หัวใจเต้นระริก
(หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป)
สัปดาห์ที่ผ่านมางานของฉันหนักหนาสาหัสมาก แทบไม่ได้ออกไปไหนแม้แต่กับยัยแพรวก็ไม่ได้เจอหน้า ทำเอาล้าไปจนเข้ากระดูกปวดร้าวไปทั้งตัว เหนื่อยจนแทบบ้า...กว่าจะเคลียร์คิวจองทำฟันให้เบาบางก็เล่นเอาแทบอยากหนีไปพักสักระยะ
ในขณะที่ฉันกำลังนั่งพักในห้องพักแพทย์ นอนเหยียดตรงบนเตียงทั้งแบบนั้นก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาไถ่เล่น ๆ จนสะดุดตาชื่อน้องเขาในไลน์
“ตั้งแต่วันนั้นที่ขอไลน์กับเบอร์ไป น้องเขาไม่เห็นจะติดต่อมาบ้างแฮะ หรือว่าฉันควรเป็นฝ่ายทักไปก่อนดี” ฉันพิมพ์ ๆ ลบ ๆ อยู่นาน แต่สุดท้ายดันมือลั่นไปกดส่งอิโมจิหัวใจซะอย่างนั้นโอ๊ย จังหวะนรกสุด ๆ
“ลบทันมั้ยนะ แต่ช่างมันเถอะ แค่อิโมจิหัวใจเอง”
ฉันวางมือถือลงข้างเตียงพยายามเลิกสนใจมือถือ ก่อนจะหลับตาลงเพียบงีบสักพัก
‘Line!!!’ เสียงข้อความตอบกลับดังขึ้น
“ไม่จริงมั้ง ฉันเพิ่งจะส่งข้อความไปเอง” ฉันหยิบมือถือขึ้นมาดูและพบว่าเสียงข้อความที่ดังมาจากน้องเวย์จริง ๆ
WAY : [อิโมจิ ?]
Oi : ขอโทษทีส่งผิด
WAY : อ่อ...
ฉันนิ่งมองจอสักพัก และมองอยู่แบบนั้น
“อะไรกัน ตอบแค่ ‘อ่อ’ จริง ๆ เหรอเนี่ยทำไมน้องเขาไม่พิมพ์อะไรอีกหน่อยชิส์ น่าหงุดหงิดชะมัด” ฉันปิดเสียงมือถือพร้อมโยนลงข้างตัวไปอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะงีบหลับนอนไปทั้งอย่างนั้น ตื่นมาอีกทีก็จวบค่ำมืดฉันจึงถอดเสื้อกาวน์แขวนไว้ก่อนจะเดินออกจากโรงพยาบาล
ตอนแรกก็ว่าอยากจะนัดยัยแพรวให้ออกไปทานมื้อค่ำด้วยกัน แต่เจ้าตัวดันปลีกตัวมาไม่ได้เพราะพี่เจเดนไม่ยอมให้มันออกมา สงสัยเพราะโดนจับได้ว่าไปบาร์โฮสต์กับฉันคราวก่อนจึงโดนคาดโทษจากคนที่มันรัก
ความสัมพันธ์ของยัยแพรวกับพี่เจเดนมันดูอิรุงตุงนังดีนะ ปากยัยแพรวบอกจะทำเป็นไม่สนใจเขา แต่พอพี่เขาพูดอะไรนิดหน่อยก็ยอมหมด แล้วที่ผ่านมาตั้งใจจะทำเมินเอาคืนพี่เขาที่เคยทำให้หัวใจดวงน้อย ๆ ของมันเสียใจ ดูท่าคงล้มเหลวไม่นานนี้แล้วล่ะ
ส่วนฉันนะเหรอ ชีวิตโสดสบายไม่มีใครจะมาคอยห้าม หรือคอยเอาใจอยู่แล้ว พูดไปเหมือนจะดี แต่พอมาคิด ๆ พอเอาแต่ทำงานไปวัน ๆ อย่างเหนื่อยล้า มันก็แอบเหงามาก ๆ อยู่เหมือนกันนะ
“สงสัยคืนนี้ต้องฉายเดี่ยว หาหนุ่มน้อยมาเอาอกเอาใจอีกสักวัน” แน่นอนว่าจุดหมายปลายทางคือบาร์โฮสต์ของพี่กาน ไป ๆ มา ๆ ตอนแรกโดนลากไป แต่ตอนนี้ดันติดใจเองซะแล้วสิ
ฉันกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโดของตัวเองก่อนจะขับรถมุ่งหน้ามายังบาร์โฮตของพี่กาน ไม่นานนักฉันก็ยืนอยู่ตรงหน้านี้แล้ว
ชายหนุ่มยืนต้อนรับตั้งแต่ทางเข้าดุจเจ้าหญิง และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่บรรดาหญิงสาวที่ต้องการถูกเอาอกเอาใจมาใช้บริการกันเนื่องแน่น รวมไปถึงฉันด้วย หนุ่ม ๆ หลายคนพยายามที่จะเข้ามาส่งยิ้ม พรีเซนต์ตัวเองให้ฉันเลือก แต่ไม่ล่ะฉันมีเป้าหมายเดียวเท่านั้น นั่นคือน้องเวย์
พีอาร์ของร้านเดินเข้ามาต้อนรับฉัน ก่อนจะพาฉันไปนั่งโต๊ะ VIP โต๊ะหนึ่ง (บัตรคราวก่อนที่ยัยแพรวยังทิ้งไว้ให้อีก 1 ใบไงล่ะ) จากนั้นพีอาร์จึงได้สอบถามว่าฉันมีหนุ่มที่สนใจเป็นพิเศษรึเปล่า แน่นอนว่าฉันมี
“น้องเวย์ เรียกน้องเวย์ให้หน่อยได้รึเปล่าคะ” ฉันพูดแบบนั้นไป แต่พีอาร์ตรงหน้ากลับเงียบก่อนจะเอ่ยถามฉันอีกครั้ง
“น้องเวย์เหรอครับทางร้านไม่มีชื่อน้องคนนี้นะครับ”
“เอ๋ แต่คราวก่อนฉันเลือกน้องคนนี้จริง ๆ นะ ถามพี่กานได้เลย”
“คุณผู้หญิงรอสักครู่นะครับ” พีอาร์เดินลับตาไปสักพักก่อนจะมาพร้อมกับพี่กานที่เดินมาพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร
“ว่าไงน้องออย วันนี้มาร้านพี่คนเดียวเหรอคะ น้องแพรวล่ะ”
“รายนั้นแฟนดุคะพี่ ว่าแต่น้องเวย์ไม่อยู่เหรอคะ ทำไมพีอาร์ถึงเรียกให้ไม่ได้ หรือว่าน้องเขาติดลูกค้าคนอื่นอยู่”
“หืม...น้องออยต้องการเวย์เหรอ”
“ค่ะ...รอบก่อนบริการดีมาก ๆ เลย”
“วันนี้น้องเวย์ ไม่ได้มาร้านพี่น่ะ น้องออยสนใจคนอื่นแทนมั้ยคะ” ฉันที่พอรู้ว่าน้องเวย์ไม่อยู่ก็พลอยทำเอาเซ็ง ๆ และดูเหมือนพี่กานก็คงดูออก
“วันนี้ให้น้องคนอื่น ๆ บริการก่อนดีมั้ย ไว้ถ้าน้องเวย์มาไว้พี่ค่อยแจ้งน้องออยไป”
“ก็ได้ค่ะ ขอเด็ด ๆ ไม่แพ้น้องเวย์นะคะ”
“ได้เลยค่ะ” พี่กานยิ้มให้ฉันก่อนจะให้พี่อาร์จัดการต่อ คราวนี้พี่อาร์เรียกหนุ่ม ๆ ในร้านที่ขึ้นชื่อว่าดาวเด่นมายืนเรียกเป็นตับให้เลือก อื้อหื้อ ก็หล่อสมคำว่าดาวเด่นแหละ แต่ว่า....ทำไมหัวใจจึงไม่เต้นตึกตักเอาซะเลย
ฉันเลือกหนุ่ม ๆ มาสองคน แน่นอนว่าทั้งคู่คอยเอาอกเอาใจ เอนเตอร์เทนดีมาก บอกให้นวดไหล่ก็นวดให้ บอกให้ร้องเพลงก็ร้องไห้ฟัง ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส่ พูดจาเสนาะหูสุด ๆ ชงเหล้าให้กันไม่หยุด มันก็สบายใจอยู่หรอกแต่ทำไมกันกลับนึกถึงใบหน้าบึ้งตึกนั้นมากกว่า
ดื่มเยอะความเมาเริ่มคืบคลาน แต่ฉันก็ยังพอยั้งตัวเองให้ไม่เมาจนสติเลอะเลือนมากกว่านี้ แต่ไม่นานนักพี่กานก็เดินเข้ามาเรียกหนุ่ม ๆ ทั้งสองคนออกไป
“น้องออย พี่ขอตัวเด็กทั้งสองคนนี้ก่อนนะ ไม่งั้นจะเกิดเรื่องใหญ่”
“ทำไมคะ หรือว่าลูกค้าประจำต้องการตัวน้อง ๆ ” ฉันเอนหลังพิงพนักพิงโซฟานั่งไขว้ห้างพาดแขนไปตามพนักพิงก่อนจะมองพี่กานด้วยความไม่เข้าใจ มันมีด้วยเหรอที่เรียกเด็กโฮสต์คืนจากลูกค้า
“...” พี่ออยเอาแต่ยิ้ม แต่ไม่พูดอะไรให้ฉันเข้าใจเลยสักนิด แถมยังพาออกไปดื้อ ๆ ปล่อยให้ลูกค้าอย่างฉันงงฉ่ำ เออเอาเข้าไป
ฉันปล่อยตัวทิ้งร่างบนโซฟา ความเหนื่อยล้ายังมี ความรู้สึกโดดเดี่ยวคืบคลานเข้ามาภายในความนึกคิด และหนาวเย็นไปจนขั้วหัวใจ เพราะเมาเหรอฉันถึงมีความรู้สึกอ่อนไหวขนาดนี้ เมนส์ก็ไม่ได้มานิหว่า
ฉันแหงนหน้าหลับตาสักพัก จู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีคนกำลังเดินเข้ามา ก็คงพี่กานแหง ๆ ฉันเลยพูดทั้งที่ยังหลับตาแหงนหน้าไปแบบนั้น เพราะเริ่มหนักหัวหน่อยๆ ก่อนจะรับรู้ได้ว่าคนที่เข้ามานั้นนั่งลงโซฟาข้าง ๆ ฉัน
“ว่าไงคะพี่กาน จะพาหนุ่มมาให้เลือกใหม่เหรอคะ ออยว่าออยกลับดีกว่ายังไงก็คงไม่มีคนที่ถูกใจแล้ว”
“แน่ใจว่าจะกลับ” นั่นคือเสียงที่ตอบฉันกลับมา เดี๋ยวนะนี่ไม่ใช่เสียงพี่ออย ฉันเงยหน้ามองไปยังคนต้นเสียง
“นี่..น้องมาตั้งแต่เมื่อไหร่” ฉันดีดขึ้นนั่งตัวตรง ก่อนจะมองตาโตไปที่คนข้าง ๆ
“ทำไมเสียใจเหรอที่เป็นผม”
“เปล่า ก็พี่กานบอกว่าน้องไม่ได้เข้าร้านวันนี้นินา”
“แล้วไง พอผมไม่มาพี่ก็เลยเรียกเด็กคนอื่น”
“ก็มันช่วยไม่ได้ เข้ามานั่งเสียเงินไปแล้ว”
“เหอะ...เป็นใครก็ได้สินะ”
“แต่พี่มาถึงร้าน พี่ก็เรียกหาน้องเวย์คนแรกเลยนะคะ แต่พีอาร์ที่นี่เหมือนจะไม่รู้จัก ทำไมเหรอไม่ค่อยมีลูกค้าเรียกน้องเวย์เหรอ”
“คงงั้น ทำไมอยากให้ผมรับแขกเยอะ ๆ” น้องเวย์ยื่นหน้ามาใกล้ฉัน เพียงแค่นี้หัวใจฉันมันก็ระริกแล้วแกเอ่ย สมแล้วที่เขาบอกว่า คนที่ใช่แค่นั่งเฉย ๆ มันก็ใช่
“ไม่ใช่ซะหน่อย คนหล่อ แถมหยิ่ง ๆ ดุ ๆ แบบนี้พี่จองได้คนเดียวก็พอ หมดตัวก็ย่อมได้”
“เหอะ นี่ก็จะอวดรวยไปไหน”
“ก็รวยจริง ทำงานมาเหนื่อย ๆ อยากมีเวลาใช้เงินบ้างนะสิ” พอพูดเรื่องงานที่ไรฉันก็พานเหนื่อยอ่อนทุกที
“คราวหน้าไม่ต้องมาร้านนี่อีก”
“อ้าว...ไม่มาแล้วจะเจอน้องเวย์สุดหล่อได้ยังไงคะ”
“อีกอย่างเบอร์ก็ได้ไปแล้วไม่ใช่เหรอ ไลน์ก็มี”
“ชิส์ ถามคำตอบคำนะเหรอ”
“ดูมือถือตัวเองก่อนจะพูด” เสียงเข้มของน้องเขาดูจริงจังจนฉันหยิบมือถือตัวเองขึ้นมา โอ้โห...ของจริง ทั้งไลน์มา ทั้งโทรมา แต่เพราะฉันปิดเสียงมือถือไปก็เลยไม่ได้ดูเลย
“ขอโทษพี่ลืมเปิดเสียงมือถือ”
“เหอะ...”
“งอนเหรอ เดี๋ยวพี่ง้อ”
“เมาแล้วเรื้อนจังฟ่ะ กลับเถอะผมไปส่ง”
“คอนโดพี่ หรือคอนโดน้องดีคะ”
“พูดมาก ระวังตัวหน่อยเป็นผู้หญิง”
“ค่ะ ผู้หญิงอายุ 27 ปีแล้วค่ะ มีเงิน มีความรับผิดชอบ พร้อมแต่ง”
น้องเวย์ทำหน้าเอือมพลางส่ายหน้าไปมา ทำเอาฉันหลุดอดยิ้มไม่ได้ นี่แหละสเปกที่หามานาน ก็แค่อยากแหย่ให้กระชุ่มกระชวย
หนทางรักษาเมื่อฉันกลับไปที่ห้องพักแพทย์ ก็ทำการค้นหาโรงพยาบาลและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่คุณหมอท่านนั้นแนะนำมาทันที“ประเทศนี้คุ้น ๆ แฮะ เดี๋ยวนะหรือว่าฉันจะให้แพรวช่วยได้ ครอบครัวแพรวอยู่ทางโน้นนินา” พอฉันนึกออกก็โทรหาแพรวทันทีOi : แกอยู่ไหนแพรวแพรววี่ : ว่าไงออยฉันก็อยู่ที่ห้องพักในตึกจิตเวชนะสิOi : ว่างออกมาเจอกันตอนนี้หน่อยมั้ย ด้านล่างตึกแกก็ได้แพรววี่ : ได้สิOi : เดี๋ยวเจอกันหลังคุยไลน์กันเสร็จฉันก็ปรี่ตัวไปตึกจิตเวชทันทีซึ่งแพรวเองก็นั่งตรงม้าหินอ่อนด้านล่างตึกรออยู่แล้ว แพรวที่เห็นฉันหน้าตาตื่นมาก็ทำหน้าตกใจ“เป็นอะไร หรือน้องเวย์เขา....”“ยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่อาการก็ไม่ดีจริง ๆ น้องยังไม่ฟื้นสติเลย”“ใจเย็น ๆ ฉันว่าต้องมีวิธีรักษา”“เพราะพอมีทางแม้จะหนึ่งเปอร์เซ็นต์ฉันก็จะทำเนี่ยแหละ แพรวแกต้องช่วยฉันนะ”“จะให้ฉันช่วยไงละออย ถ้าฉันช่วยได้ฉันก็จะช่วย”“ฉันจำได้ว่าแกเคยอยู่ประเทศนี้มาก่อนใช่ไหม” ฉันยื่นมือถือที่มีรายละเอียดของโรงพยาบาลและผู้เชียวชาญให้แพรวดู"อืม..ใช่นี่มันประเทศที่ญาติฉันอยู่เอง บ้านเกิดของอาเอ็ดเวิร์ดล่ะ ฉันก็จบหมอจากมหาวิทยาลัยที่นั่น โรงพยาบาลนี้
เจียนตาย“เวย์ลูกน้า...เขา...เขา ฮือ..” ยังไม่พฉันจะได้ฟังคำตอบจากแม่ของ เวย์ คุณน้าเขาก็ร้องไห้ออกมาเสียก่อน พานทำให้ฉันอกสั่นขวัญแขวนไปหมด“คุณน้าใจเย็น ๆ นะคะ เกิดอะไรขึ้นกับเวย์คะ”“ลูกน้า...ถูกรถชนบาดเจ็บสาหัสอาการหนัก 50/50 หนูออยน้าจะทำยังไงดี ฮือ....”“คุณน้าอยู่โรงพยาบาลไหนคะ ออยจะรีบไปด่วนเลยค่ะ”มือไม้ฉันสั่นไปหมด เมื่อแม่ของเวย์บอกว่าเขาถูกรถชนยังไม่ฟื้น ตอนนี้เวย์ถูกพาส่งโรงพยาบาลที่ฉันทำงานอยู่ ฉันจึงรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สุภาพพกบัตรเข้างานไปด้วย เผื่อจะช่วยคุณน้าดำเนินการอะไรได้บ้างฉันขับรถเหยียบคันเร่งด่วนจี๋มือไม้สั่น พยายามตั้งสติแม้ดวงตาจะมีน้ำตาเล็ดลอดซึมออกมาบ้าง แต่ฉันจะร้องไห้โฮไม่ได้เด็ดขาดเพราะฉันยังหวังว่าเขาจะไม่เป็นไรเมื่อมาถึง ฉันวิ่งหน้าตาตื่นไปยังแผนกห้องฉุกเฉิน บุคลากรหลายคนเดินมาถามฉันมากมายว่าเกิดอะไรกับฉัน ซึ่งเอาจริงฉันไม่สามารถตอบพวกเขาได้เพราะไม่งั้นฉันกลั้นน้ำตาไม่อยู่แน่ณ.ห้องฉุกเฉินฉันเดินมองหาคุณน้าทั่วบริเวณ จนพบผู้หญิงสูงวัยคนหนึ่งก้มหน้ากุมขมับ ดวงตาแดงก่ำรับ เธอดูไม่ได้แก่มากขนาดนั้นน่าจะอ่อนกว่าแม่ฉันสักเล็กน้อยแน่นอนฉันเองก็กล้า ๆ กล
สุขสันต์วันเกิดฉันถึงกับแข้งขาอ่อนไร้เรี่ยวแรง หายใจรัวระรินแต่ถามว่ามีความสุขมั้ยก็ต้องตอบว่ามีความสุขมาก ๆ เขาโน้มตัวลงมากระซิบข้างหูฉันก่อนจะหอมฟอดใหญ่ไปทั่วแก้ม“ดีขึ้นรึยังครับ”“ก็ดีขึ้น แต่พี่ไม่มีแรงยืนเลย”“พี่ไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวผมจัดการเอง กอดคอผมไว้ก็พอ” เขาพูดจบ ก็ยกตัวฉันขึ้นในท่าลิงอุ้มแตง ฉันกอดคอเขาแน่นเพราะกลัวตกมาก แต่สองมือแกร่งของเขาก็โอบอุ้มฉันไว้อย่างนี้“อ่ะ...นี่มัน” ฉันรับรู้ได้ถึง ปลายหัวหยักของเขาที่ตอนนี้จ่ออยู่ช่วงล่างของฉันก่อนมันจะค่อย ๆ คืบคลานเข้ามา“อั่ก...” เชี่ยเอ้ย..ลึกจนจุกไปหมด“พั่บ...พั่บ...พั่บ” เขาจับสะโพกของฉันขึ้นลงตามจังหวะของตนยิ่งเขาใกล้ถึงฝั่งเท่าไหร่เขาก็ยิ่งขยับฉันเร็วขึ้น แต่เพราะท่านนี้มันต้องใช้แรงมาก เสียงครางกับเสียงหอบหายใจของเขาก็แรงปะปนกันไปหมด“ผมไม่ไหวแล้วพี่...อึก...อื้อ...” เขากระตุกตัวแรงก่อนจะกอดร่างฉันแน่นจนแทบหายใจไม่ออก ก่อนจะอุ้มฉันเดินไปที่ห้องนอนแล้วทิ้งร่างลงไปที่เตียงพร้อมกัน...“พอก่อนพี่เหนื่อย ขอพักนะ”“ได้...ผมก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้นแต่ถ้าพี่ตื่นมาเมื่อไหร่จัดไปอีกรอบ ผมซื้อมาเยอะต้องใช้ให้คุ้ม”“คนบ้า!!!”
อดอยากปากแห้ง‘บรืน...บรืน’ เวย์กับฉันขับรถออกจากบ้านของฉัน ฉันที่นั่งอยู่ข้างคนขับได้ปรับเบาะเอนลงก่อนจะนอนอย่างสบายใจจนคนขับข้าง ๆ หันมามองเสี้ยววิก่อนจะหันกลับไปขับรถต่อฉันนั่งไถ่มือถือเล่นในขณะที่รถยังคงแล่นไปตามถนนสายหลักมุ่งกลับคอนโด แต่แล้วเวย์ก็จอดรถเทียบข้างทางก่อนจะหันมาเอ่ยถามฉัน“ผมจะแวะร้านสะดวกซื้ออะไรไรหน่อยมั้ย”“ไม่ล่ะที่ห้องพี่ยังพอมีพวกเครื่องดื่ม ขนม”“งั้นเดี๋ยวมา รอในนี่ก่อนแล้วกัน”“อื้อ” ฉันหันไปพยักหน้าให้เวย์ก่อนที่จะสนใจไถ่มือถือต่อ นั่งรอไม่นานก็กลับมาพร้อมกับของมากมายในถุง จากนั้นเขาก็โยนมันไปเบาะนั่งด้านหลัง“ซื้ออะไรมากมายเนี่ย จะเอากลับคอนโดเหรอ”“ใช่ แต่เป็นคอนโดพี่นะ คืนนี้ผมจะนอนด้วย” ฉันที่นอนไถ่มือถืออย่างสบายใจ ถึงกับดีดตัวลุกนั่ง“หืม วันนี้จะมานอนด้วยเหรอ ทำไมล่ะ” ฉันหันไปจ้องคนข้าง ๆ“แล้วนอนไม่ได้รึไง” คนหน้าหล่อหันมายักคิ้วเป็นเชิงตั้งคำถาม“ก็ไม่ใช่ว่านอนไม่ได้ แต่งงไง ว่าทำไมถึงอยากนอนด้วยวันนี้”“ไม่อยากนอนกับแฟนแล้วจะให้ไปนอนกับผู้หญิงที่ไหนหรือว่า...โอ๊ย พี่ดึงหูทำไม” พอเวย์พูดคำว่าผู้หญิงที่ไม่ได้หมายถึงฉันขึ้นมาพานทำให้หัวฉันเดือดปุด
เปิดตัวห้องนอนหลังจากปะทะคารมกับพ่อแม่ไปแล้ว ฉันก็ขึ้นมาบนห้องนอนของตัวเองก่อนจะทิ้งตัวลงเตียงพลางหยิบมือถือขึ้นมาดูว่า เวย์ส่งข้อความมาบอกรึยังWAY : ผมถึงคอนโดแล้วOi : [อิโมจิ โอเค] [อิโมจิเศร้า]WAY : พี่เป็นอะไรOi : เวย์ คือว่า....เฮ้อ..WAY : หืม เป็นอะไรครับไม่สบายอะไรรึเปล่าOi : เมื่อกี้พ่อแม่พี่เห็น เราสองคนบนรถWAY : แล้ว???Oi : ไม่ตกใจรึไง พี่แทบคอขาดบาดตายเลยนะWAY : พ่อแม่พี่ไม่ชอบผม??Oi : ไม่ใช่แบบนั้น เอาเป็นว่าพรุ่งนี้เวย์ว่างมั้ย แต่ถ้าเวย์ไม่ว่างพี่ก็ไม่ว่าอะไรWAY : ว่าง พรุ่งนี้เจอกัน งั้นรีบนอนเถอะยิ่งดื่มหนักมาอยู่Oi : โอเค คิดถึงนะคะฉันวางมือถือไว้บนหัวเตียงก่อนจะนอนไปทั้งแบบนั้น ดูซกมกใช่มั้ยล่ะ จริง ๆ ฉันไม่ได้ทำแบบนี้บ่อยนะ แต่วันนี้เพราะดื่มหนัก โดนกดดัน พานทำให้ไม่มีแรงเลย ดังนั้นทำแบบนี้สักวันจะเป็นไรไปจริงมั้ย (Zzz)ฉันตื่นเช้าลุกขึ้นมา ขยี้ตาเบา ๆ ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาดู ให้ตายเถอะเกือบ 10 โมงแล้วเหรอเนี่ยปกติแม่ต้องขึ้นมาเรียกกินข้าวเช้าไม่ใช่รึไงฉันเกาหัวหงึก ๆ ก่อนจะเดินไปอาบน้ำแปรงฟันหยิบเสื้อยืดเน่า ๆ กางเกงสั้น ที่ใส่ประจำตอนอยู่บ้าน รวม
โดนตั้งด่านสืบสวน“คนขี้เซาครับตื่นได้แล้ว” เสียงทุ้มหล่อปลุกฉันให้ตื่นจากภวังค์ ฉันขยี้ตาเบา ๆ ก่อนจะมองตาปรือไปที่เวย์ ก่อนจะเบือนสายตามองไปด้านหลัง“อ่า ถึงบ้านพี่แล้วเหรอ”“ผมมาถูกทางไหม ใช่บ้านพี่รึเปล่า”“อืม บ้านพ่อแม่พี่เอง จอดตรงนี้แหละ เดี๋ยวพี่เดินเข้าไปเอง”“...”“ไม่โกรธใช่มั้ย รอให้พี่คุยกับพ่อแม่พี่ก่อนไว้จะพามาเที่ยวบ้านพี่นะ”“ก็ไม่ได้ว่าอะไร” เวย์พูดแบบนั้นก็จริง แต่หน้าฟ้องว่างอนมากจนฉันต้องใช้สองมือจับใบหน้าเขาให้หันมาที่ฉัน“เวย์ มองพี่”“หืม...”“พี่รักเวย์นะคะ แน่นอนว่าถ้าคนนั้นจะเป็นใคร ต้องเป็นเวย์แน่นอนให้เวลาพี่หน่อย”“รู้แล้วนา...รีบเข้าบ้านเถอะครับ”“บอกไม่โกรธ แล้วทำไมไล่พี่เหรอ”“ไม่ได้ไล่” เขาพยายามจะฉีกยิ้มให้ฉันสบายใจแต่ดูไงก็เหมือนเด็กงอนเอาแต่ใจอ่ะ“เราจะไม่ได้เจอกันสองวันไม่คิดจะหอมก่อนพี่ลงรถรึไง” สิ้นคำฉันเวย์ใช้สองมือหนากุมใบหน้าฉันก่อนจะประกบริมฝีปากหนาลงทาบกับริมฝีปากบางของฉันอย่างเร็วจนฉันไม่ทันตั้งตัวเวย์ดูด ดึงริมฝีปากฉันอย่างเอาแต่ใจด้วยความรุนแรงปลางสอดลิ้นสากรุกล้ำโพรงปากฉัน พยายามกวัดเกี่ยวลิ้นบางฉันอย่างร้อนแรงจนฉันต้องสอดมือไปใต้รักแ