ตอนที่
24
เดทแรก
เย็นวันหนึ่งหลังจากอคิณกลับมาจากที่ทำงาน เขาบอกกับพราวตะวันด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัยว่า “คืนนี้แต่งตัวสวยๆ นะครับ”
พราวตะวันที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความประหลาดใจ แววตาฉายแววสงสัยระคนตื่นเต้น “ทำไมคะ”
เขาเดินเข้ามาใกล้โซฟาที่เธอนั่งอยู่ ทรุดตัวลงนั่งข้างๆ แล้วคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน
“ก็เพราะว่าคืนนี้ เป็นคืนพิเศษของเราไงครับ”
พราวตะวันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย หัวใจเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ “พิเศษยังไงเหรอคะ”
“ถ้าบอกก็ไม่เซอร์ไพรส์สิครับ” เขาขยิบตาให้เธออย่างมีเลศนัย “แต่รับรองว่า คุณจะต้องชอบแน่นอน”
ความขี้เล่นของเขาทำให้เธออดที่จะยิ้มตามไม่ได้ “ก็ได้ค่ะ ไม่บอกก็ไม่บอก” เธอยอมแพ้ “แล้วต้องสวยขนาดไหนคะ มีธีมสีหรือเปล่า”
อคิณส่ายหน้าช้าๆ สายตาของเขาจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง “ไม่ต้องมีธีมหรอกครับ” เขายกมือขึ้นเกลี่ยปอยผมที่ข้างแก้มของเธอเบาๆ
“แค่เป็นตัวคุณเองก็สวยที่สุดแล้ว” อคิณเอ่ยจบก็มองหน้าของพราวตะวันด้วยสายตที่ทำให้เธอเขินจนแทบไปไม่เป็นแต่คำพูดของเขาก็ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขจนแก้มร้อนผ่าว เธอรีบขอไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยหัวใจที่พองโต
“ถ้าอย่างนั้นพราวขอตัวไปอาบน้ำแล้วก็แต่งตัวให้สวยๆ เลยนะคะ”
“ได้สิครับ” อคิณตอบพร้อมกับพยักหน้าให้กับเธอ เขาเองก็พักผ่อนรอภรรยาของเขาอาบน้ำแต่งตัว
ไม่นานนัก เสียงฝีเท้าแผ่วเบาที่ก้าวลงบันไดก็ทำให้เขาละสายตาจากตัวอักษรและวินาทีที่เขาเงยหน้าขึ้น โลกทั้งใบของเขาก็คล้ายจะหยุดหมุน
พราวตะวันกลับลงมาในชุดเดรสยาวสายเดี่ยวสีครีมอ่อนที่ขับผิวของเธอให้ดูผุดผ่องดุจแสงจันทร์ เผยให้เห็นช่วงไหล่และลำคอระหงส์อย่างงดงาม เส้นผมที่ถูกดัดเป็นลอนคลายๆ ถูกปล่อยสยายเคลียแผ่นหลังบาง ใบหน้าหวานถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอย่างบางเบาแต่กลับขับเน้นความงามของเธอให้โดดเด่นขึ้นไปอีก
อคิณที่รออยู่ถึงกับนิ่งตะลึง เขาค่อยๆ ลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ สายตาคมกริบไล่มองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหลอย่างปิดไม่มิด
พราวตะวันรู้สึกเขินอายกับสายตาของเขาจึงก้มหน้างุด “เอ่อ...มันดูเยอะไปไหมคะ”
อคิณส่ายหน้าช้าๆ แล้วเดินเข้ามาหาเธอ “ไม่เลยครับ” เขาตอบเสียงทุ้มลึกกว่าปกติ “สวยมากครับ”
เขาหยุดยืนตรงหน้าเธอแล้วยกมือขึ้นสัมผัสแก้มของเธออย่างแผ่วเบา “ผมรู้ว่าคุณสวยแต่ไม่คิดเลยว่าจะสวยได้มากขนาดนี้”
“คุณก็พูดเกินไปค่ะ” เธอตอบเสียงอ่อยด้วยใบหน้าหน้าแดงก่ำ
“ผมพูดจริงๆ ครับ” เขายิ้มอ่อนอย่างอ่อนโยน “สวยจนผม ไม่อยากจะละสายตาไปไหนเลย”
เขายื่นแขนออกมาให้เธอ “ไปกันเถอะครับ ก่อนที่ผมจเปลี่ยนใจไม่พาคุณไปไหนแล้วกอดคุณที่ห้องทั้งคืน”
และเขาก็พูดไม่ผิด ทันทีที่บานประตูลิฟต์ส่วนตัวเคลื่อนเปิดออกที่ชั้นดาดฟ้าของโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพฯ ลมเย็นๆ ยามค่ำคืนก็พัดเข้ามาปะทะผิวกายของพราวตะวันอย่างแผ่วเบา พร้อมกับภาพที่ปรากฏตรงหน้าที่ทำให้เธอแทบหยุดหายใจ...
ร้านอาหารรูฟท็อปสุดหรูเปิดโล่งสู่ท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ เบื้องหน้าคือมหานครที่ไม่เคยหลับใหล แสงไฟจากตึกระฟ้าและท้องถนนส่องสว่างระยิบระยับราวกับอัญมณีนับล้านเม็ดถูกโปรยไว้บนพรมสีกำมะหยี่ เสียงดนตรีแจ๊สบรรเลงเบาๆ คลอเคล้าไปกับเสียงลม สร้างบรรยากาศที่โรแมนติกจนเกินกว่าจะจินตนาการได้
“สวยจังเลยค่ะ” พราวตะวันพึมพำออกมาอย่างลืมตัว ดวงตาของเธอเป็นประกายยิ่งกว่าแสงไฟใดๆ สะท้อนภาพทะเลดาวบนดินที่อยู่ตรงหน้า “ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มาดินเนอร์ที่สูงขนาดนี้ วิวสวยจนพูดไม่ออกเลยค่ะ”
อคิณมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุขและความพอใจ “วิวสวยแต่ก็ยังสวยไม่เท่าคนตรงหน้าผมหรอกครับ”
คำชมตรงๆ ที่มาพร้อมกับสายตาอ่อนโยนนั้น ทำให้ความร้อนแล่นริ้วจากแก้มไปจนถึงใบหูของพราวตะวัน เธอทำได้เพียงก้มหน้างุดเพื่อซ่อนความเขินอายขณะที่เขาเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่งอย่างสุภาพบุรุษ ก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้าม
หลังจากบริกรเข้ามารินไวน์ชั้นเลิศให้ อคิณก็เริ่มต้นบทสนทนาที่แท้จริงของค่ำคืนนี้ “ผมรู้ว่าที่ผ่านมาเรายังไม่มีโอกาสได้ทำอะไรแบบนี้เลย”
ภาพความทรงจำในโรงพยาบาลที่เย็นชืดแวบเข้ามาในหัวของพราวตะวันวันที่เธอต้องจำใจยอมรับเงื่อนไขการแต่งงาน มันช่างแตกต่างจากความฝันตรงหน้านี้ราวฟ้ากับเหว
“ผมอยากสร้างความทรงจำดีๆ ของเราให้เยอะๆความทรงจำที่เป็นของเราจริงๆ ไม่ใช่เรื่องราวที่ถูกบังคับ” เขาจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของเธอ
“ผมอยากจะเริ่มต้นให้มันถูกต้องในฐานะคนที่รักคุณครับ”
พราวตะวันรู้สึกเหมือนมีก้อนความตื้นตันใจขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอ ความจริงใจที่ฉายชัดอยู่ในแววตาและน้ำเสียงของเขานั้นสัมผัสได้ถึงก้นบึ้งของหัวใจเธอ
“ฉันไม่เคยคิดเลยค่ะว่าตัวเองจะมีความสุขได้มากขนาดนี้” เธอกล่าวออกมาจากความรู้สึกจริงๆ
“แค่นี้ก็พิเศษที่สุดแล้วค่ะ ขอบคุณจริงๆ นะคะ ที่อดทนกับฉันมาตลอด”
“สำหรับคุณ ผมอดทนได้เสมอ” เขากล่าวพลางยกแก้วไวน์ขึ้น แววตาเต็มไปด้วยความรักที่ลึกซึ้ง
“งั้นดื่มให้กับเดทแรกของเราอย่างเป็นทางการนะครับ”
พราวตะวันยิ้มกว้างอย่างมีความสุขที่สุด รอยยิ้มที่สว่างไสวจนบดบังแสงไฟใดๆ ในมหานครแห่งนี้ เธอยกแก้วขึ้นชนกับเขาเบาๆ เสียงใสราวกังวานแห่งคำสัญญา
“ค่ะเพื่อเดทแรกของเรา”
ตอนที่28ความห่วงใยที่ไม่ถูกมองเห็น--- Part ของอคิณ ---เสียงปิดประตูรถของพราวตะวันยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาทของอคิณ เขายืนนิ่งอยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน มองบ้านหลังใหญ่ที่บัดนี้เงียบสงัดและอ้างว้างลงไปถนัดตา กลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของเธอยังคงหลงเหลืออยู่ในอากาศแต่เจ้าของกลิ่นได้จากไปแล้วเขาเดินอย่างไร้เรี่ยวแรงขึ้นไปยังห้องนอน ภาพโซฟาที่ว่างเปล่าตอกย้ำความจริงที่ว่าเขาถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพังอีกครั้ง อคิณทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงกว้าง ความเหนื่อยล้าจากการทำงานเทียบไม่ได้เลยกับความเหนื่อยล้าในหัวใจของเขาในตอนนี้‘ผมทำอะไรผิด...หรือการที่ผมเปิดใจให้คุณเร็วเกินไป...’เขาไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมทุกอย่างถึงพังทลายลงได้ง่ายดายขนาดนี้ เพียงแค่การปรากฏตัวของผู้หญิงคนเดียวที่เขาพยายามจะลบออกจากชีวิตมาตลอดวันต่อมาที่โรงพยาบาล อคิณจมตัวเองอยู่กับงานอย่างหนัก เขาประชุม สั่งงาน และตรวจคนไข้ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยและน่าเกรงขามกว่าเดิม จนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ แต่ชวินมองปราดเดียวก็รู้ว่าเพื่อนรักของเขากำลังแตกสลายจากข้างใน“มึงโอเคนะไอ้คินน์” ชวินเอ่ยถามขึ้นเมื่ออยู่กันตามลำพังในห้องทำงานอคิณถอนหายใจยาว
ตอนที่27ใต้ชายคาที่อึดอัด พราวตะวันลืมตาขึ้นบนโซฟา ความปวดร้าวที่แล่นไปทั่วแผ่นหลังเทียบไม่ได้กับความรู้สึกอึดอัดที่บีบรัดอยู่ในหัวใจ เธอตื่นก่อนแสงแรกของวันจะมาถึง จัดการเก็บผ้าห่มและหมอนเข้าที่อย่างเงียบเชียบ แล้วก้าวออกจากห้องนอนโดยไม่หันกลับไปมองเตียงกว้าง เมื่ออคิณตื่นขึ้น เขาพบเพียงความว่างเปล่าข้างกายและโซฟาที่ถูกจัดเรียบร้อยราวกับว่าเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้น บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเช้าหนักอึ้งจนน่าอึดอัด เสียงช้อนส้อมกระทบจานเป็นเพียงเสียงเดียวที่ทำลายความเงียบงัน พราวตะวันเอาแต่ก้มหน้าทานข้าวราวกับว่าอาหารในจานคือสิ่งที่น่าสนใจที่สุดในโลก “อรุณสวัสดิ์ครับ” อคิณเอ่ยขึ้นเบาๆ “เมื่อคืนนอนไม่สบายใช่ไหม” “ก็ดีค่ะ” เธอตอบโดยไม่สบตา คำตอบสั้นๆ ที่ไร้เยื่อใยนั้นเหมือนกำแพงที่มองไม่เห็น “วันนี้ผมไม่มีประชุมช่วงบ่าย เราไปหาอะไรทำกันข้างนอกไหม เผื่อคุณจะรู้สึกดีขึ้น” เขาพยายามอีกครั้ง ความหวังริบหรี่ฉายอยู่ในแววตา “ไม่ดีกว่าค่ะ” พราวตะวันวางช้อนลงทันที “พอดีฉันมีธุระต้องทำ” เธอลุกขึ้นยืน เป็นการจบการสนทนาอย่างสิ้นเชิง แล้วเดินจากไป ทิ้งให้อค
ตอนที่26คืนที่เงียบงัน บรรยากาศภายในรถยนต์คันหรูเงียบสนิท แสงสีของกรุงเทพฯ ยามค่ำคืนที่วิ่งผ่านกระจกไปอย่างรวดเร็ว ความสุขและความโรแมนติกเมื่อชั่วโมงก่อนได้เลือนหายไปจนหมดสิ้น เหลือทิ้งไว้เพียงความเงียบที่หนักอึ้งและน่าอึดอัด อคิณกำพวงมาลัยแน่นขึ้นเล็กน้อย เขาเหลือบมองร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆ เป็นระยะ พราวตะวันเอาแต่จ้องมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างไร้จุดหมาย แสงไฟนีออนสาดกระทบใบหน้าสวยของเธอ เผยให้เห็นแววตาที่ว่างเปล่าและเย็นชา ในหัวของเธอ มีแต่เสียงของนิชาที่วนเวียนซ้ำไปซ้ำมา คำพูดเหล่านั้นเหมือนยาพิษที่ค่อยๆ ซึมลึกเข้าไปในหัวใจที่เพิ่งจะเริ่มแข็งแรงของเธอ ความเชื่อใจที่เพิ่งก่อตัวขึ้นอย่างสวยงาม บัดนี้กลับถูกความสงสัยเข้ากัดกินหัวใจของเธอ เดทที่ควรจะพิเศษที่สุด กลายเป็นเพียงการตอกย้ำว่าเธอเป็นเพียงเงาของใครอีกคน เป็นเพียงตัวแทนในสถานที่แห่งความทรงจำของเขา “พราว...” อคิณลองเรียกชื่อเธอเบาๆ ทำลายความเงียบที่น่าทรมาน เธอไม่ได้หันมามอง เพียงแต่ขานรับในลำคอด้วยน้ำเสียงที่ห่างเหิน “คะ” ความเย็นชาในน้ำเสียงนั้นทำให้อคิณรู้สึกจุกในอก แต่เข
ตอนที่25แขกที่ไม่ได้รับเชิญ ค่ำคืนนั้นงดงามราวกับความฝัน... บนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพ อคิณและพราวตะวันกำลังนั่งทานอาหารค่ำด้วยกัน ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนโรแมนติก แสงเทียนบนโต๊ะสะท้อนแววตาที่มีความสุขของคนทั้งสอง ขณะที่เบื้องหลังคือทะเลดาวที่ส่องระยิบระยับ “ไม่ยักรู้นะคะว่าท่านประธานจะมีมุมโรแมนติกแบบนี้กับเขาด้วย” พราวตะวันแกล้งแซว ขณะจิบไวน์รสเลิศ อคิณหัวเราะเบาๆ ในลำคอ เขาเอื้อมมือข้ามโต๊ะมากุมมือของเธอไว้ “กับคุณ ผมมีทุกมุมที่คุณยังไม่เคยเห็นอีกเยอะครับ” บรรยากาศอบอวลไปด้วยความรกัและความเข้าใจที่สมบูรณ์แบบ ทันใดนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของพราวตะวันที่วางอยู่บนโต๊ะก็สั่นขึ้นมาเบาๆ หน้าจอที่สว่างวาบขึ้นมาปรากฎชื่อที่เธอเคยจดจำขึ้นใจ “ P’ Film ” รอยยิ้มบนใบหน้าของพราวตะวันชะงักไปชั่วครู่ หัวใจของเธอกระตุกวูบด้วยสัญชาตญาณ แต่มันเป็นเพียงชั่ววูบเดียวเท่านั้น เธอเหลือบมองใบหน้าของอคิณที่นั่งอยู่ตรงหน้า ผู้ชายที่มอบความสุขและความปลอดภัยให้เธอในตอนนี้ เขาสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเธอและมองไปยังโทรศัพท์ที่ยังคงสั่นไม่หยุด
ตอนที่24เดทแรก เย็นวันหนึ่งหลังจากอคิณกลับมาจากที่ทำงาน เขาบอกกับพราวตะวันด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัยว่า “คืนนี้แต่งตัวสวยๆ นะครับ” พราวตะวันที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความประหลาดใจ แววตาฉายแววสงสัยระคนตื่นเต้น “ทำไมคะ” เขาเดินเข้ามาใกล้โซฟาที่เธอนั่งอยู่ ทรุดตัวลงนั่งข้างๆ แล้วคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน “ก็เพราะว่าคืนนี้ เป็นคืนพิเศษของเราไงครับ” พราวตะวันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย หัวใจเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ “พิเศษยังไงเหรอคะ” “ถ้าบอกก็ไม่เซอร์ไพรส์สิครับ” เขาขยิบตาให้เธออย่างมีเลศนัย “แต่รับรองว่า คุณจะต้องชอบแน่นอน” ความขี้เล่นของเขาทำให้เธออดที่จะยิ้มตามไม่ได้ “ก็ได้ค่ะ ไม่บอกก็ไม่บอก” เธอยอมแพ้ “แล้วต้องสวยขนาดไหนคะ มีธีมสีหรือเปล่า” อคิณส่ายหน้าช้าๆ สายตาของเขาจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง “ไม่ต้องมีธีมหรอกครับ” เขายกมือขึ้นเกลี่ยปอยผมที่ข้างแก้มของเธอเบาๆ “แค่เป็นตัวคุณเองก็สวยที่สุดแล้ว” อคิณเอ่ยจบก็มองหน้าของพราวตะวันด้วยสายตที่ทำให้เธอเขินจนแทบไปไม่เป็นแต่คำพูดของเขาก็ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขจนแก้มร้อนผ่าว เธ
ตอนที่23เริ่มต้นบทบาทสามีภรรยา ในช่วงบ่ายของวันเดียวกันนั้น อคิณขมวดคิ้วแน่นขณะจ้องมองตัวเลขบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ การประชุมที่เคร่งเครียดลากยาวมาตั้งแต่เช้าทำให้เขารู้สึกอ่อนล้าและเริ่มปวดหัว เขาเอนหลังพิงเก้าอี้ผู้บริหารแล้วนวดขมับเบาๆ ก๊อกๆ... เสียงเคาะประตูที่ไม่ได้นัดหมายไว้ดังขึ้น “ผมบอกแล้วไงว่ายังไม่” เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิดเล็กน้อย แต่ก็ต้องชะงักคำพูดไว้เมื่อบานประตูเปิดออก พราวตะวันไม่ได้เดินเข้ามาทันที เธอค่อยๆ แง้มประตูโผล่หน้าสวยๆ เข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มทะเล้น “ท่านประธานจะรับอาหารกลางวันตอนนี้เลยไหมคะ”รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของอคิณในทันที ความเหนื่อยล้าทั้งหมดมลายหายไปสิ้นราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน“คุณมาได้ยังไงครับ” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนทันที“ก็ห่วงคนแถวนี้ กลัวจะทำงานหนักจนลืมทานข้าวน่ะสิคะ” เธอเดินเข้ามาในห้อง ในมือของเธอหิ้วปิ่นโตเถาเล็กๆ สีพาสเทลมาด้วย การปรากฏตัวของเธอราวกับสายลมเย็นที่พัดเข้ามาในห้องทำงานที่ร้อนระอุของเขา“พักทานข้าวก่อนนะคะ” เธอเดินเข้ามาแล้ววางปิ่นโตลงบนโต๊ะทำงานของเขา“เห็นคุณประชุมไม่หยุด