สัมพันธ์ลับ(รัก) สุดยอด ตอนที่12
ชายหนุ่มบรรจงแต่งหน้าเค้กด้วยแววตามุ่งมั่น ผู้ช่วยยืนมองอย่างชื่นชมในความสามารถ จนเมื่อหัสดินเงยหน้าขึ้นด้วยรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ของเชฟหนุ่มคนนี้ ใบหน้าหล่อเหลาที่ประดับรอยยิ้มตลอดเวลา ไม่แปลกใจเลยที่เป็นเชฟทำขนมหวาน
ก็หวานตั้งแต่รอยยิ้มของเชฟแล้ว
“เรียบร้อย หยิบมือถือให้หน่อย” หัสดินพูดแล้วยื่นมือไปรับรับสมาร์ทโฟนจากผู้ช่วยเชฟอีกคนที่ถือโทรศัพท์ให้เขา ชายหนุ่มรับมาแล้วถ่ายรูปหลายๆมุมก่อนจะเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้วยื่นมือไปทางผู้ช่วยอีกคน “ขอมีดหน่อย”
“นี่ค่ะ” ผู้ช่วยส่งมีดตัดเค้กให้ เชฟหนุ่มรับมือแล้วบรรจงตัดสี่ชิ้นแล้วหยิบมาวางบนจานเล็กเรียบหรูสีเข้มขับเน้นให้เนื้อเค้กสีครีมดูสวยน่ากินมากยิ่งขึ้น
“ชิ้นนี้ของผม ที่เหลือพวกคุณช่วยกันชิม ชิมแล้วบอกด้วยว่าเป็นไง”
“อร่อยสุดยอดค่ะ” พนักงานคนหนึ่งรีบพูดขึ้นสร้างเสียงหัวเราะในห้องครัว แต่หัสดินกลับส่ายหน้าระอาใจ อาจเพราะใบหน้าเขาอมยิ้มตลอดจึงเหมือนเอ็นดูอีกฝ่ายมากกว่า
“ลิ้นยังไม่ได้สัมผัสเลย บอกอร่อยแล้วได้ไง”
“ได้กลิ่นก็รู้แล้วค่ะ แล้วระดับเชฟดินลงมือทำเอง อร่อยทุกเมนู”
“พูดแบบนี้เงินเดือนก็ไม่ขึ้นหรอกนะ” เขาหัวเราะในลำคอ กำลังจะหามุมถ่ายรูปเค้กในจานเล็กๆ ก็มีพนักงานอีกคนเข้ามาเรียกเขา
“มีคนมาขอพบเชฟดินครับ”
“ใคร?” เขามองไปยังนาฬิกาที่อยู่ในห้องครัว ร้านปิดแล้วและเขาไม่ได้นัดใครไว้นี่นะ”
“บอกว่าชื่อพลอยไพลินครับ”
“พลอยไพลิน...ใครคือพลอยไพลิน” คราวนี้เชฟหนุ่มทำหน้างุนงงหนักกว่าเดิม
“หรือว่าจะเป็นพลอยไพลินที่เป็นอินฟูลชื่อดังคนนั้น” เสียงพนักงานคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยท่าทีตื่นเต้นแล้วก็หมุนตัวเดินไปทางประตู หายไปไม่ถึงครึ่งนาทีก็หน้าตาตื่นกลับมา “ใช่จริงๆด้วย พลอยไพลิน อินฟูลชื่อดังผู้ติดตามครึ่งล้าน!”
“ร้านปิดแล้ว ไม่ได้นัดไว้ ให้มาวันหลัง”
“แต่...เชฟดินคะ คนนี้ดังจริงๆ สวยด้วย นิสัยดีด้วย”
ชายหนุ่มที่ใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอดเงยหน้าจากเค้กตรงหน้าแล้วมองพนักงานคนนั้น แม้มุมปากยกยิ้มแต่แววตาตรงข้าม
“ผมยังเป็นหัวหน้าคุณอยู่หรือเปล่า หรืออย่างน้อยก็เป็นเจ้าร้านนี้”
“เอ่อ... หนูขอโทษค่ะเชฟ”
“ไปบอกตามนั้น” ชายหนุ่มไม่สนใจความโด่งดังที่ลูกน้องพูดถึง ไม่ได้นัดหมายและมาตอนที่ร้านปิดแล้ว เขาก็ไม่พร้อมต้อนรับใครทั้งนั้น
พนักงานเดินออกไปครู่หนึ่งก็กลับเข้ามาใหม่ด้วยสีหน้ากังวล
“เชฟดินครับ คือว่า...คุณพลอยไพลินบอกว่า เธอตั้งใจมาให้ทันก่อนร้านปิด แต่ระหว่างทางเธอช่วยลูกแมวที่ตกอยู่บนทางด่วนและแวะไปคลินิกรักษาสัตว์จึงทำให้มาช้า เธอตั้งใจมาร้านของเชฟดินจริงๆครับ พรุ่งนี้เธอบินไปต่างประเทศ เธอมีเวลาแค่วันนี้เท่านั้น”
หัสดินได้แต่ถอนหายใจแล้วพยักหน้ารับ เขาเดินไปล้างมือและซับน้ำจนแห้งดีแล้วจึงก้าวออกไปที่หน้าร้าน สำหรับหัสดินแล้ว เขาสามารถเนรมิตร้านเบเกอรี่ให้ใหญ่โตอลังการแค่ไหนก็ได้ เงินทุนไม่ใช่ปัญหา ซึ่งน้อยคนจะมีโอกาสอย่างเขา แต่เขาทำเพราะรักการทำเบเกอรี่อยากมีร้านเล็กๆที่ดูแลลูกค้าทั่วถึง ให้ทุกคนได้กินฝีมือการทำขนมอบของเขา
‘เสียชื่อคนในตระกูลศาตนันท์หมด ทำไปทำไมร้านเล็กๆแบบนี้ หรือไม่ก็ขยายสาขาไปเลย’
‘ผมเป็นลูกนอกสมรสนะ’
‘ยังไงนายก็นามสกุลศาตนันท์ เรามีพ่อคนเดียวกันและนายก็เป็นน้องชายฉัน’
‘ให้ผมทำร้านเล็กๆ แบบนี้ดีแล้ว แล้วพี่วีร์มีอะไรก็เรียกใช้ผมได้เลย’
ระหว่างคุณอัศวิน พ่อแท้ๆของเขากับหัสวีร์พี่ชายต่างมารดา เขากลับกลัวหัสวีร์มากกว่าพ่อ อาจเพราะที่ผ่านหัสวีร์ช่วยเหลือเขากับแม่มาตลอด และยังเป็นคนที่กุมความลับของเขาด้วย
ชายหนุ่มเดินเข้ามาในร้านก็พบว่ามีหญิงสาวสองคนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ชายหนุ่มหรี่ตาลงเล็กน้อยพยายามเค้นสมองคิดอยู่ว่าสองคนนี้เป็นใคร และราวกับคนถูกมองจะเดาความคิดอีกฝ่ายได้ เธอลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตร
“สวัสดีค่ะเชฟดิน” หญิงสาวรูปร่างเล็กในชุดเดรสกระโปรงลายดอกไม้น่ารักทำให้ยิ่งดูบอบบางอ่อนหวาน “ต้องขอโทษจริงๆที่ลินมารบกวนเชฟดินแบบนี้”
“ร้านปิดแล้ว ผมไม่รู้จะมีอะไรต้อนรับคุณได้” หัสดินพูดแล้วผายมือเชิญให้หญิงสาวนั่ง
พลอยไพลินเห็นใบหน้าของเขามีรอยยิ้มก็ค่อยสบายใจขึ้นมา “เอ่อ...นี่เพื่อนของลินค่ะ ชื่อเกรซ”
“สวัสดีค่ะเชฟดิน” เกรซยกมือไหว้ตามด้วยรอยยิ้มประจบเอาใจ “ได้ยินชื่อเชฟมานาน ติดตามในช่องยูทูปได้เห็นตัวแล้ว ตื่นเต้นดีใจจริงๆค่ะ”
“รับน้ำอัญชันไหมครับ” เขาพูดตัดบทด้วยความรำคาญแต่ถึงกระนั้น ใบหน้าของเขาก็ยังมีรอยยิ้ม บางทีเขาก็นึกเกลียดตัวเองที่ยิ้มเก่งแบบนี้
“เกรงใจค่ะ เอาไว้วันหลังลินมาในเวลาร้านเปิดดีกว่าค่ะ” พลอยไพลินตอบแล้วหยิบสมุดบันทึกออกมาจากกระเป๋า แล้วหยิบภาพโปสเตอร์ขนาดครึ่งกระดาษA4 ออกมา ใบหน้าหวานแดงเรื่อ
“น้องอันดาเป็นแฟนคลับของลินและเป็นแฟนคลับของติดตามเชฟดินมาสองปีแล้วค่ะ เธอชอบสไตล์การทำขนมของเชฟดินมาก น้องอันดาเคยทำขนมตามสูตรเชฟดินด้วยนะคะ”
หญิงสาวกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่เชื่อจึงหยิบโทรศัพท์มือถือมาเปิดภาพเลื่อนให้เขาดู หัสดินนั่งตรงข้ามกับแขกที่มานอกเวลาจึงชะโงกหน้าไปมอง สมาร์ทโฟนสุดหรูมีภาพของเด็กสาวอายุประมาณสิบหกหรือสิบเจ็ดแต่รูปร่างผอมบาง สวมหมวกไหมพรมสีชมพูสดใส มีหลายรูปที่เห็นว่าฝึกทำขนมจริงๆ และหลายรูปที่ขนมไม่เป็นขนมเอาเสียเลย
“น้องอันดาเป็นมะเร็งกระเพาะค่ะ จะผ่าตัดวันพรุ่งนี้ พลอยอยากให้กำลังใจน้องอันดาก็เลยสัญญาว่าถ้าน้องอันดาแข็งแรงดีจะพามากินของอร่อยฝีมือเชฟดิน แต่ตอนนี้พลอยอยากให้น้องมีกำลังใจสู้ต่อไปก็เลยอยากให้เชฟดินช่วยเซ็นชื่อหรือเขียนอะไรเป็นกำลังใจให้น้องอันดาสักเล็กน้อยค่ะ”
“ได้ครับ” เขาตอบตกลงแล้วหยิบปากกากับภาพของตัวเองเลื่อนมาตรงหน้า ดูแล้วเป็นรูปที่เซฟมาจากในยูทูปจริงๆ และเขาก็มีช่องยูทูป แรกทีเดียวไม่ได้ทำเพราะต้องการเป็นจุดเด่นหรือความโด่งดังอะไร แต่ส่วนหนึ่งเพราะต้องการโปรโมตร้านและแชร์วิธีทำขนมสำหรับคนที่สนใจ แต่ไปๆมาๆ ก็มีผู้ติดตามจำนวนมาก ซึ่งเขาก็ไม่ได้สนใจนัก มีผู้จัดการร้านที่ช่วยทำคลิปและอัพโหลดให้
หัสดินรู้ว่าคำพูดของตัวเองดูประหลาด แต่เขาก็รู้อีกนั้นแหละว่า เธอคงเจอกับตัวตนอีกด้านหนึ่งของเขาไปแล้ว ในห้องมีกล้องวงจรปิดซ่อนไว้ทำให้รู้ว่าวันนั้นเธอเจออะไรไปบ้าง และเจ้าดาร์กก็ไม่ยอมบอกเขาเสียด้วย “ขนมอร่อยมาก แพรไม่เคยกินเค้กอร่อยๆแบบนี้มาก่อนค่ะ” หญิงสาวพูดไปตามที่รู้สึก “พูดเกินไป ฝีมือพี่ไม่เท่าไหร่หรอก” เขาพูดยิ้มๆ พยายามเพิ่มความสนิทสนมยิ่งขึ้น “อร่อยจริงๆค่ะ” จะเรียกว่าถูกหลอกด้วยของอร่อยก็ไม่ผิดนัก แพรดาวรู้สึกดีกับผู้ชายคนนี้จริงๆ “แพรขอเอากลับไปฝากแม่ได้ไหมคะ แพรอยากให้แม่ได้กินของอร่อยๆ แบบนี้” “ไม่ได้” เขาตอบแสร้งทำหน้าจริงจัง แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายหน้าเสียก็รีบพูดขึ้นทันที “พี่หมายถึง ชุดนี้พี่เตรียมมาให้แพร แต่ครั้งหน้าพี่จะเตรียมไว้ให้คุณแม่ของแพรก็แล้วกัน” “ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้ก็เกรงใจมากแล้ว แต่ละอย่างดูแพงๆทั้งนั้น” หญิงสาวนิ่งไปเล็กน้อยก็พูดออกไป “คุณ...” “พี่” “เอ่อ...” “เรียกพี่ดินก็ได้ ชื่อเต็มพี่ก็คงรู้แล้ว” “เอ่อ...พี่ดิน” ช่างเถอะ เธ
เพราะเคยมีประสบการณ์ทำงานตามงานเลี้ยงมาบ้าง สำหรับแพรดาวจึงไม่ยากนัก การจำชื่อเมนูเครื่องดื่มเด่นๆ มาวันแรกไม่ได้ทำงานจริงแต่เรียนรู้งาน คนที่มีประสบการณ์ได้ทำงานที่โซนB ซึ่งเป็นชั้นบนที่แบ่งเป็นห้องพิเศษอีกหลายห้อง ส่วนแพรดาวทำงานที่โซนA ซึ่งดูแล้วก็ไม่ต่างจากร้านเหล้าทั่วไปที่มีเวทีเล็กๆ สำหรับการเล่นดนตรีสด เสื้อพนักงานเป็นเสื้อโปโลสีดำคลิบแดง บนอกเสื้อปักโลโก้ร้าน กางเกงผ้าขายาวกับรองเท้าคัชชูทำให้เดินสบายคล่องตัว เธอไม่คิดว่าที่นี่จะเตรียมให้พนักงานขนาดนี้ แต่ก็นับว่าดีมากแล้ว เธอจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ แพรดาวเรียนรู้งานจากผู้จัดการหรือพี่ดาด้ารวมทั้งคนอื่นๆ 3 วัน ทุกอย่างไปอย่างราบรื่นด้วยดี กลางวันแพรดาวไปทำงานตามที่บริษัทนัดหมาย เดี๋ยวนี้มีคนมาทำงานเป็นแม่บ้านกันมากขึ้น เธอไม่ได้มีงานทำทุกวัน การมีรายได้กลางคืนจึงเป็นความหวังกับเธอมากทีเดียว แต่ที่สุดแล้วเธอก็หวังจะได้ทำงานประจำที่มั่นคง ระหว่างนี้แพรดาวก็ยังอ่านหนังสือทบทวนความรู้ของตัวเองตลอดเพื่อจะได้สอบเข้าทำงานราชการ หญิงสาวหยุดหน้าประตูห้องที่คุ้นเคย
อินฟลูสาวมองด้วยรอยยิ้มดีใจ เธอทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับแฟนคลับสำเร็จแล้ว เชฟหนุ่มเลื่อนรูปและคืนปากกาให้ บนกระดาษแผ่นนั้นมีลายเซ็นชื่อ ‘หัสดิน’ และคำอวยพรให้การรักษาราบรื่นด้วยดี “ขอบคุณมากนะคะ และขอโทษที่รบกวน” พลอยไพลินเก็บทุกอย่างใส่กระเป๋า และเตรียมตัวกลับ เธอมีข้อมูลของเชฟดินอยู่บ้าง ผู้ชายคนนี้ไม่ชอบให้คนอื่นเข้าใกล้มากเกินไป “คุณจะไปพบน้องอันดาเมื่อไหร่ครับ” “ออกจากนี้ก็ไปโรงพยาบาลค่ะ คงไม่ทันเวลาเยี่ยมแต่จะฝากคุณแม่ของน้องไว้” “รอสักครู่นะครับ” ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปหลังร้าน และไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็เดินออกมาพร้อมถุงขนมสองถุง “ถุงนี้ฝากให้น้องอันดา ถ้ากินไม่ได้ก็ให้คุณแม่หรือคนในครอบครัวก็ได้ครับ ส่วนถุงนี้ของคุณกับเพื่อน” “เกรงใจจัง” “คราวหน้ามาเวลาร้านเปิดนะครับ” “ขอบคุณมากค่ะ” เป็นเกรซที่พูดขึ้นแล้วรับถุงขนมทั้งสองถุงไว้ พลอยไพลินได้แต่ยกมือไหว้ขอบคุณอีกครั้งแล้วขอตัวกลับ ระหว่างที่เดินมาที่รถยนต์ของตนก็อดหันไปมองที่ร้านขนมไม่ได้ “เชฟดินตัวจริงหล่อกว่าในช่องยูทูปเสียอีก” เกรซเปรยแล้วกระแซะไหล่เพื่อนเบาๆ “ชอบล่ะสิ” หญิงสาวได้แต่ยิ้มหน้าแดง แล้วตั้งใจว่าจะต้องกลับม
สัมพันธ์ลับ(รัก) สุดยอด ตอนที่12 ชายหนุ่มบรรจงแต่งหน้าเค้กด้วยแววตามุ่งมั่น ผู้ช่วยยืนมองอย่างชื่นชมในความสามารถ จนเมื่อหัสดินเงยหน้าขึ้นด้วยรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ของเชฟหนุ่มคนนี้ ใบหน้าหล่อเหลาที่ประดับรอยยิ้มตลอดเวลา ไม่แปลกใจเลยที่เป็นเชฟทำขนมหวาน ก็หวานตั้งแต่รอยยิ้มของเชฟแล้ว “เรียบร้อย หยิบมือถือให้หน่อย” หัสดินพูดแล้วยื่นมือไปรับรับสมาร์ทโฟนจากผู้ช่วยเชฟอีกคนที่ถือโทรศัพท์ให้เขา ชายหนุ่มรับมาแล้วถ่ายรูปหลายๆมุมก่อนจะเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้วยื่นมือไปทางผู้ช่วยอีกคน “ขอมีดหน่อย” “นี่ค่ะ” ผู้ช่วยส่งมีดตัดเค้กให้ เชฟหนุ่มรับมือแล้วบรรจงตัดสี่ชิ้นแล้วหยิบมาวางบนจานเล็กเรียบหรูสีเข้มขับเน้นให้เนื้อเค้กสีครีมดูสวยน่ากินมากยิ่งขึ้น “ชิ้นนี้ของผม ที่เหลือพวกคุณช่วยกันชิม ชิมแล้วบอกด้วยว่าเป็นไง” “อร่อยสุดยอดค่ะ” พนักงานคนหนึ่งรีบพูดขึ้นสร้างเสียงหัวเราะในห้องครัว แต่หัสดินกลับส่ายหน้าระอาใจ อาจเพราะใบหน้าเขาอมยิ้มตลอดจึงเหมือนเอ็นดูอีกฝ่ายมากกว่า “ลิ้นยังไม่ได้สัมผัสเลย บอกอร่อยแล้วได้ไง”
สัมพันธ์ลับ(รัก) สุดยอด ตอนที่11 “แม่ไม่เห็นด้วย” “แต่...แพรรับปากผู้จัดการแล้วว่าจะไปทำงานนี่คะ” “ไม่ได้ แม่ไม่อนุญาต ทำงานกลางคืนอันตรายเกินไป แม่เป็นห่วง” แม่จ๋าหรือจริยาพูดน้ำจริงจัง “ที่นั้นเขารับรองลูกค้าชั้นสูง ต้องการคนพูดได้หลายภาษา ถ้าทำงานดีผ่านช่วงทดลองงานก็จะได้ทำแบบประจำมีเงินเดือนด้วยนะคะแม่จ๋า” “ลูกแพรก็อดใจรออีกหน่อยสิลูก หนูสมัครไปตั้งหลายที มันต้องสักทีสิ” คุณจริยาพูดด้วยความหงุดหงิด มือที่กำลังซ่อมเสื้อให้ลูกค้าถึงกับสั่นจนลูกสาวสังเกตเห็น แพรดาวปราดเข้าไปหาแล้วยื่นมือไปจับมือที่หยาบกร้านของแม่ไว้ “แม่จ๋า แพรโตแล้วเรียนจบแล้ว แพรไม่อยากเป็นภาระให้แม่ งานสมัยนี้หายากเศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี ให้แพรไปทำงานเถอะนะ” “ใช่สิ แพรโตแล้ว แม่ห้ามอะไรก็ไม่ฟังแล้ว” “ไม่ใช่แบบนั้น แพรไม่อยากให้แม่จ๋าลำบาก ตั้งแต่จำความได้แม่จ๋าไม่เคยสุขสบายเลย ต้องทำงานหนักเลี้ยงแพรคนเดียว ขนาดแม่ประสบอุบัติจนเป็นแบบนี้ก็ยังไม่ได้หยุดเลย แม่จ๋าจะให้แพรใช้ชีวิตทีความสุขได้ยังไง” “โธ่ลูก” แม่พูด
คนที่ถูกเรียกว่า ‘ดาด้า’ ชื่อจริงคือ ‘ดาริน’ เธอเป็นสาวประเภทสองผ่านการทำศัลยกรรมมาครบทุกอย่างแล้ว กิริยาท่าทางก็เหมือนผู้หญิงทุกอย่าง มองผ่านๆ แทบหาจุดจับผิดว่าเคยเป็นผู้ชายมาก่อนไม่เจอ “แพรยังหางานทำอยู่ใช่ไหม” เกรซพูดเข้าประเด็น “ก็อย่างที่รู้นั่นแหละ” แพรดาวยิ้มเหงาๆคนไม่มีเส้นสายนี้หางานยากจริงๆ“มาทำงานพิเศษที่นี่ก่อนไหม”“ทำอะไรเหรอ” แพรดาวมองรอบตัว “ที่นี่ขาดแม่บ้านเหรอคะ”ดารินแปลกใจกับสิ่งที่ได้ยิน แต่เกรซหัวเราะร่า“ยัยแพร เธอดูถูกตัวเองไปแล้วนะ ที่นี่ชื่อ ซีเคร็ท คลับ เป็นคลับรับเฉพาะรับเฉพาะลูกค้า VIP ที่มีบัตรผ่านเท่านั้นไม่ใช่ทุกคนจะเข้ามาที่นี่ได้ง่ายๆ จะเปิดบริการเร็วๆนี้ แต่ยังขาดพนักงานที่มีความรู้ความสามารถโดยเฉพาะพูดภาษาอังกฤษกับญี่ปุ่นได้คล่องๆ ฉันก็เลยนึกถึงเธอขึ้นมาจะแนะนำเธอให้แม่ดาด้ารู้จัก”“อย่างนั้นเองเหรอ” แพรยาวยิ้มเขินๆ ออกใสดารินสนใจเด็กสาวคนนี้มากขึ้น เธออยู่ในแวดวงนี้มานานย่อมดูคนออกแม้แต่กับเกรซที่ชอบทำตัวสนิทสนมกับเธอ แต่จริงๆ ก็ต้องรักษาระยะไม่ใกล้ชิดมากเกินไป“ยัยแพรเก่งภาษาค่ะ พูดอังกฤษกับญี่ปุ่นได้” เกรซเ
นิ้วเรียวกำลังเลือกหยิบดอกจำปีในกระทงใบตองขนาดกำลังดีมีก้านยาวจากขั้วออกมาเล็กน้อยพอที่จะนำมามัดกับเส้นผมสีดำขลับของปรางไหม หญิงสาววัยยี่สิบต้นๆ เธอส่องกระจกเงาตรงหน้าดูผมยาวถึงกลางหลัง เธอปล่อยให้มันยาวอย่างอิสระมาสามปีแล้ว เธอมองมันอยู่เพียงครู่ก่อนจะรวบขึ้นเป็นมวยเผยให้เห็นไรผมรุ่ยร่ายบางๆ ดูเข้ากับดอกจำปีที่พันไว้กับเส้นผมดำเงางามที่แสนภูมิใจของตนเองเป็นผู้หญิงนี่นะ ยังไงก็รักสวยรักงามอยู่ดี แพรดาวระบายลมหายใจเบาๆถึงอย่างไรเธอก็น่ารักที่สุดได้เท่านี้ เธอรู้ว่าตัวเองหน้าตาธรรมดาแทบไม่มีความโดดเด่นอะไรเลย การเรียนก็ปานกลาง ตอนเด็กๆ ย้ายบ้านบ่อยจนเธอแทบจำไม่ได้ว่าบ้านเดิมจริงๆอยู่ที่ไหน เธอรู้แค่ว่าแม่จ๋าจะกุมมือเล็กๆของเธอไว้ไม่ยอมปล่อย เธอไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับพ่อ ตั้งแต่จำความได้ก็มีแค่แม่จ๋าที่อยู่กับเธอ จะวันพ่อหรือวันพิเศษอะไรที่โรงเรียนจัดกิจกรรมก็จะมีแค่แม่จ๋าที่มาอยู่ตรงหน้า เธอเคยถามแต่เห็นการฝืนยิ้มจนพูดไม่ออกและแอบไปร้องไห้ทำให้เลิกถาม หากการถามถึงผู้ชายคนนั้นทำให้แม่จ๋าเสียใจ เธอไม่ทำดีกว่า อยู่จนอายุครบ22ปี เธอเลิกคิดถึงผู้ชายที่เรียกว่าพ่อไปแล้ว
แพรดาวกวาดตามองให้ห้องแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ เธอมาทำความสะอาดที่นี่หลายครั้ง แต่เจ้าของบ้านมักเก็บทุกอย่างค่อนข้างเป็นระเบียบ ทำให้การทำงานของเธอง่ายและกินแรงน้อยมาก แต่วันนี้ห้องของเขา...อย่างกับถูกรื้อค้น หรือว่า... จะมีโจรขึ้นบ้าน! ใบหน้าสวยขาวซีดไร้สีเลือด พยายามตั้งสติแล้วล้วงมือหยิบโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋าผ้าที่คล้องไหล่ แต่ความตื่นกลัวของเธอทำให้มือไม้สั่นควานหาโทรศัพท์ไม่ถือ “บ้าจริง อยู่ไหน หรือลืมเอามาจากบ้านด้วย” แม่บ้านสาวเริ่มร้อนรน ทันใดนั้นเธอรู้สึกถึงได้ไอร้อนจากด้านหลัง เมื่อเอี้ยวใบหน้ามองพลันเห็นใบหน้าของชายผู้หนึ่ง รอยยิ้มเพิ่งจุดขึ้นที่มุมปากทว่าฝ่ามือของเขากลับยกมือขึ้นปิดครึ่งปากครึ่งจมูกของเธอ “เธอเป็นใคร!” “อื้อ!” หญิงสาวเบิกตาโต เธอยอมรู้จักชายคนนี้แต่เขากลับทำเหมือนไม่เคยเห็นเธอมาก่อน ความกลัวทำให้ร่างเล็กดิ้นรนขัดขืน และทำให้วงแขนนั้นโอบรัดเธอแน่นขึ้น ร่างอ่อนนุ่มในชุดแม่บ้านไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มหวั่นไหว เขาพร้อมจะบิดคอเธอให้หักคามือ แต่ก็ค่อยๆ คลายออกเมื่อรู้ว่าอ
สถานที่ ภายใน ห้องนอน เวลา เที่ยงคืน คุณเคยจมน้ำไหม? น้ำที่มีแต่โคลนตม ...โคลนที่ทะลักเข้าปาก เท้าที่แตะไม่ถึงพื้น และมือที่พยายามไขว่คว้าหาสิ่งยึดเหนี่ยวผมกำลังรู้สึกเช่นนั้นในวินาทีนี้.... ผมไม่ได้รู้สึกอย่างนี้บ่อยนักหรอก มันจะโถมเข้าใส่ในสภาวะที่ตัวเองกำลังเผชิญกับปัญหาที่หาทางออกไม่ได้อยู่เสมอ อาการนั้นเสมือนคนโรคประสาท ย้ำคิดย้ำทำ คิดอยู่แค่ว่าจะไปให้พ้นสภาพที่เป็นอยู่ ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะไปไหน ไปอย่างไร แต่สุดท้าย ผมเลือกที่จะเดิน...เดิน...เดิน...และเดิน... ผมไม่ใช่คนชอบแก้ปัญหา แต่เป็นนักตัดปัญหา ตัดมันทิ้งๆไปซะให้มันพ้นๆตัวก็พอแล้ว ชีวิตมันก็แค่นี้ สั้นยาวก็เท่านี้ อยู่ไม่นานนักหรอก ยังไงก็ตายอยู่ดี แปลกนะ... คนเราหนีความตายไม่พ้น แต่เพรียกหาความตายเสียเหลือเกิน ความตายนั้นสวยงามนักหรือ? ถึงได้ปรารถนานักยามเมื่อมีปัญหา มันคือทางออกแห่งปัญหาทั้งมวลหรือ? แต่ครั้งหนึ่ง.. ผมก็ใช้มันเพื่อเป็นทางออกของปัญหา และใช้มันเป็นการเรียกสายตาคนในครอบครัวให้เหลียวแล วัยเด็กของ