยักศกตัดสั้นๆ ดูเหมือนเด็กเกเรไม่เอาไหน แถมใบหน้าเจ้าเล่ห์นั้นอีก ทว่าภาพรวมของเขานั่นดูดี ดึงดูดใจสาวๆ ชั่วขณะโมรินก็สลัดความคิดนั้นทิ้ง เธอถลึงตามองเขาด้วยความโกรธ เมื่อนึกถึงการกระทำที่น่ารังเกียจและขยะแขยงของเขา แล้วพยายามจะลงจากรถอีกครั้ง ทว่าประตูรถกลับถูกล็อคไว้ "ฉันจะแจ้งตำรวจมาจับแก" "ข้อหาอะไรละ ข่มขืน?" ดางตาคู่นั่นของเขาเหมือนกำลังจะเยาะเย้ยเธอ เพ
โมรินขับรถหรูเข้ามาจอดในบริเวณรั่วมหาลัย ก่อนจะเดินเข้าไปยังตึกคณะของตัวเอง ทุกสายตาจับจ้องมายังร่างบางที่เดินสับเท้าผ่านไป แถมเธอยังสะพายกระเป๋าแบนร์เนมยี่ห้อดัง ผิวพรรณเปล่งปลั่งราวกับนางแบบหรือพวกเซเลบโมรินมาจากตะกูลพวกไฮโซ เป็นธรรมดาที่รสนิยมของเธอจะเป็นพวกของมีราคาแพง แม้ทุกคนจะใส่ชุดนักศึกษาทว่าเธอนั่นกลับดูโดดเด่นมาก ผมยาวสลวยถูกปล่อยยาวไปถึงกลางหลัง มันสะบัดเล็กน้อยในตอนเธอเดิน "มอนิ่งยะ แม่คุณหนู" เสียงที่เหมือนจะพูดจากระแหนะกระแหนก้ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็ยัยเพื่อนเที่ยวเช้าค่ำนี่แหละ"ว่าไง" โมรินเลิกคิ้วถามก่อนจะวางกระเป๋าลงบนโต๊ะ"เปล่า" เห็นแกอารมณ์ดีมาแต่ไกลโพ้นโน้น ท่าทางแบบนี้คงมีเรื่องดีเกิดขึ้นกับเธอแน่ เมื่อคืนรุ่นน้องต่างมหาลัยก็คะยั้นคะยอให้ชักชวนโมรินไปเที่ยวงานปาร์ตี้ ไม่รู้ว่าเขาคิดยังไงถึงให้เธอมาชวนโมรินไป "ฉันจะไปเที่ยวกับแฟน" ลินินทำหน้าเหวอ แล้วก็ตบมือให้เธอซะเสียงดังลั่นห้อง "ทำไมแกต้องเสียงดังด้วย" โมรินเอ่ยขัดเมื่อเพื่อนตัวดีทำให้คนหันมาที่พวกเธอเป็นตาเดียว "ดีใจกับแกนะสิ นานๆครั้งจะได้ไปเชียวนะ" คำพูดคำจาเหมือนประชดประชันเธอยังไงยังงั้น ทว่าที่ยัยลินิ
"โมมีเรื่องจะถามพี่คินคะ" หญิงสาวตรงหน้าพูดขึ้น ในขณะที่เธอยังคงก้มหน้าก้มตามองอาหารในจาน เเละยังคงเขี่ยมันไปมาเช่นเดิม"เรื่องอะไร" ภาคินเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย โมรินยังสงสัยอะไรในตัวเขาอีกงั้นเหรอ"พี่ยังจำวันครบรอบของเราได้อยู่ไหม" เธอวางช้อนซ่อมในมือลงบนจาน เงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่ลังเล ทว่าหัวใจเธอกลับเต้นแรงขึ้นกว่าปกติ กลัวว่าสิ่งที่เขาจะพูดออกมา มันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอขาดหวังแน่นอน เขาจำมันได้ แต่จะให้ทำอย่างไร เมื่อวันเกิดของเพื่อนเขาก็ตรงกับวันนั้น ภาคินไม่สามารถปฏิเสธอย่างใดอย่างหนึ่งได้และในวันนั้นเขาเองก็ยังมีงานต้องทำอีก แต่เขาขาดคำอธิบายต่อแฟนสาว วันนั้นเขารู้แล้วว่าเธอน้อยอกน้อยใจเขา ทำไมเขาจะไม่รู้นิสัยแฟนตัวเอง ชายหนุ่มรู้ดีว่าเขาทำผิดต่อเธอแทบจะนับครั้งไม่ได้ "พี่จำได้" เขาแสดงสีหน้ารู้สึกผิดแววตาสีดำจับจ้องไปยังใบหน้าสวยตรงหน้า ก่อนจะถามเธอขึ้นอีกในประโยคถัดมา"โกรธพี่หรึเปล่า""โกรธสิค่ะ เเต่โมให้อภัยค่ะ" อย่างน้อยเขาก็ยังจำได้ว่าเมื่อวานคือวันครบรอบของเรา "พี่ขอโทษนะ" เธอมักจะให้โอกาศเขาเสมอ อาจจะเป็นเพราะหน้าที่การงานของเขา เลยทำให้เขามีเวลาน้อยลง และละเลยไ